ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ใช่ครับ การรับบำเหน็จ บำนาญ ควรให้ผู้ประกันตัดสินใจ ไม่ใช่ คุณจะตัดสอนใจแทนเขา ชึ้งคุณไม่ได้รู้ถึง ความเป็นจริง ในการดำเนินชีวิตของเขา อย่างเช่น ผมมีหนี้ ที่ต้องชำระ เพื่อการหลุดพ้น หนี้ต่างๆที่เสียดอก มากกว่าเงินบำนาญที่จะได้รับเสียอีก แต่ถ้าได้เงินบำเหน็จ เราสามารถปลดหนี้ และดอกที่เสียไปได้ทันที เราจะรู้สึกดีมาก ส่งผลการดำเนินชีวิตที่มีประสิทธิภาพทันที
ผมประกันตน ม.33 มา และส่งต่อ ม. 39 จนจะเกษียน
พอจะรับเงิน ชราภาพ กลับถูยังคับ ให้รับบำนาญ ซึ่งมันไม่ใช่ ที่เราผู้ประกันตนจะต้อง ทำตาม การตัดสินใจของเรา เพราะมันต้องให้เราตัดสินใจ ตามความจำเป็น ที่เราวางแผนให้ ไม่ใช่มาตัดสินให้เรา เพราะเขาไม่ได้มาใช้ชีวิตแบบเรา หรือแทนเรา เขาต้องเคารพสิทธ์สิทย์ของเรา
ผมมีหนี้ ต้องชดใช้เป็นก้อน เพื่อจะไม่ต้องเสียดอกตั้งมากมาย สถาบันการเงินต่างๆทำสัญญาให้ลูกค้าทำตามเงื้อนไข แต่เขากลับทำซิกแตกต่างไป มากมาย เพื่อเอาดอกจาก ลูกค้า ที่ไม่สามาุรถเรียกร้องใดๆได้ เอะอะก็ว่าตามสัญญา
ผมขอยืนยัน ที่จะเอาเบี้ยชราภาพ เป็นบำเหน็จ จะบริหารยังงัย ก็ขึ้นอยู่กับ ผู้ประกันตนเลือกเอา เพราะผู้ประกันตนรู้ดีว่า เขาจะจัดการเงินของเขาอย่างไร ไม่ใช่มากำหนดให้เขาอย่างนั้นอย่างนี้
จริงค่ะเราต้องเอามาใช้หนี้สินที่มีอย่ามาคิดแทน
ผมมาตรา 39 ส่ง170เดือน อายุ55 ลาออกประกันสังคม เจ้าหน้าที่บอกระยะเวลา60วันได้เงินบำเหน็จโอนเข้าธนาคาร ผ่านมาแล้ว66วันยังไม่อนุมัติ ตามสายด่วน1506 เจ้าหน้าที่บอกจะโทรติดต่อกลับ2รอบแล้ว ยังเงียบไม่ติดต่อกลับ ตามประกันสังคมพื้นที่ ที่ส่ง บอกจะโทรติดต่อกลับ ก็ยังเงียบ
ขอร้องล่ะครับ มันเป็นเงิน ของหยาดเงื่อ แรงงาน ของผู้ประกันตน นะครับ ผมผู้ประกันตนหนึ่ง ก็ขอของคุณ ผู้บริหาร ที่เก็บเงินออมให้
คือ 5555
บางครั้ง หนี้ที่เอาเขามา มันได้รอก่อน แล้วค่อยจ่าย คิดให้ดีดีครับ การดำเนินชีวิตจริง มันไม่ใช่เขียนลงบนกระดาษ
ทำมัยไม่ให้เราเลือกเองว่าจะเอาแบบใหน มาตั้งกดให้เรา180เดือน
ผู้บริหาร ควรให้สิทธ์ แก่ผู้ประกันตน เพราะการดำเนินชีวิต ไม่ได้เหมือนกัน พวกคุณสะบาย ไม่ได้มาใช้ชีวิตจริงๆ
ตอบด้วยครับ
คิดบ้างนะคนจบสูง
ขอเลือกเป็นบำนาญ..เพราะได้กินไปทั้งชีวิต
ถ้าส่ง 33 มา 10 ปี แล้วส่ง 39 ต่อ 5 ปี รวมเป็น 15 ปี จะได้เป็นบำนาญถูกมั้ยครับ
กรณีนี้จะได้รับบำนาญน้อยลงพระปิดตามาตรา 39 ซึ่งไม่มีประโยชน์เลย
รอ 3 ขอ ดีกว่า ครับ
จะประกาศใช้เมื่อไรก็ยังไม่รู้
