ทำไม คนรวย ชอบซื้อประกัน? | คุยกับ โค้ชต้น นักวางแผนการเงิน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 1 พ.ย. 2021
- ทำไม คนรวย ชอบซื้อประกัน? วันนี้เราจะมาพูดคุยกับ พี่ต้น นักวางแผนการเงินกัน
เราเคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมเราเห็นนักธุรกิจหลายๆ คน เลือกซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ แพงๆ กัน บางคนซื้อปีละเป็นหลักล้านบาท เพราะมูลค่าขนาดนั้นไม่ใช่เพื่อแค่การลดภาษีแน่ๆ
วันนี้เราจะมาคุยมุมมองการวางแผนการเงิน กับโค้ชต้น นักวางแผนการเงิน (พี่ต้น T2LA) กันครับ
#วางแผนการเงิน
#โค้ชต้นนักวางแผนการเงิน
#NopPongsatorn - บันเทิง
** ขออภัยเรื่องเสียงด้วยนะครับ พอดีเจอพี่ต้นโดยบังเอิญ วันนั้นอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์แบบ ทีมงานพยายามตัดออกมาอย่างเต็มที่แล้วครับทุกท่าน -/\-
⭐คอร์ส สรุป MBA ใน 10 วัน bit.ly/mba-10
⭐คอร์ส ใช้ Data ทำธุรกิจในยุค 4.0 bit.ly/40data
🔥ห้องเรียน วงใน bit.ly/line-nop
📌อย่าลืม กดติดตาม TH-cam bit.ly/yt-nop
📌Facebook bit.ly/FB-nop
📌LINE bit.ly/line-nop
คุณต้นใช้ประกันตัวไหนครับ
คุณลุงนักขายประกันมือทองของประเทศไทย เคยสอนผมว่า การซื้อประกันให้ซื้อตามความเสี่ยง
ด้วยคำสอนนั้น เรารู้นิสัย รู้อาหาร การงานอาชีพ อะไรต่างๆของตัวเอง ย่อมประเมินความเสี่ยงของตัวเองได้อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็หาข้อมูลเพิ่มได้ ไปหาสถิติต่างดูได้
ตำรวจ กู้ภัย โรงพยาบาล สาธารณสุข อะไรต่างๆเขามีสถิติพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่เราเสี่ยงน้อยก็ไม่ต้องรีบทำประกัน
เมื่อพิจารณาดูแล้วก็เห็นจริงตามที่ท่านสอน เพราะความเสี่ยงนั้นมีตัวแปรที่มีนัยสำคัญบางตัวสามารถแจกแจงได้เช่น
อายุน้อย อายุเยอะ อาหารการกินต่างกัน สภาพที่อยู่ต่างกัน สังคมรอบข้าง อาชีพต่างกัน ความเสี่ยงเรื่องโรค เรื่องอุบัติเหตุต่อร่างกายและทรัพย์สินก็ต่างกัน
บริษัทประกันเขาก็ตัดเรทอายุอะไรต่างๆใว้แล้ว เราประเมินตัวเองให้ได้สักครึ่ง ศึกษาข้อมูลอีกสักครึ่ง ก็ซื้อความเสี่ยงให้เหมาะกับตัวเองได้
ดังนั้น เราก็ทำประกันเฉพาะความเสี่ยงหลักๆสักสองสามด้าน ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันแบบเหมาโหลครอบจักรวาลให้เงินจมหรอก
สำหรับคนที่รายได้น้อย ผมแนะนำแยกแยะความเสี่ยงของตัวเองแล้วทำประกันเฉพาะด้านไปก่อนสักหนึ่งตัว เพียงวงเงินน้อยๆก็ได้ครับ
จะอุบัติเหตุ หรือสุขภาพ หรือทรัพย์สิน ก็แล้วแต่ เงื่อนใขความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญสูงต่างๆนั่นหละครับ ไม่ต้องทำประกันแบบเหมาโหลรอบด้านออมเงินต่างๆหรอกครับ
เพราะเอาเงินส่วนนั้นไปลงทุนตรงๆเลยเป็นการเพิ่มโอกาสหาเงินให้ตัวเองในช่วงที่เรายังมีแรงคิดทำงาน จะดีต่ออนาคตมากกว่าครับ
เราซื้อประกันมาได้6ปี ปีละสามหมื่นกว่าบาท เราเข้า รพ.แค่ครั้งเดียว ที่ซื้อไว้ไม่ใช่อยากเข้า รพ. แต่ซื้อความเสี่ยงที่เราไม่รู้ว่าวันไหนเราจะเจ็บป่วย
คนญี่ปุ่น กับคนไทยต่างกัน ทั้งฐานะ เเละ รายได้ประชากร..
