ธรรมะบนเขา: ปัญญาดับทุกข์ | พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 15 ก.พ. 2018
- ธรรมะบนเขา เรื่อง ปัญญาดับทุกข์ เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗
การสนทนาธรรมและแสดงธรรม โดย พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ทุกวัน เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน จังหวัดชลบุรี
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Website : phrasuchart.com - แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต
น้อมกราบอนุโมทนามิสาธุๆๆ
องค์ท่านพระอาจารย์ สุชาติ อภิชาโต ท่านด้วยเทอญฯ🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุๆๆจ้า
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
ปัญญาดับความคิด อ.อริยเจ้า
สาธุสาธุอนุโมทามิสาธุ
ศักร์ทาในตนเองก่อนคือการมีทมะเพื่อเป็นพุทธครับ
สาธุ...ครับ
สาธุๆ
คำตอบของคนสุดท้ายคุณเป็นโสดาบันแล้วครับหนู
ธรรมะของอาจารย์ดีมากแต่คนที่เอาธรรมะมาแทรกโฆษณา บาปหนัก
การนั่งนานๆมันเป็นมรรคคือทมะได้แค่1แต่ไม่ถึง2 การฝึกสมาธิไม่จำเป็นต้องนั่งนานๆ เดิน วิ่ง หรือทำการงานก็ได้ครับ
เ ช่ น นั้ น เ อ
🙏🙏🙏
น้อมกราบ สาธุๆๆ เจ้าค่ะ
วิธีที่จะสำเร็จได้คือการมีทมะ2คือมีการฝึกผล ตนและการข่มใจตนเอง
สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ
ปลอยวางอารมณ์ที่ยึงมั้งถือมั้งครับคือไม่คิดไม่จำไม่รับก็ไม่เกิดการรู้ในอารมณ์นั้นๆ ก็จะเกิดความสงบ วิธีที่จะช่วยได้คือการตั้งสติแล้วการทำสมาธิ หรือการดึงจิตตะกลับมาในกายหรือลมหายใจของเราครับ
พุทธคือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบกบาล ศาสนาคือ สาตาร์ในการเรียนรู้ศึกษาพิจารณาถึงคำสอน
สมาธิคือต้องทำทมะก่อน ทมะคือการฝึกผลตน และการข่มใจตน
สมาธิคือ จิตสงบ จิตตั้งมั่น ำม่ใช้ฟุ้งซ่าน หลงคิด
สัมมาสมาธิคือต้องเป็นกุศลปราศจากนิวรณผ์5(พยาบาท ฟุ้งซ่าน ลังเลสงสัย กามราคะ ง่วงซึม)
กราบ สาธุๆ ครับ
การดูจิตตะคือต้องใช้ปัญญา1 สติ1 และสมาธิ1 มันก็จะได้การตรัสรู้ถึงการเกิดดับของสิ่งต่างๆเช่นการเกิดดับของอารมณ์ รัก โลภ โกรธ ห่วง เป็นต้น
มรรคคือผลที่ได้รับครับมีองค์8เพื่อการหลุกพันออกจากทุกข์ได้
มรรคคือหนทางการดับทุกข์มี 8องค์เกิดร่วมกัน
กราบพระอาจารย์🙏
เมตตาคือความรักด้วยการป้องกันภัยอันตรายต่างๆนาๆ
กราบสาธุค่ะ
สาธุกราบนมัสการหลวงพ่อค่ะสาธุ
ราคะคือการสือพันธ์ในรูป ส่วนกามคือตัณหา
ตัณหาคือสภาวะความกระวองกระวายหรือการสัมสน
ตัณหา คือความอยาก
น้อมกราบพระอาจารย์ครับ
สาธุค่ะ
สาธุครับ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
การทำการงานชอบ1การระลึงชอบ1ความเพียนชอบ1ความตั้งใจชอบ1การมีอาชีพวะชอบ1 คือจาคะทั้ง5จะทำให้คุณไม่เกลียงคานการงานและไม่เบื่อการงานที่ทำ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาสตื
เชื่อในคำสอนครูบารอาจารย์คือพุทธเจ้าหรือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบนบาลในตัวเองคุณจะเป็นครูของผู้อื่นได้หรือเป็นพุทธได้ คือจะต้องมีลูกศัษย์หรือสาวกของตัวเองได้นั้นเอยครับ คือการเป็นศาสดานั้นเองแต่จนเชื่อในตนเองเป็นนายของตนเองเชื่อในสิ่งที่ถูกต้องในความเป็นจริง อย่างมงาย อย่าเชื่อคนอื่นให้มาก อย่าประมาณในธรรมะ
ขอนอบน้อมกราบสาธุๆเจ้าค่ะ
พิจารณาถึงคำสอน ครูอาจาย์ พ่อเเม่ บุตรบริวาร สามีภรรยา สารณา และกายมิตรใช้ไหมครับ และทำไมถึงไม่ให้คบคนพาล คนเรามี2พวกคือคนดีที่เป็นคนพาล กับคนไม่ดีหรือไม่ปกติไม่เป็นคนพาล ถ้าเป็นคนพาลจะปกติหรือไม่ปกติ (ดีหรือไม่ดี)ก็เป็นคนบาปหรือชั่วอยู่ดีครับผม
เมตตาคือการรักแบบไหมละ กรุณาคือการรักแบบปราทณาในตัวเธอตัวเขาบุคคลอื่น มุทิตาคือรักที่มีแต่ให้ได้ดี ส่วนอุเบลขาคือการรักตัวเราเอง
เมตตา ปรารถนาดีแก่ผู้อื่น ขอให้มีความสุข
กรุณา ลงมือช่วยเหลือให้พ้นทุกข์
มุธิตา ยินดีพอใจกับเขาที่เขาได้ดี
อุเบกขา ลงมือช่วยแล้วผลที่ได้เป็นอย่างไรก็ตามนั่น ปล่อยวางที่จิตใจแต่มิได้วางเฉย
ผมยังมีการเสพกามอารมณ์อยู่นะคือตัณหาในวิญญาณ4คือรับอารมณ์อยู่ คิดถึงอารมณ์อยู่ รู้อารมณ์อยู่ และจำอารมณ์อยู่ (สภาวะของกามคืออะไรเล่า)
กามคือ ความชอบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ฝึกสติ ระลึกรู้กาย ระลึกรู้เวทนา ระลึกรู้จิต ระลึกรู้ธรรม (กาย จิต)
กราบขอบพระคุณค่ะพระอาจารย์
ในขันธ์ทั้ง5มีเวทนา สัญญาน สัญขาน รูป
วิญญาณ มีดับแล้วก็เกิดไปเป็นธรรมดา( อุเบลขาคือความรักตนเอง )การไม่ยึงติดใน(รูปหรือร่างกาย)ว่าเป็นตัวเราของเรา ใน(เวทนาหรือสัมผัส)ทางตา หู จมูก ลิ้ม กาย ไม่ใช้ของตัวเราของเรา คือไม่ใช้ตัวกูของกู มันเป็นเเค่_จิตตะ_คือสภาพของ (อารมณ์หรือวิญญาน)ของตัวเราคือสุขแล้วทุกข์ที่เรารับรู้คิดและจำเอาเอง
สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยืน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่ารส สักแต่ว่าสัมผัส (เย็นร้อนอ่อนแข็งตรึงไหว) สักแต่ว่าไม่นำมายึดมั่นถือมั่นว่าชอบว่าชัง
✨🌻 สาธุ..🙏❤️
🙏🙏🙏
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