ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สวมเครื่องแบบของพระตถาคตอยู่แท้ๆ ยังไม่เชื่อว่าพระตถาคตกล่าวอย่างนี้แสดงอย่างนี้ กราบพระอาจารย์คึกฤทธิ์ผู้มีอุปการะอย่างสูงสุด สาธุ สาธุ สาธุ
ตั้งแต่ผมมาเจอพุทธวจน โดย อ.คึกฤทธิ์ เลิกฟังพระรายการอื่นเลย ยิ่งอภินิหารนี่จบกันเลย คาถาอาคม ต่างๆเลิกทันที ท่องแต่คำพุทธวจนอย่างเดียว เจอแสงธรรม แสงสว่าง จริงๆ
มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก นั่นเองค่ะ เมื่อ ธรรมชาติ เหล่านี้ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็มาเจริญสัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 คือ เจริญ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ เริ่มที่ สุตตมยปัญญา กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็ สุตตมยปัญญา ต่อ นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา อริยมรรคมีองค์แปด เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก สุตตมยปัญญา ใน ธรรมที่เป็นเหตุ คือ กัลยาณมิตร นั่นเองค่ะ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา ใน ธรรมชาตินี้ ก็จะทำให้เห็น พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดง ธรรม แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้า เป็น กัลยาณมิตร อริยมรรคมีองค์แปด เป็น กัลยาณมิตร ผู้ที่นำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ เป็น กัลยาณมิตร นั่นเองค่ะ
คำตถาคต ดีอยู่แล้ว แต่เราจะปฏิบัติตรงนี้น ควรฟังคำสาวกด้วย เช่นคำของพระสารีบุตร ที่ท่านอธิบายขยายความคำพระองค์ เช่นตั้งสติเฉพาะหน้า ตั้งอย่างไร รู้ลมยาวคือรู้อย่างไร รู้ลมสั้นคือรู้อย่างไร (อยากไห้ข้อคิดว่า ถ้าคำตถาคต ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม คำว่าตั้งสติเฉพาะหน้า พวกเราฟังแล้วควรต้องเข้าใจตรงกัน แต่ในภาคปฏิบัติ เหตุใดพวกเราจึงต้องมาถกเถียงกันว่าตั้งตรงหน้า คือตรงไหนของหน้า รับรองว่าตัวท่านเองก็สงสัย แม้แต่ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ก็อธิบายไม่ถูก ว่าตั้งอย่างไร, นี่แค่คำว่าตั้งสติเฉพาะหน้านะครับ)
@@นิคมคําตะพันธ์ พระสารีบุตร ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อ นั่นเองค่ะ สาวกภาษิต ก็คือความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ซึ่งความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ แบบนี้ มันมีเกิดปรากฏขึ้นมา ตลอดสังสารวัฏที่ยาวไกล นั่นเองค่ะ หน้าตามันจะเป็นแบบนี้นั่นเองค่ะ คือ ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองค่ะ ก็มาดูหน้าตา คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา ที่มี กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ อริยมรรคมีองค์แปด จึงมีเกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองค่ะ ซึ่งจะต้องเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ถึงจะทำให้หายสงสัยนั่นเองค่ะ
@@นิคมคําตะพันธ์ การเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สุตตมยปัญญา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ อริยมรรคมีองค์แปด เป็น ตถาคตภาษิตา มีกฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท อย่างนี้ค่ะ (สัมมาทิฏฐิ>สัมมาสังกัปปะ)>(สัมมาสังกัปปะ >สัมมาวาจา) >(สัมมาวาจา >สัมมากัมมันตะ)>(สัมมากัมมันตะ>สัมมาอาชีวะ)>(สัมมาอาชีวะ>สัมมาวายามะ)>(สัมมาวายามะ>สัมมาสติ)>(สัมมาสติ>สัมมาสมาธิ)>(สัมมาสมาธิ>ปัญญา) นั่นเองค่ะ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ ท่านนำ คำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อนั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้า เป็น กัลยาณมิตร อริยมรรคมีองค์แปด เป็น กัลยาณมิตร ผู้ที่นำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ เป็น กัลยาณมิตร ท่านนำคำสอนนี้มาบอกต่อ นั่นแสดงว่า ท่านเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา คือ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ ต้องเข้า ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ ถึงจะเห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ ได้สดับตอนไหน ที่ไหน ได้สดับ มาจากใคร นั่นเองค่ะ
@@นิคมคําตะพันธ์ คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ เมื่อเป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต แล้ว และเป็นผู้ที่ฟังด้วยดี มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ ถ้ากำลัง ละนันทิ ใน เวทนาทุกข์ คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ นั่นเองค่ะ / ถ้ากำลัง ละนันทิ ใน เวทนาอุเบกขา ปีติสุข คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมถะ นั่นเองค่ะ กำลัง ละสังโยชน์ รูปราคะ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทางเจโตวิมุตติ นั่นเองค่ะ ถ้าท่องจำ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท ที่เป็นการเจริญสัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 เจริญสุตตมยปัญญา เป็นการตามเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตาม นั่นเองค่ะ
ผู้มีอุปการะมากพระอาจารย์คึกฤิทธิ์โสตถิผโล
กราบพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ เปิดธรรมที่ถูกปิด ของพระตถาคตทำให้กระผมได้มีได้รู้ได้เห็น ได้ประพฤติธรรมขององค์พระตถาคต❤❤❤..
ผู้ถามเหมือนยังอนุบาลแต่อยากถามปัญหากับมัธยมที่คิดว่าตนเองเข้าใจดีแล้ว/ปัญญาของคนสูงต่ำต่างกันแม้คำๆเดียวกันฟังหลายๆคนบ้างครั้งยังยังเข้าใจต่างกันเลย#ยึดติดจนแกะไม่ออก
ต้องลดสปีดคลิปครับ เจ้าของคลิปเค้าเร่งสปีดไว้ ฟังตอนแรกนึกว่าพระทะเลาะกัน ที่จริงมิใช่ตรับ และเข้าใจที่อ.คึกฤทธิ์ ต้องฟังแต่พุทธวจน เพราะบางครั้งที่ภิกขุทั้งหลายสอดแทรกความคิดเห็นผิดๆสั่งสอนธรรมมั่วๆ จนบิดเบือนธรรมะของพุทธเจ้า
สงฆ์สมมุติรูปนี้ถ้ามีเวลามาค่อยจ้องจับความผิดพลาดของผู้แสดงธรรมขอท่านจงเอาเวลานั้นไปศึกษามาใหม่เพื่อความแจ้งในความลังเลสงสัยของตนๆ..เวลามีน้อยมัวทำอะไรอยู่.
ผูัถามมี2แบบคืออยากหาความรูัจริงๆกับถามลองภูมิเพื่อจับผิดคิดวาาตัวเองรู้หมดแล้วผมขอสาธุกับอาจารย์คืกฤทธิ์ครับ😊
อย่าให้ความคิดเห็นเช่นนี้เกิดขึ้นกับเธออีก การรู้สึกกับสิ่งใดนั่นคือตัวท่านเองลึกไปใต้จิตสำนึก❤❤❤
เขาเพียงแต่อยากรู้เท่านั้นจึงถาม อย่าไปเพ่งโทษผู้ใดครับ
ปรามาทพระสาวกอีกนะ คือศึกษามาแล้วต้องรู้ว่าการถามของพระสาวก เช่น พระสารีบุตร ไม่ใช่ท่านไม่รู้ หรือ ไม่มีปัญญา หรือแม้แด่พระศาสดาเอง เป็นการถามเพื่อเป็นพยานว่า หากภายหลังมีผู้อื่นถามแบบนี้ แม้พระวินัยเอง พระองค์ก็ไม่ทรงบัญญัติ หากไม่มีเหตุเกิดขึ้น
@@usangi_tabo การถามย่อมมีเจตนา2.อย่าง.เจตนาแบบกุศลหรืออกุศลละไม่มีใครผิดหรือถูกหรอกคะมีแต่รู้และ.ไม่รู้เท่านั้น
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
พุทธวจน 🙏🙏🙏
พระพุทธเจ้าทรงละเอียดรอบคอบยิ่ง ทรงเป็นพระสัพพัญญรู้เห็นอนาคตว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนี้จะมีภัยอันตรายอย่างไร จึงทรงประทาน "ธุดงควัตร 13"ให้เป็นอริยประเพณีแก่ภิกษุสงฆ์นำไปแก้ไขจิตต์ตัวเองโดยเฉพาะ "ปัญญาและฌานสมาบัติ"ที่รองรับพระธรรมรู้เห็นพระธรรมตามความเป็นจริงก็ด้วย"ธุดงควัตร"นี้ พระอริยสาวกเคารพพระธรรม ไม่แสวงหาการเพ่งโทษที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ ไม่แสดงธรรมโดยที่มีพยาบาทนิวรณ์ มีวิจิกิจฉานิวรณ์ครองใจตนอยู่
ศรัทธา พอจ.คึกฤิทธิ์ ที่นำคำพุทธวจนมาเผยแผ่ คำของพระพุทธเจ้าบริสุทธิ์โดยแท้ ไม่ต้องเสริมเติมแต่ง สาธุค่ะ
เดี่ยวนี้แต่ละค่ายต่าง..บัญญัติ..ขึ้นมาใช้..พุทธวจนะ-พุทธวงค์-พุทธธรรม-พุทธพจน์--เป็นต้นเพื่อผลประโยชน์แต่ละค่าย
@@oppopoop7946 พุทธบุตรก็มีคะ.สอนก็ไม่ใช่พระธรรมของพระพุทธเจ้าเลยปวดหัวกับพวกหลงสังสารวัฏคะ
ฟังแล้วก็เหนื่อยใจแทนพระอาจารย์ครับ
้เหนื่อยใจกับพระพวกนี้ต่างคนต่างอ้าง..พระพุทธเจ้า..หาเงิน
@@oppopoop7946เขาทำหนังสือแจกฟรี
