God of atom of the sun น่าจะเป็น พระอาทิตยวงศ์ รึ เหมือนในเขมร สุริยชัยวรมัน (เทพแห่งแสงอาทิตย์) ดูลักษณ์แล้ว Atom ในความหมายของพ่อปิ่นโตน่าจะหมายถึง รัศมี แสง เปลว ส่วน God of the Sun ก็ตามนั้นเลย ชื่อพระอาทิตย์ เพียบเลย อามุนรา นี้ตรงตัวเลยนะ แหะๆ แล้วหลังจากประหัดประหารขุนวงวงศากับท้าวผึ้งหลวงไปแล้ว แล้วเค้าก็ปล่อยศพทิ้งไว้ตรงนั้นเลย รึมีฝังอะไรอย่างไร มีบอกไหมครับ? โดยปกติแล้วพอขุดรากถอนโคตรเสร้จแล้วก็ไม่พูดถึงกันอีกต่อไป เหมือนกับในอียิปต์ ที่จะมีการลบ ทำลายชื่อ หน้าสลักตามวิหารออกไม่พูดถึงวงศ์ทรราชเดิมอีกต่อไป
ผมดีใจที่เห็นพวกท่าน ยังทำให้คนรุ่นหลังได้รุ้จักกับ กรุงศรี ทั้งช่องคุนตั้ม เสียงสะท้อนจากอดีต ช่องคุนหอย น้าตุ้กบางปะอิน และอีกหลายๆช่องครับ
ขอบคุณครับผม^^
ทำให้นึกถึงเมื่อคราวก่อนเสียกรุงครั้งที่สอง ช่วงหน้าน้ำหลาก น้ำก็คงท่วมแบบนี้ แต่พม่าทำการบ้านมาดี ไม่หนี ไม่ถอนกลับ
คลิปนี้บุกป่าฝ่าน้ำท่วมกันสนุกเลย เอาใจผมไปเลยครับ
ถูกต้องเลยครับ เขาเตรียมตัวมาดีจริง และศักยภาพทางการทหารในเวลานั้นเขาล้ำหน้ากว่าเราไปหน่อยหนึ่งด้วยครับ
มีลุงตั้ม มาแจมด้วย ณ นาทีที่ 18:00
สวดๆๆยอด
ขอบคุณคุณตั้มครับ ไว้ไปด้วยกันอีกนะฮะ
ขอบคุณครับ...ทำให้ผมคิดถึงอดีตและเริ่มรักบรรพบุรุษมากขึ้น
ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ :)
ถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดจบราชวงศ์อู่ทองเลยนะครับ ขุนวรวงศาควรจะนับรวมเป็นกษัตริย์นะครับเพราะพระองค์ผ่านการราชาภิเษก ผมไม่เข้าใจนักประวัติศาสตร์เลยที่บิดเบือนจุดนี้ครับ
ขอบคุณครับ ปัจจุบันส่วนใหญ่ก็นับขุนวรวงศาธิราชอยู่ในทำเนียบพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาแล้วครับผม ^^
ไปหลายวัดเลย สุดยอดมาก
คลาดกันไปหนึ่งวัน เสียดายครับอาจารย์ :)
ได้รับมุมมองใหม่ในทุกครั้งที่ชม..ชื่นชมครับ.
