ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2024
- ไม่ควรฟัง สาวกภาษิต ฟังเฉพาะพุทธพจน์ เป็นอย่างไร
"ภิกษุทั้งหลาย ในอนาคต เมื่อผู้อื่นกล่าวสูตรที่ตถาคตกล่าวไว้ล้ำลึก มีเนื้อความ
ลึกซึ้ง เป็นโลกุตตรธรรม ประกอบด้วยความว่าง ภิกษุทั้งหลายจักไม่ตั้งใจฟังให้ดี
ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อรู้ทั่วถึง และไม่ให้ความสำคัญธรรมว่า ควรเรียน
ควรท่องจำให้ขึ้นใจ ฉันนั้น
แต่เมื่อผู้อื่นกล่าวสูตรที่ท่านผู้เชี่ยวชาญได้รจนาไว้ เป็นบทกวี มีอักษรวิจิตร
มีพยัญชนะวิจิตร อยู่ภายนอก๑- เป็นสาวกภาษิต๒- ภิกษุเหล่านั้นกลับตั้งใจฟังด้วยดี
เงี่ยหูฟัง เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อรู้ทั่วถึง และจักสำคัญธรรมว่า ควรเรียน ควรท่องจำ
ให้ขึ้นใจ๓- ฉันใด สูตรเหล่านั้นที่ตถาคตกล่าวไว้ล้ำลึก มีเนื้อความลึกซึ้ง
เป็นโลกุตตรธรรม ประกอบด้วยความว่าง ก็จักอันตรธานไป ฉันนั้น"
@๑ อยู่ภายนอก หมายถึงภายนอกพระพุทธศาสนา (องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๘/๕๕)
@๒ สาวกภาษิต หมายถึงภาษิตอันเหล่าสาวกของเจ้าลัทธิคนใดคนหนึ่งที่ไม่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธสาวกได้ภาษิตไว้
@(องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๘/๕๕, องฺ.ทุก.ฏีกา ๒/๔๘/๕๓)
อ้างอิงจาก : 84000.org/tipi...
ฟังธรรมบรรยายโดยรายละเอียด
th-cam.com/users/li...
สาธุๆๆ ผมขออนุญาตแสดงความเห็นว่า ท่านผู้ฉลาดควรที่จะรับฟังทุกอย่าง-ทั้งจากพุทธพจน์และฟังอาจาริเยทั้งหลายที่ท่านเมตตาสั่งสอนถ่ายทอดแก่สาวก-เหล่าศิษย์ทั้งหลาย นี่ถือเป็นหน้าที่สำคัญของพุทธบริษัทที่จะทำนุบำรุงรักษาศาสนาให้ยืนยาวสืบต่อไป เพราะสงฆ์จะเป็นตัวอย่างของจริงว่า หากใครที่ลงมือปฏิบัติจริง-จนสำเร็จบรรลุผล-ระดับต่างๆ ทั้งโสดา-สกิทา-อนาคามี-อรหัตผล-เมื่อท่านเห็นธรรม-ชนะใจตนได้แล้ว หรือสิ้นอาสวกิเลส พ้นทุกข์ใจ มีอิสรภาพจากแดนเกิด เหล่านี้คือสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติตรงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพุทธบุตร ทำหน้าที่สอนธรรมพวกเรา เมื่อฟังให้มากจนเป็นพหูสูต-ได้ศึกษาพิจารณาแล้ว ก็อย่าลืมลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทำให้รู้จริง-เห็นจริงที่ใจของตน ถึงจะนับเป็นชาวพุทธที่แท้จริง เป็นพุทธบูชาที่ประเสริฐยิ่ง เปรียบเหมือนคนป่วยควรอ่านฉลากยาแล้วลงเมือกินยาเข้าสู่ร่างกายตน ตนจึงจะหายจากโรคได้ พวกเราควรมุ่งฝึกอบรมที่กายวาจาใจตน เห็นทุกข์-เห็นธรรม-พ้นทุกข์ที่ใจตน ฝึกให้มากสะสมบารมีให้มาก ท่านผู้เจริญทั้งหลาย..สาธุๆๆ
@@boonsermsenawong8861 การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังคสามัคคี คือ จะมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด เหมือนๆกัน จะมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทางเจโตวิมุตติ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เหมือนๆกัน คือ จะมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล สมาธิ ปัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ และ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองค่ะ
@@boonsermsenawong8861 การปฏิบัติใน ธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติไว้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ถ้าอริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นคือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท
ชัดเจนครับ พระอาจารย์ กราบนมัสการ
อนุโมทนาสาธุครับผมหลวงพ่อ
นมัสการขอรับท่าน ถูกต้องครับ ที่ถูกต้องประกอบด้วยภิกษุทั้งหลาย
กราบสาธุ พอจคะ ท่านพูด แบบครู แนะนำ ผู้เรียน ในทางที่ถูกต้อง
สาธุครับหลวงพ่อ...มีคนรู้ัจักกันมาพูดแต่เรื่องพุทธวจนะ บอกว่าฟังคำสอนพระสมัยใหม่ที่ศึกษาและพิจารณาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.. แล้วก็แปลแปลกๆ บอกว่าอย่างน้ี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสไว้ เช่น บอกว่า การสวดมนต์ข้ามปี ในสมัยพุทธกาลไม่เคยมี คนที่ทำอยู่เอามาจากไหน ..ผมก็บอกว่าอ้าว ...จะทำอะไรที่เป็นศิริมงคลก็ดีแล้วนี่ ไปยึดแค่คำพูดได้อย่างไร การไปปฏิบัติธรรมรวมเป็นหมู่คณะในวัด มันก็เป็นพลังธรรมอยู่แล้ว แค่เอาคำตั้งชื่อในการปฏิบัติมาพูดก็บอกว่า ผิดแล้ว ...แ่ต่ถ้าบอกว่่าไปถือศิลในวัดข้ามปี เพื่อเป็นศิริมงคลรับปีใหม่ ไม่เห็นบอกว่าอะไร บอกว่าดีแล้ว..น่าขันจริงๆ เพราะมันก็คืออยู่ในอันเดียวกันนั่นแหละ ..ปัญญาคน แล้วแต่ใครจะคิดได้...สาธุๆครับหลวงพ่อ คำสอนศาสนา เพียงคำเดียว ก็ทำให้เกิดปัญญาได้ครับ
คนที่พูดเชื่อได้เลยว่าคิดเองไม่เป็น
@@Wagggggggg บางอย่าง เป็นทิฏฐิของคนปัจจุบัน หรือเป็นวัฒนธรรมปัจจุบัน มันย่อมทำได้ พระพุทธเจ้าท่านคงไม่ได้ห้ามสวดมนต์ข้ามปี ตราบใดที่ไม่ละเมิดศีล ท่านก็คงไม่ตำหนิ
@@Wagggggggg ศีลไม่มีสักข้อ..อย่าเพิ่งอวดดีอวดรู้เถียงพระอริยสงฆ์..
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้าผมอ่านเนื้อเรื่องของ เจ้าของเม้นท์ข้างบนครับ แล้วผมก็เม้นท์ถึงคนที่ห้ามว่า..ไม่ใช่แบบที่พระพุทธเจ้าสอนนะก็แค่นั้นนี่คือสิ่งที่ผมจะสื่อ นี่อะไรของคุณครับนี่มาใส่ผมซะเต็มคาราเบลเลย 555+🤣🤣🤣 เข้าใจผมผิดแล้วท่าน😂😂😂
@@Wagggggggg เอาคำพูดของผมไปใช้เล่นงานคนอื่นด้วยนะ..เพราะมันใช้ได้ดีจริงๆ..😋😋😋
ท่านเข้าใจผิดอย่างแรงเลยครับ ... ก็เพราะไม่รู้ แล้วชี้ ... ศาสดา ให้ยึดธรรมวินัย เป็นศาสดา และให้เราพึ่งตน พึ่งธรรม เพราะธรรมวินัย ที่ศาสดาบัญญัติไว้ เป็นปัจตัง ใครศึกษา ก็จะเข้าใจได้ด้วยตนเอง ... ศาสดาท่านก็ขยายความ คำสอนของท่านไว้หมดแล้ว ท่านต้องศึกษา เพราะทั้งหมดนี้ อยู่ในพระไตรปิฏก ทั้งสิ้น
คนปฏิบัติธรรมเขามีสติปัญญา คนที่ศึกษาธรรมให้รู้แจ้งไมใช่ไปท่องแต่พุทธวจนะแบบนกแก้วนกขุนทองจะเป็นคำของใครถ้าเป็นไปเพื่อหลุดพ้นก็ใช้ได้แต่การมายึดติดแต่พุทธวจนะแล้วมีแต่ความยึดมั่นมีแต่ตัวกูมีแต่อาจารย์กูกูถูกคนเดียวแล้วจะไปนิพพานได้อย่างไรคำตถาคตหรือคำอรรถกถาจารย์ล้วนแต่มีประโยชน์ถ้าสอนให้หลุดพันแต่คนที่สอนให้ยึดติดในคำพูด.ในตัวบุคคลนี้สิจัดเป็นคนโง่ที่อวดตัวฉลาดแล้วจะไม่ได้อะไรในพระพุทธศาสนาเลย
ตลกละมั้งพระองค์ทรงอนุญาตเองให้ศึกอถรรกถาจารย์ได้มีในพระบาลีไปหาอ่านได้คำที่เเปลออกมาเพราะจิตมันไม่เหมือนกันคนอธิบายจะอธิบายมากหรืออธิบายน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเเต่ละคน
เเล้วคำว่ารู้เฉพาะตนจะมาจากไหนครับ???
เห็นด้วยที่สุดครับ..
ยังงัย ก็ต้องอธิบาย..สาธุ เอวํ..
กราบนมัสการ พระอาจารย์ครับ
สาธุค่ะ🙏😔
สาธุครับพระอาจารย์
สาธุบุญครับ
พระอาจารย์กล่าวได้ดีมากครับ ผมเข้าใจได้ดี จะแปลความหมายแบบเป้ะคงไม่มี ขอเป็นที่เข้าใจได้ก้อไม่น่ามีอะไร เพราะจุดหมายที่เดียวกันครับ
สาธุ
สาธุครับผม
สาธุๆๆ หลวงพ่ออธิบายได้แจ่มชัดดุจหงายเปิดภาชนะอันมืดมิดที่คว่ำอยู่ให้สว่างออกโดยแท้..