ประชาชนเงินเหลือ ไม่ยากจน ประกันจะขายได้ดีตามไปด้วย...
ในทัศนะผม มองว่า
การซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ
บางมุม แสดงถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างเห็นได้ชัด ... คนรวยสามารถซื้อประกันได้ ประกันความเสี่ยง โดยไม่เดือดร้อน
แต่คนจน เงินจะกินจะใช้แต่ละวันยังไม่มี ก็ต้องรับความเสี่ยงในชีวิตทุกด้าน
ถ้าระบบรัฐดี อย่างประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ที่เป็นรัฐสวัสดิการ ปชช.ทุกคนมีสวัสดิการที่ดี การคลอดบุตร การรักษาพยาบาล แม้แต่เงินเกษียณอายุที่เพียงพอและทั่วถึง อาจรวมไปถึงขนส่งสาธารณะฟรี หรืออื่นๆ
คนทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างทั่วถึง
ลดความวิตกกังวล เรื่องเวลาชราภาพ ทุพพลภาพ
ทั้งนี้ สวัสดิการที่ดีเยี่ยม ย่อมต้องตามมาด้วยการเก็บภาษีที่มากขึ้นและเป็นธรรม แต่ในความจริง เงินภาษีส่วนใหญ่ 30%กว่า ประเทศไทยมาจากvat ซึ่งมาจากคนจนและคนชั้นกลาง เป็นผู้จ่ายภาษีส่วนใหญ่
ปัจจุบันนี้เริ่มมีการไล่บี้เก็บภาษีคนรวยจากที่ดิน การลงทุนในหุ้น คริปโต แต่ก็ถือว่ายังน้อยอยู่
ประกันก็จะมีบทบาทเป็นเพียง คนที่ซื้ออยากได้คุณภาพที่พรีเมี่ยมมากขึ้น
หรือประกันอื่นๆ ประกันรถ บ้าน ทรัพย์สิน
มันไม่ใช่แค่ความเหลื่อมล้ำภายในประเทศหรอก มันมีความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศด้วย เช่น อเมริกาเอาเปรียบคนทั้งโลก ผลิตเงินขึ้นมาโดยไม่ต้องมีทองคำค้ำ เงินที่ได้ก็พยุงเศรษฐกิจของประเทศและให้สวัสดิการประชาชนของเค้า
@@wittywon9727 ปกติครับ ประเทศชนะสงคราม
แก้ไขข้อความตัวเองนิดนึง
ประเทศไทยและอีกหลายประเทศก็ไม่ได้ใช้ทองคำค้ำแล้ว(หรือใช้น้อยมาก) แต่จะใช้เงินสำรองระหว่างประเทศค้ำในการปั๊มเงินออกมา
ส่วนอเมริกาเหนือกว่านั้น คือ ใช้เครดิตตัวเองค้ำ เพราะประเทศอื่นมักจะมีเงินสำรองระหว่างประเทศเป็นดอลลาร์จำนวนมาก จึงทำให้มีเครดิตหนาในการปั๊มเงินออกมา ส่วนที่มาที่ทำให้ใครๆก็ถือดอลลาร์มันมีทั้งด้านสว่าง เช่น เศรษฐกิจดี, ส่งออกมาก และด้านมืด เช่น ทำสัญญาเปโตรดอลลาร์
เข้าใจง่ายทุกคลิปครับ ทั้งคุณนพและแขกรับเชิญทุกๆคนครับ ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆครับ
จริงมากๆค่ะ ส่วนตัวเองที่เป็นตัวแทนประกันชีวิตอยู่ จะใช้ประกันเป็นตัวช่วยในการวางแผนการเงินให้ลูกค้า ให้เค้าเห็นประโยชน์และข้อมูลในทุกด้าน เลยรู้สึกเห็นด้วยกับข้อมูลหลายๆอย่างในคลิปมากๆค่ะ
ขอบคุณอาจารย์นภ และโค้ชต้นมากๆครับ
ข้อมูลดีมากเลยค่ะ
เยี่ยมเลย🥰
ได้ความรู้จากคุณต้น ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ได้มุมมองใหม่เลยครับ
