เสรีพิศุทธ์ ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ ทักษิณ เพื่อไทย ไม่เห็นหัว ต้องเข้าคุกให้หมด
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 29 ต.ค. 2024
- เสรีพิศุทธ์ ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ ทักษิณ-เพื่อไทย ไม่เห็นหัว ต้องเข้าคุกให้หมด
การเมือง
29 ส.ค. 2567
13:41 น.
เสรีพิศุทธ์ น้อยใจ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาล ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ไม่เห็นหัว ขออะไรก็ช่วย ต้องเข้าคุกให้หมด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 2567 ที่พรรคเสรีรวมไทย ย่านบางขุนนนท์ กทม. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย กรณีถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่า ขณะนี้พรรคเสรีรวมไทยทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แม้ยังต้องการทำงานให้ประเทศ แต่เมื่อไม่มีโอกาสก็ขอไปทำงานด้านอื่นก็ได้
“ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ตั้งนักโทษมาเป็นรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันนักโทษมาตั้งรัฐมนตรีเอง จะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรค เมื่อวันที่ 27 ส.ค.และมีมติ 7 เสียง ต่อ 4 เสียง ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า พรรคได้แจ้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผ่านนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่า ขอถอนตัว และจะเป็นอิสระ ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้พรรคได้สร้างผลงานและปฏิบัติงานตามอุดมการณ์แนวนโยบายของพรรคอย่างเต็มที่ และรักษาประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติ
“การอยู่ร่วมรัฐบาลต่อ โดยมารยาทจะไม่สามารถวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลได้ จะอึดอัด ทำอะไรต้องยอมให้เขาเหยียบตลอดเวลา” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุผลที่ถอนตัวเพราะน้อยใจหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ผมโกหกใครไม่เป็น ผมน้อยใจ เห็นว่าวันที่ไปประชุมพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อคุณอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ พูดแดกดันว่าพรรคเสรีรวมไทยรับใช้เพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว เผื่อมีโอกาสร่วมงานกับรัฐบาลบ้าง แต่ที่มีปัญหา เช่น เรื่องตำรวจ ที่รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ บอกจะขอดูแลงานตำรวจเอง แบบนี้จะมีปัญหา ทั้งที่ตนเคยเป็น ผบ.ตร.มาก่อน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า การดูแลตำรวจไม่ใช่แค่การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจให้เป็นคนของตนเองเท่านั้น แต่ตำรวจต้องมีการปฏิรูปการทำงาน การบริหารจัดการ พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดทำงานให้ตำรวจเลย คิดแต่จะคุมการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ทำให้ประชาชนขาดศรัทธาตำรวจ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็น ผบ.ตร. มีความสนิทกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และครอบครัว มีนักการเมือง ทั้งนายทักษิณ คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ มาขอเรื่องการแต่งตั้งผู้กำกับการ ตนก็ให้ รวมถึงนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาขอตำแหน่งผู้การ ก็ให้หมด แต่ตนไม่เคยได้รับการตอบแทนจากคนเหล่านี้ ยกเว้นนายสุเทพที่ตอบแทนเรื่องการแต่งตั้งตำรวจ
“ช่วงที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ผมเคยไปเยี่ยม 5 ครั้ง ช่วงหลังการเลือกตั้งปี 62 ที่ผมได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยมีอะไร ขอผมหมด”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า เช่น นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็น สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ขอให้ช่วยเอานายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ออกไปให้หน่อย เพราะเป็นคู่แข่งในเขตเลือกตั้ง ซึ่งตนช่วยโดยไม่ได้กลั่นแกล้ง เพราะนายศุภชัยครอบครองที่ดินทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ 1,000 ไร่ จนถูกตัดสิทธิทางการเมือง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า อย่างกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ขอให้ช่วยจัดการ นายวิรัช รัตนเศรษฐ พรรคพลังประชารัฐ ที่กว้างขวางใน จ.นครราชสีมา ตนจัดการให้หมด ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ สส. อีกหลายคน แต่เป็นการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยทำผิดให้เป็นถูก ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ สส.เพิ่มขึ้น
“ผมช่วย สส.ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด และรัฐมนตรีอีกหลายคน เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ผมมีเสียงเดียว เอาไปเทียบกับพรรคหนึ่งเสียงได้อย่างไร เพราะรู้จักมา 51 ปี เมื่อเขาไม่รู้จักกันแบบนี้ จะให้ผมรู้จักเหรอ ถอนตัวดีกว่า” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่านายทักษิณรับปากจะให้ตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พูดกับตนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ว่าเป็นหนี้บุญคุณตน ขอให้ไปคิดดู คนที่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจจะมีรุ่นพี่ที่ดูแลนายทักษิณ ตั้งเป็นผู้การ ผู้บัญชาการทั้งหมด แต่ไม่ตั้งตนเลย พูดตลอดเวลาเป็นหนี้ตนเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่าต้องตอบแทนแต่ก็เฉย ไม่เป็นไร เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ น.ส.แพทองธาร จะเอา สส. หรือไม่เอา สส. ก็ได้ เป็นอำนาจนายกฯ แต่ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร อาจคิดว่าพรรคเสียงเดียว ไปเปรียบเทียบกับพรรคอื่นๆ ได้อย่างไร เพราะเข้ามาหวังประโยชน์ แต่ตนต้องการเข้ามาทำงาน หลังจากเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างตนกับนายทักษิณ นายทักษิณก็ไม่โทรมาหา และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ขอยืนยันว่าผมเคยไปเยี่ยมนายทักษิณ 2 ครั้ง ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ คือช่วงเดือน พ.ย.2566 และเดือน ก.พ. 67 และมีหลักฐานยืนยันเป็นข้อความสนทนาในแชทไลน์ การพูดคุยระหว่างตัวแทนของนายทักษิณกับผม เพื่อนัดวันเวลาที่จะให้ผมเข้าไปพบนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ครั้งแรกนัดพบกันเดือน พ.ย.66″
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ครั้งที่ 2 ตัวแทนของนายทักษิณ ได้ส่งแบบฟอร์มการขอให้ถอนคำฟ้องที่ผมฟ้องนายเศรษฐา ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มาให้ตนลงนาม พร้อมกับนัดอีกครั้งในวันที่ 4 ก.พ. 67 เวลา 10.00 น. ตนยืนยันว่ามีหลักฐานการไปพบนายทักษิณจริงๆ
Please to Watch more Video: / @chomphacelebrity3366
#ChomPhaCelebrity