BEFORE YOU GET MARRIED discuss bills, parenting styles, credit, debt, religion, how to deal with family, what beliefs will be instilled in your children, childhood traumas, sexual expectations, partner expectations, financial expectations, family health history, mental health history, bucket list, dream home, careers and education, political views and whatever else come to mind. LOVE ALONE IS NOT ENOUGH!“
100% ควรถาม แต่ต้องใช้คำพูด วิธีการให้เหมาะสมในสถานการณ์ จะได้วางแผนชีวิตถูก ไม่ใช่เรื่องเห็นแก่เงิน แต่เป็นการรับทราบรับรู้ ไว้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจ เพื่ออนาคตของตัวเองด้วย
เสียมารยาท ถ้าแค่เพิ่งรู้จักแล้วถามเลย แต่ถ้าคบกันเป็นแฟนกัน จะแต่งงานกัน ไม่ผิดที่จะถาม แต่นี่แค่แฟน ไม่รู้เลยว่าจะคบรอดไหม
จิงๆนะ เเต่ค่อยๆ ถามไปเรื่อยๆ สร้างเหตุการณ์บังเอิญแล้วตล่อมๆ หาข้อมูลไปทีละนิด ไม่ใช่ครั้งแรกวันแรกยิงรัวเลยแบบนี้ก็ ไปสมัครยุทำงานเทศบาล แผนกสำรวจสัมโนครัวเหอะ รุ่งแน่😅😅
จริงค่ะ เราไม่เคยถาม แต่งเสร็จหนี้สินพ่อแม่สามีงอกมาเกือบครึ่งล้าน แถมให้สามีเราเป็นคนชดใช้ให้อีก หัวจะปวดของแท้จร้า
จริงๆไม่ต้องถามเรื่องพวกนี้ตรงๆ เราว่ามันสังเกตได้จากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ถามเรื่องในชีวิตประจำวันทั่วๆไปเดี๋ยวก็ได้คำตอบเอง "เธอพักอยู่ไหน" ถ้าเค้าบอกว่าอ้อซื้อบ้านอยู่คนเดียว ขับรถมาทำงาน คือมีหนี้แล้วไง (แต่เป็นหนี้ผ่อนไม่มีอะไรมาก) "คนที่บ้านอยู่กับใครบ้าง" "เราอยู่กับแม่กับพ่อแต่พ่อป่วยเข้าออกโรงบาลบ่อยๆ" "ใครหาเงินรักษาพ่อเธอล่ะ?" "เราเอง" ถามไปๆมาๆก็รู้แล้วไม่ต้องถามกันโต้งๆ บางคนมีหนี้แต่ว่าไม่ได้จำกัดจำขีดในการใช้ชีวิต ไปกินข้าวข้างนอก ไปเที่ยวบ่อยๆ เราว่าแค่นี้ก็ไม่มีปัญหาการเงินแล้ว ให้ดูวิธีการใช้เงินของเขาดีกว่า บางทีเงินเดือน 30,000 ใช้ชีวิตเหมือนได้เดือนละ 300,000 ถึงไม่มีหนี้สินวันนี้ เป็นเราก็ไม่คบ
คุณเริ่ด ปรบมือ 👏ค่ะ ✔️ใช่ที่สุด ดูพฤติกรรม และ สิ่งรอบข้าง❤
ไม่จริงค่ะ บางคนคบ 5 ปียังไม่รู้เลยค่ะ จนแต่งงานถึงรู้ พอใช้ชีวิตจริงถึง เอ๊ะ ค่ะ
@@Dr.andMommy แล้วรู้รึยังว่าเขาชื่ออะไร
เราเคยเจอเเบบนี้เเต่เขาเมคเรื่องจนเรามาจับได้ว่าเมคทุกอย่างในปีที่3 ช้อคเลย
เจอมาแล้วเงินเดือน50000ใช้ยังกับรายได้หลักแสน เงินไม่พอใช้ต้องให้คนอื่นช่วยเหลือ รายการผ่อนบ้านรถไม่มี และเงินเก็บมันก็ไม่มีเช่นกัน
เห็นด้วยนะคะ ว่าควรถามแบบมีชั้นเชิง ร่วมกับการสังเกต
แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือ รอจนคิดว่าจะสร้างครอบครัวกับคนนี้แล้วค่อยถาม เราคิดว่ามันใช้เวลานานไปนิดนึง เสียเวลาชีวิต เกิดคบกันไป 5 ปี แล้วค่อยถาม แต่ปรากฏว่าเค้ามี condition ที่ไม่แมทช์กับเรา แต่ตอนนั้นคุณพีก็อายุ 30 เข้าไปแล้ว เสียดายเวลาค่ะ เพราะเวลาคือต้นทุนของชีวิตนะคะ ในระหว่าง 5 ปีนั้นคุณพีมีโอกาสเสียคนที่อาจจะแมทช์กับคุณมากกว่าก็ได้ ดังนั้นอย่ารอนานขนาดนั้นค่ะ
+1
+1 เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ ละรู้สึกด้วยว่าถ้าโดนถามเราก็ยินดีตอบตรงๆ ถือว่าเป็นช่องทางที่ต่างฝ่ายจะได้พิจารณาคัดเลือก
ของผม ตัวผมเป็นฝ่ายบอกเขาก่อน เพื่อให้เขาตัดสินใจว่าจะคบหรือจะแค่เป็นเพื่อนกัน เพราะผมไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับผม และถ้าฝืนคบกันไป สักวันมันต้องมีแต่เจ็บปวด สู้บอกเขาไปเลยดีกว่า เสียความรู้สึกนิดๆตอนนี้ ดีกว่า มาเสียใจอกหักมันเจ็บกว่า
ฝ่ายบุคคลเค้ายังไม่ให้ดูสลิปเงินเดือนกันเองเลย ของแบบนี้ใช้วิธีสังเกตเอาดีกว่า ไลฟ์สไตล์ยังไง อยู่แบบไหน กินยังไง น่าจะดีกว่าถามเอาดื้อๆเลย
