Frieren สนุกจริงไหม? เรื่องนี้มีอะไรมากกว่าความสนุก | ตั้งตี้ EP95
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 มี.ค. 2024
- Frieren สนุกกี่โมง?
.
คำถามที่เจอบ่อยๆ ในกลุ่มอนิเมะ หลังจาก Frieren คำอธิษฐานในวันที่จากลา ซีซันแรกจบลง #ตั้งตี้ ขอชวนคุยส่งท้ายตั้งแต่เรื่องความสนุก เนื้อหา ปรัชญา ความผูกพันของตัวละครที่แสนสวยงาม
.
โดยเฉพาะ ‘คุณยายฟรีเรน’ ที่มอบบทเรียนให้กับมนุษย์ที่อายุขัยแสนสั้นได้เป็นอย่างดี
.
Spotify : spoti.fi/39eoqDt
Apple Podcasts : apple.co/3xr7vHf
Google Podcasts : bit.ly/3V0E5t7
.
ติดต่อรายการที่ station@thematter.co
.
#Frieren #ฟรีเรน #คำอธิษฐานในวันที่จากลา #ฮิมเมล #เฟรุน #Anime #อนิเมะ #TheMATTERpodcast
ฟรีเรนเป็นเรื่องนึงที่เด็กดูแล้วไม่สนุกเลย ไม่สู้กันเลย ผู้ใหญ่ดูแล้วน้ำตาแตก
ใช่ครับนี่คืออนิเมะ ของคนที่ผ่านชีวิต ความล้มเหลว ความผิดหวังความสำเร็จ และการจากลาจากสิงสำคัญมาแล้ว จะเข้าใจเลย
ผมไม่ใช้เด็กแต่ตอนเข้ามาดูก็คาดหวังแบบเด็ก แต่พอดูจบก็ได้ความประทับใจแบบผู้ใหญ่
เนื้อเรื่องปัจจุบันไปแบบเรียบง่าย แต่ flash back อิมแพ็คทุกดอก
ต้องขอโต้แย้งนิดนึงครับ หลานผมอายุ 14 ดูแล้วชอบ เข้าใจเนื้อหา และอินจนร้องไห้ให้กับเรื่องนี้อยู่นะ
ชอบตั้งแต่ตอนที่ 2 ตอนที่ฟีเรนไปตามหาดอกไม้มาปลูกให้ฮิมเมล และผมว่าตรงนี้แยกคนดูได้ ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบ ณ ตอนนี้เลย ก็ต้องลองไปดูตอนสู้กัน ถ้ายังไม่ชอบ แนะนำให้เลิกดู จะได้ไม่ต้องมาดราม่าอะไร เพราะผมว่ามันคงไม่ใช่แนวพวกคุณหนะ
ผมว่าเนื้อเรื่องของฟรีเรนเข้าใจง่ายมากนะแมสเสจที่ส่งถึงคนดูก็เข้าใจง่าย แต่วิธีการเล่ามันดันเป็นslow burnซึ่งสายดูอนิเมะจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเป็นคนดูหนังเยอะจะเข้าใจวิธีการเล่าแบบนี้จะต้องเคยผ่านมาบ้างจะรู้สึกเอนจอยซึ่งผมชอบมากมันได้เสพความงามของภาพ เสียงดนตรีประกอบที่เพราะทุกเพลง ความประทับใจของเนื้อเรื่องในแต่ละช่วง ฉากแอ็คชั่นสุดสมู๊ท ความน่ารักน่าเอ็นดูของตัวละครหลัก3ตัว สำหรับผมเรื่องนี้100/10คะแนน
@@TriXerZGamer สายดูอนิเมะ มันต้องคุ้นเคย slow burn ได้แล้วครับ เจอดราก้อนบอลไป โครตจะslow เลย และอีกหลายๆๆเรื่องเลย พวกบ่นไม่ชอบๆๆ ส่วนมาชอบแนว เอะสู้ปล่อยพลัง ๆเจอหน้ากันก็สู้
@@sidgoodsid01 ดราก้อนบอลมันรุ่นไหนล่ะครับ ส่วนใหญ่ก็ผู้ใหญ่กันหมดแล้วที่ดูดราก้อนบอลกันน่ะ เด็กๆวัยรุ่นยุคนี้เขาดูแต่ต่างโลกพระเอกเทพเสพง่ายๆปล่อยพลังขี้โม้ใส่กัน เนื้อเรื่องเดินถึงจุดหมายแบบรวดเร็ว เขาไม่เข้าใจหรอกครับslowburnคืออะไร
มันดราม่าได้ด้วยหรอ ไม่ชอบก็ไปดูเรื่องอื่น บทเรื่องนี้มันก็เป็นงี้อยู่แล้วเรื่องที่ควรดราม่ามันควรเป็นถ้าเออมันออกมาไม่ตรงต้นฉบับอะไรแบบนี้มากกว่า ไม่ใช่มาดราม่าเพราะมันเอื่อยไม่มีฉากสู้ปัญญาอ่อนอะไรแบบนั้น
@@TriXerZGamer โค่นบัลลังก์ FMA ได้ คิดดูเอา ผมไม่ชอบดูถูกคนดูนะ ผมว่าคนที่มีเทสดีในภาพยนตร์มีเยอะแยะมาก แค่ในยุคนี้มันไม่มีตัวเลือกแบบนี้เรารับชม จนมีฟรีเรนนี่แหละ
สิ่งที่ฟรีเรนให้ ไม่ใช่เนื้อเรื่องหรือเพลงเพราะครับ มันทำให้ย้ำเตือนถึงคุณค่าของเวลาและคนรอบข้างครับ
ถ้าผ่าชีวิตมาสักห้าสิบปีแบบผม การดีใจหรือเสียใจอย่างมากนั้นแทบไม่มีแล้ว ยกเว้นการจากลาจากคนที่รักที่สุด
มันแทบบรรยายออกมาไม่ได้ ถ้าดูฟรีเรนมาแล้วจะรู้ว่าการที่ฟรีเรนร้องให้ตอนแรกนั้นมันเสียใจขนาดไหน
การเดินทางเพื่อหาความทรงจำถึงเกิดขึ้น
เวลาที่เหมือนจะมีมาก บางทีก็มีไม่มากและบางทีมันน้อยกว่าที่คิดอีก
ดังนั้นสิ่งที่อนิเมะสมควรที่ขึ้นหิ้งคือการที่ทำให้เราคิดถึงเวลาและคนรอบข้างครับ
