GHOST guru EP222 - มโนมยิทธิ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ย. 2021
- #มโนมยิทธิ คืออะไร ลพ.ฤาษีฯได้วิชานี้มาจากไหน วิชานี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง เราสามารถเห็นนรกสวรรค์ได้ทุกคนไหม หากอยากฝึกมโนมยิทธิต้องทำอย่างไร เราสามารถฝึกมโนมยิทธิด้วยตนเองได้ไหม เราจะเช็คได้ยังไงว่าเราอุปาทานไปเองหรือเห็นจริง นอกจากในสายวัดท่าซุงแล้ว สายอื่นมีการฝึกมโนมยิทธิหรือไม่ และอีกสารพัดคำถามเรื่องมโนมยิทธิ คืนนี้มีคำตอบแน่นอน
รายการ GHOST GURU รู้เรื่องผี แล้วคุณจะไม่กลัวผี #GGR #Ghostguru
เมื่อสองคนดนตรี ต้า PARADOX และ เอส KLUAYTHAI ไขปัญหาคาใจเกี่ยวกับเรื่องผีๆ กับ อาจารย์รอบทิศ ดร.ทางพุทธศาสนารุ่นใหม่ และแฟนพันธุ์แท้พระเกจิคณาจารย์ ผู้ออกหาความรู้เรื่องโลกวิญญาณกับพระเกจิอาจารย์ต่างๆทั่วไทยมากว่า 20 ปี ในรายการ GHOST GURU รู้เรื่องผี แล้วคุณจะไม่กลัวผี
ออนแอร์ทุกคืนวันศุกร์ เวลา 2 ทุ่มครึ่งโดยประมาณ ทางช่อง GHOST GURU
ติชมรายการได้ที่
/ ghostguruthailand - บันเทิง
ฝึกมองพระพุทธรูปครับ เป็นวิธีที่ง่ายและกำไรที่สุด ได้ทั้งพุทธานุสติ และกสิณ เมื่อฝึกเพ่งมองพระพุทธรูปจนติดตาหลับตาก็เห็นลืมตาก็เห็นให้ชำนาญสามารถขยายให้ใหญ่ให้เล็กได้ตามจินตนาการเมื่อทำคล่องแล้ว อยากรู้สิ่งใดอยากเห็นสิ่งใดให้อธิฐานถาม ลองพิสูจน์ดูครับเป็นความจริงหรือไม่
น่าสนใจมากค่ะ
มโนยิทธิบางคนฝึกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ บางคนหลายวัน บางคนก็เป็นเดือน บางคนก็ไม่ได้เลย อยู่ที่ความตั้งใจและบุญเก่าว่าเคยฝึกมาก่อนหรือป่าว ใครอยากรู้ต้องไปพิสูจเอาเอง คนจริงต้องพิสูจเอง
อธิบายถูกต้อง ขอบคุณมากครับที่ช่วยเผยแพร่คำสอนจะนำพาคนให้ยึดมั่นในพระพุทธศาสนาได้มากขึ้นครับ เพราะการเท่าแต่พูดธรรมมะให้คนเชื่อและปฏิบัติตามนั้นเป็นสิ่งที่ยาก ยิ่งผู้สอนมีตำหนิเสียเอง ความเชื่อถือก็จะลดลง มโนยิทธิคือการพิสูจน์ จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นก็อยู่กับปัญญาของบุคคลนั้นครับ
ขอบคุณมากครับ😊
ติดตามตลอดครับ
ตามตลอดค่า
สุดยอดครับ
หูยยยยย อยากฝึกเลยครับ
สวัสดีครับติดตามอาจารครับ
