สภาผู้บริโภคเผย ศาลยกฟ้องกรณีคดีผู้เสียหายถูกแบงก์ฟ้องร้อง หลังโดนแอปดูดเงิน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
- ไม่นานมานี้เกิดเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายถูกธนาคารฟ้องร้องเรียกเก็บเงิน จากที่ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแอปดูดเงิน และไม่ได้ชำระรายการที่มิจฉาชีพเพิ่มวงเงิน และกดเงินสดจากบัตรเครดิตออกไป จนกระทั่งช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศาลแขวงระยองได้พิพากษายกฟ้องกรณีนี้ เหตุผลที่ศาลยกฟ้องกรณีนี้มาจากสาเหตุอะไรบ้าง รับชมในคลิปนี้ได้เลยครับ
#Banking #Fraud #Lawsuits #แอปดูดเงิน #ข่าวสั้นล้ำหน้าโชว์ #TechOffside
ขอบคุณข้อมูลจาก สภาผู้บริโภค
ลิงก์ : www.tcc.or.th/...
พี่หลามยังเล่าไม่ครบครับ เจ้าของบัตรเขาแจ้งอายัดบัตรเครดิตทันที แต่ธนาคารเพิกเฉย ศาลเลยตัดสินให้เป็นหน้าที่ของธนาคารรับผิดชอบ เนื่องจากการตัดผ่านบัตรเครดิตยังมีเวลาให้อายัดอยู่
อ๋อแบบนี้นี่เอง ผมก็คิดอยู่ว่ามันแปลกๆ ถ้าแบบนั้นเราก็โกงธนาคารเป็นว่าเล่นน่ะสิ 😅
ถ้าบอกแบบนี้ก็ชัดเจนแล้ว แบงฟ้องงอแงเองแล้วแบบนี้ จะตัดสินแบบนั้นก็ไม่แปลก
ผมว่าควรแก้ที่บัญชีม้าด้วยนะครับ โดยการเพิ่มบทโทษให้แรงกว่าปัจจุบัน10เท่า
ไม่งั้นมันก็ขายบัญชี300-1000บาทชิวๆ พอโดนจับก็ตีหน้าเศร้าบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บ้านจน ลูกป่วย พ่อแม่แก่ อ้างเหตุผลสารพัด
พอถึงชั้นกระบวนการยุติธรรม ก็สารภาพ ลดโทษ สุดท้ายก็ออกมาใช้ชีวิตปกติ ประนึงโดนแค่ไม้บรรทัดมาตีมือใครมันจะกลัว
บัญชีม้าบางคนก็ไม่ได้เต็มใจเปิดครับบางคนโดนขโมยข้อมูล บางคนโดนหลอกจากการสมัครงาน หรือสมัครพวกสินเชื่อต่างๆ หรืออะไรก็ตามแต่มันมีหลายปัญจัยครับ
ผมว่าช่องโหว่ที่ศาลหมายถึงไม่ใช่แค่ข้อผิดพลาดที่คนร้ายสามารถเจาะหรือแฮคเข้าไปได้นะครับ แต่เป็นตัวภาพรวมของระบบเองที่ยังไม่ปลอดภัยพอ รวมถึงที่พี่หลามพูดเรื่องการชะลอธุรธรรมด้วย 😢
ถ้าระบบดี คนโง่ที่สุดในโลกก็ไม่โดนหลอกหลอกครับ
ธนาคารตัวดีเลยครับ ประชาชนยังใจดีไม่รวมตัวฟ้อง ปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลหลุด โดนแฮก แต่ส่วนใหญ่มาจากพนักงานธนาคารเองครับ
ธนาคารต้องรับผิดชอบ100%ทุกกรณีที่โดนหลอกครับ เพราะเงินเราฝากไว้กับเขา เราอุ่นใจเมื่อเงินอยู่กับธนาคาร แต่ธนาคารจะทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เดือดไม่ร้อน มันไม่ได้นะ เพราะเดี๋ยวธนาคารจะหาทางป้องกันเงินเราเองครับ
ธนาคารเขา เอาเงินคนฝากไปหมุนไปลงทุนได้กำไลมากมาย ภาระตรงนี้ ธนาคารควรรับผิดชอบโดยตรง ถ้าธนาคารใด ไม่คิดรับผิดชอบ คุณก็ประกาศออกมาเลย ผมจะถอนให้หมดแบงค์และไปฝากธนาคารที่ มั้นใจระบบป้องกันตัวเอง
แบบนี้ผมก็สร้างกลุ่ม ไลน์ แกล้งว่าโดนแอบดูดเงินออก ได้สิครับ เพราะ ธนาคารต้องรับผิดชอบทุกเคส ซึ่ง สาเหตุที่โดนดูดเงิน คนมันโง่เองอะครับ
เรื่องแบบนี้คิดง่าย ๆ แต่พวกใหญ่โตมันเข้าข้างกันเองจนกรรมตกอยู่ที่ชาวบ้านที่ไม่มีพวกพ้องปากเสียงอะไร
จริง ๆ เงินในบัญชีที่ถูกดูดไปเป็นเงินธนาคารด้วย ไม่ใช่เงินเรา ถือเป็นช่องโหว่ของแอปธนาคาร ไม่ใช่ให้คนใช้แอปต้องมารับผิดชอบแบบนี้
คนไทยต่างกับฝรั่งที่ขาดจิตสำนึกในการปกป้องสิทธิตนเองอยู่ เห็นว่าศาลตัดสินถูกต้องแล้ว เพราะ ธนาคารมีศักยภาพมากกว่าผู้ใช้บริการ
