ปาฐกถาพิเศษ "ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง: หลักไทย หลักรัฐชาติไทย" : รศ.ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 ส.ค. 2016
- วิชา มธ. 111 โคงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ร่วมกับมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์
กำหนดจัดเสวนาเรื่อง
"ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง: หลักไทย หลักรัฐชาติไทย (?)"
ปาฐกถาพิเศษโดย
รศ.ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์
เสวนาโดย
ศ.(พิเศษ)ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ผศ.ดร.กังวล คัชชิมา
วริศรา ตั้งค้าวาณิช
ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ
ดำเนินรายการโดย ผศ.กาญจนี ละอองศรี
เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2559 ณ ห้องริมน้ำ 402 - 403 ชั้น 4 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
อย่าเชื่อประวัติศาสตร์ทั้งหมด เปิดหูเปิดตาบ้างค่ะ
นาที 9:00 ที่ว่า 1 วา = 2 เมตร เอาไปเทียบสมัยสุโขทัยไม่ได้ครับ
ระบบเมตริก เริ่มใช้หลังปฏิวัติฝรั่งเศส ประมาณ ร.1 รัตนโกสินทร์
พรบ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2466 เพิ่งกำหนดให้ 1 วา = 2 เมตร
ถ้าจะเทียบระบบเมตริก จารึกต้องสร้างปลายสมัย ร.6 ไปเลย
1 วาเดิมๆ คือกางแขนวัดระยะระหว่างปลายนิ้วกลางทั้ง 2 ข้าง
ถ้าสูง 175cm ปกติก็วัดได้แค่ประมาณ 180cm ไม่ถึง 2 เมตร
ถ้าหารกำแพงชั้นใน 6110เมตร ด้วย 3400วา จะได้ 1.797cm
ใกล้เคียงกับความในจารึกพอดี โดยที่ 1 ว่า = 1.8 เมตร
หลักฐานก่อนหน้านั้น ระบุเทียบระยะ 1 วา ไม่เท่ากัน...
- บันทึกลาลูแบร์ สมัยพระนารายณ์ 1 วา ประมาณ 1.9 เมตร
- สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ค.ศ.1833 สมัย ร.3
ระบุ 1 วา = 78 นิ้ว ในระบบอังกฤษ = 1.981 เมตร
- บันทึกสังฆราชปาลกัว สมัย ร.4 ระบุ วา = fathom
หรือเท่ากับ 1.829 เมตร
- สนธิสัญญาเบาว์ริง สมัย ร.4 เทียบ 1 วา ได้แค่ 1.6 เมตร
นาที 16:41 ที่ว่า ร.4 เปลี่ยนชื่อพ่อขุนศรีฯ
ในสำเนาที่คัดลอกให้ เซอร์จอห์น เบาริ่ง
ถ้าดู จารึกวัดศรีชุม ที่ไม่มีใครบอกว่าปลอม
สลักชื่อพ่อขุนศรีฯ "สรีอีนทรบดินทราทิตย"
ใช้ทั้งสระอี และสระอิ ผสมกันในคำเดียว
ฟังแล้วเหมือน อ.พิริยะ พยายามชี้ว่า ร.4
แต่งชื่อพ่อขุนศรีฯ ขึ้นมาเองโดยใช้ สระอิ
แล้วสลักผิดเป็น สระอี (จารึกพ่อขุนรามฯ
มีสลักแบบนี้เหมือนกัน 2 แห่ง)
พิจารณาจากจารึกวัดศรีชุม จึงกล่าวหา
ไม่ได้ว่า ร.4 คิดชื่อพ่อขุนศรีฯ ขึ้นมาเอง
ที่สะกดชื่อไม่ตรงกันก็มีตั้งแต่ยุคสุโขทัย
ช่วยสรุปตรงๆว่าประวัติศาสตร์ไทยนี่ ดัดแปลงสร้างมาหรือว่าทอแหร ว่างั้นไหมครับ?
