ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
กราบนมัสการ สาธุ ค่ะ จะพยายามปฏิบัติให้เข้าถึงฌาน 1-4 ค่ะ
สู้ครับ
เป็นคลิปที่ดีมาก ไม่มีโฆษณาคั้นเลย ทำให้การฟังสุตตะลื่นไหลมากๆๆ ท่านใดได้ฟังจะได้เข้าใจมากขึ้น สาธุ สาธุผู้ใดไม่ชอบก็ขอให้ผ่านไปอย่าคิดอกุศล เพราะผลกรรมจะส่งผล อินทรีย์ของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ขอขอบคุณท่านที่โหลดคลิปนี้ขอขอบคุณพระอาจารย์คึกฤทธิ์ที่เป็นผู้เผยแพร่ พระสูตรมาโดยตลอด ท่านทรงเมตตายิ่งนัก พอได้สดับคำสอนของพระศาสดา เป็นสิ่งที่งามในที่สุด พระศาสดา พระตถาคต ผู้เป็นรู้แจ้งที่สุด สัพพัญญู กราบนมัสการพระอาจารย์คึกฤทธิ์ขอกุศลนี้ส่งผลแด่ผู้จัดทำ ทั้งหลาย สาธุ สาธุ
สมณะศากยะปุตติยะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอน้อมกราบนมัสการ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ครับสาธุ ครับผมจะพยายามปฏิบัติให้เข้าถึงฌาน 1-4 ครับ
อนุโมทนาสาธุค่ะ แจ่มแจ้งยิ่งนัก
ขอบพระคุณมากๆนะครับที่เอามาลง 🙏🙏🙏
พระอาจารย์ท่านนำพุทธวจน.มาเปิดเราพึ่งรู้ได้ว่า.ที่ผ่านมาเป็นสาวกเท่านั้น.เราจะเลิก.ละ.ให้เร็วที่สุด.และมาปฏิบัติพุทธวจน.ให้เร็วสุด.เพื่อชีวิตที่เหลืออยู่.ที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเท่าไร.ๆๆๆ.สาธุ
@@natty5731 บรรลุธรรม คือ เห็น สังขตธรรม เห็น กฏอิทัปปัจจยตา เห็น ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีอยู่ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ
ยังปฏิบัติ(สมาธิ)ไม่ได้แต่ได้ฟังธรรมเป็นการสะสมสุตตะ(ได้ฟัง สาธยาย)นี่ก็เป็นบุญเป็นกุศลข้อหนึ่งธรรมจะช่วยขูดเกลาจิตให้ออกจากนิวรณ์เมื่อก่อนรู้แค่รักษาศีลห้าไม่รู้ในอริยสัจสี่ตั้งแต่ฟังพระอาจารย์มาเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งรักศรัทธาพระตถาคตยิ่งพระองค์ได้บอกวิธีปฏิบัติไว้อยู่ที่ว่าใครจะปฏิบัติได้หรือไม่...น้อมกราบพระอาจารย์ผู้มีกรุณามาก🙏🏻🙏🏻สาธุ🙏🏻
เป็นเหมือนกันคะ ให้คุณพิจารณาคำสอนนี้นะคะ การเข้ามารู้ตามซึ่งสัจจธรรมที่มีสิบสองขั้นตอน ก็จะเห็นธรรมที่เป็นเหตุ และธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันเกิดขึ้น เมื่อมีการใคร่ครวญพิจารณาซึ่งเนื้อความแห่งธรรม ทำให้เกิดความเข้าใจในธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ เข้าใจในการทำงานของ วิญญาณและนามรูปคะ จะเห็นว่า เป็น สัญญาและใจ
เราสามารถหลุดพ้นด้วยการละอกุศลครับ เมื่ออกุศลเหลือเพียงเล็กน้อยเท่าเม็ดทราย ก็สามารถเข้าอมตะได้ครับ แต่ต้องล้มอกุศลทั้งสังสารวัฏก่อนจึงจะได้ครับ แต่ไม่ต้องกังวล มั่นเดินมรรค8 เมื่อบุรุษปะพรมน้ำบีบคั้นเม็ดงา เขาจะไม่ได้ปรารถนาหรือปรารถนาน้ำมันงา เขาก็จะได้อยู่ดี ฉันใดก็ฉันนั้นหากทำเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง ก็จะทำให้เราเข้านิพพานในสักวันครับ
กราบขอบพระคุณท่านค่ะ เมื่อก่อนไม่ชอบฟังท่านเลยค่ะ มันไม่สนุก และยากมากๆ แต่พอลองแข็งใจฟังท่านครั้งต่อมา ล้วนเป็นความจริง ตามพุทธวจนะ เลยตั้งใจฟังดีกว่าถ้าฟังสิ่งที่ดีแค่นี้ไม่ได้ ก็อย่าไปทำอะไรเลยสมาธิยากกว่าอีก เคยได้รับรู้สิ่งที่ได้มาตอนนั่งภาวนาและพิจรณาได้อะไรมานิดๆหน่อยๆ ดีใจพอดีใจสิ่งนั้นก็หายไป ทำให้ต้องปฏิบัติมาจนทุกวันนี้ ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ดีบ้างไม่ดีบ้างจนกระทั่งไม่หวังว่าจะได้ จิ่งตั้งใจยิ่งไม่ได้ต้องไม่ใส่ใจไม่เพ่ง เกิดดับ เกิดดับ ตลอดเวลา
เป็นผุ้มีวาสนาจ้ามีปัญญาสาธุๆ
@@wasana-yd5hy ขอบคุณค่ะ
ที่ฟังแล้วชอบใจเพราะ อ.คึกฤทธิ์เอาพระไตรปิฎกมาอ่านครับของจริงนั่นแหละบางส่วนแล้วมีเสริมแต่งเองเป็นบางส่วนถ้าคนไม่ได้ศึกษามาอย่างจริงจังจะแยกไม่ออกครับคือมันมีทั้งใช่และไม่ใช่ปนกัน
เก่งกว่าพระคึกฤทธิ์หรือครับถึงได้ยืนยันว่าเป็นความจริง ถ้าไม่เก่งกว่าเอาอะไรมายืนยันหรือครับ? หรือเกิดทันพระพุทธเจ้า🤣🤣🤣🤣🤣เท่าที่ผมทราบคือไปลอกเขามา (ฉบับสยามรัฐ)แล้วดัดแปลงใหม่ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพุทธวจน คนปกติเขาไม่ประพฤติกันหรอกครับมันน่าละอาย🤣🤣🤣🤣🤣
@@แมวมองสองใจ ขอลองฟังผู้รู้เทศหน่อยครับ ว่าอะไรยังไง จะได้เอาไปใช้บ้าง
ขอขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่สอนให้ผผมครับ
ตอนอนาปาอยู่ในพระ กายเย็นมากเป็นเวลา10กว่านาทีจิตอยู่กับลมหายใจเข้าออกตลอดคิดว่าตัวเราต้องตายแล้ว แต่ก็ไม่ตายมีเหงือชุ่มเสื้อเลย ต่อมาอีกวันหนึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันเวลานานพอๆกันกำลังนั่งขับถ่ายในห้องน้ำก็เช่นกันเวลาพอๆกัน อีกวันหนึ่งนอนอยู่ก็ทำอนาปาอยู่เหมือนกันเวลาก็พอๆกันนี้ถึงเวลาตายแล้วใช่ไหม แต่ก็ยังไม่ตาย จนมีโอกาสได้ฟัง พุทธวจน คิดว่าตายไปไม่เสียดายชีวิตแล้วได้พบพระธรรมอันสูงสุดรู้เหตุเกิดแห่งทุกและเหตุดับไม่เหลือแห่งทุกแล้วตายก็จบชาตินี้เป็นสุด้าย สาธุๆๆ
สาธุ ๆ ๆ ครับ
รักศรัทธาพระอาจารย์.คึกฤทธิ์.ครับ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
กราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ สาธุๆๆ
🙏🙏🙏🌷เจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ ฟังแล้วเข้าใจง่ายดีค่ะ สาธุค่ะ
นั่งไปนานๆแล้วรุ้สึกเหนื่อยหมดแรงคืออะไรหรอครับ พระท่าน
แปลว่าเพ่งนานเกินไปครับ ต้องทิ้งอารมณ์ ด้วยการรู้ลมหายใจ ถ้าตึงมาก็วิเคราห์ธรรมมะในส่วนความไม่เที่ยงครับ แต่ณานจริงๆส่วนใหญ่ทุกคนสามารถเข้าณาน1ได้ง่ายๆ แต่ไม่รู้ตัวครับ
@@nononline5327 ถ้าเป็นความรุ้สึกแบบว่าเหมือนตัวพุ่งขึ้นแบบเร็ววมากๆ เลยอันนี้ไม่แน่ใจว่าเกินจาก ร่างกายเรารึป่าวผมก้อไม่แน่ใจ เพราะพึ่งเคยรุ้สึก มะวานนี้เองครับตั่งแต่เคยนั่งมาครับ
กราบสาธุคะ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต /ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านพูดออกมา คำสอนของท่านจะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คำสอนของท่าน ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงถูกขนานนามว่า ตถาคต นั่นเองคะ ยกตัวอย่าง อินทรีย์5 พละ5 (ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา)>(ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น
ฌานที่ 4 อธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงกันคือ สภาวะที่ดวงจิตแยกออกจากร่างกายเกิดแสงสว่างขึ้นเหมือนแสงของระเบิดนิวเคลียร์ ลมหายใจไม่มี ดวงจิตลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อหมดกำลังมันจะกลับมาเข้าร่างกาย จะมีอาการเหมือนถูกไฟช็อต หลังจากนี้จิตก็พร้อมทำงานงานพิจารณาธรรม ผลพลอยได้ มีพลังจิต เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า รู้ความคิดของคนอื่น....มีใครเป็นแบบนี้บ้าง
@@ลัชชี-สาวกพุทธ สมาธิ มี 9 ระดับ นั่นเองค่ะ มีสัมมาสมาธิ / มีมิจฉาสมาธิ / ท่านจะต้องเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ ถึงจะเป็นการเจริญใน อริยมรรคมีองค์แปด และ รู้จัก สัมมาสมาธิ นั่นเองค่ะ และเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ / ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ที่เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ ถ้าไม่รู้จัก สัมมาสมาธิ ก็หลุดพ้นไม่ได้นั่นเองค่ะ เพราะว่า วิมุตติญาณทัศนะ คือ ผู้รู้ในการหลุดพ้น ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ มาเจริญสัมมาสมาธิ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ เริ่มที่ กฏอิทัปปัจจยตา นั่นเองค่ะ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา นั่นเองค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
เคยเป็นแต่ในฝัน อาการเหมือนที่ว่ามาทุกประการ แรกๆฝันว่านั่งสมาธิแล้วเพ่งไปเรื่อยๆ สักพักเหมือนลอยขึ้นในอากาศแล้วเห็นแสงจ้ามาก อารมณ์ตอนนั้นคือสุขมากๆ แล้วสักพักก้มีเสัยงบอกให้กลับภพภูมิ
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ🙏🙏🙏
กำลังละปิติครับ สาธุ
ตอนนั่งแล้ว รู้สึกปิติหายไป แต่รู้สึกเย็นไปทั่งร่างแทน ไม่ได้คิดไตรตรองอะไร แค่นั่งควบคุมลมพยายามให้อยู่กับกายเฉยๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร มีแสงขาวสว่างเข้ามาในนา แต่เราก็ไม่สนใจ สนใจแต่ลม เลยไม่รู้มันถึงขั้นไหนแล้ว
💐🙏💐🙏💐🙏สาธุๆๆๆค่ะ
สาธุค่ะอนุโมทนาสาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะ🙏🙏🙏
เป็นช่องที่ดีที่สุดค่ะ ทุกคลิป ไม่มีโฆษณาคั่นเลยค่ะ
การปฏิบัติก็ดี การเรียนรู้กับตำราก็ดี เป็นของต้องพึ่งกัน คนไม่ได้เรียนเขียนไม่ได้ก็มีโอกาสบรรลุธรรม คนอ่านเรียนเขียนได้ก็มีโอกาสบรรลุธรรม
ใช่เเล้วบรรลุได้เหมือนกัน💗
อนุโมทนาสาธุครับ
กราบสาธุคะ อินทรีย์แก่กล้า อินทรีย์ห้า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ฟังธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มีศรัทธา มีวิริยะ ความเพียร มีสติ ระลึกได้ มี สมาธิ ตั้งใจมั่นใคร่ครวญพิจารณาซึ่งเนื้อความแห่งธรรม ปัญญา ความเข้าใจ เกิดความเข้าใจในธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า อินทรีย์แก่กล้า อินทรีย์ห้า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา อินทรีย์ของ สัทธานุสารี ธรรมมานุสารี โสดาบัน อินทรีย์ของเขาคือมีความอยากที่จะฟังธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ สัญญาและใจ
ไปลอกๆกันมาหลอกคนอื่นอีกทำไมยิ่งเพิ่มความหลงเชื่องมงายอีกมากมายนะสิงงเป็นไก่ตาแตกเลย
💖อนุโมทนา สาธุคับ💖🧘🙏🤍
