จับตาโรว์ลิง EP. 7 part 1 | ทำไม J.K.Rowling ถึงบอกว่า “ไม่รับคำขอโทษ” 😤
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 14 มิ.ย. 2024
- สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
/ @potterdiary
ไม่ใช่แค่การสนับสนุน movement ที่ริดรอนสิทธิผู้หญิง
แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าคือการสนับสนุนกลุ่มองค์กรที่พาเด็กเข้าสู่กระบวนการแปลงเพศ โดยมีแค่ "ความเชื่อ" เป็นตัวนำว่าสิ่งนี้จะช่วย #เด็กข้ามเพศ ให้มีความสุขได้
ติดตามกันได้ที่
Facebook : พอตเตอร์ไดอารี่
Timestamp
0:00 Intro
4:27 JK Strikes Back
8:55 บ่อนทำลาย "สิทธิสตรี"
16:35 ส่งเสริมการแปลงเพศในเยาวชน
21:50 เกิดอะไรขึ้นใน UK
24:15 การแปลงเพศ
27:35 ภาวะ Gender Dysphoria
32:24 GIDs
38:56 แพทย์หญิง Littman
43:42 Summary part 1 - บันเทิง
คนไทยก็มีค่ะเคยเห็นในยูทูปนี่แหละค่ะ ว่าแปลงเพศจากชายเป็นหญิงแล้ว เค้าอยากแปลงกลับ แต่มันไม่ได้แล้วไงคะ เพราะฉะนั้นการพบจิตแพทย์จึงสำคัญมากค่ะ
ไม่แปลกเลยครับตอนเด็กด้วยความที่เป็นแค่เด็ก บาบาบาบา แต่พอโตมาอยากกลับไปเป็นแบบเดิมแต่เปลี่ยนกลับไม่ได้แช้วก็มานั่งเสียใจทีหลัง
ที่บ้านนี้มีเลย ตอนเด็กวัยรุ่นเป็นLpg😅เอ้ย,Lgbt แต่พอเป็นผู้ใหญ่มีลูกเมียเฉย การแน่ใจเรื่องแปลงเพศควรคิดดีๆก่อน ตาม JKว่าเลย พอคุณโตแล้วอยากตัดก็เอาเลย
@@ikarus.w7933เขาเป็นไบหรือเปล่าครับ
JKจะไม่านับสนุนรักร่วมเพศได้ยังไง เพราะเธอเขียนชัดเจนว่าดัมเบิลดอร์เป็นเกย์ ก็สนับสนุนอยู่นะ แค่คนสมัยนี้มันสุดโต่งเกิน
มันเป็อย่างงี้น่ะ (ในถานะที่เราเป็นบุคคลข้ามเพศเช่นกันที่ขอแสดงความเห็นส่วนตัว)
ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจว่า เพศสภาพปกติมีแค่ หญิง และ ชาย เท่านั้น แต่จะมีความผิดปกติทางเพศชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้บุคคลมีสองเพศ คือ มีสองอวัยวะในหนึ่งคน แต่บุคคลข้ามเพศคือบุคคลที่ไม่มีความปกติทางร่างกาย ร่วมถึงพันธุกรรมซึ่งนั่นหมายถึง โครโมโซมเพศหญิงหรือชาย หมายความว่าถึงจะแปลงเพศอย่างไร เพศสภาพก็ยังคงเป็นหญิงหรือชายเช่นเดิม
ประเด็นสำคัญ
1.บุคคลข้ามเพศบางคนเขารู้สึกว่าตนเป็นบุคคลที่ตนกล่าวถึงจริงๆ คือ รู้สึกว่าตนเป็นหญิง/ชาย (ซึ่งเราไม่สามารถรับรู้ความจริงได้เลยว่าความรู้สึกนั้นจริงมากแค่ไหน)
2.บุคคลข้ามเพศที่ยอมรับเพศสภาพตนเอง นั้นคือ ไม่พยายามเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าตนเกิดในเพศ ชาย/หญิง แต่สามารถเลือกใช้ชีวิตแบบเพศสภาพที่รู้สึกหรือที่เป็นได้