สร้างในสมัยใดกันแน่ครับ
สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์นั่นแหละ หลักฐานเยอะแยะรัดกุมขนาดนี้ อยากจะโกหกคนไทยกับชาวโลกก็เชิญ ยุคนี้คือยุคข้อมูลระบบดิจิตอลทั่วโลก ไม่ใช่ระบบสั่นกระดิ่งครับ คิดดูทุกวันนี้เวลาคนไถนาไม่มีใครอยากเดินตามหลังควายเลยเพราะมันน่ารำคาญใครๆก็นั่งรถไถเกือบหมดแหละ เสร็จเร็วแล้วควายก็ไม่ต้องทำงานหนักด้วยสงสารมัน
หลักฐานมีเยอะขนาดนี้แต่ก็ยังมีคนทำตัวเองเหมือนคนหูหนวกตาบอดและเป็นใบ้นิดนึง
มันก็คล้ายกับเหตุการณ์ที่คนโคราชออกมาประท้วงด่าสาปแช่งชักหักกระดูกไล่คุณครู สายพิณ แก้วงามประเสริฐออกไปจากนครราชสีมาเมื่อหลายสิบปีก่อนนั่นแหละ
คนสุโขทัยก็ทำคล้ายกันแต่ที่ท่าน อาจารย์ พิริยะ ไกรฤกษ์โดนเพิ่มก็คือฐานหมิ่นพ่อขุนรามฯด้วย
ไม่รู้ว่าจะโกหกไปทำห่าอะไรทำไม อ้างนักอ้างหนาเหลือเกินว่าคนไทยเป็นคนพุทธแต่ก็ยังโกหกบิดเบือนความจริง
ได้ยินคำนึงที่อาจารย์อ่านว่า “ บ่ “ คำนี้มันเป็นภาษาลาวนี่นา พ่อขุนรามฯมีอะไรเกี่ยวกับลาวรึป่าว
บ่ ลาวใช้ภาษาจีนตัวนี้ 無 บ่อ / ไม่ ไทยใช้ตัวนี้ 沒 เหมย = มาจากภาษาจีนทั้งคู่
ศิลาจารึกหลักที่1ไช้เป็นรหัสลายแทง ร.6ไช้แว่นขยายค้นหาหลักฐาน
หลักศิลาจารึก ฎีกา เกี่ยวกับ วันเดือน ปี ที่ พ่อขุนรามจะกลับมาเกิดอีก คือ ปี กุญชร (ปีช้าง ใน แบบล้านนา) แต่เขาเปลี่ยนมาเป็น ปีกุน คือ ปีกุนะ หมายถึง
กู + นา กูนี่เอง เป็น กุน คือหมูมาเกิด ให้เชือดพระองค์ทันที🔒🔑🥺🥺🥺
นาที 19:49 ที่ว่า ภิกษุกรมพระยาปวเรศฯ
นิพนธ์ อภินิหารการประจักษ์ โดยไม่กล่าว
ถึงศิลาจารึกพ่อขุนรามฯเลย ไม่จริงนะครับ
มีกล่าวถึง จารึกพ่อขุนรามฯ ยาวหลายหน้า
ม.มหามงกุฏ มีพิมพ์เผยแพร่ เมื่อปี 2565
ทั้งสแกนต้นฉบับและคำอ่าน หาได้ในเน็ต
สแกนต้นฉบับข้อความในคลิปอยู่หน้า 52-53
หน้า 52 มีภาพสแกนต้นฉบับจากสมุดไทย
หน้า 53 มีคำอ่านภาพสแกนในหน้า 53
ส่วนที่กล่าวถึง จารึกพ่อขุนรามฯ เริ่มหน้า 152
หน้า 152 มีภาพสแกนต้นฉบับจากสมุดไทย
หน้า 153 มีคำอ่านภาพสแกนในหน้า 152
" ๏ ทีนี้จะว่าด้วยความหนังสือไทยในเสาศิลาต่อไป
แท่นศิลาที่ว่ามาในข้างต้นนั้น มีความระบุในเสาศิลา
ที่มีมาแต่เมืองสุโขทัย " ... " เจ้าเมืองชื่อขุนรามคำแหง
เป็นผู้ตั้งลายสือไทยขึ้น จึ่งได้จดหมายไว้ในเสาศิลาดังนี้ "
แล้วมีกล่าวถึงข้อความใน จารึกพ่อขุนรามฯ
ต่อเนื่องอีกหลายหน้า ตามที่มีสแกนต้นฉบับ
อ้างไม่ได้เลยว่า กรมพระยาปวเรศฯ ไม่รู้จัก
จารึกพ่อขุนรามฯ แต่กลับกันคือ รู้จักดีมากๆ
ที่สำคัญ ดร.พิริยะ เคยอภิปรายเมื่อ พ.ศ.2532
ที่ห้องประชุมธนาคารกรุงเทพ พูดชัดเจนว่า
กรมพระยาปวเรศฯ กล่าวถึงจารึกพ่อขุนรามฯ
