กรณีสวรรคตของรัชกาล ที่ 2 เป็นการลอบปลงพระชนม์ Chioce of History EP II 22
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 5 ส.ค. 2022
- วีดีโอนี้บอกเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนที่มีการพลัดแผ่นดินจาก ร.2 มาเป็น ร.3 บอกถึงพระอาการประชวรที่เกิดขึ้นเเละนำไปสู่การสวรรคตอย่างทันทีทันใด รวมถึงมีข้อน่าสงสัยมากมายว่าอาจจะเป็นการลอบปลงพระชนม์
- บันเทิง
![อาจารย์ยอด : สวยกินคน [ผี]](http://i.ytimg.com/vi/_-TIJOwkRA4/mqdefault.jpg)
ดีแล้วที่ร.3ขึ้นในยามนั้นถ้าเป็นร.4ขึ้นในเวลานั้นซึ่งมีอายุแค่20ปีเราอาจเสียเมืองไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ได้
ร3 ทรงพระปรีชามาก ค้าขายเก่ง ถ้าไม่มีถุงแดงแผ่นดินเราคงไม่อยู่เท่าทุกวันนี้ก็ได้ ขอเทิดทูลพระองค์ท่าน🙏🙏🙏🙏🙏🙏
สงสารพระนั่งเกล้า ทำดีแค่ไหนก็ถูกมองว่าผิด ตราบาปมาตลอด สงสารท่านที่สุด
ใครจะใหญ่เกีนกรรมจ้า...
อยากให้ทุกรัชกาลเก่งเหมือนร.3
Okay, alright…I feel ya !
ท่านพลาดเองน่าจะจับสึกคนที่ทำสังฆเภทตั้งแต่แรกไม่งั้นก็ไม่วุ่นวายแบบนี้ครับ
@@heeromam8674 ใช่แล้ว ทั้งทำสังฆเภท อวดอุตริมนุสธรรม ถ้าคิดว่าค้นพบหลักธรรมที่แท้จนสร้างเป็นธรรมยุตินืกายแล้วก็ต้องครองสมณะเพศจนตลอดชีวิตสิ สึกออกมาเสพราชสมบัติทำไมครับ
เรารักรัชกาลที่ 3ที่สุด ท่านเก่งทุกด้าน ท่านค้าขายเงินส่วนตัวของท่านก็เก็บไว้ไถ่บ้านเมืองท่านมองการณ์ไกลท่านนำเงินไทยที่ขายข้าวได้ไปแลกเป็นเงินตราต่างประเทศเก็บไว้
ร.3 คือกษัตริย์ไทยองค์สุดท้ายที่เคยเป็นแม่ทัพคุมกำลังรับศึกพม่า
แม้สุดท้ายจะมีเหตุให้พม่าไม่ได้ยกทัพมา แต่ก็แสดงถึงความสามารถบริหารกองทัพ และความสามารถรบส่วนพระองค์( แม่ทัพในภูมิภาคนี้ต้องออกรบด้วยตนเอง จะนั่งบัญชาการบริหารกองทัพเพียงอย่างเดียวแบบขงเบ้งไม่ได้)
แล้วร.9ไม่เก่งหรอ
@@energyfocus4997
สถานการณ์คนละแบบกันครับ ยุค ร.3 คือสงครามจริงเป็นศึกรบนอกประเทศ พระเจ้าแผ่นดินต้องบริหารเองทุกอย่างร่วมกับขุนนาง
ยุค ร.9 พระเจ้าแผ่นดินไม่มีอำนาจบริหารเอง แต่ต้องทำสงคามกับความยากจนของประชาชน , สงครามเชิงการฑูตกับโลก 2 ขั้ว ( ประชาธิปไตย vs คอมมิวนิสต์ ), สงครามกับความแตกแยกของคนในประเทศ, ความเหลวแหลกที่แฝงอยู่ภายใน ฯลฯ
หากใครมองเห็นความยากลำบากของ ร.3 เห็นความสามารถในด้านต่างๆของท่านได้ถ่องแท้ ย่อมรักท่านมากๆ
หากใครมองเห็นสภาพความลำบากที่แท้จริงของ ร.9 เห็นสารพัดความกดดันที่อยู่ล้อมรอบท่านแบบใกล้ชิด..ก็ย่อมรักท่านมากๆเช่นกัน
ถูกที่สุด
กรรม ท่านประหาร เจ้าฟ้าเหม็น
โอรส พระเจ้าตากสินและให้ถ่วงน้ำลูกเจ้าฟ้าเหม็นอีก4องค้ ต้ดเชื้อสาย แต่ร3เมตตาชุบเลี้ยง ลูกหลานพระเจ้าตากให้เป็นแม่ท้พช้วยบ้านเมืองไว้ใจให้เป็นเจ้าเมืองใต้❤❤❤
พระมหาหษัตริย์ทุกพระองค์รักบ้านเมืองปกครองบ้านเมืองด้วยรักด้วยเมตตา ไม่ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยยากลำบากรอนแรมรบทัพจัศึกป้องกันบ้านเมือง ยามสงบก็ทำนุบำรุงบ้านเมืองศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง ถ้าบ้านเมืองเราไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงปกป้องดูแล ป่านนี้เราคงไม่แผ่นดินให้อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์อย่างเดี๋ยวนี้ รักพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ค่ะ
กษัตริย์
ขอโทษ ไม่ใช่ตระกูลนี้หรอก ที่ทำให้เรามีแผ่นดินอยู่มาทุกวันนี้คือ ราชวงศ์ธนบุรี ที่รวบรวมร่วมมือกับประชาชนชาวสยามรวมตัวกันกอบกู้บ้านเมืองขึ้นมาใหม่ต่างหากที่มีคุณาปการกับประชาชน ตระกูลนี้ก็แค่มาชุบมือเปิบก็เท่านั้นเอง ตระกูลนี้มีดีก็แค่คนรุ่นที่สาม ที่หาทรัพย์สินสะสมไว้จำนวนมหาศาล จนสามารถมีเงินเอาไว้ใช้ปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากลัทธิอาณานิคม นอกนั้นเป็นเช่นไรก็คิดเอาเองล่ะกัน
มันเป็นหน้าที่ป่ะหรือจะให้อยู่สุขสบายจะมาเป็นทำเหี้ยอะไรล่ะ
ตลกดีเนาะ
ร.3 มีพักตร์ เหมือน ร.1มาก และท่านก็เก่งทุกด้าน ข้างราชบริพาร ขุนนางท้าวพระยาก็สนับสนุน จึงเหมาะสมแร้วที่จะได้ครองราช
Ampol pramot. ที่เห็นๆกันน่ะ! มันเป็นการจินตนาการ ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่่อนในวัง เพราะความจริง มีคนเห็นพระพักต์ กษัตริย์ สมัยก่อนน้อยมาก..เพราะการสื่อสารและภาพถ่ายไม่เจริญ..ถ้าไม่รูปปั้น ก็ภาพวาด..ภาพถ่ายเพิ่งเริ่มใน สยามใน สมัยนี้ร.4
ช่วง ร 1 - 3 ยังไม่มีกล้องถ่ายรูป รูปวาดที่เห็นวาดตามคำบอกเล่า
@@OhYes-kf7or เคยสังเกตไหมว่า หากเอารูปกรมหลวงสงขลาฯ ตอนหนุ่มๆ(บางรูป) มาเทียบกับ ร.8 จะเห็นว่าเหมือนกันมาก
หากให้คนวาดตามคำบอกเล่า หรือแม้แต่บางทีต่อให้เอารูปถ่าย(บางรูปที่เหมือนกันมากของ กรมหลวงฯ กับ ร.8 )ให้ช่างดูแล้ววาดตาม..ด้วยสีน้ำมัน,สีฝุ่น ฯลฯ ก็จะแยกไม่ได้ว่าเป็นใคร
เคยได้ยินว่า กรณี ร.1 กับ ร.3 นั้น เขาแก้ไขด้วยการให้ช่างวาดตามช่วงอายุตอนที่เพิ่งครองราชย์ ทำให้ ร.3 มีความหนุ่มกว่า..จะได้แยกได้ว่ารูปใดคือ ร.1 หรือ ร.3
@@kolatiswongsoponsiri8157 ร.8 มียั้นวีดิโอ หล่อยังกะเทพบุตร หาดูได้
@@user-yq6mv3sf8m ช่วง ร.7 ก็มีวีดีโอเป็นภาพเคลื่อนไหวเหมือนกันครับ
ร.3 เก่งที่สุด ไม่จำเป็นต้องทำร้ายพ่อ. ถ้ามีการลอบฆ่า ก็ไม่ใช่ฝีมือ ร.3 แน่นอน. น่าจะมาจากอาการป่วยภายในร่างกายและการแพทย์ไม่เจริญมากกว่า
ร.3ท่านสง่างามมาก น่าประทับใจจริงๆ แม้แต่มงกุฏท่านยังไม่เคยนำมาสวมใส่เลย
เพราะเค้าไม่ใส่กันตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ เป็นทำเนียมที่ทำมาตั้งแต่สมัย ร1 แล้ว ร3 ผู่ที่เคร่งในธรรมเนียมที่สุดยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ ร4 คือผู้ริเริ่มให้สวมในพิธี เนื่องจากชาติตะวันตกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ด้วยวิธีสวมมงกุฎหรือ coronation แต่ไทยเราไม่สวม แต่ใช้วิธีรับน้ำมุรธาภิเษก ซึ่งฝรั่งไม่เข้าใจธรรมเนียมแบบพราหมณ์เลย พลอยจะทำให้เห็นบ้านเมืองเราว่าล้าหลัง รัชกาลที่4 จึงเป็นพระองค์แรกที่มีการปรับให้สวมใส่เลย ไม่ใช่แค่รับไว้บนมือเหมือนรัชกาลก่อนๆ
ร.1-ร.3 ไม่เคยสวมใส่มงกุฏเลยคะ?ไม่มีภาพ ?