ทำตามแล้ว เป็นจริง เหมือนห้วงน้ำอันลึก มีน้ำอันพุ่ง ท่อน้ำเย็นพุ่งขึ้นจากห้วงน้ำนั้น ส่วนไหนที่น้ำเย็น มิถูกต้องแล้วมิได้มี เป็นจริง หายใจเข้า ตามปกติ อาการเย็นจากภายใน น้อมใจไปให้ความเย็นนั้น ทั้่วร่างกาย ครู่นึง อาการเหมือนเดิมแต่มีความสุขอิ่ม น้อมใจไปให้สุข ทั่วร่างกาย อิ่มสุข ครู่นึง ว่างปล่าวน้อมใจให้ไปทั่วร่างกาย จะว่างปล่าวครู่นึงสักครู่ จิตก็ไปคิดอีก ก็มองดูว่าที่คิดนั้น เป็นขันอะไร รู้แล้วก็ดึงมาที่ลม ก็จะวนไปมาแบบนี้ ท่านกล่าวแล้วเป็นไปตามนั้นทั้งหมด แม้สมาธิ นี้ก็เกิดดับ แค่มันช้าลง อยู่ในสมาธินานขึ้น แต่ยังไงมันก็ดับไปอยู่ดี ถ้าเห็นแสงก็ทิ้ง ถ้าไม่ทิ้ง มันก็จะเป็นภพ มันก็จะสร้างเรื่องราวต่อไปมันปรุงต่อไป พอรูตัวว่ามันปรุงแต่งเรื่องราวก็ดึงมาที่ลม อาการก็จะวนๆซ้ำไปมา แต่มันแค่จะเร็วขึ้นและนานมากขึ้น เข้าสมาธิได้คล่องขึ้น ท่านพูดและสอน มันเป็นไป แบบนั้นจริงๆ
สาธุครับ🙏🏼🧘🏼👁🥰
จริงๆ ก็เป็นเพียง "ขั้นบันได" เท่านั้นผ่านไปก็ไม่เห็นมีอะไร แค่ทางผ่านเราคิดมากกันไปเอง จริงๆ ญาน 1-4 ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเราทำให้มันซับซ้อนเองเมื่อผ่านไป สุดท้ายแท้จริงก็เหลือเพียง "ลมหายใจเข้าและออก""ปัจจุบันที่มุ่งหน้าสู่การเสื่อมสลาย"ฟัง พูด คิดก็รู้สึก สังเวท เบื่อหน่าย เอื่มระอากับสิ่งที่เป็นอยู่แต่ก็ทนอยู่ในกายที่กำลังดับอยู่ทุกขณะอยู่อย่างนิ่งเฉย ดูความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นจริงไหลอยู่อย่างนั้น และเฝ้ารอ "ความตาย" ครั้งสุดท้ายอย่าง "นิ่งเฉย"เพราะ ญาณ 1-4 หรือ ญาณไหนๆ เป็นแค่การฝึกฝนเพื่อ "ละทิ้ง"ใช่ครับ เราต้องทิ้ง ญาณทั้งหมดที่ฝึกฝน "หมด"มันก็เป็นเพียงสังโยชน์ ที่เราต้องผ่าน มันไปเท่านั้น
สาธุครับสาธุ ขอบคุณครับท่าน ผู้เห็นธรรม เข้าใจแล้วครับ จบลงด้วยปัญญาน่ะครับ สาธุ
เขาอรียก ฌาน1-4 ครับ ไม่ใช่ ญาณ 1-4 ฌาน แปลว่ามีสติตั้งมั่นในสมาธิใดสมาธิหนึ่ง ญาณ แปลว่ายั่งรู้ และ สังเวช ครับ ไม่ใช่ สังเวท /สังเวช แปลว่าความสลดหดหู่ใจต่อสิ่งที่ได้พบเห็น
@@ผู้ใฝ่สัจธรรม ฌาน ก็คือ เวทนาอุเบกขา นั่นเองคะ คือ รูปภพ นั่นเองคะ สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน คือ ละสังโยชน์ที่สร้างการเกิดใน กามภพ นั่นเองคะ เมื่อละนันทิจิตหลุดพ้นจาก กามภพ แล้ว ก็ดำริออกจาก รูปภพ ต่อนั่นเองคะ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ นั่นเองคะ ปลายทางเป็น อานาปานสติ คือ ละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญ อานาปานสติ นั่นเองคะ ละนันทิจิตหลุดพ้น ก็เป็นการดำริออกจาก รูปภพ ได้แล้วนั่นเองคะ
ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะเมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้น เมื่อ อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้น นั่นคือ สัมมาสมาธิ นั่นเองคะ เป็นการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ซึ่ง ฌาน1 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ฌาน2 ก็จะเป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง การเกิดปรากฏขึ้นของ ฌาน 4 ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ก็จะเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิ นั่นเอง เป็น สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ต่อ เป็นการเจริญสมาธิอรูปสัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิอรูปสัญญา และ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ก็เป็นการรู้ตามซึ่ง สัจธรรม และ บรรลุตามซึ่ง สัจธรรม จาก ตถาคตภาษิต ที่ท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า สมาธิ มี 9 ระดับนั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองคะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิ 9 ระดับนั่นเองคะ
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ
เดี้ยง..อยู่ฌานที่3..เข้าฌานโดยไม่รู้ตัว..ว่าได้ฌาน..หูดับ...
ผมหาคำตอบมาเป็นสิบกว่าปีพึ่งรู้ว่าผมเคยนั่งสมาธิถึงขั้นใด(เมื่อบวชอายุ20ปี)บัดนี้ผมได้คำตอบแล้วขอกราบนมัสการขอบพระคุณท่านครับ แต่ปัจจุบันนี้ผมพยายามนั่งสมาธิอยากได้อารมณ์นั้นอีกแต่ก็ทำไม่ได้ไม่รู้เป็นเพราะอะไรหรือว่าเราเคยมีประสบการณ์นั้นแล้วจึงทำไม่ได้อีก
อนุโมทนาสาธุค่ะ
จตุพล กราบ
สาธุสาธุค่ะ🙏🙏💖💖💖
ขอน้อมกราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ
สาธุสาธุสาธุครับพระอาจาร
น้อมกราบธรรมสาธุค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าค่ะ
พวกสาวกอย่างก่อนอย่าได้แคร์.บายค่ะ.สาธุ.ต้องมีที่มา.มีที่อ้างอิง.เช่นพระอาจารย์เจ้าค่ะ.สาธุยิ่ง..
ขออนุโมทนา สาธุ 🙏
สาธุขอบคุณมาก
กำลังพยายามกลับมาใหม่ เพื่อเข้าฌามที่1 ให้ได้ก่อน
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ พระอาจารย์
G R E E T I N G S 💗Buddhawajana Anapanasati Original lmmortalLove Faith Tathagata 💖Smtha Smathi SATHU Sathu sathu 🙏🙏🙏💞🍎🍏💞
ชอบทำได้ตอนง่วงแปลก
น้อมกราบสาธุครับ🙏
สาธุ สาธุ สาธุ ครับอาจารย์
อนุโมทนาสาธุครับ🙏
😘อนุโมทนาสาธุครับ😍
สาธุๆ... ครับ
กราบสาธุ"ค่ะ
ขออนุญาตสอบถามผู้รู้ค่ะ ในขณะนั่งสมาธิ ถ้าเรารู้สึกคันตรงนั้นตรงนี้ของร่างกาย หรือรู้สึกคันเหมือนมดกัด ยุงกัด เราควรเอามือไปเกาได้ไหมคะ หรือว่าแค่กำหนดรู้ว่าคันตรงส่วนนั้นแล้วอดทนไม่เกาไม่เคลื่อนไหวร่างกาย และดึงจิตมาอยู่กับลมหายใจต่อ
ถ้าปล่อยวางและทนไม่ได้ก็เกาได้ครับ เริ่มใหม่ คนฝึกใหม่ก็จะมีอะไรมากวนอยู่ตลอดครับ นั่งปวดทนไม่ได้ก็เปลี่ยนอิริยาบดได้ครับ..นั่ง,เดิน,ยืน,นอน ทำได้หมดครับ...ค่อยๆฝึกไปครับ
ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ผมเข้าถึงปฐมญานได้ละ แต่ญานที่1-4ยังเข้าไม่ได้เลย ยังมีความกลัวอยู่ ทำยังไงครับ
สาธุค่ะ
น้อมกราบอนุโมทนาบุญ และน้อมกราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ🙏🏿🙏🏿🙏🏿
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
🙏🙏🙏
ใช้สมาธิในการพิจารณา แล้วจะรู้สึก
สาธุค่ะ🙏🌹
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบ สาธุ สาธุ สาธุ คะ
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุครับ
น้อมกราบพระคุณ พระศาสดา พระสงฆ์สาวก ครับ ❤
อนุโมทนาบุญด้วยครับผม
สาธุ สาธุ สาธุ ในธรรมอัน บัณฑิตแสดงอยู่
ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธ พระธรรมพระอริยสงฆ์ ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
สาธุครับ🙇
สาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุ
สาธุครับ
กราบสาธุคับ
ถ้าฌานที่ ๕ คือ เบญจฌานใช่ไหมครับ 🙏🙏🙏🤍🤍🤍
ผู้สอนอ่านตามตำราเลย โอเค ขอแค่ อย่า บิดเบือน ตัด เติม ใบลานเปล่าคนจะเป็นครู สอนคนอื่น จะต้องสอนตนเองให้เป็นครู ด้วย พอสอนคนอื่นจะได้ไม่ผิดพระพุทธเจ้า ยังตำหนิ ใบลานเปล่า
โอเค💗
ตอนนี้ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า พุทธวจน เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ตรวจสอบจาก กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม ตรวจสอบจากการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือ สุตตมยปัญญา ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง เมื่อต้นทางถูก ปลายทางจึงเป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเอง เพราะเมื่อมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี นั่นเอง ก็คือ มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือหน้าตาของ สัทธานุสารี เมื่อสัทธานุสารีเกิดขึ้นแล้ว บุคคล 4 คู่ 8 พวกก็จะเกิดตามมานั่นเอง เพราะบุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ ตถาคตภาษิต นั่นเอง สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตถาคตภาษิต บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้วโดยสิ้นเชิง สุตตมยปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ ภาวนามยปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น ตำหนิ พุทธวจน นั่นคือ สังโยชน์ วิจิกิจฉา และตามมาด้วยสังโยชน์ มานะ สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ไม่รู้ จึงเป็นการเดินออกจากเส้นทาง อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง ถ้ากองอกุศลมูล ส่งผล ทำให้ อกุศลธรรม เกิดต่อเนื่อง ก็จะตำหนิ พุทธวจน ไม่เลิกนั่นเอง ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถทำให้ใครมามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้ทั้งหมด เพราะมีเหตุปัจจัย คือ มีสังโยชน์ วิจิกิจฉา มานะ และ กองอกุศลมูล ส่งผล นั่นเอง จึงไม่สามารถทำให้เขามามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้นั่นเอง ก็ยังคงเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเอง
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ไม่ต้องยาวครับ ลอกมาจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น พอลอกมาแร้วก็มาบอกว่า คำสอนพระพุทธเจ้า จากพระโอษฐ์ ส่วนที่ไม่ได้ลอกมานั้น บอกว่าเป็น คำแต่งใหม่ของสาวก ไม่ให้เชื่อ ไม่ให้ฟังสังคายนาครั้ง แรก เค้าใช้ พระอรหันต์ถึง 500 รูป เชียวนะนี้วัดนา สังคายนาเองเคยเหรอ รู้ถึงขนาด แยกคำสอนพระพุทธเจ้า แยกคำสอนสาวกจากพระไตรปิฎกเลยเหรอ แปลบาลีมาเป็นไทย ก็สาวกแปล เค้าไปเรียนมาทั้งนั้น วัดนาไม่ได้แปลเอง ขโมยมาจากพระไตรปิฎกมาทั้งนั้น ผมไม่ต้องการ ชื่อธรรม ชื่อของฌานสี่ ที่คุณ พูดมายาวเนี้ย มันชื่อของธรรมทั้งนั้น ใครก็พูดได้ อ่านได้ครับ ผมต้องการ ผู้ที่เข้าถึงธรรม ตัวธรรมจริงๆ คำสอนพระพุทธเจ้า เปรียบเหมือนแผนที่ มีแผนที่อยู่ในมือ รู้หมด ขุมทรัพย์ แต่รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องเดินทางไปค้นหาขุมทรัพย์นั้นด้วย