เห็นภาพตามเลยครับ เม้นท์คุณภาพสุดๆ
ไม่ได้ดูอนิเมะใหม่ๆมานานมากอ่านแค่มังงะบางเรื่องที่จะแก่แล้วมันก็ยังไม่จบ จนเมื่อปีที่แล้วกลับไปดู FMA Brotherhood จนจบเป็นรอบที่ 2 ในวัย 30ปี คิดว่าเรื่องนี้ก็ยังที่ 1 เหมือนเดิมทั้งเนื้อเรื่องและบทเรียนหลายๆอย่าง จนปีนี้ได้มาเปิดใจดู Frieren เพราะถูกชะตาหน้าปก Netflix ที่เป็นเด็กผู้หญิงถือกระเป๋าดูสะอาดตากับชื่อเรื่องที่ดูจะไม่ใช่พระเอกต่างโลกเก่งเทพ จึงเริ่มเปิดดูบอกตรงๆเริ่มครั้งแรกผมกดปิดไปเพราะฉากมันเริ่มด้วยกลุ่มผู้กล้าครบเซ็ตนั่งคุยกัน คิดว่าซ้ำแนวผู้กล้าเดิมๆ จนได้มาเปิดดูอีกครั้งเพราะหน้า Feed มันเยอะเหลือเกิน จนครั้งนี้แหละอนิเมะรื่องนี้มันคุยกับผมแล้ว มันมอบพลังงานบวกหลายๆอย่างให้เรา มันทำให้เรามองย้อนนึกถีงความทรงจำเก่าๆดีหรือร้ายแต่มันสอนเรา การคุยกับเพื่อนด้วยรอยยิ้มหรือน้ำตาแต่มันทำให้เราเติบโต ทุกครั้งที่ Frieren คิดเราได้คิดตามอันนี้เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้มาก ผมบอกเลยผมเสียน้ำตาให้เรื่องนี้จริงๆ ถ้า FMA มันสะท้อนความมืดในใจคน Frieren ก็สะท้อนคุณค่าของชีวิตและความทรงจำ คู่ควรกับการเป็นอนิเมะแห่งยุคทุกประการ
เพิ่งมาได้ไล่ดูตอนหลังตอนจบฉายแล้ว เพราะส่วนตัวพอเห็นอะไรผ่านหน้า feed ทุกวัน เราจะรู้สึกว่ามัน overrate เห็นแล้วเอียนๆ เลยดองไว้ก่อน
พอดูจบแล้วก็เข้าใจว่า ของมันดีจริง ยิ่งเป็นตอนที่เพื่อนๆ หลายคนเริ่มไปมีชีวิตของตัวเอง เริ่มห่างเหินจากเราไปเรื่อยๆ บ้างก็แต่งงานมีลูก บ้างก็ไปทำงานตปท. บ้างก็ไปต่างโลกแล้วก็มี
ก่อนดูเรารู้สึกว่าการที่ใครสักคนเดินออกไปจากชีวิตเรา มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้านะ ยิ่งผูกพัน ยิ่งทำใจยาก หลังดูจบเรามูฟออนจากอะไรพวกนี้ง่ายขึ้นเยอะเลย
เราว่าอนิเมะเรื่องนี้มันคือ starter pack สำหรับคนที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยกลางคนดีๆ เลยอ่ะ
คนที่ตระหนักได้ถึง คุณค่าของเวลา การมีชีวิต อายุขัย มิตรภาพ ความสัมพันธ์ ผมว่าเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก และถึงแม้ยังไม่ตระหนักถึง เรื่องนี้อาจทำให้คุณตกผลึกอะไรบางอย่างได้ก็ได้นะ ถ้ามองหาข้อคิดที่นอกเหนือจากความสนุก คุณจะได้ทุกสิ่งที่เรื่องนี้อยากจะสื่อ สิ่งที่ผมตกผลึกได้คือ คนเราไม่ได้มีชีวิตยืนยาวขนาดที่จะต้องมานั่งทนทุกข์กับทุกความรู้สึกเชิงลบ จงเห็นคุณค่าของนาฬิกาชีวิต แล้วคุณจะมองเห็นคุณค่าของทุกสิ่งชัดเจนขึ้น จริงๆมีหลายคำในเรื่องนี้ที่มันกินใจผมมากๆ อธิบายไม่ถูกเพราะมันรายละเอียดเยอะพอควรเลย
เรื่องนี้ผมรู้้สึกว่าประสบการณ์ชีวิตต้องถึงจริงๆครับ ถึงจะเก็ทแบบ 100%
1. คนที่เราแคร์จริงๆ ตาย
2. ความพยายามที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เราอยากให้คนที่เรารักเห็นเราประสบความสำเร็จ แต่ บางทีก็ไม่ทัน หรือไม่รู้จะทันมั้ย เพราะเขาก็แก่ลงทุกวัน ;-;
ต้องเป็นที่มีอายุ ที่จะผ่านชีวิตแล้วช่วงนึง ถึงเข้าใจเมะเรื่องนี้ ว่าความหมายของเมะเรื่องนี้มันคือชีวิต เด็กน้อยหลายคนดูแล้วไม่เข้าใจ555
อนิเมะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีนี้
ไม่จริง ไม่เชื่อ โกหก
Titan ดีกว่าเยอะ
พูดเหมือนที่ผมพูดเลยครับ
@@Madscientists007 เพื่อความแฟร์ ผมโครตไม่ชอบ Titan
@@Madscientists007โม้จัด🤑🤑🧏🧏
คิดว่า ฟรีเรนเป็น "เจ้าชายน้อย" ของหลาย ๆ คน
เวลาคนชอบเจ้าชายน้อยจะนำเสนอว่า "หนังสือที่อ่าน ในช่วงชีวิตต่างกัน จะให้คุณค่ากับเราต่างกันตามอายุ"
ฟรีเรน อ่านในช่วงอายุนึงคุณจะคิดแบบนึง แต่การที่ผ่านหลักกิโลไปเรื่อย ๆ ฟรีเรนจะตอบคำถามอีกแบบกับคุณ
ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งชอบแนวนี้ เราไม่ได้ตามหาการ์ตูนตัวละครเท่ๆ เบียวๆ หรือบทเข้มข้น ลึกๆ อีกต่อไป เรื่องนี้รสกลมกล่อมที่สุดในเวลานี้สำหรับเรา
ดูเรื่องนี้แล้วผมเข้าใจเนื้อหาที่จะสื่อเลย อะไรหลายๆอย่างมันดูเรียบง่าย แต่มันสื่อถึงคุณค่าต่างๆในนั้น
ไดอาล็อคทุกๆตอนมันดูพูดคุยกันมีความหมายมาก ทั้งๆที่มันเป็นประโยคธรรมดา
ปีนี้ผมก็อายุ 24 ปีแล้ว อาจจะยังไม่มาก แต่ก็ดูเมะเรื่องนี้แล้วเข้าใจถึงแก่นที่จะสื่อ
ผมว่า มันจะยิ่งเข้าใจมากขึ้นไปอีกถ้าตัวเรามีความรู้สึก " อยากช่วยดูแลคนที่จากไปแล้วให้มากกว่านี้, คิดถึงคนที่จากไปแล้ว ,อยากจะคุยกับเขาอีกครั้ง"
เพราะผมก็มีความรู้สึกนั้น เพราะน้าผม กับหมาที่อยู่มาครึ่งชีวิตของผม เสียไปตอน 2020
ตอนนี้อารมณ์โดยรวมดีขึ้นมากๆ มีคิดถึงบ้างอะไรบ้าง แต่ชีวิตก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป
ปล.เอาจริงๆประเด็นที่จะพูดในเรื่องนี้มีเยอะมากเลย ผมว่าตอนต่อตอนได้เลย ดีมากจริงๆ
เนื้อเรื่องมัน related กับคนดูมาก มันมีทั้งความรู้สึกหน่วงๆ ทั้งมีความสุขตอนตลคนึกถึงความทรงจำในอดีต ฟรีเรนเหมือนกับเราที่แม้จะอายุมากแล้ว เรื่องที่เคยไม่เข้าใจ กว่าจะเข้าใจว่าเรื่องราวที่เคยประสบพบเจอมันเป็นเช่นไร ก็ยังต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับมัน ตอนจบซซหนึ่งตอนที่ฮิมเมลพูดเราน้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย ด้วยความที่เข้าใจความหมายที่ฮิมเมลจะสื่อ ไม่ผิดหวังเลยที่ดูอนิเมะเรื่องนี้
เด็กน้อยไม่เข้าใจ มันมีอะไรมากกว่าการแหกปากตะโกนเรียกพลังละซัดกันเฉยๆ มันมีทั้งแนวที่แฟนตาซีแต่อยู่ในหลักความเป็นจริงที่รับได้และมีเหตุผลรองรับ อะไรแบบนี้มันสนุกมาก สนุกกว่าใช้พลังเพียวๆตบกันซะอีก คิดแล้วคิดอีก
ชอบการต่อสู้ของเรื่องนี้นะ ไม่ใช่สักกะว่ามีเวทมนต์แล้วแค่ซัดกันตู้มๆแล้วจบ มันมีการดูเชิง วิเคราะห์ระหว่างต่อสู้ ไม่ผลีผลามพุ่งเข้าใส่
ไม่มีตะโกนชื่อท่า ไม่มีพลังโชเนน 😄
อีกเรื่องที่พึ่งนึกออกคือในโพสนึงในเพจเกี่ยวกับมังงะ เคยคุยกันเรื่องฉายาตัวละครในเรื่อง ที่เจ๋งมากในเรื่องการแปลชื่อ ฟรีเรน ถ้าชื่อ sousou no friren คือชื่อมังงะภาษาญี่ปุ่น และในเรื่องก็เรียกชื่อนี้กัน คำว่า sousou มันแปลได้กว้างมาก แปลอิ๊งมังงะชอบแปลว่า friren the slayer คนแปลเถื่อนยุคเลยเรียกว่าฟรีเรนผู้ส่งวิญญาณและอีกมากมาย
แต่พอมาเป็นลิขสิทธิ์เค้าเลือกที่จะใช้คำว่า "ฟรีเรนแห่งการจากลา" ซึ่งมันกว้างมาก ทั้งการจากลาจากคนรอบตัว รวมถึงฉายานี้ได้มาจากการฆ่าปีศาจมากที่สุด
ป.ล.พอมาถึงตอนนี้เวลาเศร้าก็จะนึกถึงมังงะเรื่อง แด่เธอผู้เป็นนิรันดร์ ที่ดีมากเศร้ามากแต่หลังจะออกทะเลไปหน่อย
ฉายานี้ดีมากจริงๆ ครับบบ มันถูกต้องไปหมดเลยยย
@@nattanunchalermpanus9967 ใช่ครัยตอนมีคนมาอธิบายผมแบยร้องเหยดดดด
Frieren เป็นอนิเมะ slow life เรื่องแรกที่ผมสามารถดูได้จบเพราะปกติแนวนี้จะเบื่อจนดรอปทิ้งไปก่อน อาจจะเพราะดูรายสัปดาห์ด้วยเลยไม่ง่วงมาก แต่ใดๆ เนื้อเรื่องมันดีมากจริงๆ ครับ อายุ 20 ต้นๆ ก็น้ำตาไหลเป็นสายน้ำเลย ชอบในความสวยงามของชีวิตในเรื่องนี้มาก
ปล. ชอบประโยคที่บอกว่า Frieren คือเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตหลังประสบความสำเร็จ ไม่ใช่จะเป็นราชาโจรสลัดหรือโฮคาเงะยังไง/ได้ไหม แต่เป็นเรื่องราวหลังจากเป็นแล้วมากครับ
สังเกตุได้อย่างนึงคือการที่ฟรีเรนมีร่างกายและหน้าตาที่เหมือนเดิมตลอดหลายปี ทำให้การย้อนความในแต่ละครั้งมัน Smooth มากๆ และเห็นได้ชัดเจนในการเติบโตของ Perspective ที่เปลี่ยนไปของยายแก รักเรื่องนี้อ่าาา❤❤