ไม่รุ้นะแต่พ่อผมฝึกตาม หลวงพ่อฤาษี พรหมวิหาร4 ยืนกลางแดดร้อนร้อน พ่อบอก เออวะหลวงพ่อฤาษีท่าจะของจริง ยืนกลางแดดร้อนร้อน รุ้สึกใจเยนชุมชำ่มีความสุขมาก อย่างกับนำ้เยน ผิวไม่ร้อนเลย เยนตรงหน้าอกวาปวาป ตัวผมเองก้ทำไมถึง เพราะสมาธิไม่ได้ ได้แค่ขนลุก นิดหน่อย แต่มีความสุขใจนิดนิด ตอนนี้พ่อผมบวชพระไปแล้ว อยุ่ทางโลกไม่ไหว เน้นสงบ เพราะฌาณ มันเสื่อมได้ สงบ ชัวร์กว่า ทิ้งสมบัติไว้ให้เยอะแยะ
โมทนาสาธุๆๆครับ
สาธุๆๆๆ
ศัพท์ที่ถูกต้องดั้งเดิมตามพระไตรปิฎก ก็คือ มโนยิทธิ(ฤทธิ์ทางใจ)
ส่วน มโนมยิทธิ (ฤทธิ์อันสำเร็จแล้วด้วยใจ). เป็นการมาเพิ่ม มย ศัพท์เข้าไปในภายหลัง
ความหมายเดียวกันครับรวมความเเล้ว
เราฝึกกันที่จิตในด้านวิชาสามเเละอภิญญาอ่อนๆ
"นิสสังสะยัง โส โข โน ภะคะวา อัฏฐะวิชชา สัมปันโน ฉัตติงสะโกฏิสะหัสสะมะหาวะชิระวิปัสสะนา ญาณะวิชชาสัมปันโน
จะตุวีสะติโกฏิสะตะสะหัสสะมาปัตติปุเรจาริกะมะหาวะชิระวิปัสสะนา ญาณะวิชชา สัมปันโน มะโนมะยิทธิญาณะวิชชาสัมปันโน
อิทธิวิธิ ญาณะวิชชาสัมปันโน ทิพพะโสตะญาณะวิชชาสัมปันโน เจโตปะริยะญาณะวิชชาสัมปันโน ปุพเพนิวาสานุสสะติ
ญาณะวิชชาสัมปันโน ทิพพะจักขุญาณะวิชชาสัมปันโน อาสะวักขะยะญาณะวิชชาสัมปันโน" ถ้าตามบทสวดมหาพุทธาภิเษกเเล้วมโนมยิทธิก็ถูกเเล้วนะครับ
@@petch_slpkung4392 ผมก็เคย อ่านเจอ ใน บทสวด อาการวัตตาสูตร เช่นกันครับ ใน บทที่กล่าวว่า วิชาวรรคโคอัทโม
ท่านก็ว่า อิติปิโส ภะคะวา มโนมยิทธิวิชา จะระณะสัมปันโน ครับ เป็นวิชา ของพระพุทธเจ้า
เดิมยุคแรกหลวงพ่อฤาษีสอนอภิญญาใหญ่แต่มีไม่กี่คนที่ทำได้ ถ้าใครทันหลวงพ่อสมัยนั้นจะเจอเด็กที่ได้อภิญญาแล้วหายตัวได้ต่อหน้าคนที่ฝึกด้วยกันเลย แสบๆทั้งนั้น ส่วนใหญ่ที่ได้จะเป็นเด็ก ภายหลังจึงเปลี่ยนมาสอนทิพจักษุญาณกับมโนยิทธิคนทั่วไปถึงฝึกกันได้ แม้แต่มหาสติปัฏฐาน4หลวงพ่อก็สอนได้
หายจัวจริงเหรอครับ พอมีข้อมูลอ้างอิงไหม จะลองหาอ่านดู
@@Cheewit29
ไม่มีภาพ มีแต่ข้อมูลถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ในหนังสือลูกศิษย์บันทึกแล้วก็พยานที่อยู่กันเต็มวัด แต่ถ้าเป็นข้อมูลเด็กๆในยุคนั้นบางคนยังมีอยู่ตามหนังสือธัมวิโมกข์ฉบับเก่าๆ แต่สมัยนี้ทางวัดน่าจะปกปิดชื่อเพราะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล
