อะไรกันวะเนี้ยเห็นผิดเป็นถูกเห็นถูกเป็นผิดหรือไม่ก็โทษ Gen z เเละ Gen ต่อๆ กันไปหรืออะไรก็ตามที่สุดจะคิดที่คุณมาพิมได้โดยไม่อายตัวเองเพราะว่ามันคืออินเตอร์เน็ต มนุษย์เรานี้มันวุ่นวายกันดีเเท้เนอะ😅 ละอายใจกันไว้ก็ดีครับเพราะสิ่งที่คุณพิมกันไปมันก็จะสลักไว้ในนี้เพื่อให้คนในอนาคตมาอ่านกัน ส่วนผมก็จะรักษาลมหายใจไว้เพื่อเฝ้าดูความเป็นไปว่ามันจะเละได้อีกขนาดไหน😂
Ref.
th-cam.com/video/ELIwoCrrqK8/w-d-xo.htmlsi=-s-Kkf0EdtdAh3Mn
facebook.com/share/p/1DJNr5Ejdu/
facebook.com/share/p/17FampSknj/
facebook.com/share/p/15Pj5YZfLk/
สวัสดีครับ
ดูจากRef.แชท line ตั้งแต่เดีอน4 -5 น้องจะทนทำงานที่เดิมทำไหม
@@maxmax-oz7fm ผมว่าคนแคปนั้นแหละน่าจะจงใจจะกล่าวหาหัวหน้า
จากใจที่เป็นมนุษย์เงินเดือน มา 10 ปี อยากสอนเด็กจบใหม่เลยครับ
1.พิสูจน์ตัวเองได้ว่าเราไหว แต่พิสูจน์ให้ถูกที่ ถูกองค์กร ไม่พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนทำงานหนัก ให้พิสูจน์ที่ความคิดและผลงาน
2.อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานได้ เห็นแก่ตัวบ้าง ถ้าจำเป็น ไม่มีครอบครัวในที่ทำงาน
3. ถ้าคิดว่าไม่ใช่ ให้ลาออก และมีโอกาสใหม่ๆเข้ามาให้รีบคว้า บริษัทไม่ได้รักเรา เราตายเขาแค่ส่งดอกไม้ อีกวันเค้ารับคนใหม่
อย่าไปยึดติดกับองค์กรใดๆ ว่าเราจะโตไปพร้อมกับมันได้ ปล่อยใจทำตามหน้าที่เราให้ครบถ้วนก็พอ
+99 อย่าว่าแต่เด็กใหม่ เลยครับ รุ่นแรกที่ก่อตั้ง ลุยกันมา ยังโดน เสร็จนาฆ่าโคกทึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล
@@kingdomlove66 หน้าที่ของคุณ คืิออะไร ขายเวรให้คนอื่นตลอดมันใช่ไหม แน่นอนทำได้ หากคุณเป็นหัวหน้า เจอลูกน้องอย่างนี่แค่2คน ขายงานเพื่อน หากคุณไม่ยอมแล้วรายงาน ผู้บริหารที่สูงขึ้นไป คนตายมันจะคิดว่าเรื่องแค่นี้ ทำไมต้องทำให้ใหญ่โต แต่มันไม่นึกถึงผลกระทบตามหลัง บอบบาง เอาแต่ใจตัวเอง ความซวยมาถึงหัวหน้างาน
จากใจมนุษย์เงินเดือนมา 15 ปี โดนไล่ออกมา 8 บริษัท อยากสอนเด็กจบใหม่ ศึกษากฏหมายแรงงานและกฏหมายลิขสิทธิ์ดีๆ มันมุมทำเงิน
พี่ผ่านมา 8 บริษัท ได้เงินฟรีๆ 1.5 ล้าน หวานเจี๊ยบ แล้วเราก็ไปหาเยื่อใหม่ต่อไป
คนที่ตุยเป็นโรคซึมเศร้าครับ
No comment ที่พูดมา ถูกทุกอย่าง!
เค้าป่วยซึมเศร้าและทำงานไม่ได้ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ บุคคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก ถ้ามีคนในทีมลาก็ต้องมีคนแทน ถ้าทำไม่ไหวคนในทีมก็ต้องแบก เป็นหน้าที่ที่หัวหน้าต้องจัดการ ยิ่งเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนต้องเข้มงวด เช่นเรื่องจ่ายยาโดยไม่ถามเรื่องการแพ้ยาอันนี้อันตรายมาก เค้าทำถูกแล้วที่ต้องตักเตือน แต่ควรเลือกวิธีการที่ดีกว่านี้ เช่นพูดคุยกันตัวต่อตัว
จะเห็นว่าแชทที่คุยกันตัวต่อตัว หัวหน้าแนะนำให้ย้ายแผนกหรือไปพักให้สภาพจิตใจดีขึ้น ถ้าเลือกคุยกันแค่ 2 คน คงไม่รุนแรงขนาดนี้
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย
คอมเม้นคุณภาพ ป่วยก็ลาออกไปรักษา ไม่ใช่ลากเรื่องงานให้คนอื่นเดือดร้อน แถมยังทิ้งบอมให้หัวหน้าอีก
จริง ผมเห็นด้วย
ใช่ที่หัวหน้าอาจเลือกวิธีคุยให้ละมุนละม่อมกว่านี้ได้ แต่เขาทำผิดอะไรครับ
หัวหน้า Toxic ตรงไหน
คนเป็นลูกน้องต่างหากที่ทำผิด โดนว่าแล้วรับไม่ได้ ฆ่าตัวตาย ซึมเศร้าอ่อนแอเหลือเกิน
ผมไม่อยากจะเห็นใจเพียงเพราะเขาตายไปแล้วหรอกนะ
ผมสงสารหัวหน้ามากกว่า เขาทำตามหน้าที่ที่สมควรทำ แต่ดันโดนด่าว่า Toxic เฉย งงมาก
สุดยอดนี่แหละ
ผมเห็นด้วยครับ ควรพูดคุยและรับฟังดีๆสักที
@@anathemaprince3566อันนี้จริง หัวหน้าทำหน้าที่หัวหน้าได้ดีแล้ว แต่ก็โทษคนตายว่าผิดก็ไม่ได้เพราะเป็นซึมเศร้า ซึ่งต้องรู้ก่อนว่าโรคซึมเศร้าเป็นโรคจิตที่ส่งผลต่อความคิด ทำให้คนตายอาจจะคิดไปในทางลบซะมากกว่า จนโทษตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองแย่ จน/killตัวเอง (โรคนี้ผมไม่รู้หรอกว่าแก้ยากไหม แต่ถ้าเชิงตรรกะแล้วยิ่งหนักยิ่งแก้ยาก และมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆถ้ายกไม่ขึ้น)
สรุปได้ว่าคือต้นตอมันมาจากโรคซึมเศร้า แต่คำถามคือถ้าจะเป็นจนเปราะบางขนาดนี้ คนรอบข้างได้ดูแลเขาบ้างรึเปล่า และดูแลยังไงให้เขาเป็นได้ขนาดนั้น
เขียนเพิ่ม: โรคนี้ผมก็คิดว่าแก้ด้วยตัวคนเดียวได้นะ แต่ถ้าเป็นหนักเกินไปก็จำเป็นต้องมีคนช่วย คนๆเดียวแบกของที่หนักกว่าแรงตัวเองยังไงก็มีแต่คากับร่วง
เคยเจอลูกน้องที่เป็นซึมเศร้าค่ะ พยายามอยู่กับเค้ามันยากมากเลยนะ...น้องทำดีเราชมเชย น้องก็บอกหนูว่า หนูยังทำไม่ดีพอ....น้องทำผิดเราเรียกมาตักเตือนด้วยเหตุและผล...สรุปวันนั้นไม่ได้ทำงานทั้งวันเพราะน้องไปนั่งเงียบๆ อยู่คนเดียว ปลอบก็ไม่ดี ด่าก็ไม่ได้ เพื่อนร่วมงานอยู่ด้วยลำบาก
บอกให้น้องไปรักษา พอได้กินยาก็ดีดมากกกก เค้าไปคุยกะลูกค้าตลอดเวลาจนลูกค้ารำคาญ มองหน้าว่าน้องเป็นอะไร เพื่อนๆ ต้องคอยไปดึงออกมา คือคนรอบข้างบางทีก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันค่ะ แต่น้องก็พยายามที่จะรักษา จะหายนะคะ คนเป็นซึมเศร้าบางคนพยายามฮีลใจตัวเอง ถึงแม้จะแทบฮีลไม่ได้ แต่เค้าก็สู้เพื่อเค้าจะดีขึ้นค่ะ แต่บางคนก็ไม่พยายามอะไรเลยเอาโรคซึมเศร้าของตัวเองมาเป็นข้ออ้างในการกินแรงเพื่อน อยากให้คนรอบข้างสปอยส์ตลอดเวลาก็มีค่ะ
เสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ...เอาจริงๆ ทั้งสงสารน้อง ทั้งสงสารหัวหน้าเพราะเข้าใจทั้ง 2 ทาง
งานก็อยากทำ ซึมเศร้าก็อยากจะเป็น นายกโดนด่าทั้งประเทศยังไม่เป็น ชีวิตมันง่ายไปมั่ง เป็นซึมเศร้าดูดีกว่า เห็นในโซเชียลเค้าโพสต์เป็นกันเยอะ เดี๋ยวจะคุยกะเค้าไม่รู้เรื่อง 😅
@@MT-gy6pbตลกมากมั้ย ???
@@kiritohikari ขำก็ตลกคับ ถ้าไม่ขำก็ไม่ตลก แล้วผมขำรึยัง!??
เราทำงานที่ต้องดูแลนกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นคิด ฆตต เราทุ่มเทเวลาเพื่อจัดการปัญหานี้พาเค้าไปพบผู้เชี่ยวชาญและคุยกับครอบครัว จนวันนึงคนที่เหลือที่เราต้องดูแลบอกว่าเราดูเครียดมาก เราถึงได้รู้ตัวว่าเราละเลยคนที่เหลือแถมยังแผ่เอาพลังลบใส่พวกเค้าอีก
เราได้สติว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องจิตใจที่ป่วยต้องตัดจบจากเราให้เป็นหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและครอบครัว
เห็นใจผู้เสียชีวิตนะครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจและวิธีคิดในการโทษคนอื่นทิ้งความรู้สึกผิดให้เพื่อนร่วมงานที่เหลือครับ
จากการสนธนา คำพูดหัวหน้าใช้ก็ดูปกติมากครับ ถ้าไม่ผิดปกติในการทำงานบ่อยจิงๆ เค้าไม่พูดขนาดนั้นหรอก
คนเป็นหัวหน้าเค้าก็พยายามให้เปลี่ยนงาน ให้ย้ายตำแหน่ง บอกให้พักแล้ว
ตัวเองไม่ยอมเอง อายุแค่นี้ อาชีพการงานเป็นถึงเภสัชกร ทางออกในชีวิตตั้งเยอะ
รับสภาพแวดล้อมไม่ไหว ก็ลาออก
แล้ว ไอ้ประเด็น ล๊อกขอเวรดึก - แล้วได้สิทธิ ว่างวันหยุด แล้วเอาเวรดึกไปขายต่ออีก พฤติกรรม เหมือนไม่อยากอยู่เวรไม่อยากทำงานเลย
แล้ว เรื่องจ่ายยาโดยไม่ถามเรื่องการแพ้ยาอันนี้อันตรายมาก เภสัชกรนะคุณ ...เค้าทำถูกแล้วที่ต้องตักเตือน ...