เราคนนึงที่ไม่ถาม แต่ถ้ามาเดือดร้อนถึงเราเมื่อไหร่เราจะถามทันที เรามองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ และจะแต่งงานกับเขาก่อนถึงจะถามเขานะ ไม่ใช่เพิ่งคุยกันแล้วถาม เพื่อนสนิทกันเขายังไม่ถามเงินเดือนกันเลย
เสียเวลาจิงๆนะ ยิ่งปล่อยนาน
@@ชัยพรพุ่มศรี แล้วแต่คู่ค่ะ
@@ชัยพรพุ่มศรี +1
@@_twoelevent +1
2 เดือนเร็วไปคะ ต้องใช้เวลา และสังเกตค่ะ การใช้ชีวิตของเขา😊
ฉลาดในการใช้ชีวิตเอาค่ะ เริ่มต้นรู้จักกัน "ไม่ต้องถามแต่วิธีการสังเกตเอา" หรือถามอ้อม บ้านอยู่แถวไหน, ตอนเด็กมีวีรกรรมอะไร จะพาย้อนไปถึงว่าพ่อกับแม่ทำงานอะไร มีพี่น้องกี่คน พี่น้องแต่ละคนทำงานอะไร ฯลฯ เพราะต้องยอมรับว่าการเงินเป็นอีกปัจจัยนึงในความสัมพันธ์ปัจจุบัน **แต่การถามเรื่องเงินส่วนตัวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มคบกันมันดูให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าความรู้สึกมากไปหน่อย** พอคบกันไปสักพักจะรู้อะไรมากขึ้นทีละนิดๆเอง เช่น เมื่อเขาเริ่มมีปัญหาทางการเงิน หรือเขาขอคำปรึกษาเรื่องการเงิน พอถึงตอนนั้นเราจะได้รับรายละเอียดที่มากกว่าเดิม และไม่น่าเกลียดเลยหากจะถามข้อมูลเพิ่มเพื่อช่วยการเป็นที่ปรึกษาให้กับเขา ณ จุดนั้นคุณจะพอทราบเรื่องสุขภาพการเงินของเขาได้เองแหละ
+1
เรากลัวการเสียเวลากับใครซักคน ซึ่งการที่เราจะรู้จักใครซักคนมันต้องใช้เวลา บางคนคบเป็น สิบๆปียังไม่ค่อยรู้จักกันเลย เราอาจจะบอกเขาไปตรงๆก็ได้ว่าเราเคยเจออะไรมา ถ้าเขาจริงใจ เขาจะเห็นใจเรา แต่ถ้าเขาไม่จริงใจ เขาจะออกห่างเอง ค่ะ
สำหรับเรานะ เด่วนี้มิจฉาชีพมีหลายรูปแบบมากๆค่ะ เราพูดความจริงใจไป เพื่อให้เค้าเปิดเผยสิ่งที่เราอยากรู้กับเรื่องแบบนี้ เราว่าเค้าพูดไม่จริงทั้งหมดค่ะ ถ้าต้องคบแบบไม่เสียเวลานะคะ อย่าเป็นสายเปย์ / ค่าใช้จ่ายหารครึ่งทุกครั้ง / ถ้าเริ่มยืมเงินแล้วไม่คืนเกิน 2 ครั้งก็ค่อยๆถอย / หรือมาครั้งแรกก็ยืมเงินจำนวนเยอะๆ ก็ไม่โอเค / ให้ช่วยซื้อของให้เพราะไม่สะดวก แต่ไม่ให้ตังค์ ทำแบบนี้ 3-4 ครั้ง ก็ไม่ดี
สรุปต้องดูต้องสังเกต ดีสุดค่ะ สิ่งเหล่านี้มันช่วยฝึกเราไปในตัว ไม่เสียเวลาหรอกค่ะ ลองดูค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ❤❤❤
มีนรายการผีป่ะเนี่ย55555
@@elleyhappy8190 +1
@@ronaldobangin6856 +1 🤣🤣😂😂
เป็นคนหนึ่งอ่ะที่ไม่เคยกลัวการเสียเวลา เพราะแม้ว่าไม่ได้คบกับใคร เวลาชีวิจของเราก็ยังดำเนินต่อไป อะไรคือเสียเวลา แค่หายใจมันก็เสียเวลาแล้ว ใช้ซะชีวิต
ส่วนตัวคิดว่า ความสัมพันธ์ที่เสียเวลา ก็เป็นประสบการณ์ที่นำไปสู่ ความสัมพันธ์ที่ดีในอนาคตค่ะ
ชวนไปเข้าคอส การเงิน การเขียนงบรายรับรายจ่าย ทรัพย์สิน หนี้สิน แล้วก็ลอง แลกเปลี่ยนกัน อาจจะได้เห็นมุมมองเขา เขาจะโกหกเราก็จะทราบจากเรื่องพวกนี้แหละ เพราะการเขียนงบพวกนี้ ถ้าผิดปกติ จะเห็นได้ว่ามันไม่เมกเซ้น ถ้าจะคิดจมหัวจมท้ายกัน
เคยโดนถามนะ ตั้งแต่แรกเลย รู้สึกเศร้าที่ถามแบบนี้
จริงค่ะ ถ้าคบกันไป คนเคยมีประสบการณ์ผ่านการมีแฟนมาแล้ว จะรู้เอง เดาได้ หรือบางคู่สนิทกันก็จะค่อยๆบอกเอง แต่ถ้าคบกันยังไม่สนิท ไปถามแบบนี้ เค้าอาจเป็นมิจฉาชีพ หลอกเราได้ค่ะ เอาแบบเนียนๆ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า เผื่อเราอาจเป็นฝ่ายหลอกเค้าก็ได้ค่ะ😂😂😂
ถ้าคำถามนี้โทรไปหาน้าเน็กที่มีความรู้ด้านการเงินด้วยน้องน่าจะได้คำตอบที่ดีกว่านี้ เพราะคำถามของน้องดีมากครับ
มันมีจุดอื่นที่น่าสนใจและบ่งบอกศักยภาพทางความคิดของคนได้ดีกว่า ต่อให้เงินเดือนเป็นแสน แต่ไม่รู้จักใช้ ซักวันก็ใช้เกินตัว แล้วก็จะเป็นหนี้ บางคนแค่มองดูบวกกับพูดคุยก็รู้แล้ว
ยังไม่ถึง 2 เดือนเลยอ่ะ แทบจะยังไม่ได้ใช้ชีวิตสักช่วงหนึ่งให้มีความสุขกันเลย ก็โยนคำถามที่อาจทำให้ความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าสุดท้ายมันจะถามได้ แต่มันอยู่ที่กาลเทศะด้วย