มันเปนความรุ้สึกทางใจ ไม่ใช่ตาเหน หรือนึกเอา ถ้านึกเอาจะไปฝึกกันทำไม ถ้าไปถามคนที่ฝึกได้เค้าจะบอกว่ามันรุ้สึกเหมือนอะไรก้ว่าไป ที่แปลกคือมันแม่น แล้วแม่นบ่อย คนที่ไม่เคยฝึกจะไม่เข้าใจ หาว่าคิดเอง มั่ว โกหก ก้จะไปทะเลาะกับคนที่ฝึก เพราะคนที่ฝึกมันสัมผัสมาแล้ว
ช่าย ของเก่าไม่มีฝึกยาก เล่าไปก็หาว่าบ้า ไปเที่ยวนรก สวรรค์ได้ก็หาว่าฝัน เพี้ยน ทั้งๆที ก่อนจะไปได้ เหมือน คนเส้นเลือดสมองแตกตาย ชาไปทั้งตัว แล้ว ก็เหาะไปท่องภพอื่นได้
ขี้เกียจเล่าขี้เกียจบอกแล้ว เบื่อครับ
@@0.5g52 ผมเคยให้อาหารนกตอนนั่งชายทะเล จิตเพลินมาก เพราะอากาศเยนดี ผ่อนคลาย จิตมีความสุขมาก สมาธิมาจับเพลินไปกับสมาธิ ลืมตาด้วยไม่ได้หลับตา ไปเล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกพี่ท่าจะบ้า ไปเล่าพระฟังพระบอก เข้าอุปจารสมาธิแล้วโดยไม่รุ้ตัว มันอยุ่ที่คนฝึกถึงกับฝึกไม่ถึง
@@marenadee226 ช่าย สมาธิไม่จำเป็นต้องหลับ ตา อุปจาระก็เห็น อทิศมานะกายได้แล้ว อาการก็คล้ายๆคนกึ่งหลับกึ่งตื่นนี้แหละครับ อาการเคลิ้มๆ จิตว่าง จาก นิวณ พอดี เห็นผี เทวดา ก็อาการแบบนี้แหละครับ เดี๋ยวพอได้ฌาน3-4เดี๋ยวคนทำถึงก็จะรู้เองครับ รักษษศีลให้บริสุทธิ ฝึกภาวนา ทุกขณะจิต ทั้งวันได้ยิ่งดี นั่ง นอน ยืน เดิน ฝึกได้ทุกท่า ไม่จำเป็นต้อง นั่งขัดสมาธิหลับตา ผู้ทรงฌาน ต้อง ทำให้คล่อง ได้ทุกสถานการร์ เอาไว้ใช้ตอนใกล้ตาย มีผลมาก นี้ประสบการส่วนตัวมาแล้ว ตอน ตาย พระพุทธเจ้า จะลอยมาช่วยเราไว้ครับ
สนใจสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสริมเรื่องการฝึกครับ ใน กทม. จะมี บ้านสายลม เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของวัดท่าซุงครับ ท่านเจ้าอาวาสจะมารับสังฆทานและมีการฝึกมโนมยิทธอช่วงต้นเดือน ทำมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อครับ
ฝึกบ่อย ๆ ก็ดีครับ แต่ต้องยอมรับว่า คนที่ไปมีหลายประเภท คนอวดเก่งอวดดีก็มีเยอะ (ไม่ใช่ครูฝึกนะครับ แต่เป็น จนท.) บางทีเจอพูดไม่ดี อาจทำให้เราเสียกุศลจิตได้ แต่ก็ถือซะว่าเป็นบททดสอบจิตใจเราครับ
ไปฝึกพอให้ได้หลักการ ก็นำอารมณ์กลับมาปฏิบัติเองที่บ้านต่อได้ครับ
ส่วนเรื่องที่คุณต้าบอก ทำเองได้ไหม จะมีคู่มือ มโนมยิทธิ นะครับ รวบรวมโดย คุณสุนิสา วงษ์ราม ของสายวัดท่าซุงครับ
ขอให้มีคนติดตาม และดูช่อง เยอะนะคะ
👍🏾👍🏾👍🏾👍🏾
เคยลองไปเรียน ก็เหมือนๆสมาธิของตะวันตกเลย
