ธาตุกายสิทธิ์ “คตไผ่”

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ย. 2024
  • II ธาตุกายสิทธิ์ "คตไม้ไผ่" II
    กายสิทธิ์คืออะไร? กายสิทธิ์นั้นมีความหมายในพจนานุกรม หมายถึง สำเร็จในตัวเอง และหมายถึงสิ่งที่มีฤทธิ์เดชต่างๆ กายสิทธิ์ลงที่ไหน ที่นั่นก็แปรสภาพจากของที่ไม่ถาวรกลับกลายเป็นของที่ถาวร จากของที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์
    ธาตุกายสิทธิ์ คือ สสาร+พลังงาน มีความเป็นมาเป็นไปที่กำเนิดลี้ลับซับซ้อนมหัศจรรย์ แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณ อำนาจที่มี อานุภาพศักดิ์สิทธิ์เหนือเหตุผล ที่ยากจะตอบได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ ในบ้านเมืองเรานั้นมีของกายสิทธิ์เกิดขึ้นมากมายหลากหลายชนิด ทั้งที่เปิดขึ้นมาให้มนุษย์ได้พึ่งพาอิทธิบารมีบ้างแล้ว และที่ยังหวงห้ามไม่มีใครได้พบเห็นยังมีอีกจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็ต้องอยู่ที่บุญวาสนาของแต่ละคนไป ธาตุกายสิทธิ์ นั้นเป็นกายสิทธิ์อยู่ในตัวเอง และมีจิตวิญญาณถือครองรักษา มีทั้งเกิดจากแร่ธาตุหินรัตนชาติต่างๆ หรือชนิดที่เกิดจากความมหัศจรรย์ลึกลับน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก เป็นบุญตา บุญใจ สำหรับพวกเราที่ได้มีวาสนาพบเห็นและได้ครอบครองทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีเจ้าของ ผู้ที่เคยครอบครองหรือมีความผูกพันต่อกันมาแล้วแต่ปางก่อนท่านั้นจึงจะมีวาสนา เล่าว่าผู้ใดคือเจ้าของ? คำตอบก็คือเหมือนรักแรกพบ หรือเรียกอีกอย่างว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน
    “คด”เป็นประเภทกายสิทธิ์ในตัวเองมีเทพสถิตย์รักษา เป็นของอาถรรพ์ที่มีอิทธิฤทธิ์รองจากเหล็กไหล แต่กลับมีอิทธิคุณบางอย่างดีกว่า เหล็กไหล ชนิดที่หลายคนคาดไม่ถึงความวิเศษเหล่านี้เองที่ผู้รู้ได้ปกปิดเอาไว้เป็นความลับ ทำให้ผู้ที่นิยมในธาตุกายสิทธิ์เข้าใจผิดคิดกันไปเองว่า อานุภาพของคดด้อยกว่าเหล็กไหล เป็นความจริงอยู่อย่างหนึ่งที่ว่า เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์ชั้นสูงที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุของเหล่าฤษีผู้ทรงอภิญญาซึ่งเมื่อได้ละสังขารไปแล้ว จิตวิญญาณไม่ยอมไปสู่ภพภูมิที่ควรจะไปยังห่วงที่จะเข้ายึดครองธาตุเหล็กไหลแทนสังขารเดิมของตน ความวิเศษของเหล็กไหลส่วนหนึ่งจึงเกิดขึ้นจากจิตตานุภาพขององค์ฤษีเป็นผู้บันดาล หาได้เกิดจากตัวเหล็กไหลเองทั้งหมดไม่ และค่อนข้างจะเลือกปฏิบัติเสียด้วยซ้ำไป เพราะจิตของฤษีเป็นผู้ที่ชอบบำเพ็ญภาวนารักษาศีลจึงเลือกจะช่วยเหลือผู้ครอบครองที่เป็นคนดีมีศีลธรรมมากกว่าที่จะปกป้องคุ้มครองผู้ที่ด้อยในศีลธรรม จึงทำให้พลังของเหล็กไหลที่มีผู้ครอบครองได้ผลปริมาณที่แตกต่างกัน
    เป็นเรื่องน่าแปลกพิสดารที่อยู่ๆผลไม้ หรือไข่ของสัตว์รวมถึงกระทั่งอวัยวะของสัตว์บางชนิดจะกลายเป็นหินเพียงระยะเวลาแว๊บเดียว ซึ่งคนโบราณเรียกสิ่งนี้ว่า “คด” หรือ “แสง”
    กายสิทธิ์ประเภทคดบางชนิดสามารถเปล่งแสงยามค่ำคืนได้จึงเรียกว่า”แสง”บางคนอาจจะเข้าใจว่าคดและแสงนั้นแตกต่างกันตามที่ผู้รู้และครูบาอาจารย์ที่เล่นกายสิทธิ์ประเภทคดโดยตรงนั้นบอกว่าคดและแสงนั้นคือ กายสิทธิ์ประเภทเดียวกันแต่ที่เปล่งแสงในยามค่ำคืนนั้นเพื่อต้องการบอกให้คนได้รู้ว่าที่ตรงนั้นมีของกายสิทธิ์สถิตย์อยู่เพื่อรอคอยคนที่มีบุญบารมีได้มาครอบครอง