ถ้าเป็นไปตามคลิปนี้ เราว่าหัวหน้าก็ไม่ได้ toxic ขนาดนั้นนะคะ การจ่ายยาเป็นเรื่องสำคัญถึงชีวิต ถ้าผิดพลาดขึ้นมาเพราะ Human error แล้วรับผิดชอบชีวิตคนไข้ไหวไหม คนที่มีตำแหน่งหัวหน้าก็ต้องเคร่งครัดเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ตัวหัวหน้าอาจเป็นคนพูดตรง ถ้าอ่านตาม context ของหัวหน้า ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ต่อว่าไร้สาระนะ มีการวิจารณ์จุดที่ลูกน้องทำพลาด ตักเตือนและมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาพร้อมมูล อาจจะมีใส่อารมณ์บ้างแหละ ตามประสามนุษย์ แต่ก็ไม่ได้เกินเหตุขนาดสาดเสียเทเสีย คำว่าลาออกน่าจะเป็นการแนะนำอย่างตรงไปตรงมามากกว่า เหมือนที่เขาแนะว่าย้ายไปคลัง เพราะมันกดดันน้อยกว่า เขาน่าจะเห็นว่าลูกน้องคนนี้รับเขาไม่ได้ รับความกดดันในตำแหน่งนั้นๆไม่ไหว ก็เลยจะให้ย้ายไป โดยรวมก็คงหวังดีแหละ แต่คงเป็นคนปากหมานไปหน่อย
เราว่าองค์ประกอบใหญ่ที่น้องเภสัชคิดสั้น ก็คือโรคซึมเศร้าที่เขาเป็นมากกว่า คนเป็นโรคนี้บางคน ต่อให้คุณตั้่งใจพูดปลอบใจเขา เขายังฟังเป็นแง่ลบแล้วเอามาดิ่งอารมณ์ตัวเองได้เลย นับประสาอะไรกับหัวหน้างานที่พูดตรงไปตรงมา
RIP นะคะ น้องเภสัช
จากเนื้อข่าวคนปกติโดนแค่นี้เขาไม่คิดฆ่าตัวตายหรอก เพราะแค่ลาออกหรือย้ายงานมันก็จบ แต่เขาเป็นซึมเศร้าไง แค่เขาอยู่เงียบๆคนเดียวเขายังแทบเอาตัวไม่รอด แต่นี่เขาเก็บคำด่าไปซ้ำเติมตัวเขาเอง จากที่เขาทั้งเศร้า ทั้งเครียดอยู่แล้วมันก็ยิ่งหนัก
ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึงคนนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแล้วเขาไม่รับรู้สภาพแวดล้อมดีรอบข้างอ่ะ ใครจะปลอบเขาก็ไม่ได้ยิน ใครเรียกเขาก็ไม่ได้ยิน รับแค่คำด่าเอาไปซ้ำตัวเอง ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะไม่ไหว
เคยมีผู้ที่เราต้องทำงานให้แล้วเค้าเป็นซึมเศร้าปรึกษาแพทย์ตลอด ถ้าไม่ไหวจริงๆแพทย์จะออกหนังสือว่าสภาวะแวดล้อมที่เค้าเลือกอยู่ทำให้เกิดความเครียดเกินไป แนะนำให้ออกมา
สิ่งสำคัญของผู้ป่วยซึมเศร้าคือการพบแพทย์และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
เข้าใจความสูญเสียและเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยจริงๆ แต่ไม่ควรเอาแชทมาเปิดเผยต่อสาธารณะแบบนี้ หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมควรเอาหลักฐานไปเรียกร้องกับหน่วยงานต้นสังกัด ถ้าไม่ได้ผลค่อยไปอีกสเตป
ช่องนี้ดีนะ แค่เล่าเหตุการณ์ ไม่ใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป เคยดูช่องแบบนี้ก่อนจะมาเจอช่องน้องนานมาแล้ว แอดมินใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป เพราะความอคติ เลยเลิกดู ขอชมนะคะ และน้องแมวก็น่ารัก
+1
++++
หมายถึงช่อง เนลเนม ใช่ไหมคะ
เราไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ก็คอมเม้นกันอย่างมีสตินะครับ
ต้องไปสัมภาษณ์ลูกน้องของแกแต่ละคนเลยจะรู้ความจริงเองว่าหัวหน้าคนนี้เป็นยังไงกันแน่
ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าได้เรื่องหรอกครับทุกคนก็กลัวการตกงานกันทั้งนั้น@@หน่วยพิทักษ์ความรบ
เราชื่นชมหัวหน้าพยาบาลอย่างหนึ่งที่ บอกเค้าไปตรงๆ เลยว่าควรลาออก ไม่อย่างนั้นถ้าไล่ออกน้องเค้าจะเสียประวัติ เพราะดูแล้วยังไงๆ ก็ไม่สามารถรับผิดชอบงาน รับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้ ดูจากวิธีการแก้ปัญหาของตัวน้องเองที่เลือกจบชีวิต อาจจะเป็นเพราะโรคซึมเศร้า ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก เราไม่อยากโทษหัวหน้าเพราะเค้าต้องดูแลชีวิตคนจำนวนมาก ถ้าไม่เด็ดขาดคนโชคร้ายอาจเป็นคนไข้หรือเพื่อนร่วมงานก็ได้
ถ้าให้ผมเลือก ขอโดนไล่ออกไปเลยอย่างน้อยก็ได้เงินชดเชย ดีกว่าต้องมาโดนกดดันให้ลาออกทุกวันๆแบบนี้
@@topnatopถ้าไล่ออกแล้ว ฆตก. หัวหน้าก็ผิดอีก
ฟังไฟฟังมาเเปล่งๆ เค้าก็เเนะนำให้ย้ายเเผนกก็ไม่ย้าย งานพวกนี้มันคืองานที่เกี่ยวกับชีวิตคนถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาคนโดนด่าคือโรงบาลนะครับไม่ใช่ตัวบุคคล จะเอาโรคซึมเศร้ามาอ้าง ผมเเนะนำให้ไปฟังคนตื่นธรรมนะครับ รู้สึกว่าจะเป็นเเก่ตัวไปนะครับไม่อยากมาก็ขายเวรจะหยุดอย่างเดียวไม่เปลี่ยนเเปลงตัวเองไม่เปลี่ยนเเปลงนอสัยผมฟังดูหลักฐานผมว่าคนเเบบนี้น่าจะทำมาหลายครั้ง
เห็นด้วยค่ะขนาดที่ญี่ปุ่นหรือในบางประเทศทำงานบริษัทหรือทั่วไปถ้าพนักงานเป็นซึมเศร้าเค้าจะให้หยุดทำทันทีจนกว่าจะหาย 1 ปีถึง 2 ปีค่ะมันส่งผลกระทบกับงานและเพื่อนร่วมงานมากๆจนเป็นปัญหาเลย
งานคลังยาสบายจะตาย ก็ไม่ไป จะดันทุรังอยู่นั่น เเล้วก็ไปขายเวร เพื่อนร่วมงานคงหมั่นอยู่พอควรเเหละ
จริง ทางออกมันมีเยอะมากเลยที่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย
ใช่ ตั้งแต่ขอเวรดึกแต่ขายเวรเพื่อเอาวันหยุดละ ตัวเองมากเรื่องเอาโรคซึมเศร้ามาอ้างเพื่อ
บางคนไม่เข้าใจคิดว่า ทีหัวหน้าพูดคือหวังดี หาทางออก
1. พูดเรื่องลาออกทุกวัน พูดว่างานนี้เหมาะกว่า งานนั้นเหมาะกว่า เพราะไม่อยากให้อยู่ ไม่ชอบ ยกประเด็นการขายเวรมาเล่นงาน(ทั้งที่การขายเวรเป็นเรื่องปกติ) แต่ไม่สามารถไล่ออกได้ ไม่ใช่เพราะใจดี แต่เพราะเภสัชคนนี้ไม่มีความผิดที่จะให้ออกได้ เลยใช้วิธีนี้
2.การบอกให้ไปทำงาน office คือดูถูกเพราะเค้าจบเภสัชมา และเค้ากำลังทำงานตรงสายแล้ว
3. การขายเวรเป็นเรื่องปกติ ทุกที่ ไม่กระทบใคร ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็มาทำงาน ไม่มีใครเดือดร้อน แต่หัวหน้าใช้ประเด็นนี้มาโจมตี หาว่าขายบ่อย ทำงานไม่ไดั ทั้งๆที่เค้าอาจจะขายด้วยเหตุผลอื่น ที่ไม่ใช่อาการป่วย
4. ย้ำเรื่องป่วยให้เค้าดูอ่อนแอ ยกเรื่องนี้มาพูดตลอด และให้ลาออกทุกครั้งที่มีการสะดุด ทั้งๆที่งานมีปัญหา งานสะดุดเป็นเรื่องปกติที่ต้องแก้ปัญหาไป
ที่สำคัญประจานด่าทอในกลุ่มใหญ่ให้อับอายค่ะ ทั้งที่ทุกคนในกลุ่มก็ทำปกติ และ ที่หัวหน้าอยุ่ในกลุ่มด้วย ยิ่งตอกย้ำแปลว่า สิ่งนั้นทุกคนรับรู้ร่วมกันว่าการขายเวรปกติค่ะ ไม่อย่างนั้นเค้าคงไปแอบทำแล้วค่ะ
ทุกคนคะ การเล่นงานในที่ทำงานไม่ใช่แค่เคสนี้ แต่มีจำนวนมาก บางคนอยู่ไหว บางคนไม่ไหว บางคนกลายเป็นคนไข้จิตเวชเพราะที่ทำงานเยอะมาก การเจอหัวหน้าไม่ดีถึงแม้เจอได้เยอะมาก แต่ไม่ควรทำให้การทำงาน toxic แบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติค่ะ
ในสายงานนี้ต้องเคร่งครัดครับ เหมือนหมออ่ะ มันพลาดเเล้วมันมีผลต่อชีวิตคนป่วย ต้องตักเตือนกันรุนเเรงเพื่อให้เข้าใจน้ำหนักของหน้าที่ โดยเฉพาะรุ่นที่พึ่งจบใหม่ที่ค่อนข้างจะทำตามใจตัวเองออกบ่อยๆ
แล้วมึงจะให้เขาทำยังไง
เขาไม่ได้หวังดีครับ เขาแค่จะเอาใครมาแทนที่ คนรอเสียบมีเยอะครับ เด็กจบใหม่ปีนึงหลักแสนคน จอนนี้มีแต่ตำแหน่งงานไม่เพียงพอต่อจำนวนคนที่เรียนจบทุก ๆ ปี
@@dfg22346 เเล้วมึงจะให้ปล่อยทำพลาดไปเรื่อยๆ?