ข้อมูลดีมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ
FCพี่ต้นครับ FCคุณนพเช่นกัน
คนญี่ปุ่นส่วนมากจะมีประกันชีวิตกัน ทุกๆปีทางบริษัทจะขอใบเสร็จประกันในช่วงเดือน 11 เพื่อเอาไปลดหย่อนภาษี ครอบครัวที่บ้านมีกันทุกๆคน สามีมี 2 ประกัน
เห็นแจ้งเตือนเด้งขึ้น ก็รีบมาฟังความรู้เลยค่ะ
ดีใจที่เป็นประโยชน์นะครับ 😃
ติดตามพี่ต้น ได้ที่ช่อง T2LA หรือกดที่นี่เลยครับ bit.ly/3GHwcBO
ขอบคุณครับนพ
มันเป็นเรื่อง วิสัยทัศน์ของคน (( คนส่วนใหญ 95 % ในโลก คิดตื้น ๆ น่ะ )) ... รายได้ ✓= ความสามารถในการคิด บริหาร จัดการชีวิต และ รายได้
เขาแค่เผยเคล็ดลับว่าทำไมคนรวยถึงซื้อประกัน
เขาไม่ได้บอกว่าจะต้องรวยถึงซื้อได้
ไม่รวยก็ซื้อได้ครับ
ประกันชีวิต ประกันรถยนต์
มันผ่อนได้
เลือกซื้อตามงบของตัวเอง
ส่วนพวกบ่นว่าไม่มีตัง
แนะนำทำงานเก็บเงินครับ
แล้วก็หางานเสริมทำ
ไม่ใช่ว่ามาบ่นไม่มีตังแล้วเอาเงินไปหมดกับเหล้าเบียร์บุหรี่
นั่นก็ไม่แปลกที่มึงจะไม่มีตัง
เกือบจบสวยละ
ขออนุญาตสอบถามค่ะ ประกันบำนาญน่าทำไหมค่ะ
@@user-kk1gk5xn6r มันจะมีข้อเสียอยู่ครับ ประกันคือไม่อยากให้มองเป็นการลงทุน อยากให้มองเป็นการป้องกันความเสี่ยงไปเลย ไม่ต้องสนว่าจะได้รีเทิร์นเพราะมันจะแลกมากับบางสิ่งที่หายไป ประกันมองให้เป็นประกันมองที่ครอบคลุมความปลอดภัยกับตัวเราให้มากและดีที่สุดครับ
ไม่เจอ คือขาดทุนทางการเงิน แต่ได้กำไรทางด้านความสบายใจ
เพราะคนจนไม่มีเงินซื้อ อยากซื้อเหมือนกัน
ลองคิดเรื่องพื้นฐานขั้นต่ำที่ทุกคนต้องใช้ เอาคนเงินเดือน 15,000 บางที่ไม่ถึง ประกันแบบต่ำๆ 20-30k
รายจ่ายทั่วไป
- ข้าว 3 มื้อ มื้อละ 30-50บาท *30 = 900-1500
- การเดินทาง ในกทม ค่ารถไฟฟ้าก็แสนแพง วันละ 150 * 22 วัน = 3300
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3000-6000
- อื่นๆ 3000
รวมๆ 13-14k แทบจะหมดแล้วเงิน ออมเดินละ 1-2000 เพื่อซื้อสรุปไม่มีเงินเก็บ
ลองพิจาณาแบบนี้ ส่วนใหญ่ คนที่รายได้ไม่สูง กำลังสร้างตัว
ถ้าเกิดป่วย นายจ้างเลิกจ้าง อาจกระทบปัญหา
หากป่วย ก้อใช้ บัตรทองได้ ประกันสังคมได้
เป็นผมจะข้ามเรื่องประกันสุขภาพ
แต่อาจทำแค่ คุ้มครองรายได้ กับ โรคร้ายแรง ตั้งงบสักเดือนละพันกว่า ก็ช่วยเวลาเกิดเหตุได้
รายจ่าย 13000 หากเกิดเหตุ ได้เงินก้อนมาสักห้าแสน อยู่แบบไม่เครียดได้สักพัก
ลูกค้าผมเพิ่งเจอมะเร็งปอดไป รายได้เดือนละ 30000 ตอนนี้ได้เงินก้อนมา 3ล้าน ค่ารักษาเบิกตามสวัสดิการที่มี ยกเว้นยาบางตัวที่ก้อพิจารณาหาที่ถูกสุดมาช่วย ก้อคุยกันว่า หลังจากรักษา อย่าไปคิดเรื่องหาเงิน พักผ่อน สักปี สองปี
