ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
เรื่องนี้สำคัญและน่าเหลือเชื่อมาก..มันเปลี่ยนมุมมองของเราทั้งหมด รวมทั้งหลักการ เหตุผลเรื่องความจริงแท้ทั้งหมดในการมองโลกของเราเลย...ถ้าหากใครเข้าใจ สาระแก่นแท้ของเรื่องนี้จริงๆ..เขาอาจหลุดพ้น..ตรัสรู้ได้เลยนะ...และที่แปลกประหลาดมากๆ..ก็คือมันเป็นวิทยาศาสตร์..สามารถพิสูจน์ทดลองได้..
สารคดีประเภทนี้ไม่ควรใช้แค่นักแปลอย่างเดียวในการแปล เพราะนักแปลที่ไม่มีความรู้เฉพาะทางก็จะแปลไม่ถูกต้องตามจริงของวิชาการ หรืออาจจะแปลด้วยสำนวนที่ผู้ฟังไม่มีทางเข้าใจคล้ายกับการใช้คอมพิวเตอรืแปล เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เข้าใจศาสตร์นั้น ได้แต่ตามหลักการแปลของภาษา การแปลในเรื่องวิชาการจึงควรใช้นักวิชาการในด้านนั้นตรวจสอบการแปลอีกครั้ง จึงจะเป็นประโยชน์ที่แท้จริง
ใช่ครับ เสียงพากย์วีดีโอนี้ถ้าใครไม่มีพื้นฐานพอประมาณจะไม่เข้าใจเลย ศัพย์บางคำเป็นศัพย์เฉพาะดันเเปลเป็นภาษาไทยเสียได้
ใช้ศัพท์เทคนิคเยอะคนดูจะรู้เรื่องไหม?ใช่ว่าคนดูจะมีแต่สายวิทย์ !วิชาการเกินไปน่าเบื่อตายห่า
สูญสิ้นแตกดับก่อนค้นพบ ! จึงต้องรวมผู้คนทั่วไป ทั่วโลกเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เป็นสากล ความหมายในความวุ่นวายสับสน Complexity Theory ความดีแลความชั่วเลวร้าย ถูกทำให้เรียบแบน อบเค็ม เช่น สาหร่ายอบกรอบ อร่อยมาก ประโยชน์ที่พึงมีของสัตว์ชั้นทุติยภูมิ .......
@@X086 มันคือศิลปะแห่งวิทยาศาสตรงัย...เมื่อปากและเลขล้วนถึงความเป็นเอกเหมือนกัน
มันเป็นภาษาใช้ประกอบการอธิบายในฟิสิกส์ หรือภาษฟิสิกวิทยาศาสตร์ มันอยู่ที่เราเข้าใจและคนอื่นยอมรับได้เช่นกันครับ
สุดยอด❤
เป็นวิชาขั้นสูงสุดของมนุษย์ยุคนี้ ฟังแล้วเข้าใจยากมาก
พอเข้าใจได้ เเต่ก็ยากที่จะจินตนาการถึงภาพเก่งเนาะนักวิทยาศาส
ลองเข้ามาดู ในคอมเม้นท์อีกทีครับ ผมอธิบายไว้แล้ว..
@@user-re1hl8ve8w เพราะขาดจินตนาการอย่างไอสไตล์คุณถึงเรียนวิทย์อย่างยากๆๆๆๆ
พระเจ้าไม่ทอดลูกเต๋า หมายถึงสรรพสิ่งในจักรวาลถูกกําหนดใว้แล้ว ผมเคยอ่านในหนังสือครับ ไอไตน์ช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา กำลังรวมเเรงทั้งสี่เข้าใว้ ด้วยกัน แรงโน้มถ่วง แรงไฟฟ้า เเรงนิวเคลียร์ทั้งสอง ถ้างั้นป่านนี้เราคงใด้นั่งรถเหาะอากาศเหมือนในหนังสตาร์วอร์แล้ว ครับ เขาเสียขีวิตก่อน ทถษฎีรวมเเรงทั้งสี่ ก็ยังไม่มีใครคิดใด้จนถึงทุกวันนี้
ถ้าทุกอย่างถูกกำหนดแล้วเราจะเกิดมาทำซากอะไร มันไม่สมเหตุสมผลเลย
กรรมกำหนด
เพิ่มเข้าใจ มาประมาน5/100. กำลังเรียนการเป็นอยู่ การทำงานมันยุ.
