#วช

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 10 ส.ค. 2023
  • วช.จัดเสวนา "การขับเคลื่อนเครือข่ายนักวิจัยโดยใช้กลไกศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ(Hub of Talents)และศูนย์กลางการเรียนรู้ (Hub of Knowledge)"
    วันที่ 11 สิงหาคม 2566 วันสุดท้ายของ #มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2566 ( #ThailandResearchExpo2023 ) #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) #กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดเสวนา"การขับเคลื่อนเครือข่ายนักวิจัยโดยใช้กลไกศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ(Hub of Talents)และศูนย์กลางการเรียนรู้ (Hub of Knowledge)" โดย ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รศ.ดร.เสริมเกียรติ จอมจันทร์ยอง ผู้อำนวยการแผนงานโครงการประเทศไทยไร้หมอกควัน ผศ.ดร.พรศักดิ์ ศรีสังสิทธิสันติ ผู้อำนวยการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญระบบราง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้อำนวยการศูนย์กลางความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินรายการโดย รศ. ดร.คมกฤต เล็กสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจการพัฒนา ววน. ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ ณ ห้อง Lotus 1-2 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
    ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ กล่าวว่า เป็นความพยายามของกองทุนในการแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่ต้องอาศัยความรู้จากหลากหลายสาขาการวิจัย และจริง ๆ แล้วความรู้หลากหลายสาขาก็เกิดขึ้นจากนักวิชาการอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในแต่ละสถาบัน จึงพยายามหากระบวนการวิธีที่ทำให้มาทำงานร่วมกัน ในอดีตที่ผ่านมาเคยพยายามทำในเรื่องให้เป็นศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่ก็ติดอยู่ในเรื่องของสถาบัน การยึดติดหน่วยงาน ด้วยเหตุนี้ในระยะเวลาที่ผ่านมาทางคณะกรรมการฯ ให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ทำหน้าที่ในการประสานจัดการให้เกิดการสร้างกลุ่ม ให้มีนักวิจัยที่หลากหลายในแต่ละเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน ตัวอย่างเช่น เรื่องระบบรางก็ต้องมีวิศวกรระบบ มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับวัสดุ ระบบควบคุม ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้มาทำงานด้วยกันมีความหลากหลาย ขณะเดียวกันให้มีการศึกษาวิจัยต่อเนื่อง ในระยะเวลาที่หลายเรื่องนั้นต้องมีการรวบรวมความรู้ที่กำหนดกระบวนการให้เกิดการสร้างคนเพิ่มมากขึ้นด้วย การรวมกลุ่มคนให้มีการเรียนรู้แล้วก็ถ่ายทอดความรู้ให้แก่กันและกัน ให้เก่งมากขึ้น ตัวอย่าง ศูนย์กลางความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค มีการรวบรวมความรู้ มีการดำเนินการตรวจสอบความโปร่งใส ตรวจความผิดปกติ การทำงานร่วมมือกันเป็นสิ่งที่สำคัญ
    รศ.ดร.เสริมเกียรติ จอมจันทร์ยอง ผู้อำนวยการแผนงานโครงการประเทศไทยไร้หมอกควัน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ 1. เพื่อการพัฒนาระบบพยากรณ์คุณภาพอากาศและแอพพลิเคชั่นเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย 2. เพื่อดำเนินการทบทวนและถอดบทเรียนการบริหารจัดการหมอกควันในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด 3.
    ในตอนท้าย ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร กล่าว "รูปแบบนี้เป็นรูปแบบใหม่ซึ่งเป็นการที่ทุกคนต้องทำงานด้วยกัน ร่วมรับผิดชอบร่วมกันแล้วก็ร่วมรับผลประโยชน์ที่ดีร่วมกัน อยากจะฝากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คำว่าบูรณาการหรือการทำงานร่วมกัน และไม่ใช่เฉพาะภาควิชาการ เวลานำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงผู้ปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น ภาคชุมชนประชาสังคม ภาคธุรกิจการค้า ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริษัทเอกชน ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันนี้กองทุน ววน. ก็เปิดโอกาสให้มีการทำงานร่วมกันแบบนี้มากขึ้น โดยเอาปัญหาจากผู้ที่จะใช้ผลผลิตผู้ที่ประสบปัญหานั้นมาเป็นหลัก เป็นตัวตั้ง "
    ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการวิจัยและนวัตกรรม ขับเคลื่อนงานวิจัย สู่เศรษฐกิจยุคใหม่สร้างไทยยั่งยืน

ความคิดเห็น •