ว่างก็อ่านเรียนรุ้จากอินเตอร์เน็ตไปก่อน
ในวันที่เจอโรคร้าย ก็ไม่ควรจะโชคร้ายซ้ำ
@@T2LA
คุณลุงนักขายประกันมือทองของประเทศไทย เคยสอนผมว่า การซื้อประกันให้ซื้อตามความเสี่ยง
ด้วยคำสอนนั้น เรารู้นิสัย รู้อาหาร การงานอาชีพ อะไรต่างๆของตัวเอง ย่อมประเมินความเสี่ยงของตัวเองได้อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็หาข้อมูลเพิ่มได้ ไปหาสถิติต่างดูได้
ตำรวจ กู้ภัย โรงพยาบาล สาธารณสุข อะไรต่างๆเขามีสถิติพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่เราเสี่ยงน้อยก็ไม่ต้องรีบทำประกัน
เมื่อพิจารณาดูแล้วก็เห็นจริงตามที่ท่านสอน เพราะความเสี่ยงนั้นมีตัวแปรที่มีนัยสำคัญบางตัวสามารถแจกแจงได้เช่น
อายุน้อย อายุเยอะ อาหารการกินต่างกัน สภาพที่อยู่ต่างกัน สังคมรอบข้าง อาชีพต่างกัน ความเสี่ยงเรื่องโรค เรื่องอุบัติเหตุต่อร่างกายและทรัพย์สินก็ต่างกัน
บริษัทประกันเขาก็ตัดเรทอายุอะไรต่างๆใว้แล้ว เราประเมินตัวเองให้ได้สักครึ่ง ศึกษาข้อมูลอีกสักครึ่ง ก็ซื้อความเสี่ยงให้เหมาะกับตัวเองได้
ดังนั้น เราก็ทำประกันเฉพาะความเสี่ยงหลักๆสักสองสามด้าน ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันแบบเหมาโหลครอบจักรวาลให้เงินจมหรอก
สำหรับคนที่รายได้น้อย ผมแนะนำแยกแยะความเสี่ยงของตัวเองแล้วทำประกันเฉพาะด้านไปก่อนสักหนึ่งตัว เพียงวงเงินน้อยๆก็ได้ครับ
จะอุบัติเหตุ หรือสุขภาพ หรือทรัพย์สิน ก็แล้วแต่ เงื่อนใขความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญสูงต่างๆนั่นหละครับ ไม่ต้องทำประกันแบบเหมาโหลรอบด้านออมเงินต่างๆหรอกครับ
เพราะเอาเงินส่วนนั้นไปลงทุนตรงๆเลยเป็นการเพิ่มโอกาสหาเงินให้ตัวเองในช่วงที่เรายังมีแรงคิดทำงาน จะดีต่ออนาคตมากกว่าครับ
คุณ Nop ครับ อยากให้ทำคลิปเรื่องประกันควบการลงทุนหน่อยครับ
คนแรกเลย คริปนี้
มาเร็วมากครับ 😄😄
ผมสนใจครับ แต่คนที่มาพูดเรื่องประกัน อาจจะเตรียมข้อมูลหรือเตรียมตัวมาไม่ดี ทำให้ขาดความหน้าสนใจ
ดิฉัน ...เคยมีรายได้เดือนละ 4000 บาท ..ต้องมี พ่อทีาต้องดูแลอีกคน ..ยัง ดูแลได้...และ หยอดกระปุกวันละ 5_10 บาท...จนซื้อ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ( เบี้ยประกันถูกสุด ) ...พอมี การเจ็บป่วย ก้อไม่มีกังวลต่อการรักษา & มีเงินชดเชยรายได้ วันละ 1000 บาท โดยไม่ ต้อง เอาเงินที่มีน้อยมาก มาจ่าย เ ล ย ( จ่ายจำนวนแน่นอน ปีละ 1 ครั้ง)... ค่อยๆ เก็บ ..ในวันต่อไไป เพื่อเบี้ยประกันปีต่อไป
ใช่ค่ะ ดิฉันมีประกัน 7 กรมธรรม์
มีคนกล่าวไว้ว่า...ไก่ตาย1ตัวยังขายได้ราคา ถ้าเราตาย คนเราก็ควรมีราคา
มากน้อยแล้วแต่คุณค่าของแต่ละคน