ธนาคารต้องรับผิดในความประมาทที่ไม่ทำระบบป้องกันให้ดีเอง ถ้าบอกปัดให้เป็นความรับผิดของผู้ใช้บริการ ธนาคารก็จะละเลยไม่ป้องกัน เป็นการลงโทษธนาคารที่ผลักภาระให้ผู้อื่น
ถ้าไม่ปรากฎว่าผู้ใช้บริการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือทุจริตเสียเอง ก็ต้องตัดสินให้เป็นคุณแก่ผู้บริโภคที่อ่อนแอกว่า
ดาบ 2 คม
ผมขอ ออกความเห็น ส่วนตัวนะครับ
ที่จริง ให้ธนาคาร เป็นคนเสียหาย มีข้อดีที่ดีมากๆนะครับ อะไรที่ว่าดี เพราะปัจจุบัน เท่าที่ผมมีข้อมูล พวกมิจฉาชีพ บ้างกลุ่ม มี api ธนาคาร 😅 เพื่อทำให้ธนาคารตื่นตัวจาก เหตุการนี้มากขึ้น ให้เลิก พัฒนาแอพ ธนาคารจอมปลอม ที่เพิ่มแต่ช่องโหว่ เข้าไปเรื่อยๆโดยเฉพาะธนาคารไทย ให้มาทำช่องโหว่ที่มี ให้หมด เพื่อใช้คนใช้ ปลอดภัยมากขึ้นไม่ใช่เพื่อให้ มันสวยขึ้นแต่ปลอดภัยน้อยลง ให้นักพัฒนาแอพธนาคารมาเถียง ก็ได้ ท่าคุณว่าแอพคุณ ปลอดภัยมากพอจริงๆ ผมจะทดสอบให้ เองว่าปลอดภัยจริงไหม มีช่องโหว่ ไหนอีกไหม ผมกล้าพูดว่ามี และผมรู้ด้วยแต่ ขอเงียบไว้ละกัน
ก็แค่เลือกให้โอนเฉพาะในประเทศ หรือ เลือกบ้นชีที่โอนประจำได้โอนได้ทันที บันชีแปลกบันชีฅ่างประเทศให้ส่งsmsยืนยันสองขั้นฅอนเพื่อยืนยันการโอนเงิน
แล้วข้อมูลที่ธนาคารปล่อยหลุดมา ซื้อขายข้อมูลบุคคลในตัวพนักงานธนาคาร ที่แอบนำข้อมูลส่วนบุคคล ไม่เคยเห็น ธนาคารรับผิดไรเลยครับ
แนวคิดที่ให้ธนาคารเป็นตัวกลางก่อน คือผู้โอนไปให้ปลายทางแต่เงินจะถูกพักที่ธนาคารก่อน แล้วค่อยยืนยันตัวตนถอนเงินได้ก็น่าจะช่วยได้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าหลายธนาคาร หลายหน่วยราชการก็มีคนเก่งๆ แต่ทำไมแนวคิดนี้ไม่เกิด
ตอนที่มีข่าวบัญชีม้าทุกวันผมก็คอมเม้นท์แบบนี้นะ จนวันนี้ได้ยินพี่หลามเสนอแนวคิดนี้คือเป็นการตอกย้ำว่าวิธีนี้มันดูจะปลอดภัยกับทุกฝ่ายระดับนึง
แบบนี้จะคล้ายอเมริกาที่ดู 9arm มา ทำได้แต่ว่าระบบ พร้อมเพย์ จะทำให้เกิดไม่ได้ การจ่ายเงินจะยุ่งยากขึ้น ต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง
พี่หลาม มีไรกับธนาคารไหมครับ แลเข้าข้างจังครับ เรื่องนี้ผิดตั้งแต่ที่ ธนาคาร ปล่อยมี ขายข้อมูล ลูกค้าใน บริษัทร่วมธุรกิจ เช่น ประกัน การลงทุน ระบบหลังบ้าน เช่น พนักงานธนาคารสามารถเข้าถึงข้อมูล แบบส่วนตัวมาก ไม่มีการใช้ รหัส พนักงานธนาคาร 2-3 คน ในการขออนุญาตเข้าข้อมูล เช่น ก็อปปี้ไฟล์ เครื่องมือสื่อสาร ส่วนตัวพนักงานธนาคาร ห้ามใช้ในเวลาทำงาน
ผมว่าเป็นกลางแล้ว คุณแหล่ะครับมองเห็นมุมมองเห็นแก่ตัว เพราะคุณคือคุณใช้มุมมองเด็กน้อยอยู่แสดงว่าคุณไส่เป็นแค่เด็กน้อยขอดงินพ่อแม่ไม่ก็พนักงานเงินเดือน มันต้องเป็นพสกที่เคยค้าขายด้วยถึงจะมีความเป็นกลาง แบบคุณหลามนั่นล่ะ ที่เคยเป็นทั้งลูกจ้างนายจ้างทั้งค้าขาย ความคิดเขาเลยสมดุลแล้วไม่เอียงข้างแบบคุณ
แอพ ธนาคารไม่ปลอดภัย
ควรสงวนสิทธิ์ การใช้แอพฯ มือถือ สำหรับ ผู้ที่มีความ รอบคอบ เท่านั่น
ชาวบ้านทั่วไป ไม่ควรเข้าถึง แอพพวกนี้ ให้เปิด บัญชี ทำ ธุรกิจที่เคาเตอร ตามปกติ บอกเลยว่า ช่วยได้เยอะ
เห็นด้วยครับ แต่การจำกัดวงเงินมีอยู่แล้วนี่คับ เค้าบังคับให้ไปเซ็ทติ้งในแอพอยู่แล้ว
พี่หลามคับ ตั้งแต่ผ่านยุคฟองสบู่แตก มีธนาคารใหนขาดทุนบ้างมั๊ยคับ และผลกำไรที่เกิดขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มาจากการเอาเงินลูกค้าไปแสวงหาให้ได้มาซึ่งผลกำไรทั้งสิ้น
ธนาคารเอาเงินลูกค้าไปทำกำไร ถูกต้องแล้วครับ ไม่ได้เรื่องผิดเลย
จุด ดี มีเยอะ ครับ 95%
ด้อย 5%....????