ซึ่งส่วนตัวแล้ว ประเด็นเรื่องสิทธิบุคคลข้ามเพศมันมากมายและซับซ้อนมาก และยิ่งซับซ้อนมากขึ้นอีกตามวิถีความเชื่อ(ซึ่งแถบจะเรียกได้ว่าเป็นสัจธรรมของคนบางกลุ่ม)
ใดๆคือ มนุษย์เราทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน(ตามบทบาท บริบทสังสังคม)
ควรยึดหลักเพศสภาพกำเนิดเป็นเกณฑ์หลัก(แต่มีกฏหมายพิเศษรองรับ)
หญิงคือหญิง
ชายคือชาย
บุคคลข้ามเพศคือบุคคลข้ามเพศ
ความหลากหลายทางเพศ(รสนิยมทางเพศ)คือความหลากหลายทางเพศ
ถ้าให้แนะนำ คือพวกเราไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอก แค่ได้ทำงานได้เหมือนคนทั่วไปโดยไม่มีคำว่าเพศสภาพมาเป็นตัวตัดสินความสามารถ ต้องการชีวิตคู่ที่ถูกต้องตามกฎหมายเหมือนคนอื่นๆ มีสิทธิ์ในการดำรงชีวิตได้เท่าๆกับคนอื่นๆ แค่นั้น (เรื่องการเหยียดมันอยู่ที่สันดานคน)
ป.ล. เราเองภูมิใจที่เกิดมาแบบนี้(แม้จะลำบากและไม่มีสิทธิ์เท่าคนอื่น แต่ก็ภูมิใจ)ภูมิใจในคำนำหน้าชื่อ และภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น(มนุษย์คนนึง)
มีคำถาม ถามได้
ผมเชื่อว่าภาวะ gender dysphoria นั้นมีจริง ดังนั้น ผมยอมรับครับว่าคนข้ามเพศมีอยู่จริง และผมเห็นใจพวกคุณมาก (จากใจจริง) คนข้ามเพศไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะเป็นคนข้ามเพศ พวกคุณมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตเหมือนกับคนทุกเพศสภาพครับ
ประเด็นที่คุณชี้มา ผมเห็นด้วยทุกประการครับ แต่ขณะเดียวกัน บางเรื่องก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะว่า "ไม่สามารถรับรู้ความจริงได้เลยว่าความรู้สึกนั้นจริงมากแค่ไหน" นี่ล่ะครับ มันยิงไปหากลุ่มผู้หญิงโดยตรง เพราะ พวกเธอถูกบอกว่าต้อง share พื้นที่เฉพาะ (ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว) ให้กับ transwomen แล้วพวกเธอจะรู้ได้ยังไงว่าที่เห็นนี้เป็น transwomen จริงๆ ไม่ใช่พวกนักล่าที่แฝงตัวมา
ผม respect คุณนะ เพราะคุณอยู่กับความจริง คุณไม่ปฏิเสธเพศกำเนิดเดิมของตนเอง และคุณรู้ว่ามันมีข้อจำกัดในการข้ามเพศ แต่ trans บางส่วนนี่ล่ะครับที่เป็นปัญหา หลงไปไกลมาก คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นผู้หญิงจริงๆ ให้ได้ (หมายถึงกรณี transwomen นะครับ) ในไทย trans ที่เป็นแบบนี้มีส่วนน้อย แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกสิบปีข้างหน้า คนที่คิดแบบนี้จะเพิ่มอีกรึเปล่า โดยเฉพาะอิทธิพลสื่อออนไลน์เดี๋ยวนี้ ไม่อาจไว้ใจได้จริงๆ ครับ (ดังที่ผมในยกตัวอย่างของหมอ Littman ไปในคลิป)