เงินเขาให้สิทธิ์เขาเลือกสิ เงินเดือนแค่1500 มันไม่พอกิหรอก แค่ค่าไฟก็หมดแล้ว เขาจะได้เอาไปใช้หนี้ที่เขาค้างไว้ อย่ามาคิดแทนเขามันไม่แฟร์ ส่วนใครจะใช้เงินยังไงนั่นมันก็เรื่องของเขา
เงินเรา แต่เราไม่มีสิทธ์เลือกว่าจะใช้แบบใหน
คนทำงานได้เดีอน3000พันมันพอได้เปบำถามดู
ใช้บรัต30 บาทดีกวำ
มันคิดอยากนั้นคนมีกิน
ถ้าตายก่อนอายุ55ปีจะทำไง
ไม่พอกิน3000กำบทคิดได้พรีอ
ไม่พอใช้น
ไม่ยุติธรรม ตรงท่ีเขาได้เงินเดือนเยอะ กลับคิดแค่ 15000
ได้คนทีเงินเอามันแระกันสังคม
😢
แม้แต่ เอาเงินไปปล่อยกู้ ึคุณก็ตัดสินใจเอง
รับไม่ได้หรีอ
บำนาญไม่ถึงหมื่น มันอยู่ยาก.นะ
แล้วถ้าส่งแบบประกันตนเองเกิน15ปีรับบำเหน็จหรือบำนานค่ะ
เงินชราภาพเริ่มปี42-----"ทำงานม.33ต่อม.39การนับๆรวมกัน หากเกิน180ด.15ปีขึ้นไป จะใด้เป็น"บำนาญ"...ส่งครบ15ปี20% ปีที่เกินคิดปีละ1.5%..และ60ด.สุดท้าย ก่อนลาออกใด้ ค่า/เดือนเท่าใด..คิด2ส่วนนี้ถ้า20%4,800=960฿/ด.บำนาญ เป็นต้น..
ถ้าให้เป็นบำเหน็จประกันสังคมกลัวไม่มีเงินจ่าย
แล้วในระหว่างทางเราโชคร้ายตายก่อนละ
บำนาญประกันสังได้น้อยมากไม่พอเลี้ยงชีพ
ถ้าคนมีอันจะกินไม่มีหนี้สินบำนานก็ดีแต่คนมีหนี้สินจะทำยังไงจะเอาเงินที่ใหนปิดหนี้งานก็ไม่ได้ทำคิดตรงนี้ด้วย
ใช่ครับ การรับบำเหน็จ บำนาญ ควรให้ผู้ประกันตัดสินใจ ไม่ใช่ คุณจะตัดสอนใจแทนเขา ชึ้งคุณไม่ได้รู้ถึง ความเป็นจริง ในการดำเนินชีวิตของเขา อย่างเช่น ผมมีหนี้ ที่ต้องชำระ เพื่อการหลุดพ้น หนี้ต่างๆที่เสียดอก มากกว่าเงินบำนาญที่จะได้รับเสียอีก แต่ถ้าได้เงินบำเหน็จ เราสามารถปลดหนี้ และดอกที่เสียไปได้ทันที เราจะรู้สึกดีมาก ส่งผลการดำเนินชีวิตที่มีประสิทธิภาพทันที
ผมประกันตน ม.33 มา และส่งต่อ ม. 39 จนจะเกษียน
พอจะรับเงิน ชราภาพ กลับถูยังคับ ให้รับบำนาญ ซึ่งมันไม่ใช่ ที่เราผู้ประกันตนจะต้อง ทำตาม การตัดสินใจของเรา เพราะมันต้องให้เราตัดสินใจ ตามความจำเป็น ที่เราวางแผนให้ ไม่ใช่มาตัดสินให้เรา เพราะเขาไม่ได้มาใช้ชีวิตแบบเรา หรือแทนเรา เขาต้องเคารพสิทธ์สิทย์ของเรา
ผมมีหนี้ ต้องชดใช้เป็นก้อน เพื่อจะไม่ต้องเสียดอกตั้งมากมาย สถาบันการเงินต่างๆทำสัญญาให้ลูกค้าทำตามเงื้อนไข แต่เขากลับทำซิกแตกต่างไป มากมาย เพื่อเอาดอกจาก ลูกค้า ที่ไม่สามาุรถเรียกร้องใดๆได้ เอะอะก็ว่าตามสัญญา
ผมขอยืนยัน ที่จะเอาเบี้ยชราภาพ เป็นบำเหน็จ จะบริหารยังงัย ก็ขึ้นอยู่กับ ผู้ประกันตนเลือกเอา เพราะผู้ประกันตนรู้ดีว่า เขาจะจัดการเงินของเขาอย่างไร ไม่ใช่มากำหนดให้เขาอย่างนั้นอย่างนี้