@@TravelAnotherWorldsเภสัชจบใหม่เป๋นแสนเลยหรอคะ 556555 ว้าววว ถ้ามันพอคงไม่เป็นงี้คะ แล้วเอาจริงๆรพ.ไม่น่าทำหรอกค่ะ มันประสาท
มีหลายเม้นต์บอกว่าหัวหน้าแบบนี้ก็ปกติธรรมดา เจอเยอะกว่านี้ กลายเป็นว่าสังคมเห็นความผิดปกติเป็นเรื่องปกติจนเคยชิน ผมในฐานะที่อยู่ตรงกลาง มีพนักงานในความรับผิดชอบ 28 คน ในขณะที่มีหัวหน้าระดับสายงานอีกหลายคน ขอยืนยันว่าการใช้คำพูดโดยเน้นย้ำเรื่องขอให้ลาออก เป็นคำพูดที่ไม่ควรอย่างยิ่ง มันเป็นการลดทอนคุณค่าของคนอย่างมาก ผมไม่ก้าวล่วงถึงบริบทระหว่างหัวหน้าและพนักงานในกรณีนี้ เพราะเราไม่ทราบคำพูด อารมณ์ พฤติกรรมของแต่ละฝ่าย / แต่ผมจะฝากไปถึงผู้นำองค์กรดังนี้ครับ 1. ต้องมีการจัดสัมมนาระหว่างพนักงานทุกระดับชั้นทุกปี ให้มีความรักใคร่สามัคคีปรองดอง มีการทำกิจกรรมร่วมกัน เล่นเกมส์ ต่างๆ ซึ่งมี organizer มากมายที่สามารถจัดอบรมแบบนี้ได้ 2. มีการอบรมเรื่องการทำงานต่าง Generation ซึ่งองค์กรผมให้ความสำคัญมาก มีการจัดอบรม 1 วันเต็มในเรื่องการทำงานร่วมกันกับคนต่าง Gen /ทั้งหมดนี้อย่างน้อยก็เป็นการลดช่องว่าง ถึงแม้จะไม่ 100% แต่ได้ผลดีแน่นอน จากประสบการณ์ตรงครับ
ก็มันเล่นไม่มาทำงาน ขายเวรดึก กะลายาวๆ ไม่สนหัวเพื่อนร่วมงาน จนเพื่อนร่วมงานไม่ไหวต้องให้หัวหน้าเครีย ถ้าหัวหน้าไม่ทำไร มีคนแบบนี้เกิดขึ้นอีกจะทำยังไง หัวหน้าทำถูกปล้ว ป่วยหนักทำงานไม่ไหวจนเป็นภาระให้เพื่อนร่วมงานก็ควรไปรักษาตัวเอง จะเอาสภาพป่วยๆ ของตัวเองแล้วมาสร้างภาระให้เพื่อนร่วมงานไม่ต้องหลับต้องนอน ไม่ต้องพักผ่อนขึ้นเวรแทน มันใช้ได้ที่ไหน
@@jackhothaed3540 ทางออกที่ดีกว่าการพูดใส่คนทำอะไรไม่พอใจ ว่าไปลาออก มันก็มีหนิครับ รายงานไปอีกขั้นก็ได้ หรือเขาควรจะสอบถามก่อนมั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่อยู่มา ไปลาออกเถอะ ใครๆก็คิดลบมั้ยล่ะครับ
@@jackhothaed3540 ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็ใช่ว่าหัวหน้าจะไม่พลาดเลยไม่ใช่เหรอคะ บอกจากดีๆ เริ่มประชด ให้เดา วาทะศิลป์น่าจะติดลบระดับนึง
ในแง่ของการทำงานผมว่ามันปรกติและธรรมดามากเลยนะสำหรับเคสที่เป็นข่าว มันไม่ใช่ชินจนเป็นปรกติหรือเป็นปรกติจนชินแต่มันเป็นปรกติของมันมาแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับไม่ว่าคุณจะชินหรือไม่ก็ตาม ผมในฐานะเคยเป็นเจ้าของกิจการผมบอกตรงๆว่าถ้าใครไม่เข้าพวกผมก็คัดออกนะ เรื่องแบบนี้มันมีกลไกของมันอยู่และทุกอย่างมันมีขั้นตอนครับ
ที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมาจากอาการป่วยครับไม่ได้เกี่ยวกับการทำงาน เรื่องการทำงานหรือหัวหน้างานมันแค่ไป trigger ผู้ป่วยเฉยๆ ดังนั้นต่อให้คุณมาร่ายกลไลการบริหารองค์กรณ์แค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ที่ถูกต้องคือตัวผู้ป่วยและครอบครัวต่อหาวิธีรักษาให้หายขาดหรือใช้ยาเพื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นต่างหาก มันคนละบริบทคนละเรื่องคนละทวีปเลยครับ
@@jackhothaed3540ขายเวรดึก ไม่มีใครซื้อก็ต้องไปอยู่ดี เวรนึงไม่ใช่ถูกๆ
เป็นอุทาหรณ์ได้ดีครับ ระหว่างเลือกคนทำงานระหว่าง คนดี หรือ คนเก่ง สังคมไทยเราเริ่มเสื่อมลงเป็นระบอบ"ขี้ข้าระบอบเศรษฐกิจ"เต็มตัวแล้วครับ ยอมรับให้ได้นะครับสำหรับสาย วัตถุนิยม อยากเห็นไทยเป็นเหมือนยุโรปน่ะ ขอสมน้ำหน้าล่วงหน้าด้วยครับ สำหรับคนที่ยังอยู่ แต่ผมเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ต้องกดดันอะไรเลือกงานที่เราทำคนเดียวได้ จบงานได้ด้วยตัวคนเดียว เงินตรากับความสุข บริหารให้ดีครับ ถ้าอยู่ประเทศไทยแล้วไม่มีความสุขปัญหาคงอยู่ที่เราเอง มากดดันผมแบบนี้จะเตะปากเอาอ่ะครับ จะได้เลิกพูด
เสียใจกับครอบครัวด้วยนะครับ
ก็อย่างว่าครับ บริษัทไม่ใช่แหล่งการกุศล เงินแลกงาน ถ้ายูนิตไหนไม่คุ้มก็เปลี่ยน มีคนพร้อมทำงานมาแทน"เสมอ"
@GoatsBit พูดได้ดี ชีวิตคนเราทุกวันนี้ก็ต้องเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด จากตัวเลือกที่แย่ที่สุด เพียงเพราะว่ามันสัญชาตญาณ คนเรามักจะเลือกตัวเลือกที่พอไปได้ให้เราเสมอ รูปแบบขององกรณ์นี้ก็คือ ไม่ได้สนหรอกว่าคุณโง่หรือฉลาด เค้าต้องการคนทำงานได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
ถ้าเป็นผมนะ ผมเลือกคนที่มีคุณสมบัติพร้อมครบเครื่องมาทำงานครับ คุณสมบัติพร้อมที่ผมบอกมา มีดังนี้
1.เป็นคนดีแบบปกติ แต่ห้ามดีแบบสุดโต่ง
2.เป็นคนเก่ง
คนดีแบบปกติ กับ คนดีแบบสุดโต่ง 2 คำนี้แตกต่างกันโครตๆ นะครับ
คนดีแบบปกติ คือ คนดีที่สามารถยืดหยุ่นศีลธรรมกฏเกณฑ์ต่างๆ ได้ และ รู้จักการแสดงออกที่ดีมีกาลเทศะ ไม่ดักดานไม่หัวรุนแรง หรือ ถ้าเรียกเป็นภาษาอังกฤษจะเรียกว่า not radical
คนดีแบบสุดโต่ง คือ คนดีที่ไม่ยืดหยุ่นผ่อนผันศีลธรรมกฏเกณฑ์ต่างๆ แถมดักดานหัวรุนแรง ซึ่งคนพวกนี้จะถูกเรียกว่า radical optimistic
ยุโรปก็ขี้ข้าระบอบเศรษฐกิจ
คิดว่า ถ้าป่วยก็ควรไปรักษาก่อน อาการนี้ มันอยู่ยากจริงๆ
คนอื่นต้องมาลำบากไปด้วย
ควรรับผิดชอบตัวเองก่อนโดยการไปรักษาให้ดีขึ้น
อีกอย่างเขาเสนอให้ทำให้ในส่วนที่สบายใจกว่า แต่ด้วยความป่วย กลายเป็นว่าถูกกดดัน
ไปรักษาแล้วครอบครัวหรือตัวเองจะกินอะไรล่ะครับ
ไปทำในส่วนที่สบายใจ หรือดูถูกที่เรียนมา
@@tuls8427 แล้วปล่อยให้คนไข้ได้รับผลกระทบ?
@@ร่ํารวย-789ไปรักษาก็ไม่ได้แปลว่าให้หยุดงานนะคะ ไม่ใช่บำบัดติดยา
@@tuls8427คุณต้องเข้าใจใหม่นะคะ เราเป็นเภสัชค่ะ งานเภมีอีกเยอะเลยค่ะ การโยกไปทำงานอีกหน่วยใน รพ.ก็เภเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าโยกไปทำอีกหน่วยคือการดูถูก
และเภสัชจบมาทำงานได้อีกหลายอย่างค่ะ อาจจะไม่ใช่แค่ไหน รพ. จริงอยู่บริบทคนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าไม่มีทางไป แต่อาชีพเภ ไม่ใช่ค่ะ
ขอโทษที่ต้องพิมพ์แบบนี้ แต่ผู้เสียชีวิตก็ไม่ถูกทั้งหมด และหัวหน้าก็ไม่ได้ผิดทั้งหมด
จริงค่ะ...แถมผู้เสียชีวิตคือเขียนจดหมายลาตายทิ้งขี้ไว้ให้หัวหน้าด้วย....ที่หัวหน้าแนะนำก็ถูกแล้วนะคะ ลาออกไปฮีลใจ รักษาใจตัวเองก่อน แต่เค้าไม่ไป พอทำพลาดมาหัวหน้าก็ต้องด่า ต้องตักเตือน
จะมาบอกว่าเค้าให้ลาออก แต่ไม่ยอมจ้างออกก็ไม่ถูกค่ะ ... ถ้าหัวหน้าเค้าใจร้ายจริงๆ ทำผิด เค้าแค่ให้ warning 2-3 ใบ ก็โดนเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยอะไรแล้วค่ะ นี่เค้ายังพยายามหาทางออกว่าย้ายแผนกไหม หรือลาออกไปฮีลใจก่อนมั้ย...
เห็นข่าวนึกว่าหัวหน้าเลว หัวหน้าชั่วช้า…..แต่ฟังดู เขาก็กล่าวแบบนุ่มนิ่มสุดๆ งานบางทีมันหนักมาก ไม่พร้อมไม่ต้องทำ ออกไปคือสบายสุด การที่สภาพจิตใจไม่พร้อม อยู่ไปแบบวันๆมันไปถ่วงเขา เรื่องนี่เจอเองกับตัว ที่โดนคือท็อกซิกหนักกว่านี้มาก
ต้องเปิดใจด้วยไม่ใช่เห็นแต่ตัวเอง งานมันหนักมา ทุกคนเขาก็โดนหนัก ถ้ายังต้องมามีปัญหาเรื่องเราอีก ยิ่งเป็นภาระเขายิ่งเกลียดขี้หน้า
จริง
ประเด็นหลักอยู่ที่หัวหน้าชอบกดดันครับ ปลายเหตุเลยกลายเป็น ลูกน้องหมดความอดทนและก็ทำเรื่องแย่ๆออกมา
ที่ทำงานเราก็มีนะ นางป่วยแบบเสี่ยงเป็นมะเร็งมั้ง ลาบ่อยมากกก ทำงานช้า ดองงานจนคนอื่นเดือดร้อนหมด จนผู้จัดการต้องคุย แกบอกแค่ให้ไปพักรักษาตัวค่ะ แต่ก็บอกถ้าอยากกลับมาก็มาได้ค่ะ บางทีไม่ใช่หัวหน้าด่าหรอก น่าจะเจ้านายลงมาอีกทีคนบนๆก็เจอด่าเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่แค่ลูกน้อง จริงเราค่อนข้างเห็นด้วยกับหัวหน้านะ ถ้าไม่ออกก็ย้ายแผนกไปงี้ เข้าใจว่าภูมิใจในงานที่เรียนมาค่ะ แต่จะมีกี่คนที่ได้ทำงานตรงสายอ่า
คนที่ไม่เคยเจอกับตัว ก็ไม่ต้องไปตัดสินเค้านะ จากคนสภาพจิตใจปกติ มาเจอคน Toxic ทุกวัน จนซึมเศร้า ตกลงสาเหตุก็มาจากคน Toxic นั่นแหละ จะบอกว่าอดทนไม่พอ ก็ขอให้เจอบ้างนะจะได้รู้ RIP น้อง ถ้าแนะนำน้องได้ก็อยากให้จัดการคนแบบนี้ แล้วออกเลย ไม่ให้ตัดสินใจแบบนี้ น้องมีคุณค่ามากกว่านั้น
เจอมากับตัว 8 บริษัท
กูเล่นกลับทุกบริษัท ได้เงินมารวมๆ 1.5 ล้าน ฟรีๆ ไงล่ะวิธีการจัดการปัญหาต่างกัน หวานเจี๊ยบ
@@puddingman2331 8 บริษัท ถามตรงๆนะพี่หรือบริษัทที่ Toxic ครับเนี่ย 1.5 ล้านเหมือนจะสะใจ เเต่เฉลี่ยเค้าจ่ายให้พี่ออกเเค่ยริษัทละ 190,000 เเต่ได้คนใหม่แทนพี่ไปผมว่าเค้ากำไรกว่านะ เหมือนพี่โดนจ้างออกอะซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก บางบริษัทจ้างออกจ่ายเยอะกว่านี้อีก
ผมทำงานในห้องจ่ายยามาก่อนครับ และก็เจอลักษณะเภสัชกรคล้ายๆกัน ิหัวหน้าก็อนุโลมมาตลอด แต่ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นทุกวัน ิมันส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานมากนะครับ ิถึงจะป่วย แล้วก็ส่งผลกระทบต่อระบบบริการและต่อคนไข้ที่รอรับบริการ พ่วงกันไปหมด ซึ่งกรณีนี้หัวหน้าก็แนะแนวทางให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งไปทำคลัง หรืออย่างอื่นดูแต่ตัวน้องเค้าเองยืนยันที่จะทำต่อ จะโทษแต่หัวหน้าก็ไม่ได้ครับในเมื่อตัวเค้าบกพร่อง เพราะหัวหน้าต้องบริหารงานทั้งฝ่าย และมีงานใดๆภายในอีกมากมายที่ ไม่ใช่แค่มานั่งจัดยาเช็คยาจ่ายยาครับ ซึ่งทุกที่ทำงานมันมีแรงกดดันหมดนั่นแหละครับ ผมเข้าใจอารมณ์คนเป็นซึมเศร้านะ แต่ตัวน้องเองก็มีทัศนะคติ toxic ด้วยเช่นกัน ทำให้หาวิธีรับมือจากอารมณ์และอาการแบบนี้ยาก