มโนยิทธิเป็นรูปแบบการฝึกสมาธิที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วครับ ตัวอย่างก็มีคือพระจูฬปันถกเถระ ผู้เลิศด้านมโนมยิทธิ วิชาพวกนี้ถ้าไม่เคยได้ทิพยจักษุญาณมาจากชาติก่อนๆก็แทบจะไม่มีโอกาสฝึกได้เลย ยากมากสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานจากชาติก่อนๆ
@@user-dw2wv9sc9c สมาธิที่ใช้จินตนาการนำ พวกลัทธินอกศาสนาเค้าใช้กันมาก่อนละครับพวกshamannismก็มีแนวทางสมาธิแบบนี้ พวกโยคีก็มี
เอางี้ ต้องไม่รู้ก่อน อย่างเราไม่รู้เลย ไปวัดไหว้พระมีคนชวนให้นั่งสมาธิหน้าพระบรมธาตุ ไม่รู้อะไรเลย เค้าให้นั่งสมาธิแต่เปลี่ยนมาท่องแบบของเค้า เราก็ทำ และก็ไปเห็นเลย..คนนำก็ลองกับเราเฉยๆไอ้เราไม่รู้ก็ตามไปก็เห็นและออกไม่ได้ทำไม่เป็นคนนำงงๆก็ปล่อยเรางั้น จนกระทั่งมีเสียงแม่ชีที่ดูแลที่นั่นมาพูดเราได้ยินเสียงและถอยๆออกมา
มโนมยิทธิ กับสะกดจิตมันคนละเรื่องกันนะครับ ฝากทำความเข้าใจด้วย
ผมเคยไปฝึกมโนมยิธิที่ซอยสายลมหลายครั้งมีพระท่านคอยนำและถามคำถามแต่ก็ไม่เคยเห็นอะไร...แล้วทุกครั้งที่ทำมีข้อห้ามทำเองที่บ้านเพราะมันอาจจะเป็นอุปทานจิตได้จริงเท็จแค่ไหนครับ
ใหม่ๆทำ100 ครั้งจะถูกซักครั้งยากมาก ให้ทำไปเลื่อยๆเอาแบบว่าในกล่องคืออะไรแล้วตอบถูกคือใช้ได้แล้ว อย่าท้อถอยนะครับสู้ๆ
ผมชอบช่องนี้ถ้าผมสงสัยอะไรมาช่องนี้ตอบเคลียร์
อยากให้อาจารย์ พูดเรื่อง คาถาเพชรหลีก หรือตะกรุดเพชรหลีกครับ เด่นในเ้านไหนครับ มีคนเคยบอกว่าใช้เเล้ว การเงินจะไม่คล่องตัว อันนี้จริงไหมครับ
สงสัย พระทำไมเป็นฤาษีครับ
เป็นแค่ชื่อฉายาของท่านเฉย ๆ ครับ
@@dogelon2215 ขอบคุณครับ
รู้จริงขนาดไหนเชียว
เก่งๆๆ รู้ ทุกอย่าง
ตัว หลง ก็คือ อวิชชา ทำให้ไม่รู้ ถ้าอยากรู้ก็ต้องฝึกปฏิบัติ ด้วย กาย วาจา และ ใจ จริงๆจึงจะรู้เอง
@@amuletpk4431 ถูกครับ
มโนเอาจิตปรุงแต่งกันไป..ถ้าผู้ได้ศึกษาในหลักคำสอนจริงในพุทธศาสนาจะเข้าใจว่า
สิ่งนี้ไม่ใช่หนทางแห่งการดับทุกข์ตามคำสอนพระศาสดา..ฌาณ1-2-3-4 รู้หรือยังว่าปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะได้.และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้ฌาณ1-4
ศีล 5ต้องได้ หมั่นทำบุญ ลดความตระหนี่ หมั่นช่วยเหลือ สังคม สาธาระณะแก่โลกและสังคม หมั่น ภาวนา ทั้งวัน นั่ง นอน ยืนเดิน ทำได้ทุกขณะจิต ไม่ว่าหลับตา หรือ ลืมตา