บาลี ปธ. อะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่กระดิก จับมากระขึ้นประเด็น 🤣🤣🤣🤣🤣
พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว..ปฏิบัติตามหลัก ไตรสิกขา อริยะสัจจ์ 4 อิทัปปัจจยตา อภิธรรมไตรลักษณ์ ..ให้แทงตลอดด้วยปัญญา..🙏
🙏🙏🙏🙏🙏
เสียงหนึ่งน่าจะเป็นภิกษุคึกฤทธิ์ อีกเสียงน่าจะเป็นภิกษุต้น ก็พูดก็ถามดีมีเหตุมีผลทำให้เข้าใจ ถ้าภิกษุคึกฤทธิ์ลดความดุดันของเสียงลงจะน่าฟังน่าศึกษาน่าติดตามมากขึ้น นะครับ
เจ้าของคลิปเร่งสปีดเลยทำให้เสียงการพูดดูดุดัน แนะนำให้ลองลดสปีดเป็น 0.75ครับ
🙏🙏🙏 งงมาครึ่งชีวิต เพราะไม่รุ้จักพุทธวจน ที่ถูกปิดไว้นี่แหละ
เหนื่อยแทนพระคึกฤทธิ์
แล้วท่านรู้ได้ไงว่าท่านท่านเรียนหรือศึกษามาเป็นคำของพระพุทธเจ้า ที่แท้จริง เอาอะไรมาวัตได้ครับ
@@vivores3527 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ความไม่เที่ยง คือ สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน ความไม่เที่ยง คือ อนิจจัง ความไม่เที่ยง คือ เสื่อม/ เสื่อม เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ และ ธรรมที่เป็นเหตุ คือ เกิด นั่นเองค่ะ / พระพุทธเจ้าบอกว่า มีอยู่นะ สังขตธรรม คุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ นั่นเองค่ะ ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ยกตัวอย่าง ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา (ก็ให้ท่าน เจริญสุตตมยปัญญา เพื่อให้เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล นั่นเองค่ะ) สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ / สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / เมื่อเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมชาติ ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม ก็จะรู้นั่นเองค่ะว่า นี่คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ
@@vivores3527 ตามเห็น ธรรมที่เป็นเหตุ ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้หมดเลย ธรรมชาติ แรก ที่ควรตามเห็น คือ พระพุทธเจ้า ท่านทรงแสดงธรรม ให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ คือ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา ถ้าเห็นเร็ว เหมือนปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ก็คือ ธรรมชาติ ความยิ่งของ อินทรีย์ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ถ้าเห็นช้า ก็คือ ธรรมชาติ ความหย่อนของ อินทรีย์ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ฟังปุ๊ป บรรลุ ธรรม ปั๊บ ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ความยิ่งของ อินทรีย์ ซึ่งก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญจวัคคีย์ ทั้งห้า นั่นเองค่ะ แต่ถ้า ฟังแล้ว ผ่านไปอีก 10- 50 ปี คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ความหย่อนของ อินทรีย์ นั่นเองค่ะ
@@vivores3527 ซึ่งในคำสอนของพระพุทธเจ้า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก็มี ธรรมที่เป็นเหตุ เยอะเลย นั่นเองค่ะ ที่รอให้ท่าน ตามเห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมที่เป็นเหตุ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ #สำคัญที่สุดคือพระในบ้านหรือพ่อแม่เรามีพระคุณสุงที่สุด🙏#แบ่งบันความรู้ทางธรรมดีๆครับผม🙏#ธรรมชั้นสูง เมตตาธรรม 🙏 1.มีศิล5 ข่อยๆทำที่ละข้อก็ได้ครับ2.มีสติอยู่กับลมหายใจ3.มีความตั้งมั่นต่อตัวเอง4.วิธีนี้ ไม่มีการบังคับ ไม่แบ่งแยกทำได้ทุกชนชั้นวรรณะ ไม่มีกฎ ธรรมมะเป็นของฟรี ทุกคนทำได้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครทำคนนั้นก็ได้ใครไม่ทำคนนั้นก็ไม่ได้ จะรู้ได้ซะเพราะตนเท่านั่น5 วิธีเจริญกรรมฐาน ทำได้ทุกเวลาอยู่ที่ความสะดวกขอแค่ เวลา โกรษ-เครียดไห้หาอะไรทำไห้ใจเย็นลงแล้วค่อยกับมาทำก็ได้ #บทภวานา ใช่ชื่อจริงของตัวเองเป็นคำภาวนา แล้วบุญบารมีจะติดตัวคุณมาก แล้วปัญญาจะเกิดกับตัวคุณมากด้วย แล้วมารในใจคุณก็จะอยู่เหนือคุณไม่ได้ (ครวณ พิจารณา-แยกแยะดูก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ผมบอกได้แค่นี้ แต่บังคับคุณ ไม่ได้ครับ)วิธีนี้จะได้ผลดีมากครับ เพราะเราจะกลับมาอยู่กับจิตเดิมของเรา ที่ไม่ใช่วิญญาณครับ พระพุทธเจ้าสอนได้เราอยู่กับจิต ครับไม่ได้สอนไห้อยู่กับ ความคิดหรือกิเลสของโลก คือวิญญาณนั่นแหละครับ แล้วถ้าจิตเดิมของเรามีบุญมากเราก็จะรู้ความจริงของโลกได้ตัวของเราเอง ครับ โดยที่ไม่ต้องทำตามใคร แต่รู้ได้ชัดเพราะตนเองเท่านั้นครับ นี่แหละครับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง
ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของจริง เพราะเนื้อความในพระไตรปิฎก(ฉบับสยามรัฐ) คือพระพุทธวจนะ ไม่มีข้อขัดกันเลย ผมจะไม่บอกนะครับว่าไม่มีข้อขัดกันยังไง คุณมาเม้นต์ได้ แสดงว่าบ้านมีเน็ทครับ
ขอถามครับ การสนทนาธรรมครั้งนี้ ท่านใดสนทนากันครับ
ถ้าไม่ผิดเลยก็คือ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมีอยู่ใน ตถาคตภาษิต เท่านั้นค่ะ (เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมี สังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ กฏอิทัปปัจจยตา / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปฏิจจสมุปบาท * กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท* ) ( เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมี อสังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ กฏอิทัปปัจจยตา / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปฏิจจสมุปบาท * กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท*) กราบอนุโมทนา พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ที่ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ ท่านพูดว่า ตถาคตภาษิต ดีหมด ท่านบอกให้ ท่องจำ กฏอิทัปปัจจยตา ท่องจำ ปฏิจจสมุปบาท กราบสาธุค่ะ
ตกลงจะเชื่อตำราไหน หรือคำสอนไดที่ถูกต้องหลายอาจารก้อหลายความรู้ความคิดเห็น แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้นผมเลยแยกไม่ออกจะเขื่อใครดี
ก้อคำสอนที่ออกจากปากพระพุทธเจ้าเท่านั้นไง เชื่อได้นอกนั้นมีผิดพลาด งงทำไม
ฟังๆไปเหอะ แค่ต้องเอาพระสูตร พระวินัย(๒๒๗ สิกขาบท ที่มาทั้งใน และนอกปาฏิโมกข์ มหาปเทส ๔ แต่ ๑๕๐ ข้อไม่เอานะ) พระอภิธรรม มาเทียบเคียง ว่าเข้า หรือขัดกัน ครับ
@@กฤษณ์เสนามาตย์-ฆ6ฅ เห้อ ไปฟังของเขารึยัง ไปฟังมาก่อนแล้วมาคุยกัน
เรียกชื่อพระสาวก แบบไม่ให้ความเคารพเลย อย่าลืมนะครับท่านเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์นะครับ
ระหว่างพระอาจารย์ ที่พูดว่า "...นี่อัครสาวกเบื้องขวา เลิศทางปัญญา..." ไม่ใช่แค่รู้ว่า เป็นพระอรหันต์ กับคนที่พูดไพเราะ "ท่านพระสารีบุตร" ได้แค่นั้น ใครเคารพพระสาวก มากกว่ากัน
ในสมัยพุทธกาลปริพาชกโต้วาทะกับพระพุทธเจ้า ปัจจุบันมีสงฆ์ที่ไม่สนใจคำพระพุทธเจ้าโต้วาทะกับศิษย์ตถาคต
คนเป็นอรหันต์..ไม่พูดถึงอรหันต์..คนที่ถกเถียงกัน.สงสัยในพระอรหันต์..พูดถึงเเต่ความเป็นอรห้นต์..สาธุ..
จงทำความเข้าใจใหม่นะครับคำว่าสาวกหมายถึงพระที่ถูกต้องตามธรรมแต่ถ้าไม่ถูกต้องนั่นแหละไม่ควรฟังมีหลายประเด็นที่ไม่สอดครองกันคำสอนใดที่ทำให้คนแตกแยกเกิดการแบ่งพรรคพวกมีความลำเอียงมีความโกรธสอนด้วยโทสะทำความแตกแยกคิดว่าควาเห็นขงตนถูกคนเดียวคาอื่นผิดหมดิย่างนี้จะเรียกว่าชาวพุทธได้อย่างไรพระสารึบุตรก็สอนได้ถ้าสาวกบรรลุแล้วสอนไม่ได้จะมีสาวกเดินทางแยกทางกันไปสอนในแต่ละที่พระธรรมละเอียดมากถ้าตีความผิดพาคนลงนรกเพียบเลย
สาวก ที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า จะไม่มีผิดพลาด ถ้าทำถามที่พระพุทธเจ้าสั่ง สาวกที่ "บรรลุธรรม" ย่อมเข้าใจชัดว่า งามในเบื้องต้น-ท่ามกลาง-ที่สุด พยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์ เป็นอย่างไร ไม่มีการ ตีความผิด แน่นอน"...พวกเธอจงเที่ยวจาริก เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ..."