ชัดเจนครับ
ท่านอาจกล่าวในทาง กาลามสูตร นั่นดีงามนัก แต่จะให้ใช้สิ่งใดเป็นสรณะ
สำคัญคือ ท่านเป็นพระ ท่านจะสอนอะไร สอนอย่างไรเช่นนั้นสอนธรรมะแล้วธรรมะนั่นท่านเอามาจากไหน ถ้าไม่เอามาจากศาสดา ท่านจะสอนธรรมะยังไงให้คนฟังถ้าท่านไม่อธิบายตามความรู้ของตน
จะว่าไปก็เป็นหน้าที่ของพระที่ต้องไปศึกษาให้รู้จริงมีความรู้ตามคำสอนศาสดาให้ดีที่สุด เพื่อจะนำธรรมะมาสั่งสอนและสืบทอดคำสอน ไม่ใช่รอให้สามัญชนไปศึกษาหรือมาโต้กันว่าอันไหนถูกอันไหนดี
การจะบอกว่าไม่มีพุทธวจนจริงๆจากปากสาวกผู้ถ่ายทอด แล้วจะให้สิ่งใดเป็นสรณะ
1)ตัวหนังสือที่ผ่านการสังคายนาหรือวิจัยมาแล้วโดยสาวกในอดีต (หายากแต่มี) โดยท่าน
1.1. อ่านเอง
1.2 สงฆ์สาวกอ่านให้ฟัง
หรือ
2)ตำราที่หาซื้อทั่วไปไม่มีแหล่งอ้างอิง
3) คำเทศนาตามความเข้าใจของสาวกโดยตรง ที่ฟังต่อๆมาแต่ละรุ่นหรือสรุปขึ้นจากประสบการณ์
4) สงฆ์ทั้งหลายก็เป็นผู้ยังไม่หลุดพ้น ย่อมมีความเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
5) ขนาดพระอรหัตน์แต่ละรูปยังบรรลุธรรม ต่างวาระ ต่างข้อธรรม ต่างวิธีต่างวิสัย ตามแรงกรรมของตน ย่อมรู้ได้เฉพาะตน แตกฉานเฉพาะตน
6) มีแค่พระศาสดาองค์เดียวที่น่าจะบรรลุธรรมโดยรอบ จึงจะแนะนำได้ตามวิสัยของบุคคล
ต้องยอมรับว่าไม่ว่าทางไหนก็มีความสึกหรอของพุทธวัจนะ อยู่ที่ว่าจะเลือกทางใดที่มีเปอร์เซนต์ความคลาดเคลื่อน ของธรรมตามคำศาสดาน้อยที่สุด ยกเว้นข้อ 6
เพราะอย่างไรก็ตามปุถุชนจำเป็นที่ต้องมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
สาวกหรือตัวแทนศาสนาก็มีข่าวประพฤติเสื่อมเสียมาให้เห็นเสมอ จะมั่นใจเชื่อถือได้ทุกคนนั้นหรือ
สาวกที่ประพฤติดีแน่แล้ว สักวันย่อมละสังขารหากสิ้นท่านแล้วใครจักมาอธิบายไขข้อธรรมได้เสมอ
การสอนให้รู้จักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งสำคัญ
แต่สิ่งที่ศึกษาต้องมั่นใจว่าใกล้เคียงความถูกต้อง ซึ่งยากเป็นปกติของสมัยนี้ บ้างก็ไปเจอสิ่งที่ใช่บ้างก็ไม่ใช่ จนเกิดความขัดแย้งในธรรม สุดท้ายก็เสื่อมศรัทธา
หลายคนหมดศรัทธา เปลี่ยนศาสนาเพราะเข้าใจว่าธรรมไม่ดีธรรมเสื่อม แต่ลืมไปว่าธรรมนี้ไม่เคยเปลี่ยนแต่ที่เปลี่ยนตลอดมาคือคน นั่นเอง
ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นสาวก/สงฆ์ก็น่าจะเป็นผู้คงแก่เรียนหมั่นศึกษาข้อธรรมที่ถูกที่สุดเพื่อให้คำของตนผู้ชื่อว่าสาวกนั่นบริสุทธิ์ที่สุดตามกำลังปัญญา
แล้วถ่ายทอดคำสอนของศาสดา อย่างตรงไปตรงมา ธรรมะนั้นจึงจะชะลอความเสื่อมได้บ้าง
ดังนั้น หน้าที่ที่จะหาว่าควรเชื่อใครไม่เชื่อใคร ไม่ควรเป็นปุถุชนผู้ที่ไม่รู้อย่างเราๆต้องค้นหาฝ่ายเดียว
แต่ผู้ที่เป็นตัวแทนศาสดาหรือสงฆ์ ก็ต้องทำให้เราเชื่อถือว่าถ่องแท้ในธรรมได้ด้วยเช่นกัน
#ไม่ยึดถือแต่ควรศึกษา
สาธุๆครับ
🙏🙏🙏🌸
สาธุ สาธุ สาธุ
จริงครับพระอาจารย์
กราบสาธุครับ
น้อมกราบ อนุโมทนาสาธุ ครับ ได้ดวงตาเห็นธรรมกับผู้ที่นำคำว่าพุทธวจนะมาอธิบายในยุค พ.ศ.2566 จริงๆเลยครับจิต ผมมองต่างมุมกับลูกศิษย์ลูกหาพุทธวจนะมานานวัน..จากวันนี้ไปเลิกมองต่างมุมกันเสียทีครับ ท่า่นเหล่านั้นศึกษาคำสอนมาผิดๆหรือจำมาไม่ดีนั่นเอง สาธุ สาธุ สาธุครับ
ต้องปฏืบัติครับ
สาธุสาธุสาธุ
ต้องแบบนี้ครับน่าฟังสาธุ
สาธุ สาธุ สจฺจํ ภนฺเต
แม้แต่พระ นักวิชาการยังไม่เข้าใจคำว่าพุทธพจน์ พุทธวจน คำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วจะสอนคนปถุชนให้เข้าใจธรรมะตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ได้อย่างไร
ทุกวันนี้ก็มีนายคึกฤทธิ์ โสตถิผล ที่กำลังเขียนกำลังแต่งพระไตรปิฎก ฉบับคึกฤทธิ์และจำหน่ายหาเงินเข้ากระเป็าพวกพุทวัจนคงไม่พอใจมาก แต่นั้นแหละพวกพุทวัจนะคิดว่าตัวเองฉลาดที่แท้ก็ไง่เหมือนเดิม คึกฤทธิ โสตถิผลฉลาดคนเดียวเพราะได้เงินเข้ากระเป็า
สาธุๆๆ
กราบ พระคุณเจ้า
พระคุณเจ้า กล่าวแบบนี้ก็ขัดใจ พวกคลั่ง พุทธวัจนะ ซิครับ
คนสมัยก่อนศึกษาจากคำภีร์ ต้องแปลต้องอ่านน้อยคนนักที่จะเข้าใจถ่องแท้เพราะไม่ใช่ภาษาพ่อแม่เราคำแปลย่อมมีผิดเพี้ยนไปบ้าง พอมาถึงยุคนี้ความเจริญก้าวหน้ายุคโซเชียลตาทิพย์หูทิพย์รู้ทุกเรื่อง คนตาสว่างตั้งข้อสังเกตุได้ถามได้แย้งได้กะลาใบนั้นจึงถูกเปิดขึ้นกบ ในกะลาจึงได้มองเห็นโลกภายนอกแต่ก็ยังมีกบบางพวกบางตัวไม่ยอมรับอยากอยู่ในกะลาเหมือนเดิมก็มี หลวงพ่อท่านพูดได้ดีมีเหตุผล รับฟังได้สาธุ
พระพุทธโดยตรงคือบันทึกแล้ว ผู้ประกาศออกไปคือสาวกฯ ไม่คิดเยอะค่ะ
ต้องเกิดในยุคพระพุทธเจ้าเลยครับ
ได๋พุทธวจนะ แน่นอน
รอข้างหน้าอีก91กัป
รอ ครับรอ
แต่ผมไม่รอนะ
นานเกิน
🙏🙏🙏
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับสุดท้ายก็จบที่การไม่ยึดติดปล่อยวาง สาธุ
อันนี้จริง ทำให้ผมนึกถึง คำว่าคัมภีร์เปล่า จริงๆนะ คือ เขาต้องเอามากล่าวก่อนเพื่อให้คนเชื่อ
พระพุทธเจ้าจะมาอธิบายได้ยังไรยังถามมาได้สมควรถามหรือครับ
อย่างฟังคลิปเต็มค่ะ❤
เอาปัญญาที่ท่านก็ฟังเขาเล่ามาเป็นสรณะ สุดท้ายก็คือท่านด่าตัวเอง ที่พูดไปเข้าตัวเองทั้งหมด หยุดเถอะ ปล่อยวางบ้างเถอะ ปัญญาเอามาใช้อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีสติด้วย เหนือฟ้ายังมีสวรรค์ อย่าไปทรงหลงตนว่าเป็นพหูสูตร อย่าไปตรัสรู้แทนพระพุทธเจ้า กลับไปเถอะ ไปที่ที่ท่านอยู่ ปิดวาจาสัก 3 ปี อาจไปถึงนิพพาน❤
พระอาจารย์กล่าวถูกครับ,ไม่ควรนำความคิดของตัวเองใส่เข้าไป
จำได้ พูดได้ ทำได้ มันคนละเรื่องกันครับ ผมว่าถ้าจำได้พูดได้และทำให้เห็นได้ด้วยย่อมดีกว่า ส่วนตัวผมเข้าใจเจตนาหลวงพ่อนะครับท่านคงอยากเตือนสติผู้ศึกษาใหม่ ผมเองก็ศึกษาพุทธวจนครับไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจธรรมมะแต่ละข้อแรกๆผมก็พูดไปเรื่อยมันก็จำผิดๆถูกๆพอเวลาผ่านไปสักระยะก็มาคิดว่าถ้าเราพูดได้อย่างเดียวแล้วทำให้คนฟังเห็นไม่ได้เนี่ยมันก็จะไปแนะนำเขายังไงให้ได้ประสิทธิภาพนะในเมื่อจิตเรายังไปไม่ถึงเลย ถ้าเราได้แค่พูดเราก็นกแก้วนกขุนทองดีๆนี่เอง😊นึกแล้วก็ขำตัวเองตอนนั้นเวลาผมพูดให้ภรรยาฟังแล้วเขาเบือนหน้าหนี😆ไปสำคัญว่าตัวเองรู้เลยคิดว่าตัวเองนี่คงเข้าใจแล้วมั้ง....สุดท้ายมันคนละเรื่องกันเลยครับ ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญมากในทางนี้ครับ สาธุครับหลวงพ่อ
โดยการพิสูจน์ ครับ จริงหรือไม่จริง สาวกนำไปปฏิบัติเอง ไม่ต้องมาบอกว่าใครดีไม๊ดี
ผมเห็นด้วยกับพระอาจารย์ พระที่จะรุ้ชัดในคำสอนต้องบรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่ง
พูดดีและตรง ดูไว้นะพวกที่เอาแต่เรียนพุทธวจนอย่างเดียวน่ะ ทิฏฐิเบาๆลงบ้าง
จะเป็นสาวกภาษิต หรือพุทธภาษิต ฟังแล้วนำไปปฎิบัติตรงกับจริต กุศลกรรมเจริญขึ้น ดีทั้งนั้นครับ จะแบ่งแยกทำไม ดูใจตนเอง สำรวจกิเลสตนเองเยอะๆ
พุทธวจนมีคุณต่อชาวพุทธอนันต์ พอจ.คึกฤทธิ์ท่านตรงต่อคำสอน แปลบาลี เน้นให้เราศึกษาจากพระไตรปิฎก แต่ถ้าไม่มีพื้นฐานจะไม่เข้าใจพระไตรปิฎก ผมเกิดปัญญาจากการฟังพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และพระอริยสงฆ์ หลายๆท่าน ท่านไม่ติดติเตียนกัน ท่านไม่อวดรู้ในศีลในธรรมกัน ท่านไม่ทิ่มแทงกัน...