ทำอย่างนี้จนคล่อง จิตว่าง จากนิวร สมาธิจะเริ่ม เป็น ขนิกะ เล็กๆน้อยๆ ทำอย่างขั้นต้นเรื่อยๆ ทรงศีลให้บริสุทธิ จิตเข้าสู่ อุปจาระ สมาธิ ขั้นต้น ก่อน ฌานที่1
อาการ จะเห็น แสง ตัวเย็น ตัวสั่น ตัวโยกเอนเหมือนน้ำ ตัวเบา เหมือนจะลอย บ้าง เขาเรียกว่า อาการปิติ หรือ บางครั้ง เหมือน มีดวงวิญญาน จะเข้าร่างเรา ให้ กำหนดจิต อธิถาน แก่ พระรัตนตรัย ไม่ยอมให้ใครมาสิงร่าง จะปฏิบัติตนเพื่อ พระนิพพาน อย่างเดียว บางท่าน ปล่อยให้ ดวงวิญญานอื่นสิงร่าง ก็จะกลายเป็นร่างทรง ทันที ครับ
จิต เข้าสู่ ปถมฌาน หรือ ฌานที่1 เดี๋ยวถ้าคุณทำถึงก็จะรู้เอง อาการ มันไม่เหมือน คนทั่วไป อ่านจากตำราไม่เหมือน ความรู้สึกจริง ครับ
ตัวอย่าง ฌานที่1 อย่างหยาบ คุณจะสังเกตุได้ว่า ภาพที่ เรานึกในใจ มันจะชัด เช่น เพ่ง พระพุทธรูป ภาพจะไม่หาย หรือ นึก เรื่องอื่น จิต จะทรงแต่ภาพ พระพุทธรูป และ ลมหายใจ และ คำกาวะณา
อย่างมั่นคง ไม่หลุดลอย ไปไหน ได้นาน 10-30นาที เรียกว่าผู้ทรงฌาน ปถมฌาน ฝึกอย่างนี้สมำ่เสมอ พอจิต นิ่ง มันจะไหลสู้ ฌานที่2-3-4 คนที่ทำถึงก็จะรู้เอง ผมไม่บอก มันมีความรู้สึก ไม่เหมือน คนปกติ แน่นอน ผมยืนยันได้ล้านเปอร์เซ็น ว่า ฌาน3-4 ไม่เหมือน คนปกติ ปัญหา คือว่า คนทั่วไป มัวแต่เล่น วัตถุ ติดทางโลก เยอะ จิต มัน ติด นิวร5อย่าง จิตมันเข้าไม่ถึง ฌาน คุณลองนับเวลา ว่า 24ชม
คุณเอาเวลาไปทำอะไรไปบ้าง ลองทบทวนดู ผู้ทรงฌานโลกีย์ ใหม่ที่ท่านทำกันได้ ท่านฝึก อย่างที่ผมเล่า ทั้งวันนะครับ ไม่ใช่ทำแค่เวลา สวดมนต์ เช้า เย็น ท่านผู้ทรงฌาน ท่าน ภาวนา ได้ทุกขณะจิต
ถ้านับ ตามเวลา ก็ ราวๆ20ชม ต่อ วัน ขนาด ท่านนอนหลับ ท่านยัง ทรงฌานเลย ครับ บางท่าน จิต เข้าสู่ ปถมฌาน ขณะหลับ จนตื่นนอน พอ ตื่นมา ท่านก็ภาวนะ เข้าห้องน้ำแปลงฟัน ท่านก็ภาวนา
ว่างจาก ทำงาน ท่านก็ภาวนา จิต อาจจะนึกเรื่องทางโลกไปบ้าง แต่ กำลังใจท่าน ไม่ล่วงละเมิด ศีล ของ ตัวเอง ส่วนเรื่อง ของ มรรคผล ท่านต้องไปถาม พระอริยะสงฆ์ หรือ พระอริยะเจ้า เอา เอง ครับ
พระอริยะเจ้า มีตั้ง 4สาย สุขวิปัสโก เตวิโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิปัตโต สนใจ แบบไหน ก็ ฝึก อย่างนั้นเลย ครับ
ส่วนเสริม นะครับ นี้ ของผมเอง เวลา ผมทำงาน เข้าป่าหาเห็ด ผมก็ภาวนา ไปด้วย รู้ลมหายใจไปด้วย แต่ไม่จับ ภาพพระ เพราะต้องใช้ตามอง หาเห็ดป่า เวลา เข้าฌาน ก็จะได้แค่ ขนิกะ อุปะจาระ