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ผมต้องการรู้ ว่า ผู้ที่ปฏิบัติสายวัดนานี้ มีใครที่เข้า ฌานสี่ ได้ จริงๆ มั้ย ไม่ใช่เอาชื่อ ฌานสี่ มาอธิบายให้ผมฟัง อ่านให้ผมฟัง เหมือนคลิปนี้ ผมไม่ได้ตำหนิคำสอนพระพุทธเจ้า แต่ผมตำหนิ ผู้อ่านฌานสี่ให้ผมฟัง เค้าเคยสอนว่า พระโสดาบันจิบไวน์ ได้ ถ้าพูดแบบตรง ๆ กินเหล้าได้ อาจารย์ คึกฤทธิ์ เป็นคนสอน ดูในยูทูบหลาย ปีแร้ว
เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เป็น สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด เห็น อินทรีย์ ห้า ตัว ศรัทธา เห็น วิริยะ เห็น สติ เห็น สมาธิ เห็น ปัญญา ก็จะเจอ ลิขสิทธิ์ทาง ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ ของพระพุทธเจ้าว่า ต้องมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต เท่านั้นถึงจะเป็นการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด มีคนอ่านให้ฟัง หรือจะอ่านเอง จนจำ ตถาคตภาษิต ได้ ก็คือเหตุปัจจัยถูกทั้งนั้นนั่นแหละคะ
ต้องไปเรียนบาลีก่อนถึงจะฟังรุ้เรื่อง ไม่แปลกที่เราไม่สามารถช่วยเด็กๆให้เข้ามารักธรรมะได้ น่าเสียดายที่เรามีของดีแต่ไม่สามารถส่งต่อให้เด็กได้
สาธุจ๊ะ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุวิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ1,000,000,000,000,000,000ครั้ง
บารมีผมคงไม่ถึง ฟังธรรมมะของท่า ที่ท่านมาสาธยายให้ฟัง แล้วย่อยยากครับ แต่ก่สาธุ ครับ
ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด เป็น ตถาคตภาษิต เพราะ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ก็เริ่มที่เข้ามาฟัง อริยมรรคมีองค์แปด ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ให้คล่องปากขึ้นใจ ก็เริ่มพิจารณาธรรม อริยมรรคมีองค์แปด เป็น สังขตธรรม เพราะมีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ สัมมาทิฏฐิ จะต้องมีเกิดปรากฏขึ้นมาแน่นอนนั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท เมื่อสัมมาทิฏฐิมี สัมมาสังกัปปะย่อมมี เมื่อสัมมาทิฏฐิไม่มี สัมมาสังกัปปะย่อมไม่มี/สัมมาทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สัมมาสังกัปปะ/เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาทิฏฐิ ไหม/สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สัมมาวาจา/เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาสังกัปปะ ไหม นี่คือการเจริญสัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ปลายทางเป็นการเกิดปรากฏขึ้นของปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ เป็นเส้นทาง ปัญญาวิมุตติ ก็จะเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก เป็นการดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ด้วยเช่นกันนั่นเองคะ
ท่านผู้นี้ พูดตามหนังสื่ออย่างเดียวเลย พูดกว่างๆ ผมมั่นใจเลยว่าคนนี้ไม่ได้อะไรเลย
มารู้จัก ตถาคตภาษิต กันดีกว่า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลย ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ ตถาคตภาษิต เป็น สัมมาทิฏฐิ อย่างนี้อย่างนี้คะ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต ปฏิบัติ ก็จะเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียนเบียน คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด สัมมาทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง สัมมาสมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ปัญญา อริยมรรคมีองค์แปด สองข้อแรกเป็นปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ คือ รู้ตามซึ่ง สัจธรรม และ บรรลุตามซึ่ง สัจธรรม จาก ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ อย่างนี้อย่างนี้คะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ เป็น ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ เป็นผู้ที่ไม่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ไม่มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ ปริยัต เป็น งูพิษ ปฏิบัติ ไม่เป็น สัมมาสังกัปปะ พิจารณาธรรมจาก ผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี ที่ตำหนิ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็น ตถาคตภาษิต มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ คัดลอก และ วางไม่ต้องคิดอะไรมาก
ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต การบอกต่อ ตถาคตภาษิต คือ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน นั่นเองคะ
เมื่อนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ จะมีผู้ที่ฟังด้วยดี และ จะมีผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การเจริญ อตัมมยตา นั่นเองคะ จะเห็น อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้น และ จะเห็น สังโยชน์ ทั้งสิบ เกิดปรากฏขึ้น เห็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม นั่นเองคะ เป็นผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เป็นผู้ที่ไม่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ไม่มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ สักกายทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ วิจิกิจฉา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง สังโยชน์ อวิชชา นั่นเองคะ เพราะมี อวิชชา เป็นปัจจัยจึงมี สังขารทั้งหลาย ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเองคะ
อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็น ตถาคตภาษิต เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีอยู่ในหนังสือ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ อินทรีย์5 พละ5 เป็น สังขตธรรม เพราะมีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ/การเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์ 5 พละ5 ศรัทธา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิริยะ/การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ/การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงไม่เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ/สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงไม่เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ/ศรัทธา-วิริยะ/วิริยะ-สติ/สติ-สมาธิ/สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาสมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ/เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ มิจฉาสมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปัญญา/ปัญญา คือ ความเข้าใจ/ เป็นสัมมาสมาธิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์/เป็นมิจฉาสมาธิ เป็นปัญญา ฌาน4 ที่เป็น อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ เพราะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ พระโมคคัลลานะท่านเจริญใน อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ ท่านเป็นพระ อัครสาวกเบื้องซ้าย นั่นเองคะ
คำสอนเป็นเพียงแต่แนวทางเพื่อให้เราใช้เป็นแนวทางเพื่อปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง ถ้าลองทำแล้วคิดว่ามาไม่ถูกทางก็ให้หยุดได้ แต่อย่างน้อยๆสิ่งที่ได้ในการนั่งทำสมาธิคือความสงบและมีสติที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ส่วนในเรื่องฌาณนั้น เป็นเรื่องที่ไกลตัวออกไปมากอย่าพึ่งไปแสวงหากันเลย ถ้าทำได้ง่ายๆโลกนี้คงวุ่นวายน่าดู เพราะทุกคนจะรู้อดีตอนาคตของกันและกัน...
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ยกตัวอย่าง ตถาคตภาษิต อินทรีย์ 5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ในหนังสือ พุทธวจน มี ตถาคตภาษิต ซึ่งมีกัลยาณมิตรที่ทำหนังสือ พุทธวจน ไว้นั่นเองคะ ซึ่งก็คือ ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาแล้วนั่นเองคะ เหตุปัจจัยถูก มีกัลยาณมิตร ทำให้ได้ฟังธรรม คือ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต เป็นผู้ที่ฟังด้วยดีทำให้มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญสัมมาสมาธิในอริยมรรคมีองค์แปด เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ดำริออกจาก เวทนาสุข เวทนาทุกข์ ดำริออกจาก กามภพ เวทนาสุข มนุษย์ และ เทวดากามภพ เวทนาทุกข์ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย ถ้าไม่ได้ ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต ธรรมที่เป็นเหตุ คือ ได้สดับใน ตถาคตภาษิต ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต คือ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต ซึ่งเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้วนั่นเอง ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่จะเกิดปรากฏขึ้นตามมา คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี ทำให้มี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
ขอปัญญาหน่อยครับ. ดังนั้นคนที่กลับมารู้ในลมหายใจ ก็แสดงประติบัตได้ใช่มั้ยคับ