ขอบคุณครับผม :)
เพิ่งเห็นคลองบางปลาหมอยามน้ำหลาก อันนี้ออกคลองหัวรอเหมือนคลองสระบัวเหมือนกันสินะ
เป็นไปได้ว่าคลองสายนี้ขึ้นตรงไปถึงเพนียดได้ด้วยครับ
ได้ข้อมูลอีกมุมนึง สุดยอดค่ะ
ขอบคุณมากๆ ครับผม :)
ชอบ, ติดตาม, ชื่นชมครับ
ขอบคุณครับผม :)
14 กุมภาพันธ์ 2562 วันวาเลนไทน์
วันนี้จะขอพาเพื่อนๆไป”ลุย”เข้าไป”วัดลายสอ”และ”วัดแร้ง”อีกครั้ง
คราวนี้มาดูรายละเอียดกันให้เต็มที่ เพราะวัดเหล่านี้มี”น้อยคนที่จะได้เข้าไปถึง” เพราะอยู่ในป่าละเมาะที่ต้องใช้”ความพยายาม”เพื่อเข้าถึง”ความมหัศจรรย์”ของธรรมชาติที่ตกแต่งให้วัดนี้มีเสน่ห์น่าสนใจยิ่งขึ้น ทำราวกับเป็นหนัง“INDIANA JONES” (ล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า)คิดได้ยังไงเนี่ยหลงตัวเอง?!
วัดลายสอ เป็นสถานที่ที่สันนิษฐานว่าเป็นจุดที่สังหาร”แม่อยู่หัวท้าวศรีสุดาจันทร์”กับ”ขุนวรวงศา” (ฉากหนึ่งในภาพยนตร์”สุริโยไท”)ในบริเวณนี้ ได้ตัดหัวทั้งสอง”ไปเสียบประจานที่วัดแร้ง”ที่อยู่ใกล้กัน
ผมได้มาถ่ายรูปถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก มาถึงตอนบ่าย 2 โมงโดยประมาณ โดยเข้ามาภาพถ่ายเริ่มปากทางกำลังมีการก่อสร้าง ถ้าเป็นหน้าฝนคงเข้าถึงยาก เพราะจะมีลำธารท่วมสูงขึ้น ต้นไม้ขึ้นรกรุงรังตลอดทาง เดินผ่านหน้า”วัดแร้ง”อยู่ทางขวามือ ต้องเดินลึกเข้าไปอีกเป็นทางสูงๆต่ำๆ”ตลอดทาง เจอลำธารที่มีลำไม้ไผ่และไม้ปูวางเป็นสะพานต้องเดินระวังเพราะอาจพลิกตกน้ำได้ พอข้ามลำธารไปจะมีเนินสูง พอเดินขึ้นเนิน ก็ได้เห็นต้นไม้ขนาดเล็กทำหน้าที่เสมือนเป็นม่านจะเห็น”ความมหัศจรรย์ของ”วัดลายสอ”ได้ปรากฎอยู่ตรงหน้า ความสวยงามของธรรมชาติ ทำให้เห็นรากต้นโพธ์ได้เลื้อยรอบสิ่งปลูกสร้างน่าจะเป็นกำแพงวัด ซากพระพุทธรูปหินทรายอยู่บนพื้นและมีซากเจดีย์อยู่ใกล้กันทำให้บรรยากาศมีมนต์ขลังอย่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
วันรุ่งขึ้นผมกลับมาถ่ายอีกครั้ง เวลาประมาณ 11 โมง มาคราวนี้ได้แสงที่สวยงามกว่าครั้งแรก เพราะต้นโพธิ์ได้สลัดใบเหลือแต่กิ่งไม้ ทำให้เห็นรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น
น่าเสียดายที่”ไม่สามารถเอารูปลงได้”