เราต้องยอมรับในความสามารถในรัชกาลที่ 3 นะว่าท่านทรงพระปรีชาสามารถรอบด้านจริงๆ แล้วช่วงนั้นบ้านเมืองมีปัญหาหนักมากจริง ถ้ารัชกาลที่4 ขึ้นครองราชย์ในช่วงสมัยนั้นอาจตกที่นั่งลำบากในการปกครองบ้านเมืองแน่ๆ และรัชกาลที่ 3 ทางรู้อยู่แก่ใจแล้วท่านถึงไม่แต่งตั่งองค์รัชทายาททั้งๆที่ทำได้ เพื่อชดเชยให้รัชกาลที่ 4 ได้เป็นกษัตริย์
ต่อจากพระองค์ ผมเชื่อว่าท่านมองอนาคตขาดแล้วถึงลงมือทำดังนั้น ถ้าท่านไม่ทำประเทศไทยอาจจบไปแล้วตั่งแต่สมัยนั้น อันที่จริงแล้วท่านปล่อยให้เสียเมืองแล้วรวมสมัครพรรคพวกขึ้นสถาปนาเมืองใหม่ก็ได้เพราะมีคนจงรักภักดีต่อท่านเกือบทั้งวัง แต่ท่านก็ไม่ทำ เพราะถ้าท่านทำแบบนั้นท่านจะไม่โดนข้อครหาใดด้วยซ้ำ แต่ท่านเลือกที่จะรักษาเมืองไว้ดังเดิมนะ
*_👉ใช่ครับ¡¡¡ร.๓ท่านทรงพระปรีชาสามารถเเละมองการณ์ไกลได้เฉียบขาดครับ_*
ในปัจจุบัน การแพทย์เจริญก้าวหน้ามาก ก็เห็นมีการเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วหลายอย่าง เช่น หัวใจวาย ไตวาย ไหลตาย แต่พอเราหาสาเหตุได้ ในสมัยโบราณหมอ ไม่ได้เก่งแบบสมัยนี้ พอหาสาเหตุไม่ได้ หมออธิบายไม่ได้ ก็คาดคะเนกันต่างๆนาๆ... ที่มักโทษคือ โทษการวางยาพิษ ซึ่งทำให้คนใกล้ชิด หรือคนที่ได้ประโยชน์ จากการตาย...ซวยไป จะถูกมองในแง่ร้าย... ไปนานแสนนาน อย่าว่าแต่คนสมัยยนี้จะพยายามที่จะรู้เลย คนสมัยนั้นยังไม่สามารถรู้ได้เลย
บ้างก็ลือไปว่าผีเจ้าฟ้าเหม็นอาฆาตกระทำเอา
อย่าคิดมากเลยครับ ร.5 กับ ร.6 ก็ประชวร สวรรคตเหมือนกัน อยากให้สำนึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านที่ ปกป้อง สร้างบ้านเมืองจนมาถึงเราทุกวันนี้มากกว่า ที่บ้านเมืองรอดพ้นจากพวกตะวันตก ล่าเมืองขึ้นมาได้ก็เพราะท่านมองการณ์ไกล เก็บเงินถุงแดงไว้ให้ ก่อนสวรรคต ยังรับสั่งว่าให้เก็บเอาไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง แล้วก็ได้ใช้จริงๆ สมัย ร.5 ที่ต้องชดใช้ให้ฝรั่งเศสครับ
ขอบคุณที่นำมาเล่า
คร้า
ร.3ท่านคือพ่อค้าที่รวยมาก
ร.3 คือกษัตริย์ไทยองค์สุดท้าย ที่เคยเป็นแม่ทัพคุมกำลังรับศึกพม่า
นักเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เก่งจริงๆ คนสมัยนี้
ความเหมาะสมสำคัญที่สุดครับ
ขอบคุณค่ะได้ทบทวนวิชานี้อีกครั้ง
ยุคทองพุทธศาสนาก็สมัยร.3 ถ้าว่ากันตามหลักการโบราณฯ ร.4 จะได้ขึ้นครองราชไหมถ้าร.3ทำอย่างที่อดีตนิยมทำคือล้างบางมิให้เหลือหน่อ เดาเอานะ
มีอีกมุมนึงก็คือ รัชกาลที่ 3 นั้น เป็นบุคคลเดียวในยุครัชสมัยนั้น ที่อาณาประชาราษฎร์วังเป็นที่พึ่ง เนื่องจาก ชาวตะวันตก เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในพระนคร ขุนนาง ก็เริ่มจะมีความปรับไฟในลาภยศ ในอำนาจ ที่ชาวตะวันตก อาจจะเข้ามาแทรกแซงราชการ
.
เพราะฉะนั้น ถ้าเปรียบเทียบเคียงกันในยุครัชสมัยของพระเจ้านารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา
.
ก็อาจจะเทียบเคียงกันได้ จะแตกต่างกันตรงที่เจตนารมณ์ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถ และมีสายพระเนตรอันยาวไกล
.
ที่สำคัญที่สุดก็คือ วิทยาการทางด้านตะวันตก การติดต่อค้าขาย รวมไปถึงความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่เกิดขึ้นระหว่างรัชกาลที่ 3 กับรัชกาลที่ 4 อย่างลงตัว เป็นเรื่องสำคัญ
.
รายการเสด็จสวรรคตของรัชกาลที่ 4 ที่ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถ้าผมจำไม่ผิด ในการเสด็จประพาส ชมสุริยุปราคา อะไรประมาณนั้น เราจะมีเงื่อนงำของการถูกลอบปลงพระชนม์มากที่สุด
.
พอจะเห็นได้ว่านี่คือการแทรกแซงของกลุ่มผู้มีอิทธิพลจากต่างชาติ ถ้าประเทศสยามจะมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อยู่ในระดับตำแหน่งสูงสุดของประเทศ เรามีความรู้ความชำนาญทางด้านวิทยาศาสตร์ ก็จะเป็นภัยต่อประเทศที่แสวงหาอำนาจ รายการล่าอาณานิคม อย่างเห็นได้ชัด
.
กสิกรรมต่างๆเหล่านั้นก็คงยากที่จะพูดตรงไปตรงมาในยุคสมัยนั้น คอร์ดเพลงจะเป็นการกระทบกัน ระหว่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างฉานได้
.
จากยุครัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เรื่องมา สยามประเทศหรือแผ่นดินสยาม ก็ถูกรุกไล่จากการล่าอาณานิคมอย่างหนักหน่วง และเป็นรูปประธรรมที่สุด แล้วประเทศไทยในปัจจุบันก็ยังคงอยู่ภายใต้ชะตากรรมของการล่าอาณานิคม ในรูปแบบต่างๆ ที่แยบยลมากขึ้น นี่คือภัยที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 อาจมีเงื่อนงำสำคัญ ในการแทรกแซงของฝั่งตะวันตก ตั้งแต่เริ่มต้นก็เป็นไปได้
.
