ถึงเวลาปิดฉาก กำแพงกันคลื่น ? | Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 29 ก.ย. 2024
- ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการสร้างกำแพงกันคลื่นแล้วกว่า 125 โครงการ ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 8 พันล้านบาท แต่กลับไม่สามารถรักษาชายหาดเอาไว้ได้ ทั้งยังสร้างปัญหาตามมาอีกมากมาย
Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS ลงไปค้นหาคำตอบ “ถึงเวลาปิดฉาก กำแพงกันคลื่นแล้วหรือยัง”
ติดตามชมรายการ Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS ตอน ถึงเวลาปิดฉาก กำแพงกันคลื่น ? วันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. 2566 เวลา 13.00 - 13.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or....
#BigStory #สิ่งแวดล้อม #กำแพงกันคลื่น
----------------------------------
👉 กด Subscribe ติดตามรายการดี ๆ ของช่อง ได้ที่ : thaip.bs/YSBht5j
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : www.thaipbs.or.th
Facebook : www. ThaiPBS
Twitter : / thaipbs
Instagram : / thaipbs
LINE : www.thaipbs.or....
TikTok : / thaipbs
TH-cam : / thaipbs
ภาครัฐขาดการวิจัย ขาดองค์ความรู้ ทำเปลืองงบ แต่ไม่จบปัญหาเน้นทำไม่เน้นผลรับที่ได้
ใช่ครับ
เน้นงบ ไม่เน้นคุณภาพ เพราะเป็น เงินภาษี ไม่เสียดาย
โครงการก่อสร้าง ของรัฐต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ถ้าคุณไม่เจอกับครอบครัวตัวเอง คงไม่รู้สึกหรอก
มันไม่คำนึงหรอก พวกมันวีไอพี เวลามันเที่ยว มันเที่ยวต่างประเทศโน่น จิบวาย ขวดละแสน
เรื่องป้ายเตือน แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งไม่มีป้ายเตือนอันตรายให้นนท.ทั้งไทยเทศ เช่นไรหรือลิ้นทะเล ที่อยู่ในทรายตามชายหาดที่เกาะช้าง โดยเฉพาะหาดคลองพร้าว จะตัวเล็กมาก กัดทีขาลาย เป็นตุ่มอักเสบ แต่หน่วยงานเกาะช้างหรือโรงแรมไม่มีป้ายเตือน ใครโดนแมลงกัดก็ไปรักษากันเอง ฝรั่งก็ได้แต่เขียนเตือนกันในโซเซียลมิเดีย
ชะอำ ไม่น่าเที่ยวเลย มีกำแพง หมดความสวย
ตอนนี้เลยไม่อยากไปชะอำเลยค่ะ
ถ้าทำเป็นบันได พอมันสู้น้ำทะเลไม่ได้ โครงสร้างจะพังเหมือนเป็นชายหาดร้าง
ถ้าจะทำกำแพงกันคลื่น ซึ่งจะทำให้หาดหายไป ทำไมไม่ทำ แนวปะการังแทนครับ ใช้งบน้อยกว่ากันเยอะเลย
ผมว่ามันหาเรื่องกินงบมากกว่า
ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วรัฐจะโดนฟ้องยับ แต่นี้ประเทศยังไม่พัฒนาเลยเป็นแบบนี้
ปัญหาคือสิ่งปลูกสร้าง(จ่ายส่วย)ที่อยากสร้างอาคราที่พักให้ติดชายหาด เพื่อให้คนที่เข้าพักเข้ามาเที่ยวเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงชาดหาด และเมื่อสริ่งปลูกสร้างเยอะขึ้น ถนนจะตามมาใช่ไหม?แล้วถนนจะสร้างตรงไหน?ถ้าไม่ใช่สร้างทับชายหาด
ถนนจะสร้างหลังโรงแรมครับ เพื่อให้การเข้าถึงหาดต้องผ่านโรงแรมอย่างเดียว หาดก็จะกลายเป็นเหมือนหาดส่วนตัวทันที ตัวอย่างที่ชัดเจนคือหัวหินครับ หาดยาวมาก แต่ถ้าไม่เดินผ่านโรงแรมก็เข้าหาดไม่ได้ จุดลงหาดที่เป็นทางสาธารณะมีไม่ถึง 0.1% ของความยาวหาดทั้งหมด
คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ (บ้านเรา นักวิชาการ มันเยอะ แถมรู้ทุกอย่าง )
มันแดกงบประมาณเปล่าเสียดายเงินเกือบหมื่นล้าน สร้างเสร็จพังทลาย สร้างเสร็จปล่อยทิ้งไม่มีหน่วยงานมาดูแลรักษา
งบเยอะขนาดนี้ ใครก็อยากดันให้ผ่าน จะได้เข้ามาก่อสร้าง ไม่สนใจ EIAหรือชาวบ้านอะไรหรอก
ทีแรกก็นึกว่ากำแพงกันคลื่นสึนามิ
ที่ไหนได้ กันคลื่นลมธรรมดา😂
เอิ่ม มันกันชายหาดพังไม่ได้หรอกม้าง😂
กันแค่ตรงที่มีกำแพงไม่กี่ปี แต่มันดันทรายข้างล่างออกเร่งให้ชายหาดหายไวขึ้นในระยะยาว
มนุษย์ไม่เคยชนะธรรมชาติ อย่าทำเป็นเก่ง!