ทีมผู้สร้างคงตั้งใจให้จบซีซั่นที่คำพูดนี้ของฮิมเมล เป็นหนึ่งในการจบซีซั่นที่ดีที่สุดจริงๆ ประทับใจมากๆ ตอนอ่านในมังงะยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ ต้องชมจินตนาการในการทำออกมาเป็นอนิเมะที่มาพร้อมเสียงดนตรีประกอบที่ทัชใจ
สนุกมาก ให้เป็นอันดับต้น ๆ ตั้งแต่เคยดูมาเลยครับ
ชอบไดอาล็อก บทพูดเรื่องนี้มากๆเลย คือรู้เลยว่าไม่ได้ใส่มามั่วๆ เน้นมากจริงๆ แต่ละอัน
หลายๆคนที่ดูเรื่องนี้เเล้วรีวิว จะบอกว่าถ้าเป็นคนมีอายุนิดนึงจะสนุกกับเรื่องนี้ ในขณะที่วัยรุ่นอาจไม่เอนจอยเท่าไหร่
เเต่ทำไมผมที่อายุ 19 ถึงสนุกกับเรื่องนี้หว่า หรือผมเเก่เเล้วเลยอินกับปราชญาในเรื่อง
ใครอายุน้อยเเล้วสนุกกับเรื่องนี้เหมือนผมบ้างครับรายงานตัวหน่อย
ผมว่าน้อยคนนะแต่ที่แน่ๆผมละคนนึงที่ดูเรื่องนี้แล้วสนุก…มันไม่ใช่แค่สนุกมันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดจริงๆ
การกระทำของ ฮิมเมล แม้เราจะมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูไร้สาระ แต่มันสำคัญต่ออีกหลาย ๆ คน
และมันมีจริง ๆ นะ ฮิลเมล ในชีวิตจริงน่ะ และเนื้อเรื่องไม่ได้นำเสนอถึงความเก่งกาจของฮิมเมลเลย ขนาดดาบยังยกไม่ขึ้น แต่การกระทำของฮิมเมลเนี่ยแหละที่มันเรียกว่า ผู้กล้า
ตอนแรกวางมาดีมากๆนะ ถ้ามองในมุมของฟรีเรน การเดินทางสิบปีเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่ฟรีเร็นก็ไม่เคยลืมเรื่องราวของการเดินทางเลย เพียงแต่ในตอนนั้นยังไม่คิดว่ามันสำคัญขนาดนั้น พอจะเริ่มทำความเข้าใจฮิมเมลก็จากไปแล้ว
เค้าเลยเล่าในมุมของฟรีเร็นด้วยการให้ฮิลเมลจากไปตั้งแต่คนดูไม่ผูกพันธ์ แล้วค่อยๆเล่าย้อนในตอนต่างๆให้รู้ว่า ฟรีเร็นเริ่มเข้าใจเหตุผลขึ้นมาบ้างแล้ว
ดีมากจริงๆ
เพลงจบเพลงแรกฟังผ่านๆก็เพราะดี แต่พออ่านซับเท่านั้นแหละ ร้องไห้หนักมากจริงๆ
รักเรื่องนี้มาก
ตอนแรกนึกว่าอนิเมะเพลินๆ เอาเข้าจริงๆมันมีรสชาติชีวิตแทรกอยู่ มีแง่คิด มีความสมเหตุสมผล มีความอบอุ่นในความเศร้า เป็นอนิเมะที่สื่อรสชาติของชีวิตเอลฟ์ที่มีอายุเป็นพันปีได้ดี
พี่กวงคือวิเคราะห์ดีมากกกกก ติดตามครับ
สวยงาม ลึกซึ้ง กินใจ รู้สึกเสียดายไม่ได้ตามดูตั้งแต่แรกๆ
เรื่องFrierenเป็นเรื่องที่ผมดูแล้ว ผมรู้สึกว่าได้อะไรบางอย่างที่แตกต่างจากอนิเมะเรื่องอื่นๆ เป็นอนิเมะที่รู้สึกว่าทุกคำพูดของตัวละครมีความหมายไม่ใช่แค่บทที่พูดออกมา เป็นเรื่องที่ผมฟังตัวละครคุยกันแล้วไม่รู้สึกเบื่อ ผมว่าเอาไปเปรียบเทียบกับอนิเมะเรื่องอื่นไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่ได้จากอนิเมะเรื่องนี้มันเป็นอารมณ์ความรู้สึกซึ่งอนิเมะแนวนี้ไม่ค่อยมี ยกตัวอย่างเช่นผมดู Attack on Titan หรือ Jujutsu Kaisen จบ ผมก็รู้สึกแค่ว่าเป็นอนิเมะที่ดีแต่ถ้าผ่านไปอีก 2 - 3 เดือน หรือเป็นปี ผมก็ยังรู้สึกว่า Frieren เป็นเรื่องที่จะอยู่ในความทรงจำผมไปอีกนาน ผมคิดว่าเรื่องนี้คนที่ยิ่งอายุเยอะน่าจะยิ่งดูสนุกนะ
ส่วนตัวตอนนี้ดูถึงตอนที่ 20 ต้นๆ แล้ว ชอบเรื่องนี้มากๆ ในทุกตอนค่ะ ในแง่หนึ่งหากถามหาเรื่องอื่นที่คล้ายกับ Frieren เคยอ่านเจอใน Wiki มีนักวิจารณ์ตปท. บางคนบอกว่าเรื่องนี้ชวนให้เขานึกถึง To Your Eternity หรือชื่อไทยว่า "แด่เธอผู้เป็นนิรันดร์" ซึ่งส่วนตัวได้ลองดูไปนิดหน่อย คิดว่าเป็นการเปรียบเทียบกับ Frieren ที่น่าสนใจเหมือนกันนะคะ ขอแนะนำเลยค่ะ
ฟังพวกคุณมาทุกสัปดาห์ ep นี้พูดได้ถูกใจมากครับ ชอบเรื่องนี้มากๆ เหมือนกัน และก็ขอให้คุณกวงไปได้สวยในหนทางข้างหน้าด้วยนะครับ
ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ผมน่าจะยังวนเวียนอยู่กับคอนเทนต์การ์ตูนไปทั้งชีวิต ถ้ามีโอกาสแวะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะค้าบบบ