+1
ชอบคำเเนะนำมากของทุกท่านมาก โดยเฉพาะพี่หอมพูดดีมาก
+1
ชอบแนวคิดพี่เผือกค่ะ แบบถ้าคุยกันนานพอ จะพอสังเกตจากพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์เค้าได้ค่ะ
+1
บางคนจนทำตัวรวยก็มีต้องระวังค่ะ หนี่บานเลย
@@st-Miin +1
จริง
เรากับคนที่คุยปัจจุบันก็ถามกันค่ะ แต่เนียนๆในการถาม ไม่ใช่ถามแบบตรงๆขนาดนั้น เพราะทั้งเราและเขาเคยเป็นสายเปย์กันมาทั้งคู่แล้วเหนื่อยเหมือนกัน ครั้งนี้เลยถามกันก่อน 😂😂
เราคบกัน 6 ปี ทุกวันนี้เรายังไม่รู้เลย แฟนมีรายได้เท่าไหร่ ทำงานตำแหน่งอะไร
แฟนก้อไม่รู้เหมือนกันว่า เราทำงานเดือนเท่าไหร่ตำแหน่งอะไร
ปล.ไม่ได่มีปัญหาเรื่องรายได้
รู้แค่ว่าแฟนทำโรงงาน เรารับราชการ แค่นี้พอ
จริงๆแค่ ถามเรื่องรูปแบบการใช้ชีวิต ก็จะนำไปสู่คำตอบเรื่องเงินได้เอง
เคยไปบ้านอดีตสามีครั้งแรก แม่สามีส่งน้ามาถามประวัติเรา เรียนจบอะไร พ่อแม่ทำงานอะไร บลาๆ จบด้วยการแม่เค้าไม่มีเงินจะจัดงานแต่งให้หรอก ถ้าอยากแต่งให้หาเงินแต่งกันเอาเอง จากนั้นอีก2ปีก็เลิกกัน เพราะบ้านเค้าจะกลัวบ้านเราคุยเรื่องแต่งงานจนกลายเป็นไม่คุยกันไม่อยากเจอเดินหนีตลอด
ดูระยะเวลา ความสนิทสนม ศิลปะการถาม กาละเทศะ และการเปิดใจของอีกฝ่ายเนอะ ถ้า2เดือนแต่ไม่ค่อยสนิทและอีกฝ่ายไม่ได้เปิดอะไรมาก การถามก็ดูเหมือนเสียมารยาท และยุ่งเรื่องส่วนตัวเกินไป จริงๆคุณประเมินความเหมาะสมเองได้
ส่วนตัวถ้าแค่คนคุยเราจะไม่ถาม แต่จะสังเกตจากการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์
และส่วนตัวเราชอบแบบต่างคนต้องต่างดูแลตัวเองได้ได้ในระดับหนึง
เราถือคติถ้าจะคบหรือมีคนเข้ามาในชีวิตต่างคนต่างต้องส่งเสริมกันให้ไปในทางที่ดี
หากมีแล้วทำให้ด้านใดด้านหนึงทุกข์ใจ หรือทำให้ชีวิตปกติเราที่ดีอยู่แล้ว ดรอปลง
เราคิดว่าเราคงไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้
แต่ถ้าถึงขั้นเป็นแฟนจะไปใช้ชีวิตมีครอบครัวด้วยกัน
เราคิดว่าต้องถามเลย ตรงๆไปเลย
อนาคตเราต้องกำหนดเอง
คนที่มีคอนเนคชั่นคล้ายกันโลกจะเหวี่ยงมาให้เจอกันเอง
ใช้การสังเกต ดูการใช้เงิน ใช้ชีวิต คบใครสักคน ลืมตามองกว้างๆ เชื่อป้านะลูก
จริงๆไม่ควรถามตรงๆ แต่ถ้าเขามีงานการที่มั่นคง สามารถดูแลเราได้ ซัพพอร์ตเราได้ เป็นคนที่เรารักและเขารักเรา แค่นี้ก็ดีแล้วนะ ทางกลับกัน ถ้าเราเป็นผู้ชายแล้วผู้หญิงถามเรื่องเงินเดือน เราจะรู้สึกไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้ทันทีเลย คิดดูดีๆนะคะ
ดีเจแนะนำดีมากจริงๆค่ะ
ควรถาม100% เพราะมีผลต่อการสร้างอนาคตครอบครัวเป็นอย่างมาก ผมเองเริ่มคุยกับแฟนใหม่ๆผมก็ถาม แฟนก็เข้าใจ ใช้เหตุผลคุยกัน
มันขึ้นอยู่กับว่า อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับคนนั้นในระดับไหน ทั้งเขาและเรา มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ ไปแบบซีเรียสไหม? ถ้าใช่ส่วนตัวจะถามค่ะ แต่ไม่ถามตรงเกิ๊นนน ขนาดนั้น ถามทำอาชีพอะไร มันพแรำนวนได้ว่ารายได้น่าจะเท่าไหร่, ถามชีวิตประจำวัน ว่าชอบทำกิจกรรมอะไร ชอบ ใช่จ่ายเงินไปกับอะไร, life style เป็นแบบไหน, ชอบไปเที่ยวไหนบ่อยๆเสาร์อาทิตย์ ชอบกินอาหารแบบไหน ชอบทำกินเอง ออกไปกินนอกบ้าน สั่งมากิน อาหารสไตล์ไหน มันสามารถคำนวนการใช้เงินของคนนั่นได้ส่วนนึง! ถ้าอยากรู้ว่าเขามีความรู้เรื่องการเงินไหม ก็อาจจะเกริ่นพูดคุยเรื่องการลงทุน หรือชอบติดตาม coach การเงินคนไหนเป็นพิเศษเปล่า หรือ อาจเปิดฟังช่องการเงินบ่อยๆ แล้วหาเรื่องคุยเรื้องเงิน เพื่อดูว่าทัศนคติคนนั้นเป็นยังไง อยากรู้อะไร สามารถจัดการหาคำตอบให้ได้เนียนๆ ภายใน 1 เดือน แล้วตัดสินใจได้ว่า จะได้ต่อกับคนนี้ดีรึเปล่าค่ะ!! (ประสบการณ์ตรง 5555-สำหรับคนที่รีบ!)