หัวหน้าใช้คำพูดไม่ดีจริงๆแหละอ่านแล้วก็ขึ้น แต่พอฟังแล้วฝ่ายคนตายเขาก็ห้ามไม่ฟังจริงๆปะ เพื่อนบอกให้ออกก็ไม่ออก อยากให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองทำได้ แต่สุดท้ายก็เห็นแล้วว่ามันไม่ไหว ทั้งเรื่องสภาพจิตใจก็ไม่โอเคอีกน่าจะออกมารักษาตัวก่อนไหม คือก็ไม่ได้จะบอกว่าคนเป็นซึมเศร้าห้ามทำนั่นนี่นะ แต่ก็ควรจะดูแลตัวเองด้วย จะให้ทุกๆคนมาดูแลคุณตลอดเวลาเหมือนไข่ในหินมันก็ไม่ได้ ขอพูดตรงๆว่ามันสร้างภาระให้เพื่อนร่วมงานจริงๆ แต่ยังไงซะหัวหน้าก็ควรจะมีคำพูดที่ดีกว่านี้อะเนอะ
สำหรับเรา เราว่าหัวหน้าพูดตรงประเด็นที่สุดแล้วนะ ไม่ได้แรงอะไร คำพูดมีเหตุผลมีน้ำหนัก และเหมือนจะพูดมาหลายรอบแล้ว แต่ลูกน้องมันดื้อไง มันไม่ได้จะพิสูจน์ตัวเองอะไรหรอก มันแค่อยากเอาชนะ ใช้คำพูดดูน่าสงสาร แต่หัวหน้าคงมองออกอ่ะ ว่า ต.ล. ดูมันทำแต่ละอย่าง หัวหมอจะตาย แลกเวรนู่นนี่ ฉลาดไงเอาแต่ช่วงวันหยุด แหกกฎ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ชีวิตการทำงานใครๆ ก็อยากให้งานออกมาดี ไม่ใช่มาเหยาะแหยะไม่ทำตามกฎ เพราะมันเสียทั้งองค์กร เนี่ย รพ.ต้องออกมาแถลงการณ์มาสอบสวนมันใช่เรื่องมั้ย หัวหน้าก็เดือดร้อนอีก
แล้วที่บอกให้ลาออกเพื่อไม่ให้ประวัติเสีย เนี่ย คือใจดีมากแล้วนะ
มันจะมีคำพูดแบบนี้หรอ คำว่า "ไม่ให้เสียประวัติ" อ่ะ ฟังแล้วมันเหมือนกับลูกน้องทำผิด ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
หัวหน้าคงคิดในใจว่า ทำผิดขนาดนี้ ไม่ไล่ออกก็บุญแค่ไหนแล้ว น่าจะเหลืออดพอทนกับพฤติกรรม
จากที่อ่านแชทนะ เข้าใจหัวหน้าเลย คนที่จ่ายยาโดยไม่ถามคนไข้ว่าแพ้อะไรอะคือแย่มากนะ และจากที่ดูน่าจะหลายครั้งมาก การทำแบบนี้ไม่ต่างจากการฆ่าคนไข้เลย เข้าในที่หัวหน้าจะโมโห ถ้าเราได้ขึ้นไปเป็นหัวหน้าเราก็โมโหนะ และจากคำพูดคือเขาเบาแล้วนะในแชทอะไม่รู้ว่าของจริงเป็นไง แต่แบบส่วนตัวในแชทอะคตเห็นด้วยกับหัวหน้าเลย
เรื่องขายเวรอะ ถ้ามันเยอะเกินไปอะมันก็น่าคิดจริงๆว่าคุณไม่เหมาะกับงาน ไม่อยากทำงานก็ลาออกแล้วไปทำบริษัทดีกว่า ถ้าทำงานไม่มีความสุขก็ควรเปลี่ยน หางานที่ดีต่อสุขภาพคุณดีกว่าไม่ดีกว่าหรอ ถ้างานที่ทำทำได้ไม่ดีเขาตักเตือนอะถูกแล้ว ดีกว่าเขาไล่ออก
ใครไม่ชอบเม้นเราเราไม่สนส่วนตัวไม่ได้มองว่าหัวหน้าขาดวุฒิภาวะแต่มองว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่เกินเยียวยาเขาก็ไม่กล่อมขนาดนี้ ส่วนตัวนี้คือว่าเขาพยายามมากแล้ว
คงต้องลองถามคุณ ถ้าคุณเป็นญาติคนไข้แล้วคนไข้เสียเพราะเรื่องที่จ่ายยาให้คนไข้โดยไม่ถามว่าแพ้อะไร คุณคิดว่าคุณจะเล่นเขาไหม เพราะถ้าเป็นเรา เราเล่น มันคือความสะเพร่าที่รับไม่ได้
จริงค่ะ ฟังยังไง หัวหน้าก็พูดถูกทุกอย่าง / มีแต่ฝั่งลูกน้อง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แบบนี้ไม่เรียกรักองค์กร เรียกว่าแค่อยากเอาชนะ เอาแต่ใจ กฎมีไว้ก็แหก / อ้างซึมเศร้า ซึมเศร้าแล้วทำคนอื่นเดือดร้อนก็ไม่ไหวนะ / นี่เข้าข้างหัวหน้าสุดใจเลย เสียคนไม่รู้จักโตไปคนนึง องค์กรน่าจะเจริญรุ่งเรืองต่อ
งงความดราม่า Toxic แบบใด??? เท่าที่ฟังเนี่ย ฟังยังไง หัวหน้าก็พูดถูกทุกอย่าง
- มีแต่ฝั่งลูกน้องเนี่ย ที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
- แบบนี้ไม่เรียกรักองค์กร เรียกว่าแค่อยากเอาชนะ
- เอาแต่ใจ / หัวหมอ / กฎมีไว้ก็แหก
- อ้างซึมเศร้า ซึมเศร้าแล้วทำคนอื่นเดือดร้อนก็ไม่ไหวนะ
- นี่เข้าข้างหัวหน้าสุดใจเลย เสียคนไม่รู้จักโตไปคนนึง องค์กรน่าจะเจริญรุ่งเรืองต่อ
ตัวเองมีปัญหาแต่กลับไม่แก้ปัญหาเอง ดันเอาปัญหามาไว้ที่ทำงานอีก คนเป็นหัวหน้างาน เขาถูกแต่งตั้งมาเพื่อให้มาดูแลและแก้ปัญหาต่างๆในแผนก เขาไม่ได้ถูกแต่งตั้งมาเพื่อให้มาแก้ปัญหาส่วนตัวของลูกน้องนะ ทำตัวกากๆเอง แล้วยังมาโทษคนอื่นอีก😌
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ทั้งนี้ถ้ารู้ตัวว่าเป็นซึมเศร้าควรรีบไปรักษาครับ อย่ามัวแต่อายเลย ปล่อยเอาไว้มันไม่ดีกับตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างที่รักคุณด้วย
ตอนเป็นซึมเศร้าแค่จะลุกออกจากที่นอนยังยากเลย คนรอบสำคัญมากๆ
Toxic ยังไงผมไม่เข้าใจ
ใช่ เขาน่าจะเลือกใช้คำให้ดีกว่านี้ได้
แต่เขาทำตามหน้าที่นะ ลูกน้องทำผิด ขายเวร ฯลฯ ไม่สมควรเตือนเหรอครับ
หรือต้องเป็นหัวหน้าแบบ ป่ะ เราจะแหกทุกกฎไปด้วยกัน ใครๆ ก็ทำทั้งนั้นไม่ต้องซีเรียส งี้เหรอ สังคมแบบนี้ต่างหากที่ Toxic
ผมไม่ค่อยเข้าใจ คำว่า Toxic ในความคิดแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน
มันมีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้และจบสวยกว่านี้นะผมว่า ถ้าไม่OKกับพนักงานคนนี้หัวหน้าควรเรียกคุยต่อหน้าครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเลยทำให้งานมันออกมาแบบนี้ พูดให้เค้าเห็นว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ถูดต้องมันอาจจะเดือดร้แนเพื่อนร่วมงานหรือกระทบกับทีมได้อยากให้ลองพิจารณาดูถ้าแก้ไขก็ไปต่อ หรือถ้าไม่ไหวกับแผนกนี้ลองเปลี่ยนแผนกไหมเดี๋ยวหัวหน้าลองคุยให้ มันมีทางออกอีกเยอะแยะไม่จำเป็นต้องมาพิมพ์ไลน์ให้ลาออกเถอะทำแบบนี้หัวหน้าก็เด็กเกินไม่กล้าสู้หน้าพนักงานหรือเปล่า มันมีวิธีที่Softและไม่ทำร้ายใครแต่ไม่ใช้เอง ทำพูดก็แบบหัวหน้าคนนี้ใครเป็นลูกน้องก็เหนื่อย
หัวหน้างานเขาแนะนำตลอดนะ ทั้งให้ย้ายแผนก ทั้งให้ออกไปรักษา แล้วงานมันเกี่ยวกับความเป็นความตายด้วย ถ้าวันดีคืนดีซึมเศร้ากำเริบอารมณ์ตกขึ้นมาจ่ายยาผิด หรือมีเหตุให้ทำผิดพลาดมันไม่สามารถโทษอาการป่วยเราได้นะ ที่พูดนี้ก็ไม่ได้โทษโรคโทษคนด้วย เพราะมาจากประสบการของเราเหมือนกัน เราเคยทำงานเป็นผู้ช่วยเภสัชในร้านยา(มีใบประกอบผู้ช่วย)แล้วกำลังรักษาโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย ช่วงหนึ่งแม่เราเสียยอาการซึมเศร้าเลยหนักขึ้นไม่มีกำลังใจทำงานอ่อนไหวง่ายมาก เจ้านาย(เภสัชกรรม)ประจำร้านแกก็สังเกตุ เรียกมาคุยแนะนำประมาณนี้เลยแล้วเราก็เข้าใจว่าตัวเองไหวเลยขอทำต่อ เขาให้เวลาเราประมาณ1เดือนแล้วคอยสังเกตตลอดดูรู้แล้วว่าไม่ไหวตลอดหนึ่งเดือนเราก็สังเกตุตัวเองแล้วว่าไม่ไหวจริงๆสุดท้ายเราเลยตัดสินใจออกแล้วมาทำงานอย่างอื่น งานเกี่ยวกับยาเกี่ยวกับคนมันทำโดยไม่พร้อมไม่ได้ การจ่ายยาก็เหมือนถือชีวิตคนไว้ครึ่งหนึ่งถ้าจ่ายยาผิด(มียาหลายแบบที่สีเหมือนกันเม็ดเหมือนกันนะ)คนไข้เป็นอะไรขึ้นมาแน่ใจได้ไงว่าเราจะรับผิดชอบไหว มันไม่ได้ผิดที่เราคนเดียวนะ มันจะผิดทั้งแผนก
ตอนอยู่มหาลัยเคยเครียดแบบนี้เหมือนกัน จากตอนแรกแค่เครียดซักพักมันเริ่มเปลี่ยนเป็นความเศร้า ตลอด 2 ปีเราร้องไห้ทุกวัน ยิ่งตอนอยู่คนเดียวมันยิ่งดิ่ง รู้สึกเหมือนก้าวไม่พ้นซักที แค่คิดถึงเรื่องงานน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง เล่าให้พ่อแม่ฟังเขาก็มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระทำไมต้องร้องไห้ ตอนนั้นเราเศร้าจนทุกคนรำคาญเพราะใครพูดอะไรเราก็ร้องไห้ ที่บ้านพยายามเข้าใจนะแต่เขาคงเหนื่อยเหมือนกัน หนักๆเข้าคือคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว ทำยังไงก็ไม่พ้น แต่ทุกครั้งที่คิดแบบนั้นเราเลือกจะนอนนิ่งๆ คิดว่าถ้าเราไม่ทำเราก็ไม่ตาย ปล่อยสมองมันคิดไป สุดท้ายเราใช้เวลาเกือบ 6 ปีกว่าจะพ้นมาได้ กลับไปคิดถึงเรื่องตอนนั้นเรายังกลัวตัวเองเลย ตอนนี้พยายามไม่เครียดกับชีวิต ตัดเรื่องไม่จำเป็นออกไปเยอะ กลัวจะกลับไปเป็นอีก
จากเนื้อข่าวคนปกติโดนแค่นี้เขาไม่คิดฆ่าตัวตายหรอก เพราะแค่ลาออกหรือย้ายงานมันก็จบ แต่เขาเป็นซึมเศร้าไง แค่เขาอยู่เงียบๆคนเดียวเขายังแทบเอาตัวไม่รอด แต่นี่เขาเก็บคำด่าไปซ้ำเติมตัวเขาเอง จากที่เขาทั้งเศร้า ทั้งเครียดอยู่แล้วมันก็ยิ่งหนัก
ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึงคนนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแล้วเขาไม่รับรู้สภาพแวดล้อมดีๆรอบข้างอ่ะ ใครจะปลอบเขาก็ไม่ได้ยิน ใครเรียกเขาก็ไม่ได้ยิน รับแค่คำด่าเอาไปซ้ำตัวเอง ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะไม่ไหว
เข้าใจเลยค่ะ
แมวเกาะเป็นลิงเลย55555