มันเป็นจุดสำคัญ ของหลักปรัชญาว่าด้วยความจริงแท้ สามัญสำนึกทั่วไปเราเข้าใจว่า ความจริงนั้นมีอยู่ก่อนแล้วแน่นอน ตายตัว หยั่งวัด คาดการได้ และรอให้เราค้นพบ ซึ่งคนส่วนมากก็เชื่อแบบนี้ รวมทั้ง ไอสไตน์ด้วย ฺฺฺ แต่ ฟิสิคส์ควอนตั้ม บอกว่า ความจริงไม่ได้มีอยู่แน่นอน ตายตัว มันเป็นอะไรก็ได้ หรือ ไม่เป็นอะไรเลย มันจะปรากฎเป็นอะไรบางอย่างเมื่อเราสังเกตุเท่านั้น
ไอสไตน์ไม่ได้เชื่อ หรือไม่เชื่อพระเจ้า แต่เขาแค่อยากรู้ความคิดของพระเจ้าว่าสร้างโลกนี้ได้ไง
พระเจ้า ในที่นี้หมายถึง..ความจริง..ไอสไตน์บอกว่า..พระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า..หมายถึง ความจริงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วแน่นอนตายตัว สามารถคาดเดาได้...แต่ทฤษฎีควอนตัม บอกว่า ความจริงไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้..มันจะเป็นอะไรบางอย่างเมื่อเราสังเกตเท่านั้น...นี่จึงขัดแย้งกับหลักความจริงแบบเก่าที่ไอสไตน์เชื่อ..ไอสไตน์จึงไม่ชอบ ทฤษฎีควอนตัม...
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณ ศ.ดร. มักพลั้ง ที่ริเริ่ม ทฤษฎีควอนตัมขึ้นมา สุดยอด
ขอบคุณวีดีโอและความคิดเห็นนะคะ
สรรพสิ่ง ก็คือ จิต นั่นเอง..
ที่สุดแห่งทฤษฎีควอนตัม อาจหมายถึงทุกสิ่งบนโลกหรืออะไรในที่ไหนไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือสิ่งเดียวกันและไม่ใช่สิ่งเดียวกันในขณะเดียวกัน นั้นจึงเป็นสาเหตุของผู้ปรีชาญาณทั้งหมด ไม่สามารถที่จะทนเล่นละครกับตัวเองได้อีกต่อไป
ผมรักควอนตัมคอม มันคือความฝันของผม
คอมพิวเตอร์ในอนาคต
หนูมีอาการผิดปกติทางสมอง เป็นคนพิการทางกฎหมายและในความจริง แต่หนูก็จะไม่ยอมแพ้และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ…กล้าที่จะเป็นคนธรรมดา
1-2วินาที รอปรากฎการๆๆๆอีกๆๆมันก็พาเราไป "แล้วก็จะคิดนอกกรอบ"
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ..มันเป็นการเปลี่ยนหลักการเรื่อง..,," ความจริงแท้".. ในโลกที่เราเข้าใจ หรือ วิทยาศาสตร์แบบเก่า เชื่อว่า ความจริง..เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว..แน่นอนตายตัว..เช่น มีถุงมือคู่หนึ่ง เอาใส่กล่องข้างละกล่อง..เราเปิดดูกล่องแรก..เป็นถุงมือด้านซ้าย..เราก็จะคาดการณ์ได้ทันทีว่า...กล่องที่สอง ต้องเป็นถุงมือ ด้านขวา...นี่คือหลักความจริง ที่ผู้คนเข้าใจ..รวมทั้งไอสไตน์..และวิทยาศาสตร์แบบเก่าด้วย...แต่หลักความเป็นจริงในทฤษฎีควอนตัมไม่ได้เป็นเช่นนั้น..ในทฤษฎีควอนตัมบอกว่า..ในกล่องที่เรายังไม่ได้เปิดดูนั้น..มันจะเป็นอะไรก็ได้..จะมีหรือไม่มีถุงมือก็ได้..จะเป็นข้างซ้ายหรือขวาก็ได้..เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า..ตามเหตุผลที่เราเข้าใจแบบเก่าได้...ไอสไตน์จึงบอกว่า..พระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า..หมายถึงความจริงมีอยู่แล้วแน่นอนตายตัว..สามารถคาดการณ์ได้...เขายังบอกอีกว่า..ดวงจันทร์ก็ยังคงอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้สังเกตุเห็นมันก็ตาม..ซึ่งขัดกับหลักทฤษฎีควอนตัม..สรุปว่า..ทฤษฎีควอนตัม..คือระบบคิดเรื่องความ "จริงแท้" แบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจาก ระบบเหตุผลความจริง..แบบเก่าที่เราเข้าใจนั่นเอง..( มันยากที่จะเข้าใจ เพราะนี่มันเข้าสู่เรื่องของ " จิต" ไปแล้ว)...และที่แปลกประหลาดไปกว่านั้นคือ..มันเป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์..ที่พิสูจน์ทดลองได้..ในระดับอนุภาคจิ๋ว...ไม่ใช่เป็นแค่หลักปรัชญาทาง..จิต..