ไม่น่าทำกำแพงกั้นคลื่น ที่ชายหาด🏖🌊🌊🌊แต่ควรทำ ทุนกำแพงกั้นคลื่นกลางทะเล,,เเทน
เคยคิดที่จะไปหาซื้อบ้านใกล้ทะเล กำแพงกันคลื่นเป็นเหตุผลที่เราจะไม่เลือกสถานที่นั้นๆ
ต้องมีคนรับผิดชอบ จับคนทำโครงการนี้
ติดคุก
อยากทราบว่า โครงการกำแพงกันคลื่นนี่นโยบายใครครับ หรือว่า กรมโยธาทำเอง
ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้แก่ปัญหาการกัดเซาะของคลื่น
ไร้รสนิยมมากกำแพงแบบนี้
การแดกมโหฬารโดยไม่สนสภาพแวดล้อมผลกระทบที่ตามมา
ก็ทำปะการังเทียม ทำให้คลื่น ลดเเรงปะทะลง ก่อนจะถึงชายหาด สัก 100 เมตร ครับ
ชายหาดชายทะเลมันเป็นไปตามธรรมชาติแต่มันมีปัญหาเกิดขี้นเพราะคนนี่แหละครับ
ทิ้งเหอะ
ผมก็บาดเจ็บที่หาดชะอำจากซากเหล็กที่ก่อสร้างกำแพงกันคลื่นไม่เสร็จและผมจะไม่ไปอีกถ้ายังทำยังก่อสร้างไม่เสร็จ
ควรยุติโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่กำลังดำเนินอยู่ทั้งหมด ถ้าเริ่มสร้างไปแล้วแต่ยังไม่เสร็จก็ควรรื้อส่วนที่ลงมือไปแล้วทิ้งแล้วฟื้นฟูชายหาดให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนก่อสร้าง ส่วนโครงการใดสร้างไปแล้วก็ค่อยหาวิธีจัดการแก้ไขปัญหากันไป ถ้ารื้อได้ก็ควรรื้อทิ้ง
แล้วถนนริมหาดล่ะ ทำยังไง ปล่อยไปแบบนั้นมันเซาะถนนขาด ตึกรามบ้านช่องชาวบ้านริมทะเลจะเสียหายนะ
มนุษย์เราถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถมีใครเอาชนะธรรมชาติ เต็มที่ก็ได้แค่ป้องกัน แต่ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้
อนาคตไม่แน่
กรมโยธาขาดรายได้หลายพันล้านเลย
สรุปได้ 2 งบ ทำกำแพง กับ ถมทราย
กินทรายกินปูนครับ
8000พันล้าน เงินถมทะเล ทิ้งเสียเปล่า
มนุษย์เข้ามาไกล้ทะเลมากเกินไป ไม่ต้องไปสร้างอะไรให้เปลือยงบ แค่ย้ายออกห่างจากชายหาดแค่นั้นเอง
มนุษย์ คือสิ่งมีชีวิตที่ฝืนธรรมชาติที่สุดแล้ว วัวหายแล้วค่อยล้อมคอกทุกครั้ง
พูดง่าย แต่การแก้ไขปัญหาชายฝั่ง เป็นกันทั่วโลก แก้ยากที่จะให้เหมือนเดิม นอกจากหาทรายมาเติม แต่แบบนี้อายุไม่นาน ทรายก็จะถูกซัดกลับออกทะเล ต้องเติมบ่อย
ไปติดตามค่าชดเชยกับผู้สร้างเลยค่ะ
คนอนุมัติ ควรต้องรับผิดชอบบ้าง โครงการที่ไม่รอบคอบ เสียหายทั้ง คน ทั้ง ชายหาด{แบบเอากลับมาไม่ได้}
เราควรเห็นใจ ข้าราชการ หรือ ผู้รับเหมาที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ และให้ คนพื้นที่ และคนที่ไปสถานที่นั้นๆ ต้องมารับกรรมนี้อีกต่อไป หรอครับ
55555 คอนเซบ คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ
เป็นการสร้างเขื่อนกันชายหาดพังที่ไร้ซึ่งวามคิด เป็นโครงการผลาญเงินงบประมาณ และหาประโยชน์กับเจ้าหน้าที่..?