บางครั้งก็ทำได้ถึง ปถม ฌาน วน สมาธิ อย่างนี้ จิตเราต้องมั่นคงในพระกรรมถาน ถึงจะเป็น ฌาน เพราะ ฌาน แปลว่า เพ่ง หรือ อารมเป็นหนึ่งเดียวมั่นคง ไม่คลาดเคลื่อน
เช่น กำหนด ลมหายใจ เข้าออก กับ คำภาวนา พุทโธ 2อย่าง ร่วมกัน ก็จะเป็นการ ทรง พระกรรมถาน 2กอง คือ1 อานาปานุสติ และ 2 พุทธานุสติ ครับ
อานาปานุสติ ถ้าคนทำดีๆ มั่นคงแน่วแน่ ทำได้จนถึงฌาน4 นะครับ บางคนต่อยอดไปจน เล่น อภิญญาได้เลย ถ้าเพ่งกสิน อีก10กอง ครบ ทุกกอง ได้ฌาน4
ถ้าอยากรู้ว่า ฌาน4เป็น ยังไง ผม ตอบ ย่อให้นะครับ คล้าย คนจะตาย นั้นแหละครับ เวลาคนตาย แล้ว จิต ออกจากร่าง มีความรู้สึกแบบไหน คนที่ได้ฌาน 4 ก็ความรู้สึกแบบนั้นแหละครับ
คุณทำถึงก็จะ รู้เอง ว่าเวลา ตาย รู้สึก ยังไง
คุณ ต้องรู้จัก ส่วนสุด2อย่าง ก่อน นะครับ สิ่งต้องห้าม สำหรับ คนฝึก สมาธิ
ภาษา บาลี ผมก็จำชื่อไม่ได้ ครับ จำจาก พระกรรมถาน40กอง ใน วิสุทธิมรรค ที่แปลเป็นไทยแล้ว เท่านั้น
1อย่า อยากได้ ขณะภาวนา ต้องทำจิต ว่างๆ ทรงอารม พระกรรมถานให้มั่นคง
2 อย่า นั่งนาน นอนนาน หรือ ทำอะไรนาน จนร่างกาย มันล้า ปวด อาจจะทำให้คนฝึก กรรมถาน บ้า เสียสติได้ เพราะ ทรมาร ร่างกาย จนเกินไป เพราะ ความอยากได้ สมาธิ
คนที่ฝึก แล้ว ทำไม่ได้เพราะ ทรงอารม ไม่ถูก ก็แบบนี้ครับ ต้อง ทำให้ใจ ว่าง จาก นิวรณ์5ประการ ไม่ต้อง อยากเห็น อยากได้อะไร ยิ่ง อยาก ยิ่งไม่ได้
อีกอย่าง ถ้าของเก่า เรามี ฝึก กันไม่ถึงเดือน ก็ได้แล้วครับ ถ้าคนฝึกใหม่ ก็นานหน่อย ที่ได้เร็วๆไว บางท่าน เป็น ฤาษี ชดิน หรือ อเจลก แล้วฝึก ได้ฌานกันมาหลาย แสนชาติแล้วครับ
ตายเกิดกันไม่รู้มากี่ภพกี่ชาติแล้ว กว่าท่านเหล่านี้ จะได้ฌาน ว่ากันเป็น อสงไขกัลป์ ไม่ต้องไปอิจฉา ท่านเหล่านี้หรอกครับ ท่านสะสมมา เยอะแล้ว กว่าท่านจะได้กันมา ทำบุญ และ ปฏิบัติ กันหนักมาก
เข้าป่า เข้าถ้ำกัน มานับชาติไม่ถ้วน บางท่านก็สัจจะอธิถาน ขอ ให้สำเร็จ พระอรหันต์พร้อมด้วย ปฏิสัมภิทายาน บางท่าน ก็ขอ สำเร็จอรหันต์พร้อมด้วย อภิญญา บางท่านก็ขอบรรลุอรหันต์พร้อมด้วย วิชา3
บางท่าน ก็ของ่ายๆไวๆ ขอแค่เข้าพระนิพาน ไม่ต้อง เก่ง ไม่ต้องเห็น ท่านก็ไปอย่าง สุขวิปัสโก เพราะไม่อยาก บำเพ็ญ บารมี หลาย ภพชาติ
@@0.5g52 การฝึกสมาธิ.สมถะ-วิปัสนา.
