บทสวด อังคุลิมาละปะริตตัง โพชฌังคะปะริตตัง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 1 ต.ค. 2024
- อังคุลิมาละปะริตตัง
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต
-ดูก่อนน้องหญิง จำเดิมแต่อาตมา เกิดโดยชาติอริยะแล้ว
นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา ฯ
-มิได้รู้สึกว่าแกล้งจงใจ ทำลายชีวิตสัตว์เลย
เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ
-ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ตัวเธอ
โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
-ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์ผู้เกิดในครรภ์ของเธอด้วยเถิด
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต
-ดูก่อนน้องหญิง จำเดิมแต่อาตมา เกิดโดยชาติอริยะแล้ว
นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา ฯ
-มิได้รู้สึกว่าแกล้งจงใจ ทำลายชีวิตสัตว์เลย
เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ
-ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ตัวเธอ
โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
-ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์ผู้เกิดในครรภ์ของเธอด้วยเถิด
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต
-ดูก่อนน้องหญิง จำเดิมแต่อาตมา เกิดโดยชาติอริยะแล้ว
นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา ฯ
-มิได้รู้สึกว่าแกล้งจงใจ ทำลายชีวิตสัตว์เลย
เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ
-ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ตัวเธอ
โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
-ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์ผู้เกิดในครรภ์ของเธอด้วยเถิด
-----------------
โพชฌังคะปะริตตัง
(หันทะ มะยัง โพชฌังคะปะริตตัง ภะณามะ เส)
โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
-โพชฌงค์ ๗ ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์
วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
-วิริยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
-สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์
สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
-๗ ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า
ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวง ตรัสไว้ชอบแล้ว
ภาวิตา พะหุลีกะตา
-อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
-ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
-ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
เอกัส๎มิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
คิลาเน ทุกขิเต ทิส๎วา
-ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ
และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก
โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
-จึงทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง
เต จะ ตัง อะภินันทิตวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
-ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม
ก็หายโรคได้ในบัดดล
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
-ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
-ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชา(พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปต๎วานะ สาทะรัง
-รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแล ถวายโดยเคารพ
สัมโมทิต๎วา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
-ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
-ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
-ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ องค์นั้น
หายแล้วไม่กลับเป็นอีก
มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
-ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว
ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
-ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
ชอบมาก