พระพุทธเจ้าบอกว่า เจริญอานาปานสติ แม้เพียงชั่วลัดนิ้วมือ ถือว่า อยู่ไม่เหินห่างจาก ฌาน ทำตามโอวาทของพระศาสดา เมื่อเป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต แล้วและ เป็นผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี ทำให้มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต ก็คือ เริ่มทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเองคะ ก็คือ เริ่มเจริญอานาปานสติ รับรู้ลมหายใจเข้าออก นั่นเองคะ คือเป็นการมี ศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 นั่นเองคะ คือการเจริญ สัมมาสมาธิ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ปลายทางจะเป็น ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน นั่นเองคะ เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เกิดปรากฏแล้ว ก็เจริญสมาธิอรูปสัญญาต่อ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ปลายทางเป็น อานาปานสติ คือ การละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญอานาปานสติ นั่นเองคะ เมื่อมาถึงปลายทางก็จะรู้นั่นเองคะว่ามาถึงปลายทางแล้ว ละนันทิจิตหลุดพ้น ก็จะเป็น สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ก็มาสั่งสมสุตตะ เพื่อเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน1234 ที่ปลายทางเป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
Thankyou
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
🙏🏻
สาทุๆ
สงสัย ครับ แบบนี้ ได้สมาธิ หรือ ชาญ ขั้นไหนครับ คือ นั่งดูลมหายใจ เข้า -หายใจออก เห็น เกิดดับ ไปเฝ้า ดู รอยต่อ อารม อุเบกขา แต่เฝ้าดูได้ ไม่นาน ก็หลุด ไปดู ลมหายใจเข้า หายใจ ออก แล้วก็ไปเห็น เกิด ดับ รอยต่อ ก็ไปเฝ้า ดู อารมอุเบกขา ที่ดู อยู่ ใช่ วิมุต ไหม แบบนี้ ได้ ชาญ ขั้น ไหนจร้า
ยังไม่ถึงฌานเลย ถ้าอยากจะทำสมาธิให้ได้ผลคุณไปศึกษาเรื่องจริตก่อน ดูว่าคุณมีลักษณะนิสัยเป็นแบบไหนจริตอะไร และ จริตของคุณต้องการกรรมฐานกองไหน ถ้าทำสมาธิที่ต้องกับจริตของตนเองมันจะง่ายมาก
ท่านสอนเรื่องสมาธิ เรื่องฌานอยู่หลายคลิปครับ ลองหาดูพิมพ์ชื่อแล้วใส่คำว่า พุทธวจน เข้าไปด้วย น่าจะขึ้นมาหลายคลิปนะครับ คุณสมบัติ หรือคุณลักษณะ ของแต่ละฌานเพื่อตรวจสอบตามคำสอนพุทธองค์ยิ่งเลยฌานสี่ขึ้นไปนี่ จะเป็นชื่อเฉพาะของฌานนั้นๆเลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นในฌานนั้น ไม่ใช่เหมือนหลวงตาองค์นั้นว่าตัวจะลอย หลวงพ่อองค์นั้นว่าตัวจะสั่นๆ หลวงพี่องค์นั้นว่าแสงจะจ้าๆ ไม่เป็นอันเดียวกันแบบที่พระพุทธองค์บอก
@@MrNathakorn การที่คุณเขียนมาแบบนี้แสดงว่าคุณมีแต่ภาคทฏดี อ่านดูก็รู้เลย คุณไม่เคยถึงฌานสี่ก็ไม่ควรมาตัดสินว่านั้นผิดนี้ถูกการที่คุณชอบคำสอนของท่านนี้ก็ไม่ได้แปลว่าท่านนี้ถูกและพระองค์อื่นผิด เพื่อเป็นพิสูจน์คุณปฏิบัติเลยเอาให้ถึงเอาให้ได้จะได้รู้ คนมีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกันแบ่งออกได้หกประเภท หรือที่เรียกว่าจริตหก และ กรรมฐานมีสี่สิบกอง แต่ละกองก็ขึ้นไม่เหมือนกันและผลก็ต่างกันแต่จบที่กองเดียวกัน คุณทำให้ได้เดียวจะรู้เอง
@@Dexy442 เขาถามเรื่องฌาน ว่าที่เขาเป็นแบบนี้มันขั้นไหน ผมก็บอกสิ่งที่ผมเคยผ่านตา ผ่านหูมา ให้ไปหาดูเผื่อจะเข้าใจ และตัวคลิปเองเป็นเรื่องของพุทธวจน ผมก็ต้องให้เขาไปดูที่พุทธวจน เพราะเหตุสงสัยเขาเกิดจากคลิปนี้ ผมจะให้ไปดูของใครล่ะ แล้วผมก็บอกตามพุทธวจนที่พระอาจารย์เคยบอกว่าฌานมีเท่านี้ขั้นนะ ฌาณ1-4 เรียกตามลำดับอย่างนี้ๆ ฌาน5ขึ้นไปนี่มันจะมีชื่อเฉพาะตามคุณสมบัติที่มันเกิดนะ ทำไมผมต้องใช้การได้ฌานการสำเร็จอะไรมาอธิบายผมไม่ได้สอนเขาเข้าฌาน ผมจำได้และบอกที่หาความเข้าใจเผื่อเขาหายสงสัย คำสอนก็เหมือนแผนที่แหละนะไม่จำเป็นต้องเคยไปก็บอกได้ ให้ดูได้ ถ้าแผนที่มันถูก ให้คนที่เขาจะไปก่อนดูก่อนก็ได้เพราะแผนที่นี้มันเขียนจากคนที่ไปมาแล้ว อย่างนี้พระนับไม่ถ้วนหลายๆรูปบนโลกก็สอนเรื่องนิพพานไม่ได้สิ เพราะยังไม่มีใครได้
@@MrNathakorn การทำสมาธิของแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนก็มีอาการปิติบางคนก็ไม่มี เพราะฉะนั้นการที่พระอาจารย์บางท่านบอกว่าจะมีอาการอย่างนั้นอย่างนี้ อาจารย์บางท่านไม่เป็นก็จะบอกว่าไม่จริงไม่มีอาการแบบนี้ฉะนั้นจึงไม่ควรบอกว่าอันนั้นผิดอันนี้ถูก และฌานแต่ละขั้นก็มีชื่อมีอารมณ์จิตรต่างกันตามความละเอียดของระดับฌาน ฌานหนึ่งสองขึ้นต่างกันแต่ สามและสี่เหมือนกัน การที่อาจารย์พูดสอนต่างกันก็เพราะใช้กรรมฐานตางกันแต่ อาจารย์ทุกท่านจะพูดเหมือนกับหมดเมื่อพูดถึงฌานสามและสี่ ถ้าบอกอารมณ์จิตรถผิดคนที่ทำได้จริงก็จะรู้เลยใครได้จริงใครไม่ได้จริง กรรมฐานมีสี่สิบกองเข้าฌานหนึ่งก็มีสี่สิบแบบเข้าฌานสองก็มีสี่สิบแบบแต่พอเข้าฌานสามและสี่ก็จะกลายเป็นลักษณะอารมณ์จิตรเดียวกันคืออานาปานสติ และแสงจ้านั้นคือฌานสี่ อาจารย์ท่านไหนบอกว่าแสงสว่างจ้าไม่มีแสดงว่า ทำไม่ได้ ไม่ได้จริง ถ้าเข้าถึงฌานสีครั้งจะมีอาการสว่างเหมือนกันหมด เว้นแต่ท่านที่ชำนานจะบังคับให้รูปฌานนี้ให้หายไปได้นั้นคืออรูปฌาน และท่านที่ตั้งคำถามนี้ผมจึงตอบไปว่ายังไม่ถึงฌานเลยเพราะจับดูอารมณ์อย่างหนึ่งอยู่แต่เดียวก็เปลี่ยนไปอีกอารมณ์นึงยังไม่นิ่งถ้าเข้าถึงฌานอารมณ์พิจารณาหรือดูอย่างใดอย่างหนึ่งจะนิ่งถ้าอยู่ในอารมณ์ฌานแล้วดูหรือเห็นดารเกิดดับไฟของอารมณ์จิตรก็จะเห็นอยู่อย่างนั้นตามสภาพจะไปหยุดเห็นหรือเปลี่ยนไปเห็นอย่างอื่น
ศาสนาพุทธนี้เขาต้องเข้าญาณเป็นหัวใจหลักหรือ มองเรื่องทุกข์และหนทางพ้นทุกข์กันแน่
@@ธนธรณ์ทิพทวี คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ การเข้ามารู้ตามซึ่ง สัจธรรม จะต้องเข้า ฌาน นั่นเองค่ะ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิอรูปสัญญา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองค่ะ เจริญสุตตมยปัญญา เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ
อรหันต์ยุคใหม่ “อรหันต์iPads”
ถอด กิเลส
🌺💗
สัจธรรม"ความพยายาม"คือการที่ต้องทำต้องปฏิบัติและต้องรักษาให้ดีให้สม่ำเสมอให้ถูกต้องตามครรลองครองธรรมโดยชอบธรรมอนุโมทนาสาธุสาธุ
ขอขอบคุณคุณครับที่ชอบความคิดเห็นผม"ขอให้บุญรักษานะและก็ต้องรักษาบุญด้วยนะครับ"อนุโมทนาสาธุสาธุ
มีขันต์ 5 เป็นทุกข์ การดับทุกข์ คือ อริยสัจ 4 นิพาน คือ การไม่กลับมาเกิด จึงดับทุกข์ได้จริง โพธิปักขิยธรรม หรือ โพธิปักขิยธรรม 37 เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี 37 ประการคือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8กิจในอริยสัจ คือสิ่งที่ต้องทำต่ออริยสัจ 4 แต่ละข้อ ได้แก่ปริญญา - ทุกข์ ควรรู้ คือการทำความเข้าใจปัญหาหรือสภาวะที่เป็นทุกข์อย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง เป็นการเผชิญหน้ากับปัญหาปหานะ - สมุทัย ควรละ คือการกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นการแก้ปัญหาที่เหตุต้นตอสัจฉิกิริยา - นิโรธ ควรทำให้แจ้ง คือการเข้าถึงภาวะดับทุกข์ หมายถึงภาวะที่ไร้ปัญหาซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายภาวนา - มรรค ควรเจริญ คือการฝึกอบรมปฏิบัติตามทางเพื่อให้ถึงความดับแห่งทุกข์ หมายถึงวิธีการหรือทางที่จะนำไปสู่จุดหมายกิจทั้งสี่นี้จะต้องปฏิบัติให้ตรงกับมรรคแต่ละข้อให้ถูกต้อง การรู้จักกิจในอริยสัจนี้เรียกว่ากิจญาณไตรลักษณ์เจริญเจโตวิมุติเจริญปัญญาวิมุติเจริญเมตตาเจโตวิมุติเจโต การเจริญสมาบัติ 8 ฌาน 4 อรูปฌาน 4 หรือสมาธิ 9 ระดับอัญญาโกฑัญญะดวงตาเห็นธรรม สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป จิตเห็นการเกิดดับของขันต์ 5 เจโตวิมุติ สมาธิ 9 ระดับ ฌาน 4 ฌาน 1 ปฐมฌาน วิตก เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (สังขาร) ฌาน 2 ทุติยฌาน วิจารย์เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (สัญญา) ฌาน 3 ตติยฌาน ปติ สุข เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (เวทา) ฌาน 4 จตุทฌาน ลมหายใจดับ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (รูป หรือ ดิน น้ำ ไฟ ลม) อุเบกขา อรูป 4 5 อรูป 1 อากาสานัญจายตนะ กำหนดที่ว่างหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 6 อรูป 2 วิญญาณัญจายตนะ กำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ เกิด ขึ้นตั้งอยู่ดับไป 7 อรูป 3 อากิญจัญญายตนะ กำหนดสภาวไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 8 อรูป 4 เนวสัญญานาสัญญายตนะ ภาวมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 9 ดับสัญญาเวทยิตนิโรธ ดับสัญญา เวทนา ดับเกิน 4 ชั่วโมง 7 วัน 10 สำมาวิมุติ จิตหลุดพ้น ที่เจโตวิมุติ 4 ครั้ง 1 โสดาปฏิมรรค 2 สกทาคามีมรรค 3 อนาคามีมรรค 4 อรหันตมรรค ปัญญาวิมุติ สติปฐาน 4 1 กายานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของกาย เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 2 เวทนานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของเวทนา เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 3 จิตตานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของจิต(วิญญาณธาตุ ธาตุรู้) เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป 4 ธรรมมานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับครบ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป จิตหลุดพ้นที่ ปัญญาวิมุติ หลุดพ้น 4 อริยาบท ยืน เดิน นั่ง และนอน 1 โสดาปฏิผล 2 สกทาคามีผล 3 อนาคามีผล 4 อรหันตผล หลุดพ้นครบมรรค 4 ผล 4 แล้ว เจริญเมตตาเจโตวิมุติ เจริญถึงที่ครบทั้งสังสาราวัฏ หรือ 3 ภพถูมิ เพื่อละบาปอกุศลทั้งหมดตัดภพชาติได้ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
ถ้าต้องการดับทุกข์ ไม่ต้องเข้าญาณ สมาธิจิตสงบ นิ่ง จิตมีพลัง ก็ได้เจริญ ปัญญา วิปัสนา เห็นการ เกิด- ดับ ของรูป-นาม(พระไตรลักษณ์) จิตก็คลายความยึดมั่น
เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เห็นชัดในเส้นทาง ปัญญาวิมุตติ สุตตมยปัญญา เห็นชัดในเส้นทาง เจโตวิมุตติ เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ นั่นเองคะ
เม
ที่มีข่าวกับสีกานี่คับ ?
