“ค่าขนมลูก” หนึ่งวันควรให้เท่าไหร่ | เศรษฐกิจติดบ้าน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 3 ก.ย. 2023
- คำถามยอดฮิตเมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องให้เงินค่าขนมแก่บุตรหลานเพื่อไปใช้ที่โรงเรียนก็คือ ในหนึ่งวันเราควรจะให้เงินจำนวนเท่าไหร่ ? แล้วจำนวนเงินที่ให้ไปจะมากหรือน้อยเกินไปหรือไม่ ? มีหลักการคำนวณเงินสำหรับเด็กอย่างไร ? แล้วเงินค่าขนมที่พ่อแม่ให้แก่เด็ก ๆ จะสามารถสร้างนิสัยรักการออมได้อย่างไรบ้าง ? พูดคุยเพื่อหาคำตอบในประเด็นนี้กับ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน และ ไกด์ รัฐศักดิ์ สกุลวัชรอนันต์
ติดตามชมรายการเศรษฐกิจติดบ้าน วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 21.30 - 21.45 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/Economics101
#นิสัยรักการออม #ค่าขนมลูก #เศรษฐกิจติดบ้าน
----------------------------------
👉 กด Subscribe ติดตามรายการดี ๆ ของช่อง ได้ที่ : thaip.bs/YSBht5j
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : www.thaipbs.or.th
Facebook : www. ThaiPBS
Twitter : / thaipbs
Instagram : / thaipbs
LINE : www.thaipbs.or.th/AddLINE
TikTok : / thaipbs
TH-cam : / thaipbs
เหมือนได้เปิดโลก ชอบรายการนี้ค่ะ
ข้อมูลน่าสนใจมากค่ะ
โรงเรียนรัฐอนุบาล-ประถม อาหารกลางวันฟรี…สังกัดกทม.มีเพิ่มอาหารเช้าฟรีด้วย
แนะนำนะครับว่าควรจะเอาทั้ง 2 คนนี้ไปปรับทัศนคติก่อนนำมาออกรายการ
หรือ executive ผู้ผลิตรายการเองควรจะออกจาก echo chamber ของตัวเองให้ได้ก่อน ออกไปดูชีวิตจริงของผู้คนแล้วยอมรับความเป็นจริงให้ได้ก่อน แล้วค่อยกลับมาคิดคอนเทนต์ ว่าจะทำเรื่องอะไรดี
ผมรับรองว่าถ้าพวกคุณเปิดใจอีกสักนิด จะไม่คิดทำคอนเทนต์ในชื่อนี้ออกมาหรอก
หรือไม่แน่...ว่าคุณอาจไม่ได้สน ว่าจริงๆแล้วคนไทยมากกว่า 90% เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
ยังไงซะ คุณก็ยังอยากทำคอนเทนต์แบบนี้ให้คนอีกไม่ถึง 10% ได้ดู คุณคงให้ความสำคัญกับคนดูในส่วนนี้มากๆ
คุณวิทย์เป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางมาก ทั้งยังเก่งหลายภาษา แต่น่าเสียดายที่ต้องมาทำงานภายใต้คนที่ไม่มีความรู้และจิตใจคับแคบ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคมคนส่วนใหญ่ ผมว่าคุณวิทย์เองก็น่าจะรู้ตัว หรือคุณก็ไม่สน?