น่าลองดูนะครับความคิดนี้
คิดว่า ระบบไปถูกทางแล้วที่ควรให้ธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะธนาคารเป็นผู้ที่มีศักยภาพ และออกแบบควบคุมระบบ แตกต่างจากผู้บริโภคผู้ใช้งานที่ไม่สามารถทำในส่วนนี้ได้ ทำได้อย่างเดียวคือขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าให้เจอมิจฉาชีพพวกนี้เลย. ส่วนไอเดียการแก้ปัญหาของพี่หลามคิด มันจะเป็นความวุ่นวาย อาจทำให้ระบบยุ่งยากซับซ้อนและสับสน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อปัญหาที่กำลังจะแก้ไข แต่จากไอเดียนี้หากปรับเปลี่ยนนิดหน่อยอาจะใช้งานได้ คือร้านค้าที่ประสงค์จะให้ลูกค้าชำระเงินออนไลน์ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการกับธนาคาร และทางธนาคารต้องสกรีนบัญชีเหล่านี้ให้เข้มงวด ลูกค้าชำระเงินปุ๊บ เงินควรเข้าปั๊บ. แต่ถ้าเป็นร้านค้าที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ การชำระเงินจากลูกค้าจะถือเป็นการโอนเงินทั่วไป ธนาคารก็ไปตั้งกฏเกณฑ์เพื่อป้องกันการเสียหาย และให้เป็นระเบียบเดียวกัน ไม่ใช่ให้ลูกค้าเป็นผู้ยินยอมหรือไม่ยินยอม อย่างเช่นการโอนเงินให้ผู้ติดต่อรายใหม่เป็นครั้งแรกระบบจะดีเลย์การโอนเป็นเวลา1-3วัน ในวงเงินที่ผู้ใช้งานกำหนดเองได้ และหากมีการโอนเงินให้กับผู้ติดต่อรายใหม่นี้เกินXครั้ง การทำธุรกรรมครั้งต่อๆไปก็จะเป็นปกติ .สุดท้ายการผลักภาระให้ธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบจะเป็นการกระตุ้น ธนาคารได้ดีสุด ที่จะให้ธนาคารให้ทำระบบได้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นมาใช้งาน
แนวคิดนี้ดีครับ ตั้งระบบตรวจสอบตัวตนความเน่าเขื่อถือที่ชัดเจน
กรณีนี้ธนาคารผิดเต็ม
ทีกรณีเป็นบัตรเดบิตผู้ใช้รับไปเต็มๆเพราะเป็นเงินของผู้ใช้
แต่กรณีบัตรเครดิตเป็นเงินธนาคารยังจะให้ผู้บริโภครับผิดชอบอีกหรือ มันเป็นความรับผิดชอบของธนาคาร ถ้าเจ้าของบัตรเครดิตโกงบัตรเครดิตธนาคารก็ฟ้องเอาผิดได้
พอใจในคำตัดสินของศาลในเรื่องบัตรเครดิต
เพราะจะทำให้ธนาคารมีความรับผิดชอมต่อลูกค้ามากขึ้น
ไม่ใช่รับแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียว
ใช้วิธีลงทะเบียนดีมั้ย บัญชีที่มีการยืนยันตัวตนการค้าแล้วเมื่อมีเงินโอนเข้าได้ทันที แต่บัญชีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนมีเวลาดีเลย์2-3ชั่วโมง
ผมซื้อ idea นี้ครับพี่หลาม ต้องเปลี่ยนจากพี่หลามเป็น พี่หลามแหลม แล้วครับ good idea
ธนาคาร สามารถ แฮ็กตัวเองได้ นะจ๊ะ 😂😂😂 ( ในทางภาคทฤษฎี 100% ... ส่วนทางภาคปฏิบัติมีกฎหมายคุ้มครอง )
เพราะระบบคอมพิวเตอร์ทั้ง 100% อยู่ที่ธนาคาร ทั้งหมด
คนไทยควรเข้าใจ ให้ละเอียดถ่องแท้ทุกภาคส่วน ❤❤❤
เขาเป็นญาติกับคนตัดสินเรื่องก็เลยเป็นอย่างนี้ คนทั่วไปเก๋อีกแบบ
ผมเห็นด้วยว่าต้องจับโจร แต่ไม่เห็นด้วย กับ ธนาคารไม่รับผิดชอบ ธนาคารต้องมีระบบป้องกันซิครับ และจะมีธนาคารไว้เก็บเงินทำมัย เช่นบัตรเคดิตร ออกไปโดยที่เราไม่รู้ บอกเราโง่เอง ผมว่าง ไม่ใช่นะครับ
ก็เป็นเหตุเป็นผลและยุติธรรมดี ธนาคารบกพร่องเองที่ขยายวงเงินให้มิจฉาชีพ โดยที่เจ้าของบัตรไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมเรื่องการขยายวงเงิน