    กายสิทธิ์ประเภท “คด” นั้นมีคุณสมบัติหรือฤทธิ์ที่เด่นไม่เหมือนกัน บางพวกช่วยในการดึงดูดโภคทรัพย์สมบัติ บางพวกช่วยให้เจ้าของมีเสน่ห์ให้คนรัก คนนิยมชมชอบ และบางพวกป้องกันภัยอันตรายต่างๆ หรือที่แบบบู๊ๆ ก็คงกระพัน มหาอุด ฟันแทงไม่เข้ากันเลยทีเดียว
    บางพวกถึงกับเชื่อว่า กายสิทธิ์ประเภท “คด” นั้นเป็นการจุติลงมาเกิดภพมนุษย์ของทวยเทพในลักษณะหนึ่งวัตถุประเภทนี้จึงมีสรรพคุณต่างๆ ทั้งทางด้านเป็นยารักษาโรคและมีอำนาจในด้านต่างๆ ในสมัยโบราณเหล่านักรบและผู้ที่ต้องเสี่ยงภัยต่างเสาะแสวงหาคดชนิดต่างๆ มาเพื่อป้องกันตัวตามความเชื่อของแต่ละคน
    กายสิทธิ์ประเภท “คด” นั้นมีกำเนิดลี้ลับมหัศจรรย์ที่ผู้รู้ในอดีตท่านได้ปกปิดเป็นความลับได้บันทึกเอาไว้ว่า คดนั้นมีอยู่ ๔ ชนิดด้วยกันคือ
    ๑.คดที่เกิดจากพืช เช่น ผล,ดอกหรือฝักกลายเป็นหินลำต้นหรือเครือกลายเป็นหิน บางส่วน เป็นก้อนหินที่เกิดในใจกลางของลำต้นก็มี เป็นต้น
    - คดที่เกิดจากพืช เป็นของกายสิทธิ์กำเนิดจากบัญชาของสวรรค์บันดาลให้เกิด โดยผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เนรมิตขึ้นมาเพื่อมอบให้กับผู้ที่มีวาสนาจะได้ครอบครองเป็นของคู่บุญเฉพาะคน เช่น คดขนุน คดสัก คดไทร คดไม้จันทร์หอม คดไม้กาหลงรัง คดไม้ไผ่ คดฝักคูณ คดฝักมะรุม คดมะพร้าว เป็นต้น
    ๒. คดที่เกิดจากสัตว์ เช่น ไข่กลายเป็นหิน อวัยวะของสัตว์กลายเป็นหิน เช่น ไข่กระโปกกลายเป็นหิน กระจู๋กลายเป็นหิน เป็นต้น
    - คดที่เกิดจากสัตว์ มีกำเนิดสืบเนื่องจากบุพกรรมของสัตว์ชนิดนั้นๆ ซึ่งแต่เดิมก็คือเทพเทวา นางฟ้า ที่ได้กระทำผิดกฎสวรรค์ บางประการแล้วได้ถูกลงทัณฑ์เกิดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ตามแต่ผลกรรมของตน จึงบันดาลให้ไปเกิดเมื่อถึงคราวจะหมดกรรม ก็จะ อธิษฐานร่างให้เป็นของกายสิทธิ์ อันเป็นการสร้างทานบารมีก่อนขึ้นจะกลับขึ้นไปสวรรค์ดังเดิม เช่น คดไข่ไก่ คดไข่เป็ด คดไข่ห่าน คดไข่เต่า เป็นต้นส่วนคดที่เป็นเขา เขี้ยว หรือลูกตานั้น จะเกิดมาพร้อมกับชีวิตของสัตว์เหล่านั้นเป็นของคู่บุญบารมีของสัตว์ตัวนั้น เพื่อจะได้ทำการปกป้องคุ้มครองชีวิตและร่างกายให้ปลอดภัยจนกว่าสัตว์ตัวนั้นจะหมดกรรมลง เช่น เขากวางคุด เขากระจงคุด เขี้ยวหมูตัน เพชรตาแมว เป็นต้น
    ๓.คดที่เกิดจากมนุษย์ (คน) เช่น อวัยวะบางส่วนกลายเป็นหิน เช่น ตับกลายเป็นหิน เป็นต้น
    - คดที่เกิดจากคน จะเกิดได้ ๒ กรณีดังนี้
    ๑. เกิดมาพร้อมกับคนๆนั้นเป็นของคู่บุญบารมี
    ๒. เกิดกับคนที่เรียนวิชาไสยศาสตร์ชั้นสูงและมีพลังจิตที่แกร่งกล้า ภายในร่างกายก็จะเกิดคดขึ้น
    “คด” ที่เกิดขึ้นกับทั้งสองข้อนี้คือ ตับเหล็ก เคราทองแดง กระโปกทองแดง เกล้านางนี หรือเมาลีพระโพธิ์สัตว์ เนื้อคุณ (หนังคนไม่ไหม้ไฟ) กระดูกคนเป็นสีดำ
    ๔.คดที่เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ ที่เกิดผิดธรรมชาติบางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นหินหรือเกิดจากมหัศจรรย์ลึกลับ
    - คดที่เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ การเกิดกายสิทธิ์ชนิดนี้แตกต่างไปจากทั้ง ๓ กลุ่ม แต่มีคุณเช่นเดียวกัน เช่น คดดินกากยายัก หัตถ์แม่พระธรณี ขวานฟ้าฟาด หมอนนกกระเต็น คดมะม่วงเหล็กไหลเจ้าป่าน้ำหนึ่ง เป็นต้น