เท่าที่ดูหัวหน้าเขาก็ไม่ได้ Toxic นะครับ แรกๆเขาก็ให้วิธีการแก้ปัญหาแนะนำไปหมดแล้ว แต่น่าจะเพราะพฤติกรรมลูกน้องที่ไม่ดีอย่างในคลิป ทั้งขายเวรทั้งการจ่ายยาพลาดที่อาจทำให้คนไข้เสียชีวิต เลยแนะนำให้ลาออก แต่พอมากๆเข้าก็เริ่มมีการใส่อารมณ์ เข้าใจแพทย์นะครับ เข้าเวรวันนึงก็นานเจอคนมากมาย เครียดทั้งวัน ยังเจอลูกน้องที่ทำงานพลาดบ่อยอีก แต่พลาดไปเรื่องนึงตรงที่ไม่รู้ว่าลูกน้องป่วยทางจิตใจ เขาควรรักษาก่อนมาทำงานสายแพทย์จริงๆนะครับ เพราะงานมันต้องระมัดระวังจริงๆ การจ่ายยาพลาดอาจทำให้คนไข้เสียชีวิตเลย
อันนี้เห็นด้วยครับ ทุกที่มีแบบนี้ แต่การที่คุณป่วย แล้วเลือกที่จะพิสูจอะไรที่มันไม่ได้ให้ประโยชน์ กับตัวเองขนาดนั้น ควรจะรักษา พร้อมแล้วค่อย มาเริ่มใหม่ ไม่มีอะไรน่าอายหรอกครับ ถ้ามันเกี่ยวพันกับชีวิตของคุณและผู้อื่น แล้วถ้าคุณเป็นแบบนี้สักวันคุณจ่ายยาพลาด แล้วเกิดมีคนตายขึ้นมาจริงๆล่ะ เรื่องมันจะไปถึงใคร หัวหน้าไง หัวหน้าต้องมารับหน้าแทนลูกน้อง ทั้งโดนด่าโดนกดดันสารพัดเหมือนกัน มันเป็นเรื่องความเป็นความตายเลยนะครับ การจ่ายยาพลาดนี้ จะมาเล่นๆไม่ได้นะครับ สายอาชีพนี้ จะบอกว่าตัวเองไหวๆ แต่อาจจบชีวิตคนอื่นที่รับยาได้ ต้องมีความพร้อมกว่านี้ครับ ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ แล้วค่อยทำครับ หัวหน้าเขาก็บอกให้พักแล้วอะไรก็แล้ว บอกว่าลาออกแล้วไง ที่ทำงานเก่าผม บอกให้ไปตายเลยด้วยซ้ำ รู้ว่าสภาพจิตใจและความอดทนคนเรามันต่างกัน แต่อยู่ที่คุณครับ ว่าจะเลือกยืนจุดไหน จุดที่เหมาะกับไม่เหมาะกับตัวเอง นี่เป็นกลางนะครับ #มือสมัครเล่นไม่มืออาชีพ
จริงค่ะเห็นด้วยเลย
คุณเป็นหัวหน้าที่ให้คำว่า ลาออก ได้เปลืองมาก
พูดเยอะ พูดบ่อย คำนี้มันจะไม่ขลังสำหรับองค์กรเอานะ
คำว่าลาออก ควรเป็นวิธีสุดท้ายในการแก้ไขปัญหานะ
ทำงานแล้วมีปัญหา เปลี่ยนแผนกก็ไม่เอา เรื่องจ่ายยา มาทำมึนๆงงๆจ่ายผิด มีปัญหากับคนไข้อีก พูดตรงๆ เป็นเราจะถามตรงๆเลย มึงจะเอายังไง ทางเลือกก็ให้เยอะแยะ อะไรเลือกทางนี้เอง แล้วไปว่าคนอื่น ประสาท
น่าจะลาออกแต่แรก...move on ให้ไว (แต่น้องก็ป่วยอะนะ)
ยิ่งอยู่นานต้นทุนในการออกจากงานสูง
น้องคนนี้แลกด้วยชีวิตเลยนะ
ก็ดูมีปัญหาเขาเลยแนะนำให้ลาออกไง
เค้าคงทนไม่ไหวแล้วปะ พูดดีด้วยก็แล้วยังตีมึน งานก็ผิดเหมือนเดิม
@@MiMi-kk4qm ที่จะสื่อคือ มันมีหลายวิธีมากในการคุมบุคคลากร ถ้ารู้จักพระเดชพระคุณ จะเข้าใจว่าควรทำยังไงกับมายเซ็ตของพวกเขาได้ เอะอะให้ลาออก ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
หัวหน้าในไทยส่วนมากมี 2ประเภทคือ ทำงานเก่ง แต่บริหารไม่เก่ง และ บริหารเก่ง ทำงานเฉยๆ มันยากมากนะสายหมอหรือ วิชาชีพเฉพาะทางอื่นๆ เพราะคนที่ทำหน้างานเก่งขึ้นเป็นระดับบริหารแล้วทำได้ห่วยแตกเยอะมาก ผลสุดท้ายองค์กรไม่ไปไหน เนืองจากหัวหน้าเก่ง แต่ลูกน้องประสบการณ์น้อยหรืออยู่ในหมวดคนธรรมดา หัวหน้าก็คิดได้ต้องทำได้เท่าตัวเองในตอนนี้ คนเก่งมีอีโก้ทุกคนต่อมาองค์กรจะ toxic ก็ไม่แปลก ที่องค์กรใหญ่ๆระดับข้ามชาติจะมีตำแหน่ง ซีเนีย เพื่อให้คนเก่งหน้างานมีตำแน่งสูงขึ้น ไม่ต้องยุ่งการบริหาร อยากให้องค์กรในไทยมีตำแหน่งนี้ขึ้นมาน่าจะลดความ toxic ได้บ้าง
คำว่าหัวหน้ามันมีกว่าการแค่่สั่งๆนะ คุณสมบัติ วุฒิภาวะ ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ เพื่อการพัฒนาและะแก้ปัญหาไปในทางที่ดี แต่ประเทศแถวนี้ระบบแบบมีอำนาจกว่า = อีโก้สูงกว่า
ส่วนตัวนะหัวหน้าทำดีที่สุดแล้ว และจากแชทไม่ได้อีโก้สูงเลย เพราะความผิดพลาดมันไม่น่าให้อภัย เรื่องยานั้นอะอาจจะเป็นของเขาเลย และถ้าไม่ถามคือการฆ่าคนไข้เลย เข้าใจที่จะโกรธชีวิตคนทั้งคน ส่วนเรื่องลาฉ่ำขนาดนี้อะ เป็นฉันฉันไม่อยากมีเพื่อนร่วมงานแบบนี้เพราะภาระจะตกมาที่เราเยอะมาก ถ้าทำงานไม่ได้ควรลาออกหางานใหม่ที่เหมาะกับตัวเองดีกว่าเนอะ เราจะได้รู้ว่างานที่เหมาะกับตัวเองมันมีความสุขขนาดไหน ไม่ต้องมาทนกับงานที่ไม่ใช่
อีโก้ยังไงครับ..ที่ผมอ่านมาคือ หัวหน้าเขาพูดเข้าประเด็นทุกอย่าง ทั้งการเลือกเวรดึกแล้วขายเวรให้ตัวเองได้วันหยุด เพื่อนร่วมงานต้องมารับภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น
การจ่ายยาโดยไม่ถามอาการแพ้ คือจะให้สุ่มเสี่ยงโชคว่าจ่ายยาไม่ถามรอบนี้คนไข้จะแพ้จนเสี่ยงชีวิตเหรอครับ?
หัวหน้าที่ดี เขาต้องรู้ต้นตอของปัญหาว่าทำไมลูกร้องถึงไม่ได้ดั่งใจ
สุดท้าย ลงเอยด้วยลูกน้องจบชีวิตตัวเอง
มองมุมไหน ก็เป็นเพราะหัวหน้าไม่ใส่ใจมากพอ
ถ้าจะบอกว่า งานยุ่งจนไม่มีเวลาใส่ใจ งั้นก็แปลว่า คุณอาจจะเป็นหัวหน้าที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีพออยู่ดี
พ่อแม่และคนใกล้ยังช่วยไม่ได้เลยหัวหน้าเป็นคนอื่นด้วยซ้ำ
หัวหน้างานเข้าจ้างไห้มาคุมแค่งานเขาไม่อยากเสียเวลาชีวิตไปดูแลใครหรอก
เป็นหัวหน้า ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก จะตายก็ตายไปไม่ง้อ จะได้ไม่ต้องมีลูก เดะก็ส่งต่อยีนขี้แพ้ไปให้ลูกอีก
หัวหน้าไม่ใช่ พ่อ-แม่ ที่ต้องมาคอยโอ๋คอยเอาใจลูกน้อง นายจ้างเขาจ้างมาทำงานถ้าคุณไม่พร้อมทำ ไม่มีเวลาหรืออยากหยุดบ่อยๆก็ลาออกไปพัก หัวหน้าก็พูดถูกแล้วมั้ยครับ
ไม่ใช้ทุกอย่างต้องหมุนรอบตัวเองครับ
ทำไมหลายคนยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่หัวหน้าทำหรือคำพูดมันส่อให้เห็นถึงการกดดันซึ่งไม่ใช่ในทางที่ดีเลย ทั้งคำพูดคำจาที่ไม่ได้ระวังถึงผลกระทบ การพูดในกลุ่มใหญ่ก็ไม่ได้ต่างจากการประจารเลย ดูแล้วเหมือนคนที่พยายามkeep look ให้ดูเป็นคนมีวุฒิภาวะอยู่ตลอดเวลาซึ่งจริงๆมีแค่เปลือกนอก แล้วถ้าจะบอกว่าที่ทำไปเพราะหวังดีผมบอกเลยตอแห_ มันไม่ต่างอะไรจากการปล่อยปลาดุกลงแม่น้ำแล้วคิดว่าจะได้บุญ จริงๆต่างนะเพราะมันเลวร้ายกว่าหลายเท่า การที่คิดว่าทำดีหวังดีแต่ไม่สนวิธีการแล้วสุดท้ายทำให้ชิวิตคนๆนึงหายไปมันไม่ได้ต่างอะไรจาก ฆตกที่แสร้งเป็นคนบริสุทธิเลย ผมไม่รู้นะว่าหัวหน้าจะแก้ตัวหรืออะไรแต่ที่แน่ๆคือลูกน้องคนนี้เขาแก้ต่างอะไรไม่ได้แล้ว
เคยทำงานพลาดจนหัวหน้าต้องรับขี้เเทนครับ ถ้าลูกน้องคิดได้เค้าจะรู้สึกผิดเเล้วเเก้ไขครับ เข้าใจว่าหัวหน้าในดราม่าใช้คำพูดอะไรไม่คิดและวุฒิภาวะต่ำไปหน่อย เเต่ไปไล่อ่านมานะหัวหน้าพูดถึงการทำงานตามระบบ เเล้วเรื่องที่หัวหน้าโวยเรื่องไม่ถามว่าผู้ป่วยเเพ้ยาอะไร จากตรงนี้ผมคิดว่าลูกน้องก็พอตัวอยู่นะ การจ่ายยาผิดให้ผู้ป่วยเเล้วเป็นไรขึ้นมาคิดว่าความซวยจะไปตกที่ไคร การลงเวรเข้าเวรเค้ามีระบบของเค้ามีเหตุจำเป็นอะไรก็บอกได้เเลกเวรกันได้เเต่ดูทรงเเล้วอยากเข้าตามใจมากกว่าทำระบบรวนมั่วไปหมดเลยเกิดปัญหาจนหัวหน้าบ่น เเล้วการบ่นแบบนี้คิดว่าไม่น่าเกิดครั้งเดียว เพราะถ้าครั้งเเรกเเละครั้งเดียวไม่น่าใช้คำรุนแรงอะแล้วไม่น่าถึงกับฆ่าตัวตาย มองฝั่งหัวหน้าเจอเเบบนี้คิดว่าก็เสียสุขภาพจิตจนอยากลาโลกพอกันไม่ต่างกันนะ
คิดถึงเพื่อนที่เป็น Supervisor ไฟแรง พึ่งกลับมาจากต่างประเทศมาคุมทีม เจอลูกน้องเป็นโรคซึมเศร้า ขาดบ่อย ดุไม่ได้ นางลาออกเลย กลัวทำคนตาย 55
มรึงไม่ไป กรูไปเอง 😂
เออ ดี แก้ที่ต้นเหตุ ฮ่าๆๆ
คหสตจากคนที่สุขภาพจิตยังไม่พัง รู้สึกว่าคำพูดไม่ได้แรง แต่หัวหน้าเป็นคนจุกจิกและน่ารำคาญ
1.ไม่ได้มีกฎห้ามซื้อขายเวร ลูกน้องไม่ได้ทำผิดกฎ แค่ไม่ถูกใจหัวหน้า
2.เรื่องทำงานก็ควรคุยที่ทำงาน คุยไลน์นี่ไม่ได้เรื่องเลย ยิ่งเรื่องที่คุยเป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกน้องที่ไม่จำเป็นและไม่ควรคุยในไลน์สุดๆ
การที่มาตามด่าในไลนน์มีอยู่สองอย่างคือ หัวหน้าไม่เป็นมืออาชีพมากพอ หรือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นปัญหาตั้งแต่แรก มันเลยคุยในที่ทำงานไม่ไดั
ลูกน้องมีปัญหา ถ้าเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาจริงๆ ก็ควรทำเรื่องไปตามขั้นตอน จะออกใบเตือน จะเรียกคุย จะอะไรก็ว่าไป
ไม่ใช่ไปตามด่าแล้วบอกให้น้องไปลาออกอยู่ตลอดเวลา คนที่มีวุฒิภาวะเขาไม่ได้ทำกันแบบนี้
อีกเรื่องนึงคือนี่คือผลกระทบของพวกเจ้าของกิจการหัวหมอ ที่ไม่อยากจ่ายชดเชยตามกฎหมาย เลยใช้วิธีปั่นประสาทให้ลูกน้องลาออก เจอคนจิตแข็งหน่อยก้อาจจะจบแค่ไปหาหมอ แต่พอไปจี้โดนคนป่วยผลมันก็เลยเป็นแบบนี้ ใครทำอะไรไว้ก็รับกรรมไปแล้วกัน ถ้าคิดว่าที่ตัวเองทำมันถูกก็ไม่ต้องกลัว
เป็นเภสัชแต่ไม่ถามถึงการแพ้ยากับคนไข้นี่มันผิดมากนะชีวิตเลยทีเดียวหัวหน้าตำหนิสมควรมากถ้าไม่ใส่ใจในการทำงานอย่างนี้ก็ลาออกถูกต้อง
หัวหน้าก็ไม่ได้toxicขนาดนั้นนะ แล้วคือ..เภสัชจ่ายยาไม่ถามว่าแพ้อะไรนี่เสี่ยงต่อชีวิตคนไข้มากนะ ถ้าคนได้ยาเข้าแพ้ละเสียชีวิตมันก็ต้องเป็นหน้าที่ของหัวหน้าออกมารับหน้า ทิ้งบอมใส่เพื่อนร่วมงานแบบนี้ก็ไม่น่ารักเหมือนกันนะ
คงไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเรื่องการขายเวรหรือจ่ายยาไม่ถามอาการแพ้ ไม่งั้นหัวหน้าคงไม่มาบอกว่า ลองย้ายแผนก หรือย้ายงานดูไหมที่สบายกว่านี้ไหมสายงานมี่มีเวลาและสามารถออกไปรักษาอาการได้ แต่เลือกที่จะอยู่ต่อและขายเวร ทำคนอื่นเดือดร้อน และความเสี่ยงของผู้ป่วยที่มารับยาอีก
ไหนจะเลือกกะที่ตัวเองได้วันหยุดแล้วปล่อยขายเวร อันนี้คือยังไง..