และการที่รัชกาลที่ 3 จะต้องขึ้นมาขัดตาทัพเอง พระองค์ยังทรงเลือกที่จะไม่มีองค์รัชทายาทสืบทอด ราชสมบัติและราชบัลลังก์ อันเป็นพระราชอำนาจ ที่พระองค์ทรงสามารถสืบทอดได้ แต่รัชกาลที่ 3 กับเลือกที่จะไม่ มีผู้สืบทอดพระอาจารย์อำนาจนั้น ดังนั้นพระราชอำนาจ หลังจากสิ้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 แล้ว จึงตกเป็นของรัชกาลที่ 4 ยังสมบูรณ์ และมากกว่านั้นคือความปลอดภัยในพระราชบัลลังก์ และความมั่นคงของราชวงศ์จักรีในยุคนั้นด้วย แต่ก็เริ่มสั่นคลอนอีกครั้งหนึ่งหลังจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรณคต เราก็เริ่มต้นแห่งยุครัชสมัย ยุวกษัตริย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราชของปวงชนชาวไทย ที่ต้องฝากลมมรสุมในทุกๆด้านทุกๆมิติ อย่างหนักหน่วงที่สุดเท่าที่บุคคลคนหนึ่งในตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ จะต้องฝ่ามรสุมนั้นไปให้ได้
.
อยากจะฟัง EP อื่นๆบ้างนะครับ แนวนี้ล่ะครับ รู้สึกเห็นใจราชวงศ์จักรีมาก ที่พระองค์ท่านต้องสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อแลกกับความสุขของปวงชนชาวไทย ในฐานะผู้ปกครองที่ต้องปกป้องพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
กล่าวดีมากๆเลยคะ 🙏🙏👍👍👍ร.3 เหมาะสมกับสถานการณ์และเวลาขณะนั้นคะ
*_👉เป็นเม้นท์ที่ดีมากครับ_*
ขอบคุณที่นำเสนอครับ❤
คำภาษาไทย มีแต่คำว่า สวรรคต อ่านว่า สะ-หวัน-คด แต่คนไทยหรือนักข่าวหลายๆ คนขอบอ่านว่า สะ-หวัน-นะ-คต ทั้งๆที่ไม่มี ณ ในคำนั้น สวรร = สวรรค์ชั้นฟ้า ส่วน คต(นำมาจากภาษามคธ = เขิญกลับสู่) ดังนั้นจึงแปลโดยรวมว่า เชิญกลับสู่สวรรค์ (แต่ถ้าเราเติม ณ.เณร ความหมายอาจจะผิดเพี้ยนแปลว่า ไม่เขิญกลับสู่สวรรค์) แต่ผมชอบประวัติศาสตร์นะขอบคุณที่นำความรู้เกร็ดนอกตำราเรียนมาลงนะครับ (ผมแค่เอาคำนี้มาแนะนำนะครับพี่)
เจ็กทังนั้น5555
แอดฯ ปรับปรุงตัวตามนั้นนะจ๊ะ..😁😆🤩
@@user-hq4nq9bu2u มีเชื่อจีนก็ดีเชื่อมอญก็ดีรวมกันแล้วฉลาดดี มากค่ะ
@@khundet.yo.6101 คร้าบ ช่วงนี้ดีขึ้นละค้าบ
สวรรค์ได้กำหนดไว้ให้เป็นแบบนี้ จึงทำให้สยามอยู่รอดปลอดภัยจากการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกในกาลต่อมา
อังกฤษและฝรั่งเศสเขาตกลงกันให้สยามเป็นรัฐกันชนครับ เพราะอยุธยามันเป็นตลาดการค้าโลกอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องยึด
ร.3ท่านบริหารบ้านเมืองได้ดี และไม่ตั้งบุตรมาสืบสกุลด้วย
ท่านจะตั้งครับ ตอนเเรก เเต่พวกขุนนางห้ามไว้
ถ้าตั้งเกิดสงครามกลางเมืองเหมือนอยุธยา
@@choiceofhistory1977
ผมเชื่อว่า เดิมทีเดียว ร.3 ไม่หมายให้โอรสสืบราชสมบัติ จึงไม่ตั้งลูกเป็นเจ้าฟ้า
แต่ที่ท่านมีใจคิดจะตั้งนั้น..น่าจะทรงเล็งเห็นว่า โอรสองค์นั้นมีความสามารถเหนือพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมด(เหนือกว่าทั้ง ร.4 และพระปิ่นเกล้า) ขาดแต่พระอิสริยยศเจ้าฟ้าเท่านั้น จึงปรึกษาขุนนาง หากขุนนางเห็นพ้องและพร้อมใจดั่งขุนนางชุดเดิมที่เคยยก ร.3 ขึ้น..ประเทศไทยก็จะมีกษัตริย์ที่สมบูรณ์แบบเช่น ร.3 อีก 1 องค์
1. ร.1 โปรด ร.3 มากถึงขนาดจัดพิธีโสกันต์ให้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นกรณีพิเศษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จัดพิธีให้โอรสของเจ้าฟ้า(ยศ ร.2 ขณะนั้น)ในพระบรมวัง เพราะประเพณีเดิมมีแต่พระโอรสของพระเจ้าแผ่นดินที่ได้รับการจัดพิธีนี้ในพระบรมมหาราชวัง และ เมื่อ ร.1 พระราชทานจัดอุปสมบทให้ ร.3 ก็ยังทรงมาร่วมพิธีด้วยพระองค์เอง
2. ร.2 ก็โปรด ร.3 , จึงมอบหมายให้กำกับดูแลงานกรมสำคัญหลายกรม รวมทั้งกรณีพม่าเตรียมยกทัพมา ร.2 ก็แต่งตั้งกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์( ร.3 )เป็นแม่ทัพยกไปรับศึกที่ จ.กาญจนบุรี
การมอบกำลังทหารแบบนี้ก็แสดงถึงการ"ปลุกปั้นส่งเสริม" ให้ ร.3 มีอำนาจทางทหารนั่นเอง หาไม่แล้ว, ร.2 ก็สามารถแต่งตั้งขุนนางหรือพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆให้เป็นแม่ทัพ..ปล่อยให้ ร.3 มีแต่หน้าที่ราชการพลเรือนก็ย่อมทำได้
3. หาก ร.3 เป็นผู้โลภในราชสมบัติตามข่าวที่ให้ร้าย ก็ย่อมต้องหมายให้พระโอรสครองราชย์ต่อ แต่กลับทรงตัดสิทธิพระโอรสไม่ให้เป็นเจ้าฟ้า(ซึ่งจะมีสิทธิในพระราชบัลลังก์ในทันที)ได้ในทุกวิธี
การให้โอรสเป็นเจ้าฟ้ามีหลายหลายวิธีดังนี้
3.1 แต่งตั้งมเหสี ( จากลูกขุนนางสามัญชนก็ได้) ลูกที่เกิดมาได้เป็นเจ้าฟ้าโดยอัตโนมัติ
3.2 รับลูกสาว/ หลานสาว ร.1, ร.2 เป็นภรรยา ลูกที่เกิดจากลูกหลวง,หลานหลวง จะได้เป็นเจ้าฟ้าทันที
3.3 รับลูกสาวเจ้าเมืองประเทศราช (เชียงใหม่,ลำปาง,ลำพูน,แพร่,น่าน, เวียงจันทร์,หลวงพระบาง,จำปาศักดิ์, กัมพูชา) เป็นภรรยา ลูกที่เกิดมาได้สิทธิเป็นเจ้าฟ้า
3.4 สถาปนาลูก(พระองค์เจ้า)เป็นเจ้าฟ้ากรณีพิเศษ
แต่ ร.3 กลับตัดทุกทาง โดยรับแต่ลูกสาวขุนนางเป็นภรรยาตลอดรัชกาล 27 ปี และไม่สถาปนาทั้งแม่และลูกเลยสักคน(พระองค์)