สิ่งที่ออกจากปากพระคึกฤทธิ์ มีไม่น้อยที่ไม่ใช่พุทธวจนะ แต่เป็นมติความคิดเห็นส่วนตัวของพระคึกฤทธิ์เอง คงคิดแบบงมงายนะสิว่า มีแต่พระคึกฤทธิ์องค์เดียวนั้นในโลก ที่ได้อ่านพระไตรปิฎก อ่านพุทธวจนะ และคิดว่าสิ่งที่ออกจากปากพระคึกฤทธิ์จะเป็นพุทธวจนะทั้งหมด บางทีก็แปลความผิดด้วย
มีศิษย์สายพุทธวจนะบางคนมีความเข้าใจแบบฝังหัวว่าการฟังสาวกภาษิตไม่ทำให้เกิดสัมมาสติ สัมมาสมาธิและไม่เกิดปัญญา ผมไม่รู้ว่าเขาเอาความเข้าใจนี้มาจากใคร นี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ที่จะขวางปัญญาของตัวเขาเองตลอดไปน่ะ มันเป็นการปฏิเสธการบรรลุธรรมของสาวกโดยปริยาย เป็นวิจิกิจฉา เป็นสังโยชน์ ไม่ถึงความเป็นโสดาบันได้เลย
ธรรมที่สาวกบรรลุเป็นอันเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าบรรลุ เพียงแต่สาวกไม่สามารถสาวถึงเส้นทางที่ทำให้ตนบรรลุได้อย่างชัดแจ้งและไม่สามารถรู้ในเส้นทางอื่นๆอีกมากมายเหมือนพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึง มูลเหตุที่ทำให้ พุทธศาสนาเสื่อม ดังนี้ (เพราะพุทธบริษัท4 เลอะเลือน พระสัทธรรม คำสอน)
1) พวกภิกษุเล่าเรียน สูตรอันถือกันมาผิด ด้วยบทพยัญชนะ และความหมาย อันคลาดเคลื่อน.
2) พวกภิกษุ เป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือน โดยความเคารพหนักแน่น.
3) พวกภิกษุที่เป็นพหูสูต คล่องแคล่ว ในหลักพระพุทธวัจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท)แต่ภิกษุเหล่านั้น ไม่ได้เอาใจใส่ บอกสอนใจความ แห่งสูตรทั้งหลาย แก่คนอื่นๆเมื่อท่านเหล่านั้น ล่วงลับดับไป สูตรทั้งหลาย ก็เลยขาด ผู้เป็นมูลราก (อาจารย์) ไม่มีที่อาศัยสืบไป.
4) พวกภิกษุชั้นเถระ ทำการสะสมบริกขาร ประพฤติย่อหย่อน ในไตรสิกขา เป็นผู้นำ ในทางทราม ไม่เหลียวแล ในกิจแห่งวิเวก ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้ง ในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ผู้บวชภายหลัง ได้เห็นพวกเถระ เหล่านั้น ทำแบบแผน เช่นนั้นไว้ ก็ถือเอา เป็นแบบอย่าง. และยังทรงย้ำเสมอๆว่า พระพุทธศาสนา จะเสื่อมสูญจนหายไปนั้นมีเหตุที่สำคัญที่สุด เกิดจากพุทธบริษัท 4 ทั้งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา.จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัททุกคน ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ในการสืบทอด พระพุทธศาสนานี้ เพื่อให้ลูกหลาน ได้ยึดเป็นสรณะที่พึ่ง ที่ระลึกต่อไป.
etipitaka.com/read/thaipb/9/88/
---------------------------
เพราะสาวกใม่รู้จักคําของพระศาสดา หรือ รู้จักน้อยเกินใป จึ่งไม่สามารถแยกแยะข้อมูลได้ว่า สิ่งที่ยึดถือและปฏิบัติ ตามฯกันมา อันไหนเป็นคําสอนของพุทธะ อันไหนไม่ไช่. ประเพณีผิดฯอันเกิดจากคําสาวกที่แต่งขึ้นไหม่ จึ่งเกิดขึ้นมากมาย และ ทําไห้ เดรัจฉานวิชา เช่น เสกเป่า บูชายัญ ขายพระ ดูดวง รดนํ้ามนต์… ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของคําสอนของศาสนา แท้ที่จริงแล่วมันไม่ไช่ !
พระพุทธเจ้าและคำสอนของท่านมีจริงไหม ผมเชื่อว่าน่าจะมีจริง ถ้ามี ผมเชื่อว่าท่านจะสอนแต่ความจริงที่มีจริงที่พิสูจน์ได้เท่านั้น เรื่องนรก,สวรรค์,ตายแล้วเกิด,บำเพ็ญบารมีชาติโน้นชาตินี้ของคนอื่นและท่านเองตามที่ได้ยินผมไม่เชื่อว่าท่านจะเกี่ยวข้องด้วย ท่านสอนแต่ความจริง สอนแต่เรื่องสติปัญญา สอนแต่เรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ ส่วนที่เชื่อๆ และสอนกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่คำสอนของท่าน จะเป็นพระไตรปิฎกก็ยังเชื่อไม่ได้ ศึกษากาลามสูตรดีๆ
ท่านพูดถูก บางส่วน การอ้างพุทธวจนะ อ้างได้ แต่การขยายความ มันคือความเห็นของผู้นั้น ซึ่งอาจจะผิดหรือถูก ก็ได้ ซึ่งการขยายความ หรืออธิบายไม่ถือว่าเป็น พุทธวจนะ อรรถกถาเอง ก็คือการขยายความคำสอนในพระไตรปิฏก ของอรรถกถาจารย์ ซึ่งหากอรรถกถาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์ การขยายความย่อม ตรงกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนแน่นอน เพราะท่านมีสภาวะพอที่จะอธิบายสภาวะจริง
ปัญหา คือ คนที่ขยายความ บางยุคบางสมัยเป็นปุถุชนแฝงตัวเข้ามาก็มี หรือเป็นอริยะที่ยังไม่บรรลุอรหันต์ก็มี ส่วนพระอรหันต์เอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าไม่สามารถสร้างพระบัญญัติเองโดยปราศจากท่านรับรองได้ ดังนั้นหลังพุทธกาลก็ไม่มีพระพุทธเจ้าท่านมาให้การรับรองแล้ว แต่กลับมีสาวกที่อ้างตนเป็นอรหันต์จำนวนมากมหาศาล ที่ออกมาสร้างพระบัญญัติเอง จนเกิดคำสอนที่ต่างกันมากๆ ทำให้คณะสงฆ์อยู่ร่วมกันไม่ได้ ต้องแตกเป็นสายเป็นนิกายออกไปจำนวนมาก แบบนี้ไงเราถึงต้องระวังว่าที่ขยายความมานั้นถูกต้อง? ต้องเทียบกับพุทธวจนซึ่งถือว่าดั้งเดิมที่สุด เป็นต้นขั้วในการศึกษาครับ
@@ti-wa-ra4560 ในมรรค ข้อที่ 1 ของมรรคมีองค์ 8 ใน สัมมาทิฏฐิ 10 ข้อย่อยที่ 10 ท่านตรัส ถึง สัตบุรุุษที่แสดง โลกนี้โลกหน้า ได้ นั่นแสดงว่า ท่านบอกให้เชื่อฟังคำชี้แนะจากผู้นั้น ปัญหาคือใครคือสัตบุรุษ ในยุคที่ไม่มีพระพุทธเจ้า มีแน่นอนไม่ไช่ไม่มี คุณอย่าไปบอกว่า อรหันต์ต้องถูกพระพุทธเจ้ารับรองถึงจะเป็นอรหันต์ได้เท่านั้น วิชชาที่ท่านค้นพบ ย่อมสร้างอรหันต์ได้ทุกยุคทุกสมัย หลังท่านปรินิพพาน
@@ti-wa-ra4560 ไช่คุณพูดไม่ผิดหรอกมีอรหันต์เก๊เยอะแยะ ในยุคนี้ที่ มาแอบอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วตีความมั่ว ตามทิฏฐิตนเอง แต่ หากผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิจริงๆ ท่านจะสามารถรู้ได้ว่า อรหันต์เก๋ หร่ออรหันต์จริง
@@beandee9711 เข้าใจผิดไปกันใหญ่ละ ที่ว่ารับรอง ไม่ใช่รับรองความเป็นอรหันต์ครับ ฟังดีๆฟังช้าๆ ผมหมายถึงรับรองเนื้อความที่มีการบัญญัติขึ้นใหม่ หรือพูดง่ายๆคือรับรองเนื้อหาที่มีการแต่งขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ไม่ซ้ำและแตกต่างจากพระบัญญัติเดิมของพระพุทธเจ้าครับ เพราะผู้สร้างพระบัญญัติได้มีคนเดียวเท่านั้น คือ อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ซึ่งแปลว่า อรหันต์ประเภทที่ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ในยุคเรามีแค่องค์เดียวคือพระพุทธเจ้า จากนั้นก็จะเว้นว่างไปอีกนาน ถึงจะมีอรหันต์ประเภทนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งองค์หน้าก็คือพระศรีอาริยเมตไตย หรืออีกชื่อคือพระเมตเตยยะครับ ดังนั้นใครมาแต่งธรรมะใหม่ในยุคหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ทำไม่ได้ เพราะไม่มีพระพุทธเจ้ามารับรองให้ว่าที่แต่งนั้นเป็นสัจจะความจริงมั้ย อีกอย่างพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้แล้วว่าธรรมะที่พระองค์บัญญัตินั้นบริสุทธ์และบริบูรณ์ดีแล้วสิ้นเชิง คือสมบูรณ์ครบถ้วนสำหรับการบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ไม่ต้องการใครในโลกมาช่วยแต่งเพิ่มเพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น เพราะท่านบัญญัติไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วครับ