งานสายการแพทย์มันต้องเคร่งครัดและหัวหน้าเองเขามองภาพรวมของงานและเพื่อนร่วมงานของคนอื่นที่ต้องมาแบกงานกันเพิ่มหามรุ่งหามค่ำ
หัวหน้ามีหน้าที่รักษาผลประโยชน์องค์กร เรื่องนี้ผมว่าหัวหน้าผิดเรื่องเดียวคือใช้คำพูดไม่รักษาน้ำใจคนมากพอ
แต่เท่าที่ฟังจนจบคลิป หัวหน้าทำหน้าที่ของตัวเองค่อนข้างดี แต่ปากจัดไปหน่อย
ปัญหาคื่อน้องที่ฆ่าตัวตายเป็นโรคซึมเศร้า ก็เลยคิดสั้น ซึ่่งไม่ได้แปลกอะไร มันเกิดขึ้นทุกวัน
ผมเห็นด้วยกับอันนี้นะ ต่างคนก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และต้องแบกรับความเครียดทั้งนั้น
รักษาผลประโยชน์องค์กรยังไงครับ อธิบายหน่อย อันนี้มันtoxicล้วนๆเลย
@@ALONEHORNBILLในบทสนทนา เค้าก็เตือนลูกน้องในฐานะหัวหน้าไงครับ ทำงานเป็นองกรพอมีปัญหา1จุด เค้าก็พยายามแก้ การที่เค้าพิมแบบนั้นแปลว่า ปัญหามันไม่ได้เกิดแค่รอบเดียว การเสนอให้พักหรือลาออกก็ถูกแล้วหนิครับ ในเมื่อคุณไม่ไหวจริงๆ ทั้งนี้มันเป็นข้อความแบบพิมพ์ด้วย มันเลยมองได้หลายแบบ แต่ถ้าคุยกันต่อหน้าอาจะเป็นอีกแบบก็ได้
จะแนะนำอะไรก็ได้ ไม่ใช่ไล่ให้ไปลาออก มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจยิ่งเป็นคำพูดระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ทั้งยังคำพูดในไลน์กลุ่มอีกที่ต่อว่าแขวนประจาน แล้วยิ่งคำพูดสุดท้ายหัวหน้าคนนี้เผด็จการเอาตัวเองเป็นที่ตั้งมาก ใครเข้ากับกูไม่ได้ไปลาออกให้หมด ดูยังไงกรณีนี้หัวหน้าเป็นสาเหตุทำให้คนฆตต.อย่างปฏิเสธไม่ได้
@@KGuy-i4xแล้วหัวหน้ามีสิทธิ์ที่จะบอกให้ลูกน้องไปลาออกด้วยหรอ หรือมันคือวิธีรักษาองค์กร ถ้าลูกน้องทำผิดทำไมไม่ไล่ออก คุณทำแบบนี้เท่ากับว่าให้ลูกน้องคุณจบความฝันที่จะเป็นหมอ (การเป็นหมอแค่ฝันอย่างเดียวไม่ได้นะ มันต้องเรียนเยอะกว่าหลายอาชีพซะอีก)แล้วคนที่บอกว่าน้องเค้าคงไม่เคยโดนกดดัน โรคซึมเศร้ามันมีต้นเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น แล้วต้นเหตุของการเกิดโรคซึมเศร้าของน้องเขาคือหัวหน้างานที่ต้องเจอทุกวัน
ซึมเศร้าอีกเเล้ว ถ้ารู้ว่าป่วยทำไมไม่รักษาตัว ตัวเองเป็นเภสัช เเล้วการจ่ายยามันอันตรายมากนะเฮ้ย
เคสนี้ผมมองว่า คนเป็นหัวหน้าขาดวุฒิภาวะ และการรับมือแบบนี้เป็นลักษณะของการระบายอารมณ์ เคสพนักงานทำงานไม่ได้มาตรฐาน ควรเป็นการประเมินและส่งผลประเมินให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการบอกเลิกจ้าง เลิกสัญญา ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความพยายามทำร้ายจิตใจเพียงเพราะตัวเองเหนื่อย ,รำคาญ หรือไม่ได้ดั่งใจในการทำงาน ฯลฯ ของพนักงานคนไหนก็ตาม สิ่งนี้เป็นวุฒิภาวะที่ควรจะมีในหัวหน้างานทุกๆ งาน ทุกๆอาชีพ
หัวหน้าแก้ปัญหาตามขั้นตอนและหลักการ❌ หัวหน้าแก้ปัญหาด้วยอารมณ์✅ เคสนี้แค่อ่านแชทยังดูออกเลยว่าหัวหน้าไม่ชอบลูกน้องไม่อยากทำงานด้วยเลยพยายามพูดกดดันให้ลาออก
เท่าที่เราอ่านมันคือการเตือนลูกน้องแต่ลูกน้องเอาแต่ใจตัวเองคนอื่นต้องเอาใจกู
@@palmtreealone4723 ผมก็คิดแบบนั้น เขาไม่อยากให้ที่ทำงานไล่ออกเพราะมันจะเสียประวิติ เลยคุยว่าให้ลาออกไปพักรักษาตัวก่อน
น้องเป็นโรคซึมเศร้า คนที่ไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับคนเป็นโรคนี้ไม่เข้าใจหรอก ผมเจอมาแล้ว
ผมมองตรงข้าม เคสนี้ หัวหน้ามีความเมตตาไม่อยากไล่ออกให้เสียประวัติ เลยแนะนำให้ลาออกเอง ก่อนแนะนำให้ลาออกก็แนะนำอย่างอื่นก่อนเช่นย้านแผนก หัวหน้าใช้คำสุภาพและแนะนำได้ตรงจุด ให้น้องเลือกอยู่ในจุดที่เหมาะกับตัวเอง
หัวหน้างานไม่มีวาทะศิลป์ในการสื่อสารสักเท่าไหร่และอาจจะคุมอารมณ์ได้ไม่ดีจริงครับ แสดงความเสียใจต่อน้องและครอบครัวที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปนะครับ
ความสามารถในการสื่อสารของคนในยุคนี้ โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับคนอื่นโดยใช้เหตุผล หรือการอธิบายเรื่องต่างๆถือว่าน่าเป็นห่วงเอามากๆ อาจจะเป็นเพราะสภาวะแวดล้อมการเติบโตมาในสังคมที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันโดยเฉพาะเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันเอามากๆ พูดง่ายๆคือ ถ้าไม่เห็นด้วย โอกาสลงเอยด้วยอารมณ์มีสูงมาก ไม่สามารถอยู่ร่วมกันบนความต่างได้เลย จึงไม่สามารถพูดคุยกันดีๆ ในกรณีนี้ เราไม่เคยเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ว่าอาจจะมีการพูดคุยกันแล้วจริงๆหรือไม่ จึงยังสรุปไม่ได้ว่าเพราะเหตุนี้หรือเปล่า
อีกเรื่องที่น่าห่วงคือ การปฏิบัติตามกฏขององค์กร เหมือนกับจะทำได้ยากมากๆและไม่ค่อยมีคนพูดถึงเลย คือ สุดท้ายไม่ว่าจะสรรหาคำดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าคนไม่ทำตามกฏ หัวหน้าควรต้องตักเตือนอยู่ดีนะครับ หรือไม่ก็ต้องลงโทษทางวินัย สุดท้ายแล้ววิธีที่ดีที่สุดอาจจะต้องไปปรึกษากับฝ่ายบุคคล ไม่ต้องคุยกันในไลน์หรอกครับ นั่งลงมีฝ่ายบุคคลเป็นพยานไปเลยจะดูมืออาชีพกว่าครับ คนอื่นๆไม่เห็นไม่ได้ยินด้วย ถ้าพนักงานปรับความคาดหวังให้สอดคล้องกับองค์กรไม่ได้ องค์กรก็ต้องใช้มาตรการทางวินัยครับ
สุดท้ายนี้อยากให้น้องๆที่เข้าไปทำงานและอยากอยู่ต่อไป ลองปรับตัวดูนะครับ ถ้ามัน Toxic มาก ยังมีอีกหลายที่ที่อาจจะเหมาะกับเรามากกว่า ส่วนหัวหน้าพยายามพูดน้อยๆครับ เรื่องไม่ค่อยดีเอาไว้คุยหลังไมค์ดีกว่า แล้วคุยกับฝ่่ายบุคคลเยอะๆครับ
ผมก็มีลูกน้อง กิจการไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ในข่าวสำหรับผม ที่หัวหน้าพิมพ์แชทคุย มันธรรมดานะ สำหรับคนทั่วๆไปโดยส่วนมาก ผมไม่แน่ใจว่าน้องเป็นซึมเศร้าไหมนะ
แต่สำหรับผม การปฏิบัติกับลูกน้อง ไม่เหมือนกันเลยซักคน ผมจะตึงบ้างหย่อนบ้าง แล้วแต่บุคลิกของลูกน้อง
บางคนต้องด่าตรงๆ
บางคนต้องพูดอ้อมๆ
บางคนต้องทำเงียบ ทำเฉยใส่ ถามก็ตอบ
บางคนต้องยกยอ ชื่นชมบ่อยๆ งานถึงจะไปได้ดี
ที่ว่ามา เรื่องจริงนะ แต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แต่ทุกคนโอเคหมด เคยมีคำถามจากลูกน้อง ว่าทำไมเจ้านายลำเอียง ผมก็อธิบายในที่ประชุม แยกเป็นคนๆเลย สุดท้ายทุกคนเข้าใจหมด
อย่างว่านะ ทำงานกับคน มันยากมาก ยิ่งคนเยอะยิ่งจัดการยาก
สำหรับน้องที่กำลังเริ่มทำงาน ผมพูดตรงๆเลยนะ ทำหน้าที่ของเราให้ถึงขีดที่เขาตั้งไว้ ไม่ต้องทุ่มเทถวายชีวิตเปรียบบริษัทเป็นดั่งครอบครัว
แต่กลับกัน ไม่ใช่ว่า ทำแต่งานตัวเอง เสร็จคือจบเลิกงานกลับบ้าน
มีเลี้ยงสังสรรค์ ไปอบรมสัมณา หรือนัดกันมีตติ้งเล็กๆหลังเลิกงาน ไม่ใช่ว่าไม่ไป ไม่สนใจอะไรเลย
แต่ถ้าไม่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของคนในที่ทำงานบ่อยๆ มันจะเป็นความเคยชิน พอช่วงหลัง เค้ามีงานอะไร นัดกันไปไหน เค้าจะบอกกันว่า ไม่ต้องบอกเขาหรอก เพราะก็เห็นชวน แต่ไม่เคยไป
สุดท้ายตัวเราจะกลายเป็นแกะดำ