ผมคนจน อยากซื้อประกันเหมือนคนรวย แต่ไม่มีเงิน
การที่มีทรัพยากรจำกัดแต่จัดสรรแล้วเกิดประโยชน์ได้สูงสุด ผมว่าเก่งมากเลยครับ
ประกันสมัยนี้ บางคนนอกจากทำประกันแล้ว ยังบริหารการเงินให้เราด้วย(Financial Advisor)
บางคนมี single license เลยด้วยซ้ำ เด็กการเงินจะรู้ว่า ใบนี้ได้มายากมาก 🤣🤣
แต่พี่คนนี้ พูดดีมากคับ ส่วนมากคนที่ขายประกันจะไม่ค่อยวางแผนอะไรให้เราเลย ยัดๆ แต่ของแพงๆ 😅😅
ขอบคุณค้าบ หากสนใจรถยนต์ไฟฟ้า การเงิน เทคโน แบบสายใช้ชีวิต มาเยี่ยมที่ช่องนะครับ
เงินครับ ทุกคนอยากซื้อ แต่แค่ให้มีกินในแต่ละวันก็ยังไม่พอ
เขาให้ผ่อนได้นะ ดูคลิปจบไหม
ไม่มีเงิน ไม่มีจริง ค่ะ ถ้าต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ ทุกคนสามารถหามาจนได้ สำคัญคือ การจัดสรรเงินให้เหมาะสม
@@saiparnzaabadgirl5816 เราคงเห็นสังคมไทยในด้านที่ต่างกัน
@@rujipattom1725 เราคงเห็นสังคมไทยในด้านที่ต่างกัน
@@pichedsriwanitchayagorn5735 ผมแค่จะบอกว่า
การมาบ่นว่าไม่มีตังแล้วมันทำให้มีตังขึ้นมาไหมครับ
ทำงานเก็บเงินสิครับ
ผมก็ไม่ได้รวย ทำงานเก็บเงิน
ประกันผมก็จ่ายแบบผ่อน
ส่วนมากเขาผ่อนทั้งนั้น
คนรวยเขาก็ผ่อน
โดยส่วนตัวชอบเก็บเงินแบบไม่เสี่ยงมากเลยทำประกันเยอะค่ะไม่รู้ความคิดนี้จะถูกหรือเปล่า
ผ่าไส้ติ่งที่สมิติเวชสุขุมวิท ยังแค่ 170,000 บาท
10ปีก่อน บำรุงราษฎร์ 2แสน ตอนนี้ 4แสน
มะเร็งลูกค้าผม 5-10ล้าน แต่เราก้อเลือกรพ อื่นๆได้ครับ
สำหรับผมหน้าตักคนทั่วไป รักษารพ ปกติ 5ล้าน-10ล้าน ก้อช่วยไม่เดือดร้อนได้เยอะแล้ว มากกว่านี้ก้อแพงขึ้นไปคับ
คลิปนี้เสียงก้องๆไปนิดนึงคับ
ไม่ใช่ไม่อยากทำประกัน ประสบการณ์กับประกันที่ผ่านมา ไม่ดี
ล่าสุด ประกันภัยโควิด จู่ๆบริษัทประกันออกมาบอกไม่จ่าย ลอยแพลูกค้า
ถ้าไม่บังคับ คงลอยนวล เป้าหมายบริษัทประกันไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของลูกค้า
ทำงานแบบ ตีหัวเข้าบ้าน
ถ้าติดตามผม จะแจ้งแต่แรกเลยว่า ไม่แนะนำให้ทำประกันโควิด ด้วยราคาขายกะสิ่งที่ได้ ผมกังวลตั้งแต่ประกาศ และก็คิดอยู่ว่า คนให้บริการลำบากแน่ถ้ารัฐจะทำ herd immu เหมือน UK ตอนนั้นคิดยังไงก็คิดไม่ออก ได้แต่บอกน้องตัวแทนด้วยกันว่าสื่อสารลูกค้าเรื่อง ความเสี่ยงการที่สัญญามีปัญหาดว้ยนะครับ
แต่เรื่องประสบการณ์อื่นๆเล่าสู่กันฟังได้นะ ส่วนใหญ่เกิดจากบุคคล ไม่เกี่ยวกับประกันเท่าไร
** ความเสี่ยงภัยชีวิต ** ทุกคนในโลก ...มี ทุกคน แตกต่าง แค่ ...วัน _ เวลา _ วิธีจะเจอ ภัยแห่งความเสี่ยง นั้น ๆ ...เมื่อ ไร ?? คุณ เห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง แค่ไหน ??