ทุกอย่างมันอาจจะสร้างภาพกันได้ โกหกกันได้ ดูจากนิสัยการทำงานของเขา วิธีการหาเงินของเขา พวกหาเงินเก่งๆ เขาจะมีวิธีหาเงินที่บางทีเราต้องทึ่ง เขาจะมีมุมมองที่เเตกต่างจากคนอื่น ความรับผิดชอบต่างๆ ลองเอาไปเปรียบเทียบกับคนที่คุณเห็นว่าดีสำหรับคุณ เขาจะต้องลักษณะที่คล้ายๆกันเรื่องนิสัย
คหสต. เป็นแค่คนคุย แล้วคุยแค่2เดือน ก่อนจะถามเรื่องเงินอะ ถามเขาก่อนไหมว่าเขาชอบเราหรือเปล่า555 คือถ้าเราสองคนใจตรงใจแล้ว พร้อมจะพัฒนาต่อ ก็ค่อยเปิดใจถามเขาเรื่องนี้ได้ พร้อมบอกเหตุผลไป ว่าทำไมเราต้องถามเรื่องนี้ แนะนำว่าในข่วงเวลานี้ที่คุยกันอยู่ ก็ค่อยๆมองไปเรื่อยๆ มองทั้งเรื่องเงิน และ นิสัยด้วยค่ะ สำหรับเรา เรื่องการเงิน ค่อนข้างจริงจัง ในเมื่อคน2คนเริ่มจริงจังกันแล้ว
100% ควรรับรู้สถานะทางการเงินของเค้า เพราะมีผลต่อการใช้ชีวิตมาก เรทร้านข้าวในการไปไหนมาไหนด้วยการ การเจอกัน และการกิจกรรมร่วมกัน แต่ต้องมีศิลปะในการสังเกตจริงๆ
ชอบคำแนะนำทุกคนค่ะ ของเรา แฟนขยันมาก ในหัวคิดแต่จะหาเงินตลอด 😂 ทำยังไงให้ได้เงิน คบกันตอนไม่มีอะไรเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็สร้างบ้านมีรถขับ พอมีพอกินค่ะ
เราเคยมีแฟนที่รวยมาก เรื่องส่วนตัวต่างๆแทบจะไม่ยุ่งกันโดยเฉพาะเรื่องเงิน ต่างคนต่างไม่ก้าวก่ายกัน บางทีคนที่เขารวยมากๆเขาใช้ชีวิตธรรมดามาก บางคนไม่รวยแต่ทำตัสรวยก็มีเยอะแยะ สองเดือนเองยังไม่กล้าจะไปถามเอาแบบนั้นหรอก
ความคิดเห็นส่วนตัวคือ ไม่ควรถามค่ะ ยังมองว่าเป็นเรื่องเสียมารยาท เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลา ยิ่งไม่เห็นด้วยค่ะ การที่จะทำความรู้จักและตัดสินใจคบใครสักคน ก็ต้องใช้เวลาศึกษากันและกันอยู่แล้วค่ะ ระยะเวลาที่ได้เรียนรู้กันก็จะทำให้เราค่อยๆเข้าไปในโลกของกันและกันค่ะ หรือถ้าไม่ใช่ ไม่ไว้ใจ ก็เฟดออกมาค่ะ
จะเนียนๆ ถามว่า เดือนนึงใช้เงินเท่าไร่… ผ่านไปอีกหลายๆเดือน ก็จะเนียนๆถามว่า เดือนนึงมีเงินเก็บเท่าไร่…. ทีนี้เราก็เอาเลข2ตัวนี้มาบวกกัน แค่นี้ก็รุ้ละว่าเงินเดือนเท่าไร่
มันต้องรู้แหละก่อนตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่จะรู้ยังไงนี่แหละ ต้องสังเกตเอา อาจจะถามได้นะเรื่องพ่อแม่ทำงานอะไร
ถ้าไม่ถามนี่คือโลกสวยเกิน นี่ประเทศไทยนะ สวัสดิการอะไรก็ไม่ดี ความเลื่อมล้ำสูงมาก ไม่ได้ให้ไปคบแต่กับคนรวยนะ แต่ต้องคบกับสถานภาพทางสังคมไปด้วยกันได้
ไม่ควรถามตรงๆ แต่ควรหาข้อมูลและสังเกตอย่างจริงจัง เราเคยหงุดหงิดแทนเพื่อนเหมือนกัน อะไรวะคุยมาตั้งนานไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนคุยซักอย่าง วันๆคุยกันแค่คิดถึงกินข้าวยัง แค่นี้เรอะ ไม่ได้ปร่ะะะ แต่เพื่อนชอบบอกว่าอย่าไปตัดสิน อย่าไปปิดโอกาสคนสิ 😂 แต่โดยส่วนตัวก็แสกนเยอะอยู่ดี เพราะอยู่โสดดีกว่ามีแล้วเป็นภาระค่ะ
สมัยก่อน ผมไม่มีตังค์เลย จนมาก
แฟนก็ยังอยู่เคียงข้างผมเสมอมา ปัจจุบัน มีบ้าน มีรถ 2 ไม่มีหนี้ ลูก 2 และมีความสุขมาก เพราะใช้ คำว่า เข้าใจและตั้งใจ พร้อมเดินทางใช้ชีวิตแบบไม่ยึดติดเรื่องเงินทอง ใช้ความรักและความเข้าใจกันแล้วมันก็ผ่านมาได้
เอาจริงๆถ้ามีคนมาถามเรา เราก็ไม่ชอบนะ การเป็นหนี้คนเรามันมีกันได้ทุกคน ไม่ใช่ว่าคนเป็นหนี้จะไปเกาะผู้หญิงกินทุกคน ต้องดูว่าต่างคนต่างบริหารเงินของตัวเองมั้ย ไม่เอาเปรียบกัน แล้วถ้าวันนึงตกลงปลงใจจะวางแผนใช้ชีวิตด้วยกัน ก็ต่างคนต่างเคลียร์ปัญหาของตัวเองให้จบ