@@ti-wa-ra4560 อ้าว! 😁😁😁😁🤭🤭🤭🤣🤣🤣 ผมเข้าใจคำว่ารับรอง ของคุณผอดรึ? 😁😁😁
จริงครับยิ่งแปลยิ่งเคลื่อนเข้าใจใครเข้าใจมัน ควรฟังแบบศึกษาไปด้วยและวิเคราะห์ไปด้วย ไม่ใช่ฟังอย่างเดียว
❤❤❤🙏🙏🙏💜💜💜
สาธุ..สาธุ..สาธุ..พุทธบุตร.ต่างเชี่ยวชาญ...กันคนละแบบ..พระพุทธองค์..ยังยกย่อง...รูปนี้.เชี่ยวชาญแบบนี้...รูปนั้นสาธยายธรรมได้พิศดาร...เป็นต้นแบบ.แก่เหล่าภิกษุผู้มาใหม่ได้เชียว....แม้พระพุทธองค์..ยังให้ความสำคัญแก่เหล่าพุทธสาวก...เพราะพระพุทธศาสนส...ยังต้องมีพระอรหันต์ดั่งเช่นพระสาวก...สืบต่อไป..สาธุ..สาธุ..สาธุ
พระพุทธองค์ไม่มีลำเอียง และผู้เจริญ ทั้งเชี่ยวชาญและไม่เชี่ยวชาญใคร่ศึกษาปฏิบัติในคำสอนพระพุทธองค์ทุกระดับ พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญและเตือนสั่งไว้ ทั้งบรรพชิตและฆราวาส อย่าเป็นผู้ประมาทเพราะเรามีความเป็นตายเป็นไปเบื้อง บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในปรโลก และมนุษย์ศึกษาปฏิบัติให้ถูกต้องยังเป็นเพื่อความสุขของเทวดาด้วยครับ สาธุๆๆ
ไม่เห็นด้วยครับ น่าจะเข้าใจผิดว่ายึดคำอรรถคถาเป็นหลัก ว่าคำสอนเป็นสิ่งที่ควรศึกษา พุทธวจนเป็นคำที่ควรทรงจำ แต่การอธิบายนั้นเป็นสิ่งที่อธิบายพุทธพจน์อันเป็นกลุ่มคำสอนปฐมภูมิที่ควรทรงจำ มีความรู้แจ้งแทงตลอดและต้องไม่ขัดคำพุทธวจน ไม่ใช่ไปเอาคำสอนสาวกที่เพิ่งบัญญัติทรงจำแล้วบอกต่อ แต่ถ้าใครไปอธิบายโดยทาจ่กคำที่ขัดกันก็ไม่ควร อันนี้ป้องกันยิดเบือนคำสอนทำให้ศาสนาเสื่อมเช่นไป ใช้คำที่ไม่มีในพระไตรปิฏกกันเรื่อยๆ จนปิดบังธรรมเนื่้อแท้ เช่นอ้างหลวงพ่อ...เป็นผู้คนพบวิชา.....เยอะแยะอย่างนี้เสื่อม แล้วก็มีคำแต่งเองกันเรื่อยๆ สุดท้ายคำสอนจะไปขัดกันใครอยากเชื่อคำสาวกต้องไปดูที่บัญญัติไว้ว่าพระศาสดารับรอง เอาเป็นว่าใครชอบจำคำอรรถคถาเป็นหลักก็ตามสบายแต่ผไม่จำครับ
ที่เขาเถียงกับคึกเนี่ยเพราะคำว่าพาริหกาครับ
อาจารย์ทั้งหลายที่ออกมาให้ความรู้ในโลกโซเชียลพากันละกิเลสภายในตัวเองได้กี่ตัวแล้วครับ
พระเล่นมือถือเป็นช่องทางของกิเลสเป็นภัยต่อเพศพรมจรรย์
เป็นโลกวัชชะฐิธิมานะตัวดี
ชอบใจแบบไหน ก็เลือกฟังแบบนั้น เลือกที่ชอบ
ก็เพื่อที่จะให้เข้าใจแต่เนื้อเดิมนั้นต้องทรงตรัสไว้ในปฎิจสมุปบาท 84.000พระธรรมขันธ์ทรงตรัสไว้ตรงไหน ก็ตามใจผมไม่อยากลงนรก
ไม่ใช่คับ พระพุทธเจ้าอธิบายไว้หมดแล้วคับ เพียงแต่เรานำมาเชื่อมต่อกันแบบนี้คับ
เราอย่าแบ่งแยกว่าใครผิดใครถูกหรือแซะกัน เพราะฉะนั้นแสดงว่าเรายังมีทิฏฐิ มานะ กัน และเท่าที่ผมลองฟังพระคึกฤทธิ์ท่านบอกว่าฟังสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด หมายถึงใครพูดก็ได้ขอให้เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด เช่น สมมุติผมบอกลูกน้องไปว่าสั่งผักคะน้าหมูกรอบให้หน่อย ลูกน้องก็จะใช้คำของผมไปสั่งเลย นั่นถือว่าเป็นคำที่ออกจากปากผม แต่ผมไม่ได้พูดเอง แต่หากเป็นแนวขยาย ก็อาจจะไปสั่งแม่ค้าว่า เอาผักคะน้าปลอดสารพิษ หมูกรอบซื้อหมูสามชั้นจาก CP ใส่พริกขี้หนูเพิ่มความอร่อยนิดๆราดข้าวที่เป็นข้าวหอมมะลิ แม่ค้าบอกว่าทำไมต้องใช้แหล่งวัตถุดิบดีๆ ลูกน้องก็อธิบายคุณสมบัติของสิ่งต่างๆไปอีก นี่ถือว่าเป็นคล้ายๆการขยายความมากเกินไป ส่วนบาลีผมก็เห็นท่านเปิดพระไตรปิฎกที่แปลมาแล้วจากมหาจุฬา, มหามกุฏ ท่านก็เปิดเทียบให้เห็น หากจะตีความจากท่อนนั้นๆ กับต้องตีความจากอรรถกถาอีกอันไหนมากกว่ากัน เราควรมองว่าระดับความฉลาดคนในการรับรู้ธรรมต่างกัน คนชอบละเอียด ชอบอภิธรรมก็ต้องพอจ.สมทบ คนชอบฟังเข้าใจใน concept โดยรวมของพุทธก็ พอจ.คึกฤทธิ์ เพราะเข้าใจง่าย ไม่ต้องไปจำอะไรเยอะ หากเราเข้าใจอยากต่อยอดก็ไปศึกษากับพอจ.สมทบ หรือ พอจ.อื่นๆ ก็มีแต่ข้อดี อย่ามาสร้างเรื่องให้ พอจ.ต้องตอบ มันจะเป็นการเสี้ยม อีกทั้งพวกมารศาสนาหากินกับวัดมากมาย เอาเวลาไปปรามพวกนี้ดีกว่า
ใด้ฟังแล้ว .เหมื่อนยายสุจินพูดเลย ...
เยี่ยมครับอาจารย์ แต่ผมจะเข้าใจทำดี ไม่ทำชั่ว
พระพุทธเจ้า ทรงอธิบาย คำของพระองค์ไว้ทั้งหมดแล้วในพระสูตรต่างๆครับ
***ไม่รู้จริงอย่าอวดรู้ดี ครับ
ผมเห็นกับอาจารย์ อาจารย์ทันก่อไม่ถิ้งหลักเพียงบอกว่า การเรียนที่แท้จิ่ง เรียนเพื่อรู้ ปฏิบัด ไม่เรียนเพื่อยืดถือจนมองคนอื่นไปทางทีผิดโจมติกันทังที่เป็นพุท
@@chanthamma
,,,ธรรม,,,ต้องยึดคำสอนที่ถูกต้อง
ปฏิบัติตามคำสอนที่ถูกต้อง
ของพระศาสดา
*** หาก พูด บอกสอนสิ่งถูกตาม
คำของพระศาสดา ไม่มีใครๆไปโจมตีใคร ครับ
***ในศาสนาพุทธ ต้องใช้แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
อย่านึกคิดเอาเอง ครับ
@@ธนภณทองแก้วโบราณ คนฉลาดจะคิดยังไงก็ได้ครับแค่ให้อยู่ในกรอบของมรรคแปดเท่านั้นเอง..แค่เดินมรรคแปดก็จบทุกเรื่องแล้วครับ..เรื่องอื่นไม่ต้องพูดอีกแล้วครับ..มรรคแปดตัวเดียวเท่านั้น
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า
ครับ มรรคแปด จบ
แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ,,มรรคแปด,,
อย่างถูกต้อง ตรง ตามที่พระศาสดาทรงสอนไว้
***ผมเห็น แค่ข้อที่หนึ่ง สัมมาทิฏฐิ
ก็ไม่ผ่านกันแล้ว
,,,ทำสมาธิ มีคำภาวะนา พุทโธ นี่ก็
มิจฉาทิฏฐิ แล้วครับ
""""แล้วที่พูดๆกันว่าได้ อริยะ จะได้
กันอย่างไรยัง,,มิจฉาทิฏฐิ,, อยู่เลย
***** เป็นสงฆ์แต่ไปใช้คำปุถุชน อย่างที่เห็นๆกันอยู่ทั่วไปเกือบทุกวัด
มิจฉาทิฏฐิ ทั้งนั้น ครับ
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า
,,,ในศาสนาพุทธ ผู้สัมมาทิฏฐิ
จงอย่าคิดว่า คิดได้เอง นั่นฉลาด
***ในศาสนาพุทธ ฉลาดได้แค่ปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสดาเท่านั้นพอแล้วครับ
ขอโมทนาที่อาจารย์ได้เห็นภัยศาสนาพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าก็พุทธพจน์ตัดต่อแต่งเติมของคึกฤทธิ์ที่โดนขับออกจากวัดหนองป่าพงคณะสงฆ์ได้ขับออกจากหมู่คณะอยู่ที่นาป่าพงแล้วสร้างศรัทธาอ้างพุทธพจน์ตีความจนคอนไฟด์ศรัทธาด้วยลูกศิษย์แต่สุดท้ายก็เป็นอธิกรณ์ฟ้องร้องกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนวันนี้ก็ยังมาหากินรอบ 2 เอาพุทธพจน์มาอ้อนตีความอันนี้คือภัยศาสนาแต่ทำไมมหาเถรสมาคมจึงปล่อยละเลยกับสิ่งที่เป็นภัยของพระธรรมพระวินัยเห็นอาจารย์มาพูดก็เข้าใจในเจตนาขอโมทนาพระอาจารย์ในนามบริษัท 4สาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
เหตุแห่งสังฆเภทนั้นเกิดขึ้นได้เพราะเหตุใด ลองกลับเอามาคิดพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ ทุกๆที่เป็นชาวพุทธ ต่างก็เข้าข้างตัวเอง ว่าความเห็นของตนเองนั้นถูกต้อง แล้วสัจจะความจริงอยู่ที่ตรงไหน พวกเราจะใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานเกณฑ์ในการตัดสิน ทั้งๆที่พวกเราต่างก็เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวกัน ใช่แล้วครับ ธรรมวินัยอันพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว บัญญัติไว้ดีแล้วนั่นเอง คุณว่าจริงมั้ยครับ
@@เชาวฤทธิ์ขัดสี สำหรับผมจะบอกง่ายๆ..คือบุคคลใดที่ปฏิบัติธรรมตามมรรคแปดตลอดเวลาถือว่าบุคคลนั้นปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง..นอกนั้นแค่พวกคนพาลทะเลาะกันเท่านั้น..มรรคแปดตัวเดียวจบทุกคำสอน..
