ต้อนรับฮัลโลวีนกับ Little Shop of Horrors (1986) | หิวหนัง Recommends EP. 11

ใกล้ถึงเทศกาลฮัลโลวีนแล้ว หิวหนังขอแนะนำหนังสุดแหวกแนว Little Shop of Horrors ร้านน้อยค่อย ๆ โหด (1986) ภาพยนตร์ที่ชื่อสยองแต่ข้างในไม่ได้สยองอย่างชื่อ แต่กลับเป็นภาพยนตร์รสชาติแปลกแหวกแนว ผสมผสานทั้งแนวตลก ดราม่า มิวสิคัล สยองขวัญ ไว้ได้อย่างกลมกล่อม
.
ในตอนนี้เรายังพูดถึงที่มากว่าจะมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฉบับเก่าในปี 1960 และมิวสิคัล Off-Broadway ในปี 1982 รวมถึงพูดถึงความพิเศษที่ทำให้หลาย ๆ บทเพลงจากหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น Suddenly Seymour, Somewhere that's green เป็นเพลงในความทรงจำของอเมริกันชนหลายคน

[@user-ii2nd5xl2s]

โห ตอนแรกที่เห็นช่องแนะนำของTH-cam มีภาพหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ผมนี่ดีใจนำไปก่อนเลย แล้วถึงคิดว่าของช่องไหนหว่า พอดูชื่อช่องแล้วเป็นของหิวหนัง ผมนี่โคตรsurprise และดีใจสุดๆ เพราะไม่คิดว่าจะเอาเรื่องนี้มาพูดคุยจริงๆ เพราะตอนนั้นที่ผู้จัดรายการโอเล่บอกให้แนะนำหนังมาได้ ผมก็แนะนำเล่นๆ ไม่คิดว่าจะไปดูหรือเอามาพูดคุยจริงๆ เพราะหนังเรื่องนี้ในเมืองไทย จะหาช่องที่มีการเอามาพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวคือไม่มีเลย ด้วยความที่เป็นหนังที่มีความเฉพาะตัวแปลกๆด้วย ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก เรียกได้ว่าเป็นหนังเพลงที่รักที่สุดในชีวิตเลยก็ได้ รู้สึกว่าทั้งสนุกสร้างสรรค์และเพลงโคตรเพราะเลย พอได้รู้ว่าคนทำเพลง เป็นคนเดียวกับที่ทำเพลงคลาสสิก ให้กับการ์ตูนดิสนีย์หลายเรื่อง ก็ไม่แปลกใจ ฉากเมืองในหนังและต้นไม้กินคน ก็สร้างออกมาได้สุดยอดมากโดยไม่ต้องมีCG ต้นไม้กินคน เป็นการสร้างแบบหุ่นเชิดผสมเทคนิคAnimatronics หรือสิ่งที่มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆคับ มันคราฟต์สุดๆ แบบที่มีในหนังยุคนี้น้อยมาก เรื่องนี้เป็นหนังเพลงแบบที่เป็นคนแสดงเรื่องแรกในชีวิตที่ผมเคยดูด้วย ก็เลยชอบฝังใจ แต่ผมว่าเวอร์ชั่นที่หิวหนังได้ดูน่าจะเป็น Theatrical Ending ที่มีตอนจบแบบแฮปปี้แน่ๆ ซึ่งตอนที่ผมดูครั้งแรกก็เป็นเวอร์ชั่นนี้ แต่พอได้มาดูoriginal ending เมื่อไม่นานมานี้ ก็ถึงกับเหวอแดกมันบ้าบอคอแตกมาก และไม่ใช่แค่เวอร์ชั่นที่แบบปรับนิดเปลี่ยนหน่อยหรือเปลี่ยนมาก แต่ก็ไม่มากจนแปลกใจที่จะมีการเปลี่ยน ทั้งในส่วนของเรื่องและหรืองานสร้าง แต่นี่คือจัดเต็มงานสร้างอลังการเหวอแดกสุดๆ คือทำกันมาลงทุนขนาดนี้ แต่สุดท้ายตัดทิ้งเปลี่ยนทิศหมด แล้วไปเปลี่ยนเป็นอีกแบบที่ฉายโรง คือดูแล้วอึ้งมาก และที่สำคัญมันพลิกหนังพลิกความรู้สึกของทั้งเรื่องไปอีกทางนึงเลย ทำให้ประเด็นจิกกัดเสียดสีของหนังมันแสบสันแหลมคมยิ่งขึ้น ซึ่งถามว่าดีมั๊ย ก็ต้องบอกว่าดี แต่ถามว่าผมชอบไหมไม่แน่ใจ เพราะยังเหวอและช็อคอยู่ อยากให้ลองไปหามาดูกันนะครับแล้วจะอึ้ง ก็ขอบคุณมากนะครับที่เอาหนังเรื่องนี้มาแนะนำ เพราะมันทำให้ผมแฮปปี้มาก ปกติผมก็ชอบฟังช่องนี้มากอยู่แล้วด้วย ชอบมุมมองความคิดการวิเคราะห์การพูดคุยอะไรต่างๆ ที่รู้สึกสบายๆแต่ก็หนักแน่นเข้มกำลังดี และหลายทีผมก็ได้ความรู้ความคิดและแรงใจไปปรับใช้กับงานที่กำลังตึงกับมันอยู่ด้วย อันตัวผมตอนนี้ ก็กำลังพยามเขียนบททำหนังอยู่หลายเรื่อง ต้องการทำให้มันดีมากๆดีสุดๆดีโดยไม่ต้องมีข้ออ้างข้อแก้ตัว และเกิดผลตอบแทนที่มั่นคงด้วย และต้องทำมันให้ได้ ก็มีคิดว่าวันนึงคงไม่นานเกินไป ถ้าเขียนบทเสร็จและถ้ามีโอกาศ ก็อยากพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องบทหนัง และร่วมงานทำหนังกับช่องนี้นะคับ ถ้ามีคนอยากทำจริงนะ

[@HiewNungPodcast]

ทางนี้ก็ยินดีมาก ๆ เหมือนกันค่าที่แนะนำเข้ามา อยากตามไปดูตอนจบแบบ original ending เลยค่ะ และเป็นกำลังใจให้การเขียนบทภาพยนตร์นะคะ

[@user-ii2nd5xl2s]

ขอเสนออีก2เรื่องคับ สำหรับช่วงเปิดเทอม the breakfast club (1985) สำหรับช่วงคริสต์มาสปีใหม่ Planes, Trains And Automobiles (1987)

[@user-ii2nd5xl2s]

ขอเสนอเรื่อง The Insider (1999) American History X (1998) Erin Brockovich (2000) jerry maguire (1996)