ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ขออนุโมทนาบุญนําเด้อครับ
ต้นผ้าป่ามาตฐานโ มทนาสาธุยิ่ง
#ค่อยๆฝึกไม่ยากหรอก #บางคนขึ้นรถทัวร์เขาได้ดีมาแล้ว#เคยมีมา#นั่งรถทัวร์นี่ล่ะ#นั่งภาวนาไปเรื่อยๆ #จิตมันเบิกบานยิ้มแย้มขึ้นมาก็มี #บางคนนั่งฟังธรรม #แล้วจิตเบิกบานขึ้นมา #เข้าใจธรรมะขึ้นมา#บางคนแสดงธรรมอยู่ #แล้วจิตมันก็แจ่มแจ้งในธรรมะขึ้นมา #หลวงพ่อพุธท่านเคยเล่า #ท่านแจ้งพ้นทุกข์ขึ้นมาบนธรรมมาสน์ #เทศน์ๆ อยู่ จิตมันกำลังเทศน์ๆ #แล้วจิตมันพิจารณาธรรมะที่เทศน์อยู่ #พิจารณาธรรมะแล้วถ่ายทอดไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ#เวลาครูบาอาจารย์เทศน์ ไม่ใช่ท่องมา #แต่ธรรมะมันถ่ายทอดจากจิต ถ่ายทอด ๆ ไป #แล้วสติ สมาธิ ปัญญา สมบูรณ์ในขณะนั้น #จิตรวมลงในขณะนั้น ก็ล้างกิเลสในขณะนั้นเลย #แล้วท่านบอกว่าจิตมันถอนขึ้นมา #ใช้เวลาชั่วพริบตาเดียว จิตมันถอนกลับขึ้นมา #ท่านรีบนึกเลยว่าเมื่อกี้เทศน์ถึงอะไร แล้วก็เทศน์ต่อ #คนที่นั่งฟังไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น #มันใช้เวลาสั้นนิดเดียว ชั่ว 2 - 3 ขณะเท่านั้นเอง #แวบเดียวเท่านั้นเอง #เพราะฉะนั้นเราพยายามมีสติ รู้เนื้อรู้ตัว #ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ #เวลาไหนถ้าเรามีสติ มีสมาธิอยู่ #ก็อาจจะเกิดมรรคผลเวลานั้นได้ #ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดตอนไหน #ถ้าเราทำบ้างไม่ทำบ้างมันไม่ได้เรื่องหรอก#สมมติว่าบารมีเต็มมันก็ไม่ตัดหรอก #เพราะว่ามันหลงไปเสียก่อน อกุศลมันเกิดขึ้นแทนที่ไป #ฉะนั้นเราอย่าประมาท พยายามรู้สึกตัวไว้ตลอดเวลา #อ่านจิตอ่านใจตัวเองเรื่อย ๆ ไป #ไม่ได้หวังผลว่าจะดีเมื่อไร แต่มันมีโอกาสจะดี #แต่ถ้าจิตใจเราล่องลอย ไม่มีโอกาสได้ดีเลย"#การบรรลุมรรคผล#จิตมันจะเปลี่ยนไปแบบไม่กลับ#จะมีกระบวนการล้างร่างกายครั้งใหญ่#บางคนอาจจะถ่ายออกมามากอย่างเป็นไปไม่ได้ในภาวะปรกติ #มันล้างขันธ์ #บางคนอาจจะมีอาการเหมือนอะไรในใจมันขาด#มันขาดเหมือนกับเชือกถูกดึงให้ขาด บางคนมีอาการระเบิดอยู่ภายใน คือสิ่งที่เราอัดอั้นสะสมไว้ มันถูกทลายออกไป สะสมไว้เป็นอะไร เป็นอารมณ์ เป็นตัวตน ซึ่งมันไม่ได้มีอยู่จริงพวกนี้ เป็นแค่เราไปยึด ๆ ยึด ๆ รวม ๆ กันไว้มันเลยเป็นกลุ่มก้อนความรู้สึก แล้วสิ่งเหล่านี้มันถูกระเบิดออกไป หรือทำให้มันขาดไป พอสิ่งเหล่านี้ขาดไป หรือสลายไป มันก็เลยมีผลกระทบไปที่ ร่างกาย เพราะกายนี้เป็นไปตามอำนาจใจ ที่เรายังมีร่างกายยังอยู่ เพราะใจมันยังพะวงกับกายอยู่ ใจมันยังเสพกายอยู่ มันก็เลยมาอยู่กับกาย และเมื่อใจมันเสพกาย มันก็เอาพลังของตัวเองมาสร้างกาย มาสร้างยีนต่าง ๆ เราจะเห็นได้ว่ายีนมาจากโปรตีน 4 ตัว แต่เพราะแต่ละคนผสมกันในสัดส่วนที่ไม่เหมือนกันเลย 4 ตัวนี้ เพราะใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีปัญญา คุณธรรม ทั้งความโง่ไม่เหมือนกัน มันก็เลยมาสร้างยีนไม่เหมือนกัน