พระพุทธสอนให้เราปฏิบัติก็เพื่อให้เราเห็นการ เกิด-ดับ.ของขันธ์5 เพราะขันธ์5เป็นเหตุเกิดแห่งกองทุกข์.ไม่ใช่ให้เรามานั้งสมาธิเพื่อมาเห็น นรกหรือสวรรค์.สิ่งเหล่านี้เห็นแล้วก็ไม่ทำให้เราหนีพ้นจากสังสารวัฏได้ครับ.บางสำนักบางวัดก็สอนให้เราค่อยๆห่างออกจากคำสอนพระศาสดาออกไปเรื่อยๆจากรุ่นสู่รุ่น
จนเราลืมคำสอนพระศาสดาที่แท้จริง.และมาหลงยึดติดเอาแต่คำครูอาจารย์ที่ถ่ายทอดบอกต่อๆกันมา.ก็ไม่รู้ว่าเรากำลังเดินตามใคร ตามคำสอนพระพุทธเจ้าหรือตามคำสอนครูอาจารย์
เลยกลายเป็นว่าปุถุชนยุคนี้ยึดติดที่ตัวบุคคล
ใครมาพูดมากล่าวถึงอาจารย์ที่ตนเคารพยกย่องจะถูกตำหนิทันที..ขนาดพระพุทธองค์ทรงบัญญัติแล้ว แสดงแล้วว่า.
ธรรมก็ดีวินัยก็ดีที่พระศาสดาทรงแสดงไว้
จักเป็นศาสดาแก่พวกเธอทั้งหลายโดยการล่วงไปแห่งเรา..พระศาสดาให้ยึดคำสอนเป็นหลักไม่ได้ให้ยึดติดสิ่งของหรือตัวบุคคลครับผม..สาธุครับ
@@bentoonmoota9799 หลวงพ่อท่านก็สอน วิปัสนานะครับ ไม่ใช่สอนแต่ สมถะ ไม่งั้น ท่านจะไปพระนิพพานได้ยังไงละครับ ลูกศิษท่าน ตั้งเยอะก็ไปพระนิพาน ได้อริยะมรรคอริยะผล กัน ตั้งเยอะ ถ้าปฏบัติผิด ท่านจะไปพระนิพพานได้ยังไงละครับ ถ้าคุณทำถึง ปฏิบัติถึง คุณจะรู้เอง เห็นเอง ขนาดสาย หลวงตาม้า หลวงปู่ดู่ หรือ หลวงปู่มั่น ที่ท่านทำถึง หลาย ท่านก็ยืนยัน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านอยู่พระนิพพาน สมถะ ท่านก็สอน วิปัสนาท่านก็สอน ก่อน จะใช้มโน ท่านก็ให้ ลองหาทุกข์ ตั้งแต่เกิดมาจน เวลาปัจจุบันนี้ กว่าจะเรียนจบ มันทุกข์ขนาดไหน ใช้เวลากี่ปี 12-13ปี กว่าจะจบ มัธยม อีก3-6ปีกว่า จะจบ ปริญญาตรี แล้ว ด๊อกเตอร์อีกบละกี่ปี จบออกมาแล้วต้องหางานทำอีก มันทุก หรือ มันสุข
เวลา ป่วยมันทุกหรือสุข ท่านก็ให้พิจารณาประมานนี้ แล้วก็ให้ ใช้มโนมยิทธิ ก่อน นอน หรือ ตื่นนอน ท่านก็ให้ ทบทวน บารมี10 สังโยชน์ ที่เราตัดได้กี่ข้อ นี่ก็คุณธรรม ของ พระอริยะเจ้า ท่านก็ให้เรานึกถึงความตาย เสมอ ทุกวัน จะไม่ใช่วิปัสนาญานยังไงละครับ นึกถึงความตาย เสมอๆ ก็เป็น มรณานุสติ พิจารณาร่างกาย ก็เป็น กายคตานุสติ ก็ไปรวมที่ ขัน5ทั้งนั้น ทุก หรือ สุข ก็มาจากขัน5 หรือร่างกาย จะไม่ใช่ วิปัสนาญานยังไงละครับ จะไป สวรรค์หรือ พรหม หรือ พระนิพพาน ท่านให้เอาจิตไป ไม่ได้เอา ร่างกาย หรือ ขัน5ไป ก็เป็นวิปัสนาญาน อย่างหยาบ