น่าจะหน่วงเวลา ถอนเป็นเงินสด หรือ โอนต่างประเทศ ผมว่า ถ้าโอนภายในประเทศ ธนาคารเค้าคงเช็คไม่ยากหรอกว่า ไปถึงไหนต่อไหน แต่ถ้า กดตังออกไปแล้วคือจบ ตามยาก
ส่วนทฤษฎีพักเงินผมเคยเอาทฤษฎีพี่หลามไปเสนอกับกระทรวงde ตำรวจไซเบอร์แล้วครับเรื่องการพักเงินดีเลย์เงินก้อนเยอะๆออกไป ตอนนั้นจำได้ว่า ให้ดีเลย์ไว้3วันเลยเพราะบางทีกว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกบางคนโอนจนหมดตัวเป็นเดือนๆก็มีอย่างพี่สาวผมเป็นต้น ซึ่งผมเคยเสนอให้มีการออกกฏหมายพักเงินคุยกับ จนท กระทรวงdeเค้าก็เห็นด้วยกับผม แต่จะมีการแก้กฏหมายนั้นก็ขึ้นอยู่กับ สว สส ในสภา ซึ่งตอนนี่ผมยังมองไม่ออกว่า สส สว ณ ปัจจุบันจะเห็นความเดือดร้อนของปชช มากแค่ไหน แต่ทฤษฏีพี่หลามผมเคยเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วแล้วพี่หลามก็ยังออกคลิปมาเพื่อยืนยันทฤษฏีของผมด้วย ขอบคุณครับผมบอกเลยถ้าแก้กฏหมายตรงนี้ได้อุดช่องโหว่มิจฉาชีพได้อยู่หมัดแน่นอน
เรื่องโดนหลอก ต้องว่าเป็นกรณีๆไป ในกรณีนี้ชัดเจนว่าธนาคารเป็นผู้ผิด เงินถูกดำเนินการใดๆในขณะที่เจ้าของบัตรได้อายัติบัตรไว้แล้ว แต่ในอีกหลายกรณี อย่างโอนด้วยตัวเอง กรณีแบบนี้คงยากที่โยนความผิดให้ธนาคาร
ผมเห็นด้วยครับ
ถึงจะไม่ครบรอบด้านหรืออย่างไร
แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นการริเริ่มรูปแบบเพื่อพัฒนาต่อยอดได้
#ดีกว่าไม่ได้เริ่มอะไรเลย
ใช้ 2FA สิครับ คือถ้าจะโอนเงินก้อนใหญ่ๆ ต้องไม่ได้ระบุแค่รหัสผ่าน แต่จะต้องส่ง OTP มาที่อีเมลลล์ของเราด้วย ถ้าใครเซฟตี้หน่อยก็แยกเมลล์ที่ใช้รับ OTP กับเมลล์หลักที่ใช้ประจำด้วย แล้วปิดการแจ้งเตือนทคราวนี้มิจก็ไม่รู้ว่าเราใช้เมลล์ไหน โอกาสดูดเงินสำเร็จก็จะมีน้อยลง โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีหน่วงเวลา
พี่หลาม บอกว่า มิจ ต้องรับผิดชอบ ถึงเวลาจริง มิจ มันก็โอนเงิน ฟองเงิน หรือเอาเงินไปใช้หมดแล้ว สุดท้าย ลูกค้า หรือ ธ. ก็ 0 ด้วยกันทั้งคู่ กฏหมายเขาถึงตีให้ ธ. ต้องรับผิดชอบไง
เห็นด้วยกับพี่หลามในการยินยอมชะลอเงินเพื่อให้เราสามารถยกเลิกการโอนได้ แต่ถ้าโจรก็รู้ว่ามีการชะลอ แล้วทำการปลดล๊อกได้ด้วยแอปก็จะไม่เกิดประโยชน์ ที่ควรทำคือทำอย่างไรให้การปลดล๊อกไม่สามารถทำได้ด้วยแอปธนาคาร แต่จะด้วยวิธีการใดนี่คือเรืองที่ต้องคิด พี่หลามจบ EP นี้แล้วจะทำไอเดียร์ดีๆที่คิดได้แบบนี้ต่อยังไงครับ
อยากให้มีบัญชีพักเงินก้อนใหญ่ของเราที่จะไม่ให้มีในแอพธนาคารต้องไปดำเนินการที่ธนาคารเท่านั้นและมีผลอีก 1 วันทำการ เพื่อจำกัดความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โดนหลอกแล้วหมดตัวทุกบัญชี ถ้าเราอยากใช้เงินก้อนนี้ต้องวางแผนหน่อยแค่นั้นคร้บ ดีกว่าหมดตัวเพราะโดนหลอก
พี่หลามเข้าใจผิดครับ คือตอนนี้เค้าพยายามบีบให้ธนาคารหามาตราการป้องกันด้วยพร้อมกับฝ่ายจับกุมครับ
จริงๆหลายคนยังไม่เข้าใจประเด็นนี้
คือประเด็นเรื่องบัตรเครดิต
ศาลตัดสิน ว่าการดึงเงินสดจากบัตรเครดิตมันคือการกู้เงินจากธนาคารมาใช่ และกระบวนการทำสัญญาในกรณีนี้ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถือบัตร ธนาคารที่เป็นเจ้าของเงินจึงต้องรับผิดชอบ