ไว้แล้วในตอนท้ายของ อภินิหารการประจักษ์
ผ่านไป 27ปี ในคลิปนี้ ดร.พิริยะ กลับบอกว่า
อภินิหารการประจักษ์ไม่กล่าวถึงจารึกพ่อขุนรามฯ
เอาไว้เลย เป็นนัยว่ากรมพระยาปวเรศฯ ไม่รู้จัก
จารึกพ่อขุนรามฯ จนลูกศิษย์ไปเขียนบทความ
ลงเว็บว่าลูกศิษย์ ร.4 ไม่รู้จักจารึกพ่อขุนรามฯ
คนเคยผ่านสงครามเสียบ้านเสียเมืองบ้านแตกสาแหรกขาดมาก็หวังจะสร้างชาติให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง..คนที่สงบสุขนานๆๆก็หลงลืมความทุกข์ขุดค้นหาความจริงความเท็จ...ข้อสำคัญอริราชศัตรูที่จ้องหาจุดออ่นถ้ามีก็น่ากลัวครับ..บางที่คนเราควรได้นับประสบการณ์จึงจะเข้าถึงความจริงครับคนเรานี่มันมีอยู่จริงในความเป็นปกติชนครับบางทีก็แลัวแลัวบุญวาสนาครับ
หลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง นี้มี นัยยะไว้
หลายอย่างครับ เกี่ยวกับ วันเดือน ปีเกิดที่พระองค์ทรงกลับมาประสูต่รใหม่ เพื่อมาไขปัญหา ให้ฟังอีก
👍👍
อักษรไทยประดิษฐ์ครั้งแรกที่หริภุชัย ต่อมาพญาราม(พ่อขุนราม)ประดิษฐ์สานต่อจนครบ44ตัวอักษร และประดิษฐ์อักษรลาว
ไปดูหลักฐานใด้ที่เฟสบุ๊ค พิมพ์(หลักฐานการประดิษฐ์อักษรไทยกลาง)
นาที 10:42 ที่ว่า จารึกพ่อขุนรามฯ ลอกข้อความ
มาจากจารึกอื่น 6 หลัก ความจริงในนั้นมี 5 หลัก
ที่พบหลังสมัย ร.4 (ประสูติ 2347 - สวรรคต 2411)
แล้วที่อ้างลอยๆ ว่า ร.4 ค้นพบครบทั้ง 6 หลักก่อน
สามารถอ่านข้อความและลอกมาแต่งจารึกหลักใหม่
เอาจารึกเดิมกระจายซ่อนในที่ต่างๆ จนค้นพบทีหลัง
ก็ไม่สมเหตุผล แค่เอา 6 หลักวางโชว์ก็เต็มห้องแล้ว
ได้ภาพใหญ่ประวัติศาสตร์โบราณเต็มๆ ไม่ต้องเสี่ยง
ปลอมจารึก การยกประวัติศาสตร์ไทยแค่หลักร้อยปี
ก็ป้องกันฝรั่งไม่ได้ จีนเก่าหลายพันปียังโดนบุกเห็นๆ
ขณะที่อินเดียก็โดนฝรั่งทำสงครามมาแล้วร่วมร้อยปี
หลักที่ 2 จารึกวัดศรีชุม.........................พบปี 2430
หลักที่ 3 จารึกนครชุม ..........................พบปี 2464
หลักที่ 4 จารึกวัดป่ามะม่วง ภาษาเขมร..พบปี 2376
หลักที่ 5 จารึกวัดป่ามะม่วง ภาษาไทย...พบปี 2448
หลักที่ 8 จารึกวัดเขาสุมนกูฏ.................พบปี 2451
หลักที่ 9 จารึกวัดป่าแดง แผ่นที่ 1.........พบปี 2466
เขาตรวจทางวิทยาศาตร์แล้วกลับไปนอนพักผ่อนมากคับจะได้ไม่คิดมากกก
จารึกลายสือไท ถูกสร้างในยุคหลังครับ
ผลวิจัยยังสรุปไม่ได้ครับ
เค้าใช้วิธีเปรียบเทียบแร่ธาตุและการผุกร่อนของจารึกที่ใช้หินชนิดเดียวกันที่รู้แน่ๆว่าทำในสมัยสุโขทัยกับศิลาจารึกหลักที่1
แต่ตัวแปรควบคุมมันคุมไม่ได้ จารึกแต่ละหลักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน มันมีทั้งจมใต้ดิน ตั้งกลางแจ้ง อยู่ในร่ม แถมดันไม่มีศิลาจารึกที่ใช้หินชนิดเดียวกันในช่วงสมัยร.4มาเปรียบเทียบร่วมกันด้วย