สังเกตเอาก็ได้ค่ะ เรานี่เคยเจอผู้ชายบอกว่าอยากพาไปเลี้ยงข้าว รูดบัตรเครดิต 4 ใบไม่ผ่านค่ะ เเล้ว เราเคยไปที่ห้องเค้าเห็นมีเเต่หนังมือท่องเที่ยวรอบโลก เลยรู้ว่าเค้าชอบเทียวต่างประเทศ เเต่เรารู้ว่างานที่เค้าทำมันไม่น่าจะพอให้เค้า ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ
บ๊าย บายค่ะ
ฟังโค้ชหนุ่มมาแน่เลยแบบนี้ ถ้าเกิดแต่งไปมีหนี้เยอะหนี้งานยาบเลย
ผมว่าเรื่องพวกนี้มันสังเกตุได้ตามการใช้ชีวิตนะ แบบทำงานที่ไหน ดูการใช้จ่ายและภาระของอีกฝ่าย และการดูแลตัวเองคือสามารถดูแลตัวเองได้มั้ยสามารถไปเที่ยวได้บ่อยแค่ไหน อาหารการกิน มันพอจะคำนวนคร้าวๆ ได้
ถามได้ทุกเรื่อง เราสบายๆ แต่ถ้าไม่รู้หรือตอบไม่ได้เราก็จะบอกไปตามตรงค่ะ ช่วงที่จีบกันกับสามีก็ถามกันทุกอย่างเลยค่ะ ให้รู้ทุกจุดของนิสัยใจคอกันไปเลยถ้าจะคบกันนะคะ ตอนนี้อยู่ด้วยกันมา 12 ปีแล้ว ปัจจุบันก็คุยกันทุกเรื่อง เวลาที่เขาและเราพูด พวกเราจะไม่มาบอกว่า ทำไมพูดยังงี้? มันคือไม่เป็นการเคารพความคิดเห็นของอีกฝ่ายค่ะ ส่วนตัวคุยได้ทุกเรื่องค่ะ
ไม่ถามค่ะเสียมารยาทแค่คุยแค่ศึกษา แก้ให้ตรงจุดค่ะ ถ้าเค้ามายืมเงินระหว่างคบถ้าไม่โอเคก็เลิกค่ะ
ไม่ควรถามค่ะ แต่เราควรไม่เอาเปรียบเค้า ไม่ให้เค้าเอาเปรียบ อาจจะต้องหาดูเอง สังเกตเองจากการคบกัน ก็พอทราบได้ว่าเค้าจะเอาเปรียบเรา หรือเราไม่ควรซัพพอร์ตผู้ชายไปซะหมด จนเราเอาตัวเองไม่ไหว ศึกษาอย่าให้ถูกหลอกก็พอค่ะ คบกันแบบฉลาด ถ้าเจอเอาเปรียบเราก็ควรรู้แล้ว นอกจากความรักบังตา เพราะฉะนั้น สติในการคบกัน
ถาม ได้ ตอน คสพ ไปได้ระดับหนึ่งแล้ว แบบว่า มีโอกาสจะได้ commit แล้ว
แต่จริงๆมันพอดูได้จากการใช้ชีวิตของเขา แล้วก็ของใช้นะ
พอผ่านอะไรเยอะๆก็จะอ่านออกเอง พี่เคยเจอคนตอนคุยอวดรวยมาก แต่พอเจอคือพี่ต้องจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยว ยังใจดีสู้เสือต่อแต่เสือสู้กลับยืมตังค่าน้ำมัน 2000 แล้วหายกริบไปเลย ไงล่ะ555
ไม่ถาม แต่ควรสืบรู้ให้เร็วที่สุด ก่อน2เดือนที่คบกัน ควรดูการใช้จ่ายการใช้เงินตั้งแต่คบกัน
พึ่งโดนถามมาเลย จากคนคุยที่คุยไม่ถึงอาทิตย์ ช็อคจริง
คือถามรายได้ไม่ได้อะ บางคนเค้าก็ซีเรียส ทีนี้สิ่งที่น้องๆ ที่เริ่มอยู่ในวัยทำงาน เจอใครสักคน ควรเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ดูจากการไปกินข้าวดูหนังกันก่อน ว่าเค้าควักจ่ายมั้ย หรือ หารคนละครึ่งก็ได้ ง่ายๆ คือ ไม่ให้มาหนักฝั่งเราก็พอ ช่วยๆ กัน ก็โอเคแล้ว เคยเจอมาทุกรูปแบบ สุดท้ายพอสนิทมากๆ ก็จะรู้จักกันมากขึ้นเองค่ะ 🤣
เข้าใจเลย เปิดประเด็นมาอาจจะดูเหมือน gold digger แต่พอได้ทราบรายละเอียดเจาะลึก เราก็เข้าใจอะ แล้วยิ่งคนเคยมีแผลทางใจกับคนเก่าเรื่องเงินด้วย
แต่เราถามนะ เพราะคบแฟนมา2ปีแล้ว เราต้องวางแผนอนาคต เข้าใจว่าคนตอบคงอึดอัด แต่เวลาก็เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้ารู้ว่าเสียเวลาจะได้ไม่ไปต่อ
ก็คือกะไม่รู้จักกันตอนคบเลยใช่มะ ถามซะหมดเปลือกเลย55555 ส่วนตัวเราว่ามันไม่ควร คนคุยสถานะมันยังไม่ชัดเจน ข้อมูลที่จะถามมันเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย เราว่าคนที่เพิ่งรู้จักและไม่มีสถานะที่ชัดเจนว่าคบกันหรือไม่ มันไม่ควรถามนะสำหรับนี่ หรือถ้าจะถามอาจจะต้องใช้คำที่ซอฟท์หรือถามอ้อมๆ ให้ไม่ดูเสียมารยาท แบบนี้น่าจะพอได้