4:12 ไอ้ผู้กำกับอ่านมังงะแล้วอยากทำเมะแล้วทำออกมาดีนี่ ดาบพิฆาตอสูรก็เป็นเหมือนกัน พอผู้กำกับมีไฟทำอนิเมะมักจะออกมาดีตลอด อย่างโจโจ้ก็เหมือนกัน
ช่วงอายุ และประสบการณ์ชีวิต คือตัวตัดสิน ความเข้าใจ ความชอบ และความสนุกของคนครับ คนที่อยู่ในวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ชีวิตไม่เท่ากัน โตมาในยุคต่างกัน เวลามาดูอนิเมะเรื่องเดียวกันก็มีมุมมองต่างกันหลังดู ผมดูฟรีเรนแล้วผมรู้สึกว่ามันมีบทพูดที่สื่อสารมาถึงผมแล้วเข้าใจได้ทันทีหลายอย่าง แต่พอมองย้อนกลับไปถ้าผมอายุยังน้อยกว่านี้ผมคงไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวละครแต่ละตัวพยายามสื่อสาร
แค่คิดมโนไปถึงตอนที่ยายฟรีเรนต้องจากลาจริงๆกับหลานเฟรุนและสตาร์คแล้ว ก็จุกอกน้ำตากุแตกแน่ถ้าถึงช่วงนั้นจริงๆ😢
เราน้ำตาแตกได้ตั้งแต่ตอนแรกจริงๆ เป็นบทกวี วรรณกรรมชั้นสูงที่ถ่ายทอดออกมาผ่านภาพวาดได้อย่างชาญฉลาดเพื่อฝากถึงผู้ใหญ่ที่ผ่านอะไรมามากมาย ยิ่งเราที่เคยเสียคนรักไป อินสุดๆ มันอาจจะมีเด็กบางคนไม่ชอบ เพราะวัยเค้าโหยหาความสนุก แต่เชื่อว่าวันใดวันนึงเมื่อเค้าโตขึ้น อนิเมะนี้จะเป็นอนิเมะที่เค้าต้องกลับมาดูแล้วเสียน้ำตา
เด็คเคนนี่จำได้เลยว่าตอนออกมาแรกๆ คอมเม้นท์คือเหม็นขี้หน้ากันมาก แต่พอมังงะตอนที่ไปต่อยแย่งนกออกมา เสียงพลิกกลับขั้นสุด 555+
ผมก็โดนตั้งแต่มังงะตอนแรกเหมือนกัน แถมออกมาให้อ่านช่วงปี 2020 กำลังโดนโควิดไปไหนไม่ได้ด้วย
ที่สำคัญอีกอย่างคือ ดนตรีที่ทำโดย evancall ทำออกมาได้ดีขั้นสุด
ปล. ผมชอบไอเซ็น "Being afraid isn't a bad thing. It's my fear that brought me this far."
anime ที่คล้ายๆ ฟรีเรน ผมยกให้ อาเรีย พายเรือครับ งดงาม
ผมว่าอาเรียก็สภาพคล้ายๆกับฟรีเรนนี่แหละ ผู้กำกับชอบและเข้าใจบรรยากาศของเรื่องจริงๆ ถึงได้ทำออกมาน่าประทับใจขนาดนั้นได้ แต่แน่นอน จุดร่วมที่เหมือนกันของทั้งสองเรื่อง คือค่อนข้างจะเลือกคนดู....
อยากให้ตั้งตี้ ดู vinland saga ครับ
+1
ขขลุกเลยตอนที่พูดเเนวคิดว่า ถ้ารักรักษาความสนุกแล้วจะให้เนื้อเรื่องไปถึงเฟรุนสตากตาย
40:10 ฟรีเรนนี่หาคนโค่นยากจริงๆสำหรับปีนี้แต่เรื่องหมอยา(kusuriya no hitorigoto)นี่ก็น่าจะสูสีอยู่นะผมว่าสนุกไม่แพ้กันเลย
คิดว่าใกล้ๆกันกับฟรีเรนที่ปรัชญามากๆ น่าจะเรื่อง Mushi-shi กับ Wandering Witch: The Journey of Elaina แต่ขาของ Action ยังไม่ใช่ ฟรีเรนคือส่วนผสมของทั้งปรัชญา+ มีฉากแอคชั่นที่ดีมากๆ
สำหรับผมอีกเรื่องนึงที่ใกล้เคียงก็คือ Kino's Journey ตอนอ่านหนังสือบางบทนี้จบแบบงงๆ 5555
ผมที่อ่านมังงะมาตั้งแต่แรก ผมเข้าใจว่าจบตอนสอบจอมเวทย์อันดับ1 มันก็จบสวยดีแต่มันก็แอบจบนรกไปหน่อย เพราะว่าของจริงมันหลังจากขึ้นภาคเหนือไปแล้ว ในอนิเมะมันอยู่ภาคกลางค่อนไปทางเหนือแล้ว และมังงะตอนนี้มีจำนวนตอนมากพอที่สามารถทำ SS2 ได้ เอาจริงได้ตอนแรกของ SS3 ด้วยซ้ำนะ อยู่ที่ว่า toe อยากให้ทำต่อไหมแค่นั้น แต่โอกาสแอบยากอยู่ แนะนำให้อ่านเล่ม 7 ต่อไปเลยสำหรับคนที่ค้างจากอนิเมะ
ชอบการต่อสู่ทางคำพูดของเรื่องนี้มาก แค่บทพูดอย่างเดียวก็แสดงถึงความแข็งแกร่งแต่ละตัวละครได้ ละไม่เวอร์เกิน
ฉากเดินเรื่อยเปื่แยก็ทำได้ใจฟูมาก ไม่ทำลายคอร์เนื้อเรื่องเลย เพลง ฉากเอื่อย ๆ หน้ามึน ๆ อมยิ้มนิดหน่อย มันบรรยายความเป็นเอลฟ์อายุยืนยาวมาก ชมเชยประสบการณ์ทางภาพ แอนนิเมชั่น เสียง มาก ๆ
ผมก็เป็นคนตั้งคำถามเกียวกับสวรรค์ จนมาคำพูด ไฮเตอร์ คือเหมือนได้ปลดล็อคเลยครับ
