ปราชญ์ชาวบ้าน หมอพราหมณ์สู่ขวัญเสียงลูกคอ 9 ชั้น บ้านโพนแพง ตำบลห้วยยาง.
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 29 ต.ค. 2020
- ประเพณีการสู่ขวัญ
ประเพณีการสู่ขวัญ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านาน เรื่องเกี่ยวกับความเชื่อขวัญหรือจิตใจ เมื่อสู่ขวัญแล้วจะทำให้มีกำลังใจที่ดีขึ้นและเป็นสิริมงคล
พิธีบายศรีสู่ขวัญของภาคอีสานมีองค์ประกอบของพิธีดังนี้
๑. พานบายศรีหรือต้นบายศรี ทำด้วยใบตองดอกไม้สด ปัจจุบันดัดแปลงเป็นผ้าแพร กระดาษ และดอกไม้ประดิษฐ์แทน เพราะการทำด้วยใบตองดอกไม้สดเป็นภาระยุ่งยาก ต้องใช้กำลังคนมาก และเก็บได้ไม่นาน เมื่อเย็บบายศรีแล้ว จึงนำไปประกอบลงในโตก พาน หรือขัน ซ้อนกันเป็นชั้นๆ แล้วประดับด้วยดอกไม้มงคล เช่น ดอกรัก ดอกบัว ดอกบานไม่รู้โรย ดอกบานชื่น ดอกดาวเรือง ดอกมะลิ หรือประกอบเป็นต้นบายศรี ๓ ชั้น ๕ ชั้น ๗ ชั้น และ ๙ ชั้น ตามฐานะ ยศ ตำแหน่ง ฐานันดรของบุคคลผู้รับการบายศรีสู่ขวัญ
๒.เครื่องสังเวย มีไก่ ไข่ไก่ อาหารคาว-หวาน สุรา ยาสูบ ผลไม้ มะพร้าวอ่อน ดอกไม้ธูปเทียน ขันห้า
๓. ด้ายผูกขวัญ (ผูกข้อมือ) ใช้ด้ายดิบสายสิญจน์
๔. หมอสูดขวัญ (ไม่ใช่พราหมณ์) เป็นผู้อาวุโสคงแก่เรียนในท้องถิ่นนั้นๆ อาจเป็นหญิงหรือชายก็ได้
แต่ต้องมีพร้อมทั้งวัยวุฒิ และคุณวุฒิ
๕. ผู้ฟ้อน แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มเชิญบายศรี และกลุ่มฟ้อนเชิญขวัญ
๖. ผู้แห่ห้อม (ตู้มห่อ) คือ ชายหญิงผู้นั่งล้อมบายศรี เพื่อช่วยร้องเรียกขวัญในขณะทำพิธี
ผู้ประกอบพิธีผูกข้อมือต้องเป็นผู้เฒ่าผู้แก่หรือผู้อาวุโสชายหญิง ส่วนเด็กและหนุ่มสาวจะเป็นบริวารรุมล้อมแห่ห้อม ช่วยกันร้องเรียกขวัญเท่านั้น
**ขอขอบคุณปราชญ์ชาวบ้าน ด้านด้านศิลปวัฒนธรรมและประเพณี **หมอพราหมณ์* พ่อนิทรา กำแก้ว หมอพราหมณ์บ้านโพนแพง ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี. โทร.0807326997
ม่วนหลายครับ
เอาคำสู่ขรัวญธรรมดามาสู่แต่งงานสงสัยท่านบ่หยากท่องเขามีแต่ละอย่างเขามีบทสู่แต่ละงานอันนี้บทสู่ธรรมดา
อยากได้เนื้อคำสูตรขวัญ
ไม่มีเนื้อครับ