แนะนำให้ถามเรื่องงาน ตอนนี้ อานาคต ฝันอยากทำไร จากประสบการณ์เราไม่เคยถามค่ะ แต่เขาถามเราว่าอนาคตอยากทำไรบ้าง เราก็เลยบอกเขาว่าเราอยากเป็นแอร์ แต่เงินเดือนมันน้อย เราก็เลยบอกไปว่าเงินแอร์แค่สี่หมื่นเอง เขาก็เลยถามว่าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ เราก็บอก อยากได้สักแสน คุยกันแบบขำๆไม่ได้ซีเรียส เขาก็แนะนำว่าทำไปก่อนเดียวเงินเดือนก็เยอะขึ้น ตอนแรกเขาก็ได้เกือบแสน แสน ตอนนี้แสนห้าแล้ว ✨
เราก็สังเกตเอาค่ะ แฟนเราเขาจะห่อข้าวเที่ยงมากินที่ทำงานทุกวัน เราถามว่ากินอะไร ก็เมนูไข่ตลอด
ไม่ค่อยซื้ออะไรกินเลย เราก็นึกว่าเขาคงไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยไม่ค่อยชวนไปไหน พอคบไปสักพัก เขาแค่ขี้เกียจและชอบกินไข่5555
เราไม่กล้าถามแฟนเราค่ะ ตอนแรกคุยกันเขาก็ขอจ่ายตลอด เราเห็นเขาเป็นคนมีความสามารถ เราดูไลฟ์สไตล์เขา เรื่องส่วนตัว ชีวิตที่ผ่านมาเขาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเอง เรื่องรายได้เขาเรามารู้ตอนคบกันได้สักพัก เพื่อนผู้ชายเราเป็นคนถามเขาค่ะ เพื่อนนี่ก็กล้าถามเนอะ 😅
ไม่ควรถามตรงๆนะ แต่จำเป็นต้องรู้มากๆ
จริงๆรู้ก็ดีค่ะ แต่ว่าอาจจะอย่าถามตรงๆ อาจจะถามเรื่องการใช้ชีวิตน่าจะได้คำตอบบ้าง
เอาจิง ถามไปก็โกหกได้ ต้องสังเกตุเอง
ถามไปไม่ใช้ว่าเค้าจะตอบความจริงนะ แฟน2คนล่าสุด สร้างโปรไฟล์อวดว่าตัวเองมีเงิน ไม่มีหนี้เสีย แต่พอลองใช้ชีวิตรู้จักครอบครัวเค้าอ้าวไม่มีแบบที่พูดนี่นา แต่คือพ่อก็สอนนะว่าไม่ต้องซี พ่อมีให้ตลอด แฟนลูกก็มาเป็นคนในครอบครัว แค่เป็นคนดีก็พอ นิสัยเข้ากันได้ก็พอ เพราะพ่อเราก็เริ่มจาก0เค้าให้โอกาสคนขยันแบบที่พี่หอมบอกเลย
ปัญหาคือเราแค่จะเฟลนิดหน่อยเวลาคนบอกว่าบ้านมีเงินแล้วสรุปคือมีน้อยกว่าบ้านเราเทียบก็ครึ่งๆ แต่ว่าถ้าไม่มายืมเงินเรา เราก็ยังโอเค
ปล. บ้านเราค่อนข้างมีตังค์มีแม่บ้าน ผู้ชายมักจะตกใจ และบางทีก็ทิ้งเราทันทีที่รู้ว่าเค้าจนกว่า
สืบเรื่องเงินทอง เหมือนสืบว่าเขาคบซ้อนไหม แบบนั้นแหละค่ะ
เสียกีไม่พอ ยังต้องเสียตังค์ให้ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ต้องสนับสนุนเกื้อกูลกันให้ดีขึ้นๆ
ของแบบนี้มันไม่จำเป็นต้องถามกันหรอกครับ แค่ศึกษาดูใจกันไม่กี่เดือนก็รู้แล้ว ตกลงคุณอยากรู้หรือ เพื่อนคุณอยากรู้ แล้วเอาไปเม้ามอยในออฟฟิศกันแน่ ระวังจะแย่มากกว่าดีถ้าเชื่อคนในออฟฟิศมากไปน้ะครับ ขอเตือนไว้เลย
ตกลงนี่หาแฟน หรือรับสมัครพนักงานครับ? เชื่อเพื่อนในออฟฟิศ เวลาเดือดร้อน หรือมีความสุขเค้าไม่ได้มาร่วมรับผิดชอบกับเราหรอกน้ะครับ ถ้ากลัวเสียเวลา กลัวนั่นนู่นนี่คุณอย่าเพิ่งมีแฟนเลยครับ สะสมประสบการณ์ชีวิตให้คิดได้เองแล้วค่อยคิดจะมีแฟนดีกว่าครับ เพราะการใช้ชีวิตมันต้องเสียอะไรไปสักอย่างแลกมาเสมอ ถ้าคุณไม่อยากเสียอะไรเลยมันไม่ใช่การใช้ชีวิตหรอกครับ แล้วคนที่ดีและมีพร้อมบางคนอาจจะผ่านเข้าในชีวิตเราแค่แปปเดียว แต่เราดันไปเชื่อคนในออฟฟิศ แล้วพลาดโอกาสเริ่มกับคนที่มีพร้อม มันน่าเสียดายน้ะครับ สังคมออฟฟิศส่วนมากจะหน้าไหว้หลังหลอกครับ น้อยนักที่จะเจอดีๆ
ผมเข้าใจที่พวกพี่ๆคุณอยากให้คุณถาม เพราะคุณเคยมีแผลเรื่องนี้มาก่อน แต่ในมุมมองของผมนะ ผมว่า มันเป็นวิธีการแบบผิวเผินไปหน่อย จะคบคนมันต้องใช้เวลาครับ แล้วตัวคุณเองก็ต้องเปิดหูเปิดตาดูคนที่คุณคบให้ดีๆด้วย ไม่ใช่หลับหูหลับตา แล้วสุดท้ายก็โดนหลอก ต่อให้คุณไปซักเค้าตรงๆนอกจากเสียมารยาทแล้ว อะไรจะการันตีว่าคุณจะได้คำตอบจริงๆ ค่อยๆศึกษาเก็บข้อมูลไปแบบเนียนๆ อย่าใจร้อน ไม่มีทางลัดในความสัมพันธ์นะครับ โชคดี..