เขาถอดฟ้องตั้งนานเเล้ว สรุปพระไม่ได้ผิดโดนใส่ร้ายอะไรนี่เเหละ จำไม่ได้ ลองไปตามข่าวดู
สอบถามหน่อยครับ ตอนเด็กนั่งสมาธิไปแล้ว แยกอารมณ์ได้ตามปฐมฌาน อันนี้คือได้เข้าปฐมฌานแล้วใช่ไหมครับ ผมสังเกตุตัวเองหลังนั่งสมาธิ มือผมแบออกไม่กำ และความจำดีสุดๆ จำครูสอนเหมือนบันทึกวีดีโอ การเขียนชอล์กบนกระดานดำ จำได้กระทั่งใบไม้นอกหน้าต่างที่ไหวไปมา เป็นอยู่สามวันหลังนั่งสมาธิ สามวันนั้นนึกอะไรออกหมดเหมือนนั่งดูวีดีโอ ตอนนั้นคือผมเข้าปฐมฌานแล้วใช่ไหมครับ
กราบนมัสการ สาธุ ค่ะ จะพยายามปฏิบัติให้เข้าถึงฌาน 1-4 ค่ะ
สู้ครับ
เป็นคลิปที่ดีมาก ไม่มีโฆษณาคั้นเลย ทำให้การฟังสุตตะลื่นไหลมากๆๆ
ท่านใดได้ฟังจะได้เข้าใจมากขึ้น สาธุ สาธุ
ผู้ใดไม่ชอบก็ขอให้ผ่านไป
อย่าคิดอกุศล เพราะผลกรรมจะส่งผล อินทรีย์ของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน
ขอขอบคุณท่านที่โหลดคลิปนี้
ขอขอบคุณพระอาจารย์คึกฤทธิ์ที่เป็นผู้เผยแพร่ พระสูตรมาโดยตลอด ท่านทรงเมตตายิ่งนัก
พอได้สดับคำสอนของพระศาสดา เป็นสิ่งที่งามในที่สุด
พระศาสดา พระตถาคต ผู้เป็นรู้แจ้งที่สุด สัพพัญญู
กราบนมัสการพระอาจารย์คึกฤทธิ์
ขอกุศลนี้ส่งผลแด่ผู้จัดทำ ทั้งหลาย สาธุ สาธุ
สมณะศากยะปุตติยะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอน้อมกราบนมัสการ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ครับสาธุ ครับผมจะพยายามปฏิบัติให้เข้าถึงฌาน 1-4 ครับ
อนุโมทนาสาธุค่ะ แจ่มแจ้งยิ่งนัก
ขอบพระคุณมากๆนะครับที่เอามาลง 🙏🙏🙏
พระอาจารย์ท่านนำพุทธวจน.มาเปิดเราพึ่งรู้ได้ว่า.ที่ผ่านมาเป็นสาวกเท่านั้น.เราจะเลิก.ละ.ให้เร็วที่สุด.และมาปฏิบัติพุทธวจน.ให้เร็วสุด.เพื่อชีวิตที่เหลืออยู่.ที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเท่าไร.ๆๆๆ.สาธุ
@@natty5731 บรรลุธรรม คือ เห็น สังขตธรรม เห็น กฏอิทัปปัจจยตา เห็น ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีอยู่ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม มี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ
ยังปฏิบัติ(สมาธิ)ไม่ได้แต่ได้ฟังธรรมเป็นการสะสมสุตตะ(ได้ฟัง สาธยาย)นี่ก็เป็นบุญเป็นกุศลข้อหนึ่งธรรมจะช่วยขูดเกลาจิตให้ออกจากนิวรณ์เมื่อก่อนรู้แค่รักษาศีลห้าไม่รู้ในอริยสัจสี่ตั้งแต่ฟังพระอาจารย์มาเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งรักศรัทธาพระตถาคตยิ่งพระองค์ได้บอกวิธีปฏิบัติไว้อยู่ที่ว่าใครจะปฏิบัติได้หรือไม่...น้อมกราบพระอาจารย์ผู้มีกรุณามาก🙏🏻🙏🏻สาธุ🙏🏻
เป็นเหมือนกันคะ ให้คุณพิจารณาคำสอนนี้นะคะ การเข้ามารู้ตามซึ่งสัจจธรรมที่มีสิบสองขั้นตอน ก็จะเห็นธรรมที่เป็นเหตุ และธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันเกิดขึ้น เมื่อมีการใคร่ครวญพิจารณาซึ่งเนื้อความแห่งธรรม ทำให้เกิดความเข้าใจในธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ เข้าใจในการทำงานของ วิญญาณและนามรูปคะ จะเห็นว่า เป็น สัญญาและใจ
เราสามารถหลุดพ้นด้วยการละอกุศลครับ เมื่ออกุศลเหลือเพียงเล็กน้อยเท่าเม็ดทราย ก็สามารถเข้าอมตะได้ครับ แต่ต้องล้มอกุศลทั้งสังสารวัฏก่อนจึงจะได้ครับ แต่ไม่ต้องกังวล มั่นเดินมรรค8 เมื่อบุรุษปะพรมน้ำบีบคั้นเม็ดงา เขาจะไม่ได้ปรารถนาหรือปรารถนาน้ำมันงา เขาก็จะได้อยู่ดี
ฉันใดก็ฉันนั้นหากทำเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง ก็จะทำให้เราเข้านิพพานในสักวันครับ
กราบขอบพระคุณท่านค่ะ เมื่อก่อนไม่ชอบฟังท่านเลยค่ะ มันไม่สนุก และยากมากๆ แต่พอลองแข็งใจฟังท่านครั้งต่อมา ล้วนเป็นความจริง ตามพุทธวจนะ เลยตั้งใจฟังดีกว่าถ้าฟังสิ่งที่ดีแค่นี้ไม่ได้ ก็อย่าไปทำอะไรเลยสมาธิยากกว่าอีก เคยได้รับรู้สิ่งที่ได้มาตอนนั่งภาวนาและพิจรณาได้อะไรมานิดๆหน่อยๆ ดีใจพอดีใจสิ่งนั้นก็หายไป ทำให้ต้องปฏิบัติมาจนทุกวันนี้ ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ดีบ้างไม่ดีบ้างจนกระทั่งไม่หวังว่าจะได้ จิ่งตั้งใจยิ่งไม่ได้ต้องไม่ใส่ใจไม่เพ่ง เกิดดับ เกิดดับ ตลอดเวลา
เป็นผุ้มีวาสนาจ้ามีปัญญาสาธุๆ
@@wasana-yd5hy ขอบคุณค่ะ
ที่ฟังแล้วชอบใจเพราะ อ.คึกฤทธิ์เอาพระไตรปิฎกมาอ่านครับของจริงนั่นแหละบางส่วน
แล้วมีเสริมแต่งเองเป็นบางส่วน
ถ้าคนไม่ได้ศึกษามาอย่างจริงจังจะแยกไม่ออกครับ
คือมันมีทั้งใช่และไม่ใช่ปนกัน
เก่งกว่าพระคึกฤทธิ์หรือครับถึงได้ยืนยันว่าเป็นความจริง
ถ้าไม่เก่งกว่าเอาอะไรมายืนยันหรือครับ? หรือเกิดทันพระพุทธเจ้า🤣🤣🤣🤣🤣
เท่าที่ผมทราบคือไปลอกเขามา (ฉบับสยามรัฐ)แล้วดัดแปลงใหม่ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพุทธวจน คนปกติเขาไม่ประพฤติกันหรอกครับมันน่าละอาย🤣🤣🤣🤣🤣
@@แมวมองสองใจ ขอลองฟังผู้รู้เทศหน่อยครับ ว่าอะไรยังไง จะได้เอาไปใช้บ้าง
ขอขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่สอนให้ผผมครับ
ตอนอนาปาอยู่ในพระ กายเย็นมากเป็นเวลา10กว่านาทีจิตอยู่กับลมหายใจเข้าออกตลอดคิดว่าตัวเราต้องตายแล้ว แต่ก็ไม่ตายมีเหงือชุ่มเสื้อเลย ต่อมาอีกวันหนึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันเวลานานพอๆกันกำลังนั่งขับถ่ายในห้องน้ำก็เช่นกันเวลาพอๆกัน อีกวันหนึ่งนอนอยู่ก็ทำอนาปาอยู่เหมือนกันเวลาก็พอๆกันนี้ถึงเวลาตายแล้วใช่ไหม แต่ก็ยังไม่ตาย จนมีโอกาสได้ฟัง พุทธวจน คิดว่าตายไปไม่เสียดายชีวิตแล้วได้พบพระธรรมอันสูงสุดรู้เหตุเกิดแห่งทุกและเหตุดับไม่เหลือแห่งทุกแล้วตายก็จบชาตินี้เป็นสุด้าย สาธุๆๆ
สาธุ ๆ ๆ ครับ
รักศรัทธาพระอาจารย์.คึกฤทธิ์.ครับ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ
กราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ สาธุๆๆ
🙏🙏🙏🌷เจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ ฟังแล้วเข้าใจง่ายดีค่ะ สาธุค่ะ
นั่งไปนานๆแล้วรุ้สึกเหนื่อยหมดแรงคืออะไรหรอครับ พระท่าน
แปลว่าเพ่งนานเกินไปครับ ต้องทิ้งอารมณ์ ด้วยการรู้ลมหายใจ ถ้าตึงมาก็วิเคราห์ธรรมมะในส่วนความไม่เที่ยงครับ แต่ณานจริงๆส่วนใหญ่ทุกคนสามารถเข้าณาน1ได้ง่ายๆ แต่ไม่รู้ตัวครับ
@@nononline5327 ถ้าเป็นความรุ้สึกแบบว่าเหมือนตัวพุ่งขึ้นแบบเร็ววมากๆ เลยอันนี้ไม่แน่ใจว่าเกินจาก ร่างกายเรารึป่าวผมก้อไม่แน่ใจ เพราะพึ่งเคยรุ้สึก มะวานนี้เองครับตั่งแต่เคยนั่งมาครับ
กราบสาธุคะ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต /ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านพูดออกมา คำสอนของท่านจะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คำสอนของท่าน ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงถูกขนานนามว่า ตถาคต นั่นเองคะ ยกตัวอย่าง อินทรีย์5 พละ5 (ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา)>(ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น
ฌานที่ 4 อธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงกันคือ สภาวะที่ดวงจิตแยกออกจากร่างกายเกิดแสงสว่างขึ้นเหมือนแสงของระเบิดนิวเคลียร์ ลมหายใจไม่มี ดวงจิตลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อหมดกำลังมันจะกลับมาเข้าร่างกาย จะมีอาการเหมือนถูกไฟช็อต หลังจากนี้จิตก็พร้อมทำงานงานพิจารณาธรรม ผลพลอยได้ มีพลังจิต เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า รู้ความคิดของคนอื่น....มีใครเป็นแบบนี้บ้าง
@@ลัชชี-สาวกพุทธ สมาธิ มี 9 ระดับ นั่นเองค่ะ มีสัมมาสมาธิ / มีมิจฉาสมาธิ / ท่านจะต้องเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ ถึงจะเป็นการเจริญใน อริยมรรคมีองค์แปด และ รู้จัก สัมมาสมาธิ นั่นเองค่ะ และเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ / ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ที่เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ ถ้าไม่รู้จัก สัมมาสมาธิ ก็หลุดพ้นไม่ได้นั่นเองค่ะ เพราะว่า วิมุตติญาณทัศนะ คือ ผู้รู้ในการหลุดพ้น ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ มาเจริญสัมมาสมาธิ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ เริ่มที่ กฏอิทัปปัจจยตา นั่นเองค่ะ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา นั่นเองค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
เคยเป็นแต่ในฝัน อาการเหมือนที่ว่ามาทุกประการ แรกๆฝันว่านั่งสมาธิแล้วเพ่งไปเรื่อยๆ สักพักเหมือนลอยขึ้นในอากาศแล้วเห็นแสงจ้ามาก อารมณ์ตอนนั้นคือสุขมากๆ แล้วสักพักก้มีเสัยงบอกให้กลับภพภูมิ
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ🙏🙏🙏
กำลังละปิติครับ สาธุ
ตอนนั่งแล้ว รู้สึกปิติหายไป แต่รู้สึกเย็นไปทั่งร่างแทน ไม่ได้คิดไตรตรองอะไร แค่นั่งควบคุมลมพยายามให้อยู่กับกายเฉยๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร มีแสงขาวสว่างเข้ามาในนา แต่เราก็ไม่สนใจ สนใจแต่ลม เลยไม่รู้มันถึงขั้นไหนแล้ว
💐🙏💐🙏💐🙏สาธุๆๆๆค่ะ
สาธุค่ะอนุโมทนาสาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะ🙏🙏🙏
เป็นช่องที่ดีที่สุดค่ะ ทุกคลิป ไม่มีโฆษณาคั่นเลยค่ะ
การปฏิบัติก็ดี การเรียนรู้กับตำราก็ดี เป็นของต้องพึ่งกัน คนไม่ได้เรียนเขียนไม่ได้ก็มีโอกาสบรรลุธรรม คนอ่านเรียนเขียนได้ก็มีโอกาสบรรลุธรรม
ใช่เเล้วบรรลุได้เหมือนกัน💗
อนุโมทนาสาธุครับ
กราบสาธุคะ อินทรีย์แก่กล้า อินทรีย์ห้า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ฟังธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มีศรัทธา มีวิริยะ ความเพียร มีสติ ระลึกได้ มี สมาธิ ตั้งใจมั่นใคร่ครวญพิจารณาซึ่งเนื้อความแห่งธรรม ปัญญา ความเข้าใจ เกิดความเข้าใจในธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า อินทรีย์แก่กล้า อินทรีย์ห้า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา อินทรีย์ของ สัทธานุสารี ธรรมมานุสารี โสดาบัน อินทรีย์ของเขาคือมีความอยากที่จะฟังธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ สัญญาและใจ
ไปลอกๆกันมาหลอกคนอื่นอีกทำไมยิ่งเพิ่มความหลงเชื่องมงายอีกมากมายนะสิงงเป็นไก่ตาแตกเลย
💖อนุโมทนา สาธุคับ💖🧘🙏🤍
ทำตามแล้ว เป็นจริง เหมือนห้วงน้ำอันลึก มีน้ำอันพุ่ง ท่อน้ำเย็นพุ่งขึ้นจากห้วงน้ำนั้น ส่วนไหนที่น้ำเย็น มิถูกต้องแล้วมิได้มี เป็นจริง หายใจเข้า ตามปกติ อาการเย็นจากภายใน น้อมใจไปให้ความเย็นนั้น ทั้่วร่างกาย ครู่นึง อาการเหมือนเดิมแต่มีความสุขอิ่ม น้อมใจไปให้สุข ทั่วร่างกาย อิ่มสุข ครู่นึง ว่างปล่าวน้อมใจให้ไปทั่วร่างกาย จะว่างปล่าวครู่นึงสักครู่ จิตก็ไปคิดอีก ก็มองดูว่าที่คิดนั้น เป็นขันอะไร รู้แล้วก็ดึงมาที่ลม ก็จะวนไปมาแบบนี้ ท่านกล่าวแล้วเป็นไปตามนั้นทั้งหมด แม้สมาธิ นี้ก็เกิดดับ แค่มันช้าลง อยู่ในสมาธินานขึ้น แต่ยังไงมันก็ดับไปอยู่ดี ถ้าเห็นแสงก็ทิ้ง ถ้าไม่ทิ้ง มันก็จะเป็นภพ มันก็จะสร้างเรื่องราวต่อไปมันปรุงต่อไป พอรูตัวว่ามันปรุงแต่งเรื่องราวก็ดึงมาที่ลม อาการก็จะวนๆซ้ำไปมา แต่มันแค่จะเร็วขึ้นและนานมากขึ้น เข้าสมาธิได้คล่องขึ้น ท่านพูดและสอน มันเป็นไป แบบนั้นจริงๆ
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ
สาธุครับ🙏🏼🧘🏼👁🥰
จริงๆ ก็เป็นเพียง "ขั้นบันได" เท่านั้น