พูดถึงฟรีเรนกันเยอะแล้ว ขอพูดถึงคุณกวงนิดนึงนะคะ เราติดตามมาตั้งแต่โลกคือการ์ตูนจนมาถึงตั้งตี้ ชอบที่คุณกวงละลายกำแพงของเรื่องแต่งในหน้ากระดาษและความจริงเข้าด้วยกัน จับจูงเราไปเห็นด้านที่"เป็นมนุษย์"ของพวกเขา ทำให้คนฟังใกล้ชิดกับการ์ตูนแต่ละเรื่อง แต่ละตัวละครที่เขารักมากขึ้นไปอีก งานของคุณกวงและทีมงานชุบชูใจเรามากๆขอบคุณจริงๆนะคะ หวังว่าจะได้ฟังเสียงคุณกวงอีกเป็นครั้งคราวถ้ามีโอกาส ขอให้พี่โชคดีค่ะ😊
มันคือการ์ตูนที่สร้างให้คนที่มีวัยที่อยู่ระดับที่มีชีวิตในสังคมที่ใช้เหตุผลในการคุยกันดู
เด็กน้อยวัยใสที่ยังใช้อารมณ์นำทางชีวิตจะดูการ์ตูนนี้ไม่สนุก
คนที่ดูการ์ตูนแบบเอาตลก ดูเอามัน ดูเอาฮา ดูเอาฉากต่อสู้ ก็จะดูเรื่องนี้ไม่สนุกอีกเหมือนกัน
ผมขอแนะนำ อนิเมะที่ดีงามอีกเรื่องนะครับ Vinland saga ครับ
ละมุน
เปนเรื่องที่สวยงาม
ถ้าชอบแนวนี้แต่แบบซึมลึกสุดใจแนะนำเรื่อง Mushishi ค่ะ🙇🏻♀️เก่าแล้วแต่ขลังสุด ๆ เพลงเปิดฟังแล้วจะโคตร nostalgia แนะนำๆค่ะ
สนุกทุกโมง ใครประสบการณ์ชีวิตเยอะหน่อยจนอายุจิตใจเกิน 25 จะ relatable ได้ไม่ยากเลย และมันสวยงามมากๆ
ทุกอย่างในเรื่องนี้ที่พูดออกจากตัวละครใดๆมันมีเหตุและผลหมดจริงๆ ไม่มีการปล่อยเลยปล่อยลืม คีย์บางอย่างถูกพูดตอนแรกๆแต่มันสามารถวกกลับมาใช้ในตอนท้ายได้ผมชอบมาๆ แถมเอามาตั้งคำถามให้กับตัวเองได้เลย เพราะความเป็นไปของเรื่องนี้มันไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเรามาก ไม่ได้บ้าที่จะสู้กันหรือไม่ได้ใช้ชีวิตติ๊งต๊องไปวันๆ มันแค่ใช้ชีวิตปกติอะคือที่สุด ทุกอย่างมันทำให้ดูไหลลื่นไปหมด บทเพลงประกอบสร้างความอิมแพ็คในทุกๆตอนด้วยโครตจะที่สุดยังไงเขื่อว่า AOTYแน่นอนๆ
ส่วนตัวผมให้เป็นอนิเมะอันดับ 1 ของปีนี้เลย
พึ่งดูฟรีเรนรอบที่สองจบ ขนาดดูรอบที่สองจบยังมูฟออนยากเหมือนเดิม 555555 ตอนนี้กล้าพูดเลยว่าฟรีเรน เป็นการ์ตูนที่เรายกให้แซงวันพีชกับกินทามะไปแล้ว ฟรีเรนคืออันดัน1ในดวงใจไปแล้ว มันจะมีสักกี่เรื่องที่ตัวละครตายจากไปแล้วตั้งแต่อีพี1 แต่กลับถูกผู้คนถูกจดจำมากขนาดนี้ ยิ่งดู ยิ่งรักผู้กล้าฮิมเมล ฮิมเมลไม่ได้เปลี่ยนแค่ฟรีเรน แต่ฮิมเมลและการ์ตูนเรื่องนี้ ได้เปลี่ยนเราด้วย
ชอบคุณ work from home เรียกแล้วเห็นชัด 😂
ดูเพราะไม่มีอะไรดู ดูไป ๆ ก็เอ๊ะ ๆ รู้สึกดีนะ
มีความรู้สึกดี
แต่ชีวิตที่ผ่านไปแล้วน่ะ แก้ไขไม่ได้ เรียนรู้และปรับปรุงในเรื่องที่จะเกิดต่อไป
แนะนำอีกเรื่อง Spice and wolf แนวปรัชญาและเศรษฐศาตร์และการใช้ชีวิต
แนะนำ ยอดคุณน้าจากต่างโลกครับดักแก่ได้ดีมากดูพวกต่างโลกมาก็เยอะ พูดได้เต็มปากเลยว่าผมรักอนิเมะเรื่องนี้
ฮิมเมลผู้กล้าที่ดาบศักสิทธิ์ไม่คู่ควร เป็นผู้กล้าที่ดีที่สุด
ผมดูเพิ่งจบ
สำหรับผมก็ดีนะ ดูเพลิน ดูได้เรื่อยๆ
แต่ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุด สนุกที่สุดสำหรับผม
แต่มีเรื่องหนึ่งที่คิดว่าคล้ายกันมาก การดำเนินเรื่องคล้ายกัน สภาพแวดล้อมต่าง ๆคล้ายกัน
คือ เรื่อง เกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า แนะนำไปดูได้
แนวที่ให้ความรู้สึกเหงาๆ คล้ายๆ ฟรีเรน ก็ ไวโอเล็ต กับ นัตสึเมะ อะ
แต่แค่ไม่ใช่แนวแฟนตาซีผจญภัย
ดูฟรีเรนจบแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนผสมของอนิเมะ/หนังเรื่องที่ผมชอบ 3 เรื่อง
- The Lord of The Rings ในด้านโลกแฟนตาซี
- Kino's Journey ในด้านการผจญภัยไปพบผู้คนที่แตกต่าง ความเรื่อยเปื่อย และปรัชญา
- 3-gatsu no lion ในด้านทำให้คนดูเข้าใจเหตุผลของตัวละครรอบข้าง แม้จะโผล่มาแค่ไม่กี่ตอน
และเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ เห็นคุณค่าของเวลาที่ผ่านไป น่าจะติดท๊อปของผมแน่ๆในปีนี้
เป็นไปได้ไหมว่า เป็นเพราะเปิดตัวด้วย 4ep รึป่าวครับ เลยดันจนถึง 28 ep ได้ อนิเมะขึ้นหิ้งแห่งปีจริงๆ