4. ในสมัยร. 4 เป็นต้นมา มีตระกูลขุนนางบางส่วนที่เสียประโยชน์หรือต้องอาญาในสมัย ร.3 ก็ย่อมต้องเป็นปฏิปักษ์กับ ร.3 ต.ย. เช่น
4.1 บางสายในตระกูลบุนนาค คือ พระสุริยภักดี (สนิท บุนนาค) ซึ่งแต่งงานแล้ว ได้เกี้ยวพา,นัดแนะกับเจ้าจอมอิ่ม ( สนมใน ร.3 , ธิดาพระยามหาเทพ(ทองปาน), น้องสาวของพระพิทักษ์ยุทธภัณฑ์ (เทศ ปาณิกบุตร) ) จะไปเป็นสามีภรรยากันจนโดนจับได้และต้องโทษประหาร
4.2 ลูกหลานของพระองค์เจ้าไกรสร ( โดนปลดเป็น หม่อมไกรสร) ซึ่งโดนประหารเพราะซ่องสุมกำลัง หมายเข้ายึดอำนาจหลังสิ้น ร.3 (เอาอย่างพระเพทราชา ไม่กบฏ แต่เข้ายึดอำนาจหลังสิ้นพระนารายณ์)
การจะฟอกตนให้สะอาด ก็ต้องกล่าวหาให้ร้ายว่า ร.3 ผิด
ในสมัย ร.6 หลานเหลนของหม่อมไกรสรก็เป็นขุนนางใกล้ชิด จน ร.6 ออกพระโอษฐ์ว่า ร.3 ชิงบัลลังก์สมเด็จปู่( ร.4)
แต่สุดท้าย ร.6 กลับเป็นฝ่ายเฉลิมพระราชสมัญญา พระมหาเจษฎาบดินทร์ ถวาย ร.3 (แต่ไม่ถวาย ร.4) นั่นย่อมแสดงว่าทรงได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากมายจนเห็นว่า ร.3 ทรงมีคุณยิ่งใหญ่ทั้งต่อประเทศชาติ และต่อ ร.4 ( หากร.3 ไม่ประหารหม่อมไกรสร ร.4 ไม่มีทางได้ขึ้นครองราชย์แน่นอน)
5. ด้วยพระอาการประชวรของ ร.2 ที่มีบันทึกไว้, นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัช มีความเห็นว่า ร.2 น่าจะทรงพระประชวรและสวรรคตด้วยพระโรคสมองอักเสบ(เชื้อไวรัส) หรือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
แต่การแพทย์แผนโบราณของไทยที่ยังไม่รู้จักไวรัส ทำให้การรักษาผิดทาง (เท่ากับไม่ได้รักษา) เชื้อโรคจึงลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้สวรรคตในเวลาไม่นาน
อีก1,เงินถุงแดง ที่ใด้รับเป็นสินบน พระองค์ท่าน ไม่คิดเอามาใช้เป็นส่วนพระองค์เลย แม้ถุงเดียว.แต่กลับให้เก็บใว้ในท้องพระคลัง เผื่อใว้บ้านเมืองยามยาก,ใด้นำกลับมาทุเลาปัญหาใด้
แล้วก็จริง,,,ใด้นำมาใช้แก้ปัญหาพิพาทกับฝรั่งเศษ ใด้...
#นี่คือสิ่งที่ต้องจำ...
ขอบคุณครับ
เหตุผลชัดเจนมาก แจงมาเป็นข้อๆ เห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ
น่าจะหายสงสัยกันนะ
ขอบคุณในข้อมูลค่ะ
กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีจริงๆ
เล่าได้น่าฟังมากค่ะ
ขอบคุณครับ
สงสารพระเจ้าตากสิน สวรรคตแล้ว แทนที่ลูกจะได้ขึ้นครองราชย์
ชอบฟังเรื่องประวัติศาสตร์
ร.3 ทรงมีพระปรีชาเชียวชาญทั้งการรบและการปกครองที่สำคัญ ด้านการค้าสำเภากับต่างประเทศ ได้กำไรสู่พระคลังมากมาย
แสดงว่าร.2ไม่ดีหรอไหนบอกว่าราชาดีทุกคน
ไม่รู้รัชการที่เท่าไหร่แต่ที่รู้ไอยุทรทำประเทศจะฉิปภายล่ะ
@@user-ff3oi8bt6u ไม่ใช่ที่รุ้ไอทักขวนกับอียิ่งขวนทำฉิบหายละ
@@user-ff3oi8bt6u จริงเหรอหนี้ที่ไอ้แม้วโง่กะอีโง่ร่านไปทั่วก่อหนี้ทิ้งให้ประเทศไทยมากกว่างบประมาณประเทศตลอดปีรวมกัน 20ปี. พวกคุณปลดหนี้ให้แล้วเหรอ
@@jamebond799 สลิ่มอย่ามาเสีอกกับกุเพราะพวกมึงล่ะชั่วมาประท้วงขื้หืพวกสลิ่ม
ให้มันมีแต่เรื่องแบบนี้แหละประเทศไทย เจริญจริงๆ
คุณหมอท่านนึงเคยลงบทความวิเคราะห์สาเหตุการสวรรคตของร.2 โดยอาศัยจากหลักฐานบันทึกต่างๆนำมาวินิจฉัยร่วมการแพทย์ปัจจุทัน ท่านสรุปว่าพระโรคที่เป็นสาเหตุการสวรรคต 1. โรคสมองอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส
2. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
3โรคเลือดออกในสมอง
4.โรคเนื้องอกของสมอง
ตีพิมพ์ลงในนิตยสารศิลปะวัฒนธรรม
ส่วนตัวอ่านแล้วมันดูเป็นเหตุเป็นผลกว่า
เป็นโรค ที่ หมอหลวงในยุคโบราณ รักษาไม่ได้แน่ๆโรคที่กล่าวมา
ชัดเจน
ช่องนี้ดีมาก
ขอบคุณค่ะ
ชอบฟังค่ะ ไม่ออกความเห็นค่ะ
ชอบฟังเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
ขอบคุณครับ
เป็นมุมมองใหม่ที่น่าสนใจครับ ขอบคุณครับ
แทบทุกราชวงค์ทั้งในและต่างประเทศ จะมีเรื่องชิงสมบัติเหมือนกันหมดเลย มนุษย์กับความโลภ โกรธ หลง อยู่คู่โลก
ทีค่ากันไปค่ากันมา ก้อเพาะแย่งกันรักสาแผ่นดินไว้ไห้ลูกไห้หลานแหล่ะ
ขอขอบคุณเรื่องราวในอดีดที่ดีดี.ฟังไว้เพื่อความรู้.ในเหตุการของบ้านเมืองในยุคนั้น.เราคนยุคปจัจุบันควรมีจิตสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน.และฟังอย่างมีสติ.คิดจ่ะทำอะไรควรนึกคิดตึกตรองให้ดีเพื่อความสงบสุขของคนในประเทศและบ้านเมืองของเราค่ะฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนคนก็พอแล้วค่ะ
รัชกาลที่ 3 ท่านเก่งแล้วก็ รับราชการ ขุนนางยอมรับเป็นที่ประจักษ์ สืบราชสมบัติถูกต้องแล้วครับ
ดีมากครับ เรื่องบางเรื่องเราก็ไม่เคยรู้มาก่อน
ถ้าพระองค์ไม่ดีก็คงไม่คืนบัลลังก์ให้ร4 เราว่าท่านแน่วแน่มากไม่หลงอำนาจ
คนที่คืนบัลลังค์ให้สายของเจ้าชายมงกุฎคือพวกขุนนางอำมาตย์แห่งสกุลบุญนาคซึ่งมีอำนาจท่วมท้นในช่วงสิ้นรัชกาลที่ 3 ต่างหากครับ
@@khonlaoruang อย่าเรียกว่าคืนบัลลังก์
ผมคิดว่าขุนนางหลายสายของสกุลบุนนาคต้องการอำนาจมากกว่า จึงสนับสนุน ร.4 ( ไม่ใช่คืนบัลลังก์ แต่คือการสร้างอำนาจให้ตนเอง )