เลยสรุปผลได้แค่ว่า “มีโอกาส”สร้างในสมัยสุโขทัยจริง (บวกลบกี่ปีก็ไม่รู้ จะ5ปี 10ปี 100ปี บอกไม่ได้) และที่สำคัญคือไม่สามารถล้างสมมุติฐานที่ว่าสร้างสมัยร.4ได้
เพราะฉะนั้น กระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ยังมีน้ำหนักไม่พอครับ
การดูอีกแบบคือการดูจากคำที่ใช้ครับ ถ้าเป็นคำไทยโบราณ ที่มีบันทึกในยุคนั้นก็ย่อมเชื่อได้ว่าเกิดในยุคนั้น เพราะการใช้คำ การแกะสลักตัวหนังสือ ในรุ่นอายุเดียวกันย่อมมีความเหมือนกันมากกว่าครับ
หนามยอกต้องเอาหนามบ่งครับ ถ้าจะให้คนเลิกเชื่อถือ ต้องหาสิ่งที่น่าเชื่อถือยิ่งกว่ามากลบ รอแปปครับ ผมกำลังขุดหลังบ้านอยู่ อาจเจอแผ่นหินใหญ่ๆเก่าๆสักอัน พอได้แล้ว เดี๋ยวค่อยมาช่วยกันแต่งช่วยกันสลัก แค่ปลอมตัวเป็นคนโบราณ ไม่น่ายากหรอก ตัวอย่างมีให้ลอกเยอะแยะ ยิ่งถ้าเราสลักข้อความที่เนื้อหาสอดคล้องกับอุดมคติของคนส่วนใหญ่ได้ ก็น่าจะกลบความไม่เนียนได้อยู่
สมัยพ่อขุนรามมีพยัญชนะครบ44ตัว จริงครับ พ่อขุนรามประดิษฐ์อักษรไทยกลางแบบปัจจุบัน สานต่อต้นฉบับของกษัตริย์จามเทวี หลักฐานอยู่ที่จารึกหลักพระร่วง(บันทึกลับพญาราม) พบจากการถอดรหัสร.4และร.6
กำปูเจีย บ้านข้าพเจ้ามีปราสาทราชวังมานับพันปีแต่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษนับว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่หรือไร ขอรับฯ
ไม่หรอกบ้านเมืองท่าน มีความศิวิไลซ์เซชั่นมาก สมัยกาลต่อมาบ้านเมืองท่านเสื่อมอำนาจลง จะเหตุผลไดก็เเล้วเเต่คนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันมักจะดูถูกเพราะว่าเป็นเขมร มีป่าอยู่รอบเมืองซึ่งในสมัยอดีตบ้านเมืองพระนครหลวงมีความศิวิไลซ์ที่สุดบ้านเมืองอื่นก็อยากมาเกี่ยวดองด้วย ยุคหัวเลี้ยวหัวต่อช่วงชัยวรมันที่7ก็เจริญอยู่ไม่น้อยหลัง จากชัยวรมันที่9ลงมาก็ลดอำนาจลงบ้านเมืองอื่นก็มาตีเอาจนเป็นยุคมืด
สมัยนครวัดรุ่งเรือง โจว ต้า กวน นักเดินทางชาวจีนเคยผ่านเข้าไปและจดบันทึกไว้ บรรยายถึงสิ่งที่เขาได้พบเห็นในเวลานั้น นักวิชาการตะวันตกนำมาตีความได้ว่า ในยุคนั้น นครวัดมีประชากรอยู่ประมาณ 20 ล้านคน ในยุคนั้นเมืองที่มีประชากรมากมายขนาดนี้ได้ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากที่สุดในโลกในยุคนั้น ในขณะที่ลอนดอนในยุคเดียวกันมีประชากรเพียง 2 ล้านคน
สมัยนั้นเค้าเรียกไทยแล้วเหรอ..ต้องบอกว่าหลักสยามสิครับ...คำว่าไทยพึ่งมาเปลี่ยน2475..นี้แหละประวัติศาสตร์ไทยถึงเปลี่ยนไปมากมายไม่ค่อยตรงตามความเป็นจิง..