ส่วนที่เอาจากบัญชีโดยตรงจึงไม่ใช่ความรับผิดชอบจากธนาคารไงครับ
สงสารธนาคาร ป้องกันจนไม่รู้จะป้องกันยังไงละ เลขหลังบัตร ก็ให้เขาไปเอง Otp กับ pass ก็ไปโหลดแอปนอกโง่ๆให้โดนดักเอง น่าเบื่อ ต่อให้ทำตามพี่หลามว่าแม้งก็มีคนโดนอยู่ดีอ่ะ เพราะเขาขออะไรก็ให้เขาหมด คนโดนหลอกมันไม่รู้ตัวว่าตัวเองโดนหลอก จะวิธีอะไร ต่อให้รอเป็นวัน มันก็ยังไม่รู้ตัวว่าโดนหลอก เพราะมิจฉาชีพมันก็พูดไปเรื่อบอ่อเรื่องนี้ต้องรออนุมัติในวันพรุ่งนี้นะ แม้งก็เชื่อชิลไม่ตรวจไม่เช็คไม่คิด งงเหมือนกันมีปัญญาหาเงินแต่ทำไมโดนหลอกกันได้ง่ายแบบนี้
รัฐสามารถบล็อคช่องทางการโกงได้ รัฐสามารถบีบให้เหลือการโกงแบบอนาล็อคจนจับตัวอาชญากรได้ ก็เป็นได้😂😂😂😂
คล้ายๆที่ผมคิดนะวิธีพี่หลาม แต่วิธีผมคือ ให้การโอนเงินทางแอปจำกัดได้แค่วันละไม่เกิน 1 แสน หรือ 5 หมื่นก็แล้วแต่ แล้วจะมีคำถามว่าถ้าจะโอนมากกว่านี้ละจะทำไง ตอบคือไปธนาคารครับ เพราะคนทั่วไป ไม่มีใครจ่ายเงินกันเกินวันละแสนหรอกครับ แต่ถ้าบุคคลหรือหน่วยงานใดๆ มีความจำเป็นต้องต้องมีการโอนเงินจำนวนมากๆบ่อยๆให้ไปยื่นขออนุญาตเปิดการโอนแบบวงเงินสูงๆจากธนาคารเป็นรายบุคคลไป โดยบุคคลผู้นั้นจะต้องยินยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเอง แค่นี้เองไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ใครเห็นว่าวิธีของผมมีจุดอ่อนยังไงช่วยเม้นบอกด้วยครับ
ธนาคารเป็นเหมือนคนกลาง อะไรที่เสียผลประโยชน์ทางคดีความ เขาก็เพิกเฉยง่ายกว่า ไม่เช่นนั้นคงทำไปตั้งนานแล้ว
พึ่งจะแจกหมื่นนึง ต้้องรีบดูดดดดดดด จ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบ
ธนาคารทำไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับบัญชีมิจฉาชีพทั้งๆที่มีข้อมูลเต็มพิกัดสามารถไล่ไปถึงตัวผู้กระทำความผิดได้ด้วยซ้ำ ทำไม่รู้ไม่เห็น และอ้างปกป้องบัญชีลูกค้าควรมีกฎหมายเอาผิดธนาคารด้วยนะ
วิธีนี้เหมาะกับการซื้อของออนไลน์ บุคคล กับ บุคคล น่ะครับ ไม่ส่งของ ของไม่ตรงปก
09:14 หน่วงเวลาได้ครับ เราถอนเงินจากกองทุนต่าง ๆ ยังมี 2 วันทำการเป็นอย่างน้อย ขึ้นเชคหลังบ่ายสองยังต้องรอวันทำการถัดไป
เมืองนอกโอนเงินข้ามพื้นที่ก็ต้องรอเป็นวัน
แต่การหน่วงเวลามันก็แลกมาด้วยความสะดวกที่ลดลง
การหน่วงเวลาแบบนี้ ไม่ต่างกับการไปทำธุรกรรมหน้าเคาเตอร์ ทำให้บางประเทศการทำธุรกรรมทาง electronics ถึงไม่โตเท่าบ้านเรา
สุดยอด ครับ พี่หลาม ผมขอแถมอีกนิด กรณี โอน ต่อกันในยอดเท่าเดิม เช่น กรณี โอน ยอดที่ไม่ต้องยืนยันตัวตน แบบรัวๆๆ ก็น่าทำครับ คนอะไร จะ ต้อง โอน ยอดเดิมติดกัน ขนาดนั้น ครับ
โอน ยอดเดิม 3 ครั้ง ก็ น่าสงสัย แล้ว ครับ 55555 ( 100 บาท 100 ครั้ง ภายใน 100 นาที ก็ 1000 บาท แล้ว นะครับ รายได้ดีกว่า ค่าแรงขั้นต่ำ ด้วย ครับ )
พี่หลามเข้าข้างธนาคาร ไม่เป็นกลางเลย ศาลยุติธรรมมากที่สุดแล้วครับ คำตัดสินของเป็นที่สุดครับ หรือ พี่หลามจะย้อนแยงคำตัดสินของศาลหรือครับ
หลาม ไม่เคยเป็นกลาง
ไม่ใช่ครับ ถ้าคนทำไม่ใช่เรา ธนาคารต้องรับผิดชอบอยู่แล้วตามกฎหมาย!