ผ่านไปก็ไม่เห็นมีอะไร แค่ทางผ่าน
เราคิดมากกันไปเอง จริงๆ ญาน 1-4 ไม่ได้ซับซ้อนอะไร
เราทำให้มันซับซ้อนเอง
เมื่อผ่านไป สุดท้ายแท้จริงก็เหลือเพียง "ลมหายใจเข้าและออก"
"ปัจจุบันที่มุ่งหน้าสู่การเสื่อมสลาย"
ฟัง พูด คิดก็รู้สึก สังเวท เบื่อหน่าย เอื่มระอากับสิ่งที่เป็นอยู่
แต่ก็ทนอยู่ในกายที่กำลังดับอยู่ทุกขณะ
อยู่อย่างนิ่งเฉย ดูความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นจริง
ไหลอยู่อย่างนั้น และเฝ้ารอ "ความตาย" ครั้งสุดท้าย
อย่าง "นิ่งเฉย"
เพราะ ญาณ 1-4 หรือ ญาณไหนๆ เป็นแค่การฝึกฝนเพื่อ "ละทิ้ง"
ใช่ครับ เราต้องทิ้ง ญาณทั้งหมดที่ฝึกฝน "หมด"
มันก็เป็นเพียงสังโยชน์ ที่เราต้องผ่าน มันไปเท่านั้น
สาธุครับสาธุ ขอบคุณครับท่าน ผู้เห็นธรรม เข้าใจแล้วครับ จบลงด้วยปัญญาน่ะครับ สาธุ
เขาอรียก ฌาน1-4 ครับ ไม่ใช่ ญาณ 1-4 ฌาน แปลว่ามีสติตั้งมั่นในสมาธิใดสมาธิหนึ่ง ญาณ แปลว่ายั่งรู้ และ สังเวช ครับ ไม่ใช่ สังเวท /สังเวช แปลว่าความสลดหดหู่ใจต่อสิ่งที่ได้พบเห็น
@@ผู้ใฝ่สัจธรรม ฌาน ก็คือ เวทนาอุเบกขา นั่นเองคะ คือ รูปภพ นั่นเองคะ สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน คือ ละสังโยชน์ที่สร้างการเกิดใน กามภพ นั่นเองคะ เมื่อละนันทิจิตหลุดพ้นจาก กามภพ แล้ว ก็ดำริออกจาก รูปภพ ต่อนั่นเองคะ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ นั่นเองคะ ปลายทางเป็น อานาปานสติ คือ ละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญ อานาปานสติ นั่นเองคะ ละนันทิจิตหลุดพ้น ก็เป็นการดำริออกจาก รูปภพ ได้แล้วนั่นเองคะ
ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะเมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้น เมื่อ อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้น นั่นคือ สัมมาสมาธิ นั่นเองคะ เป็นการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ซึ่ง ฌาน1 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ฌาน2 ก็จะเป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง การเกิดปรากฏขึ้นของ ฌาน 4 ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ก็จะเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิ นั่นเอง เป็น สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ ต่อ เป็นการเจริญสมาธิอรูปสัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิอรูปสัญญา และ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ก็เป็นการรู้ตามซึ่ง สัจธรรม และ บรรลุตามซึ่ง สัจธรรม จาก ตถาคตภาษิต ที่ท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า สมาธิ มี 9 ระดับนั่นเองคะ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เป็น ตถาคตภาษิต เพราะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองคะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สมาธิ 9 ระดับนั่นเองคะ
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ
เดี้ยง..อยู่ฌานที่3..เข้าฌานโดยไม่รู้ตัว..ว่าได้ฌาน..หูดับ...
ผมหาคำตอบมาเป็นสิบกว่าปีพึ่งรู้ว่าผมเคยนั่งสมาธิถึงขั้นใด(เมื่อบวชอายุ20ปี)บัดนี้ผมได้คำตอบแล้วขอกราบนมัสการขอบพระคุณท่านครับ แต่ปัจจุบันนี้ผมพยายามนั่งสมาธิอยากได้อารมณ์นั้นอีกแต่ก็ทำไม่ได้ไม่รู้เป็นเพราะอะไรหรือว่าเราเคยมีประสบการณ์นั้นแล้วจึงทำไม่ได้อีก
อนุโมทนาสาธุค่ะ
จตุพล กราบ
สาธุสาธุค่ะ🙏🙏💖💖💖
ขอน้อมกราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ
สาธุสาธุสาธุครับพระอาจาร
น้อมกราบธรรมสาธุค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าค่ะ
พวกสาวกอย่างก่อนอย่าได้แคร์.บายค่ะ.สาธุ.ต้องมีที่มา.มีที่อ้างอิง.เช่นพระอาจารย์เจ้าค่ะ.สาธุยิ่ง..
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ
ขออนุโมทนา สาธุ 🙏
สาธุ
ขอบคุณมาก
กำลังพยายามกลับมาใหม่ เพื่อเข้าฌามที่1 ให้ได้ก่อน
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ พระอาจารย์
G R E E T I N G S 💗
Buddhawajana Anapanasati Original lmmortal
Love Faith Tathagata 💖
Smtha Smathi SATHU Sathu sathu 🙏🙏🙏💞🍎🍏💞
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ชอบทำได้ตอนง่วงแปลก
น้อมกราบสาธุครับ🙏
สาธุ สาธุ สาธุ ครับอาจารย์
อนุโมทนาสาธุครับ🙏
😘อนุโมทนาสาธุครับ😍
สาธุๆ... ครับ
กราบสาธุ"ค่ะ
ขออนุญาตสอบถามผู้รู้ค่ะ ในขณะนั่งสมาธิ ถ้าเรารู้สึกคันตรงนั้นตรงนี้ของร่างกาย หรือรู้สึกคันเหมือนมดกัด ยุงกัด เราควรเอามือไปเกาได้ไหมคะ หรือว่าแค่กำหนดรู้ว่าคันตรงส่วนนั้นแล้วอดทนไม่เกาไม่เคลื่อนไหวร่างกาย และดึงจิตมาอยู่กับลมหายใจต่อ
ถ้าปล่อยวางและทนไม่ได้ก็เกาได้ครับ เริ่มใหม่ คนฝึกใหม่ก็จะมีอะไรมากวนอยู่ตลอดครับ นั่งปวดทนไม่ได้ก็เปลี่ยนอิริยาบดได้ครับ..นั่ง,เดิน,ยืน,นอน ทำได้หมดครับ...ค่อยๆฝึกไปครับ
ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ผมเข้าถึงปฐมญานได้ละ แต่ญานที่1-4ยังเข้าไม่ได้เลย ยังมีความกลัวอยู่ ทำยังไงครับ
สาธุค่ะ
น้อมกราบอนุโมทนาบุญ และน้อมกราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ🙏🏿🙏🏿🙏🏿
กราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
🙏🙏🙏
ใช้สมาธิในการพิจารณา แล้วจะรู้สึก
สาธุค่ะ🙏🌹
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบ สาธุ สาธุ สาธุ คะ
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุครับ
น้อมกราบพระคุณ พระศาสดา พระสงฆ์สาวก ครับ ❤
อนุโมทนาบุญด้วยครับผม
สาธุ สาธุ สาธุ
ในธรรมอัน บัณฑิตแสดงอยู่
ข้าพเจ้า ขอถึง
พระพุทธ
พระธรรม
พระอริยสงฆ์
ขอพระรัตนตรัย
เป็นที่พึ่ง
สาธุครับ🙇
สาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุ
สาธุครับ
กราบสาธุคับ
ถ้าฌานที่ ๕ คือ เบญจฌานใช่ไหมครับ 🙏🙏🙏🤍🤍🤍
ผู้สอนอ่านตามตำราเลย โอเค ขอแค่ อย่า บิดเบือน ตัด เติม
ใบลานเปล่า
คนจะเป็นครู สอนคนอื่น จะต้องสอนตนเองให้เป็นครู ด้วย พอสอนคนอื่นจะได้ไม่ผิด
พระพุทธเจ้า ยังตำหนิ ใบลานเปล่า
โอเค💗
ตอนนี้ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า พุทธวจน เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ตรวจสอบจาก กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม ตรวจสอบจากการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือ สุตตมยปัญญา ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง เมื่อต้นทางถูก ปลายทางจึงเป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเอง เพราะเมื่อมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี นั่นเอง ก็คือ มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือหน้าตาของ สัทธานุสารี เมื่อสัทธานุสารีเกิดขึ้นแล้ว บุคคล 4 คู่ 8 พวกก็จะเกิดตามมานั่นเอง เพราะบุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ ตถาคตภาษิต นั่นเอง สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตถาคตภาษิต บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้วโดยสิ้นเชิง สุตตมยปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ ภาวนามยปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น ตำหนิ พุทธวจน นั่นคือ สังโยชน์ วิจิกิจฉา และตามมาด้วยสังโยชน์ มานะ สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ไม่รู้ จึงเป็นการเดินออกจากเส้นทาง อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง ถ้ากองอกุศลมูล ส่งผล ทำให้ อกุศลธรรม เกิดต่อเนื่อง ก็จะตำหนิ พุทธวจน ไม่เลิกนั่นเอง ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถทำให้ใครมามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้ทั้งหมด เพราะมีเหตุปัจจัย คือ มีสังโยชน์ วิจิกิจฉา มานะ และ กองอกุศลมูล ส่งผล นั่นเอง จึงไม่สามารถทำให้เขามามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้นั่นเอง ก็ยังคงเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเอง
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ไม่ต้องยาวครับ ลอกมาจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น พอลอกมาแร้วก็มาบอกว่า คำสอนพระพุทธเจ้า จากพระโอษฐ์ ส่วนที่ไม่ได้ลอกมานั้น บอกว่าเป็น คำแต่งใหม่ของสาวก ไม่ให้เชื่อ ไม่ให้ฟัง
สังคายนาครั้ง แรก เค้าใช้ พระอรหันต์ถึง 500 รูป เชียวนะ
นี้วัดนา สังคายนาเองเคยเหรอ รู้ถึงขนาด แยกคำสอนพระพุทธเจ้า แยกคำสอนสาวกจากพระไตรปิฎกเลยเหรอ
แปลบาลีมาเป็นไทย ก็สาวกแปล เค้าไปเรียนมาทั้งนั้น วัดนาไม่ได้แปลเอง ขโมยมาจากพระไตรปิฎกมาทั้งนั้น
ผมไม่ต้องการ ชื่อธรรม ชื่อของฌานสี่
ที่คุณ พูดมายาวเนี้ย มันชื่อของธรรมทั้งนั้น ใครก็พูดได้ อ่านได้ครับ
ผมต้องการ ผู้ที่เข้าถึงธรรม ตัวธรรมจริงๆ คำสอนพระพุทธเจ้า เปรียบเหมือนแผนที่ มีแผนที่อยู่ในมือ รู้หมด ขุมทรัพย์ แต่รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องเดินทางไปค้นหาขุมทรัพย์นั้นด้วย
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ ผมต้องการรู้ ว่า ผู้ที่ปฏิบัติสายวัดนานี้ มีใครที่เข้า ฌานสี่ ได้ จริงๆ มั้ย ไม่ใช่เอาชื่อ ฌานสี่ มาอธิบายให้ผมฟัง อ่านให้ผมฟัง เหมือนคลิปนี้
ผมไม่ได้ตำหนิคำสอนพระพุทธเจ้า แต่ผมตำหนิ ผู้อ่านฌานสี่ให้ผมฟัง เค้าเคยสอนว่า พระโสดาบันจิบไวน์ ได้ ถ้าพูดแบบตรง ๆ กินเหล้าได้ อาจารย์ คึกฤทธิ์ เป็นคนสอน ดูในยูทูบหลาย ปีแร้ว
เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เป็น สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด เห็น อินทรีย์ ห้า ตัว ศรัทธา เห็น วิริยะ เห็น สติ เห็น สมาธิ เห็น ปัญญา ก็จะเจอ ลิขสิทธิ์ทาง ปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ ของพระพุทธเจ้าว่า ต้องมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต เท่านั้นถึงจะเป็นการเจริญ อริยมรรคมีองค์แปด มีคนอ่านให้ฟัง หรือจะอ่านเอง จนจำ ตถาคตภาษิต ได้ ก็คือเหตุปัจจัยถูกทั้งนั้นนั่นแหละคะ
ต้องไปเรียนบาลีก่อนถึงจะฟังรุ้เรื่อง ไม่แปลกที่เราไม่สามารถช่วยเด็กๆให้เข้ามารักธรรมะได้ น่าเสียดายที่เรามีของดีแต่ไม่สามารถส่งต่อให้เด็กได้
สาธุจ๊ะ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
วิรัติ ทองบำรุง โมทนาสาธุสาธุสาธุ
1,000,000,000,000,000,000ครั้ง
บารมีผมคงไม่ถึง ฟังธรรมมะของท่า ที่ท่านมาสาธยายให้ฟัง แล้วย่อยยากครับ แต่ก่สาธุ ครับ
ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด เป็น ตถาคตภาษิต เพราะ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ก็เริ่มที่เข้ามาฟัง อริยมรรคมีองค์แปด ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ให้คล่องปากขึ้นใจ ก็เริ่มพิจารณาธรรม อริยมรรคมีองค์แปด เป็น สังขตธรรม เพราะมีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ สัมมาทิฏฐิ จะต้องมีเกิดปรากฏขึ้นมาแน่นอนนั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท เมื่อสัมมาทิฏฐิมี สัมมาสังกัปปะย่อมมี เมื่อสัมมาทิฏฐิไม่มี สัมมาสังกัปปะย่อมไม่มี/สัมมาทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สัมมาสังกัปปะ/เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาทิฏฐิ ไหม/สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สัมมาวาจา/เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาสังกัปปะ ไหม นี่คือการเจริญสัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ปลายทางเป็นการเกิดปรากฏขึ้นของปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ เป็นเส้นทาง ปัญญาวิมุตติ ก็จะเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก เป็นการดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ด้วยเช่นกันนั่นเองคะ
ท่านผู้นี้ พูดตามหนังสื่ออย่างเดียวเลย พูดกว่างๆ ผมมั่นใจเลยว่าคนนี้ไม่ได้อะไรเลย
มารู้จัก ตถาคตภาษิต กันดีกว่า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลย ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ ตถาคตภาษิต เป็น สัมมาทิฏฐิ อย่างนี้อย่างนี้คะ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต ปฏิบัติ ก็จะเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียนเบียน คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด สัมมาทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ สัมมาสังกัปปะ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง สัมมาสมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ปัญญา อริยมรรคมีองค์แปด สองข้อแรกเป็นปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ คือ รู้ตามซึ่ง สัจธรรม และ บรรลุตามซึ่ง สัจธรรม จาก ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ อย่างนี้อย่างนี้คะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ เป็น ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ เป็นผู้ที่ไม่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ไม่มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ ปริยัต เป็น งูพิษ ปฏิบัติ ไม่เป็น สัมมาสังกัปปะ พิจารณาธรรมจาก ผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี ที่ตำหนิ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็น ตถาคตภาษิต มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ คัดลอก และ วาง
ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ คือ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต การบอกต่อ ตถาคตภาษิต คือ ปริยัต เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ ปฏิบัติ เป็น สัมมาสังกัปปะ นั่นเองคะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน นั่นเองคะ
เมื่อนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ จะมีผู้ที่ฟังด้วยดี และ จะมีผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ การเจริญ อตัมมยตา นั่นเองคะ จะเห็น อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้น และ จะเห็น สังโยชน์ ทั้งสิบ เกิดปรากฏขึ้น เห็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม นั่นเองคะ เป็นผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ เป็นผู้ที่ไม่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่เกิดปรากฏขึ้นตามมาคือ ไม่มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ สักกายทิฏฐิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ วิจิกิจฉา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม ไปจนถึง สังโยชน์ อวิชชา นั่นเองคะ เพราะมี อวิชชา เป็นปัจจัยจึงมี สังขารทั้งหลาย ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเองคะ
อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็น ตถาคตภาษิต เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีอยู่ในหนังสือ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ อินทรีย์5 พละ5 เป็น สังขตธรรม เพราะมีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ/การเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์ 5 พละ5 ศรัทธา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิริยะ/การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ/การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงไม่เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ/สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงไม่เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ/ศรัทธา-วิริยะ/วิริยะ-สติ/สติ-สมาธิ/สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สัมมาสมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ/เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ มิจฉาสมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปัญญา/ปัญญา คือ ความเข้าใจ/ เป็นสัมมาสมาธิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์/เป็นมิจฉาสมาธิ เป็นปัญญา ฌาน4 ที่เป็น อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ เพราะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ อริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ พระโมคคัลลานะท่านเจริญใน อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ ท่านเป็นพระ อัครสาวกเบื้องซ้าย นั่นเองคะ
คำสอนเป็นเพียงแต่แนวทางเพื่อให้เราใช้เป็นแนวทางเพื่อปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง ถ้าลองทำแล้วคิดว่ามาไม่ถูกทางก็ให้หยุดได้ แต่อย่างน้อยๆสิ่งที่ได้ในการนั่งทำสมาธิคือความสงบและมีสติที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ส่วนในเรื่องฌาณนั้น เป็นเรื่องที่ไกลตัวออกไปมากอย่าพึ่งไปแสวงหากันเลย ถ้าทำได้ง่ายๆโลกนี้คงวุ่นวายน่าดู เพราะทุกคนจะรู้อดีตอนาคตของกันและกัน...
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ยกตัวอย่าง ตถาคตภาษิต อินทรีย์ 5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ในหนังสือ พุทธวจน มี ตถาคตภาษิต ซึ่งมีกัลยาณมิตรที่ทำหนังสือ พุทธวจน ไว้นั่นเองคะ ซึ่งก็คือ ธรรมที่เป็นเหตุ ได้เกิดปรากฏขึ้นมาแล้วนั่นเองคะ เหตุปัจจัยถูก มีกัลยาณมิตร ทำให้ได้ฟังธรรม คือ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต เป็นผู้ที่ฟังด้วยดีทำให้มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญสัมมาสมาธิในอริยมรรคมีองค์แปด เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ดำริออกจาก เวทนาสุข เวทนาทุกข์ ดำริออกจาก กามภพ เวทนาสุข มนุษย์ และ เทวดากามภพ เวทนาทุกข์ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย ถ้าไม่ได้ ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต ธรรมที่เป็นเหตุ คือ ได้สดับใน ตถาคตภาษิต ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นนั่นเองคะ ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต คือ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต ซึ่งเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้วนั่นเอง ธรรมที่เกิดแต่เหตุ ที่จะเกิดปรากฏขึ้นตามมา คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี ทำให้มี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
ขอปัญญาหน่อยครับ. ดังนั้นคนที่กลับมารู้ในลมหายใจ ก็แสดง
ประติบัตได้ใช่มั้ยคับ
พระพุทธเจ้าบอกว่า เจริญอานาปานสติ แม้เพียงชั่วลัดนิ้วมือ ถือว่า อยู่ไม่เหินห่างจาก ฌาน ทำตามโอวาทของพระศาสดา เมื่อเป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต แล้วและ เป็นผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ เป็นผู้ที่ฟังด้วยดี ทำให้มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต ก็คือ เริ่มทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเองคะ ก็คือ เริ่มเจริญอานาปานสติ รับรู้ลมหายใจเข้าออก นั่นเองคะ คือเป็นการมี ศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 นั่นเองคะ คือการเจริญ สัมมาสมาธิ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ปลายทางจะเป็น ปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน นั่นเองคะ เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เกิดปรากฏแล้ว ก็เจริญสมาธิอรูปสัญญาต่อ สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ปลายทางเป็น อานาปานสติ คือ การละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญอานาปานสติ นั่นเองคะ เมื่อมาถึงปลายทางก็จะรู้นั่นเองคะว่ามาถึงปลายทางแล้ว ละนันทิจิตหลุดพ้น ก็จะเป็น สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองคะ ก็มาสั่งสมสุตตะ เพื่อเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน1234 ที่ปลายทางเป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
Thankyou
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
🙏🏻
สาทุๆ
สงสัย ครับ แบบนี้ ได้สมาธิ หรือ ชาญ ขั้นไหนครับ คือ นั่งดูลมหายใจ เข้า -หายใจออก เห็น เกิดดับ ไปเฝ้า ดู รอยต่อ อารม อุเบกขา แต่เฝ้าดูได้ ไม่นาน ก็หลุด ไปดู ลมหายใจเข้า หายใจ ออก แล้วก็ไปเห็น เกิด ดับ รอยต่อ ก็ไปเฝ้า ดู อารมอุเบกขา ที่ดู อยู่ ใช่ วิมุต ไหม แบบนี้ ได้ ชาญ ขั้น ไหนจร้า
ยังไม่ถึงฌานเลย ถ้าอยากจะทำสมาธิให้ได้ผลคุณไปศึกษาเรื่องจริตก่อน ดูว่าคุณมีลักษณะนิสัยเป็นแบบไหนจริตอะไร และ จริตของคุณต้องการกรรมฐานกองไหน ถ้าทำสมาธิที่ต้องกับจริตของตนเองมันจะง่ายมาก
ท่านสอนเรื่องสมาธิ เรื่องฌานอยู่หลายคลิปครับ ลองหาดูพิมพ์ชื่อแล้วใส่คำว่า พุทธวจน เข้าไปด้วย น่าจะขึ้นมาหลายคลิปนะครับ คุณสมบัติ หรือคุณลักษณะ ของแต่ละฌานเพื่อตรวจสอบตามคำสอนพุทธองค์ยิ่งเลยฌานสี่ขึ้นไปนี่ จะเป็นชื่อเฉพาะของฌานนั้นๆเลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นในฌานนั้น ไม่ใช่เหมือนหลวงตาองค์นั้นว่าตัวจะลอย หลวงพ่อองค์นั้นว่าตัวจะสั่นๆ หลวงพี่องค์นั้นว่าแสงจะจ้าๆ ไม่เป็นอันเดียวกันแบบที่พระพุทธองค์บอก
@@MrNathakorn การที่คุณเขียนมาแบบนี้แสดงว่าคุณมีแต่ภาคทฏดี อ่านดูก็รู้เลย คุณไม่เคยถึงฌานสี่ก็ไม่ควรมาตัดสินว่านั้นผิดนี้ถูกการที่คุณชอบคำสอนของท่านนี้ก็ไม่ได้แปลว่าท่านนี้ถูกและพระองค์อื่นผิด เพื่อเป็นพิสูจน์คุณปฏิบัติเลยเอาให้ถึงเอาให้ได้จะได้รู้ คนมีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกันแบ่งออกได้หกประเภท หรือที่เรียกว่าจริตหก และ กรรมฐานมีสี่สิบกอง แต่ละกองก็ขึ้นไม่เหมือนกันและผลก็ต่างกันแต่จบที่กองเดียวกัน คุณทำให้ได้เดียวจะรู้เอง
@@Dexy442 เขาถามเรื่องฌาน ว่าที่เขาเป็นแบบนี้มันขั้นไหน ผมก็บอกสิ่งที่ผมเคยผ่านตา ผ่านหูมา ให้ไปหาดูเผื่อจะเข้าใจ และตัวคลิปเองเป็นเรื่องของพุทธวจน ผมก็ต้องให้เขาไปดูที่พุทธวจน เพราะเหตุสงสัยเขาเกิดจากคลิปนี้ ผมจะให้ไปดูของใครล่ะ แล้วผมก็บอกตามพุทธวจนที่พระอาจารย์เคยบอกว่าฌานมีเท่านี้ขั้นนะ ฌาณ1-4 เรียกตามลำดับอย่างนี้ๆ ฌาน5ขึ้นไปนี่มันจะมีชื่อเฉพาะตามคุณสมบัติที่มันเกิดนะ ทำไมผมต้องใช้การได้ฌานการสำเร็จอะไรมาอธิบายผมไม่ได้สอนเขาเข้าฌาน ผมจำได้และบอกที่หาความเข้าใจเผื่อเขาหายสงสัย คำสอนก็เหมือนแผนที่แหละนะไม่จำเป็นต้องเคยไปก็บอกได้ ให้ดูได้ ถ้าแผนที่มันถูก ให้คนที่เขาจะไปก่อนดูก่อนก็ได้เพราะแผนที่นี้มันเขียนจากคนที่ไปมาแล้ว อย่างนี้พระนับไม่ถ้วนหลายๆรูปบนโลกก็สอนเรื่องนิพพานไม่ได้สิ เพราะยังไม่มีใครได้