@@เชาวฤทธิ์ขัดสีใครที่ไม่เดินมรรคแปด..ต่อให้บรรยายธรรมะดีแค่ไหนก็ไร้ค่า..กิเลสตัณหาดับเพราะการเจริญมรรคแปดเท่านั้น..ไม่ใช่พวกจำธรรมแล้วนำมาเถียงกับชาวบ้าน
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า ที่พระศาสนามาถึงพวกเราก็เพราะชนรุ่นก่อน พุทธบริษัททั้งหลายช่วยกันถ่ายทอดบอกสอนไม่ใช่หรือครับ การถกกันด้วยถ้อยคำของพระพุทธเจ้า ธรรมวินัยที่ได้ตรัสไว้ดีแล้ว บัญญัติไว้ดีแล้วอย่างวิญญูชนผู้เป็นบัณฑิต สอบทาน ทวนถามซึ่งกันและกันอยู่ ย่อมช่วยกันเปิดธรรมที่ถูกเปิดนั้นไว้ได้ ดุจหงายของที่คว่ำ นี้ไม่ใช่การทะเลาะวิวาทนะครับ นี้เรียกว่าการสนทนาธรรม นี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นพุทธบริษัทที่เลิศ
ขอแก้ไขข้อความข้างบนจาก ย่อมช่วยกันเปิดธรรมที่ถูกเปิดนั้นไว้ได้ เป็น ย่อมช่วยกันเปิดธรรมที่ถูกปิดน้้นไว้ได้ ( การใช้โปรแกรมสะกดคำอัตโนมัติ หลายๆครั้งมักจะมีข้อความที่ไม่ได้ตั้งใจพิมพ์จริงๆโผล่ขึ้นมาบ่อยครั้ง ทั้งๆที่พยายามตรวจสอบความถูกต้องแล้ว หลายๆครั้งบทพยัญชนะเปลี่ยน ความหมายก็ยิ่งเปลี่ยน บางครั้งตรงข้ามกันเลยก็มี ต้องขออภัยในความสะเพร่าของผมด้วย )
อรหันต์เต็มบ้านเต็มเมือง
ใช้คำว่า"พุทธวจน" หาใช่คำว่าพุทธพจน์ไม่ แต่ก่อนนี้โยมไม่รู้เรื่อง สังขะตะธาตุ อสังขะตะธาตุ อริยะสัจ 4 ทุกข์ เหตุเกิด เหตุดับ มรรคมีองค์แปด สัตตานัง จิต มโน วิญญาณ กรรม อิทัปจยตา ปฏิจสมุปบาท ขันธ์ 5 อานาปานสติ สัญญา 10 ประการ นิวรณ์ 5 สังโยช 10 โพธิปักขยธรรม 37 กุศลกรรมบท 10 อกุศลกรรมบท 10 ภพ ชาติ ฯลฯ ก็ได้รู้จากพระอาจารย์ท่านนี้ ชีวิตและความเป็นอยู่ของครอบครัวก็เปลียนไป การให้ทานก็ว่าจิตได้อย่างถูกต้อง มีความเป็นอืสระทางจิตวิญญาณอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนยกให้ท่านเป็นพระผู้มีอุปการะมาก ท่านนั้นขอเอ่ยนาม ท่าน คือ พอจ.คึกฤทธิ์ วัดนาปาพงครับ สาธุ
ความเห็นผม น่ะครับ ตริกว่าบุคคลสร้างบารมีมาหรือไม่ก็มีดวงตาเห็นธรรม มาแล้วจะเข้าใจ ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด
คณะธรรมะจำ..แต่ไร้ปฏิบัติ..จำแล้วมาเถียงกับชาวบ้านว่าตัวเองรู้ธรรมะทั้งๆไม่มีศีลแม้แต่ข้อเดียว..ถ้าจำธรรมเก่งแล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้..พระทั้งหลายคงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมรรคแปดหรอกครับ..ธรรมแท้อยู่ที่การเดินมรรคปฏิบัติเท่านั้น..ไม่ใช่การจำเก่งแล้วไปเถียงกับชาวบ้าน
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้าท่านรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ท่านกล่าวถึงไม่มีศีลแม้แต่ข้อเดียว
@@Sam-ng2lb ผมกล่าวถึงใครเหรอครับ..ช่วยบอกหน่อยว่าผมกล่าวใครครับ..ใช้สติดีๆครับเพราะผมยังไม่ได้กล่าวถึงใคร..
ถ้าไม่รู้อะไร อย่าเม้นในสิ่งที่ไม่รู้เลยครับ พุทธวจน กับคำว่า พุทธพจน์ คำนี้คำเดียวกัน พุทธ + วจน ภาษาไทยเขาแปลง ว เป็น พ แล้วใส่ การันต์ ตรง น เป็น พุทธพจน์
ข้าพเจ้าฟังพุทธวจนทุกวันเดิมๆไม่เคยนึกเบื่อเลย
อย่าเถียงกันเลยครับ ผมเพิ่งจะมาศึกษาฟังธรรม ไม่กี่เดือน จับใจความสำคัญได้ไม่ได้เยอะอะไร แค่ทำสมาธิ พยายามรักษาศีลห้า เวลาทำสมาธิทำให้หัวว่าง ทำทำอารมณ์เดียว ละความเพลิน ให้นานที่สุดฝึกบ่อยๆ แล้วก็ละผัสสะ อยากได้อยากมี ใครด่ามาโกรธโต้ตอบน้อยมากๆลืมไวๆ พึ่งพาตัวเองเยอะๆ สุดท้าย ธรรมมะ ที่ศึกษามาเวลาตายก็ทิ้งเหมือนกัน พายเรือข้ามฝั่งพอถึงฝั่งก็ต้องไม่แบกเรือไปด้วย แล้วไปลุ้นเอาชาติภพหน้าว่าปฏิบัติมาถูกไหม มากพอที่จะไปเกิดเป็นอะไร ไม่ต้องไปเถียงใคร ทำทานแต่พอมีโอกาศทำ ทำสมาธิมากๆบ่อย วาระสุดท้าย จะได้ไม่ไปนรกภพลึกๆ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นเทวดา เป็นมนุษย์ชาติหน้าก็เหมือถูกล๊อตเตอร์รี่ชาตินี้แล้ว
คุณศึกษาปฏิบัติไม่นาน แต่มีความเข้าใจถูกต้อง โน้มมาทางสัมมาทิฏฐิแล้วครับ ขอบคุณครับที่ไม่ติดตัวอาจารย์ พึ่งธรรมได้เยี่ยมครับอนุโมทนาสาธุครับ
พุทธะ คือไร ใช่ผู้ตื่นรู้มั้ย.? รู้อะไร ? รู้จักธรรมะใช่ไหม ? ธรรมะคืออะไร ? คือ ความจริงแท้ใช่ไหม ,? อะไรคือจริง ?ใช่การเกิดดับมั้ย?..การเกิดดับนี้เองคือ ปัญหา แห่งชีวิต จึงเกิด อริยสัจ ๔ เพื่อแก้ปัญหาชีวิต.._/มนุษย์ยังมีลมหายใจ ไม่สามรถ ละ ผัสสะ 6 ได้ แค่รับรู้ อายตนะ ภายนอก แล้วมาฝึก ลด ละ ใน เวทนา และ สังขาร โดยการ ใช้ สติ สมาธิ พิจารณา ปัญญา ศิล .....
ภพ ชาติ ไม่ใช้การเสื่อมในรูป แล้วเกืดขึ้นในรูปใหม่ แต่ ในพุทธะ คือ การเกิด ดับในจิต เป็น อารมณ์ ( สภาวะ ). การทำ สมาธิ คือการฝึก อารมณ์ ให้นิ่ง..นี้คือ..แก่นสารเพียงเริ่มต้นในการเข้าถึง.ธรรม..ของผู้เริ่มต้น..
( เกิดที่ จิต ดับที่ จิต...สุญญตา..)
@@amarinsilpanawin8727 ความรู้คุณใช้ได้เลยครับ..อ่านแล้วเกิดความรู้เลยเยี่ยมครับ..👍👍👍
@@MdMd-ty1he ผมเลือกอ่านพระไตรปิฎกประกอบไปด้วยครับ
@@amarinsilpanawin8727 สาธุ
ธรรมมะพระพุทธเจ้า ไม่น่าเข้าใจยาก ถ้าเข้าใจยากคนธรรมดาในสมัยนั้นคงไม่นับถือพระพุทธเจ้าและไม่ได้บรรลุโสดาบันหรอกครับ ผมว่าพระสมัยนี้นี่เเหละทำให้ธรรมะพระพุทธเจ้าเข้าถึงยากเอง โดยไม่ยอมเป็นสาวก
ตกลงจะเอาความผิดความถูกเรื่องอธิบายเนื้อความของพุทธวจน หรืออ้างเรื่องอะไร ครับ ถ้าแปลตามพุทธวจน ก็ไม่ถือว่าเป็นสาวกภาษิต แต่มีข้อสังเกตอยู่ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าจะไม่ขัดแย้งกัน จะมีการเรียงร้อยเชื่อมโยงกัน สอดรับกัน แต่ปัญหาของนักบวชชั้นปกครองปัจจุบัน ส่วนใหญ่เรียนอย่างแต่ทำอย่าง เดรัจฉานวิชาเต็มเมือง
ถูกต้องครับผม
ถ้า เเปลก็ คือ สาวกภาษิต ครับ เพราะ สาวกเเปล ตามการเรียนมา คือ คุณอ่านบาลี เเล้วเข้าใจเลยว่างั้น นั้นถึงจะเป็น พุทธวจน จริงๆ ภาษาอังกฤษ เเปล เป็นไทย ความหมายยังไม่ตรง ซะทั้งหมดเลย คิดดีๆ ครับ
แล้วแต่นะครับ ในความเห็นของผมแปลเพื่อความเข้าใจไม่ถือว่าสาวกภาษิต การแปลถึงแม้จะไม่ตรง 100%แต่เนื้อความมันได้เข้าใจได้ ก็ไม่ถือว่าสาวกภาษิต ที่เป็นสาวกาษิตคือคุณแต่งเรื่องขึ้นมาใหม่ และสิ่งที่แต่งขึ้นมาใหม่จะไม่เชื่อมโยงสอดรับกันกับพุทผมภาษิต เข้าใจคำว่าแปลกับแต่งเรื่องนะครับ
@@kensimply9622 งั้น หมายความว่า จะเเปลผิด ก็ได้สินะครับ คือ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเเปลถูก เเปลผิด ในเหมือนคนที่รับรองความถูกผิดคือ สาวก ส่วนใหญ่ เเล้วถ้าส่วนใหญ่เข้าใจผิดหมด ก็อาจหมายความได้ว่า พุทธพจน์ที่เชื่อกัน ไม่ถูกตั้งเเต่เเรก สินะครับ งั้นพระไตรปิฎกก็อาจ ไม่จริงตั้งแต่เเรก ก็ได้สินะครับ
@@kensimply9622 ถ้าศีลยังไม่มีสักข้อ..อย่าเพิ่งเสือกอวดดีอวดรู้เถียงพระอริยสงฆ์..ดูเงาของคุณก่อน
พระอาจารย์กล่าวได้ชอบแล้ว รู้สึก รื่นเริงในธรรมที่ท่านกล่าว สาธุสาธุสาธุครับ
กล่าวได้ชอบแล้ว แสดงว่าคุณก็รู้ตามธรรมที่อาจารย์ท่านนี้อธิบายแล้วเหมือนกัน คุณพูดเองว่ากล่าวได้ชอบธรรม คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ท่านนี้กล่าวถูกหรือกล่าวผิดถ้าคุณไม่รู้ ผมจึงอยากจะเรียนรู้จากคุณ เพื่อได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย คุณช่วยอธิบายธรรมที่คุณชอบพอใจ สักประโยคหนึ่งได้ไหม แล้วผมจะถาม
@@จงกลณี-บ7นคำว่าชอบมันเเปลไปในทางว่าดีก็ได้นะครับ
มึงต้องการอะไรจากสังคม
ครั้งพุทธกาลพระเทวทัตตั้งตนเป็นอาจารย์ก้าวล่วงพระธรรมพระวินัย สมัยนี้คึกฤทธิ์แก้ไขบัญญัติเดิมของพระธรรมวินัยแม่อ้างพุทธพจน์ข้อหาสมควรไม่ ทิฐิมานะอยู่เต็มหัวอ้างตัวเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎก@@จงกลณี-บ7น
🎉ใครเป็นคนอ่านพุทธพจน์ให้เธอฟัง.. อย่าเชื่อก่อนศึกษาหลักกาลามสุตร10ข้อ.. ใช้ปัญญา.. และหลักกาลามสูตร.. ศิษย์ตถาคต.