ขอบคุณที่คุณมองโลกตามจริง ในไทยเราว่าคงไม่มีปัญหา แต่ในเมืองนอกกลุ่ม trans เรียกร้องมากจริงๆจนเกือบจะเบียดเบียนกลุ่มหญิงจริงๆ เช่น การเข้าแข่งกีฬากับหญิง ทั้งๆที่พื้นฐานร่างกายต่างกัน มันควรแบ่งเป็น 3 กลุ่ม แบบที่คุณว่า ญ ช และ ข้ามเพศ
แม่เจเคเลิศมาก หลายปีแล้วที่ในทวิตมีคนด่าป้าแกเสียๆหายๆโดนไม่หาข้อมูลอะไรเลย ในที่สุดก็มีคนตาสว่างสักที🥹
แล้วคือสงสารผู้เสียหายสุดๆ
เห็นด้วย เลย ใช้ร้ายแก เสียๆหายๆ ทั้งที่ไม่เป็นจริง ขนาด เราตาม เกม แฮรี่พอสเตอร์ ดราม่าคนเล่นเกม วีทูเบอร์ จนถึงขั้นขู่ประทุร้าย ต่างๆนาๆ เพราะ ข่าวปลอม เจเค เหยียบเพศ มันบ้าบอที่สุดเลย
แกไม่ได้ห้ามนะเรื่องเป็นLGBTแต่แกห้ามเรื่องเยาวชน ที่ไปตัดปิกาจู้ ก่อนวิเคราะห์จิต
ลัทธิโว๊คมันอันตรายมากๆเลยนะ
ทุกอย่างอะ อายุน้อยมันก็หุนหันพลันแล่นหมด
เห็นด้วยกับเจเค
ผมมักจะเห็นว่ากลุ่ม LGBTQ+ ไม่ถูกกับ ศาสนา เพราะพวกเขามองว่าคนที่นับถือศาสนามักบังคับให้คนรอบตัวคิดไปในทางเดียวกัน แต่เท่าที่ดูแล้วกลุ่ม LGBTQ+ พวกนี้ก็ทำตัวไม่ต่างกันเลย หรือ มันเป็นสัญชาติญาณที่อยากเพิ่มจำนวนประชากรกลุ่มตัวเองก็ไม่รู้ไอ้การที่พยายามจะเปลี่ยนเด็กให้เหมือนกับพวกตัวเอง (นี่มันวิธีสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศรึไง)
นั่นคือความย้อนแย้งที่ผมอึ้งเหมือนกันครับ ด่าพวกฝั่งขวาจัดแทบตาย สุดท้ายกลับทำแบบเดียวกัน
เด็ก-วัยรุ่นมันไม่มีแนวคิดเรื่องเพศเท่าผู้ใหญ่ไง ชอบเขาก็คือชอบ ลักษณะกายภาพภายนอกชายหญิงก็ไม่ต่างกัน สิ่งที่ไม่เหมือนกันแค่อวัยวะเพศในกางเกงที่มองไม่เห็น แล้วเขายังไม่มีความคิดเรื่องความเข้ากันได้ในเพศสัมพันธ์
เราเห็นเด็กผู้ชายคนนึง(5-6ขวบ)บอกว่าอยากแต่งงานกับเพื่อนผู้ชายในห้อง คนในเน็ตพากันคอมเม้นว่าดีจริงๆ ที่สามารถแสดงออกว่าเป็นเกย์ได้ตั้งแต่ตอนนี้ เรานิแบบ หืมมมมม
ในวัยเด็กบางคนก็ต้องเคยหวั่นไหวกับเพศเดียวกันรึเปล่า ตอนม.ต้นเราเคยหวั่นไหวกับเพื่อนผู้หญิงในห้อง แบบแอบมอง เขียนจดหมาย ซื้อของขวัญวาเลนไทน์ให้ด้วย แต่พอเรียนจบมา อยู่ในสังคมเราก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ ยังมองว่าผู้ชายมีแรงดึงดูดมากกว่า ไม่ได้อยากมีอะไรกับผู้หญิง
ถ้าวันนั้นเราที่เป็นแบบนี้อยู่ในสังคมเหมือนในคลิปที่แค่บอกว่าชอบเพื่อนผู้หญิงก็โดนพาไปฉีดฮอร์โมนเพศชาย โดนล้างสมองว่าเราเป็นเกย์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองทุกวันนี้จะกลายเป็นแบบไหน
ที่คุณยกตัวอย่างมาเหมือนกับที่ป้าโจเคยออกมาอธิบายเลยครับ แต่ตอนนั้นแกโดนถล่มซ้ำอีกว่าพยายามจะอ้างว่าตัวเองเป็นทรานส์เหรอ!?