บ้าไปแล้วฝืนธรรมชาติไม่ได้หรอกเหมือนคนจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ห้ามตายอะ
มีหนังสือเล่มนึงอาจช่วยคุณเข้าใจใด้บ้าง มิติที่สี่ของไอน์ไต
ชื่อหนังสืออะไรครับ
ชื่อหนังสืออะไรครับขอคำแนะนำด้วยครับ
@@dr.jiradeachkalayaruan ชื่อหนังสือ มิติที่สี่ของไอน์ไต คับผมเคยซื้อที่ร้านดอกหญ้า เมื่อพศ2557 คับ ไม่รู้ตอนนี้จะมีหรือเปล่าครับ
@@sarawutkaeochin6109 ถ้าไม่มีลองสั่งซื้อที่สนพ.ก็น่าจะได้
เหมือนไอสไตล์รู้แหละ แต่ไม่อยากยอมรับเพราะเทคโนโลยีสมัยนั้นยังหาคำตอบไม่ได้
กดแล้ว
1 ดิสไล๊ คือคนเรียนฟิสิกส์ควอนตัม อาๆๆๆ
พระเจ้าก็คือธรรมชาตินี่แหล่ะ แล้วพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงค้นพบและเข้าใจมันนานมาแล้ว ท่านจึงไม่อยากอยู่ในกลไกของมันอีกต่อไป นั่นก็คือการเวียนว่ายตายเกิด ถ่ายเทจากรูปแบบนึงไปสู่รูปแบบนึง ท่านจึงหลุดพ้นไปจากกลไกธรรมชาติ เรียกว่านิพพาน
พุทธะแปลว่าผู้รู้.
Quantum computer ใกล้สำเรจเเล้วคับ ภายในปีหน้า 2021 จาก Google
ความจริง ไม่มีอยู่จริง นั่นเอง
ผมงง ใครมีลิ้งค์ ข้อมูลเพิ่มเติมมั้ยครับ
เข้ามาดู คอมเม้นท์ อีกทีครับ ผมอธิบายไว้ง่ายๆชัดๆแล้ว..
อนาคต.. .