ระบบที่ว่าปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่ส่วนมาใช้กับการซื้อขายระหว่างประเทศในวงเงินสูง เรียกว่า LC (letter of credit) ธนาคารทั้งสองฝั่งจะเป็นคนยืนยันให้ ประเด็นคือมันมีค่าใช้จ่ายในการออก LC ใครจะเป็นคนจ่าย คนโอนยอมจ่ายไหม ไหมคนรับเงินยอมได้เงินช้าไหม คุ้มหรือเปล่าต่างหาก
อีกทางหนึ่งคือให้เงินโอนอิเล็กทรอนิกส์ มีตัวระบุว่าโอนให้ใครเพื่อการใดหรือเพื่อชำระค่าอะไรกับใครต่อไป .. ถ้าเงินที่รับไป ผู้รับใช้ไม่ตรงตัวระบุ ก๋จะใช้ไม่ได้ และถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีเจตนทุจริต
ขอแนะนำเพิ่มครับ เราควรมีระบบรวมศูนย์บัญชีธนาคารทั่วประเทศ และให้สามารถมี บช 1บช ในราคาปกติต่อคนเท่านั้น แต่ถ้าไครต้องการมากกว่านั้นจะต้องเสียเงินประกันที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้คนทั่วไปเปิด บช ได้ง่ายๆ แบบนี้น่าจะลดได้เยอะ ส่วนธนาคารก็ไม่ควรรับผิดชอบฝ่ายเดียวแต่ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่ใช้ความเห็นแก่ตัวเองเป็นที่ตั้ง
เป็นระบบเเคริ่ง ของ ธนาคาร อยู่ แล้ว เวลาเอาเช็ค(ในระบบนี้) ไปเข้า
ง่ายๆ
1. ใครเป็นเจ้าของบัญชีม้า โดนจับจริง ปรับจริง จะได้ไม่กล้าเปิดบัญชีให้มิจฉาชีพ
2. ซิมโทรศัพท์ หากตรวจสอบพบเจ้าของเบอร์ก็ให้ดำเนินคดีหนักๆ
3. ยอดเงินที่โอนหรือถอนผิดปกติ ต้องมีการยืนยันตัวตนโดยการ call กับเจ้าหน้าที่ หรือถ้าผู้ที่มีการยืนยันตัวตนแล้วไม่ต้อง
ความคิดของผมเอง
ฟีงแล้วแปลกๆ ทุกการกระทำผิดยอมมีกระบวนการ ผมว่า ธนาคารกับค่ายโทรศัพท์ต้องรวมรับผิดชอบครับ ที่ปล่อยให้กระบวนกการเหลานั้นเกิดขึ้น ต่อให้เงินอยู่ในบัญชีม้าแล้วเป็นวันๆ ธนาคารก็น่าจะดึงกลับเองไม่ได้นะ
มุมมองคุณหลามมีความเป็นกลางแล้วครับ ไม่เหมือนคนเม้นบางคนที่เม้นเข้าข้างตังเองมากเพราะตัวเองยังเคยอยู่แค่ในตำแหน่งขอเงินพ่อแม่ หรือลูกจ้าง ยังไม่เคยค้าขายหรือทำธุรกิจ ทซึ่งทุกอย่างต้องสมดุลกันไม่งั้นระบบพัง
ถูกต้องที่สุด เงินก้อนใหญ่ รอได้ เช่นจ่ายค่า ดาวน์รถ 200,000 ผมนั่งรอที่โชว์รูมได้ เซล์ขายรถก็รอได้ แค่ 30 นาที
ตอนนี้เค้าพยายามกดดันให้บรรดาธนาคารต่างๆมีส่วนร่วมในการป้องกันด้วย ธุรกรรมโอนต่อเนื่องข้ามไปมาทำไมอายัดไม่ำด้