คลิปนี้ไขข้อสงสัยจริงๆครับ คนจะพูดถึงความหลากหลาย อย่างแรกคือต้องยอมรับความเห็นในมุมที่หลากหลายให้ได้ก่อนนะ บางอย่างมันไม่ได้ ก็ไม่ได้จริงๆ ก็ต้องตามนั้น ยอมรับความจริงกัน ความจริงก็คือความจริง
พี่พูดเก่งมาก พูดได้ไงเป็นชั่วโมง เรียบเรียงเนื้อหาครบถ้วนดีด้วย อยากให้คนมาฟังเยอะๆ❤
ขอบคุณที่เข้ามาฟังครับ 🤩🤩
ขอบคุณครับ คือพูดแทนแทบจะหมดเลยครับ สุดยอดมากครับ ข้อมูลแน่น เรียบเรียงเนื้อหาดี นํ้าเสียงน่าฟัง
ปล. 31:56 สุดๆครับสุดยอดครับ มันก็เป็นคำถามแบบเดียวกันกับที่ผมเจอทุกวันนี้
นักแสดงบางคนก็มีลูกละนะ น่าจะคิดได้แล้ว ว่าถ้าเกิดเหตุกับลูกตัวเองจะเป็นยังไง ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้
ถ้าดูพวกดารา Hollywood ที่มีลูกทุกวันนี้ คุณจะไม่แปลกใจเลยครับ
ตรรกะที่เจ้าของช่องพูดก็ถูกต้องชัดเจนเลยนะ ใครหน้าไหนสนับสนุนให้เด็กแปลงเพศ โปรดจงพาลูกตัวเอง อายุไม่ถึง 18 เดินมาถามขอแปลงเพศ ให้จูงลูกมือท่านไปแปลงเพศทันทีเลย ถ้าคุณยังทำสิ่งนี้ไม่ได้ อย่าเสนอออกหน้ามาสนับสนุน เพราะพ่อแม่คนอื่นเขาเดือดร้อน
ความรู้เน้นๆครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณที่เข้ามาฟังครับ ^_^
ลูกสาวอยู่ ปอสอง มีเพื่อนผู้ชายสองคนบอกเพื่อนๆของตัวเองว่าตัวเองเป็นเกย์ ทั้งๆที่เด็กผู้ชายทั้งสองคนชอบเตะบอลมากและชอบเล่นกับเด็กผู้ชายด้วยกัน ไม่ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิง
พอลูกสาวอยู่ปอสี่ เด็กสองคนที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นเกย์ บอกว่าตัวเองคือผู้ชาย และจะไม่เป็นเกย์เด็ดขาด
แต่มีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่สนิทเป็นเด็กผู้ชาย บอกว่าตัวเองเป็นไบร
ตอนนี้ลูกสาวอยู่ปอหกค่ะ เพื่อนของที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นไบร บอกว่า ตัวเองคือผู้ชายและชอบผู้หญิง จะไม่เป็นไบรเด็ดขาด ชอบผู้หญิงเท่านั้น
ตอนนี้เราใช้ชีวิตอยู่ออสเตรเลียค่ะ
เด็กส่วนใหญ่เหงา และโดยชักจูงง่ายค่ะ
เคยดูสารคดีสัก 15 -20 กว่าปีที่แล้ว กว่าเขาจะแปลงเพศให้ใครได้ต้องทดสอบทางจิตใจสารพัดเลยนะ เดี๋ยวนี้ง่ายขนาดนี้ ก็น่ากลัวนะ
คนดังจะแสดงความเห็นอะไร ต้องระมัดระวังจริงๆ แหละ การโฆษณาสินค้า/บริการ ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวของคนดังก็เช่นกัน คนติดตามจะแยกยากว่าเขากำลังทำงานอยู่ หรือเขาชอบผลิตภัณฑ์นั้นจริง