เพราะมีอย่างน้อย 2 สายที่ทำความผิดในยุค ร.3 สายหนึ่งโดนประหาร , อีกสายลูกชายโดยย้านไปภูธร
หากสนับสนุนพระปิ่นเกล้า ถึงจะเรียกว่าพอจะมีความชอบ..ก็ไม่โดดเด่น และไม่สามารถควบคุมพระปิ่นเกล้า(ซึ่งมีบารมีพอควร)ได้
การสนับสนุน ร.4 เพราะไม่มีบทบาทในวงราชการ ควบคุมง่ายกว่า และอ้างความชอบที่ยก ร.4 มาทวงบุญคุณได้ง่ายกว่าพระปิ่นเกล้า
รัชกาลที่ 3 มีทั้งอำนาจทหาร (เพราะกองทัพของพระองค์ชนะศึกใหญ่ทั้งเวียงจันทร์และกัมพูชา ต่างจากกษัตริย์ที่มีกองทัพไร้ผลงานหรือพ่ายแพ้ศึก..) และมีอำนาจทรัพย์มากมาย
หากประสงค์ในบัลลังก์ให้พระโอรส...สามารถทำได้หลายวิธี โดยเป็นวิธีที่มีความชอบธรรมทั้งสิ้น
แต่ทรงไม่ทำ และยังตัดโอกาสของพระโอรสทั้งหลายอีกด้วย
รัชกาลที่ 3 สร้างคุณประโยชน์ให้กับสยามเป็นอย่างมาก
ประวัติศาสตร์ในอดีต ก็เหมือนปัจจุบันที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ในอนาคต โบราณในอดีตก็เหมือนปัจจุบัน ที่จะกลายเป็นโบราณในอนาคต
ไม่มีใครรู้ทุกอย่าง แม้ปัจจุบันนี้ ทุกที่ทุกสถานเราก็ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น แม้แต่คนเขียนประวัติก็ดี
อย่าพยายาม ใส่ร้ายท่าน และสเด็จแม่ของท่าน
ความจริงรัชกาลที่ 3 นี้มีคุณูปการสูงสุดต่อประเทศสยาม ซึ่งแน่นอนละ เราก็ยังได้ใช้ อานิสงส์ที่เกิดขึ้นในยุครัชสมัยนั้น เพื่อให้ชาติบ้านเมืองของเราพ้นภัย ทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ท่านทรงปรารถนาราชสมบัติจริง ก็คงเป็นเหมือนกับประเทศพม่า ในยุคพระเจ้า สีปอ ไปนานแล้ว ผมก็มีความคิดเห็นแค่นี้ล่ะครับ
เป็นบุญของคนไทย กษัตริย์ของไทยแต่ละพระองค์กำเนิดมาเพื่อนำทางคนไทยประเทศไทยให้มีความสุขมีเอกราช แคล้วคลาดจากภัยพาล
ร.3 ทำสงคราม กับ ญวน ร.3 เก่งเรื่องการรบ
*** ร.3 คือกษัตริย์ไทยองค์สุดท้ายที่เคยนำทัพออกรับศึก ***
สมัย ร.2 พม่าเตรียมยกทัพมาไทย
ร.2 โปรดให้ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์(ร.3) เป็นแม่ทัพไปรับศึกที่กาญจนบุรี
แสดงถึงความสามารถในการบริหารกองทัพสูงระดับแม่ทัพ ( วางแผนการรบ, การตั้งทัพ-ตั้งค่าย , การวางแผนจัดกำลัง , วางแผนอาวุธ , วางแผนอุปกรณ์ช่วยรบ, วางแผนเสบียง, ฯลฯ ) มีความสามารถในการวินิจฉัยแผนการที่เหล่าเสนาธิการเสนอได้
และผู้ที่คุมทัพแบบนี้ได้ย่อมต้องมีศิลปะต่อสู้หลายรูปแบบ(มวย,ดาบ,ทวน,ธนู,ปืน,ขึ่ม้า,ขี่ช้าง)อย่างน้อยในระดับเอาตัวรอดได้ เพราะการรบในภูมิภาคนี้..แม่ทัพคงไม่อาจนั่งบัญชาการเพียงอย่างเดียวแบบขงเบ้งได้
เพราะความสามารถที่ครบนี้ จึงเป็นผู้อำนวยการรบที่สามารถสั่งการให้แม่ทัพนายกองไปทำการแทนแบบถวายชีวิตได้
1. เวียงจันทร์ (เจ้าอนุวงศ์) : กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพย์(วังหน้า ,โอรส ร.1 มีศักดิ์เป็นอา ) , พระยาราชสุภาวดี( เจ้าพระยาบดินทรเดชา) , ฯลฯ
2. กัมพูชา (กับญวน) : เจ้าพระยาบดินทร์เดชา
ไม่จริงครับ ร.1 เก่งเรื่องการรบกว่าครับ
@@saksayamhirunrat2832
ปู่กับหลานที่หน้าตาเหมือนกัน เกิดคนละยุคกัน..สถานการณ์ไม่เหมือนกัน ก็คงยากจะบอกว่าใครเก่งกว่า
ถ้า ร.3 เกิดในยุคเดียวกับ ร.1 ผลงานออกรบอาจไม่เด่นเท่า ร.1 หรืออาจเด่นกว่า ร.1
ถ้า ร.1 เกิดในยุค ร.3 ก็อาจทำหน้าที่อำนวยการกองทัพไปเวียงจันทร์,กัมพูชาได้ไม่ดีเท่า ร.3 หรืออาจยิ่งใหญ่กว่า ร.3
เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ไม่มีใครบอกได้หรอกครับว่าความจริงจะเป็นอย่างไร
ที่แน่ๆ วังหน้าของ ร 1 เก่งการรบมากค่ะ
ร๓ พระองค์ไม่ทรงยกย่องพระราชบุตรขึ้นเป็นรัชทายาทเลยไม่ใช่เหรอถ้าจะกระทำใครจะขัดข้องได้พระราชอำนาจครับท่าน..
ขอลด เสียงซาวด์ไตเติ้ลดังมากกก
เอาตามจริงถ้ารอ 3 ตั้งใจจะค่ารถ 2 รอ 3 คงให้ลูกของตัวเองขึ้นครองราชย์ต่อ..แต่กลับกันกลับให้ลูกของร 2 มาเป็นร 4 ต่อ..เวลาได้พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว
ขอบคุณครับ
ร.3 ไม่มีลูก😊
เข้าใจอยาก
ทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่มีใครไปรู้ไปเห็น ไม่กล้าไปวิจารณ์เบื้องสูง กลัวเป็นบาปเป็นกรรม
พระองค์ทรงแข็งแรง
เห็นด้วยกับเหตุการณ์และเหตุผลของคุณ Kolatis Wongsoponsiri
คะ คิดว่าร.3 ตอนนั้นเหมาะสมกับการขึ้ยครองราชย์บังลังค์ แล้วคะ เพราะตอนสมียนั้นปีนั้น พม่ายกทัพมาจึงเกิดสงคราม9ทัพ จากประสบการณ์และอายุ ร4 นั้นเพียงอายุ18ปี มีความสามารถไม่เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ต่อยสงบสุข เพราะพม่าเข้ามารบอยู่เนื่องๆและกฎบ เยอะตามรอบเพื่อนบ้านคะ
ขอบคุณครับ
ในราชวงศ์จักรี10รัชกาลผมว่าท่านเด่นมากกว่าด้อยนะครับ
เด่นเรื่องเเย่ๆสิครับ
55555
ผมว่าความด้อยของท่าน..ล้วนมาจากลมปากผู้เสียประโยชน์-ต้องโทษในสมัยท่าน
พยายามสาดโคลนให้ท่านหมดความชอบธรรม เพื่อฟอกขาวให้วงศ์ตระกูลของตน
เรียนมาน้อย ได้รับความรู้มากเลยครับ ดูแต่ลิเกมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้เรื่องแบบนี้เลย..
