ครูบาชัยวัฒน์ อธิบายนิพพานอย่างลึกซึ้ง หาฟังได้ยากอย่างยิ่ง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 28 มิ.ย. 2024
- เข้ากลุ่มทำบุญ หรือ เรียนธรรมะ ถามคำถามธรรมะ กับพระอาจารย์วิน
linktr.ee/PrayB4Sleep
TikTok พระอาจารย์วิน
/ phraajarnwin
Facebook พระอาจารย์วิน
/ phraajarnwin
Twitter (X) พระอาจารย์วิน
/ phraajarnwin
IG พระอาจารย์วิน
/ phraajarnwin
ทำบุญสนับสนุนงานเผยแผ่ และ บุญอื่นๆร่วมกับ พระอาจารย์วิน
ธนาคารกรุงไทย
เลขที่บัญชี: 981-1-93967-5
พระจิรายุเดช ธรรมวาณิชย์
ສາທຸສາທຸສາທຸຄ່ະເຂົ້າໃຈຄ່ະ
พระพุทธเจ้าคือ มัคคัญญู สาวกคือมัคคานุคา หากสงสัยในธรรม ให้ค้นหาจาก ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่พระพุทธองค์ได้แสดงไว้ดีแล้ว คือตัวแทนของพระองค์
เท่ากันเห็นเท่ากัน เท่านั้น
กราบนมัสการครูบาครับ
อนุโมทนาสาธุครับ
ชัดเจน กระชับ ตรงประเด็นครับ สาธุๆๆๆ
กราบสาธุครับครูบา
โอยแก่นธรรม.น้อมกราบๆๆพระ.อ.จ.จ้า
ผู้เรียนแล้วรู้ ผู้ปฏิบัติแล้วรู้ต่างกันมาก ระวังกลัวจะหลง
ครูบาฯ ท่านปฏิบัติมามาก
กราบสาธุครับ
สาธุ🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุ
ผู้เฉลียวฉลาด ในสถานะ จึงจะตอบ แบบ ดูผู้ถาม และดูปัญญาออก
การแตกทำลายของโลกธาตุ คือนิพพานจริง
อธิบายด้วยภาษาสมมุติ อย่างมากก็ได้แค่ไกล้เคียง แต่มันจะมีคนเข้าใจผิด เข้าใจไม่ตรง จากคำอธิบายนั้นบางคนแน่นอน
อะไร
คิดมาตลอดว่า สภาวะนิพพานคือ ให้กระทบยังไง ก็ ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ก็ไม่เกิดไม่มีผุดขึ้นมาในใจอีกแล้วรึป่าวครับ
ไม่ใช่ นิพพานมีอยู่ แต่ มันไม่มีสภาวะนิพพาน
@@RaksajaiDhammaนิพพานใช่ที่ ที่ไม่มีการเวียนตายเกิดหรือครับ
ตัวเรา + สิ่งกระทบรู้สึก และไม่ปรุงคิดต่อ =นิพพาน ยกตัวอย่าง พระเห็นผู้หญิง + เห็นสวย/ธรรมดา/ไม่สวย เราห้ามสัญญาไม่ได้ แต่พระจะไม่ปรุงต่อ ว่าชอบ/ไม่ชอบ/เกลียด จะไม่มีพวกนี้ออกมา และอยู่สภาพนี้ไปเรื่อยๆทำหน้าที่ไปเรื่อยๆจนตาย นิพพานอธิบายได้ถ้าเข้าใจ ก็นิพพาน
ขออ้างหลวงตาสินทรัพย์บอก ถ้าคนธรรมดาถ้านึกถึงตู้เย็นที่บ้านจะเห็นเป็นภาพตู้เย็นมีของมีอะไรอยู่ข้างใน เเต่ถ้าเป็นพระอรหันต์จะไม่เห็นเป็นภาพตู้เย็นพอไม่เห็นมันก็ไม่ปรุงต่อ อยู่กับความว่างเป็นอิสระ
@@Chanon168 ขอเห็นต่างจากตัวอย่าง เห็นตู้เย็นเห็นของในตู้เย็น เราไม่สามารถปฏิเสธสัญญาความจำได้ ถูกไหมครับ แต่เราไม่ปรุงความอยากได้(อุปทาน)ว่า ชอบหรือไม่ชอบ อย่าไปปฏิเสธการรู้หรือเห็น "แค่รู้สักว่ารู้" เห็นของในตู้เย็นก็เห็นไปให้เป็นธรรมชาติแล้วจบ สติกับปัญญาจะทำงานของมันเอง สุดท้ายธรรมใดๆก็อย่ายึดมั่นถือมั่น แม้แต่ครูของเราก็อย่าพึ่งเชื่อ สำหรับผมหลวงตาท่านมีปัญญามาก หลวงตาอาจหมายถึงเพียงแค่เห็นตู้เย็นแล้วไม่ปรุงแต่ท่านยกตัวอย่างผิด ถ้าถูกประมาณว่าเห็นตู้เย็น สีสวยไหมเปิดได้กี่บาน ใหญ่ไหมนี้คือการปรุงทั้งหมด จริงๆแล้วมันคือตู้เย็น
*ถ้าฝึกลม(โง่ๆ)เพื่อที่จะตัดกิเลสสำหรับผมมองว่าผิดหลัก อาจจะไปทาง ชาณมากกว่า
แต่ถ้าฝึกลม(ฉลาดๆ)เพื่อเห็นตามความเป็นจริง และใช้ปัญญาพิจารณาตามความเป็นจริง ผมว่าถูกทางกว่า
พระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ กิเลสก็ยังอยู่ล้อมตัวท่าน พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ตัด แค่อยู่ไกลมากกกกกจากกิเลสจนเข้าไม่ถึงหรือจนท่านไม่มีในตัวเอง กิเลส=ธรรมชาติตัวนึงเจอจนวันตาย
บทสวดพาหุง=เป็นการแสดงกำราบกิเลสด้วยเมตตาของพระพุทธเจ้า เฉียบๆ
@@ohkub5103 ถ้าดูลมทำอาณาปานสติถ้าพี่มองว่าผิดหลักเรามันคนละสายกันเเล้วครับของพี่น่าจะเป็นสายเทวทัต ส่วนที่ผมทำคือทำตามคำสอนพระพุทธเจ้าดูลมหายใจตัวเองกิเลสเกิดเเล้วรู้ตัดมาที่ลมทำบ่อยๆสติจะเร็วขึ้นๆจนรู้เท่าทันใจตัวเอง ส่วนที่ว่าเรื่องตู้เย็นอันนี้เป็นความรู้ของหลวงตาคนธรรมดาจะเห็นตู้เย็นจะเป็นภาพเเล้วไปปรุงนี้เห็นเมียตัวเองเป็นภาพเรือนร่างเเล้วเกิดอารมณ์ไปปรุงต่อ ส่วนของหลวงตาสินทัพย์ท่านไม่เห็นภาพเมียท่านเเต่รู้ว่าคนนี้เป็นเมียไม่มีภาพให้ปรุงเเต่งก็เเค่นั้น จริงไม่จริงไม่รู้ยังไม่เคยเป็นพระอรหันต์ครับ
@@Chanon168 ตามนั้นครับ ธรรมใดๆก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ผิดหรือถูกมันก็วัดใจตัวเอง ปัจจัตตัง
ก็ตอบไปสินิพพานคือหมดจากกิเลส😊
แบบนี้เรียกว่าจำมาตอบ :)