ก็เลยออกมามีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกัน ดังนั้น พอเราไปปรับที่ใจ มันก็เลยสะท้อนออกมาที่กายด้วย เราจะสังเกตว่าพอเราโกรธที่ใจ ร่างกายก็มีผลกระทบด้วย พอเรามีความสุข ความใสที่ใจ กายมันก็เบา บางทีกายมันเบาจนหายไปไหนก็ไม่รู้ เราไม่รู้สึกทางกาย มันก็มีผลกระทบกับกาย ออกมาแล้วตัวมันก็เบา ดังนั้นพอเราปรับเปลี่ยนสภาวะจิตไปถึงขั้นมรรค ผล ร่างกายก็เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย ชัดเจน ชัดเจนมาก ดังนั้นตอนเข้ามรรคผล จึงเกิดปัจจเวกขณญาณรู้ชัดว่าเราดับตัวนี้ได้แล้วเช่นดับสักกายทิฏฐิได้แล้ว ดับวิจิกิจฉาได้แล้ว ความลังเลสงสัยไม่มีอีกโดยสิ้นเชิง คือใครจะมาบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง พระธรรมไร้สาระ มันไม่เข้ามาในสารบบของเราเลย มันแน่นอนขนาดนั้น หรือใครจะมาบอกว่า “เอ็งจงถอนคำพูดว่านับถือพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ถอนคำพูดจะยิงให้ตาย” มันก็ถอนไม่ได้ มันแน่นอนอย่างนั้น คือมันเป็นปรกติธรรมชาติอย่างนั้นไปแล้ว รวมทั้งศีลด้วย
แต่งตัวงามมากสวยงามคักวะ
ม่วนๆแท้ครับ
หาดูยากเอกลักษณ์ท้องถิ่นเรารุ่นแม่ครูตัวอย่างคนแรกของลูกดีๆๆ
ฟ้อนเก่งวะ
พุ่มผ้าป่าสวยงามมากอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
เพลงไพเราะมากครับ🤗
อนุโมทนาบุณด้วยนะคับสามักคีทั้งคนลำสามักคีทั้งพะป่า
ขอบคุณๆที่ยังไม่ลืมกันขอให้คุณพระรักษาFcมีความสุขร่ำรวยๆทั้งครอบครัวสาธุๆ
ขออนุโมทนาบุญนําเด้อครับ
ต้นผ้าป่ามาตฐานโ มทนาสาธุยิ่ง
#ค่อยๆฝึกไม่ยากหรอก #บางคนขึ้นรถทัวร์เขาได้ดีมาแล้ว#เคยมีมา#นั่งรถทัวร์นี่ล่ะ#นั่งภาวนาไปเรื่อยๆ #จิตมันเบิกบานยิ้มแย้มขึ้นมาก็มี #บางคนนั่งฟังธรรม #แล้วจิตเบิกบานขึ้นมา
#เข้าใจธรรมะขึ้นมา#บางคนแสดงธรรมอยู่ #แล้วจิตมันก็แจ่มแจ้งในธรรมะขึ้นมา #หลวงพ่อพุธท่านเคยเล่า #ท่านแจ้งพ้นทุกข์ขึ้นมาบนธรรมมาสน์ #เทศน์ๆ อยู่ จิตมันกำลังเทศน์ๆ #แล้วจิตมันพิจารณาธรรมะที่เทศน์อยู่ #พิจารณาธรรมะแล้วถ่ายทอดไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ#เวลาครูบาอาจารย์เทศน์ ไม่ใช่ท่องมา #แต่ธรรมะมันถ่ายทอดจากจิต ถ่ายทอด ๆ ไป #แล้วสติ สมาธิ ปัญญา สมบูรณ์ในขณะนั้น #จิตรวมลงในขณะนั้น ก็ล้างกิเลสในขณะนั้นเลย #แล้วท่านบอกว่าจิตมันถอนขึ้นมา #ใช้เวลาชั่วพริบตาเดียว จิตมันถอนกลับขึ้นมา #ท่านรีบนึกเลยว่าเมื่อกี้เทศน์ถึงอะไร แล้วก็เทศน์ต่อ #คนที่นั่งฟังไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น #มันใช้เวลาสั้นนิดเดียว ชั่ว 2 - 3 ขณะเท่านั้นเอง #แวบเดียวเท่านั้นเอง #เพราะฉะนั้นเราพยายามมีสติ รู้เนื้อรู้ตัว #ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ #เวลาไหนถ้าเรามีสติ มีสมาธิอยู่ #ก็อาจจะเกิดมรรคผลเวลานั้นได้ #ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดตอนไหน #ถ้าเราทำบ้างไม่ทำบ้างมันไม่ได้เรื่องหรอก#สมมติว่าบารมีเต็มมันก็ไม่ตัดหรอก #เพราะว่ามันหลงไปเสียก่อน อกุศลมันเกิดขึ้นแทนที่ไป #ฉะนั้นเราอย่าประมาท พยายามรู้สึกตัวไว้ตลอดเวลา #อ่านจิตอ่านใจตัวเองเรื่อย ๆ ไป #ไม่ได้หวังผลว่าจะดีเมื่อไร แต่มันมีโอกาสจะดี #แต่ถ้าจิตใจเราล่องลอย ไม่มีโอกาสได้ดีเลย"