คือคนกลุ่มนี้ให้เหตุผลว่าการทดสอบนั่นมันแพงและเสียเวลา จึงควรลดขั้นตอนนี้ลงไปเลย โดยไม่มองว่าที่เขามี เพราะ จะ save คนที่จะแปลงนั้นล่ะ ว่าแปลงไปแล้วจะไม่มานั่งเสียใจมีหลัง เพราะมันย้อนกลับไม่ได้
ผมว่าคุณเปรียบเทียบผิดเรื่องการชุมนุมหรือที่คุณเรียกเป่านกหวีด
คุณควรจะเปรียบเทียบกับการโฆษณาทั่วไป ที่เอาดารามา ทั้งที่ดาราไม่เคยที่จะคิดใช้สินค้าพวกนั้นเลย
เราว่าเทียบถูกแล้ว เพราะมันคือความเชื่อ (เชื่อว่าทราน=ชายหญิง เชื่อว่าแปลงเพศ=แก้ปัญหา) มันไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่การสร้างรายได้
การชุมนุมคือลักษณะเดียวกันเลย ไม่ว่าจะ เหลืองแดง นกหวีด สามนิ้ว มันคือความเชื่อว่าสิ่งที่เราเชื่อนั้นถูกต้อง เมื่อมีคนมีอิทธิพลออกมาสนับสนุนความเชื่อนั้น คนก็ยิ่งเชื่อมั่นว่าฝั่งตนนั้นถูก ขณะเดียวกันอีกฝั่งของความเชื่อก็จะเริ่มตั้งคำถามว่าหรือเราเชื่อผิด เพราะคนมีอิทธิพลที่ตัวเราให้ความนับถือเลือกคนละฝั่งกับเรา
สิ่งเหล่านี้มันเริ่มจากความเชื่อก่อน ค่อยหาเหตุผลมารองรับความเชื่อเหล่านั้น พอคนเชื่อแล้ว ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะหนักเบาเพียงใด มันก็จะมีน้ำหนักมากขึ้นเสมอ
ขอบคุณมากครับ ข้อมูลท้ายสุด ผมพึ่งมารู้จากแอดมินเนียและครับ
ยอดเยี่ยมมากครับ
ผมขอแชร์คำถาม ที่เผื่อแอดมินนำไปต่อยอดต่อนครับ
คำถามชวนคิด
1. คนไทยรู้ข้อมูลพวกนี้ หรือ ข่าวสารหัวข้อนี้มากน้อยเท่าไรครับ? เหมือนคนไทยยังตามข่าวไม่ทัน
2. เราเห็นแล้วว่า นักเคลื่อนไหว คนข้ามเพศ หัวรุนแรงมีอยู่เยอะ ถามว่า ในประเทศไทยมีคนกลุ่มนี้อยู่มั้ย? ถ้ามีเราจะรับมือคนกลุ่มนี้ยังไง เช่น ถ้าเขาคุกคามเรา เราฟ้องได้มั้ย?
3. เด็กที่อ้างเป็น Gender dysporia อาจมีสาเหตุจากการปลูกฝั่งจาก ครูที่เป็น นักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง หรือ สื่อ เพลงที่ woke มาก และอวย LGBT
ตัวอย่าง ในอเมริกา นักข่าวสัมภาษณ์ครูคนนึง แอบติดกล้องถ่ายด้วย ทำให้จับโป๊ะได้ว่าครูคนนี้ เป็น นักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง บังคับให้เด็กอายุไม่ถึง 13 ปี ไปงาน Pride Parade ดูผู้ชายเดินแก้ผ้า ถ้าไม่ไปจะไม่ให้ผ่าน เพราะเหยียดเพศ อันนี้ แอดมินลองค้นดูได้ครับ
เดี๋ยวคิดอะไรออกจะมาเสริมนะครับ
ใครมีความเห็น คอมเมนท์ได้เลย