ฉันเป็นชาวบ้านธรรมดา นั่งรถเมล์ พ่อแม่ฉันให้แนวคิดใกล้เคียงนี้ แล้วก็ได้ผลดีมากๆในระยะยาวค่ะ
หันกลับมามองลักษณะนิสัยของคนไทยทั่วไป (รวมถึงคนรวย) เวลาจะให้เงินลูกไปโรงเรียน คุณคิดว่ามีคนไทยกี่คนที่จ่ายให้ลูกเป็นรายเดือนหรือรายอาทิตย์? ความเป็นจริงคือหาแทบไม่ได้เลย (นี่คือหนึ่งในเรื่องที่ผมอยากให้คณะจัดทำรายการ อย่าเวอร์ให้มากและช่วยอยู่ในโลกความจริงกันหน่อย)
ชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะรายได้ต่ำ ผลิตสินค้าอะไรก็ขายไม่ได้ราคา โดนกดขี่ โดนเอาเปรียบ จึงมีเงินใช้จ่ายไปวันต่อวัน ไม่สามารถแบ่งให้เงินลูกๆเป็นก้อนๆได้ เด็กไทยจึงไม่เคยมีโอกาสได้ลองบริหารการเงินด้วยตัวเอง จนกระทั่งเรียนจบและได้ทำงานมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะมาสร้างวินัยการเงินตอนเริ่มเป็นวัยผู้ใหญ่ การบังคับคนให้สร้างวินัยตอนเป็นผู้ใหญ่ มันจะสำเร็จได้ไงกัน
ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เคยรอคอยวันที่เงินเดือนออกครั้งแรก ไม่ว่าตัวเลขมันจะมากน้อยเท่าหร่ แต่สำหรับเราวินาทีนั้นมันดูเยอะมาก และมีของที่อยากได้เต็มไปหมด
เงินเดือนก้อนแรกคือสิ่งที่ช่วยทำลายมนต์สะกดที่พวกผู้ใหญ่สั่งเราไว้ว่าห้ามใช้เงินกับเรื่องไรสาระ เราจึงตั้งตารอวันที่จะเป็นผู้ใหญ๋ เพราะภาพจำของการเป็ผู้ใหญ่คือสามารถใช้เงินเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเองได้ทุกอย่าง อะไรที่เราเคยเห็นผู้ใหญ่ทำเราก็อยากลองทำบ้าง อยากลองปรนเปรอความสุขให้ตัวเองบ้างเพราะเคยเห็นพวกผู้ใหญ๋ทำแล้วมีความสุขกันเหลือเกิน ความรู้สึกที่เคยอัดอั้นก็ถูกปลดปล่อย มันฟินดีเหลือเกิน
ความรู้สึกที่ฟินที่สุด คือการได้ยื่นเงินให้ลูกหลานไปซื้อขนม ยิ่งเรียงแถวกันมาเยอะๆ เข้ามายกมือไหว้เราแล้วรับเงิน ยิ้มหน้าบาน....จึงมาถึงบางอ้อ ว่าทำไมคนรวยถึงชอบให้เงินลูกไปโรงเรียนแบบรายวันทั้งที่ให้เดือนละครั้งก็ได้ แต่เพราะมันฟินแบบนี้นี่เอง....
สรุป... ผู้ใหญ่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ได้ก่อน
เราควรฝึกให้เด็กได้บริหารเงินเองตั้งแต่เล็ก
เราต้องเชื่อใจและให้เขารับผิดชอบตัวเอง
เราต้องมองว่าเด็กก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เครียดเป็นไม่แพ้ผู้ใหญ่
และสุดท้ายคือใครๆก็รู้คุณค่าของเงิน หยุดสอนคนอื่นเรื่องนี้สักที แล้วช่วยไปเรียนรู้เรื่องคุณค่าความเป็นคนซะบ้างจะได้ไม่บูชาเงินมากไปกว่านี้
ยาวหน่อยนะครับ เพราะอยากอธิบายในสิ่งที่ได้วิจารณ์ไปให้กับทีมงานทำรายการฟังด้วย ว่าเบื้องหลังคำวิจารณ์มันมีเหตุผลอะไรบ้าง ไม่ได้สักแต่วิจารณ์อย่างเดียว
คนกรุงเทพปริมณฑลนั่งรถไฟฟ้ากันสะดวกสบาย ส่วนผมคนมหาชัยมองตาปริบๆ รถไฟฟ้าเยอะแค่ไหนก็จริงแต่ก็กระจุกแค่ในเมืองในบางจังหวัดที่ผู้มีส่วนได้เสียต้องการให้เกิด เลยไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไร
ทุกวันนี้ให้เงินลูกไปโรงเรียนก็บริหารจัดการวินัยการใช้เงินระห่วางวันที่โรงเรียนเองส่วนวันหยุดไม่จ่ายถ้ามีกิจกรรมให้บอกล่วงหน้าทุกวันนี้จ่าย60บาทโรงเรียนในเมืองเช้าทานข้าวที่บ้านไปส่งลูกเองที่โรงเรียนตอนเย็นทานข้าวที่บ้านรึบางทีอาจซื้อจำพวกก๋วยเตี๋วให้ทานค่ะ
ที่ผมตั้งใจเรียนนั้นผมได้หวังรางวัลจากพ่อแม่หรอกครับสิ่งที่ผมหวังก็คืออากพ้นจากความยากจนในที่สุดความฝันของผมก็เป็นจริงครับขนาดผมตาบอดนะแล้วทำไมคนตาดีเขาถึงยากจนครับ