หลวงปู่สงฆ์ เมตตาธรรมสูงส่ง แม้สัตว์เดรัจฉานยังสัมผัสได้

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ค. 2024
  • หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร
    30 เมษายน พ.ศ. 2432 - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2526 รวมสิริอายุได้ 94 ปี 74 พรรษา
    หลวงปู่สงฆ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จังหวัดชุมพร เป็นชาวชุมพรโดยกำเนิด ที่บ้านวินัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร โยมบิดามารดาชื่อ นายแดงและนางนุ้ย ประกอบอาชีพทำนา
    ท่านใฝ่ใจศึกษาหาความรู้และรักการอ่านเขียนมาตั้งแต่เยาว์วัย พออายุได้ 18 ปี บิดามารดาจึงได้บวชให้เป็นสามเณรที่วัดสวี ศึกษาด้านพระธรรมวินัย พระปริยัติธรรม และอักษรขอม จนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทที่วัดวิสัยเหนือ โดยมี หลวงพ่อชื่น วัดแหลมปอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"จันทสโร"
    เมื่อหลวงปู่สงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดวิสัยเหนือได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดควน ต.วิสัยเหนือ เพื่อศึกษาด้านกรรมฐานและวิทยาคมต่างๆ อีก 1 พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาถึงภูเก็ต ได้พบกับ พระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือ ตอแซ พระเกจิชื่อดังผู้ทรงฌานสมาบัติสูงรูปหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ซึ่งผู้คนให้ความเคารพนับถือมาก ท่านจึงฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมต่างๆ จนหมดสิ้นเป็นเวลา 2 พรรษา จากนั้นกราบลาอาจารย์ออกธุดงค์อีก 7 ปี
    ในราวปี พ.ศ.2462 วันหนึ่ง มีสตรีนางหนึ่งชื่อนางร่อย พร้อมด้วยลูกชายเดินทางไปทำนา ซึ่งไกลจากบ้านหลายกิโลเมตร ขณะเดินทางพลันได้ยินเสียงของนกร้องว่า "หนักก็วางเสีย หนักก็วางเสีย" เมื่อมองหานกตัวนั้นพบ นกก็บินไปแล้ว สองแม่ลูกจึงตามไป พอตามมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก็พบพระสงฆ์รูปหนึ่ง นุ่งห่มจีวรเก่าขาดรุ่งริ่ง ท่าทางสงบนิ่ง นางร่อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อได้สติจึงเข้าไปกราบสอบถามอย่างละเอียด
    จากนั้นด้วยความเลื่อมใสนางร่อยจึงได้นิมนต์ท่านไปจำพรรษา ณ วัดร้างใกล้หมู่บ้าน ซึ่งมีแต่ซากสิ่งก่อสร้างที่ทรุดโทรมมาก มีเพียงกุฏิเก่าๆ ตัวโบสถ์เองเหลือแต่เสาต้นใหญ่ 4 ต้น พระพุทธรูปองค์ใหญ่ก็ชำรุด มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกรุงรังทั่วบริเวณ แม้จะเป็นเพียงซากปรักหักพังต่างๆ แต่ตามสภาพโดยรวมแล้วสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาและถูกทิ้งรกร้างมายาวนาน
    หลังจากหลวงปู่สงฆ์รับนิมนต์จากชาวบ้านมาจำพรรษาที่วัดร้าง ก็ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากชาวบ้านมาช่วยกันหักร้างถางต้นไม้และบูรณะสิ่งก่อสร้างและเสนาสนะต่างๆ ขึ้นมาใหม่ จนเป็นวัดที่มั่นคง โดยให้ชื่อวัดตามชื่อหมู่บ้านว่า “วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย”
    เหตุที่มีคำว่า ‘เจ้าฟ้า’ นำหน้านั้น ด้วยหลวงปู่สงฆ์บอกว่า ในอดีตวัดนี้เป็นวัดที่มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเคยมาบวชเป็นเจ้าอาวาสอยู่ และท่านมักกล่าวเสมอๆ ว่า เจ้าวัดที่นี่ไม่ใช่เรา แต่เป็นปู่เจ้าฟ้า ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการบวชนาค จะต้องนำเจ้านาคไปฝากตัวกับปู่เจ้าฟ้าก่อน ซึ่งได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนเป็นประเพณีสืบจนปัจจุบัน
    ในช่วงที่หลวงปู่สงฆ์ยังมีชีวิตอยู่ มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ หลายชนิดที่หลงเข้ามาในบริเวณวัด และได้รับความเมตตาจากท่านอยู่เสมอ แต่ที่เลื่องลือกันมาจนทุกวันนี้ก็คือ เรื่องของเต่า ที่จะได้ชมกันในคลิปนี้

ความคิดเห็น • 3

  • @user-mw6zb1vi6t
    @user-mw6zb1vi6t หลายเดือนก่อน +1

    ❤❤❤ ขอให้โชคดีครับ ❤❤❤

  • @suraponborisutipan3692
    @suraponborisutipan3692 24 วันที่ผ่านมา

    ... สาธุ ...

  • @user-mw6zb1vi6t
    @user-mw6zb1vi6t หลายเดือนก่อน +1

    วัดอะไร จังหวัดอะไรครับ ... ❤