การตอบแทนบุญคุณบิดามารดาตามวิธีของพระพุทธเจ้า(อ่านเพิ่มเติมในช่องคำอธิบาย)

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 24 ก.ย. 2024
  • การตอบแทนบุญคุณบิดามารดาตามวิธีของพระพุทธเจ้า
    เพราะเหตุที่มารดาบิดา เป็นผู้มีอุปการะมากหวังประโยชน์ เป็นผู้อนุเคราะห์ต่อบุตรทั้งหลายซึ่งท่านเห็นบุตรเหล่านั้นเล่นอยู่ข้างนอก มีสรีระเปื้อนฝุ่นมาแล้วก็เช็ดฝุ่นให้ กอดจูบที่ศีรษะและยังความรักให้เกิด. บุตรทั้งหลายเลี้ยงมารดาบิดาด้วยการทูนไว้บนศีรษะแม้สิ้น ๑๐๐ ปี ก็ไม่สามารถที่จะตอบแทนอุปการคุณแห่งการบำรุงเลี้ยงนั้นได้ และเพราะเหตุที่ท่านทั้งสองนั้น เป็นผู้บำรุง เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้แสดงโลกนี้ เป็นผู้เสมอกับพระพรหม เป็นบุพพาจารย์ ฉะนั้น การบำรุงเลี้ยงมารดาบิดาทั้งสองนั้นจึงนำมาซึ่งการสรรเสริญในโลกนี้ ละไปแล้ว ก็นำความสุขในสวรรค์มาให้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า เป็นมงคลสมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
    มารดาบิดาทั้งหลาย ผู้อนุเคราะห์แก่ปชา(บุตรธิดา) ท่านเรียกว่า เป็นพรหม ว่าเป็นบุพพาจารย์ ว่าเป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตรทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล บัณฑิตพึงนอบน้อมและสักการะมารดาบิดาเหล่านั้น ด้วยข้าว น้ำ ผ้า ที่นอน การอบ การอาบน้ำ และการล้างเท้า ด้วยการปรนนิบัติในมารดาบิดาทั้งสองนั้น บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญบุคคลนั้น ในโลกนี้นั้นแล เขาละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์ อีกนัยหนึ่งชื่อว่าการบำรุงมี ๕ อย่าง
    มีการเลี้ยงดู การกระทำหน้าที่และการดำรงวงศ์ตระกูลเป็นต้น การบำรุงนั้นพึงทราบว่า เป็นมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งประโยชน์เกื้อกูล ในปัจจุบัน ๕ อย่าง มีการห้ามจากบาปเป็นต้น สมจริงดังพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดาซึ่งเป็นทิศเบื้องหน้า บุตรพึงบำรุง
    ด้วยสถาน ๕คือ
    ๑. เราอันท่านเลี้ยงมาแล้ว จักเลี้ยงท่านตอบ
    ๒. เราจักกระทำกิจของมารดาบิดาเหล่านั้น
    ๓. เราจักดำรงวงศ์สกุลของมารดาบิดาเหล่านั้น
    ๔. เราจักรักษาทรัพย์สมบัติของมารดาบิดาเหล่านั้น
    ๕. ก็อีกอย่างหนึ่ง เมื่อท่านทั้งสองล่วงลับไปแล้ว เราจักเพิ่มให้ซึ่งทักษิณา(ทำบุญอุทิศให้) ดังนี้.
    ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดาซึ่งเป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรบำรุงด้วยสถาน ๕ เหล่านี้แลจักอนุเคราะห์บุตร ด้วยสถาน ๕ คือ
    ๑. ท่านทั้งสองย่อมห้าม(บุตร)จากบาป
    ๒. ย่อมให้ตั้งอยู่ในความดี
    ๓. ย่อมให้ศึกษาศิลปะ
    ๔. ย่อมหาภรรยาที่สมควรให้
    ๕. ย่อมมอบทรัพย์สมบัติให้ในสมัย ดังนี้.
    อีกอย่างหนึ่ง ผู้ใด ย่อมบำรุงมารดาและบิดา ด้วยการให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย หรือด้วยให้สมาทานศีล หรือด้วยให้บรรพชา ผู้นี้จัดว่าเป็นยอดของชนทั้งหลายผู้บำรุงมารดาบิดาในโลกนี้.การบำรุงมารดาบิดานั้นของผู้นั้น เป็นการกระทำการตอบแทนต่อ
    อุปการคุณ ที่มารดาและบิดากระทำไว้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งประโยชน์ทั้งหลายที่เป็นไปในปัจจุบัน และเป็นไปในสัมปรายภพมิใช่น้อย.
    ¹ที่มา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต อรรถกถามงคลสูตร เล่มที่ ๔๗ หน้าที่ ๑๖๕- ๑๖๗
    ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย
    ขอบคุณรูปภาพทุกรูปจาก Application pinterest

ความคิดเห็น •