เทคโนโลยีควอนตัมนี้เหมือนเวลาหลับฝันของมนุษย์เลยไม่มีความแน่นอนจะเป็นซ้ายหรือขวาจะเป็น0หรือ1ก็ได้ สมมุติว่าเราดูนาฬิกาในความฝันหลายๆครั้งสังเกตว่าทุกครั้งที่เราดูนาฬิกาตัวเลขบนนาฬิกาจะไม่ซ้ำกันเลยหรือเราฝันว่าอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้านคนอื่นหรือสถานที่ใดสักแห่งพอเวลาผ่านไปซักพักสถานที่นั้นจะเปลี่ยนเป็นบ้านของเราหรือสถานที่อื่นๆแทนโดยที่เราไม่รู้ตัวและสิ่งที่เป็นไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นเราฝันว่าเราบินได้ทั้งที่ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีควอนตัม ผมมีความสงสัยว่าสมองของเราใช้เทคโนโลยีตัวอยู่หรือปล่าวในการประมวณผลภาพหรือสิ่งต่างๆในความฝันของมุษย์หรืออาจจะเป็นจินตนาการของมนุษย์เองแล้วถ้าจินตนาการของมนุษย์มันคือเทคโนโลยีควอนตัมล่ะ???เราจะนำมันมาใช้อย่างไร
เพราะไอสไตล์มีจินตนาการงัยหล่ะ เค้าถึงเป็นอัฉริยะ...จินตนาการคือจิตที่ล่วงไปในเวลาของอนาคตมันคือควอนตัมกับเวลาในปจัจจุบัน ก็เท่านั่นเอง
ก็ลองเปลี่ยความคิดตั้งต้นสิครับว่าสิ่งที่เรียกว่าวัตถุไม่มีอยู่จริงการที่เรามีอยู่นี้สิบครับแปลกเราจะสามารถอะธิบายกลศาสตร์ควอนตัมว่าจริงแล้ววัตถุเป็นแค่แรกที่บอกว่าถ้าเราไม่มองมันมันจะไม่มีอยู่เพราะมันเป็นแค่แรกอธิบายได้ง่ายๆเพราะมันคือแรงแค่นั้นเอง
มันคือ จิต ครับ
ก่อนมีวัตถุภายนอกมันเกิดมี"ตัวเรา"ขึ้นมาก่อน อ่ะท่าน
ฟังไม่รู้เรื่องเลย
เข้ามาดูใน คอมเม้นท์ อีกทีครับ ผมอธิบายไว้ง่ายๆชัดๆแล้ว..
อื้อหึ
ไอสไตล์ต้องรู้ว่าอะไรเร็วกว่าแสง สตีเฟนฮอกิ้ง ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่เร็วกว่าแสง ไอสไตล์เคยกล่าวว่าศาสนาพุธคือศาสนาแห่งอนาคต มนุษย์ทุกคนมีของที่เร็วกว่าแสงกันทุกคน ของสิ่งนั้นก็คือ จิต ครับ เร็วกว่าแสงหลายเท่า ญานของจิตมีทั้งหมด16ญาน 80%จะผ่านญาน4ไปไม่ได้เพราะมันอยาก เราจะไปอตีดก็ได้ระลึกชาติก็ได้ไปอนาคตก็ได้แต่ถ้าไปอดีตจะแก้ไขอะไรไม่ได้รับรู้ได้อย่างเดียว ไอสไตล์เคยกล่าวไว้ว่าเวลาที่อยู่บนโลกคือเวลาแห่งภาพมายา เวลาที่แท้จริงคือเวลาที่อยู่ที่ จิต ครับ นี้คือความลับของจักวาล ขอแค่กัมฐาน ธัมสมาธิจิตนิ่งเราก็จะรู้ทุกอย่าง
ใช้จิตเร็วมาก
ไอสไตนเขาไม่เชื่อเรื่องนึ้หรอกนะ
ใช้ครับ.แต่ผมกลับเห็นว่าจริง.ขอบคุณมากครับ..
จิระศักดิ์ ทองอุ่น ใครจะเชื่อไม่ผิดหรอกนะแต่อย่าดึงไอสไตนเข้าไป นักวิทส่วนมากเขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แล้วอย่าว่าศาสนาพุทธดีที่สุด(ผมก้อพุทธ)แต่ฟังจากเหตุและผลศาสนาพุธนาเชื่อถือที่สุด
มีสัจธรรมที่กล่าวไว้ แล้วเป็นจริงในระบบความซ์ตั้ม คือ ทุกอย่างไม่แน่นอน...อยู่ที่ตัววัด..เท่านั้น
คุณกำลังเข้าใจไอสไตแบบผิดๆๆๆนะ เขาเชื่อพระเจ้า แต่เขาไม่พูกออกมา แต่การตรงข้ามเขาบอกว่าพระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า เพราะเขาเชื่อว่า คนเราไม่ได้ทำสิ่งเดียวเป็นเวลานาน ๆๆๆ คงเขาใจนะ
พระเจ้า....
มึงไปอ่านมายังไง
คงหมายถึงพระเจ้าใช้เหตุและผลไม่ใช่การทอดลูกเต๋าซึ่งซึ่งเป็นแค่การเสี่ยงอ่ะมั่ง.