เวรกรรมเราเป็นของสัตว์โลก
ถ้าอย่างนั้นประสบการณ์ของทุกก็เหมือนกันหมดสิครับ ท่าน เพราะทุกคนเกิมา 1ชีวิต 1จิต จะไห้เหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ตามความเป็นจริงนะครับ ผมไห้ไปหาที่ไหนก็ได้ มาสู้กับความเป็นจริง ไม่มีทางวัตกันได้ครับ
ใครบอกให้เข้าใจว่า เหมือนกันหมด เหรอครับ
@@7000ant อ่าว ก็ทำวิธีแบบเดียวกันไงครับ แล้วคุณจะเป็นตัวของตัวเองได้ยังไงครับ
@@vivores3527 หืม เรื่องแยกนิกาย วัดป่า/บ้าน สินะ
@@vivores3527 เรามีพระพุทธเจ้าเป็นครู เหมือนกัน เรียนวิชาเดียวกันจริง แต่ไม่เห็นจะต้องมีประสบการณ์ชีวิต เหมือนกันนี่ครับ
@@vivores3527 การปฏิบัติใน พระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทางปัญญาวิมุตติในคือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด จึงมีเกิดปรากฏขึ้นมา เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด หรือยังค่ะ ธรรมชาติ นี้จะต้องมีเกิดปรากฏขึ้นมาเหมือนไปกัน นั่นเองค่ะ ถึงจะเป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้
อนันตริยะกรรม?. อินทรา สมณะเมตตา พุทธเจ้า พระศรีอารย์❤
เพราะ ความคลาดเคลื่อน ของความไม่บริบูรณ์ แท้ๆ แท้ๆ แท้ๆใยแมงมุม บังภูเขา
บนภูเขา ยังผู้ถือมีใบไม้ ไว้ในกำมือ
@@7000ant แบบนั่้น ... วิเวก เพียงลำพัง แต่ผู้เดียว ... ก็ จะไม่นาน นัก
Ajātasattu; ทรงครองราชย์492 ปีก่อนคริสต์ศักราชสิ้นพระชนม์ 460 ก่อนคริสต์ศักราชพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นอุบาสก และผู้อุปถัมภ์สังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธ
แม้แต่รอยประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในอินเดียยังหาไม่พบ มีแต่สร้างอุทยานประวัติศาสตร์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
Aśoka พระเจ้าอโศกมหาราชทรงครองราชย์ 268 BC สิ้นพระชนม์ 232 BC
ถามท่านผู้เจริญ สมัยพระพุทธเจ้ายังทรงอยู่ สาวกแสดงธรรมมีผู้บรรลุธรรมไหม
ถ้าสาวกนั้น ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่แต่งเติม มีผู้บรรลุแน่
@@7000ant อ้อ..งั้นคนที่ฟังอาจารย์คึกฤทธ์ก็ถึงธรรมเยอะแล้ว ดีๆประเทศไทยจะได้มีพระอริยเยอะ สอนธรรม ประเทศจะได้สงบสุข
@@สายป่วนมาเพื่อกวนกิเลสคน ผู้ฟัง ก็ถ่ายทอดต่อ ง่ายด้วย มีข้อมูลให้ตรวจสอบ อีกกี่พันปี ก็ไม่เสื่อม เพราะเป็นคำตถาคตเหมือนเดิม
งั้นก็ไม่ต้องมีการแปลบาลีมาเป็นภาษาบาลีประเทศเช่นแปลบาลีมาเป็นภาษาไทยยาลีสุตตันตะภาษาไทยฉบับหลวงฯสาธุ
คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ก็คือ มีดวงตาเห็น ธรรม นั่นเองค่ะ
พระพุทธ์องร์ เลยสอนไว้ว่าจะรู้ได้ด้วย ศิล สมาธิ ปัญญา เท่านั่น ด้วย ปัญญา ประสบการณ์ของเราเท่านั้นครับ
ศีล สมาธิ ปัญญา เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมชาติ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา
พระพุทธองค์เคยตรัสว่า อย่าเชื่อ อาจารย์ อย่าเชื่อ ตำรา อย่าเชื่อพ่อ แม่ให้ปฎิบัติเองลองดูเองก่อน มีไหมครับ
เรื่องทางธรรม (โลกุตระ) พระพุทธองค์ตรัสว่าอย่าเชื่อ ตามที่คุณบอกส่วนเรื่องทางโลก (โลกียะ) ใครจะเชื่อพ่อแม่ ครู ไม่ทรงห้าม
ภิกขุท่านนี้ อัตรา ตัวตนหนา ถ้าไม่หยั่งลงมั่นในคำตถาคต เข้ามาสู่ร่มกาสาวพัตรของพุทธองค์ทำไม
เพราะท่านหยั่งลงมั่น ในคำตถาคถแล้วน่ะสิ
อัตตา
พิซซ่า
คนนี้ ตายแล้ว จะไปไหน...
😂😂
ดูกรอัคคิเวสสนะ หยาดเหงื่อของท่านบางหยาด หยดจาก "อิโมจิ" ลงยังผ้าห่มแล้วตกที่พื้น ส่วนเหงื่อในกายของเราในเดี๋ยวนี้ไม่มีเลย
คึกฤทธิ์ไม่ฟังคนอื่นเลย ทำตัวเป็นอรรถกถาใหม่ ให้ถามแล้วรีบพูดแทรก กลัวเขาถาม
ท่านพูดแล้วหยุด ให้อีกฝ่ายถาม เป็นระยะ ตลอดคลิป และจะประกาศคำตถาคต ในวันต่อๆไปอีก แล้วก็จะให้ถามอีก
คนอื่นแยกหมู่แยกพวกเองไม่เป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสดา
คำสอนของพระพุทธเจ้า แตกต่างจาก คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ ผู้ที่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี แล้วนั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท จะมี สังขตธรรม คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม คือ ไม่มี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภพระอัครสาวก ซ้ายขวา บรรลุธรรมจากคำแต่งใหม่ของ พระอัสสชิเถระครับ
@@7000antต้องฟังคำถามให้จบครับ แล้วพูดตอบ ไม่ใช่แทรกอยู่ตลอดเวลา
ขอสาธุในความสามารถแก้ปัญหาในการโต้ตอบแห่งสงฆ์ที่ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์โชติปาโลท่านมีความสามารถมีความใจเย็นมีความรอบรู้และมีความน่าศรัทธาส่วนสูงที่เถียงนั่นก็ถือได้ว่าเป็นข้อเถียงที่เป็นตัวอย่างบวชนานไม่ได้ศึกษาเถียงข้างๆคูๆแม้แต่สาวกพุทธเจ้ารุ่นใหม่หรือเด็กรุ่นหลังที่เชื่อว่าพุทธวจนหรือพระไตรปิฎกโดยรวบรวมมาตั้งแต่หลังพระเจ้าอโศกท่านใดกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา 200 กว่าปีหลังจากพระพุทธองค์ได้ปรินิพพานไปแล้วแต่ส่งผู้โต้ตอบท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ถือได้ว่านี่คือการไม่มีการศึกษาเลยในขณะตนเองอยู่ในไตรจีวรเป็นเรื่องที่น่าสมเพชจริงๆก็คงจะมีอีกเยอะครับส่งลักษณะอย่างนี้ก็ขอให้กําลังใจทั้งคณะสงฆ์ที่มาศึกษาแล้วก็โต้เถียงต่อพระอาจารย์ถึงแม้ว่าโต้เถียงแล้วก็ขอให้มีสติปัญญาจะเห็นช่องทางพระนิพพานอนุญาตโยมเขารู้ไม่จริงเถียงมันน่าอายจริงๆเสียดายปลาทูทอด
เย ธัมมา เหตุปัพพะวาฯ ประโยคนี้ใครพูด พูดกับใคร ผลเป็นอย่างไร แล้วพูดต่อให้ใครฟัง ผลเป็นอย่างไร?พุทธวัจนะถะ กล่าวเป็นภาษามคธ เอามาพูดเป็นภาษาไทย ก็คงไม่ต่างจากอรรถกถา
น้อมกราบท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ผู้มีอุปการะมากเปิดธรรมที่ถูกปิดอนุโมทนาสาธุเจ้าค่า😢🎉🎉
เดี่ยวจะเข้าข่าย...อวดอุตริ..ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มีใครเปิด-ไม่มีใครปืด..😅
จะถามอะไรก็ถามแต่ต้องจบที่คำของพระพุทธเจ้าเท่านั้นสาธุ
พระอาจารย์คึกฤทธิ์องแรกที่พูดให้เข้าใจตอนปี๒๕๖๑ที่ผ่านมาเข้าใจผิดมาตลอดตกปีที่มีทุกข์มากโดนหลอกด้วยแต่ก็ผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ครับสาธุครับ
กราบสาธุสาธุครับในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ດີໃຈທີ່ສຸດທີ່ໄດ້ມາເຈີພຸດທະວັດຈະນະຂໍນົມພະອາຈານຄຶກລິດຜູ້ທີ່ມີອຸປະກາລະຫຼາຍສາທຸ❤
โมฆบุรุษองค์นี้คงทำประโยชน์กับศาสนาน้อยเป็นแน่แท้
ใครที่โดนด่า แล้วลูกศิษย์โกรธ ด่าตอบผู้นั้น ก็ประโยชน์น้อย จริงๆแหละ
พระอาจารย์ต้องเหนื่อยหนักมากเมื่อเจอพระแบบนี้
อธิบายกับบัญญัติใหม่ต่างกันอธิบายได้แต่ญัติเพิ่มเติมไม่ได้ทุกท่านแสดงแต่ละครั้งก็ต้องอธิบายอยู่แล้ว
อธิบายกับ ถ่ายทอด ก็ต่างกันครับ ต้องเจาะจง ว่าถ่ายทอดโดย ไม่มีความเห็นอื่นใดเพิ่ม อย่างพระอาจารย์บอกว่า ท่านใช้พระสูตร อธิบายพระสูตร เป็นการ เรียงพระสูตร ให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น
พุทธวจนอย่างเดียวบางที่ไม่รู้เรื่องต้องอธิบายขยายอุปมาอุปไมให้เห็นตัวอย่างบ้างผมฟังทั้งพุทธวจนและคำสาวกที่ไม่ขัดแย้งกับพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระอริยสงฆ์สาวก นำมาบอกต่อ จะมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ เป็นความแตกต่าง ระหว่าง คำสอนของพระพุทธเจ้า และ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ก็ไปตรวจสอบ ความคิดเห็นท่านดูว่า เป็นความคิดเห็นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ ไหม ก็คือมีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ เพราะมีเพียง คำสอนของพระพุทธเจ้า เท่านั้นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ การนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อ จึงเป็นความคิดเห็นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ในความคิดเห็นจึงมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ ก็จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ
สาวก ภาษิต จะแต่งอะไร ขึ้นมาก็ได้ แต่งให้ตัวเองบรรลุธรรม ยังได้เลย
@@Dti2656 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัจจะความจริง คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมา ตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมา ตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร คือ มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา (ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด เมื่ออริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว จึงทำให้เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองค่ะ สาวกภาษิต เป็น คำสอนที่ ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ เป็นคำกล่าวของสาวก ก็คือ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ในความคิดเห็น ก็จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ
@@Dti2656 พุทธวจนก็ไม่ใช่มาจากสาวกเหรอ
@@王艺瑾-g6m "ภิกษุ ท.! พวกภิกษุบริษัทในกรณีนี้, สุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตรเป็นเรื่องแนวนอก เป็นคำกล่าวของสาวก เมื่อมีผู้นำสุตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่เธอจักไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และ จักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน." "ภิกษุ ท.! ส่วน สุตตันตะเหล่าใด ที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง เป็นชั้นโลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรื่องสุญญตา,เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่; เธอย่อมฟังด้วยดี ย่อมเงี่ยหูฟังย่อมตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนจึงพากันเล่าเรียน ไต่ถาม ทวนถามแก่กันและกันอยู่ว่า ข้อนี้เป็นอย่างไร ? มีความหมายกี่นัย ? ” ดังนี้. ด้วยการทำดังนี้ เธอย่อมเปิดธรรมที่ถูกปิดไว้ได้. ธรรมที่ยัง ไม่ปรากฏ เธอก็ทำให้ปรากฏได้, ความสงสัยในธรรมหลายประการที่น่าสงสัย เธอก็บรรเทาลงได้."
รู้นอกแต่ไม่รู้ในอนัตริยะกรรมเกิดแล้วครับ
เกิดง่าย ก็ดับง่าย
ยึดติดจนไม่อาจหลุดพ้นได้น่าสงสารท่านเหลือเกินท่านคึก
ท่านนั่นแหละที่น่าสงสาร กล่าวถ้อยคำวาจาที่น่าสงสารเช่นนี้ออกมา แสดงให้เห็นถึงความขาดปัญญา ไม่แทงตลอดอย่างดีด้วยทิฐิในคำของพระศาสดา ไม่เงี้ยโสตลงสดับ มีวาทะเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ ท่านไม่ต้องศรัทธาในท่านคึกฤทธิ์ก็ได้ แต่ธรรมะย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์อยู่แล้ว ถ้าท่านไม่ฟังพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วจะฟังใครเล่า ชีวิตนี้น้อยนัก ขอท่านจงเร่งความเพียรเถิด
จริงครับท่าน น่าสงสารคนที่ปรามาสพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านเผยแผ่คำจริง
การเข้าใจใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 คือเจริญ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ ปัญญา ที่เกิดปรากฏขึ้นมา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ เข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการเห็น กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ( กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดเลยนั่นเองคะ จะมี กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท พระพุทธเจ้าบอกว่า ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ
อะไรที่เรียกว่ายึดติด ถ้าไม่ยึดติดต้องเป็นแบบไหน
@@Kct2525 ใจเป็นอิสระ จากการยึดมั่นในสมมุติในโลก ในความปรุงแต่งของรูปกาย ความเป็นอิสระโดยสิ้นเชิง ถ้าเธอเข้าถึงเธอจะเข้าใจ เพราะใจเราหลงไปกับโลกกับสมมุติแม้แต่ภาษาเรายังพากันยึดติดคำพูดคำสอนก้อเพียงเพื่อให้เรานำไปปฏิบัติให้เห็นแจ้ง ให้เป็นไปเพื่อการดับทุกข์แม้แต่ตัวสมณะโคดมเองยังบอกให้นำธรรมไปปฏิบัติแต่ไม่ต้องยึดตัวท่าน ท่านเป็นเพียงผู้บอก แม้แต่ความยึดมั่นในศาสนา ลัทธินิกายมิใช่หรือที่ทำให้มนุษย์พากันแบ่งแยก พากันลุ่มหลงจนมืดบอดต่างยกศาสนาตนเองดีกว่าศาสนาอื่นๆ มนุษย์จึงมีแต่ความขัดแย้ง ทนทุกข์ จงพิจารนาให้เห็นแจ้งโลกตามความเป็นจริงเธอจะเข้าใจ เราหบุดพ้นจากโลกแล้วเราจึงมองทุกสิ่งออก ถ้าเราเข้าไม่ถึงแล้วเราคงไม่เตือนท่านดอก ใจเราเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวง ชีวิตมันไม่มีอะไรซับซ้อนถ้าเราเข้าใจธรรมชาติอย่างแจ่มแจ้ง เห็นใจเห็นทุกข์ที่เกิดจากใจของตนเองจนพ้นทุกข์ด้วยตนเอง จงมองใจตนให้แจ่มแจ้งแบะเห็นธรรมชาติอย่างแท้จริงเธอทั้งหลายจะหบุดพ้นแม้นเราเกิดมาเมื่อถึงเวลาอีกไม่นานเราคงได้สละชีวิตเพื่อนำพาสรรพสัตว์พ้นทุกข์ มีเพียงบาตรใบเดียวเพื่อเลี้ยงชีพ ทรัพย์สมบัติทั้งหลาย การสร้างโบสวิหารใหย่โตการเรี่ยไรทำบุญเราคงไม่มี เรามาเพื่อพาผู้คนพ้นทุกข์ เรามาเพื่อขัดเกลาจิตวิญญาณ ฉะนั้นแล้ว การหลุดพ้นมันอยู่ที่เหตุแห่งเธอทั้งหลาย เราแค่เกิดมาเพื่อทำกุศล มิได้เกิดมาเพื่อให้ใครต้องเคารพบูชา ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเจ้าลัทธิใดๆ แบะไม่ต้อการแสวงหาประโยชน์ใดๆ ขอเพียงทำปีะโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งหลายก่อนที่ชีวิตน้อยนิดนี้จะเสื่อมสลายไป อีกไม่นาน
สุดยอดเลยครับท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์สงฆ์ที่มาถามคือเป็นสงฆ์ที่บวชนานไม่ได้ศึกษาก็ไม่ว่าท่านหรอกจะศึกษาแล้วถามแล้วก็ควรจะศึกษาต่อไปให้ละเอียดแล้วก็ช่วยกันเผยแผ่ตามพุทธวจนด้วยคำสอนจากพระโอษฐ์ผมพุทธองค์ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมานั้นอาจารย์ฉันว่าอย่างนี้จะเอาอย่างนี้ผลสุดท้ายก็เละทั้งระบบเห็นชอบแล้วครับเห็นดีอย่างยิ่งครับขอสาธุร่วมกับท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์โชติวโรครับเพราะว่าคนที่ทะเลาะกับพระดังๆเก่งๆหรือรู้จริงๆก็คือพระนั่นเองนะครับเหมือนพุทธองค์ท่านตัดไว้ในพุทธวจนนั่นแหละเมื่อส่งไม่เชื่อมั่นในคำของพระศาสดาแล้วคำสอนนั้นจะมีค่าไฉนนี่คือความจริงในพุทธองค์ท่านตรัสไว้แล้วในพุทธวจนเป็นเรื่องจริงครับขอสาธุร่วมครับท่านพระอาจารย์รวมทั้งทีมงานวัดนาป่าพงทุกดวงจิตครับสาธุสาธุสาธุ
สวมเครื่องแบบของพระตถาคตอยู่แท้ๆ ยังไม่เชื่อว่าพระตถาคตกล่าวอย่างนี้แสดงอย่างนี้ กราบพระอาจารย์คึกฤทธิ์ผู้มีอุปการะอย่างสูงสุด สาธุ สาธุ สาธุ
ตั้งแต่ผมมาเจอพุทธวจน โดย อ.คึกฤทธิ์ เลิกฟังพระรายการอื่นเลย ยิ่งอภินิหารนี่จบกันเลย คาถาอาคม ต่างๆเลิกทันที ท่องแต่คำพุทธวจนอย่างเดียว เจอแสงธรรม แสงสว่าง จริงๆ
มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ ก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก นั่นเองค่ะ เมื่อ ธรรมชาติ เหล่านี้ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็มาเจริญสัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 คือ เจริญ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ เริ่มที่ สุตตมยปัญญา กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็ สุตตมยปัญญา ต่อ นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา อริยมรรคมีองค์แปด เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก สุตตมยปัญญา ใน ธรรมที่เป็นเหตุ คือ กัลยาณมิตร นั่นเองค่ะ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา ใน ธรรมชาตินี้ ก็จะทำให้เห็น พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดง ธรรม แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้า เป็น กัลยาณมิตร อริยมรรคมีองค์แปด เป็น กัลยาณมิตร ผู้ที่นำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ เป็น กัลยาณมิตร นั่นเองค่ะ