ขอบคุณมากๆ เลยครับที่แชร์ประสบการณ์อันล้ำค่านี้ ผมเองตอนลงสำรวจวัดใหม่ๆ เมื่อราวๆ 5 ปีก่อน วัดลายสอนี้ผมเข้าไปตอนป่ารกมากๆ และเข้าไปกันกับลูกชายผมที่อายุ 4 ขวบ ตอนกำลังแหวกป่าขึ้นไปตรงเนิน ต้องตกใจสุดขีดเพราะเจอตัวเงินตัวทองขนาดมหึมา พอมันเห็นเรา มันก็เดินลงไปทางคลอง คือทางมันน่ากลัวมาก แถมผมพาลูกชายเข้าไปอีกก็หวั่นๆ เรื่องสัตว์ร้ายเหมือนกัน แต่พอเข้าไปเห็นซากโบราณสถาน ผมต้องตะลึงกับความงดงามจริงๆ มันดูลึกลับเหมือนดังในหนัง INDIANA JONES อย่างที่คุณว่าไว้เลยครับ
ผมอยากไปในสถานที่ที่”ลึกลับมากกว่านี้”เสียอีก ช่วยสร้างรสชาติ การเผชิญภัย ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่านี้
ใครมี ช่วยบอกด้วย พร้อมข้อมูล เพื่อจะเตรียมตัวให้พร้อม555
@@สมศักดิ์อัจฉริยวนิช ช่วงผมสำรวจวัดร้างใหม่ๆ เมื่อ 5 - 6 ปีก่อน มีวัดที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับหลายที่เลยครับ อย่างตอนนี้ที่อยู่ในป่าก็ยังมีอยู่ เช่น วัดโคกขมิ้น, วัดบันไดนาค, วัดทอง(บางปะหัน) เป็นต้น แต่ก็มีอีกหลายวัดที่สภาพเปลี่ยนไปจากการพัฒนาที่ดินในช่วงเวลาต่อมาครับ
โบราณสถานที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับ ไม่ใช่จะมีแค่ที่อยุธยาอย่างเดียวด้วยครับ มีโอกาสลองขยายพรมแดนไปหาปราสาทหินแถบภาคอีสานดูครับ มีเพียบเลย 😄
ผมเข้าไปเที่ยวดูวัดแร้ง สมัยน้ำไม่ท่วมต้องเดินฝ่าดงหญ้าเข้าไป จากริมถนนผ่านบ้านพักคนงานก่อสร้าง เข้าไปถึงต้นไม้คลุมมืดคลึ้ม บรรยากาศหลอนพอสมควร
ได้เดินเข้าไปถึงวัดลายสอไหมครับ
@@HiddenAyutthaya ไปไม่ถึงครับ มืดซะก่อน
@@sophonnitiyanon1287 ไว้มีโอกาสลองเข้าไปชมอีกทีนะครับ 🙂
ขอบคุณคะ
ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ :)
ได้รู้สมัยอยุธยา น้ำท่วมรอบกรุง เป็นลักษณะอย่างไร เยี่ยมเลยครับ
ขอบคุณครับผม น้ำท่วมคราวนี้นานเลย สงสารชาวบ้านด้วยครับ
Content ดีครับ
ขอบคุณครับผม ^^
ชอบครับ กดไลค์&ติดตาม
🐘แอดครับ เรื่องการสังหารขุนวรวงศาฯ และแม่อยู่หัวฯ เคยถามในหลายที่หลายช่องแต่ยังไม่ได้ความกระจ่าง จึงขอความกรุณาแอดที่ผมติดตามมาทุกคลิปช่วยให้ความกระจ่างทีว่าผมเข้าใจผิดตรงไหน
แต่สถาปนากรุงศรีอยุธยาจนถึงรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักพรรดิ เพนียดคล้องช้างซึ่งขึ้นอยู่กับกรมคชบาลตั้งอยู่บริเวณวัดซอง ข้างพระราชวังจันทรเกษม
พ.ศ. 2091 แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
พ.ศ. 2112 - พ.ศ. 2133 สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