ถูกของคุณ ไอน์สไตน์เป็นศาสนิกที่เคร่งครัด
@@tedted12345 พิมพ์สมภาร พรมทา ยูทูป ปรัชญาวิทยาศาสตร์
พระเจ้าก็คือคนนี่และ
เรื่องนี้สำคัญและน่าเหลือเชื่อมาก..มันเปลี่ยนมุมมองของเราทั้งหมด รวมทั้งหลักการ เหตุผลเรื่องความจริงแท้ทั้งหมดในการมองโลกของเราเลย...ถ้าหากใครเข้าใจ สาระแก่นแท้ของเรื่องนี้จริงๆ..เขาอาจหลุดพ้น..ตรัสรู้ได้เลยนะ...และที่แปลกประหลาดมากๆ..ก็คือมันเป็นวิทยาศาสตร์..สามารถพิสูจน์ทดลองได้..
สารคดีประเภทนี้ไม่ควรใช้แค่นักแปลอย่างเดียวในการแปล เพราะนักแปลที่ไม่มีความรู้เฉพาะทางก็จะแปลไม่ถูกต้องตามจริงของวิชาการ หรืออาจจะแปลด้วยสำนวนที่ผู้ฟังไม่มีทางเข้าใจคล้ายกับการใช้คอมพิวเตอรืแปล เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เข้าใจศาสตร์นั้น ได้แต่ตามหลักการแปลของภาษา การแปลในเรื่องวิชาการจึงควรใช้นักวิชาการในด้านนั้นตรวจสอบการแปลอีกครั้ง จึงจะเป็นประโยชน์ที่แท้จริง
ใช่ครับ เสียงพากย์วีดีโอนี้ถ้าใครไม่มีพื้นฐานพอประมาณจะไม่เข้าใจเลย ศัพย์บางคำเป็นศัพย์เฉพาะดันเเปลเป็นภาษาไทยเสียได้
ใช้ศัพท์เทคนิคเยอะคนดูจะรู้เรื่องไหม?
ใช่ว่าคนดูจะมีแต่สายวิทย์ !
วิชาการเกินไปน่าเบื่อตายห่า
สูญสิ้นแตกดับก่อนค้นพบ ! จึงต้องรวมผู้คนทั่วไป ทั่วโลกเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เป็นสากล ความหมายในความวุ่นวายสับสน Complexity Theory ความดีแลความชั่วเลวร้าย ถูกทำให้เรียบแบน อบเค็ม เช่น สาหร่ายอบกรอบ อร่อยมาก ประโยชน์ที่พึงมีของสัตว์ชั้นทุติยภูมิ .......
@@X086 มันคือศิลปะแห่งวิทยาศาสตรงัย...เมื่อปากและเลขล้วนถึงความเป็นเอกเหมือนกัน
มันเป็นภาษาใช้ประกอบการอธิบายในฟิสิกส์ หรือภาษฟิสิกวิทยาศาสตร์ มันอยู่ที่เราเข้าใจและคนอื่นยอมรับได้เช่นกันครับ
สุดยอด❤
เป็นวิชาขั้นสูงสุดของมนุษย์ยุคนี้ ฟังแล้วเข้าใจยากมาก
พอเข้าใจได้ เเต่ก็ยากที่จะจินตนาการถึงภาพ
เก่งเนาะนักวิทยาศาส
ลองเข้ามาดู ในคอมเม้นท์อีกทีครับ ผมอธิบายไว้แล้ว..
@@user-re1hl8ve8w เพราะขาดจินตนาการอย่างไอสไตล์คุณถึงเรียนวิทย์อย่างยากๆๆๆๆ
พระเจ้าไม่ทอดลูกเต๋า หมายถึงสรรพสิ่งในจักรวาลถูกกําหนดใว้แล้ว ผมเคยอ่านในหนังสือครับ ไอไตน์ช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา กำลังรวมเเรงทั้งสี่เข้าใว้ ด้วยกัน แรงโน้มถ่วง แรงไฟฟ้า เเรงนิวเคลียร์ทั้งสอง ถ้างั้นป่านนี้เราคงใด้นั่งรถเหาะอากาศเหมือนในหนังสตาร์วอร์แล้ว ครับ เขาเสียขีวิตก่อน ทถษฎีรวมเเรงทั้งสี่ ก็ยังไม่มีใครคิดใด้จนถึงทุกวันนี้
ถ้าทุกอย่างถูกกำหนดแล้วเราจะเกิดมาทำซากอะไร มันไม่สมเหตุสมผลเลย
กรรมกำหนด
เพิ่มเข้าใจ มาประมาน5/100. กำลังเรียนการเป็นอยู่ การทำงานมันยุ.