คำตถาคต ดีอยู่แล้ว แต่เราจะปฏิบัติตรงนี้น ควรฟังคำสาวกด้วย เช่นคำของพระสารีบุตร ที่ท่านอธิบายขยายความคำพระองค์ เช่นตั้งสติเฉพาะหน้า ตั้งอย่างไร รู้ลมยาวคือรู้อย่างไร รู้ลมสั้นคือรู้อย่างไร (อยากไห้ข้อคิดว่า ถ้าคำตถาคต ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม คำว่าตั้งสติเฉพาะหน้า พวกเราฟังแล้วควรต้องเข้าใจตรงกัน แต่ในภาคปฏิบัติ เหตุใดพวกเราจึงต้องมาถกเถียงกันว่าตั้งตรงหน้า คือตรงไหนของหน้า รับรองว่าตัวท่านเองก็สงสัย แม้แต่ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ก็อธิบายไม่ถูก ว่าตั้งอย่างไร, นี่แค่คำว่าตั้งสติเฉพาะหน้านะครับ)
@@นิคมคําตะพันธ์ พระสารีบุตร ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อ นั่นเองค่ะ สาวกภาษิต ก็คือความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ซึ่งความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ แบบนี้ มันมีเกิดปรากฏขึ้นมา ตลอดสังสารวัฏที่ยาวไกล นั่นเองค่ะ หน้าตามันจะเป็นแบบนี้นั่นเองค่ะ คือ ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองค่ะ ก็มาดูหน้าตา คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา ที่มี กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ อริยมรรคมีองค์แปด จึงมีเกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองค่ะ ซึ่งจะต้องเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ถึงจะทำให้หายสงสัยนั่นเองค่ะ
@@นิคมคําตะพันธ์ การเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สุตตมยปัญญา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ อริยมรรคมีองค์แปด เป็น ตถาคตภาษิตา มีกฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท อย่างนี้ค่ะ (สัมมาทิฏฐิ>สัมมาสังกัปปะ)>(สัมมาสังกัปปะ >สัมมาวาจา) >(สัมมาวาจา >สัมมากัมมันตะ)>(สัมมากัมมันตะ>สัมมาอาชีวะ)>(สัมมาอาชีวะ>สัมมาวายามะ)>(สัมมาวายามะ>สัมมาสติ)>(สัมมาสติ>สัมมาสมาธิ)>(สัมมาสมาธิ>ปัญญา) นั่นเองค่ะ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ ท่านนำ คำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อนั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้า เป็น กัลยาณมิตร อริยมรรคมีองค์แปด เป็น กัลยาณมิตร ผู้ที่นำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ เป็น กัลยาณมิตร ท่านนำคำสอนนี้มาบอกต่อ นั่นแสดงว่า ท่านเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา คือ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ ต้องเข้า ฌาน 1234 นั่นเองค่ะ ถึงจะเห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ ได้สดับตอนไหน ที่ไหน ได้สดับ มาจากใคร นั่นเองค่ะ
@@นิคมคําตะพันธ์ คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ เมื่อเป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต แล้ว และเป็นผู้ที่ฟังด้วยดี มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ ถ้ากำลัง ละนันทิ ใน เวทนาทุกข์ คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ นั่นเองค่ะ / ถ้ากำลัง ละนันทิ ใน เวทนาอุเบกขา ปีติสุข คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมถะ นั่นเองค่ะ กำลัง ละสังโยชน์ รูปราคะ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทางเจโตวิมุตติ นั่นเองค่ะ ถ้าท่องจำ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท ที่เป็นการเจริญสัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 เจริญสุตตมยปัญญา เป็นการตามเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตาม นั่นเองค่ะ
ผู้มีอุปการะมาก
พระอาจารย์คึกฤิทธิ์โสตถิผโล
กราบพระอาจารย์ คึกฤทธิ์
เปิดธรรมที่ถูกปิด ของพระตถาคต
ทำให้กระผมได้มีได้รู้ได้เห็น ได้ประพฤติ
ธรรมขององค์พระตถาคต❤❤❤..
ผู้ถามเหมือนยังอนุบาลแต่อยากถามปัญหากับมัธยมที่คิดว่าตนเองเข้าใจดีแล้ว/ปัญญาของคนสูงต่ำต่างกันแม้คำๆเดียวกันฟังหลายๆคนบ้างครั้งยังยังเข้าใจต่างกันเลย#ยึดติดจนแกะไม่ออก
ต้องลดสปีดคลิปครับ เจ้าของคลิปเค้าเร่งสปีดไว้ ฟังตอนแรกนึกว่าพระทะเลาะกัน ที่จริงมิใช่ตรับ
และเข้าใจที่อ.คึกฤทธิ์ ต้องฟังแต่พุทธวจน เพราะบางครั้งที่ภิกขุทั้งหลายสอดแทรกความคิดเห็นผิดๆสั่งสอนธรรมมั่วๆ จนบิดเบือนธรรมะของพุทธเจ้า
สงฆ์สมมุติรูปนี้ถ้ามีเวลามาค่อยจ้องจับความผิดพลาดของผู้แสดงธรรม
ขอท่านจงเอาเวลานั้นไปศึกษามาใหม่เพื่อความแจ้งในความลังเลสงสัยของตนๆ..เวลามีน้อยมัวทำอะไรอยู่.
ผูัถามมี2แบบคืออยากหาความรูัจริงๆกับถามลองภูมิเพื่อจับผิดคิดวาาตัวเองรู้หมดแล้วผมขอสาธุกับอาจารย์คืกฤทธิ์ครับ😊
อย่าให้ความคิดเห็นเช่นนี้เกิดขึ้นกับเธออีก การรู้สึกกับสิ่งใดนั่นคือตัวท่านเองลึกไปใต้จิตสำนึก❤❤❤
เขาเพียงแต่อยากรู้เท่านั้นจึงถาม อย่าไปเพ่งโทษผู้ใดครับ
ปรามาทพระสาวกอีกนะ คือศึกษามาแล้วต้องรู้ว่าการถามของพระสาวก เช่น พระสารีบุตร ไม่ใช่ท่านไม่รู้ หรือ ไม่มีปัญญา หรือแม้แด่พระศาสดาเอง เป็นการถามเพื่อเป็นพยานว่า หากภายหลังมีผู้อื่นถามแบบนี้ แม้พระวินัยเอง พระองค์ก็ไม่ทรงบัญญัติ หากไม่มีเหตุเกิดขึ้น
@@usangi_tabo การถามย่อมมีเจตนา2.อย่าง.เจตนาแบบกุศลหรืออกุศลละ
ไม่มีใครผิดหรือถูกหรอกคะ
มีแต่รู้และ.ไม่รู้เท่านั้น
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
พุทธวจน 🙏🙏🙏
พระพุทธเจ้าทรงละเอียดรอบคอบยิ่ง ทรงเป็นพระสัพพัญญรู้เห็นอนาคตว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนี้จะมีภัยอันตรายอย่างไร จึงทรงประทาน "ธุดงควัตร 13"ให้เป็นอริยประเพณีแก่ภิกษุสงฆ์นำไปแก้ไขจิตต์ตัวเองโดยเฉพาะ "ปัญญาและฌานสมาบัติ"ที่รองรับพระธรรมรู้เห็นพระธรรมตามความเป็นจริงก็ด้วย"ธุดงควัตร"นี้ พระอริยสาวกเคารพพระธรรม ไม่แสวงหาการเพ่งโทษที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ ไม่แสดงธรรมโดยที่มีพยาบาทนิวรณ์ มีวิจิกิจฉานิวรณ์ครองใจตนอยู่
ศรัทธา พอจ.คึกฤิทธิ์ ที่นำคำพุทธวจนมาเผยแผ่ คำของพระพุทธเจ้าบริสุทธิ์โดยแท้ ไม่ต้องเสริมเติมแต่ง สาธุค่ะ
เดี่ยวนี้แต่ละค่ายต่าง..บัญญัติ..ขึ้นมาใช้..พุทธวจนะ-พุทธวงค์-พุทธธรรม-พุทธพจน์--เป็นต้นเพื่อผลประโยชน์แต่ละค่าย
@@oppopoop7946 พุทธบุตรก็มีคะ.สอนก็ไม่ใช่พระธรรมของพระพุทธเจ้าเลย
ปวดหัวกับพวกหลงสังสารวัฏคะ
ฟังแล้วก็เหนื่อยใจแทนพระอาจารย์ครับ
้เหนื่อยใจกับพระพวกนี้ต่างคนต่างอ้าง..พระพุทธเจ้า..หาเงิน
@@oppopoop7946เขาทำหนังสือแจกฟรี
บาลี ปธ. อะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่กระดิก จับมากระขึ้นประเด็น 🤣🤣🤣🤣🤣
พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว..ปฏิบัติตามหลัก ไตรสิกขา อริยะสัจจ์ 4 อิทัปปัจจยตา อภิธรรมไตรลักษณ์ ..ให้แทงตลอดด้วยปัญญา..🙏
🙏🙏🙏🙏🙏
เสียงหนึ่งน่าจะเป็นภิกษุคึกฤทธิ์ อีกเสียงน่าจะเป็นภิกษุต้น
ก็พูดก็ถามดีมีเหตุมีผลทำให้เข้าใจ ถ้าภิกษุคึกฤทธิ์ลดความดุดันของเสียงลงจะน่าฟังน่าศึกษาน่าติดตามมากขึ้น นะครับ
เจ้าของคลิปเร่งสปีดเลยทำให้เสียงการพูดดูดุดัน แนะนำให้ลองลดสปีดเป็น 0.75ครับ