พ.ศ.2123 สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดเกล้าฯให้ขยายกำแพงพระนครด้านทิศตะวันออกไปถึงริมแม่น้ำดังกล่าว จึงให้ย้ายเพนียดไปตั้งที่ตำบลทะเลหญ้า หรือตำบลสวนพริกในปัจจุบัน
1.🐘ในเมื่อตอนเกิดเหตุสังหารฯนั้นประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าเพนียดอยู่ที่วัดซอง(แถวเรือนจำเก่าหัวรอ) หรือว่าวัดซองอยู่ที่ไหน ตอนนั้นอยู่นอกกำแพงเขตเมืองเดิมคือแนวคลองข้าวเปลือก แล้วทำไมขบวนเรือต้องลัดเข้าคลองสระบัว ในเมื่อออกจากท่าวาสุกรีก็สามารถเลี้ยวขวาไปทางหัวรอโดยใช้ลำน้ำลพบุรี จึงเหมือนจะไปพะเนียดสวนพริกที่เห็นในปัจจุบัน
2.🐘"ช้างเผือกเข้ามาทางวัดแม่นางปลื้มเข้าเพนียดวัดซองพระองค์จึงรับสั่งว่าหนนี้จะเสด็จไปจับเอง" แสดงว่าเพนียดที่จะไปไม่ใช่ที่สวนพริกแน่ๆ เพราะวัดแม่นางปลื้มอยู่เข้ามาจะถึงหัวรออยู่แล้ว (ตอนนั้นอาจยังไม่เรียกหัวรอหรือทำนบรอแต่เป็นย่านนี้)
3.🐘"ขุนพิเรนทรเทพสั่งให้หมื่นราชเสน่หา (นอกราชการ) ไปดักยิงอุปราชจันน้องขุนวรวงศาธิราชตายที่ท่าเสื่อระหว่างขี่ช้างไปเพนียด" อันนี้เหมือนจะสอดคล้องกับบริบทอยู่ที่วัดซองและภูมิสถานอยุธยาตอนนั้นที่กำแพงเมืองยังขยายไปไม่ถึง
ท่าเสื่อจึงดูพ้องชื่อกับวัดเสื่อที่อยู่ใกล้วัดซอง(วัดเสนาสปัจจุบันกับ) จึงไม่แปลกที่ขุนวรวงศาฯที่มีความระแวดระวังอยู่แล้วจะส่งคนไว้ใจไปเป็นผู้ตรวจการณ์หน้าในเส้นทางที่จะเสด็จขึ้นท่า
4.🐘"ขุนวรวงศาธิราชจึงทรงถูกลอบปลงพระชนม์ (บ้างก็ว่าถูกสำเร็จโทษ) ที่คลองสระบัว ข้างคลองปลาหมอโดยขุนพิเรนทรเทพกับสมัครพรรคพวก (ในบันทึกของเจอเรมิส วันวลิต บอกว่าถูกลอบยิงด้วยปืนที่ข้างประตูวัง) พร้อมท้าวศรีสุดาจันทร์และพระธิดา พระบรมศพนั้นถูกนำไปเสียบประจานไว้ที่วัดแร้ง"
เป็นไปได้ไหมที่ขบวนจะไม่ได้เข้าไปในคลองสระบัวแต่แรก แต่ขบวนจะเลี้ยวขวาทวนน้ำลพบุรีไปพะเนียดวัดซองตรงหัวรอใกล้ๆนี่เอง จะอ้อมไกลไปในคลองซอยที่แคบกว่าและมีความเสี่ยงมากกว่าทำไม
5🐘. และเป็นไปได้ไหมที่ขบวนถูกโจมตีในแม่น้ำลพบุรีเยื้องๆกับพระราชวังหลวงนี่เอง โดยอีกฝ่ายหนึ่งได้ซุ่มขบวนอยู่ในคลองซอยคือคลองสระบัวและคลองบางปลาหมอ โดยปากของสองคลองนี้อยู่ใกล้ๆกันตรงข้ามวัดธรรมมิกราช เมื่อฝ่ายโจมตีใช้ยุทธวิธีทะลวงออกจากที่ซุ่มในคลองเมื่อเรือพระที่นั่งลำหลักอยู่ระหว่างปากคลองทั้งสอง เป็นการปิดล้อมหัวเหลือและท้ายเรือพอดีและเอาเรือเข้าขนาบข้าง เป็นการแยกเรือพระที่นั่งออกจากขบวนเรือคุ้มกัน