พี่หลามคิดดีทำดีเป็นประโยชน์ของผู้ฟังอย่างผมเลยครับทำความดีเพื่อความดีได้บุญแน่นอนครับ
ไม่ใช่เงินของลูกค้า เป็นของธนาคาร คือ เงินเครดิตของธนาคารให้ลูกค้า
ก็ดีนะ เงินก้อนนี้เข้า ห้ามโอนออกก่อน 24 ชั่วโมง ก็ดีนะ จำนวนไหนไม่เกิน 24 ชั่วโมงห้ามโอนออก
ขอแชร์ไอเดียเพิ่มครับ
ให้ ธ. สร้าง บช ที่เอาไว้เก็บเงินก้อน
โดยที่ บช นี้จะโอนเข้าได้อย่างเดียว
เวลาถอน ต้องมาที่สาขาเท่านั้น
ไม่สามารถโอนออกเองได้
กว่าจะไปแจ้งความ กว่าตำรวจจะขยับ เกิน 30นาทีแน่นอน
ต้นเหตุมันอยู่ที่บัญชีมัากับซิมผี ถ้าปราบบัญชีมัากับซิมผีได้ คอลเซ็นเตอร์ก็จะหายไปเอง
จริงเรามีการควบคุมวงเงินอยู่เเล้วในการโอนเเต่ละรอบต้องเเสกนใบหน้า เเต่กรณีนี้ เกิดอะไรขึ้นถึงเพิ่มวงเงินได้
ผมว่าไปเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยของธนาคารโดยไม่กระทบความคล่องตัวของการทำธุรกรรมและให้ความรู้และภูมิคุ้มกันต่อผู้บริโภคดีกว่ส
พี่ครับผมขอเสนอความคิดด้วยครับ ทำไมธนาคาร ไม่ทำระบบยืนยันการถอนเงินก่อนที่เงินจะออกจากบัญชี โดยให้มีระบบข้อความส่งไปที่เจ้าของบัญชีว่าจะมีเงินจำนวนหนึ่งออกจากบัญชี และให้เจ้าของบัญชีเป็นคนกดเลือกคำสั่งตกลง หรือ ไม่ตกลง ด้วยตัวเองอีกครั้งก่อนการถอนเงิน น่าจะแก้ไขได้ในกรณี ใช้ app ดูดเงินที่ผู้เสียหายไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังโอนเงินออกจากบัญชี :)
ปรับวงเงินโอน max ต่อวันให้ยากๆหน่อย ไม่ให้ทำ online ง่ายๆ
ดีมากครับ
ไม่ใช่ครับ หากมิขฉาชีพแฮ็กเพิ่มวงเงิน กดถอนเอง นั่นคือปัญหาการรักษาความปบอดภัยของธนาคาร ธนาคารต้องรับผิดชอบ เพราะเขารักษาเงินหรือเครดิตเราไม่ได้
ดีครับ ให้ธนาคารเป็นตัวกลาง เหมือนซิ้อของในแอปออนไลน์เจ้าดัง ไม่ต้องกลัวโดนโกง เงินกองไว้ที่ตัวกลางก่อน
ส่วนมิจฉาชีพก็ตามจับกันไป หากจะหามาตรการดีเลย์แลเพิสูจน์ทุกธุรกรรมที่มีวงเงินสูง…ต้องใข้เจ้าหน้าที่กี่คร เพร่ะแต่ละวันมีกี่ธุรกรรมครับ
น่ามีสถิติด้วยว่าแอพดูดเงินที่โดนกับโทรศัพท์ยี่ห้ออะไรรุ่นไหนเครือข่ายไหนธนาคารไหนบ่อยสุด
กดเงินสดจากบัตรเครดิตเป็นช่องโหว่ใหญ่มาก ธนาคารก็หาทางแก้ลำบาก
ไม่เห็นด้วย ทุกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ แนะนำให้ไปอ่านคำพิพากษาให้ชัดเจน
ใช้เคสที่ผู้เสียหายเค้าแจ้งธนาคารแล้ว แต่ธนาคารไม่สนใจหรอป่าว??