🙏🙏🙏 งงมาครึ่งชีวิต เพราะไม่รุ้จักพุทธวจน ที่ถูกปิดไว้นี่แหละ
เหนื่อยแทนพระคึกฤทธิ์
แล้วท่านรู้ได้ไงว่าท่านท่านเรียนหรือศึกษามาเป็นคำของพระพุทธเจ้า ที่แท้จริง เอาอะไรมาวัตได้ครับ
@@vivores3527 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ความไม่เที่ยง คือ สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน ความไม่เที่ยง คือ อนิจจัง ความไม่เที่ยง คือ เสื่อม/ เสื่อม เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ และ ธรรมที่เป็นเหตุ คือ เกิด นั่นเองค่ะ / พระพุทธเจ้าบอกว่า มีอยู่นะ สังขตธรรม คุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ นั่นเองค่ะ ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ยกตัวอย่าง ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา (ก็ให้ท่าน เจริญสุตตมยปัญญา เพื่อให้เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล นั่นเองค่ะ) สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ / สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา / เมื่อเห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมชาติ ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม ก็จะรู้นั่นเองค่ะว่า นี่คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ
@@vivores3527 ตามเห็น ธรรมที่เป็นเหตุ ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้หมดเลย ธรรมชาติ แรก ที่ควรตามเห็น คือ พระพุทธเจ้า ท่านทรงแสดงธรรม ให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ คือ มีกัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้ สดับ ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา ถ้าเห็นเร็ว เหมือนปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ก็คือ ธรรมชาติ ความยิ่งของ อินทรีย์ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ถ้าเห็นช้า ก็คือ ธรรมชาติ ความหย่อนของ อินทรีย์ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ฟังปุ๊ป บรรลุ ธรรม ปั๊บ ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ความยิ่งของ อินทรีย์ ซึ่งก็คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญจวัคคีย์ ทั้งห้า นั่นเองค่ะ แต่ถ้า ฟังแล้ว ผ่านไปอีก 10- 50 ปี คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ความหย่อนของ อินทรีย์ นั่นเองค่ะ
@@vivores3527 ซึ่งในคำสอนของพระพุทธเจ้า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก็มี ธรรมที่เป็นเหตุ เยอะเลย นั่นเองค่ะ ที่รอให้ท่าน ตามเห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมที่เป็นเหตุ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ #สำคัญที่สุดคือพระในบ้านหรือพ่อแม่เรามีพระคุณสุงที่สุด🙏
#แบ่งบันความรู้ทางธรรมดีๆครับผม🙏
#ธรรมชั้นสูง เมตตาธรรม 🙏
1.มีศิล5 ข่อยๆทำที่ละข้อก็ได้ครับ
2.มีสติอยู่กับลมหายใจ
3.มีความตั้งมั่นต่อตัวเอง
4.วิธีนี้ ไม่มีการบังคับ ไม่แบ่งแยก
ทำได้ทุกชนชั้นวรรณะ ไม่มีกฎ
ธรรมมะเป็นของฟรี ทุกคนทำได้
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครทำคนนั้นก็ได้
ใครไม่ทำคนนั้นก็ไม่ได้ จะรู้ได้ซะเพราะ
ตนเท่านั่น
5 วิธีเจริญกรรมฐาน ทำได้ทุก
เวลาอยู่ที่ความสะดวก
ขอแค่ เวลา โกรษ-เครียด
ไห้หาอะไรทำไห้ใจเย็นลงแล้ว
ค่อยกับมาทำก็ได้
#บทภวานา ใช่ชื่อจริงของตัวเอง
เป็นคำภาวนา แล้วบุญบารมี
จะติดตัวคุณมาก แล้วปัญญา
จะเกิดกับตัวคุณมากด้วย แล้ว
มารในใจคุณก็จะอยู่เหนือคุณ
ไม่ได้ (ครวณ พิจารณา-แยกแยะ
ดูก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ผมบอก
ได้แค่นี้ แต่บังคับคุณ ไม่ได้ครับ)
วิธีนี้จะได้ผลดีมากครับ เพราะเราจะกลับมาอยู่กับจิตเดิมของเรา ที่ไม่ใช่วิญญาณครับ พระพุทธเจ้าสอนได้เราอยู่กับจิต ครับไม่ได้สอนไห้อยู่กับ ความคิดหรือกิเลสของโลก คือวิญญาณนั่นแหละครับ แล้วถ้าจิตเดิมของเรามีบุญมากเราก็จะรู้ความจริงของโลกได้ตัวของเราเอง ครับ โดยที่ไม่ต้องทำตามใคร แต่รู้ได้ชัดเพราะตนเองเท่านั้นครับ นี่แหละครับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง
ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของจริง เพราะเนื้อความในพระไตรปิฎก(ฉบับสยามรัฐ) คือพระพุทธวจนะ ไม่มีข้อขัดกันเลย ผมจะไม่บอกนะครับว่าไม่มีข้อขัดกันยังไง คุณมาเม้นต์ได้ แสดงว่าบ้านมีเน็ทครับ
ขอถามครับ การสนทนาธรรมครั้งนี้ ท่านใดสนทนากันครับ
ถ้าไม่ผิดเลยก็คือ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมีอยู่ใน ตถาคตภาษิต เท่านั้นค่ะ (เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมี สังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ กฏอิทัปปัจจยตา / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปฏิจจสมุปบาท * กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท* ) ( เส้นทาง สัมมาทิฏฐิ จะมี อสังขตธรรม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ กฏอิทัปปัจจยตา / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / กฏอิทัปปัจจยตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปฏิจจสมุปบาท * กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท*) กราบอนุโมทนา พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ที่ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ ท่านพูดว่า ตถาคตภาษิต ดีหมด ท่านบอกให้ ท่องจำ กฏอิทัปปัจจยตา ท่องจำ ปฏิจจสมุปบาท กราบสาธุค่ะ
ตกลงจะเชื่อตำราไหน หรือคำสอนไดที่ถูกต้องหลายอาจารก้อหลายความรู้ความคิดเห็น แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้นผมเลยแยกไม่ออกจะเขื่อใครดี
ก้อคำสอนที่ออกจากปากพระพุทธเจ้าเท่านั้นไง เชื่อได้นอกนั้นมีผิดพลาด งงทำไม
ฟังๆไปเหอะ แค่ต้องเอาพระสูตร พระวินัย(๒๒๗ สิกขาบท ที่มาทั้งใน และนอกปาฏิโมกข์ มหาปเทส ๔ แต่ ๑๕๐ ข้อไม่เอานะ) พระอภิธรรม มาเทียบเคียง ว่าเข้า หรือขัดกัน ครับ
@@กฤษณ์เสนามาตย์-ฆ6ฅ เห้อ ไปฟังของเขารึยัง ไปฟังมาก่อนแล้วมาคุยกัน
เรียกชื่อพระสาวก แบบไม่ให้ความเคารพเลย อย่าลืมนะครับท่านเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์นะครับ
ระหว่างพระอาจารย์ ที่พูดว่า "...นี่อัครสาวกเบื้องขวา เลิศทางปัญญา..." ไม่ใช่แค่รู้ว่า เป็นพระอรหันต์
กับคนที่พูดไพเราะ "ท่านพระสารีบุตร" ได้แค่นั้น
ใครเคารพพระสาวก มากกว่ากัน
ในสมัยพุทธกาลปริพาชกโต้วาทะกับพระพุทธเจ้า ปัจจุบันมีสงฆ์ที่ไม่สนใจคำพระพุทธเจ้าโต้วาทะกับศิษย์ตถาคต
คนเป็นอรหันต์..ไม่พูดถึงอรหันต์..คนที่ถกเถียงกัน.สงสัยในพระอรหันต์..พูดถึงเเต่ความเป็นอรห้นต์..สาธุ..
จงทำความเข้าใจใหม่นะครับคำว่าสาวกหมายถึงพระที่ถูกต้อง
ตามธรรมแต่ถ้าไม่ถูกต้องนั่น
แหละไม่ควรฟังมีหลายประเด็นที่
ไม่สอดครองกันคำสอนใดที่ทำให้คนแตกแยกเกิดการแบ่งพรรคพวกมีความ
ลำเอียงมีความโกรธสอนด้วย
โทสะทำความแตกแยกคิดว่าควาเห็นขงตนถูกคนเดียวคาอื่นผิด
หมดิย่างนี้จะเรียกว่าชาวพุทธได้
อย่างไรพระสารึบุตรก็สอนได้ถ้า
สาวกบรรลุแล้วสอนไม่ได้จะมีสา
วกเดินทางแยกทางกันไปสอนใน
แต่ละที่พระธรรมละเอียดมากถ้า
ตีความผิดพาคนลงนรกเพียบเลย
สาวก ที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า จะไม่มีผิดพลาด ถ้าทำถามที่พระพุทธเจ้าสั่ง สาวกที่ "บรรลุธรรม" ย่อมเข้าใจชัดว่า งามในเบื้องต้น-ท่ามกลาง-ที่สุด พยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์ เป็นอย่างไร ไม่มีการ ตีความผิด แน่นอน
"...พวกเธอจงเที่ยวจาริก เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ..."