❤❤ขอุอนุญาติแสดงความคิดเห็นตามที่ผู้บรรณ
ยายและข้อมูลที่ฟังดูแล้ว
หลายๆๆรอบจากที่พระองค์
ประชวนเล็กน้อยแบบปวด
เมื่อยธรรมดาแต่พอเสวย
พระโอสถ.แล้วกับอาการ
ร้อนความร้อนเพิ่มขึ้น
แสดงว่าในยานั้นมีสิ่งไม่พึง
ประสงค์และนำยามาเสวย
เพิ่มขึ้นแทนที่จะค่อยดีขึ้น
แต่กับตายโดยเร็วทั้งที่
พระองค์ก็ยังแข็งแรงดี
อยู่คงจะให้คิดเป็นอย่าง
อื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก
ในตัวยานั้นเป็นพิษตาม
เนื้อหาที่ฟังมา
ถ้า ร.3ไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ป่านนี้ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ 🤦🏻
อาจจะดีกว่าก็ได้ มองได้ทั้งสองด้าน
เจริญสิครับ
@@sabaidi1504
สักแต่ว่ามีปากก็พูด, สักแต่ว่ามีนิ้วก็พิมพ์...แบบไม่ดูความจริง
ความมั่งคั่งของประเทศเป็น 1 ในผลงานของ ร.3 ที่โดดเด่นกว่ารัชกาลอื่นๆ
เงินทอง/ระบอบเศรษฐกิจที่ทรงทำมา..มากจนทำให้สมัย ร.4 อยู่สบาย , สมัย ร.5 มีเงินไถ่ประเทศ
ถูก.ต้อง.คับ
ดี
สวรรคตอย่างทันท่วงที เห็นพูดหลายครั้งในคลิป ฟังดูแหม่งๆนะครับ ‘ทันท่วงที’น่าจะใช้กับความหมายในลักษณะที่ว่า ‘ช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที’ หรือ ‘เขาจับมือเธอไว้ได้ทันท่วงทีพอดี’ คือ ทันเวลา ทันทีทันควัน แบบนี้มากกว่าหรือป่าวครับ ไม่ใช่ครูภาษาไทยแต่ฟังแล้วแหม่งๆน่ะครับ แค่เสนอแนะครับ ติดตามตลอด
ขอบคุณสำหรับคำเเนะครับ
ต้องพูดว่ากระทันหัน
รอฟังข่าวในพระราชสำนักอยู่นะ
แค่ข่าวเดียวก็พอ
ราชวงศ์ไทยมี่เรื่องลับๆทุกราชวงศ์
เหมือนราชวงศ์ของ ตปท อ้อ
ที่จริงก็เหมือนกับครอบครัวคน
ธรรมดา ๆ เช่นกัน มีเรื่องดีและ
เรื่องไม่ดี เป็นธรรมดาของมนุษย์
ที่ ร4ให้ ร3 ขึ้นก่อนเพราะท่านทั้ง2เก่งต่างกันครับ ร3เก่งทางโลกและปกครอง ร4เก่งทางธรรม ครับผม
เก่งทางธรรมที่ไหน ที่บวชนานเพราะสึกแล้วชะตาขาด ร.3 ไม่ได้น่ากลัวเท่ากับหม่อมไกรสร
ผู้ชนะก็เขียนประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ผู้แพ้ก็เขียนประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง แต่ผู้เล่า จะเล่าในทุกแง่มุมหรือป่าว หรือบางทีก็เลือกเล่าในมุมมองของตัวเอง
ยังไง ร.3 ก็ขึ้น ถ้า ร.4 ขึ้นตอนนั้นบ้านเมืองอาจไม่เหลือ และต่อมายังอุตส่าห์ปูทางให้ได้กลับมาครองราษฎร์ได้อีก พี่ชายที่แสนดีแบบนี้หาที่ไหนได้บ้าง เป็นบุญประเทศแล้ว ตั้งแต่ ร.3 มา คลังก็ไม่ได้มั่งคั่งอีก
ประสบการณ์คนอายุ 37 ( กำกับดูงานสำคัญหลายกรม และ เคยเป็นแม่ทัพรับศึกพม่า ) vs คนอายุ 20 ( ยังไม่ปรากฎผลงาน)
เปรียบได้กับ ปลัดกระทรวง vs นักศึกษาปี 2
นับว่ารัชกาลที่สามทรงมีความเป็นสุภาพบุรุษที่สุดค่ะเพราะท่านไม่แต่งตั้งบรรดาลูกๆท่านและท่านได้บอกว่าจะเก็บไว้คืนเจ้าของ(หมายถึงเก็บทุกอย่างให้น้องชายคือรัชกาลที่สี่นั่นเอง)
@K&kk Relax & Sleep กวนตีนครับ
มีร.3 รวยมากจนทำให้ถุงแดงหรือพระขังข้างห้องหรือเงินตราและทองในการค้า ร.5มีไปไถเมืองจากฝรั่งเศษ ทำไมไม่มีใครยกเครดิตให้ร.3เลย มีแต่ยกให้ร.5 ตอนร.ศ.112
@คดีฆาตรกรรม โดยลักกี้ อย่าความจริงมาล้อเล่นเด่ว เสี่ยจะร้อนตัว ถ้าเห็นเม้นนี้😁😁😁
เรื่องผ่านไปแล้ว คิดไปไร้ประโยชน์ มาช่วยกันคิดหาทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบันให้ดีเถิด เพราะบ้านเมืองเราตอนนี้มีภัยรอบด้าน หนักหนากว่าอดีตมากมายนัก ขอให้พี่น้องชาวไทยทุกคนดูแลครอบครัวให้ดี ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านเมืองให้ดี อย่าทิ้งภาระให้แด่ข้าราชการเท่านั้น
มันคือประวัติศาสตร ฟาย เรื่องราวเก่าๆ ก้ต้องรับรุ้ เรียนรุ้ ไวเป้นบทเรียน 🐃🐃🐃
งั้นจะมีศาสตร์ปวศไว้ทำไม มันมีประโยชน์แระแค่ไม่ถูกจริตคนอย่างคุณก้เลยทำไปมองข้าม
เออจะได้รู้เรื่องที่เราไม่รู้ยังไงละ
ไม่เคยทิ้งให้ข้าราขการต้องทำงานโดยลำพัง,,แต่เขาเช้าชามเย็นชามกันเอง.
ดูซิ้,ต่างด้าวแอบเข้ามาอยู่ในเมืองไทย 3ปีมีบัตรประชาชนแล้ว.555
แสนง่าย..
คนไทยแท้ๆตกสำรวจอยู่ในพื้นที่ ยังไม่มีสักใบ..
ไหนล่ะครับ ข้าราชการ.
ใช่ถูกต้องราชวงศ์นี้มีแต่เรื่องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นฆ่ากันเองในวงตระกูลไร้สาระ
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ไม่อ่านประวัติศาสตร์ตาบอดข้างเดียว
เชื่อทั้งหมดที่อ่านตาบอดทั้งสองข้าง.
แล้วให้ทำยังไงตาจึงจะปกติ ไม่เห็นจะเป็นคำคมตรงไหน😊
อดีตคือบทเรียน ไม่ให้เพื่อโทษใคร ใส่ร้ายใคร เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ แต่วันนี้เราอยู่ ทำวันนี้ของเรา แลคนที่เรารักให้จงดีเถิด
กฏมณเฑียรบาลเพิ่งมีสมัยรัชกาลที่ 6 ครับ บริบทสมัยนั้นไม่ได้มีการแต่งตั้งองค์รัชทายาทชัดเจน เมื่อราชบัลลังก์ว่างลง ขุนนาง หรือพระบรมวงศ์ก็จะต้องหารืออัญเชิญพระบรมวงศ์พระองค์ที่เหมาะสมขึ้นครองราชย์
คำกล่าวอ้างถึงกรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย เป็นคำกล่าวของฝรั่งต่างชาติ ไม่ใช่ของเจ้านายในวังนะครับ ฝรั่งผู้บันทึกอ้างว่าได้ยินมาอีกทีจากคนในวัง (เจ้านาย ข้าราชบริพาร?) นอกไปจากคำกล่าวอ้างลอยๆ นี้แล้ว ไม่เคยมีบันทึกใดๆ เลยที่กล่าวโทษกรมสมเด็จพระศรีสุลาไลยว่าเป็นหญิงมากเล่ห์ การตั้งข้อสังเกตเรื่องวางยาพิษนั้น ทำได้แต่ควรให้ข้อมูลให้ครบทุกด้าน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ แม้มีอำนาจขึ้นมากเพียงใด ยิ่งปกป้องภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎมากเท่านั้น หากเห็นว่าทรงเป็นเสี้ยนเป็นหนาม จะวางยาพิษ (สมมติว่าเป็นเรื่องจริง) พระภิกษุที่ต้องรับบาตรมิง่ายกว่าหรือ
ไม่เคยมีบันทึกใดๆ เลยที่กล่าวโทษกรมสมเด็จพระศรีสุลาไลยว่าเป็นหญิงมากเล่ห์------
กล้าคิดนะคุณว่าไม่มีใครบันทึก แค่เอาไปซุบซิบไม่เป็นลายลักษณ์อักษรนี่ก็กล้ามากที่สุดแล้ว ลองไปเขียนบันทึกสิ ตายภายในวันเดียวนะเธอ เร็วและร้ายแรงกว่า 112 พันเท่านะ
ถ้ามุ่งหวังไปในทางไม่ดี น่าจะกระทำต่อเจ้าฟ้ามงกุฎมากกว่าพระองค์อิ่นๆค่ะ อีกอย่างพอใกล้สิ้นรัชกาล ก้อไม่ได้ทรงแต่งตั้งใคร กลับมอบราชสมบัติให้กับเจ้าฟ้ามงกุฎดังเดิม
ชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไง ซีรีย์เกาหลีราชวงศ์โซชอนชิดซ้ายไปเลยเมื่อเจอทางนี้
อย่างที่บอกไม่อ่านประวัติศาสตร์เหมือนตาบอดหนึ่งข้าง อ่านแล้วเชื่อทั้งหมดเหมือนตาบอดสองข้าง อ่านแล้วยังไม่มีเชื่อทั้งหมดอาจจะตาไม่บอด อ่านแล้วเอาคิดมากวิเคราะห์ไปอาจจะผิดหรือถูก อาจจะบ้าได้ ก็บอกว่าถ้าไม่อยู่ในเหตุการณ์จริง ๆ ก็จะไม่มีใครรู้ แล้วถ้ามันไม่จำเป็นต้องไปสนใจ จะไปคิดมากให้มันปวดหัวทำไม แค่ใครสั่งปลงพระชนม์รัชกาลที่แปด เวลาใกล้เคียงกว่าก็ยังเถียงกันไม่จบ ถึงยังไงกฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม กัมมุนา วัตตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เอวัง.