รายได้เท่าไหร่น่าเกลียดมากค่ะ
ยกเว้นจะทำประกันด้วยกัน 😂😂😂😂
หลอกถามอาชีพ ระดับการศึกษาไปก่อนค่ะ อาจจะพอวินิจฉัยได้
แล้วก็ถามพ่อแม่เขาทำงานอยู่มั้ย เกษียณรึยัง ทำอะไร
อะไรประมาณนี้ค่ะ
ถ้าถามคือต้องถามก่อนหมั้น ก่อนแต่งค่ะ
ล่าสุดเพิ่งถามไปเองค่ะ คือไม่ได้ตั้งใจอะ แต่สถานการณ์มันพาไป คือคุยเรื่องงาน ที่ค่อนข้างสายอาชีพ ก็เลยถามว่าปกติงานพวกนี้เขาได้เงินเท่าไหร่ (ทำเป็นเผลอหลุดปาก แล้วบอก อุ้ย ถามได้มั้ยง่า) 555เขาก็ตอบปกตินะ
จะถามตรงๆ หรือจะหลอกถาม ไม่ว่าจะกับกันมามากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นจะถามกลับว่าทำไมถึงมาถามแล้วจะภามทำไม เดียวคุณก็อาจจะได้คำตอบในสิ่งที่คุณอยากได้ยินแต่ไม่ใช่ความจริง หรือการที่ผู้ชายจะมองคุณในทางไม่ดีเขาจะรักคุณน้อยลง หรือเขาอาจจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ถ้ามีผู้ชายตั้งคำถามแบบนี้กับผู้หญิงบ้างล่ะจะรู้สึกว่าเขารักอะไรกันแน่
ไม่อะ ไม่ควรถาม แค่ฟังข้อมูลทางอ้อมจะบอกเราเอง
ที่เรางงคือ คนรอบตัวคุณพีที่เค้าแนะนำให้คุณพีถาม คือ คนปกติเค้าไม่ถามกันตรงๆอะ
ควรถามครับ
เอาจริงใช้คำว่า``ใจเขาใจเรา ถ้าเราโดนคำถามนี้เราชอบไหมถ้าเรามีคนเเบบอยู่ข้างๆเราชอบไหมเราชอบให้คนมาเช็คประวัติเราเเบบนี้ไหม????????😯😯
ส่วนตัวแนะนำเลยว่าต้องรู้ไว้ก่อนเลย เราเคยคบกับแฟน แบบตัดสินใจคบแบบตามหัวใจ ไม่ใช่ตรรกะแล้ว ใช้อารมณ์ล้วนๆ ไม่สนเรื่องการเงินและฐาะทางบ้าน บอกตรงๆว่าเหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบกเค้าไว้บนบ่า ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน แรกๆทนได้ พอปีทีสามเราไม่โอ สรุปเลิกกันแบบเราไม่ได้อะไรเลย แม้กระทั่งความสุข
ฉันไม่ถามแฟนฉันแบบนี้เลย นางเป็นคนบอกเราเองว่าเงินเดือนนางเท่าไหร่
ถามได้นะคะ แต่ต้องใช้วิทยายุทธนิดหนึ่ง มันต้องสังเกตุด้วย ศึกษาพูดแบบไหนเค้าจะโอเค
คนเราเกิดมามีหนี้ทุกคน กว่าจะรุ่งเรือง หรือล่วงหรักกว่าเดิม ขึ้นอยู่รายได้และบุญเก่าที่ทำมา
คคหสต. จิงๆ ควรนะ เเต่ค่อยๆ ถามไปเรื่อยๆ สร้างเหตุการณ์บังเอิญแล้วตล่อมๆ หาข้อมูลไปทีละนิด ไม่ใช่ครั้งแรกวันแรกยิงรัวเลยแบบนี้ก็ ไปสมัครยุทำงานเทศบาล แผนกสำรวจสัมโนครัวเหอะ รุ่งแน่😅😅
คบนานหน่อยก็พอเนียนๆถามได้
คุยกันมา2เดือนถามได้ค่ะแต่ใช้คำให้ดีเช่น เราอยากรู้ว่าเค้าเงินเดือนเท่าไหร่ เราจะไม่ถามเค้าแบบนั้นค่ะ เปลี่ยนเป็น เธอทำงานอะไรอ่ะ ถ้าเค้าตอบว่าทำงาน…..อยู่เราค่อยแอบไปหาข้อมูลเอาว่างานนี้ฐานเงินเดือนเท่าไหร่ พอเรารู้ฐานเงินเค้าแล้วแต่เวลาไปกินข้าวหรือสิ้นเดือนมาเค้าไม่มีถ้าทีแสดงความแบบแมนของผู้ด้วยการเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมเราเลย หรือเราอยากรู้มากกว่านั้น ลองพาเค้าไปซื้อของแล้วบอกว่าอยากได้อ่ะอยากกินอันนี้อ่ะ เธอซื้อให้เราหน่อยซิ ของต้องไม่แพงน่ะค่ะ ถ้าเค้าตามใจเราค่อยคุยต่อ แต่ถ้าเค้าบอกเราตังไม่พอ เราคิดได้เลยว่าเค้าอาจมีหนี้ หรือเลี้ยงครอบครัว เรื่องหนี้สินแนะนำให้เป็นสเตปต่อไปหลังคุยกัน 3-4 เดือนแล้วค่ะ
ใช้เวลาสักครึ่งปีก่อนดีมั้ย ค่อยถาม แต่ไม่ถามแบบตรงๆนะ ระยะเวลา จะทำให้เราค่อยๆรู้เอง เพราะถามตรงๆคือเสียมารยาทนะ ถ้าคุยไปนานๆ เรียนรู้กัน สนิทใจ เขาจะเล่าเอง หรือจะปรึกษากันเอง หรือนานพอ ที่จะถามได้ แบบอ้อมๆ อย่างที่พี่ๆแนะ ชีวิตประจำวันเขา มันจะบอกเอง ค่อยๆเป็นค่อยไปก่อน ให้เวลามันพิสูจน์ อย่ารีบร้อน
ปล. อย่าซับพอร์ทใคร หารได้หาร ผลัดกันได้ผลัด ถ้าเปย์ คือจะเปย์ตลอดไปนะ
เราเคยดูกระเป๋าเงินที่เค้าใช้ ราคากระเป๋าเงินจะบ่งบอกเงินเดือนได้อยู่นะ กระเป๋าเงินจะราคาประมาณ 10% ของเงินเดือน
แต่บางทีคนเราก็ใช้กระเป๋าเงินเกินฐานะ แต่สว่นมาก็ดูได้คราวๆ อะ แล้วก็ไลฟ์สไตท์ ราคาอาหารที่กิน ของขวัญที่เค้าซื้อให้กับตัวเอง
จริงๆ มันก็ยากนะเนี้ย 555
ถ้าคิดว่าเค้าจะมาขอแต่ง แล้วเราจะแต่งด้วย ควรถาม
ถ้าไม่ได้คิดเรื่องแต่ง ก็ไม่ต้องรู้ก็ได้