เพื่อนร่วมงานจะมองข้ามเราไป
แล้วมันจะพาให้การทำงาน ที่ต้องทำร่วมกันเป็นทีมทำได้ยาก เพราะมันเกิดจากจุดเล็กๆตรงนี้แหละ
พิมซะยาวเลย
เพื่อนๆแสดงความคิดเห็นได้นะ
ขอบคุณครับ
เอาจริงวงการ เภสัช พยาบาล แพทย์ อะคือแบบบังคับอยู่เวร แบบนอนน้อย ส่งผลถึงสุขภาพร่างกาย จิตรใจ และแบบ หัวหน้างานเค้าจบอะไรแบบนี้มาจริงหรอดูไม่ใส่ใจเลยนะ เหมือนแบบทำทุกอย่างเพื่อตัวเองเอาตำแหน่งตัวเองก่อนไม่สนสภาพร่างกายจิตรใจลูกน้อง เอาจริงอย่ารักองค์กรมากเพราะองค์กรไม่ได้รักเราเค้าสนแค่ผลประกอบการณ์
ซึมเศร้าควรรักษานะ ไม่สบายควรลามารักษาตัวเอง หัวหน้างานผิดที่กดดัน แต่ตัวเราเองเราต้องรักตัวเองก่อน rip ผู้ตาย
บางคนบอกเจอมาเยอะกว่านี้ ไม่เป็นไร ก็มี บางคนเจอมาน้อยกว่านี้ เป็นไร ก็มี คนเราเจออะไรมาไม่เหมือนกัน คนกรุงเทพน้ำไม่ท่วม เป็นอย่างไร ก็ไม่มีทางรู้ว่าคนเชียงรายน้ำท่วม เป็นอย่างไร บางคนเขาอาจจะมีปัญหาอย่างอื่น บางคนเขาไม่มีปัญหาอะไรเลย โดนด่าเท่ากัน แต่รู้สึกไม่เท่ากัน อย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานเพื่อ comment คนอื่นเลย
ในส่วนของเรื่องความกดดัน
ฐานะหัวหน้า : ถ้างานไม่มีปัญหา ไม่ทำให้เกิดการเดือดร้อน รับผิดชอบตัวเองและงานได้ดี ก็ไม่เคยว่า
ฐานะลูกน้อง : เรื่องบางเรื่องก็เล็กน้อยมาก ไม่เดือดร้อน ไม่ผิดพลาด ลูกจ้างเหมือนกัน พูดดีๆก็ได้
หัวหน้าแบบนี้แยอะ ผมทำงานเรือตื่นมาทำงานตี2-3 ทั้งที่ไม่ใช่เวรผม ผมพึ่งออกเวรเที่ยงคืน แล้วกว่าจะทำงานเสร็จก็เกือบเช้า แล้ว8โมงเช้าผมก็ต้องเข้าเวรอีก จัดเวรมั่วหลายครั้งมาก พออกมาทำแบบงัวเงียเขาก็ไปบอกคนอื่นว่าผมทำงานไม่activeจนกระจายไปหลายๆลำ ผมย้ายไปลำไหนก็โดน ทั้งที่ผมก็พยายามอธิบายเขาก็ไม่ฟัง บางคนก็ดีแต่กัปตันคนนี้เขาไม่ฟังใครเลย เขาเคยฝึกทหารมาแล้วเอามาใช้บนเรือ เขาไม่ไล่เราออกแต่เหมือนบีบเราให้ออก
ย้ายเถอะครับ หัวหน้า หัว ก ร ว ย พันธุ์นี้
หัวหน้าที่ดีที่วันนี้ มันหายากครับเพราะว่าสมัยนี้องค์กรเขาไม่หาหัวหน้าที่ดีหรอกเขาหาหัวหน้าที่เก่งและ ทำงาน หาเงินให้องค์กรเขาได้ มีเส้นมีสายในองค์กรนั้นๆแค่นั้นเองทีนี้ ปัญหาก็คือลูกน้องรุ่นใหม่เข้ามามันอยู่ไม่ได้ แล้วจะให้ตามใจอย่างนั้นอย่างนี้มันไม่มีทางหรอกครับที่เหลือมันอยู่ที่ตัวคุณแล้วแหละจะหาทางออกยังไง อย่าไปคนอยู่แบบนี้ไปหาที่อื่นดีกว่า
สงสารคนเป็นโรคซึมเศร้านะ ไม่มีใครอยากเปิดหรอก เเต่เพราะหลายๆอย่างที่พวกเค้าเจอมามันหนัก มันไม่ใช่"เรื่องแค่นี้" เราไม่ใช่เค้า เราไม่ณุ้ว่าเค้าอ่อนไหวแค่ไหน ไม่ควรไปตัดสินเค้า ไม่ควรเอาตัวเองไปตัดสินเค้า การที่เราอ่อนไหวจนคนอื่นรำคาญนั้นไม่ใช่ความผิดของคนเป็นโรคซึมเศร้า เเต่เป็นคนที่เสร่อและเสือก โตๆกันแล้วควรคิดได้แล้วว่าเเต่ละคนไม่เหมือนกัน เเละอย่าเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น แปลกที่บางคนดูโตเเล้วนะ เเต่ความคิดคือ.....มาก แล้วไอ่พวกที่บอกให้เค้าไปรักษาๆเนี่ย มันไม่ได้กินยาแล้วหายเลยนะเว้ย มันต้องใช้เวลามากๆ เเล้วบางคนเค้าไม่มีเงิน เค้าจะรักษายังไง อย่าพูดเหมือนมันง่าย อย่างที่เค้าว่ากัน "ไม่เป็นเค้าก็ไม่มีวันรู้สึก" ทุกคนมีเหตุผล มีความคิด มีความรู้สึกเป็นของตัวเอง แปลกที่เดี๋ยวนี้ยังมีคนด่าคนเป็นโรคซึมเศร้ากันอยู่ ฟิวเหมือนไปบอกคนพิการทางขาให้เดิน แล้วเปรียบเทียบว่าตัวเองยังเดินได้เลยอ่ะ เป็นกำลังใจให้คนเป็นโรคซึมเศร้านะคะ ขอให้ชีวิตเจอเเต่ความสุข ขอให้เจอคนที่ดีเเละจริงใจ เเละส่วนใญ่ที่คนเป็นโรคศึมเศร้าก็เพราะอีพวกคนที่ด่าคนเป็นโรคซึมเศร้านี่เเหละ ขยะสังคม
@@บอกแล้วอย่าเถียงเเม่ โรคที่เกิดจากใจตัวเองที่ต้องการคนมาเอาใจพอไม่ได้ดังใจก็เป็นอย่างที่เห็น
@@บอกแล้วอย่าเถียงเเม่ คุณคนหนึ่งแก้ตัวแทนคนตายตลอด แสดงว่าในห้องจ่ายจ่ายยา หากมีเภสัชฯเป็นแบบคนตาย2คน อ้างสารพัด เพื่อจะได้ไม่เหนื่อย ทุกคนต้องโอ๋ เอาใจ เราไม่รู้ว่าคนตายอยู่บ้านเป็นคนอย่างไร เรามีญาติเป็นซึมเศร้า แต่ขอคุมเงินจากการขายผลผลิตทั้งหมด พอไม่มีใครยอม จะเป็นจะตายอาละวาด เมื่อคนในบ้านแข็งหมดตอนนี้หงอยแต่ไม่ตาย
การเป็นผู้นำหรือหัวหน้าคนไม่มีการเรียน การสอนที่จัดอยู่ในระบบการศึกษา แต่การมีเมตตา เห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรามัน คือ พื้นฐานของผู้นำและหัวหน้าที่ดีคะ ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงสิ่งที่ดี และ สิ่งที่ไม่ดีมาให้ค่ะ
..อันดับแรกขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียและครอบครัวครับ..
..ทีงี้ผมขอยกตัวอย่างของผมได้ไหมครับ
ซึ่งผมเรียนมหาลัยและผ่านการรับน้อง กึ่งโซตัส แต่ไม่ได้สุดโต่ง ... แต่มีการกดดัน ต่างๆ ผมว่า .. กิจจกรมนี้ หรือ พูดง่ายๆ การรับน้อง มันช่วยสร้างภูมิคุ้มกันย่อมๆๆ ในการเตรียมความพร้อมก่อนทำงานจริง ฝึกให้มีความอดทน การรับมือกับความกดดัน และ การสู้ !!
จริงๆ ผมจะชวนมองต่างกับกิจกรรมรับน้อง ผมว่ามันมีข้อดีอยู่บ้างนะครับ
หัวหน้าบอกว่า“ใครทะเลาะกันอีก” มันเป็นเรื่องของส่วนร่วมแล้วแหละ
เปิดก่อนว่าความเห็นเราไม่ได้โทษคนที่ ฆตต นะ เผื่อมีคนเข้าใจผิด
ส่วนตัวเรามองว่า ทุกงาน ทุกที่ มีคน toxic ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้แคร์ ถนอมน้ำใจ หรือมารับรู้ว่า ใครที่ร่วมงานด้วยจะป่วยไม่ป่วย เจอเรื่องหนักหนาอะไรมา และเราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงคนแบบนั้นได้เลย
มีแต่ตัวเรา คนรอบข้างเรา ที่รู้และเข้าใจเราว่า เราป่วยเป็นอะไร อยากให้คนที่ป่วย และ กำลังทน หรือ เจออะไรแบบนี้ เลือกที่จะเดินออกมา ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป รักษาชีวิต จิตใจตัวเองไว้ก่อน ไม่ไหวก็ออกมาพักรักษาตัว พร้อมแล้วค่อยว่ากันใหม่ หาที่ใหม่ที่อาจจะเหมาะกับเรากว่านี้ การเลือกเดินออกมา ไม่ใช่การยอมแพ้ และการทนอยู่เพื่อพิสูจน์อะไรก็ตามกับคนเหล่านี้มันไร้ประโยชน์
@@lookplanatthathida6401 คุณโพสต์อย่างนี้คือประนามหัวหน้างานครับ
ละในวงการ รพ ขายเวรปกติมากกกก แถมมีปัญหา ส่งไลน์กลุ่มด้วย อีก 40 ชีวิตเห็นหมด น้องเครียด กดดัน แค่นั้นแหละค่ะ
@wanderery6861 เอาเปรียบคนอื่นคุณยังชื่นชม มันคงนิสัยเดียวกัน คนนี้ตายไป คนที่ิอยู่คงมีความสุขในการทำงาน บางคนเขาไม่อยากพูดกับคนอย่างนี้
ถ้าแค่นี้สำหรับผม ถือว่าหัวหน้าพยายามหาทางออกแล้วนะ หาทีมให้ลงแล้ว ไม่ย้าย(หลายๆที่ไม่มีออฟชั่นนี้ให้นะ) ป่วยก็ไปรักษา อย่าถ่วงทีม เวลาน้องทำผิด ระดับนายเค้าด่าไล่สายลงมา เค้าไม่ลงมาด่าเด็กเองหรอก เวลาเกิดความเสียหายกับบ. บ.โดนฟ้อง มันต้องมีคนรับผิดชอบนะ ส่วนตัวคิดว่าไม่เกินเลย หนักกว่านีก็มี
หัวหน้าก็พูดดีนะ ตักเตือน แนะนำ แล้วก็สุดจะทน
ผมว่า หัวหน้า น่าจะ สุดจะทนจริงๆ คงเตือนแล้ว ให้โอกาสแล้ว จนกระทั่งบอก ไม่ไหวแล้ว เลยระเบิด...