ให้เอาพุทธวจนมาอธิบายพุทธวจนด้วยกันเองคับไม่ใช่คิดอธิบายเองแบบนี้คับ
เข้าไปตรวจดูด้วยกันครับว่า ผู้รักศรัทธาพระตถาคตเขาจะเข้าใจว่าคำสอนศาสดามีลักษณะเช่นไร ช่วยตรวจสอบด้วยว่าคำสอนขัดกับหลักสำคัญของศาสดาโต้แยังได้มมัสการมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ดูว่ากลุ่ม ผู้นิยมพุทธวจนเขาขัดคำศาสดาอย่างไร ไม่ควรเถึยงว่าเวลาผ่านมานานต้องฟังคำสาวก (หลงทางนะครับ)หรือจะรอพระพุทธเจ้าองค์หน้า นานมากนี่คือโอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จงรักษาลาภที่ได้ให้มั่น ไม่ควรเบียดเบียนหรืออิจฉากันเอง หรือว่าจะพากันตามสาวกโดยไม่พิเคราะห์ว่าชอบด้วยมรรค8หรือไม่ การเถึยงกันโดยธรรมดาควรอย่าบนความรักศรัทธาพระพุทธเจ้า ตะไปเอาตามอาจารย์ของตนว่าแต่งคำสอนนั้นไม่ควร มิหนำซ้ำยังอาจพาผู้อื่นหลง ผมเขื่อในคำสอนของศาสดาที่มีคำสอนเป็นจริงไม่จำกัดกาล (อกาลิโกา) ช่วยกันให้คำสอนศาดาเป็นแสงสว่างให้ชาวพุทธ ไม่เอาตระกรุด เครื่องราง ของขลัง...สาวกทำใช่ไหม คำสอนเพี้ยนสาวก ทำใช่ไหม ตรวจดูว่าคำสอนของกลุ่มที่ท่านเห็นแย้งมันไม่ถูกอย่างไร อย่าชักแม่น้ำ...ไม่ดีครับคนจะไม่รู้ว่าธรรมเนื้อแท้ยังคงอยู มรรค8
เอาแล้วไงเจอผู้รู้จริงแล้ว
งั้นแสดงว่า แปลบาลีได้ใช่ไหมครับ ถึงบอกว่าไม่ฟังคำสาวก ถ้าคุณยังแปลบาลีไม่ได้ แต่ยังอ่านพระไตรปิฏกที่เป็นคำแปลจากพระอรรถกถาจารย์อยู่ คุณก็ยังไม่ได้ชื่อว่าศึกษาคำพระพุทธเจ้านะ เพราะสำนวนแต่ละสำนวนก็ไม่เหมือนกัน พระไตรปิฏกไม่ว่าจะเป็น ฉบับหลวง , มหาจุฬา , มหามกุฏ หรือ เฉลิมพระเกียรติ สำนวนแต่ละฉบับก็ไม่เหมือนกัน ถ้ายังอ่านภาษาไทยอยู่จึงไม่เรียกว่าศึกษาคำของพระพุทธเจ้า ถ้าจะศึกษาคำของพุทธเจ้าจริงๆ คุณต้องอ่านจากภาษาบาลี
คนที่อ่านพุทธวจนคือสาวก แต่สาวกอ่านคำพระพุทธเจ้าครับ ไม่ต้องสนใจว่าสาวกรุ่นไหน ถ้าเป็นคำพระพุทธเจ้าหรือเป็นพุทธวจน เป็นใช้ได้ครับ เอารุ่นเอาปีมาวัดกันไม่เกิดประโยชน์หรอกครับ ปัญหาคือ ยกคำพระพุทธเจ้ามาถูกหรือเปล่าเท่านั้นแหละครับ อย่าพูดเรื่องสนุกหรือไม่สนุกเลย เรามุ่งเอาเฉพาะคำพระพุทธเจ้าหรือพุทธวจนดีที่สุดครับ ถ้าใครจำมาผิดก็ไปหาไปทำให้ถูกสิครับ ถ้าหาที่ถูกไม่ได้ก็ทิ้งไปแล้วเอาที่ถูกมาใช้ดีสุดง่ะครับผมว่านะ
แล้วรู้ได้ไงว่าอะไรผิดอย่าเกินกว่าพระไตรปิฏก ยุคนี้อวดรู้กันเยอะ...พระพุทธเจ้าเต็มบ้านเต็มเมือง กิเลสเต็มหัวใจ ล่ะไม่ว่า
อ.สมทบ ท่านก็พูดไปตามปัญญาของท่าน
อ.คึกฤทธิ์ท่านพูดไปตามปัญญาของท่าน
หลวงพ่อ ปราโมทย์ ก็พูดอีก อย่าง.
(สรุปก็คือ..ทุกขัง. อนิจจัง. อนัตตา)
จริงครับ หลักธรรมต่าง ๆ เเม้จะท่องจำได้ขึ้นใจ เเต่ก็ใช่ว่าจะบรรลุหลักธรรมนั้น เพราะหลายอย่างมันถ่ายทอดด้วยหนังสือ ตำรา หรือตัวอักษรไม่ได้ เขาถึงต้องมีครูช่วยกันถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่น ควรยึดที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เป็นหลักในการปฏิบัติ เพราะถูกบิดเบือนน้อยกว่า หากต้องการศึกษาพระธรรมจริง ๆ ต้องปฏิบัติครับ จากประสบการณ์ของผมเอง เมื่อก่อนผมเองก็เป็นคนที่หาดูตำราต่าง ๆ มาเยอะ เเต่มาบรรลุหลักธรรมต่าง ๆ ได้จริงก็จากการักษาศีล การทำสมาธิ เเละการปฏิบัติคือ คิดดี พูดดี ทำดีอย่างไม่ขาด พอมาย้อนมองอีกทีหนังสือที่เคยซื้อมามากมายก็ไม่ได้จำเป็นอีกเเล้ว ถึงได้เข้าใจว่าธรรมะนี้คือความเป็นไปของชีวิต หรือก็คือธรรมชาติรอบตัวเรานี่เเหละ ใกล้ตัวบ้าง ไกลตัวบ้าง เพราะได้ศึกษาพระธรรม เเละปฏิบัติตามพระธรรมอยู่เสมอ ผมถึงได้เข้าถึงความสงบลงในชาตินี้
ธรรมะ คือ แก่ เจ็บ ตาย ของจริงแน่นอนไม่มีใครแต่ง. เป็นตัวฆ่ากิเลสโดยตรง แต่ต้องรู้ด้วยปัญญา แค่รู้จำยังทำอะไรกิเลสไม่ได้ จึงต้องอบรมปัญญาให้เกิดขึ้นเสียก่อน❤❤❤
@@pomnp3231 การจำคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศรัทธา ที่เป็นศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นี้นั่นเองค่ะคือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ มีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ตรวจสอบการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ได้จาก การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก
@@pomnp3231 ตรวจสอบการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ได้จาก การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 การปฏิบัติใน ธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติไว้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ
@@pomnp3231 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท
คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มี ธรรมที่เป็นเหตุ มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท เมื่อนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเพ่งพิสูจน์ ก็จะเห็น ธรรมที่เป็นเหตุ เห็น กฏอิทัปปัจจยตา เห็น ปฏิจจสมุปบาท ตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองค่ะ
ศึกษาศาสนาพุทธพึ่งระวังเวลามันผ่านมานานแลัว นิกายนี่เพียบเลย แต่ส่วนตัวเชื่ออย่างแน่ใจว่าข้อมูลต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ขอให้ทุกท่านเจอข้อมูลแท้ๆนะครับ ส่วนตัวยังคงพิสูจน์ไปเรื่อยๆครับ
สัจธรรม ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้แล้วบอกสอนไว้ให้รู้ตาม คือ กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท การเข้ามารู้ตาม สัจธรรม พระพุทธเจ้าก็บอกไว้ชัดเจนคะว่า อริยมรรคมีองค์แปด ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 อริยสัจสี่ เมื่อปฏิบัติตามจนเกิดปัญญาแล้ว ก็จะเห็น สัจธรรม กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท ตามที่พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้นั่นเองคะ
ทำตัวให้มันมีศีลสักข้อก่อนแล้วค่อยเถียงพระอริยสงฆ์