อยากบอดก็บอดไปคนเดียวเลย
ทำไมไม่ไปสอบถามไอ้อีที่ออกรายการคุยกับวิญญานดูละครับ เห็นเก่งๆกันจัง 555
อย่างน้อยเราก็ยังได้รู้ประวัติศาตร์ความเป็นมาของเหล่าราชวงค์ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แล้วเชื่อได้ไงว่าเป็นความจริง การจดบันทึกรัตนโกสินทร์ โคตรจะน้ำเน่า
สวรรคตได้อย่างทันท่วงที หมายความว่ายังไง
คนโบราณสุขอนามัยไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ก็ฟังหูไว้หูก่อน ถือว่าเป็นอีกทฤษฎีหนึ่ง ไม่ต้องไปตัดสินตามคำบอกเล่าของใครคนใดคนหนึ่ง
ถ้ามองในแง่มุมทางการแพทย์ปัจจุบัน เหตุการณ์ที่ทรงพระประชวรนั้น ก็เกิดขึ้นได้ แม้ก่อนหน้านั้นพระพลานามัยยังดูปกติดี
ในสมัยนั้นอาจจะสันนิษฐานหรือให้ความเห็นหรือกระซิบกระซาบกันเองว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์ได้ แต่ถ้าเป็นสมัยปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้าแล้ว เพราะเราสามารถพบได้ว่ามีโรคหลายๆโรคทำให้เสียชีวิตแบบฉับพลัน เช่นไหลตาย ภาวะช็อกจากความร้อน ภาวะเส้นเลือดในสมอง และอื่นๆเยอะแยะมาก
ควรอยู่กับปัจุบันแล้วมองข้างหน้าหาอนาคตเพราะเรื่องในอดีตเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้หรอก
ขุนนางก็เต็มใจเพราะ ร.3 มีความสามารถ
เปรียบเทียบคนอายุ 37 กำกับราชการหลายกรม, เคยเป็นแม่ทัพคุมกำลังรับศึกพม่า vs คนอายุ 20 ยังไม่ปรากฎผลงาน
ก็เหมือนกับ รัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวง vs เด็กนักศึกษาปี 2
ขุนนางตระกูลบุนนาค ช่วยสนับสนุนด้วยใช่ป่าว นักประวัติศาสตร์ให้ความเห็นว่า ในช่วงยุค ร.สอง ขุนนางใหญ่ตระกูลนี้มีอำนาจมาก กำลังทหารส่วนใหญ่ ก้ออยู่การควบคุมของสมเด็จเจ้าพระยา ที่เป็นอัครมหาเสนาบดี
อยากรู้ร.8 ครับ
สวรรคตโดยทันท่วงที หมายความว่าอย่างไรครับ
ร3เก่งสุดในทำให้ประเทศร่ำรวยค้าขายเก่งมาก
ก็น่าคิด
เป็นเกล็ดความรู้เรื่องประวัติศาสตร์กษัตริย์ไทย ส่วนจะจริงเท็จเพียงใดก็ใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล
ผมอยากให้ทุกคนลองคิดตามนะครับ มีนักวิชาการหลายท่านในยุคปัจจุบันพยายามปกป้องรัชกาลที่3 ในขณะที่ลูกหลานของรัชกาลที่4 และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กลับบอกเล่าไปในเชิงของการชิงบัลลังก์ ถ้าเป็นการใส่ความ จะทำทำไมถ้าไม่เคยสร้างความเเค้นต่อกันมาก่อน คนนอกอธิบายแบบนึง แต่คนในที่อยู่ในรั้วและเป็นระดับเจ้าเท่าเรื่องครอบครัวออกมาแบบนึง เราผู้เป็นคนนอกก็คงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกอยู่ดีครับ
และในอีกประการหนึ่ง รัชกาลที่3 ไม่ตั้งพระมเหสีเลย จริงๆแล้วเพราะเค้าตั้งใจจะไม่ตั้งหรือเพราะตั้งไม่ได้กันแน่? เพราะถ้าเราดูกันดีๆแล้ว รัชสมัยของ ร1-2 เอง ก็ไม่มีการแต่งตั้งตำแหน่งมเหสีเลย เพียงแต่เป็นที่เข้าใจตรงกันเองว่าใครเมียใหญ่ ใครเมียเจ้า ลูกใครคือเจ้าฟ้า การแต่งตั้งตำแหน่งมเหสีมาเห็นได้ชัดจริงๆคือ สมัย ร5 ที่ประกาศเลยว่าจะแต่งตั้งนะ เริ่มจากพระบรมราชเทวี จนพัฒนามาเป็นตำแหน่งบรมราชินีนาถในเวลาต่อมา แต่สมัย ร3 กลับไม่มีแบบนี้ และนอกจากนี้การแต่งตั้งมเหสีต้องมาจากพระภรรยาเจ้า ซึ่ง ร3 ไม่มีพระภรรยาเจ้าเลย มีแต่พระภรรยาผู้เป็นสามัญชนหรือเจ้าจอม ดังนั้นจะแต่งตั้งเป็นมเหสีย่อมทำไม่ได้แน่ ในเมื่อไม่ใช่ลูกของมเหสีก็ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าฟ้า และอาจจะไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์แต่แรก จะเห็นเลยว่ายศของแม่นั้นสำคัญกับอนาคตของลูกมาก ทุกอย่างจึงกลับไปที่สายของอัครมเหสีอย่าง ร4 อีกครั้ง
อันนี้คือมองอย่างเป็นกลางนะครับ ยังไงเราก็เป็นคนนอก มองอย่างคนนอกตามหลักฐานและการศึกษาจากนักวิชาการเท่าที่มี และผมก็ไม่ได้จะสร้างดราม่านะครับ
ลองไปดูที่ผมเม้นท์โพสต์ไว้ มีคำตอบทุกอย่างที่คุณตั้งข้อสงสัย
ขึ้นกับว่าคุณจะเปิดใจหรือเปล่า..ก็เท่านั้น
@@kolatiswongsoponsiri8157 เปิดใจเรื่องอะไรครับ ผมไม่ได้ปิดใจกับอะไรเลยครับ และผมก็ชอบศึกษาประวัติศาสตร์มากๆด้วย เพียงแต่ว่า ผมไม่ได้มองประวัติศาสตร์เพียงด้านเดียว แต่มองอย่างเป็นกลางและไม่ได้สักแต่ท่องจำ ปัจจุบันหลักฐานชั้นต้นและคำวินิจฉัยต่างๆ จากนักวิชาการมีออกมามากขึ้น สักแต่ท่องในห้องเรียนอย่างเดียวไม่มีประโยชน์ครับ ผมบอกแล้วว่า คนนอกวังที่ไม่เห็นอะไรเลยอย่างเรากล่าวแบบนึง แต่คนในวังซึ่งเป็นลูกหลานเหลนและอยู่ในรั้ววังได้กล่าวอีกแบบนึง แต่นักวิชาการก็ได้มีการตีความใหม่ โดยใช้หลักฐานใหม่และตีความจากคำบันทึกต่างๆโดยพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร5 และ ร6 ซึ่งลงบันทึกด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่ ร4 ได้พระราชทานบทสัมภาษณ์เอาไว้ ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ในเรื่องกรณีการขึ้นครองราชย์ของ ร3 รวมถึงการสืบบัลลังก์ต่อด้วย ถ้าเราตั้งแง่หาว่าคนอื่นไม่เปิดใจทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่มองต่างประเด็นออกไป ตอนนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่เรากำลังแบ่งเป็นฝ่าย ร3 และฝ่ายของ ร4-6 นะครับ ดังนั้นเราถึงควรมองให้เป็นกลางครับ ให้มองประวัติศาสตร์อย่างเป็นกลางที่สุด ผมกล่าวอะไรๆหลายๆอย่างเป็นการเปิดประเด็นแต่ไม่ใช่การฟันธงครับ ไม่ใช่การกล่าวหาแต่เป็นการอภิปรายครับ เรื่องราวทางวิชาการ เราทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นโดยไม่หยาบคายจริงไหมครับ?