มันเป็นจุดสำคัญ ของหลักปรัชญาว่าด้วยความจริงแท้ สามัญสำนึกทั่วไปเราเข้าใจว่า ความจริงนั้นมีอยู่ก่อนแล้วแน่นอน ตายตัว หยั่งวัด คาดการได้ และรอให้เราค้นพบ ซึ่งคนส่วนมากก็เชื่อแบบนี้ รวมทั้ง ไอสไตน์ด้วย ฺฺฺ แต่ ฟิสิคส์ควอนตั้ม บอกว่า ความจริงไม่ได้มีอยู่แน่นอน ตายตัว มันเป็นอะไรก็ได้ หรือ ไม่เป็นอะไรเลย มันจะปรากฎเป็นอะไรบางอย่างเมื่อเราสังเกตุเท่านั้น
ไอสไตน์ไม่ได้เชื่อ หรือไม่เชื่อพระเจ้า
แต่เขาแค่อยากรู้ความคิดของพระเจ้าว่าสร้างโลกนี้ได้ไง
พระเจ้า ในที่นี้หมายถึง..ความจริง..ไอสไตน์บอกว่า..พระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า..หมายถึง ความจริงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วแน่นอนตายตัว สามารถคาดเดาได้...แต่ทฤษฎีควอนตัม บอกว่า ความจริงไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้..มันจะเป็นอะไรบางอย่างเมื่อเราสังเกตเท่านั้น...นี่จึงขัดแย้งกับหลักความจริงแบบเก่าที่ไอสไตน์เชื่อ..ไอสไตน์จึงไม่ชอบ ทฤษฎีควอนตัม...
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณ ศ.ดร. มักพลั้ง ที่ริเริ่ม ทฤษฎีควอนตัมขึ้นมา สุดยอด
ขอบคุณวีดีโอและความคิดเห็นนะคะ
สรรพสิ่ง ก็คือ จิต นั่นเอง..
ที่สุดแห่งทฤษฎีควอนตัม อาจหมายถึงทุกสิ่งบนโลกหรืออะไรในที่ไหนไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือสิ่งเดียวกันและไม่ใช่สิ่งเดียวกันในขณะเดียวกัน นั้นจึงเป็นสาเหตุของผู้ปรีชาญาณทั้งหมด ไม่สามารถที่จะทนเล่นละครกับตัวเองได้อีกต่อไป
ผมรักควอนตัมคอม มันคือความฝันของผม
คอมพิวเตอร์ในอนาคต
หนูมีอาการผิดปกติทางสมอง เป็นคนพิการทางกฎหมายและในความจริง แต่หนูก็จะไม่ยอมแพ้และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ…กล้าที่จะเป็นคนธรรมดา
1-2วินาที รอปรากฎการๆๆๆอีกๆๆมันก็พาเราไป "แล้วก็จะคิดนอกกรอบ"
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ..มันเป็นการเปลี่ยนหลักการเรื่อง..,," ความจริงแท้".. ในโลกที่เราเข้าใจ หรือ วิทยาศาสตร์แบบเก่า เชื่อว่า ความจริง..เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว..แน่นอนตายตัว..เช่น มีถุงมือคู่หนึ่ง เอาใส่กล่องข้างละกล่อง..เราเปิดดูกล่องแรก..เป็นถุงมือด้านซ้าย..เราก็จะคาดการณ์ได้ทันทีว่า...กล่องที่สอง ต้องเป็นถุงมือ ด้านขวา...นี่คือหลักความจริง ที่ผู้คนเข้าใจ..รวมทั้งไอสไตน์..และวิทยาศาสตร์แบบเก่าด้วย...แต่หลักความเป็นจริงในทฤษฎีควอนตัมไม่ได้เป็นเช่นนั้น..ในทฤษฎีควอนตัมบอกว่า..ในกล่องที่เรายังไม่ได้เปิดดูนั้น..มันจะเป็นอะไรก็ได้..จะมีหรือไม่มีถุงมือก็ได้..จะเป็นข้างซ้ายหรือขวาก็ได้..เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า..ตามเหตุผลที่เราเข้าใจแบบเก่าได้...ไอสไตน์จึงบอกว่า..พระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า..หมายถึงความจริงมีอยู่แล้วแน่นอนตายตัว..สามารถคาดการณ์ได้...เขายังบอกอีกว่า..ดวงจันทร์ก็ยังคงอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้สังเกตุเห็นมันก็ตาม..ซึ่งขัดกับหลักทฤษฎีควอนตัม..สรุปว่า..ทฤษฎีควอนตัม..คือระบบคิดเรื่องความ "จริงแท้" แบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจาก ระบบเหตุผลความจริง..แบบเก่าที่เราเข้าใจนั่นเอง..( มันยากที่จะเข้าใจ เพราะนี่มันเข้าสู่เรื่องของ " จิต" ไปแล้ว)...และที่แปลกประหลาดไปกว่านั้นคือ..มันเป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์..ที่พิสูจน์ทดลองได้..ในระดับอนุภาคจิ๋ว...ไม่ใช่เป็นแค่หลักปรัชญาทาง..จิต..