ฟังทุกคนพูดถึงหลายๆอย่างแล้วคิดถึงเมะเรื่องนี้มากๆเลยทัังๆที่เพิ่งดูจบไม่กี่วันมานี้เองแล้วเพิ่งได้อ่านมังงะแปลไทยครบ11เล่มก่อนเมะฉายจบ สงสัยหยุดยาวสงกรานต์ต้องหาเวลาดูเมะยาวๆแล้วอ่านมังงะอีกรอบแล้วล่ะ ตอนอ่านมังงะผมจะเปิดเพลงประกอบที่ประพันธ์โดยคุณ Evan Call ไปด้วย จะฟีลกู้ดดดและอินเพิ่มขึ้น 500% 🤣🤣🤣🤣 ส่วนตัวอวยเพลงที่คุณอีวานแต่งมากๆเลย อินจัดๆเลยเพราะชอบฟังดนตรีแนว Medieval หรือ คลาสสิค หรือ เพลงประกอบหนัง เมะและเกมด้วยละส่วนตัว😂
เป็นอนิเมะน้ำดี ชั้นดี
ผมดูฟรีเรนไป 11 รอบละ 5555😂 คนที่มีประสบการณ์ชีวิตมันคือ Anime Slow burn คั่นยอดเยี่ยม
สนุกในรูปแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ฟรีเรนสอนความเป็นไปของชีวิต ฟูลเมทัลอาเชมิชสอนความเป็นไปของโลก
จริงๆฟรีเรนก็มีจุดอ่อนอยู่คือมันเดินเรื่องช้ามากๆ และเนื้อเรื่องมันบางๆตัวเอกop หลายคนที่ไม่มีเวลาดูก็เบื่อไปซะก่อน
จนดูไม่ถึงฉากต่อสู้ที่ทำออกมาได้อลังการมากๆ
ถึง ss1 จะช้าไปบ้าง บางไปบ้าง อยากให้หลายๆคนลองเปิดใจอดทนดูต่อไปเพราะ
ถ้าดูจนจบ นอกจากคุณจะได้ดูฉากต่อสู้เจ๋งๆแล้ว มันจะมีปรัชญาแฝงไว้
Frieren ที่เชื่อใน peace ที่อาจจะถึงขั้น demon genocide คือ greater good
Serie ที่ไม่เชื่อใน peace การฆ่าปีศาจคือเรื่องเสียเวลา เพราะต่อให้ฆ่าปีศาจหมด เผ่าพันธุ์อื่นๆก็ยังจะมีคนที่ชั่วร้ายกว่าปีศาจมาทำสงครามแบ่งอำนาจกันไม่รู้จบ รวมไปถึงปรัชญาการฝึกฝนเวทที่ต่างกัน
ss ต่อๆไป ไม่น่าจะช้าแบบนี้แล้วเนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นอย่างมาก แล้วมังงะถึงตอนล่าสุด ไม่ได้สู้แต่กับปีศาจแล้ว และ ตัวเอกที่ว่า op มากๆก็อาจจะตายได้
ไม่รู้นะว่าผมไปดูจากไหนมาแต่ตอนสุดท้ายไม่ต้องบอกว่าเฟรุนจะขออะไรนอกจากเวทมนตร์ซักผ้า
โคตรชอบเรื่องนี้เลย ซีนี้เรื่องสนุกๆเยอะดันเจี้ยนเมชิก็สนุก
ถ้าดูตอนเด็ก เมื่อชีวิตผ่านอะไรมาเยอะ ๆ ก็ควรกลับมาดูนะ มันมีคีย์ของชีวิตที่เล่าเรื่องอย่างเรียบง่ายและงดงาม คนโต ๆ ที่ผ่านการใช้ชีวิตจะอินอย่างแน่นอน
Frieren ผมมาเครื่องติดจริงๆตอนที่ stark โผล่มา ตอนก่อนหน้ามันก็ดี แต่ดูแล้วจะหลับ
เป็นเรื่องที่ไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจ แต่ดูไปเรื่อยๆอินได้ไงไม่รู้😅 มุขเหมือนจะแป็กแต่ลงตัวซะงั้น😂
ผมว่าเรื่อง ฟีเรนจะมีอารมณ์คล้ายเรื่อง sayoasa นะครับอาจจะไม่ได้ผจญภัยเหมือนกันแต่ก็พูดถึงเรื่องเวลา เรื่องการเติบโตเหมือนกัน
บางเรื่องไม่ได้จำเป้นต้องมีเรื่องยิ่งใหญ่เกิดขึ้นตลอดเวลาหรือมีตัวละครสำคัญตายทุกตอนเพื่อสร้างดราม่าหรือไม่ก็มีฉากบู๊เดือดๆอัดกันตูมตามให้มันส์ตลอดทั้งเรื่องเพื่อจะเป็นอนิเมที่ดี ฟรีเรนเป็นข้อพิสูจน์เลยว่าการเล่าเรื่องที่ดีกับอะไรที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งจนคนดูรู้สึก relate กับตัวละครในเรื่องได้ง่ายๆก็ทำให้อนิเมเรื่องนึงกลายเป็นมาสเตอร์พีซได้เหมือนกัน
อยากฟังเรื่องสูตรลับตำหรับดันเจี้ยน
ถ้าใครชอบแนวเหงาๆเศร้าๆแนะนำเรื่องnatsume yuujinchouอีกเรื่องแต่เรื่องนี้หนักกว่าฟรีเรนเยอะ
Bochi the rock ครับ director คนเดียวกัน
แต่ไม่มีตัวละครขี้โวยวายตะโกนตลอดเวลาก็คือดีแล้ว
ตอนอ่านมังงะเมื่อสองปีก่อน คิดว่ามันดีนะอยากให้คนได้อ่านกัน แต่แนวมันเฉพาะทางมากไม่น่าจะดึงดูด อนิเมชั่นทำให้มันเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้และฮิตแบบเกินคาด น่าดีใจแทนผู้วาดและประพันธ์
ปล.หลังๆ dungeon meshi ในมังงะก็มีความคล้ายฟรีเรนเหมือนกันนะ เราจะเริ่มเห็นมิติตัวละคร และเหตุผลในการอยู่ในดันเจี้ยนของแต่ละตัวละคร
สำหรับผมเรื่องนี้เป็นหนังดูชิวๆ ไม่ต้องติดกับเนื้อหารายระเอียดมาก แค่ดูการเดินทางต่อไป