6.🐘 ประวัติศาสตร์ที่ทำซ้ำยังมีข้อแย้งกันในตัว คือบางแหล่งบอกว่าอยู่เหนือวังจันทร์(ที่สร้างในสมัยต่อมา) ซึ่งเหนือคือแม่น้ำและเกาะลอยเป็นวัดมณฑป อีกแหล่งบอกว่าอยู่ข้างวังจันทร์ก็น่าจะแถววัดขมิ้น/วัดซองในคุกเก่าหัวรอ
7.🐘 ทำไมขุนวรวงศาฯ ถึงไม่ถูกนับลำดับกษัตริย์ทั้งที่ได้ผ่านพระราชพิธีแล้ว บางพระองค์ที่ทรงพระเยาว์และครองราชย์ไม่กี่นานกลับถูกนับ
8.🐘 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดแร้งที่อยู่ลึกเข้าไปก็เป็นไปได้อยู่ เพราะช่วงตะลุมบอลมีการรุกไล่ล่ากันนั้นทุกคนกลัวตาย มีช่องหนีได้ก็ไปได้หมด แม้บางทีที่ไปนั้นไม่ทันได้คิดว่าจะเข้าไปสู่มุมอับ
9.🐘ยังมีอีกหลายประเด็นครับที่ผมผู้มีความรู้น้อยทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี สงสัยเกี่ยวกับยุทธวิธีล้อมปราบขบวนแม่อยู่หัวฯและขุนวรวงศาฯ ที่ฟังแล้วย้อนแย้งในพงศาวดารฉบับเดียวกัน
เพนีดเก่าสมัยอยุธยาตอนต้นอยู่ที่วัดซองครับ ปัจจุบันคือที่ตั้งของโรงแรมอยุธยาธานี ซึ่งก่อนหน้าจะเป็นโรงแรมเคยเป้นที่ว่าการอำเภอเก่าพระนครศรีอยุธยา ครับ เพนียดมาย้อยไปอยู่ทะเลหญ้าก็สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาดังที่ว่ามาครับ
ส่วนเรื่องขุนวรวงศาฯ เดี๋ยวนี้นักวิชาการส่วนหใญ่รับว่าอยู่ในทำเนียบกษัตริย์แล้วครับ
ส่วนเส้นทางน้ำในช่วงนั้นคลองสระบัวคือเส้นทางหลักที่จะขึ้นไปทางเหนือครับ เพราะท่าวาสุกรีตรงพระบรมมหาราชวังจะอยู่ใกล้ๆ กับปากคลองสระบัวเลยครับ
@@HiddenAyutthaya นั่นสิครับแอดมิน ในเมื่อพะเนียดมันอยู่วัดซองหัวรอ และโขลงช้างผ่านแม่นางปลื้มมาแล้วด้วย น้องชายขุนวรวงศ์ก็ได้ไปเตรียมการรับเสด็จที่ท่าเสื่อแล้วเช่นกัน แล้วทำไมต้องอ้อมเข้าไปในคลองสระบัว จาก 1.4 กม. เป็น 3.2 ก.ม.เป็นอย่างน้อย สู้เลี้ยวขวาตามลำน้ำลพบุรีผ่านหน้าวัดโรงฆ้อง วัดอินทร์ ไม่ดีกว่าหรือ แถมในคลองอันตรายจากการซุ่มโจมตีมากกว่าด้วย ดังนั้นจึงดูย้อนแย้งเหมือนไม่สมเหตุสมผลอันใด อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวครับ
ขอบคุณครับ กำลังติดตามทุก EP.
ขอบคุณเช่นกันครับ😄
หาวัดหรือสถานที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์หรือบุคคลในอดีต คนทั่วไปจึงเข้าใจได้และอินกับมันครับ.