ความคิดเห็น • 9

  • @XlObile
    @XlObile หลายเดือนก่อน

    มีอันนึงครับแต่ไม่รู้ว่าใช่ไหมคือผมเป็นอิสลามเลยไม่รู้จัก0926979102น้องบีนครับ

  • @user-wl1lu3ez7s
    @user-wl1lu3ez7s ปีที่แล้ว +1

    เจอทั้ง​เลยครับ

  • @gfonegfone5524
    @gfonegfone5524 6 หลายเดือนก่อน

    ผมมีอยู่เหมือนกันครับ..แต่หักเป็น3แท่งยังใช้ได้มั้ยครับ

  • @thanaphonreichukorn435
    @thanaphonreichukorn435 4 หลายเดือนก่อน

    ยังหาผู้ยืนยันไม่ได้ ว่าคตไผ่คือแบบไหน บางแบบเป็นก้อนหินเหมือนโลหะเลย

  • @user-wk3cr2sv6o
    @user-wk3cr2sv6o 2 ปีที่แล้ว

    ตัดเป็นท่อนได้ไหครับ

  • @user-wk3cr2sv6o
    @user-wk3cr2sv6o 2 ปีที่แล้ว +1

    ต้องปลุกเสกไหมครับ

    • @user-uf6bx9hg9s
      @user-uf6bx9hg9s  2 ปีที่แล้ว +1

      ไม่ต้องปลุกเสกครับ เพราะมีพลังโดยธรรมชาติ อยู่แล้ว

  • @user-xr6mk1mt2l
    @user-xr6mk1mt2l 3 ปีที่แล้ว +1

    เขาหากันแบบใหนครับ

    • @user-uf6bx9hg9s
      @user-uf6bx9hg9s  2 ปีที่แล้ว +1

      หาไม่ได้ทั่วไป มีความพิเศษโดยธรรมชาติเฉพาะ ผู้รู้ (วิชา) เท่านั้น ส่วนมากจะทราบครับ