ไม่ได้เกิดประโยชน์ที่สัมพันธ์ กับการสร้างเขื่อนกันคลื่นแต่อย่างใด
ถมหาดจร้าแบบพัทยา
วัวหายล้อมคอกเหมือนเดิม
ทะเลกับหาดเกิดมานานแล้ว ทำไมไม่ทึปัญหา แต่เมื่อคนมาอยู่มาจัดการ ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติที่เคยอยู่ผลกระทบก็ตามมา การพัฒนาต้องศึกษาเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อลดผลกระทบด้านต่างไให้น้อยที่สุด ไม่ใช่แก้ปัญหาหรึ่งแต่เกิดปัญหาหนึ่ง ซึ่งราชการไทยถนัดนัก...มีคน นักวิชากาคัดค้าน แต่เงินใต้โต๊ะมันเยอะ โยธา มหาดไทยเลยหยุดไม่ได้
ทำก็ได้งบ รื้อก็ได้งบ ทำไมจะไม่ชอบล่ะครับ อร่อย
กำแพงกันคลื่นทำให้ความสวยงามของชายหาดลดลงไปมาก
ถ้าเป็นต่างประเทศคงมีการฟ้องร้องรัฐแล้ว
ความคิดของผู้มีการศึกษาในการสร้างเขื่อนกันคลื่น
กรมโยธาฯ มันมีแต่แบบมาตรฐาน ต้องสร้างแบบนี้ทุกที่ เหมือนอาคารในโรงเรียนละฮะ
เร่งงานวิจัย ทำการทดสอบ น่าจะช่วยได้
บ่างที่เรื่องคลื่นอาจจะไม่ได้อยู่ที่ทะเลอย่างเดี่ยว มองกว้างๆ มองลึกๆ มองสูงๆ อาจจะได้คำตอบ
หกล้มครั้งเดียว ชีวิตเปลี่ยน
ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ทุก 7 วัน น่าจะแก้ปัญหาเบื้องตนได้
จะเอามาพูดทำไมก็แค่คนพี่เดินไม่ระวังตัวเกิดอุบัติเหตุมันไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่นเลยมันเกี่ยวที่ตัวเองนั่นแหละอีกอย่างไม่รู้เมาค้างหรือเปล่าเรื่องไม่เป็นเรื่องจะมาโทษโน่นโทษนี่อันนี้มันเป็นเรื่องตัวบุคคลถึงไม่มีอะไรมันก็เกิดอุบัติเหตุได้
ไหนขอหลักฐานสนันสนุนคำพูดหน่อย
ลืนลมมันก้คืออุบัติเหตุทั่วไป ปีๆคนเลืนล้มห้องน้ำล่ะไม่ต้องเรื้อห้องน้ำกันทุกบ้านเหรอ มันไม่ไช่เรือง😁😁😁😁
ท่านคงยังไม่เข้าประเด็นครับ
แต่ก็นะประเทศไทย คุณภาพชีวิต มันก็ได้แค่นี้ละครับ จะไปหวังอะไรกับรัฐ
คนละประเด็นค่ะ ประเด็นหลักคือ สถานที่มีปัจจัยเสียงคือตระไคร่น้ำนะคะ แล้วไม่สามารถหลีกเลียงไปลงที่อื่นได้ เหมือนรถเมล์ทะลุ จนเด็กตกลงมา หรือห้องน้ำโถแตกจนนั่งแล้วหัวฟาด มาจากปัจจัยภายนอก ไม่ใช่ความประมาทจากตนอ่ะค่ะ
ตัวเองควรต้องรับผิดชอบตัวเองครับ
ถ้าไม่ทำอะไรเลย น้ำทะเลจะกัดชายฝั่งยาวลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะเยอะมากกว่า ความซุ่มซ่ามส่วนบุคคล ถามหน่อยคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง
ติดป้ายเตือน ระวังลื่น ก็จบ
ปั่นข่าวเกินจริงไปมาก อย่าหวังแต่ขายข่าว สติ
ทำไมไม่ทำราวบันไดไว้ให้จับขึ้นลง
ไม่งั้นก็ทำกันลื่นไว้
ประโยชน์อย่างเดียว
คือไล่ไม่ให้คนเล่นชายหาด
บางปูสมุทรปราการทำเเล้วได้ผลครับ
ทุกโครงการของรัฐควร
ที่จะทำการวิเคราะห์วิจัยให้ถี่ถ้วนนะครับก่อนที่จะทำอะไร,และ
ประชาชนจะไปจะมา
ณ.ที่ใดๆบนโลกนี้ควร
ที่จะระมัดระวังสิ่งรอบๆ
ตัวนะครับ(รับผิดชอบตัวเองอย่างสูงสุด)สังคมสมัยนี้ชอบ
กล่าวโทษแต่ผู้อื่นแต่ไม่
เคยโทษตัวเองเลยครับ
ทุกๆคนทุกๆหน่วยงาน..
ต้องรับผิดชอบตนเอง...
และหน่วยงานของตน
เองนะครับ,อย่าโยนความผิดกันไปมาเหมือนเด็กๆนะครับ Ok.......
👀👀👀👀👀👀👀👂👂👂👂👂👂👂😯😯😯😯😯😯😯😲😲😲😲😲😲😲😳😳😳😳😳😳😳😵😵😵😵😵😵😵🙋🙋🙋🙋🙋🙋🙋💆💆💆💆💆💆💆
หลับหูหลับตาสร้างแต่แรกทำไม
มันทำเพื่อรักษาแผ่นดินไทย ไม่ได้ทำเพื่อแม่ค้ารึการท่องเที่ยว
คนในประเทศสำคัญกว่าพื้นที่ยืน