สมัยนี้มือถือกันทุกคนแล้ว โอนเงิน ให้ใช้สแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือ หรืออื่นๆ
ถ้ามิตรรู้ว่าขั้นต่ำเราเท่าไหร่เข้าก็ จัดการโอนขั้นต่ำเราซ้ำ ๆได้อีกครับ
ต้องคิดครับ call เอาเบอร์เราไปได้ยังไง ปัจจุบัน ไม่มี call โทรหาผม หลายเดือนแล้ว
สัปดาห์ที่แล้วดูรายการไหนจำบ่ได้ เหมือนพรรคก้าวไกลจะเสนอข้อเสนอนี้ไปแล้วนะครับ
ขอโทษครับ ผมอาจจะไม่เห็นด้วยนะครับ
ได้เงินพวกเราไปต่อยอดทำกำไรเยอะละ
พัฒนาระบบ และความรับผิดชอบบ้างเถอะนะธนาคารทั้งหลาย
ยิ่งต้องทำระบบให้ดีเลย ป้องกันทั้งโจรและคนหัวหมอ ให้ได้
มันก็ดีนะครับแต่มันซับซ้อนไม่น่าจะใช้กันไหวขนาดรัฐให้ลงทะเบียนรับเงินนิดหน่อยยังทำไม่เป็นกันเลย ให้เปิดบัญชีที่รับเงินอย่างเดียวโอนออกต้องไปยืนยันหน้าเคาเตอร์ง่ายกว่า
ยังไงผมก็คิดว่าธนาคารต้องอุดช่องโหว่ หรือช่วยผู้บริโภคให้มากที่สุด
พูดไปเรื่อยรู้ๆยุระบบธนาคารควรแก้ตั้งแต่เริ่มแล้ว
ยกเลิกแอพธนาคารผ่านมือถือทั้งหมด กลับไปใช้สมุดบัญชีเงินฝาก-ถอนเหมือนเดิม
ธนาคารก็ได้ดอกได้ดวงไปแล้วก็เอาส่วนนั้นมาตั้งมาตรการในแอพเข้าไปสิ
ผมเห็นว่า ที่ถูกต้องคือ ถ้าธนาคารมีส่วนรีบผิดชอบ มันจะขยันหาทางแก้ใขระบบให้รัดกุมเอง 😂
จริงๆธนาคารมีหลายวิธีในการตรวจสอบก่อนการโอนเงิน แค่ไม่ยอมทำแค่นั้นเอง ถามว่าถ้าธนาคารไม่ร่วมรับผิดชอบ ธนาคารก็จะไม่ยอมลงทุนในเนื่องการป้องกัน 😅
ถามว่าธนาคารคิดไม่ใด้หรอระบบป้องกันอะ มันคิดใด้ครับ แต่มันไม่ยอมลงทุนทำระบบป้องกันครับ
เงินจำนวนมากควรพักที่ธนาคารก่อนจนกว่าคนโอนจะคอนเฟริมอีกรอบก็ดีครับ
ประเด็นที่ว่า ไม่ควรที่ธนาคารจะต้องรับผิดชอบนั้น ความเสียหายเกิดขึ้น ไม่ว่าธนาคาร หรือ ผู้บริโภค อยู่ที่ใครจะเป็นคนเสียหาย จนกว่าจะเอาผู้กระทำผิดมารับผิดได้
ถ้าผลักภาระให้ผู้บริโภครับผิด ผู้บริโภคก็ต้องไปฟ้องร้องกับผู้กระทำผิด ซึ่งมีศักยภาพน้อยกว่าธนาคาร
แต่ถ้าธนาคารรับผิดก็ไปฟ้องร้องเอากับผู้กระทำผิดได้ง่ายกว่า ผู้บริโภคที่อ่อนแอ
ประเด็นคือ รัฐบาลจะคิดได้อย่างพี่หลามมั้ยคะ อะไรแปลกๆก็เห็นได้ในประเทศไทย ขนาด 9Arm ยังบอกเองเลย มันจะเอาให้ได้เลย
ถ้าธนาคารมีระบบป้องกันบ้า ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ
ถ้าทำแบบที่พี่ว่า คนรับก็น่าจะคิดเงิน 2 เรต ถ้าจ่ายด้วยเงินที่ต้องพักก่อนก็ + x %
เหมือนจะเห็นว่าบางแอพมีอะไรคล้ายๆแบบนี้นะ
ระบบพักเงิน แบบยินยอม น่าสนใจครับ
เพิ่งเจอเมื่อวานซื้อของจากส้มอยู่แพลตฟอร์มเดียว ส่งมาทางเหลือง มีของจ่ายปลายทางมา 350 บาท เป็นเหมือนมุ้งอะไรซักอย่าง ไม่ได้สั่งเลยพนักงานบอกอาจจะมาจากแพลตฟอร์มอื่น มันเป็นไปไม่ได้เพราะใช้อยู่เจ้านี้เจ้าเดียว กำลังสงสัยว่าข้อมูลเราหลุดไปได้ยังไง ดีที่เราไม่ได้ใช้ชื่อจริงสั่งของเลยรู้ว่ามันผิดปกติ
เห็นด้วยกับพี่หลามครับ
เห็นด้วยครับเยี่ยมมาก😊😊😊
เพิ่งเจอเมื่อวานซื้อของจากส้มอยู่แพลตฟอร์มเดียว ส่งมาทางเหลือง มีของจ่ายปลายทางมา 350 บาท เป็นเหมือนมุ้งอะไรซักอย่าง ไม่ได้สั่งเลยพนักงานบอกอาจจะมาจากแพลตฟอร์มอื่น มันเป็นไปไม่ได้เพราะใช้อยู่เจ้านี้เจ้าเดียว กำลังสงสัยว่าข้อมูลเราหลุดไปได้ยังไง ดีที่เราไม่ได้ใช้ชื่อจริงสั่งของเลยรู้ว่ามันผิดปกติ
ดีครับน้องหลามธนาคารน่าจะคิดได้นานล้ะ
คิดได้เนาะ อีกหน่อยว่าโจรมันอาจจะร่วมมือกับเจ้าของบัตร หลอกเอาเงินจากธนาคารไปแบ่งกัน โจรนะพี่ ไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจแบบwin-win ถ้ามันหลอกเงินจากธนาคารไปได้แล้ว มีเหรอที่มันจะเอาเงินมาแบ่งให้เจ้าของบัตร
ก็เขาพวกเดียวกับโจรไงครับ แต่แกล้งทำเป็นผู้เสียหาย