เป็น พระกรรมถาน ทั้งนั้น ครับ อนุสติ มีตั้ง10กอง แล้ว แต่ นิสัยใจคอแต่ละคน ที่ชอบ
พระกรรมถานมีตั้ง40กอง จะกองใน ก็ล้วน ย้อนกลับมาที่ร่างกาย หรือ ขัน5 ก็เป็นวิปัสนาญาน
ใครไปไม่ได้ก็ไปค้างที่สวรรค์ ใครพอมีฌาน ทรงฌานตายก็ไปที่พรหม ใคร ทำอาสวะขยญานได้ก็ไปนิพพาน จะไปไหน ก็แล้วแต่ละท่าน ชอบแบบไหนก็ไปแบบนั้น ไม่มีใครบังคับ จะหาว่าหลวงพ่อสอนผิดยังไงครับ
@@bentoonmoota9799 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่สามารถ พาใครไปพระนิพาน ได้นะครับ ท่านก็ย้ำแบบนี้เสมอ ท่านว่ามันอยู่ที่ คนปฏิบัติ เอา เอง ท่านแค่สอน ตาม พระไตรปิฏก หรือคำสอน
ของ พระพทุธเจ้า ส่วนที่ไปไม่ได้ เพราะ คนนั้น ใจมันไม่ไปเอง เขาไม่อยากไป จะบังคับ ให้เขาไปไม่ได้หรอกครับ ขนาดพระพุทธเจ้า พระองค์ก็สอน แบบนั้น
ว่า พระองค์พาสาวกไปนิพพานไม่ได้ ท่านเป็นเพียงผู้บอก และสอน ส่วนที่จะไปนิพพานนั้น อยู่ที่ สาวก ปฏิบัติ ถึงจะไปได้
สายหลวงพ่อ ก็มีคนดื้อด้าน ไม่ยอมปฏิบัติไม่ยอม ไป ก็เยอะนะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะไปได้ ขนาด บางท่าน ก็ตกค้าง มากจาก สมัย พระพุทธเจ้า องค์ก่อนๆตั้งเยอะแยะ เพิ่งได้ มรรคผล
กับ สมเด็จองค์ปันจุบัน เพราะใจเขาไม่ยอมไป มันก็คือ บารมี นั้นแหละครับ บารมี แปลว่า กำลังใจเต็ม หรือ ความเต็มใจ นั้นแหละครับ
ส่วนมาก คนที่บารมีเต็ม ท่านก็มี อุปสมานุสติกรรมถาน อยู่ในใจของท่านเสมอ จนลมหายใจสุดท้าย ท่านมั่นคง ท่านก็ไปได้ ถ้าท่านตัดสังโยชน์10ประการ ได้หมด
ลูกหลาน หลวงพ่อที่ท่าน ฝึก ตัดสังโยชน์10 ท่านเหล่านี้ทำไมจะไปไม่ได้ละครับ ส่วนคนที่ไปไม่ได้อย่าง ผม เพราะใจ มัน ไม่หมดไงครับ กิเลสมันหนา
ความอยากความหลง ในโลกมันยังเยอะ มันก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ไปค้างที่ เทวดา หรือ พรหม ก็ยังดี เพราะมีศีล และ สมถะหรือฌาน อยู่สม่ำเสมอ ทุกวัน
ดีกว่า ลงอบายภูมิ นะครับ