#การบรรลุมรรคผล#จิตมันจะเปลี่ยนไปแบบไม่กลับ#จะมีกระบวนการล้างร่างกายครั้งใหญ่#บางคนอาจจะถ่ายออกมามากอย่างเป็นไปไม่ได้ในภาวะปรกติ #มันล้างขันธ์ #บางคนอาจจะมีอาการเหมือนอะไรในใจมันขาด#มันขาดเหมือนกับเชือกถูกดึงให้ขาด บางคนมีอาการระเบิดอยู่ภายใน คือสิ่งที่เราอัดอั้นสะสมไว้ มันถูกทลายออกไป สะสมไว้เป็นอะไร เป็นอารมณ์ เป็นตัวตน ซึ่งมันไม่ได้มีอยู่จริงพวกนี้ เป็นแค่เราไปยึด ๆ ยึด ๆ รวม ๆ กันไว้มันเลยเป็นกลุ่มก้อนความรู้สึก แล้วสิ่งเหล่านี้มันถูกระเบิดออกไป หรือทำให้มันขาดไป พอสิ่งเหล่านี้ขาดไป หรือสลายไป มันก็เลยมีผลกระทบไปที่ ร่างกาย เพราะกายนี้เป็นไปตามอำนาจใจ ที่เรายังมีร่างกายยังอยู่ เพราะใจมันยังพะวงกับกายอยู่ ใจมันยังเสพกายอยู่ มันก็เลยมาอยู่กับกาย และเมื่อใจมันเสพกาย มันก็เอาพลังของตัวเองมาสร้างกาย มาสร้างยีนต่าง ๆ เราจะเห็นได้ว่ายีนมาจากโปรตีน 4 ตัว แต่เพราะแต่ละคนผสมกันในสัดส่วนที่ไม่เหมือนกันเลย 4 ตัวนี้ เพราะใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีปัญญา คุณธรรม ทั้งความโง่ไม่เหมือนกัน มันก็เลยมาสร้างยีนไม่เหมือนกัน ก็เลยออกมามีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกัน ดังนั้น พอเราไปปรับที่ใจ มันก็เลยสะท้อนออกมาที่กายด้วย เราจะสังเกตว่าพอเราโกรธที่ใจ ร่างกายก็มีผลกระทบด้วย พอเรามีความสุข ความใสที่ใจ กายมันก็เบา บางทีกายมันเบาจนหายไปไหนก็ไม่รู้ เราไม่รู้สึกทางกาย มันก็มีผลกระทบกับกาย ออกมาแล้วตัวมันก็เบา ดังนั้นพอเราปรับเปลี่ยนสภาวะจิตไปถึงขั้นมรรค ผล ร่างกายก็เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย ชัดเจน ชัดเจนมาก
ดังนั้นตอนเข้ามรรคผล จึงเกิดปัจจเวกขณญาณรู้ชัดว่าเราดับตัวนี้ได้แล้วเช่นดับสักกายทิฏฐิได้แล้ว ดับวิจิกิจฉาได้แล้ว ความลังเลสงสัยไม่มีอีกโดยสิ้นเชิง คือใครจะมาบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง พระธรรมไร้สาระ มันไม่เข้ามาในสารบบของเราเลย มันแน่นอนขนาดนั้น หรือใครจะมาบอกว่า “เอ็งจงถอนคำพูดว่านับถือพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ถอนคำพูดจะยิงให้ตาย” มันก็ถอนไม่ได้ มันแน่นอนอย่างนั้น คือมันเป็นปรกติธรรมชาติอย่างนั้นไปแล้ว รวมทั้งศีลด้วย
แต่งตัวงามมากสวยงามคักวะ
ม่วนๆแท้ครับ
หาดูยากเอกลักษณ์ท้องถิ่นเรารุ่นแม่ครูตัวอย่างคนแรกของลูกดีๆๆ
ฟ้อนเก่งวะ
พุ่มผ้าป่าสวยงามมากอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
เพลงไพเราะมากครับ🤗
อนุโมทนาบุณด้วยนะคับสามักคีทั้งคนลำสามักคีทั้งพะป่า
ขอบคุณๆที่ยังไม่ลืมกันขอให้คุณพระรักษาFcมีความสุขร่ำรวยๆทั้งครอบครัวสาธุๆ