1. หลายคนยังไม่รู้ครับ ยิ่งกระแสรณรงค์เรื่องสิทธิ LGBT ที่กำลังมาในไทย เรื่องนี้แทบจะไม่ถูกยกมาพูดเลย
2. ในไทยไม่รุนแรงเท่าที่อังกฤษ ส่วนมากก็ได้แค่ปากแจ๋วในโลกออนไลน์ครับ แต่ก็มีกรณีที่เกมเมอร์ฟ้องเพื่อสั่งสอนเหมือนกัน (กรณีเกม Hogwart Legacy เมื่อปีที่แล้วไงครับ)
3. ตอนแรกก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ครับ แต่พอได้ลองค้นดูแล้ว เป็นอย่างที่คุณว่าจริงๆ Activists พวกนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่ถือป้ายประท้วงอย่างเดียว แต่คนระดับสูงๆ เช่น นักการเมือง ผู้บริหาร ฯลฯ น่ากลัวสุดคือพวกบุคลากรทางการศึกษานี่ล่ะครับ
ผมดีใจมากๆเลยนะ ที่บ้านเราหรือทั้งในเอเชียส่วนมากยังไม่มีความคิดบ้าๆแบบนี้
สำหรับgender dyphoriaในผู้หญิง มีคำนึงติดอยู่ในใจเราคือ Being a girl is okay, being a woman is not. ตอนเป็นเด็กมันโอเคแหละ พอต้องโตต้องมีการเปลี่ยนแปลงต้องมีบทบาทในฐานะผู้หญิง มันเริ่มรู้สึกไม่โอเคขึ้นมา
ตอนนั่งอ่านเรื่องภาวะ gender dysphoria ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มีอาการ suffer จากภาวะนี้ในช่วงวัยรุ่น แต่พอลองคิดในแง่ชีววิทยา ก็คิดว่ามัน make sense เหมือนกันนะครับ ผู้ชายไม่เคยต้องเจอกับภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปมา ไม่เคยต้องเจ็บมดลูกที่จะมาทุกๆ รอบเดือน เมื่อก่อนไม่เข้าใจผู้หญิงเลยว่าทำไมอารมณ์ถึงแปรปรวนง่าย แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมพอเข้าใจมากขึ้นล่ะครับ
อุดมการ์ณอะไรที่มันมากเกินไป พอเริ่มอยากได้อำนาจใช้เพื่อลวงหลอกผู้อื่น ไม่ก็จะไม่ใช่หลักเสรีภาพอีกต่อไป
วิเคราะห์ได้ดีมากเลย เล่าได้สนุกและได้ความรู้
มองแล้วก็น่าเห็นใจ JK
ขอบคุณที่ให้ได้ฟัง ขอให้ได้แสนซัพเร็วๆวัน ^^
ขอบคุณที่เข้ามารับชมครับ
ปล. ไม่กล้าหวังไกลขนาดแสนซับหรอกฮะ 😂
ตอนดูไลฟ์นึกว่า TRAs ไม่พอใจเลยยิงไลฟ์ให้หมุน😂
รอบหน้าลงคาถาป้องกันมักเกิ้ลเต็มสูบ!!!!
ไม่เคยฟังคลิปยาวขนาดนี้มาก่อน สนันสนุนป้าโจ
ขอบคุณที่เข้ามาฟังครับ 🤩🤩
กลายเป็นเพศอภิสิทธิ์ชนแล้ว แตะไม่ได้ บางเรื่องมันคือ fact
มันเป็นที่ Woke culture ครับ Woke จนหลอน 😅
Woke จนตกขอบและหลุดจากความเป็นจริง 😓😓
6:06 เห็นเลยว่า สื่อที่แม่งปราศจากความรับผิดชอบ การควบคุม และลงโทษ.............มันจังไรได้แค่ไหน...............