ขอบคุณครับ :)
แล้ววัดครุฑธาราม ที่อยู่คลองสระบัวปัจจุบันอยุ่ทางไหนครับ ท่านประธานชมรมคนรักอยุธยาที่นามสกุล "ศิริครุฑ"จะเกี่ยวข้องกับทางวัดครุฑธารามหรือไม่ครับ
อยู่ริมถนนเส้นเลียบคลองสระบัวที่จะไปออกแถบเพนียดครับ แต่คงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเอกแน่ๆ ครับผม^^
อธิบายรายละเอียดมากๆพี่ความรู้เเน่นfc
ขอบคุณมากๆ ครับ :)
God of atom of the sun น่าจะเป็น
พระอาทิตยวงศ์ รึ เหมือนในเขมร สุริยชัยวรมัน (เทพแห่งแสงอาทิตย์)
ดูลักษณ์แล้ว Atom ในความหมายของพ่อปิ่นโตน่าจะหมายถึง รัศมี แสง เปลว ส่วน God of the Sun ก็ตามนั้นเลย ชื่อพระอาทิตย์ เพียบเลย อามุนรา นี้ตรงตัวเลยนะ แหะๆ
แล้วหลังจากประหัดประหารขุนวงวงศากับท้าวผึ้งหลวงไปแล้ว แล้วเค้าก็ปล่อยศพทิ้งไว้ตรงนั้นเลย รึมีฝังอะไรอย่างไร มีบอกไหมครับ? โดยปกติแล้วพอขุดรากถอนโคตรเสร้จแล้วก็ไม่พูดถึงกันอีกต่อไป เหมือนกับในอียิปต์ ที่จะมีการลบ ทำลายชื่อ หน้าสลักตามวิหารออกไม่พูดถึงวงศ์ทรราชเดิมอีกต่อไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ถ้าตามพระราชพงศาวรดารคือเอาศพเสียบไว้ที่วัดแร้ง แต่ถ้าจดหมายเหตุฝรั่งคือฆ่าแล้วเอาศพทิ้งแม่น้ำครับ
พอจะทำให้เห็นภาพลำคลองสมัยโบราณได้ชัดขึ้น
ใช่ครับ ตอนนี้น้ำลงลดแล้ว ผมจะหาเวลาเข้าไปดูอีกทีครับ
ชอบช่องพี่มากครับพี่บรรยายได้ชัดเจนฟังเข้าใจง่ายข้อมูลก็ดีดูแล้วอยากติดตามตอนต่อไปครับ
ขอบคุณครับผม🙂
ทำต่อนะไอ้หนูอยากให้ไปเจาะวัดโซนตลาดเจ้าพรมหน้าเทศบาลและตลอดแนวมะขามเรียง
ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะมีวัดหนึ่งริมคลองมะขามเรียงมานำเสนอ อดใจรอนิดหนึ่งนะครับ ^^
อยากให้หาสมรภูมิรบสมัยกรุงศรีอยุธยาเยอะๆหน่อยคับ
ตอนต่อไปจะมีอีกสมรภูมิหนึ่ง อดใจรออีกนิดครับ 🙂
ฤดูน้ำหลากไงอาศัยช่วงนั้นเเหละในการสังหารลอบฆ่า
จริงด้วยครับ เอกสารปินโต้ระบุว่าฆ่าขุนชินราชช่วงเดือนมกราคม 1546 มกรานี้ก็ช่วงปลายๆ ฤดูน้ำหลากครับ
ขอบคุณครับก็ยังแปลกใจว่าคลองค่อนข้างแคบเรือหลวงยาวๆ
ภูมิสถานอดีตกับปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงครับ ตอนสมัยรัชกาลที่ 5 คลองสระบัวยังกว้างกว่านี้เยอะเลยครับ
ตอนนี้หัวเวียงวัดบางกระทิงกำลังท่วมเลยดูคลิปของคุณแล้วได้ความรู้เยอะเลย
น่าสงสารคนแถบบางบาลครับ
ขอบคุณมากค่ะที่ได้เรื่องราวไว้ดีมาก
ขอบคุณเช่นกันครับผม😄