สยามเป็นคำที่ต่างชาติเรียกไทยมาแต่โบราณ โดยเบื้องต้นน่าจะเป็นจีน เรียกว่า เสียนหลอ และไทยใช้คำว่า สยามเป็นทางการสมัย ร.4
@@wwong5909 เเล้วฟูนัน ปกครองเเถวนั้น เค้าเรียกอะไร
@@damanam1701
โจว ต้ากวาน เข้ามาประมาณ
พ.ศ.1840+ จึงไม่ทันยุคฟูนันครับ
คำว่าฟูนันเป็นคำที่มาจาก
คำในเหรียญที่ขุดพบในพื้นที่
อาจหลงยุคหรือหลงตัวตนก็ได้ครับ มีตี๋ตว้าได้นะ
คนไทยภาคกลางไม่เคยเรียกตัวเองว่าสยาม เรียกตัวเองว่าไท
อะรัยกันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยยิ่งกว่าเปิดหูเปิดตาเราตกจัยมากๆเป็นไปได้หรือนี่
พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ครับ เพื่อให้ประเทศชาติรอดพ้นจากการล่าอาณานิคมของฝรั่ง
เท่ากับยอมรับนะครับว่า ศิลาจารึก ไม่มีจริง
ดนตรีเปิดหัวบ้าๆ ยังกับจะเปิดรายการโคโยตี้โชว์
วิทยาศาสตร์ก็เชื่อไม่ได้😁😁✋
อยากรู้ว่าจะมีใครเก่งปลอมอักษรโบราณได้ขนาดนั้นโคตรเก่งเลยเนาะ555
ถ้าเขียนอักษรขอมเป็น อักษรอื่นก็ง่ายๆ ครับ
@@whitehole1581 แล้ววรรณยุกต์การเรียงประโยคอีกนะครับแตกต่างจากขอมเยอะอยู่นะ และทำไมไม่ตรวจคาบอร์นเลยให้แน่ใจว่าทำใหม่หรือเก่า
นักวิชาการบางท่านต้องการให้ตัวเองโด่งดังด้วยความคิดต่างจากคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกหมด การศึกษาโดยนำความคิดส่วนตัวมาเป็นเครื่องชี้นำย่อมจะมำให้โอนเอียงไปในทางที่ตัวเองคิด
@@made-in-thailand99 ตรวจอายุไม่ได้ครับ เพราะว่าจะได้อายุของหิน ซึ่งก็เป็นล้านปี
@@wwong5909 ถ้านักวิชาการยังไม่ถูกทั้งหมด
ประวัติศาสตร์ต้นทางที่บอกต่อๆกันมายิ่งหาความถูกไม่เจอยิ่งกว่าคับ
เอาไปเทียบดูกับจารึกสมัยสุโขทัยด้วยกันหน่อยนะ ทางภาษาศาสตร์เขาก็ทำกัน ใครจะมาปลอม
เพราะเทียบไงครับถึงรู้ ว่าหลักที่1นี้แตกต่างจากหลักอื่น
@@YingyongStudio101 การบันทึกทำต่างเวลากัน เนื้อหาจะต่างกัน หลักแรกเหมือนหลักลองผิดลองถูก คงต้องการบันทึกเรื่องตัวเอง
สรุปได้อย่างนี้ หลักศิลาจารึกไม่ไม่ใช่ของปลอม
แต่รัชกาลที่เป็นคนทำขึ้นเองแล้วกำหนดว่าเป็นหลักศิลาจารึกสมัยสุโขทัยประมาณนี้คับ
ทำคลิปออกมาคิดว่าคนไทย เยาวชน,นักศึกษา จะเชื่อหรือ ทุกวันนี้นักวิชาการไทย,นักประวัติศาสตร์ไทย จากกรมศิลป์ อาจารย์ตามมหาลัย เชื่อถือไม่ได้สักคน วันดีคืนดี ออกมาพูดมั่วๆ มาตีกันเองก็มี อยากรู้ความจริงประวัติศาสตร์ต้องไปถามหาดูจากจีน,ญี่ปุ่น,ฝรั่ง ถ้าน่าเชื่อจริง ดีจริงแม่นจริงป่านนี้เด็กและเยาวชนไทย รู้เรื่องประวัติศาสตร์มากกว่านี้แล้ว