จากที่เราพยายามศึกษาตัวเองคืออย่างนี้หลายคนยังเข้าใจว่า LGBTQIA+ เนี่ยมันคืออย่างเดียวกันแต่มันไม่ใช่ มันแบ่งเป็นสามหัวข้อใหญ่ๆ คือ
1.เพศสภาพ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกที่เรามองเห็นได้เรียกง่ายๆเครื่องเพศ เช่น ผู้หญิง ผู้ชาย ทรานส์หรืออินเตอร์เซ็ก
2. รสนิยมทางเพศ คือ ความชอบในการทำกิจกรรมทางเพศ เช่น เกย์ ไบ เลสเบี้ยน เควียร์
3.สำนึกทางเพศ คือ สิ่งที่สับสนมากที่สุด เป็นสิ่งที่อยู่ลึกในใจ เช่น ชาย หญิง นอน-ไบ หรืออื่นๆ
สามอันนี้คือมันสามารถแยกกันได้ไม่จำเป็นว่า คุณมีรสนิยมเป็นไบแต่สำนึกคุณเป็นชายหรือหญิงก็ได้ แต่บางคนจิตสำนึกเขาเป็นไบก็มี
เพราะแบบนี้แหละมันเลยมีคนที่สับสนทางเพศเพราะเขาแยกไม่ได้และสังคมก็พยายามหล่อหลอมว่า คุณเป็นผู้ชายต้องทำแบบนี้ ผู้หญิงต้องทำแบบนี้ กะเทยต้องแบบนี้ ทั้งที่ความจริงมันเป็นคนละส่วน คุณชอบเพศเดียวกันคุณไม่ต้องแปลงเพศเสมอไป เพราะคุณอาจเจอคนรสนิยมทางเพศเหมือนคุณก็ได้ ไม่ใช่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น ผมผมชอบผู้ชายแต่ก็มีเพื่อนเป็นผู้ชายแท้เยอะ เราก็พูดคุยกันเป็นและไม่แตะต้องเรื่องรสนิยมทางเพศกันและก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันมากเกินไป
ต้องแยกประเด็นให้ได้ก่อนว่าเค้าพูดถึงตรงไหน ไม่ใช่แค่คำพูดคำเดียวแล้วลากประเด็นอื่นมาเหมารวม
พวกกลุ่มทรานซ์ที่มาเรียกร้องมันทำเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อใครไม่เห็นด้วยก็กล่าวหาเขาเป็นทรานโพเบียพอโดนตอบโต้กลับก็ทำตัวบอบบางเป็ผู้ถูกกระทำ หมายถึงเฉพาะพวกที่ออกมาเรียกร้องรุนแรงนะทรานซ์อื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่มนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรและไม่ได้เป็นบ้า
ผมว่าไปขอโทษให้ถูกกลุ่มดีกว่าครับ
จำกรณี วิพากวิจารณ์เกี่ยวกับ นักกีฬา ชายแปลงเพศ ไปแข่งกับ นักกีฬาหญิงได้มั้ยล่ะ จะเกิดกรณีแบบนี้ ทั่วโลก แล้วจะเอาอะไรเป็น บรรทัดฐาน ของการแข่งกีฬาอย่างเป็นธรรม
พวกเขายังเชื่ออยู่เลยครับว่าไม่มีความต่างทางสรีรระหว่างชายหญิง ดังนั้นถ้าแปลงแล้วแข่งได้ (บ่าบอ)
ขอบคุณที่เอาความรู้มาให้คนไทยที่ยังคิดถึงครอบครัวปัจจุบันที่พวกเรายังเข้าใจผิดของลูกหลานเราเปิดรับความจริงและการข้ามเพศและเฝ้าระวังลูกหลาน แต่ก็แอบคิดในใจว่าจะปลอดภัยในสังคมปัจจุบัน หลายคนก็คิดอย่างนั้นเพราะมีแต่อันตรายในชีวิตจริง
ยินดีมากครับ - และเห็นด้วยครับ เราเปิดและยอมรับสิ่งที่เยาวชนอยากจะเป็นอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องช่วยกลั่นกรองข้อมูลความคิดของพวกเขาด้วยเหมือนกัน เพราะบางครั้งมันก็มีอันตรายอีกด้านหนึ่งแฝงอยู่ และผลเสียที่ตามมาหากไม่ระวังให้ดี มันก็จะติดตัวพวกเขาเองไปตลอดชีวิตเช่นกันครับ
❤❤
คนมันพึ่งจะมีตังค์ก็เลยหยิ่งยะโส
ขอโทษครับ ผมมันคนโคราช 😁😁
@@PotterDiaryพล่าม!!!
คนจะเป็นเพศอะไรใช่ครับแต่เอกสารราชการ ระบุบเพศกำเนิดอ่ะถูกแล้ว
ถ้าเปลี่ยนคำนำหน้านามได้ ผช ที่แต่งกับ ญ ข้ามเพศที่หลอกว่าเป็นทญ แท้ไป เค้าคงไม่รู้ว่าเค้าจะไม่มีทางมีลูกแบบธรรมชาติ