หากเราทุกคนเชื่อว่าสถาบันกษัตริย์คือสวนรวมจิตใจของคนในชาติ เราควรรู้จักเรื่องราวของพวกท่านอย่างตรงไปตรงมา มีหลักฐานเขื่อถือได้ครับ แต่ไม่ใช่ท่องอย่างเดียวเหมือนที่เราเจอในห้องเรียน หรืออ่านมาจากอินเตอร์เนตโดยไม่ประมวลจากหลักฐานอื่นๆ คิดต่างไม่ได้เลย จะทำให้สถาบันเข้าถึงได้ยากครับ และเราเป็นคนนอกครับ มองอย่างเป็นกลางดีกว่าครับ ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของดีชั่ว แต่เป็นเรื่องของอดีตครับ
พระนางเจ้าสุวัทนา ก็เป็นสามัญชน ยังตั้งได้
@@jak4226 พระนางเจ้าสุวัทนา เป็นพระวรราชเทวีครับ แต่ไม่ใช่พระบรมราชินี และสมัยนั้น ร6 ต่อต้านการแต่งกันเองกับญาติใกล้ชิด โดยเฉพาะเหล่าพี่น้องพ่อเดียวกัน ดังนั้นจึงได้มีการแต่งตั้งหญิงที่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ให้มีตำแหน่งสูงถึงขั้นราชเทวี เพื่อให้ทายาทที่ประสูติออกมามียศเป็นเจ้าฟ้า
ผู้ชนะเป็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์
แค่บทความ บ่อนทำลาย สถาบันหลัก ของชาติ ที่คนกลุ่มหนึ่งอุปโลกน์ขึ้นมา
เปิดกลางคืน เสียงหลอนเลยครับ เสียงเคาะอะไรก้องๆ ขนลุกมากครับ
มีอดีตเลยมีปัจจุบัน..การศึกษาประวัติศาสตร์เป็นเรื่องดี ทำให้เรารู้ที่มา ที่ไป รากเหง้า เผ่าพันธุ์ เขื้อโคตรของเรา..แต่กระนั้นแล้วเราได้อะไรจากอดีต เราเรียนรู้อะไรในอดีต ทำไม? จึงเป็นเช่นนั้น อย่างนั้น อย่างนี้ ต่างคนต่างเหตุผลทางความคิด แค่รู้และปลง เพราะเราไม่ได้เกิดในยุคเกือบ100-200 ปีก่อน เราตามไปแก้ไขประวัติศาสตร์ไม่ได้ ที่ทำได้คือ..อยู่กับปัจจุบัน บนทางสายกลาง ตามธรรมะแห่งพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้ 2565 ปัญหาเศรษฐกิจเอย , การเมืองเอย,ข้าวยากหมากแพงเอย,โรคระบาดเอย,คนจิตใจต่ำทรามเอย,อาชญากรรมชุกชุนเอย ..บลาๆๆๆ ก็เยอะแยะหนักหนาพอแล้ว ปล่อยอดีตผ่านไป ทุกอย่างหาใช่สิ่งจีรังไม่ แค่ทำดี รักตัว รักครอบครัว ไม่ก่อบาปเป็นพื้นฐานเล็กๆพอแล้ว
ในมุมการตั้งข้อสงสัย ทำได้ครับ
ในมุมการสันนิษฐานเรื่องโรคปัจจุบัน อย่างเส้นลือดสมองแตก เป็นได้ครับ ยิ่งได้ยาที่ประตุ้นการไหลเวียนยิ่งเลือดออกมากขึ้น + รู้สึกวูบวาบ
แต่หากสงสัยว่าเป็นการวางพิษ ผมยังนึกพิษที่ทำให้รู้สึกอย่างอาการที่ว่าไม่ออกครับ ผมว่าเนื้อหาจะสมบูรณ์ที่สุดหากมีข้อมูลเรื่องพิษและอาการของพิษที่น่าสงสัยครับ
นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัช ได้วิเคราะห์สาเหตุการสวรรคตของ ร.2 ว่า มีอาการที่เหมือนกับโรคสมองอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสค่อนข้างมาก ( นั่นคือ ปวดพระเศียร ปวดเมื่อย มึนพระองค์ มีพระไข้ ซึมลง ตรัสไม่ได้ และเสวยพระโอสถไม่ได้ )
นอกจากนี้ อาการยังมีความคล้ายกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเช่นกัน แต่อาการพระศอแข็งไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากไม่มีบันทึกโดยแพทย์หลวงหรือปรากฏในเอกสารชิ้นใดเลย
ดังนั้น นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัชจึงมีความเห็นว่า ร.2 น่าจะทรงพระประชวรและสวรรคตด้วย ** โรคสมองอักเสบ** ที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสหรือ **โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ** มากที่สุด
หากมีอาการคอแข็งด้วย น่าจะสรุปเหลือเพียงโรคเดียวคือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
การที่แพทย์แผนไทยโบราณตอนนั้นไม่รู้จักเชื้อไวรัส และรักษาไม่ตรงกับโรค ก็น่าจะเป็นเหตุให้โรคกำเริบรุนแรงจนส่งผลให้สวรรคตในเวลาไม่นาน
ผ่านแล้วผ่านไปอย่าย้อน แก้ไม่ได้แล้ว ทำปัจจุบันสห้ดีที่สุด..
หัวใจวายก็ตายได้ค่ะ ไม่ต้องมีอาการก่อน เพลียเมื่อยเปลี้ยเป็นสโตรค โบราณไม่มีฉีดสีผ่าตัดหลอดเลือดอุดตัน
นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัช วิเคราะห์จากพระอาการเท่าที่มีบันทึกไว้ มีความเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยน่าจะทรงพระประชวรและสวรรคตด้วยพระโรคติด เชื้อของสมอง ซึ่งอาจเป็น"โรคสมองอักเสบ" ที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสหรือ"โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ" มากที่สุด
เมื่อการแพทย์สมัยโน้นยังไม่มีความรู้เรื่องโรคดังกล่าว การรักษาที่ผิดโรคก็เท่ากับไม่ได้รักษา เป็นเหตุให้พระโรครุนแรงถึงแก่สวรรคตในเวลาไม่นาน
อ่านแล้วไม่หลุดไปใหนก็คือ"หมกมุ่น"....
ช่วยกันแก้ไขปัญหาในยุคปัจจุบันให้อยุ่รอดปลอดภัยดีกว่า
การลอบสังหาร วางยาพิษ กษัตริย์มีมานานแล้ว
ถ้าท่านหวังบัลลังค์คงตั้งมเหสี กับรัชทายาทไปแล้ว
เรื่องในอดีตที่บันทึกไว้ อาจคลาดเคลื่อนได้บ้างจากผู้บันทึก ผู้บอกต่อที่มักเล่าเฉพาะส่วนดีของฝ่ายตน.. แต่ก็จะมีเค้าความจริงอยู่ด้วย..คงไม่แตกต่างจากที่เห็นนำมาสร้างหนังทั้งยุโรป เอเซีย
ใส่ใจกิจการบ้านเมือง ออกว่าราชการตลอด จนขุนนางน้อยใหญ่เห็นชอบ ไม่เอาแต่เสพกาม คิดว่าฐานันดรศักดิ์ใหญ่กว่ายังไงก็ได้
เป็นเรื่องปกติในราชวงศ์ จะสูงหรือจะยังไงก็หนีเวรกรรมไม่พ้น