ตอนเราจีบกับแฟนเราก็ถามคำถามนี้กันนะคะ แต่ด้วยความที่เราทั้งคู่ค่อนข้างโตแล้ว 29 กับ 35 เราคุยกันมองหาความสัมพันธ์แบบจริงจังค่ะ คือมองหาอนาคตกันมันเลยจำเป็นต้องถามแล้วตอนช่วงโควิดมันไม่ได้มีโอกาสได้สังเกตไลฟ์สไตล์กันมากเท่าไหร่เพราะไปไหนไม่ได้ แต่ตอนเราถามกันเราเลือกใช้คำพูดค่ะ แล้วก็แสดงเจตนาชัดเจนว่าเราไม่ได้มาเสือกหรือจะมาเกาะเค้าแต่เรามองอนาคตด้วยกันจริงๆ ว่าเราทั้งคู่พร้อมกันประมาณไหน
สังเกตเอาค่ะช่วงคบ เพิ่งจะมาถามตรงๆตอนจะซื้อบ้านด้วยกัน
ควรคบกันศึกษากันไปเรื่อยๆ
BEFORE YOU GET MARRIED discuss bills, parenting styles, credit, debt, religion, how to deal with family, what beliefs will be instilled in your children, childhood traumas, sexual expectations, partner expectations, financial expectations, family health history, mental health history, bucket list, dream home, careers and education, political views and whatever else come to mind. LOVE ALONE IS NOT ENOUGH!“
2เดือนมาถามแบบนี้ ก็คงคิดได้อย่างเดียว หน้าเงินนี่หว่า
เขามีแผลมาก่อนไง ความสัมพันธ์ครั้งใหม่มันก็คงลังเล ในการตัดสินใจ
หน้าเงินแล้วไง ใครก็อยากสบาย ถ้ามันไม่ไปเดือดร้อนใคร ไม่น่าจะใช่ปัญหาป้ะ ชีวิตคู่เรื่องเงินมันสำคัญเหอะ
เหมือนฟังไม่จบ ยุคนี้ยุคไหนแล้ว มันควรต้องพร้อมทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่กัดก้อนเกลือกิน แล้วยิ่งคนมีแผลทางใจกับแฟนเก่าเรื่องเงินอีก
บางคนเป็นหนี้ท่วมหัวทำตัวรวยก็เยอะแยะค่ะ เรามองแค่ภายนอกเรามองไม่ออกนะคะ พอเป็นแฟนแล้วเขาหนี้เยอะจริงๆเราบอกเลิกมันก็จะดูน่าเกลียดพอๆกับตอนถามนั่นแหละค่ะ
ล่าสุดเจอแบบคุยวันเดียวถามเงินเดือน เราก็ตอบให้ วันอื่นๆก็ไม่ค่อยคุย พอมาวันที่5 ถามเงินเก็บเรา เราบอกมี 50k แผนอนาคตเรากืไม่บอก เพราะเรามองเค้าว่าเป็นคนมองที่เงิน แต่เค้าบอกเป็นคนตรงๆไม่อยากเสียเวลา เกิดมาเพิ่งเคยเจอ😂
ถ้าคบกันเป็นแฟนเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องต้องถามเรื่องเงิน เรื่องหนี้ แต่ถ้าจริงจัง อาจจะถึงขั้นแต่งงานควรรู้เรื่องหนี้สิน อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ถ้ารู้หลังแต่ง
เคยเจอ ถามว่ามีตังฝากธ. เท่าไร มีทองกี่บาท มาเปิดตู้เสื้อผ้า เลิกเลยจ้าาา
รำคาน
เรื่องส่วนตัว มีไว้เล่า ไม่ได้มีไว้ถามค่ะ ความเห็นเรานะ
ควรถาม แต่ควรเลือกสถานการณ์ เลือกคำถามเนียนๆ
ลองดูพฤติกรรมการใช้เงินและตำแหน่งงานก็ได้คร่า เงินเดือนเท่าไหร่ไม่สำคัญหรอก การใช้เงิน วินัยการออมเงินสำคัญหว่า มีเยอะใช้เยอะก็มีนะ😂😂😂😂
ถ้าถามคนที่เราคิดว่าจะใช่ ถามเลยคะ ใช้คำพูดดีๆหน่อย สืบสังเกตุเพราะเดียวจะได้ ปลิงแทนผัว บางผู้สร้างโปรควายมาดีนะ ว่ามีบ้าน เรากํคิดว่าดี มีหัวนอนปลายเท้า มีรถ เราก๋ว่าดี แม้จะผ่อน ก็ถือว่ามีวินัยสร้างตัว ....สุดท้ายเจอปลิงคะ บ้านที่ว่ามีบ้านคนอื่นคะ ปลอมว่าบ้านตัวเอง รถที่ว่ามี รถน้าน ของคนอื่นๆๆๆ
สุดท้ายได้ปลิงไล่ไม่ไปเพราะมันไม่มีที่ไป คนที่อายุเลขสี่แต่ไม่มีอะไรเลย แสดงถึงศักยภาพ แถม ขี้เกลียด ขี้ยักยอก หมกเอาเงินเรา
ไม่ได้ให้เห็นแก่เงิน เพราะคนที่กังวลเรื่องนี้คือผู้หญิงที่สร้างตัวและมีความรับผิดชอบตัวเอง
คุณเผือกพูดถูก ทุกประการต้องศึกษาดูใจ คงต้องย้อนไปยุครักนวลสงวนตัว
สังเกตุจากวิถีชีวิตก็พอรครับ ถามกันไปก็เท่านั้น ถ้าเขามีกิจการรวยมีทุกอย่างแต่หนี้สิน เขามี 100 ล้าน คุยยังอยากอยู่กับเขาไหม คนรวยก็ใช่ว่าจะไม่มีหนี้นะครับ เพื่อนผมลูกเจ้าของปั้มน่ำมัน โรงแรม ฟาร์มเห็ด ร้านค้าปุ๋ย มันเคยบอก มีหนี้ อยู่เกือบ 80 ล้าน เพราะ พ่อแม่ กู้ธนาคาร มาทำ ปั้ม ปต... กับ โรงแรมเพิ่ม ทุกวันนี้ ขอยืดดอกจากธนาคาร เพราะ วิกฤตcovid เราไม่รู้ ความจริงหลอกครับ เขาอาจจะบอกแตอาจจะบอกไม่หมดเขาก็ไม่ผิด
ถ้าเป็นเพื่อนไม่ควรถาม ถ้าจะเป็นแฟนควรถามมากๆ
เราสมัครแอปหาคู่แอปนึง พึ่งปัดไปเจอ อี ผช.ยิงคำถามแรก ทำงานอะไรครับ กูนี่อึ้งเลยค่ะ มึงจะไม่ถามชื่อ ถามสำเนาอะไรกูก่อนรึไง55555 แต่ในเมื่อมันกล้าถาม กูก็กล้าตอบ “เรื่องส่วนตัว อย่าสาระแนค่ะ” บล็อกกูเฉย
ส่วนใหญ่คุณจะรู้ถึงหนี้สินที่แท้จริงของคู่ของคุณ หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว
ควรถามค่ะ แต่ต้องรอเวลามันจะมีเวลาที่เหมาะสมที่จะรุ้ที่จะถามค่ะ