บ้าไปแล้วฝืนธรรมชาติไม่ได้หรอกเหมือนคนจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ห้ามตายอะ
มีหนังสือเล่มนึงอาจช่วยคุณเข้าใจใด้บ้าง มิติที่สี่ของไอน์ไต
ชื่อหนังสืออะไรครับ
ชื่อหนังสืออะไรครับขอคำแนะนำด้วยครับ
@@dr.jiradeachkalayaruan ชื่อหนังสือ มิติที่สี่ของไอน์ไต คับผมเคยซื้อที่ร้านดอกหญ้า เมื่อพศ2557 คับ ไม่รู้ตอนนี้จะมีหรือเปล่าครับ
@@sarawutkaeochin6109 ถ้าไม่มีลองสั่งซื้อที่สนพ.ก็น่าจะได้
เหมือนไอสไตล์รู้แหละ แต่ไม่อยากยอมรับเพราะเทคโนโลยีสมัยนั้นยังหาคำตอบไม่ได้
กดแล้ว
1 ดิสไล๊ คือคนเรียนฟิสิกส์ควอนตัม อาๆๆๆ
พระเจ้าก็คือธรรมชาตินี่แหล่ะ แล้วพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงค้นพบและเข้าใจมันนานมาแล้ว ท่านจึงไม่อยากอยู่ในกลไกของมันอีกต่อไป นั่นก็คือการเวียนว่ายตายเกิด ถ่ายเทจากรูปแบบนึงไปสู่รูปแบบนึง ท่านจึงหลุดพ้นไปจากกลไกธรรมชาติ เรียกว่านิพพาน
พุทธะแปลว่าผู้รู้.
Quantum computer ใกล้สำเรจเเล้วคับ ภายในปีหน้า 2021 จาก Google
ความจริง ไม่มีอยู่จริง นั่นเอง
ผมงง ใครมีลิ้งค์ ข้อมูลเพิ่มเติมมั้ยครับ
เข้ามาดู คอมเม้นท์ อีกทีครับ ผมอธิบายไว้ง่ายๆชัดๆแล้ว..
อนาคต.. .