เวรกรรมเราเป็นของสัตว์โลก
ถ้าอย่างนั้นประสบการณ์ของทุกก็เหมือนกันหมดสิครับ ท่าน เพราะทุกคนเกิมา 1ชีวิต 1จิต จะไห้เหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ตามความเป็นจริงนะครับ ผมไห้ไปหาที่ไหนก็ได้ มาสู้กับความเป็นจริง ไม่มีทางวัตกันได้ครับ
ใครบอกให้เข้าใจว่า เหมือนกันหมด เหรอครับ
@@7000ant อ่าว ก็ทำวิธีแบบเดียวกันไงครับ แล้วคุณจะเป็นตัวของตัวเองได้ยังไงครับ
@@vivores3527 หืม เรื่องแยกนิกาย วัดป่า/บ้าน สินะ
@@vivores3527 เรามีพระพุทธเจ้าเป็นครู เหมือนกัน เรียนวิชาเดียวกันจริง แต่ไม่เห็นจะต้องมีประสบการณ์ชีวิต เหมือนกันนี่ครับ
@@vivores3527 การปฏิบัติใน พระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทางปัญญาวิมุตติในคือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด จึงมีเกิดปรากฏขึ้นมา เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด หรือยังค่ะ ธรรมชาติ นี้จะต้องมีเกิดปรากฏขึ้นมาเหมือนไปกัน นั่นเองค่ะ ถึงจะเป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้
อนันตริยะกรรม?
. อินทรา
สมณะเมตตา พุทธเจ้า
พระศรีอารย์❤
เพราะ ความคลาดเคลื่อน ของความไม่บริบูรณ์ แท้ๆ แท้ๆ แท้ๆ
ใยแมงมุม บังภูเขา
บนภูเขา ยังผู้ถือมีใบไม้ ไว้ในกำมือ
@@7000ant แบบนั่้น ... วิเวก เพียงลำพัง แต่ผู้เดียว ... ก็ จะไม่นาน นัก
Ajātasattu; ทรงครองราชย์
492 ปีก่อนคริสต์ศักราช
สิ้นพระชนม์ 460 ก่อนคริสต์ศักราช
พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นอุบาสก และผู้อุปถัมภ์สังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธ
แม้แต่รอยประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในอินเดียยังหาไม่พบ มีแต่สร้างอุทยานประวัติศาสตร์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
Aśoka พระเจ้าอโศกมหาราช
ทรงครองราชย์ 268 BC
สิ้นพระชนม์ 232 BC
ถามท่านผู้เจริญ สมัยพระพุทธเจ้ายังทรงอยู่ สาวกแสดงธรรมมีผู้บรรลุธรรมไหม
ถ้าสาวกนั้น ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่แต่งเติม มีผู้บรรลุแน่
@@7000ant อ้อ..งั้นคนที่ฟังอาจารย์คึกฤทธ์ก็ถึงธรรมเยอะแล้ว ดีๆประเทศไทยจะได้มีพระอริยเยอะ สอนธรรม ประเทศจะได้สงบสุข
@@สายป่วนมาเพื่อกวนกิเลสคน ผู้ฟัง ก็ถ่ายทอดต่อ ง่ายด้วย มีข้อมูลให้ตรวจสอบ อีกกี่พันปี ก็ไม่เสื่อม เพราะเป็นคำตถาคตเหมือนเดิม
งั้นก็ไม่ต้องมีการแปลบาลี
มาเป็น
ภาษาบาลีประเทศ
เช่น
แปลบาลีมาเป็นภาษาไทยยาลี
สุตตันตะภาษาไทย
ฉบับหลวง
ฯ
สาธุ
คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด ก็คือ มีดวงตาเห็น ธรรม นั่นเองค่ะ
พระพุทธ์องร์ เลยสอนไว้ว่าจะรู้ได้ด้วย ศิล สมาธิ ปัญญา เท่านั่น ด้วย ปัญญา ประสบการณ์ของเราเท่านั้นครับ
ศีล สมาธิ ปัญญา เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา สมถะ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา วิปัสสนา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา อานาปานสติ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ธรรมชาติ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ สุตตมยปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา
พระพุทธองค์เคยตรัสว่า อย่าเชื่อ อาจารย์ อย่าเชื่อ ตำรา อย่าเชื่อพ่อ แม่ให้ปฎิบัติเองลองดูเองก่อน มีไหมครับ
เรื่องทางธรรม (โลกุตระ) พระพุทธองค์ตรัสว่าอย่าเชื่อ ตามที่คุณบอก
ส่วนเรื่องทางโลก (โลกียะ) ใครจะเชื่อพ่อแม่ ครู ไม่ทรงห้าม
ภิกขุท่านนี้ อัตรา ตัวตนหนา ถ้าไม่หยั่งลงมั่นในคำตถาคต เข้ามาสู่ร่มกาสาวพัตรของพุทธองค์ทำไม
เพราะท่านหยั่งลงมั่น ในคำตถาคถแล้วน่ะสิ
อัตตา
พิซซ่า
คนนี้ ตายแล้ว จะไปไหน...
😂😂
ดูกรอัคคิเวสสนะ หยาดเหงื่อของท่านบางหยาด หยดจาก "อิโมจิ" ลงยังผ้าห่มแล้วตกที่พื้น ส่วนเหงื่อใน
กายของเราในเดี๋ยวนี้ไม่มีเลย
คึกฤทธิ์ไม่ฟังคนอื่นเลย ทำตัวเป็นอรรถกถาใหม่ ให้ถามแล้วรีบพูดแทรก กลัวเขาถาม
ท่านพูดแล้วหยุด ให้อีกฝ่ายถาม เป็นระยะ ตลอดคลิป และจะประกาศคำตถาคต ในวันต่อๆไปอีก แล้วก็จะให้ถามอีก
คนอื่นแยกหมู่แยกพวกเองไม่เป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสดา
คำสอนของพระพุทธเจ้า แตกต่างจาก คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ ผู้ที่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี แล้วนั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท จะมี สังขตธรรม คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม คือ ไม่มี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภพระอัครสาวก ซ้ายขวา บรรลุธรรมจากคำแต่งใหม่ของ พระอัสสชิเถระครับ
@@7000antต้องฟังคำถามให้จบครับ แล้วพูดตอบ ไม่ใช่แทรกอยู่ตลอดเวลา
ขอสาธุในความสามารถแก้ปัญหาในการโต้ตอบแห่งสงฆ์ที่ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์โชติปาโลท่านมีความสามารถมีความใจเย็นมีความรอบรู้และมีความน่าศรัทธาส่วนสูงที่เถียงนั่นก็ถือได้ว่าเป็นข้อเถียงที่เป็นตัวอย่างบวชนานไม่ได้ศึกษาเถียงข้างๆคูๆแม้แต่สาวกพุทธเจ้ารุ่นใหม่หรือเด็กรุ่นหลังที่เชื่อว่าพุทธวจนหรือพระไตรปิฎกโดยรวบรวมมาตั้งแต่หลังพระเจ้าอโศกท่านใดกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา 200 กว่าปีหลังจากพระพุทธองค์ได้ปรินิพพานไปแล้วแต่ส่งผู้โต้ตอบท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ถือได้ว่านี่คือการไม่มีการศึกษาเลยในขณะตนเองอยู่ในไตรจีวรเป็นเรื่องที่น่าสมเพชจริงๆก็คงจะมีอีกเยอะครับส่งลักษณะอย่างนี้ก็ขอให้กําลังใจทั้งคณะสงฆ์ที่มาศึกษาแล้วก็โต้เถียงต่อพระอาจารย์ถึงแม้ว่าโต้เถียงแล้วก็ขอให้มีสติปัญญาจะเห็นช่องทางพระนิพพานอนุญาตโยมเขารู้ไม่จริงเถียงมันน่าอายจริงๆเสียดายปลาทูทอด
เย ธัมมา เหตุปัพพะวาฯ ประโยคนี้ใครพูด พูดกับใคร ผลเป็นอย่างไร แล้วพูดต่อให้ใครฟัง ผลเป็นอย่างไร?
พุทธวัจนะถะ กล่าวเป็นภาษามคธ เอามาพูดเป็นภาษาไทย ก็คงไม่ต่างจากอรรถกถา
น้อมกราบท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ผู้มีอุปการะมากเปิดธรรมที่ถูกปิดอนุโมทนาสาธุเจ้าค่า😢🎉🎉
เดี่ยวจะเข้าข่าย...อวดอุตริ..
ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มีใครเปิด-ไม่มีใครปืด..😅
จะถามอะไรก็ถามแต่ต้องจบที่คำของพระพุทธเจ้าเท่านั้นสาธุ
พระอาจารย์คึกฤทธิ์องแรกที่พูดให้เข้าใจตอนปี๒๕๖๑ที่ผ่านมาเข้าใจผิดมาตลอดตกปีที่มีทุกข์มากโดนหลอกด้วยแต่ก็ผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ครับสาธุครับ
กราบสาธุสาธุครับในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ດີໃຈທີ່ສຸດທີ່ໄດ້ມາເຈີພຸດທະວັດຈະນະຂໍນົມພະອາຈານຄຶກລິດຜູ້ທີ່ມີອຸປະກາລະຫຼາຍສາທຸ❤
โมฆบุรุษองค์นี้คงทำประโยชน์กับศาสนาน้อยเป็นแน่แท้
ใครที่โดนด่า แล้วลูกศิษย์โกรธ ด่าตอบ
ผู้นั้น ก็ประโยชน์น้อย จริงๆแหละ
พระอาจารย์ต้องเหนื่อยหนักมากเมื่อเจอพระแบบนี้
อธิบายกับบัญญัติใหม่ต่างกันอธิบายได้แต่ญัติเพิ่มเติมไม่ได้ทุกท่านแสดงแต่ละครั้งก็ต้องอธิบายอยู่แล้ว
อธิบายกับ ถ่ายทอด ก็ต่างกันครับ ต้องเจาะจง ว่าถ่ายทอดโดย ไม่มีความเห็นอื่นใดเพิ่ม อย่างพระอาจารย์บอกว่า ท่านใช้พระสูตร อธิบายพระสูตร เป็นการ เรียงพระสูตร ให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น
พุทธวจนอย่างเดียวบางที่ไม่รู้เรื่องต้องอธิบายขยายอุปมาอุปไมให้เห็นตัวอย่างบ้างผมฟังทั้งพุทธวจนและคำสาวกที่ไม่ขัดแย้งกับพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระอริยสงฆ์สาวก นำมาบอกต่อ จะมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ เป็นความแตกต่าง ระหว่าง คำสอนของพระพุทธเจ้า และ คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต และ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ก็ไปตรวจสอบ ความคิดเห็นท่านดูว่า เป็นความคิดเห็นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ ไหม ก็คือมีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ เพราะมีเพียง คำสอนของพระพุทธเจ้า เท่านั้นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ การนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาบอกต่อ จึงเป็นความคิดเห็นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ในความคิดเห็นจึงมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ ก็จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ
สาวก ภาษิต จะแต่งอะไร ขึ้นมาก็ได้ แต่งให้ตัวเองบรรลุธรรม ยังได้เลย
@@Dti2656 คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น สัจจะความจริง คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมา ตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมา ตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร คือ มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา (ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด เมื่ออริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว จึงทำให้เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองค่ะ สาวกภาษิต เป็น คำสอนที่ ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ เป็นคำกล่าวของสาวก ก็คือ ความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ในความคิดเห็น ก็จะไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม นั่นเองค่ะ
@@Dti2656 พุทธวจนก็ไม่ใช่มาจากสาวกเหรอ
@@王艺瑾-g6m "ภิกษุ ท.! พวกภิกษุบริษัทในกรณีนี้, สุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตรเป็นเรื่องแนวนอก เป็นคำกล่าวของสาวก เมื่อมีผู้นำสุตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่เธอจักไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และ จักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน."
"ภิกษุ ท.! ส่วน สุตตันตะเหล่าใด ที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง เป็นชั้นโลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรื่องสุญญตา,เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่; เธอย่อมฟังด้วยดี ย่อมเงี่ยหูฟังย่อมตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนจึงพากันเล่าเรียน ไต่ถาม ทวนถามแก่กันและกันอยู่ว่า ข้อนี้เป็นอย่างไร ? มีความหมายกี่นัย ? ” ดังนี้. ด้วยการทำดังนี้ เธอย่อมเปิดธรรมที่ถูกปิดไว้ได้. ธรรมที่ยัง ไม่ปรากฏ เธอก็ทำให้ปรากฏได้, ความสงสัยในธรรมหลายประการที่น่าสงสัย เธอก็บรรเทาลงได้."
รู้นอกแต่ไม่รู้ในอนัตริยะกรรมเกิดแล้วครับ
เกิดง่าย ก็ดับง่าย
ยึดติดจนไม่อาจหลุดพ้นได้น่าสงสารท่านเหลือเกินท่านคึก
ท่านนั่นแหละที่น่าสงสาร กล่าวถ้อยคำวาจาที่น่าสงสารเช่นนี้ออกมา แสดงให้เห็นถึงความขาดปัญญา ไม่แทงตลอดอย่างดีด้วยทิฐิในคำของพระศาสดา ไม่เงี้ยโสตลงสดับ มีวาทะเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์
ท่านไม่ต้องศรัทธาในท่านคึกฤทธิ์ก็ได้ แต่ธรรมะย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์อยู่แล้ว ถ้าท่านไม่ฟังพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วจะฟังใครเล่า ชีวิตนี้น้อยนัก ขอท่านจงเร่งความเพียรเถิด
จริงครับท่าน น่าสงสารคนที่ปรามาสพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านเผยแผ่คำจริง
การเข้าใจใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 คือเจริญ สุตตมยปัญญา นั่นเองค่ะ ปัญญา ที่เกิดปรากฏขึ้นมา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ เป็น อนุศาสนีปาฏิหาริย์ นั่นเองค่ะ เข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการเห็น กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ( กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดเลยนั่นเองคะ จะมี กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท พระพุทธเจ้าบอกว่า ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ
อะไรที่เรียกว่ายึดติด ถ้าไม่ยึดติดต้องเป็นแบบไหน
@@Kct2525 ใจเป็นอิสระ จากการยึดมั่นในสมมุติในโลก ในความปรุงแต่งของรูปกาย ความเป็นอิสระโดยสิ้นเชิง ถ้าเธอเข้าถึงเธอจะเข้าใจ เพราะใจเราหลงไปกับโลกกับสมมุติแม้แต่ภาษาเรายังพากันยึดติดคำพูดคำสอนก้อเพียงเพื่อให้เรานำไปปฏิบัติให้เห็นแจ้ง ให้เป็นไปเพื่อการดับทุกข์แม้แต่ตัวสมณะโคดมเองยังบอกให้นำธรรมไปปฏิบัติแต่ไม่ต้องยึดตัวท่าน ท่านเป็นเพียงผู้บอก แม้แต่ความยึดมั่นในศาสนา ลัทธินิกายมิใช่หรือที่ทำให้มนุษย์พากันแบ่งแยก พากันลุ่มหลงจนมืดบอดต่างยกศาสนาตนเองดีกว่าศาสนาอื่นๆ มนุษย์จึงมีแต่ความขัดแย้ง ทนทุกข์ จงพิจารนาให้เห็นแจ้งโลกตามความเป็นจริงเธอจะเข้าใจ เราหบุดพ้นจากโลกแล้วเราจึงมองทุกสิ่งออก ถ้าเราเข้าไม่ถึงแล้วเราคงไม่เตือนท่านดอก ใจเราเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวง ชีวิตมันไม่มีอะไรซับซ้อนถ้าเราเข้าใจธรรมชาติอย่างแจ่มแจ้ง เห็นใจเห็นทุกข์ที่เกิดจากใจของตนเองจนพ้นทุกข์ด้วยตนเอง จงมองใจตนให้แจ่มแจ้งแบะเห็นธรรมชาติอย่างแท้จริงเธอทั้งหลายจะหบุดพ้นแม้นเราเกิดมาเมื่อถึงเวลาอีกไม่นานเราคงได้สละชีวิตเพื่อนำพาสรรพสัตว์พ้นทุกข์ มีเพียงบาตรใบเดียวเพื่อเลี้ยงชีพ ทรัพย์สมบัติทั้งหลาย การสร้างโบสวิหารใหย่โตการเรี่ยไรทำบุญเราคงไม่มี เรามาเพื่อพาผู้คนพ้นทุกข์ เรามาเพื่อขัดเกลาจิตวิญญาณ ฉะนั้นแล้ว การหลุดพ้นมันอยู่ที่เหตุแห่งเธอทั้งหลาย เราแค่เกิดมาเพื่อทำกุศล มิได้เกิดมาเพื่อให้ใครต้องเคารพบูชา ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเจ้าลัทธิใดๆ แบะไม่ต้อการแสวงหาประโยชน์ใดๆ ขอเพียงทำปีะโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งหลายก่อนที่ชีวิตน้อยนิดนี้จะเสื่อมสลายไป อีกไม่นาน
สุดยอดเลยครับท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์สงฆ์ที่มาถามคือเป็นสงฆ์ที่บวชนานไม่ได้ศึกษาก็ไม่ว่าท่านหรอกจะศึกษาแล้วถามแล้วก็ควรจะศึกษาต่อไปให้ละเอียดแล้วก็ช่วยกันเผยแผ่ตามพุทธวจนด้วยคำสอนจากพระโอษฐ์ผมพุทธองค์ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมานั้นอาจารย์ฉันว่าอย่างนี้จะเอาอย่างนี้ผลสุดท้ายก็เละทั้งระบบเห็นชอบแล้วครับเห็นดีอย่างยิ่งครับขอสาธุร่วมกับท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์โชติวโรครับเพราะว่าคนที่ทะเลาะกับพระดังๆเก่งๆหรือรู้จริงๆก็คือพระนั่นเองนะครับเหมือนพุทธองค์ท่านตัดไว้ในพุทธวจนนั่นแหละเมื่อส่งไม่เชื่อมั่นในคำของพระศาสดาแล้วคำสอนนั้นจะมีค่าไฉนนี่คือความจริงในพุทธองค์ท่านตรัสไว้แล้วในพุทธวจนเป็นเรื่องจริงครับขอสาธุร่วมครับท่านพระอาจารย์รวมทั้งทีมงานวัดนาป่าพงทุกดวงจิตครับสาธุสาธุสาธุ