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า การปฏิบัติใน ธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติไว้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ตรวจสอบการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ได้จาก การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 นั่นเองค่ะ
ดีครับ ไม่เชื่ออะไรใครง่าย ๆ ต้องพิสูจน์ ของที่คนส่วนมากเชื่อว่าดี ก็อาจจะไม่ดีจริงก็ได้ ของแท้จริง และดีจริงมีอยู่ ขอให้มีบุญได้เจอของดีจริง
@@jaru072 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มี ธรรมที่เป็นเหตุ มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท ซึ่งมีตัวอย่างให้พิจารณาตาม คือ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด ซึ่งจะมี ธรรมที่เป็นเหตุ มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัมมาทิฏฐิ อย่างนี้นั่นเองค่ะ สัมมาทิฏฐิเป็นแบบนี้ซึ่งจะแตกต่างจาก กาพย์ กลอน ที่เป็นคำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ
สาธุ....ที่จริงคำว่าเถรวาท หรือนิกายเถรวาทก็อธิบายชัดเจนแล้ว ว่าคำสอนมาจากพระเถระ ไม่ว่าจะเรียนวิชาอะไร ถ้าติดขัดก็ต้องอาศัยผู้รู้สอน และอธิบายจึงเข้าใจได้ถูกต้อง
ถ้าครูอาจารย์ที่แต่งอรรถกถาเป็นอาจารย์แบบธรรมชัยโยหรือเณรคำ เราจะได้ความรู้แบบไหน
เป็นคำถามที่ดีเลยครับ
ผมว่าอ่านพระไตรปิฏกแปลไทยมันก็ดีแล้ว ไม่ใช่ว่าต้องไปอ่านบาลีตรงๆขนาดนั้น ถึงอย่างไงก็ควรดูคัมภีร์เป็นหลักอยู่ดี เพราะมันเป็นเครื่องมือ แล้วดูฉบับที่เปรียบเทียบมันถึงจะเห็นจุดที่เหมือนและจุดที่ต่าง แล้วนำมาวิเคราะห์เอา
ท่านที่แปลจากบาลีเป็นไทย ก็ได้อาศัยอรรถกถาช่วยส่วนหนึ่งด้วย
@@vonivata คือการแปล ในพระไตรปิฏกเป็นไทย ผู้แปลจะพยายามแปลตามพนัญชนะ เพราะท่านก็กลัวจะแปลผิด ดังนั้น คนที่อ่านพระไตรปิฏกถ้าไม่มีสภาวะจริง จะอ่านแบบงง แต่ถ้ามีสภาวะจริง จะอ่านอย่างเข้าใจดี ว่าท่านหมายความว่าอะไร พระไตรปิฏกท่านบัญญัติไว้กีแล้ว ความอัศจรรย์ของพระไตรปิฏกคือ เรามีสภาวะธรรมแค่ไหน ก็จะอ่านพระไตรปิฏกเข้าใจแค่นั้น
สรุปพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย นี่เชื่อถือไม่ได้เลยใช่หรือไม่ ถ้าเชื่อถือไม่ได้ก็เผาทิ้งทั้งหมด อีกอย่างที่ท่านออกมาพูดนี่ท่านได้อ่านพระไตรปิฎกจบหรือยัง ถ้ายังอ่านไม่จบ ท่านเอาคำสอนที่อ้างว่าเป็นของพุทธเจ้ามาจากไหน
เผาทิ้งเลย ครับ ไร้สาระ เพราะว่า เราก็ไม่รู้ว่าคนเเปล เเปลถูกไหม จะเชื่อได้ไง ถ้าลุง อ่านออก ช่วยเเปลใหม่ ด้วยครับ จะได้ ถูก ไม่เเปลเอาตาความเข้าใจ นะครับ จะกลายเป็น สาวกภาษิต
ส่วนตัวมองว่า คนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ใครชอบทางไหนก็ควรศึกษาไปตามจริตของแต่ละคน เอาแค่หลักพื้นๆของศาสนาก็น่าจะพอจะประคับประคองชีวิตได้ในทุกสภาวะการ// อย่าไปเอาถูกเอาผิดกันเลย เอาแค่ว่าทำอย่างไรให้สังคมอยู่อย่างสงบสุข เท่านี้พอ
วิชา ความรู้ ควรค่าแก่การศึกษา จึงเกิดปัญญา
อืม จริง เพราะถ้าผิดก็จะผิดตลอด
ผมฟังหลายๆอาจารย์อธิบายก็น่าฟังทุกๆรูปทุกคน.ล้วนแต่ดีมีเหตุมีผล.ผมคนปัญญามีน้อยไม่ติติงใครผิดใครถูก..จะตึกตรองตามเหตุผลนั้นๆตามปัญญา
พุทธวจน ธรรมจากพระโอฐของพระพุทธเจ้า ตถาคเต เอกันตคโต อภิปสันโน ข้าพระเจ้าขอเลื่อมใสอย่างยิ่งใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างไม่หวั่นไหว
แปลบาลีได้ไหมครับ ถ้าแปลบาลีไม่ได้ แต่อ่านคำแปลที่พระอรรถกถาจารย์ท่านแปลไว้ อย่าเรียกว่าธรรมจากพระโอฏฐ์ แบบนั้นเขาเรียกว่าฟังจากปากคนอื่นอยู่ดีเพราะเป็นสำนวนของคนอื่น ถ้าจากปากพระโอฏฐ์ต้องแปลจากบาลี
@@บาลี5nuunengdj ท่านต้องการอะไรจากผมครับท่าน พระพุทธเจ้า ปรินิพพานไปนานแล้ว จะให้ผมไปฟังจากปาก พระพุทธองค์ได้อย่างไร ที่ถามนี้ท่านต้องการอะไรเหรอครับท่าน.....😁😁😁
@@fullmetaljacket9936 ตถาคเต เอกนฺตคโต อภิปสนฺโน คุณบอกว่าเลื่อมใสโดยส่วนเดียวที่เป็นพุทธวจนที่เป็นธรรมะจากพระโอฏฐ์ แต่คุณกลับบอกว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปนานแล้วจะให้ไปฟังจากพระองค์ได้อย่างไร 2 คำพูดของคุณนี้มันกำลังขัดแย้งกันอยู่นะครับ งั้นผมถามนะว่า คุณจะเอาอะไรมาวัดครับว่าสิ่งที่คุณฟังมาหรืออ่านมาเป็น พุทธวจน ครับ 😊
@@บาลี5nuunengdj ไปทำมาหากินเถอะท่าน ท่านจะปฎิบัติแบบไหน จะฟังธรรมะจากใคร ก็เรื่องของท่าน ผมจะฟังธรรมะจาก พุทธวจน หรือ ที่ไหน มันก็เรื่องของผมครับท่าน จุดประสงค์ท่านคืออะไรครับท่าน...ไปทำมาหากินกันดีกว่าท่าน ช่วงนี้เงินหายากๆๆอยู่...🤣🤣🤣🤣🤣 ปล่อยว่างบางท่าน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บ้าง
@@fullmetaljacket9936 โอเค ครับขอจบการสนทนาครับ😊
คนที่ยึดตัวอักษรมากๆหรือยึดบท (ปท) เรียนเป็นอย่างยิ่ง (ปรมะ) พระพุทธองค์ไม่ทรงสอนคนเหล่านี้ เพราะมันอัตตาตัวตนสูงมากจนไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่แท้จริงที่พระพุทธองค์ทรงสอนได้เลย ใครอ้างพุทธพจน์โดยไม่ได้ปฏิบัติจนเกิดปฏิเวธขึ้นกับใจตัวเอง อุปมาก็เหมือนคนได้ยินคำว่า "พระกระโดดกำแพง" แล้วไปบรรยายสอนคนอื่นว่ามันก็คือการที่พระหนีออกจากวัดไปเที่ยว นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยรู้เห็นของจริงนั่นเอง
ในอดีตก็มีปลาชื่อกปิละที่อาศัยพุทธพจน์หากินและใช้พุทธพจน์ข่มคนอื่น กลุ่มคนที่พระอาจารย์ท่านนี้กำลังกล่าวถึงก็คงมีจุดจบไม่ต่างกันหรอก เพราะคนพวกนี้โง่จนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นทำให้ศาสนาเสื่อมเร็วขึ้น
ที่ศาสนาเสื่อมก็ด้วยเหตุของสังฆเภทนั้นละครับ บิดเบือนพระสัทธรรม สร้างพิธีกรรมความเห็นผิด จนกลายเป็นความงมงาย โดยภิกขุอลัชชีมิจฉาชีพที่ใช้เป็นช่องทางทำมาหากินในทางมิชอบ คนที่เคยเลื่อมใสศรัทธาอยู่แล้วก็ยังต้องถอยห่าง คนที่ยังไม่เลื่อมใสศรัทธาก็ไม่เข้ามาใกล้ มองเป็นความล้าหลัง สังคมด้อยสติปัญญาไปซะงั้น ทั้งๆที่ทุกๆคนต่างก็มีทุกข์อยู่เป็นปกติธรรมดา ทั้งๆที่ทุกๆคน ต่างก็แสวงหาหนทางให้ถึงซึ่งความดับทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
พระองค์มาจากใหน
ทำไมถึงเสื่อมเร็ว???