เทคโนโลยีควอนตัมนี้เหมือนเวลาหลับฝันของมนุษย์เลยไม่มีความแน่นอนจะเป็นซ้ายหรือขวาจะเป็น0หรือ1ก็ได้ สมมุติว่าเราดูนาฬิกาในความฝันหลายๆครั้งสังเกตว่าทุกครั้งที่เราดูนาฬิกาตัวเลขบนนาฬิกาจะไม่ซ้ำกันเลยหรือเราฝันว่าอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้านคนอื่นหรือสถานที่ใดสักแห่งพอเวลาผ่านไปซักพักสถานที่นั้นจะเปลี่ยนเป็นบ้านของเราหรือสถานที่อื่นๆแทนโดยที่เราไม่รู้ตัว
และสิ่งที่เป็นไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นเราฝันว่าเราบินได้ทั้งที่ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีควอนตัม ผมมีความสงสัยว่าสมองของเราใช้เทคโนโลยีตัวอยู่หรือปล่าวในการประมวณผลภาพหรือสิ่งต่างๆในความฝันของมุษย์หรืออาจจะเป็นจินตนาการของมนุษย์เองแล้วถ้าจินตนาการของมนุษย์มันคือเทคโนโลยีควอนตัมล่ะ???เราจะนำมันมาใช้อย่างไร
เพราะไอสไตล์มีจินตนาการงัยหล่ะ เค้าถึงเป็นอัฉริยะ...จินตนาการคือจิตที่ล่วงไปในเวลาของอนาคตมันคือควอนตัมกับเวลาในปจัจจุบัน ก็เท่านั่นเอง
ก็ลองเปลี่ยความคิดตั้งต้นสิครับว่าสิ่งที่เรียกว่าวัตถุไม่มีอยู่จริงการที่เรามีอยู่นี้สิบครับแปลกเราจะสามารถอะธิบายกลศาสตร์ควอนตัมว่าจริงแล้ววัตถุเป็นแค่แรกที่บอกว่าถ้าเราไม่มองมันมันจะไม่มีอยู่เพราะมันเป็นแค่แรกอธิบายได้ง่ายๆเพราะมันคือแรงแค่นั้นเอง
มันคือ จิต ครับ
ก่อนมีวัตถุภายนอกมันเกิดมี"ตัวเรา"ขึ้นมาก่อน อ่ะท่าน
ฟังไม่รู้เรื่องเลย
เข้ามาดูใน คอมเม้นท์ อีกทีครับ ผมอธิบายไว้ง่ายๆชัดๆแล้ว..
อื้อหึ
ไอสไตล์ต้องรู้ว่าอะไรเร็วกว่าแสง สตีเฟนฮอกิ้ง ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่เร็วกว่าแสง ไอสไตล์เคยกล่าวว่าศาสนาพุธคือศาสนาแห่งอนาคต มนุษย์ทุกคนมีของที่เร็วกว่าแสงกันทุกคน ของสิ่งนั้นก็คือ จิต ครับ เร็วกว่าแสงหลายเท่า ญานของจิตมีทั้งหมด16ญาน 80%จะผ่านญาน4ไปไม่ได้เพราะมันอยาก เราจะไปอตีดก็ได้ระลึกชาติก็ได้ไปอนาคตก็ได้แต่ถ้าไปอดีตจะแก้ไขอะไรไม่ได้รับรู้ได้อย่างเดียว ไอสไตล์เคยกล่าวไว้ว่าเวลาที่อยู่บนโลกคือเวลาแห่งภาพมายา เวลาที่แท้จริงคือเวลาที่อยู่ที่ จิต ครับ นี้คือความลับของจักวาล ขอแค่กัมฐาน ธัมสมาธิจิตนิ่งเราก็จะรู้ทุกอย่าง
ใช้จิตเร็วมาก
ไอสไตนเขาไม่เชื่อเรื่องนึ้หรอกนะ
ใช้ครับ.แต่ผมกลับเห็นว่าจริง.ขอบคุณมากครับ..
จิระศักดิ์ ทองอุ่น ใครจะเชื่อไม่ผิดหรอกนะแต่อย่าดึงไอสไตนเข้าไป นักวิทส่วนมากเขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แล้วอย่าว่าศาสนาพุทธดีที่สุด(ผมก้อพุทธ)แต่ฟังจากเหตุและผลศาสนาพุธนาเชื่อถือที่สุด
มีสัจธรรมที่กล่าวไว้ แล้วเป็นจริงในระบบความซ์ตั้ม คือ ทุกอย่างไม่แน่นอน...อยู่ที่ตัววัด..เท่านั้น
คุณกำลังเข้าใจไอสไตแบบผิดๆๆๆนะ เขาเชื่อพระเจ้า แต่เขาไม่พูกออกมา แต่การตรงข้ามเขาบอกว่าพระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋า เพราะเขาเชื่อว่า คนเราไม่ได้ทำสิ่งเดียวเป็นเวลานาน ๆๆๆ
คงเขาใจนะ
พระเจ้า....
มึงไปอ่านมายังไง
คงหมายถึงพระเจ้าใช้เหตุและผลไม่ใช่การทอดลูกเต๋าซึ่งซึ่งเป็นแค่การเสี่ยงอ่ะมั่ง.
ถูกของคุณ ไอน์สไตน์เป็นศาสนิกที่เคร่งครัด
@@tedted12345 พิมพ์สมภาร พรมทา ยูทูป ปรัชญาวิทยาศาสตร์
พระเจ้าก็คือคนนี่และ
อื้อหึ