เพิ่งรู้ว่าพี่ต้นเป็นรักวางแผนการเงินด้วย ติดตามแต่เรื่องเทคโนโลยี 😂
ก็เพราะสนใจ gadget นี่แหละครับ จึงต้องวางแผนการเงิน ไม่งั้นกินแกลบแน่ๆเลยคร้าบบบบ แต่อย่างรถ Tesla นี่ก้อได้จากการวางแผนนะครับ ตอนสัมภาษณ์กะนพมีเนื้อหาส่วนนี้ตอนทดสอบรถกัน เสียดายวิดิโอมันภาพกะเสียงไม่ดีเท่าไรครับผม
ประกันเมืองไทยแพงกว่าที่อเมริกา แล้วให้พอๆกันที่ 30persent
ตัวไหนยังไงบ้างครับ ..... ถ้าในส่วนของ Term ในตอนนี้ใช่คับ เพราะยังไม่ re-price แต่อีกไม่นานคับ
อย่าลืมอย่าโลกสย ว่าบริษัทประกันเมื่อเจ็งเราผู้เอาประกันเมื่อครบเงื่อนไขกรมธรรม์ หากบริษัทไม่จ่ายล้มละลายกเราเสียเงินฟรีๆ
😉😉😉😉😉
ถ้ามีคลิปนี้ตอน 5 ปี ที่แล้ว
คงไม่ต้องจ่ายค่าประกันเยอะขนาดนี้
😂 ขอบคุณที่มาแชร์ความรู้ให้ฟังจะนำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนในอนาคตต่อไปค่ะ 🙏🙏
รวยแล้วซื้อประกันดูปกติ รวยแล้วไม่ซื้อประกัน นี่สิดูแปลกกว่า
ผมชอบให้ไอเดียแบบนี้ จิงบ.ประกันก้อเหมือนเจ้ามือคับ
เค้าก้อดุแลได้ไม่ทุกกลุ่ม
อย่างสุขภาพ ดูแลได้ดีสุดก้อร้อยล้าน ประกันชีวิตก็พันล้าน
ดังนั้น หากอยากได้คนดูแลความเสี่ยงเกินกว่านั้น ถ้าไม่ไปเมืองนอก
ก็ต้องดูแลเอง เพราะเจ้ามือก็กลัวครับ
แขกรับเชิญหล่อทั้งหน้าตาและความคิดจริงๆคนนี้
ผมนี่ต้องมาส่องคอมเม้นเลย สรุปหน้าตาดีสุดคือคนเม้น ครับ
ขอนแก่นคอนเน็คชั่น55+
555 😂
พวกนี้ไม่มั่นใจเงินในอนาคต
เงินประกันคือเงินเรา,มารักษาเรา
ถ้ามีเงินหรือเก็บเก่งประกันก้อไมามีความหมาย
มันเป็นธีรกิจคนรวย
ที่ทำงานโดยไม่ใช้เงินตัวเอง
ผมว่าไม่ได้ชอบนะ กว่าจะขายประกันคนรวยได้ไม่ใช่ง่าย
ที่จริงเรื่องทัศนคติการซื้อคล้ายกัน แต่การที่มีทรัพยากรให้จัดสรรมากกว่า ก็ตัดสินใจได้เร็วกว่า
ก็มีเงินไง
คุณต้น พูดรัว ไม่ชัดครับ
ขออภัยนะครับ
ส่วนตัวคิดว่าซื้อประกันชีวิตคือการลดความเสี่ยงและเตรียมการล่วงหน้าเพื่อความไม่ประมาทในชีวิตอย่างน้อยถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกะเราคนข้างหลังและครอบครัวจะได้ไม่ลำบากขอบคุณมากนะคะสำหรับความรู้ดีๆที่ช่องนี้มีให้เสมอเลย