จริงค่ะเราต้องเอามาใช้หนี้สินที่มีอย่ามาคิดแทน
ผมมาตรา 39 ส่ง170เดือน อายุ55 ลาออกประกันสังคม เจ้าหน้าที่บอกระยะเวลา60วันได้เงินบำเหน็จโอนเข้าธนาคาร ผ่านมาแล้ว66วันยังไม่อนุมัติ ตามสายด่วน1506 เจ้าหน้าที่บอกจะโทรติดต่อกลับ2รอบแล้ว ยังเงียบไม่ติดต่อกลับ ตามประกันสังคมพื้นที่ ที่ส่ง บอกจะโทรติดต่อกลับ ก็ยังเงียบ
ขอร้องล่ะครับ มันเป็นเงิน ของหยาดเงื่อ แรงงาน ของผู้ประกันตน นะครับ ผมผู้ประกันตนหนึ่ง ก็ขอของคุณ ผู้บริหาร ที่เก็บเงินออมให้
คือ 5555
บางครั้ง หนี้ที่เอาเขามา มันได้รอก่อน แล้วค่อยจ่าย คิดให้ดีดีครับ การดำเนินชีวิตจริง มันไม่ใช่เขียนลงบนกระดาษ
ทำมัยไม่ให้เราเลือกเองว่าจะเอาแบบใหน มาตั้งกดให้เรา180เดือน
ผู้บริหาร ควรให้สิทธ์ แก่ผู้ประกันตน เพราะการดำเนินชีวิต ไม่ได้เหมือนกัน พวกคุณสะบาย ไม่ได้มาใช้ชีวิตจริงๆ
ตอบด้วยครับ
คิดบ้างนะคนจบสูง
ขอเลือกเป็นบำนาญ..เพราะได้กินไปทั้งชีวิต
ถ้าส่ง 33 มา 10 ปี แล้วส่ง 39 ต่อ 5 ปี รวมเป็น 15 ปี จะได้เป็นบำนาญถูกมั้ยครับ
กรณีนี้จะได้รับบำนาญน้อยลงพระปิดตามาตรา 39 ซึ่งไม่มีประโยชน์เลย
รอ 3 ขอ ดีกว่า ครับ
จะประกาศใช้เมื่อไรก็ยังไม่รู้
เงินเขาให้สิทธิ์เขาเลือกสิ เงินเดือนแค่1500 มันไม่พอกิหรอก แค่ค่าไฟก็หมดแล้ว เขาจะได้เอาไปใช้หนี้ที่เขาค้างไว้ อย่ามาคิดแทนเขามันไม่แฟร์ ส่วนใครจะใช้เงินยังไงนั่นมันก็เรื่องของเขา
เงินเรา แต่เราไม่มีสิทธ์เลือกว่าจะใช้แบบใหน
คนทำงานได้เดีอน3000พันมันพอได้เปบำถามดู
ใช้บรัต30 บาทดีกวำ
มันคิดอยากนั้นคนมีกิน
ถ้าตายก่อนอายุ55ปีจะทำไง
ไม่พอกิน3000กำบทคิดได้พรีอ
ไม่พอใช้น
ไม่ยุติธรรม ตรงท่ีเขาได้เงินเดือนเยอะ กลับคิดแค่ 15000
ได้คนทีเงินเอามันแระกันสังคม
😢
แม้แต่ เอาเงินไปปล่อยกู้ ึคุณก็ตัดสินใจเอง
รับไม่ได้หรีอ
บำนาญไม่ถึงหมื่น มันอยู่ยาก.นะ
แล้วถ้าส่งแบบประกันตนเองเกิน15ปีรับบำเหน็จหรือบำนานค่ะ
เงินชราภาพเริ่มปี42-----"
ทำงานม.33ต่อม.39
การนับๆรวมกัน หากเกิน180ด.15ปีขึ้นไป จะใด้เป็น"บำนาญ"...
ส่งครบ15ปี20% ปีที่เกินคิดปีละ1.5%..
และ60ด.สุดท้าย ก่อนลาออกใด้ ค่า/เดือนเท่าใด..
คิด2ส่วนนี้
ถ้า20%4,800=960฿/ด.บำนาญ เป็นต้น..
ถ้าให้เป็นบำเหน็จประกันสังคมกลัวไม่มีเงินจ่าย
แล้วในระหว่างทางเราโชคร้ายตายก่อนละ
บำนาญประกันสังได้น้อยมากไม่พอเลี้ยงชีพ
ถ้าคนมีอันจะกินไม่มีหนี้สินบำนานก็ดีแต่คนมีหนี้สินจะทำยังไงจะเอาเงินที่ใหนปิดหนี้งานก็ไม่ได้ทำคิดตรงนี้ด้วย