เป็นเรื่องที่เวลาเล่าย้อนอดีตน่าดูพอๆกับปัจจุบันเลย รักเลย
ผมเสียดายอย่างหนึ่งคือชื่อเรื่องภาษาไทย
คือ sousou no frieren มันแปล(ลวกๆ)ว่า คนส่งวิญญาณ หรือ คนนำผ่านวิญญาณ ประมาณนั้น
ซึ่งพอเป็นช่วงแรกๆของเรื่อง เราจะนีกว่ามันหมายถึง "ฟรีเรนผู้ส่งวิญญาณพวกพ้อง"
แต่พอเรื่องเฉลยว่า ชื่อนี้พวกปีศาจมอบให้ ความหมายจะกลายเป็น "ฟรีเรนผู้ส่งวิญญาณปีศาจ"
ตอนอ่านครั้งแรกนี่ขนลุกเลย (นี้มัน Doom slayer ชัดๆ555) อ.แกเล่นหักมุมแม้แต่ชื่อเรื่องเลยหรอโคตรเก่ง
แต่ชื่อไทยดันแปลให้เหมือนหนังสือนิยายมากกว่า gimmick ตรงนี้เลยหายไป (ยังไม่ต้องพูดถึงเวอร์ชั่นอังกฤษไกลเพื่อนสุดเลย)
ชอบฝั่งบูชาเทพธิดามาก โดยเฉพาะไฮเตอร์ที่คิดว่าตัวเองจริงๆแล้วยังเป็นเด็กที่แสร้งทำเป้นผู้ใหญ่เฉยๆเพื่อให้ความเด็กในตัวได้พึ่งพาความเป็นผู้ใหญ่นั้น จริงๆแล้วตัวแกก็ยังอยากให้มีผู้ใหญ่มาชมเหมือนเด็กคนนึง แต่อายุเยอะแล้วคงไม่มีใครที่เป็นผู้ใหญ่กว่ามาคอยชมให้ เลยนับถือเทพธิดาเพื่อให้เทพธิดาเป็นคนมาชมตอนที่ตายไปแล้ว ก็เลยโดนยายลูบหัวชมเข้าให้ แล้วฝั่งบูชาเป็นงี้ทุกคน ตั้งแต่คราฟ ไฮเตอร์ ซาย คือต้องการให้ใครซักคนมาคอยชมว่าตะวเองทำได้ดีแล้ว
ยิ่งชีวิตคุณผ่านการลาจากมามากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งอินกับ Frieren มากขึ้นเท่านั้น
เพราะทุกครั้งที่คิดถึง มันไม่ใช่ความเศร้า และไม่ใช่ความสุข
แต่มันคือทั้ง 2 อย่างนั้นผสมอยู่ด้วยกัน
อนิเมะสำหรับผู้ใหญ่โดยแท้
ผมกลับเข้าใจอารมฟรีเรนมันเหมือนคนโดนหวยแดกเก้าสิบเก้าครั้งก็รับได้ขอแค่กูถูกหวยสักหนมันก็คุ้มค่า อาการฟรีเรนมันไม่ต่างจากคนเล่นหวยซื้อสลากกินแบ่งสักเท่าไรทุกคนรู้แหละว่าโอกาสถูกแดกท่วมท้มแต่ความรู้สึกตอนถูกหวยมันเหนือกว่าไม่ว่าจะถูกแค่เลขท้ายสองตัวสามตัวก็ตาม
อนิเมที่จังหวะเล่าเรื่องช้าๆน่าจะใกล้เคียงกันคือ Violet Evergarden ครับ ถ้าชอบเพลงประกอบฟรีเรนน่าจะชอบครับ
ถ้าเฟรุนตาย ฟรีเรนก็อยู่เป็นยายให้ลูกๆหลานๆของเฟรุน อาจจะไม่ได้เดินทางต่อแล้วละมั้ง
สิ่งนึงที่ผมว่าทำให้ฉากสู้ในเรื่องนี้ดีคือ เซทติ้งในช่วงที่ดำเนินเรื่องคือยุคที่สงบจากการสู้กับเผ่าปึศาจ เป็นช่วงที่ไม่จำเป็นต้องสู้เพื่อศึกสงคราม
มันทำให้การที่ตัวละครสงบๆเหล่านั้นเลือกที่จะสู้ มันแปลว่าการต้อสู้นั้นๆมีความหมายมากขึ้นเลย
ถ้ามีคนถามว่ามีเรื่องแนวๆ frieren มั้ย ผมเรื่องแรกที่เข้ามาในหัวเลยคือ Aria เน้นดูเรื่อยๆ และได้ข้อคิด
ดูอนิเมะไป 3 ตอนแล้วคิดว่าไม่ได้ละต้องอ่านเลยย้ายไปอ่านแทนมันสุดยอดจริงครับ
โซลทราคของเฟรุนนี่เหมือนเป็น ”กระบวนท่าเดียวที่ซ้อมเป็นหมื่นครั้ง“ ในโควทของบรูซ ลีเลย 555
โซโล่เลเวลลิ่ง หลังๆในช่วงอาเตอร์สตอรี่นี่ก็อิ่มเอมใจนะ
ยังไม่กล้าดูตอนสุดท้ายเลย 🥺🥺🥺
ดู 2 ตอนแล้วยังไม่ทัช จะให้โอกาสถึงตอนที่ 5 ไม่งั้นจะเทละ
ใครหาแนวนี้แนะนำ Spice wolf อาจจะไปเป้ะแต่หายคิดถึงได้
คนที่เล่น DnD แล้วจบ แคมเปญกับเพื่อนไปเมื่อนานมาแล้ว คุณจะอินแล้วเข้าใจความรู้สึกเลย😢😢😢
อ่านครั้งแรกตอนยังเรียนอยู่ไม่เข้าใจถึงความสนุกของเรื่องนี้ฉากต่อสู้ก็ห่วยสุดๆ เทียบกับนั่งดู kino no tabi รู้สึกไม่อินเท่า แต่พอมาตอนนี้เข้าวัยทำงานได้กลับมาอ่านแถมมีเมะให้ดูอีกถึงได้ใจถึงความดีงามความสวยงามของเรื่องนี้ ฉากต่อสู้ในมังงะไม่ว้าวเหมือนเดิมแต่ในเมะทำได้ดีอลังการจนไม่รู้สึกติดขัด ยกให้เป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก แต่ส่วนที่ไม่ชอบในเรื่องนี้ก็มีแถมขัดใจเราสุดๆ เลยอวยได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่
คิโนะนี้นิยายสนุกมาก แต่บางฉากก็แอบสยองและขนลุก 555 😅🤣