พวกที่ไม่ยึดจะเสื่อมไวกว่ามากครับเพราะไร้หลัก ไปฟังอาจารย์นั่นก็ใช่อาจารย์นี่ก็ใช่ อะไรๆก็ใช่ สุดท้ายปัญหาเกิดตรงที่คำสอนของอาจารย์ต่างๆนั้นไม่ตรงกัน ความลังเลสงสัยก็เกิด เมื่อลังเลสงสัยก็ไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไร ศานานี้มีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเราต้องคำรบในคำของศาสดาเป็นที่สุด ไม่ใช่ยกเาคำครูบาอาจารย์ที่แต่ละคนเคาระนับถือขึ้นมาปิดทับคำพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านทรงสั่งห้ามไม่ให้ฟังคำแต่งใหม่ของสาวกเพราะรู้ว่าสาวกมีสติปัญญาไม่เท่ากัน ถ้าสาวกอธิบายขยายความไปตามกำลังสติปัญญาของตนไม่ยึดคำของพระพุทธเจ้า คำสอนมันก็จะแปลกและแตกต่างกันไปตามสาวกนั้นๆ คุณไปดูวัดเส้าหลิน พระญี่ปุ่นสิ นั่นก็เรียกตัวเองว่าพุทธนะ ทำไมถึงแตกต่างกันขนาดนั้น อะไรทำให้ต่าง พระญี่ปุ่นมีเมียได้ คำสอนที่ถูกบิดเบือนมีในทุกศาสนา นึกถึงคนคนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วรับรู้ในสภาพแบบนั้นเขาจะไม่รู้เลยว่านั่นมันผิดแผลกแตกต่าง เพราะเขาโตมาแบบนั้นก็เห็นเป็นเรื่องปกติ
สาธุครับพระอาจารย์ พระอาจารย์พูดถูกตรงเข้าใจง่ายเป็นผู้อธิบายได้ไพเราะน่าฟังนุ่มนวลและรู้จริง
ถ้อยคำแฝงด้วยการเสียดสี ฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่เป็น นี่แหละ สาธุชนไทย😊
คึกฤทธิ์นี้สอนศิษย์ไม่ดีเลยนะ
@@อมรอมร-ล2ฟ สอนให้บูชา ผู้ที่ควรบูชา พระที่แก่พรรษา แต่วาจาไม่สงบเสงี่ยม เสียดสี ริษยา พระอื่น ไม่ควรแก่การเคารพ
@@อมรอมร-ล2ฟ เอาแต่เนื้อคำสอนอย่ายึดติดตัวบุคคลถ้าท่านเอาพุทธวจนมาอ่านให้ฟังผมก็ฟังครับเพราะพุทธวจนเป็นข้อมูลคำสอนที่เก่าสุดแล้วหรือถ้าใครมีที่เก่ากว่านี้ผมก็ยินดีที่จะเปิดใจฟังไม่ได้สนว่าจะเป็นพระหรือฆารวาสนำมาถ่ายทอดบอกต่อเปิดใจฟังหมดครับ
@@อมรอมร-ล2ฟ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ฟังเฉพาะคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดว
หลวงพ่อสาธยายได้แจ่มชัดมาก...สาธุ..สาธุ..สาธุ
น้อมกราบสาธุพระธรรมคำสอนขององค์ตถาคตเจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการพระคุณเจ้า มี่เมตตามาอธิบายองค์ธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง กระจ่างแจ้งแล้ว ในธรรมที่ควรรู้เจ้าค่ะ กราบสาธุเจ้าค่ะ
ครูจะสอนอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ประเด็นสำคัญต้องถูกต้องครับ
ด้วยความเคารพครับ
1. พวกนักเรียนก็ไม่เคยเจอ พีทาโกรัส นิวตัน บีโธเฟน ทุกคนเรียนจากครู ครูจะสอนอย่างไรก็แล้วแต่
แต่ประเด็นสำคัญต้องถูกต้องครับ ไม่ใช่ผิดประเด็นสำคัญ
2. ส่วนเรื่องรุ่นเก่า อาจได้เปรียบบ้าง แต่ไม่สำคัญเท่ากับการสอนตามประเด็นสำคัญของพระพุทธเจ้าตรัสไว้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องตีความตามประไตรปิฎกครับ
อย่าคิดเยอะขอให้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเป็นสาวกมากล่าวสอนก็ควรตั่งใจฟังแต่สาวกนั้นอย่าเอาความคิดตัวเองมากล่าวสอนเพราะสาวไม่ใช่ผู้ตรัสรู้เป็นเพียงผู้ฟังและทำตามเท่านั้น
เท่าที่ฟังท่านเป็นกลางดีสาธุครับ
วัดนาป่าพงแน่นพอดี
เหมือนผึ้งแตกรัง พระอาทิตย์จะขึ้นแสงหิ่งห้อยกลัวอับแสง
ฟังได้ แต่ห้ามเคารพในบุคคล พระพุทธองค์ไม่ให้เคารพในบุคคลหรือพระภิกษุเพียงรูปเดียวที่กล่าว ให้เคารพในหมู่สงฆ์ ก็คืออริยบุคคล 4 ต้องอยู่ร่วมกัน 4 รูปขึ้นไป ก็แค่นั้นแหละฟังได้แต่ว่าไม่ให้มาถือมาเป็นที่เคารพบูชาอะไร ฟังๆไปแล้วจะไปเชื่อถือไม่ได้ต้องเอาไปตรวจทานสอบสวนในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอยู่ดี ฟังให้ดีว่าเขาพูดอะไรอย่าคัดค้านอย่ายอมรับ อย่าไปเคารพอย่าไปบูชา ให้เข้าไปถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ที่มี 4 และต้องเป็นอริยบุคคลด้วย ถ้าหาไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นใครใครเป็นอริยบุคคลก็ให้เคารพในธรรม แต่ในเบื้องต้นให้ดูหมู่สงฆ์จากผู้ประพฤติตามธรรม (วินัย) ถ้าสมบูรณ์ด้วยศีลอันเป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์ ก็ใช้ได้ ในวัดหรือสถานที่นั้นก็เฟ้นแล้วไปเลือกฟังเลือกบำรุงจากที่แห่งนั้น จะเข้าไปฟังธรรมในวัดบ้านที่ไม่สมบูรณ์มีเพลงมีมหรสพ เปิดเอิกเกริก แล้วฟังธรรมจากในวัดแห่งนั้น ก็อาจเป็นผู้ทุศีลกาคาบคำภีร์พูด นี้ก็จะไม่สมบูรณ์ ทั้งผู้ให้ ผู้รับ เพราะพระพุทธเจ้าทรงเคารพธรรม เราทุกคนเป็นแค่กระบอก เป็นแค่กระบอกเสียงพูด เป็นแค่ขันธ์ 5 ไม่ยกตัวยกตน ตัวตนว่าเขากราบเขาไหว้เขาใส่บาตรให้เรากินเราเก่ง เรามันจำได้ดีเรามันตรัสรู้เรามันบรรลุธรรมเรามันเป็นผู้บัญญัติเป็นผู้ค้นพบไม่ได้ เป็นแค่สาวก เป็นแค่พูดตาม ก็ต้องให้รู้ตัวรู้ตนแล้วก็ชี้แจงกับชาวบ้านที่ ฟังเรา เช่นนี้เลยก็เป็นอันใช้ได้ที่จะพูดที่จะกล่าวถึงจะขยายที่จะอธิบาย แต่ถ้าไม่กล่าวอะไรพวกนี้ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผู้ขโมยธรรมเป็นผู้กล่าวตู่ ชอบเอาความรู้ของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องแสวงหาประโยชน์กิเลสใส่ตน ตักตวงลาภยศสรรเสริญเงินทอง พระองค์จึงไม่ให้เคารพในบุคคล
ไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในบั้นปลาย...
เช่นวันนี้..ช่างไพเราะจริงๆ
กราบนมัสการพระอเจ้าค่ะสาธุในบทธรรมะอนุโมทนาในธรรมเจ้าค่ะ
สาธุๆๆ
ผมฟังพุทธวจนเหมือนยกเอาคำพระศาสดามาอ้างพูดยกเพื่อให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่นความคิดมันก็เลยแย้งครับ
หากจะถกเถียงเรื่องฟังคำตรงเท่านั้นหรือฟังคำขยายความ ผมว่าไม่มีวันจบหรอกครับ ปัญหาอยู่ที่ว่าคำขยายความบางครั้งมันก็อธิบายเกินไปมากหรือผิดเพี้ยน ยิ่งคำขยายต่อกันมาอีก ยิ่งเหมือนพูดต่อๆกัน ไม่ใช่ห้ามฟังคำขยายความ แต่ให้กลับไปที่คำตรงของบรมครูให้มากที่สุดเพื่อตัดสินเป็นเบื้องต้น สุดท้ายเมื่อเข้าใจความจริงอย่างถึงที่สุดแล้ว จะตัดสินได้ และเลิกถกเถียงเรื่องนี้
เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมคือ..ทำอย่างไรให้จิตบริสุทธิ์..แต่คนทั้งหลายลืมเป้าหมายตรงนี้ไป..เมื่อจิตบริสุทธิ์กิเลสตัณหาและความทุกข์ก็ดับไป..คนฉลาดเขาปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์สะอาดหมดจดจากกิเลสทั้งปวง..ไม่ใช่ฝึกจำธรรมแล้วนำมาเถียงกับชาวบ้าน
@@ตะวันพลายแสงยามแรงกินเหล้า ที่ท่านพูดก็ถูกครับ แต่เราเกิดมาในยุค 2500 กว่าปีที่บรมครูดับขันธ์ไปแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ที่สอนเราอยู่ไม่นำไปผิดทาง หรือขยายความจนผิดเพี้ยน พระบางรูปจึงขอยึดคำตรงไว้ก่อน ยิ่งเวลามีข้อถกเถียงกันตามประสาคนไม่รู้ด้วยกัน โดยเฉพาะกรณีคำขยายต่อขัดแย้งกับคำตรง เพราะถ้าเริ่มต้นผิด ปฏิบัติก็ผิด แล้วก็หลงบรรลุแบบผิดๆ
@@eakkapolutchariyaprasit5836 คุณครับ..มรรคแปดมีเดินทางนี้ทางเดียวเท่านั้นที่จะพ้นทุกข์ได้..นอกนั้นแค่องค์ประกอบทั้งหมด..คนฉลาดเขาไม่สนใจเรื่องอื่นหรอกครับ..ศีลสมาธิปัญญา..เดินตามนี้ก็พอแล้วนอกนั้นอย่าไปสนใจ..
@@eakkapolutchariyaprasit5836 ฝึกจิตด้วยมรรคแปดเท่านั้น..นอกนั้นไม่มีความหมายอะไรเลยเป็นแค่องค์ประกอบธรรมดาๆเท่านั้นเอง..
@@eakkapolutchariyaprasit5836 คำตรงเหรอครับ..เดินมรรคแปดไงครับ..แบบนี้ใครมันจะมาเถียงได้ครับ..ใครถามว่าปฏิบัติธรรมอย่างไรถึงจะถูกต้องที่สุด..ตอบไปเลยว่าปฏิบัติตามมรรคแปดเท่านั้น..นอกนั้นองค์ประกอบทั้งหมด..มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เถียงกันอยู่ทุกวันนี้..พวกนี้มันไม่รู้จักเป้าหมายในการปฏิบัติธรรม..ใครจะพูดธรรมะแบบไหนก็ตาม..ไม่สามารถพ้นจากมรรคแปดไปได้เลย
สาธุครับผม
เชื่อมั่นในพระอาจารย์คึกฤทธ์ ค่ะ
+1
อาจารย์คึกฤทธ์ หลงในวิชา
@@วงศ์วริศศรีสุนาครัว ขอให้ผู้รู้จงช่วยชี้แนะ แล้วอาจารย์ท่านไหนสอนได้ถูกต้อง ?
@@surachat-n9j หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
พระพุทธเจ้าสอนไว้ลงตัวแล้ว เป็นอกาลิโก ท่านพูด แถไปแถมานะ อย่าไปเอ่ยถึงความต่ำ หลวงตาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า รู้แล้วไม่ปฏิบัติ ไม่สั่งสอน มันไม่ใช่พระสงฆ์ของพระพุทธเจ้า
น้อมกราบเจ้าค่ะ...ชัดเจนเจ้าค่ะ
แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันไม่ใช่พุทธวจนคับ ไม่ใช่แล้วคับ
จริงครับพระอาจารย์
ผมเคยอ่านมีว่า ภิกษุทั้งหลาย! สุตตันตะเหล่าใดที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง ว่าเฉพาะเรื่อง"สุญญตา" ฯ **พระธรรมมีตั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ เรื่อง "สุญญตา"ก็อยู่ในนี้ มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่เข้าถึงคำว่า "สุญญตา" เขียนให้ใครอ่านก็ไม่เข้าใจ ยิ่งผู้ไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์นำไปกล่าวก็ยิ่งไปกันใหญ่ เฉพาะเรื่อง "สุญญตา" ผมเข้าใจว่า พระอริยสาวก 4 เหล่า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามีและพระอรหันต์ท่านคงไม่นำมากล่าว ...*แต่มีการนำประเด็นของสุญญตานี้ไปกล่าวแก่ผู้อื่นว่า ไม่ต้องฟังคำสาวกแม้กระทั้งพระอรหันตสาวกในทุกเรื่อง ให้ฟังแต่พระพุทธพจน์เท่านั้น ขอให้พิจารณาดูเองเถิด