@@MrNathakorn การทำสมาธิของแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนก็มีอาการปิติบางคนก็ไม่มี เพราะฉะนั้นการที่พระอาจารย์บางท่านบอกว่าจะมีอาการอย่างนั้นอย่างนี้ อาจารย์บางท่านไม่เป็นก็จะบอกว่าไม่จริงไม่มีอาการแบบนี้ฉะนั้นจึงไม่ควรบอกว่าอันนั้นผิดอันนี้ถูก และฌานแต่ละขั้นก็มีชื่อมีอารมณ์จิตรต่างกันตามความละเอียดของระดับฌาน ฌานหนึ่งสองขึ้นต่างกันแต่ สามและสี่เหมือนกัน การที่อาจารย์พูดสอนต่างกันก็เพราะใช้กรรมฐานตางกันแต่ อาจารย์ทุกท่านจะพูดเหมือนกับหมดเมื่อพูดถึงฌานสามและสี่ ถ้าบอกอารมณ์จิตรถผิดคนที่ทำได้จริงก็จะรู้เลยใครได้จริงใครไม่ได้จริง กรรมฐานมีสี่สิบกองเข้าฌานหนึ่งก็มีสี่สิบแบบเข้าฌานสองก็มีสี่สิบแบบแต่พอเข้าฌานสามและสี่ก็จะกลายเป็นลักษณะอารมณ์จิตรเดียวกันคืออานาปานสติ และแสงจ้านั้นคือฌานสี่ อาจารย์ท่านไหนบอกว่าแสงสว่างจ้าไม่มีแสดงว่า ทำไม่ได้ ไม่ได้จริง ถ้าเข้าถึงฌานสีครั้งจะมีอาการสว่างเหมือนกันหมด เว้นแต่ท่านที่ชำนานจะบังคับให้รูปฌานนี้ให้หายไปได้นั้นคืออรูปฌาน และท่านที่ตั้งคำถามนี้ผมจึงตอบไปว่ายังไม่ถึงฌานเลยเพราะจับดูอารมณ์อย่างหนึ่งอยู่แต่เดียวก็เปลี่ยนไปอีกอารมณ์นึงยังไม่นิ่งถ้าเข้าถึงฌานอารมณ์พิจารณาหรือดูอย่างใดอย่างหนึ่งจะนิ่งถ้าอยู่ในอารมณ์ฌานแล้วดูหรือเห็นดารเกิดดับไฟของอารมณ์จิตรก็จะเห็นอยู่อย่างนั้นตามสภาพจะไปหยุดเห็นหรือเปลี่ยนไปเห็นอย่างอื่น
ศาสนาพุทธนี้เขาต้องเข้าญาณเป็นหัวใจหลักหรือ มองเรื่องทุกข์และหนทางพ้นทุกข์กันแน่
@@ธนธรณ์ทิพทวี คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ การเข้ามารู้ตามซึ่ง สัจธรรม จะต้องเข้า ฌาน นั่นเองค่ะ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิอรูปสัญญา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ นั่นเองค่ะ เจริญสุตตมยปัญญา เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ
อรหันต์ยุคใหม่ “อรหันต์iPads”
ถอด กิเลส
🌺💗
ตอนนี้ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า พุทธวจน เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ตรวจสอบจาก กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม ตรวจสอบจากการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือ สุตตมยปัญญา ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง เมื่อต้นทางถูก ปลายทางจึงเป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเอง เพราะเมื่อมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี นั่นเอง ก็คือ มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือหน้าตาของ สัทธานุสารี เมื่อสัทธานุสารีเกิดขึ้นแล้ว บุคคล 4 คู่ 8 พวกก็จะเกิดตามมานั่นเอง เพราะบุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ ตถาคตภาษิต นั่นเอง สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตถาคตภาษิต บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้วโดยสิ้นเชิง สุตตมยปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ ภาวนามยปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น ตำหนิ พุทธวจน นั่นคือ สังโยชน์ วิจิกิจฉา และตามมาด้วยสังโยชน์ มานะ สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ไม่รู้ จึงเป็นการเดินออกจากเส้นทาง อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง ถ้ากองอกุศลมูล ส่งผล ทำให้ อกุศลธรรม เกิดต่อเนื่อง ก็จะตำหนิ พุทธวจน ไม่เลิกนั่นเอง ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถทำให้ใครมามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้ทั้งหมด เพราะมีเหตุปัจจัย คือ มีสังโยชน์ วิจิกิจฉา มานะ และ กองอกุศลมูล ส่งผล นั่นเอง จึงไม่สามารถทำให้เขามามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้นั่นเอง ก็ยังคงเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเอง
สัจธรรม"ความพยายาม"คือการที่ต้องทำต้องปฏิบัติและต้องรักษาให้ดีให้สม่ำเสมอให้ถูกต้องตามครรลองครองธรรมโดยชอบธรรมอนุโมทนาสาธุสาธุ
ขอขอบคุณคุณครับที่ชอบความคิดเห็นผม"ขอให้บุญรักษานะและก็ต้องรักษาบุญด้วยนะครับ"อนุโมทนาสาธุสาธุ
มีขันต์ 5 เป็นทุกข์ การดับทุกข์ คือ อริยสัจ 4 นิพาน คือ การไม่กลับมาเกิด จึงดับทุกข์ได้จริง
โพธิปักขิยธรรม หรือ โพธิปักขิยธรรม 37 เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี 37 ประการคือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8
กิจในอริยสัจ คือสิ่งที่ต้องทำต่ออริยสัจ 4 แต่ละข้อ ได้แก่
ปริญญา - ทุกข์ ควรรู้ คือการทำความเข้าใจปัญหาหรือสภาวะที่เป็นทุกข์อย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง เป็นการเผชิญหน้ากับปัญหา
ปหานะ - สมุทัย ควรละ คือการกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นการแก้ปัญหาที่เหตุต้นตอ
สัจฉิกิริยา - นิโรธ ควรทำให้แจ้ง คือการเข้าถึงภาวะดับทุกข์ หมายถึงภาวะที่ไร้ปัญหาซึ่งเป็นจุดมุ่งหมาย
ภาวนา - มรรค ควรเจริญ คือการฝึกอบรมปฏิบัติตามทางเพื่อให้ถึงความดับแห่งทุกข์ หมายถึงวิธีการหรือทางที่จะนำไปสู่จุดหมาย
กิจทั้งสี่นี้จะต้องปฏิบัติให้ตรงกับมรรคแต่ละข้อให้ถูกต้อง การรู้จักกิจในอริยสัจนี้เรียกว่ากิจญาณ
ไตรลักษณ์
เจริญเจโตวิมุติ
เจริญปัญญาวิมุติ
เจริญเมตตาเจโตวิมุติ
เจโต การเจริญสมาบัติ 8 ฌาน 4 อรูปฌาน 4 หรือสมาธิ 9 ระดับ
อัญญาโกฑัญญะดวงตาเห็นธรรม สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
จิตเห็นการเกิดดับของขันต์ 5
เจโตวิมุติ สมาธิ 9 ระดับ
ฌาน 4
ฌาน 1 ปฐมฌาน วิตก เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (สังขาร)
ฌาน 2 ทุติยฌาน วิจารย์เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (สัญญา)
ฌาน 3 ตติยฌาน ปติ สุข เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (เวทา)
ฌาน 4 จตุทฌาน ลมหายใจดับ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป (รูป หรือ ดิน น้ำ ไฟ ลม) อุเบกขา
อรูป 4
5 อรูป 1 อากาสานัญจายตนะ กำหนดที่ว่างหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
6 อรูป 2 วิญญาณัญจายตนะ กำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ เกิด ขึ้นตั้งอยู่ดับไป
7 อรูป 3 อากิญจัญญายตนะ กำหนดสภาวไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
8 อรูป 4 เนวสัญญานาสัญญายตนะ ภาวมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
9 ดับสัญญาเวทยิตนิโรธ ดับสัญญา เวทนา ดับเกิน 4 ชั่วโมง 7 วัน
10 สำมาวิมุติ จิตหลุดพ้น ที่เจโตวิมุติ 4 ครั้ง
1 โสดาปฏิมรรค
2 สกทาคามีมรรค
3 อนาคามีมรรค
4 อรหันตมรรค
ปัญญาวิมุติ สติปฐาน 4
1 กายานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของกาย เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
2 เวทนานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของเวทนา เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
3 จิตตานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับของจิต(วิญญาณธาตุ ธาตุรู้) เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
4 ธรรมมานุปัสสนา จิตเห็นการเกิดดับครบ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
จิตหลุดพ้นที่ ปัญญาวิมุติ หลุดพ้น 4 อริยาบท ยืน เดิน นั่ง และนอน
1 โสดาปฏิผล
2 สกทาคามีผล
3 อนาคามีผล
4 อรหันตผล
หลุดพ้นครบมรรค 4 ผล 4 แล้ว
เจริญเมตตาเจโตวิมุติ เจริญถึงที่ครบทั้งสังสาราวัฏ หรือ 3 ภพถูมิ เพื่อละบาปอกุศลทั้งหมดตัดภพชาติได้ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
ถ้าต้องการดับทุกข์
ไม่ต้องเข้าญาณ สมาธิจิตสงบ นิ่ง จิตมีพลัง ก็ได้
เจริญ ปัญญา วิปัสนา เห็นการ เกิด- ดับ ของรูป-นาม(พระไตรลักษณ์) จิตก็คลายความยึดมั่น
เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เห็นชัดในเส้นทาง ปัญญาวิมุตติ สุตตมยปัญญา เห็นชัดในเส้นทาง เจโตวิมุตติ เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ นั่นเองคะ
เม
ที่มีข่าวกับสีกานี่คับ ?
เขาถอดฟ้องตั้งนานเเล้ว สรุปพระไม่ได้ผิด
โดนใส่ร้ายอะไรนี่เเหละ จำไม่ได้ ลองไปตามข่าวดู
ตอนนี้ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า พุทธวจน เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ตรวจสอบจาก กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม ตรวจสอบจากการเจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือ สุตตมยปัญญา ต้นทางเป็น สุตตะ ตถาคตภาษิต มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง เมื่อต้นทางถูก ปลายทางจึงเป็นปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ นั่นเอง เพราะเมื่อมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี นั่นเอง ก็คือ มีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต นั่นเอง คือหน้าตาของ สัทธานุสารี เมื่อสัทธานุสารีเกิดขึ้นแล้ว บุคคล 4 คู่ 8 พวกก็จะเกิดตามมานั่นเอง เพราะบุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ ตถาคตภาษิต นั่นเอง สุคตวินิโย ซึ่งมี กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท สังขตธรรม นั่นเอง คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตถาคตภาษิต บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้วโดยสิ้นเชิง สุตตมยปัญญา ฌาน 4 สัมมาทิฏฐิ ภาวนามยปัญญา ฌาน 4 สัมมาสังกัปปะ ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น ตำหนิ พุทธวจน นั่นคือ สังโยชน์ วิจิกิจฉา และตามมาด้วยสังโยชน์ มานะ สำคัญตนว่ารู้ในสิ่งที่ไม่รู้ จึงเป็นการเดินออกจากเส้นทาง อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเอง ถ้ากองอกุศลมูล ส่งผล ทำให้ อกุศลธรรม เกิดต่อเนื่อง ก็จะตำหนิ พุทธวจน ไม่เลิกนั่นเอง ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถทำให้ใครมามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้ทั้งหมด เพราะมีเหตุปัจจัย คือ มีสังโยชน์ วิจิกิจฉา มานะ และ กองอกุศลมูล ส่งผล นั่นเอง จึงไม่สามารถทำให้เขามามี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต ได้นั่นเอง ก็ยังคงเป็น ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเอง
สอบถามหน่อยครับ ตอนเด็กนั่งสมาธิไปแล้ว แยกอารมณ์ได้ตามปฐมฌาน อันนี้คือได้เข้าปฐมฌานแล้วใช่ไหมครับ ผมสังเกตุตัวเองหลังนั่งสมาธิ มือผมแบออกไม่กำ และความจำดีสุดๆ จำครูสอนเหมือนบันทึกวีดีโอ การเขียนชอล์กบนกระดานดำ จำได้กระทั่งใบไม้นอกหน้าต่างที่ไหวไปมา เป็นอยู่สามวันหลังนั่งสมาธิ สามวันนั้นนึกอะไรออกหมดเหมือนนั่งดูวีดีโอ
ตอนนั้นคือผมเข้าปฐมฌานแล้วใช่ไหมครับ