ใช่เลยครับเขา บอก บอก เตือน เตือน สุดจะทน
ถึงจะไม่เคยมีเพื่อนร่วมงานซึมเศร้า แต่เคยมีแฟนซึมเศร้าบอกเลยใช้ชีวิตกับคนโลกซึมเศร้ายากจริงๆ นั่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ เราก็พยายามปรับ ปรับจนเครียดเอง อีกฝ่ายไม่ทำอะไรเลยนอกจากเศร้า มีแต่เราที่พยายามหาทางแก้ทุกเรื่อง แถมต้องมาแบกความรู้สึกอีกฝ่ายมากเกินอีก จนบางทีเหมือนจะซึมเศร้าไปอีกคน โคตรเครียด
อะไรกันวะเนี้ยเห็นผิดเป็นถูกเห็นถูกเป็นผิดหรือไม่ก็โทษ Gen z เเละ Gen ต่อๆ กันไปหรืออะไรก็ตามที่สุดจะคิดที่คุณมาพิมได้โดยไม่อายตัวเองเพราะว่ามันคืออินเตอร์เน็ต
มนุษย์เรานี้มันวุ่นวายกันดีเเท้เนอะ😅 ละอายใจกันไว้ก็ดีครับเพราะสิ่งที่คุณพิมกันไปมันก็จะสลักไว้ในนี้เพื่อให้คนในอนาคตมาอ่านกัน ส่วนผมก็จะรักษาลมหายใจไว้เพื่อเฝ้าดูความเป็นไปว่ามันจะเละได้อีกขนาดไหน😂
เชื่อว่า จากข่าวนี้จะทำให้องค์กรตั้งด่านในการรับคนป่วยซึมเศร้าเข้าทำงาน
@@Genesis-j2t ควรมีมานานแล้วค่ะ ตปทบางประเทศ ยังให้พนักงานพักงานเป็นปีๆถ้าเป็นซึมเศร้าส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานโดยตรงเลย
รู้สึก ว่าหัวหน้างานก็ไม่ได้พูดจารุนแรงอะไร เหมือนจะพยายามทำความเข้าใจว่า น้องเขาไม่มีใจทำงาน เลยแนะนำว่าให้ลาออก แต่ก็ดูไม่ได้กดดันอะไรมาก
งานนี้จะมีล่าแม่มดไหม ดูทรงไม่น่ารอด 🤔
ควรล่านะ หลังจากลูกน้องตายแล้ว เขายังดูไม่สำนึกอะไรเลย...
@@ct9852สำนึกอะไรก่อน หัวหน้าก็ทั้งเตือนและแนะนำให้ย้ายแผนกแล้ว ไม่ยอมอยากจะพิสูจน์ตัว แล้วไงที่นี่ได้พิสูจน์อะไรมั้ย พิสูจน์ได้แค่อย่างเดียวคือเขาหาทางออกได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ควรลาไปรักษาอาการป่วยตัวเองครับไม่ใช่แต่จะให้แต่สังคมปกป้องเห็นใจ ทั้งขายเวรทั้งไม่ลงบันทึกยาไม่ทำตามขั้นตอนเขา เขาเตือนไม่ได้เลยหรอครับ
@@ct9852สำนึกอะไรก่อน หัวหน้าก็ทั้งเตือนและแนะนำให้ย้ายแผนกแล้ว ไม่ยอมอยากจะพิสูจน์ตัว แล้วไงที่นี่ได้พิสูจน์อะไรมั้ย พิสูจน์ได้แค่อย่างเดียวคือเขาหาทางออกได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ควรลาไปรักษาอาการป่วยตัวเองครับไม่ใช่แต่จะให้แต่สังคมปกป้องเห็นใจ ทั้งขายเวรทั้งไม่ลงบันทึกยาไม่ทำตามขั้นตอนเขา เขาเตือนไม่ได้เลยหรอครับ
@@ct9852 ถ้าเเค่ตักเตือนเเรงๆ ในสายงานที่มีโอกาศทำคนตายได้ถ้าพลาดเเล้วต้องถึงกับสำนึกก็ไม่ต้องรักษาโรคอื่นกันละ นั่งเฝ้ากันไปทั้งโรงบาล
ผมไม่ได้จะตัดสินใครหรือโทษใครนะครับ
แต่ส่วนตัวจากประสบการณ์การทำงานและจากเพื่อนหลายๆคน กับงานหลายๆงาน การเจอหัวหน้าแบบนี้มันแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ โอกาสเจอประมาณ70%เลยครับ ยิ่งกับอาชีพทางการแพทย์ที่มีความกดดันสูง ยิ่งมีโอกาสเจอเยอะกว่ามาก ผมมีเพื่อนที่เป็นเภสัชเขาก็เจอเรื่องแบบนี้ประจำและส่วนใหญ่เจอหัวหน้าที่หนักกว่านี้อีก
*เพิ่มเติมสำหรับเรื่องการทำงานในหลายๆอาชีพ ต่อให้หัวหน้างานจะ Toxicแค่ไหน คนในทีมจะเจอกดดันมากแค่ไหน แต่ถ้าผลงานมันเป็นไปตามระบบและออกมาดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนระดับสูง นั้นเท่ากับว่าเขาคือหัวหน้างานที่ดีและมีสักยภาพครับ
สำหรับใครที่ส่งสัยเรื่องสถิติ70%มาจากไหน มาจากผมและเพื่อนๆประมาณ20กว่าอาชีพ ที่เอามาพูดคุยกันเวลาเจอกันแล้วทำเล่นๆไว้เล่าให้รุ่นน้องครับ
70%-กดดันเรื่องมาก
15%-ไม่สนใจและผลักภาระงาน
10%-บ้า
3%-ปกติ
2%-ใจดีเข้าใจลูกน้อง
คราวๆที่ทำไว้ก็ประมาณนี้ครับ🙃
ขอแสดงความเสียใจให้กับผู้เสียชีวิต
และขอเป็นกำลังใจให้คนที่เจอหัวหน้างานแย่ๆครับ
จริงๆไม่อยากให้ใช้คำว่าบ้าอ่ะค่ะ ใช้คำว่า ป่วยทางจิต จะดีกว่า
เราก็เกือบฆตต.เพราะเจอหัวหน้า กับเพื่อนร่วมงาน toxic เหมือนกัน แต่ดีที่ผ่านมาได้
คุณโชคดีมากเลยที่หลุดพ้นจากสภาพแวดล้อมนั้นมาได้🥲
@PoringPlayer จะเรียกว่าโชคดีก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมเผ็นคนๆนึงที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกจับผิดเสมอ โดนเรียกเข้าไปด่า โดนด่ากลางกลุ่มไลน์ โดนเพื่อนร่วมงานแบนไม่คุยด้วย ตอนนั้นสิ้นหวังมากๆ แล้วงานนั้นเรารักมากๆ ผมเลยแก้ปัญหาด้วยการช่างแม่งมัน อยากจะพูดอะไรก็พูด ผมไม่สนใจ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เขาว่าผมก็เงียบใส่ หลีกเลี่ยงการปะทะ จากนั้นชีวิตดีขึ้นมากครับ ไม่มีใครมาทำอะไรได้ ไม่มีคำพูดบั่นทอนจิตใจ พอเขาว่าผมก็ยิ้มสู้ ถ้าเราผิดจริงก็พร้อมแก้ไข ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็มช้เวลาถึง5เดือนเลยครับ ยอมรับว่าช่วงนั้นกดดันมากๆ โดนกดดันให้ลาออก กลับบ้านมาร้องไห้ทุกวัน การเข้ากับสังคมที่ทำงานไม่ได้เป็นอะไรที่แย่ที่สุดแล้วครับ ทำให้งานเราออกมาไม่ดีด้วย
ข้อความในไลน์ส่วนตัว กับไลน์กลุ่ม ของหัวหน้า แตกต่างกันมาก หยั่งกับคนละคน คุยส่วนตัวยังดูโอเคอยู่นะ ผมรับได้ แต่ในไลน์กลุ่มเหมือนประจานลูกน้องต่อหน้าคนอื่นๆ โชว์ศักยภาพหัวหน้าเกินไป๊ ผมก็เคยโดนแบบนี้บ่อยๆ แต่โดนตั้งแต่เด็กๆ จนอายุปูนนี้ จิตใจมันก็แกร่งขึ้นเอง แต่เข้าใจ ทุกคนไม่ได้แกร่งเหมือนกัน หลังๆผมก็ไม่ทำงานกับมนุษย์เหมือนกัน ทะเลาะกับคอมดีกว่า ทะเลาะกับคน ไม่งั้นก็ไม่ไหว ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
รู้สึกว่าหัวหน้าพยายามเตือนแล้วและวางแผนงานไว้หมดแล้ว แต่เจ้าตัวก็ฝืนเหมือนเหตุการณ์สาวโรงงานที่ไม่กล้าลาป่วยจนเสียชีวิต
อ่านแชทเพิ่มยังครับ มีปล่อยมาอีก
@@Iam.999.thailand ไม่ได้อ่านอะไร พูดแค่ข้อมูลใคตลิป
@@nothkh ลองไปอ่านก่อนพึ่งปล่อยมาเพิ่ม จะรู้ว่าหัวหน้า toxic ขนาดไหน
ไปอ่านเพิ่มเติมครับ ไม่ได้มีแค่นี้ ผมอ่านไปละเข้าใจเค้าเลย โคตร toxic
@@anuphongmaneechot2171หาอ่านได้จากที่ไหนหรอครับ
ในฐานะ หัวหน้าคน ผมคงให้โอกาสเค้าครั้งสุดท้าย คือ มีสิทธิ์วันหยุดอะไรเหลือบ้างให้ใช้ให้หมด เเล้วให้ไปรักษาตัว เอาใบรับรองเเพทย์ มา หยุดให้นานที่สุดเท่าที่จะมีสิทธิ์เหลือ เพราะมาทำงานมันก็มีปัญหา เเล้วทำเอกสาร จัดตารางใหม่ เเจ้งตรงๆเลยว่าช่วยครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ถ้ากลับมาเเล้ว ไม่ดีขึ้น ครั้งนี้คือให้ออก เตือนเวิ้นเว้อในไลน์กลุ่ม มันก็พาเครียด เวลาเตือนควรเรียกคุย2คน จะเตือนด้วยวาจา หรืออกจดหมายเตือนก็ว่าไป ถ้าไม่เตือนเลย ก็ไม่ได้ มีผลต่องาน เกิดอะไรขึ้น คนเป็นหัวหน้าโดนหนักกว่าลูกน้องเสมอ หรือถ้าเเนะนำไปสารพัดเเล้วก็บอกไปตรงๆว่าขอทำตามขั้นตอน บริษัท
ก่อนอื่นต้อง RIP.ผู้ตายก่อนนะคะ...เท่าที่ดูทั้งสองฝ่ายทั้งผิดแและถูกเหมือนกัน
ฝั่งหัวหน้า คิดว่าเป็นหน.ที่ทำหน้าที่ตามตำแหน่งที่องค์กรได้มอบหมายได้ดีในแง่ของการควบคุมบริหารลูกน้อง น้องๆในทีมมีปัญหาก็มาเคลียร์ให้ มีการแนะนำให้ย้ายหรือทำงานอื่นแทน และเสนอให้ผต.ลาออกเองแทนการถูกไล่ออก เพื่อไม่ให้มีประเด็นติดตัวไป แต่ คนคนนี้ก็ไม่ใช่หน.ประเภทเทคแคร์เอาใจใส่ ใจดีขนาดต้องไปรับฟังตัวต่อตัวว่าลูกน้องที่ป่วยทางจิต1คนกำลังสู้อะไรกับตัวเองอยู่ เพราะสิ่งสำคัญคือลูกน้องคนนี้กำลังทำให้งานเสีย และงานนี้ไม่อาจรอให้คนที่ป่วยหายดีเพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญต่อชีวิตของคนไข้ มีคนอีกมากที่พร้อมมาแทนที่ คิดว่าผต.ควรลาไปพักรักษาซะ แต่เขาไม่เข้าใจการสื่อสารกับคนที่ป่วย
..
ฝั่งผู้ตาย รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นซึมเศร้า รู้ว่าต้องรักษา รู้ว่าตำแหน่งงานนี้ผิดพลาดไม่ได้ งานโยนให้คนอื่นมาทำแทนบ่อยๆไม่ได้ เมื่อถูกบอกให้ย้ายงาน เปลี่ยนงาน ลาออก ก็ยังขอพยายามทำต่อไป ฝืนตัวเองว่าไหว แต่จริงๆมันก็ไม่ไหว สุดท้ายมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน กับหัวหน้า คำพูดที่เพื่อนและหัวหน้าพูดทุกคำกลายเป็นคำกดดันตัวเอง บั่นทอนตัวเองเอาไปโทษตัวเอง (จริงๆในใจคงจะคิดว่างานนี้ทำไหว ผมกำลังทำให้ดีขึ้น แต่น้องคนนี้คงไม่ทันคิดว่างานนี้มันห้ามพลาด เป็นงานที่ต้องเป๊ะและไม่มีโอกาสแก้ตัวบ่อยขนาดนั้น)พอคิดว่าไม่มีใครเข้าใจหรืออยากมารับฟัง คิดว่าหัวหน้าเกลียดว่าให้ลาออกๆ ถูกมองเป็นตัวปัญหาที่ไม่เป็นที่ต้องการ เครียดกดดันเลยตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
..
จริงๆคนที่เป็นซึมเศร้าหรือมีปัญหาทางจิตใจ คนรอบข้างต้องเหนื่อยมากๆในการจะดูแลผู้ป่วย ส่วนใหญ่พวกเขาจะจมอยู่ในโลกที่มีแต่คำดูถูกกดดันและความผิดหวังที่มีต่อตนเอง มันหยุดคิดไม่ได้ มุมคนนอกอย่างเราเคสของน้องคนนี้ บางคนอาจจะคิดว่าทุกคนบอกให้เลิกทำงาน ไปพักรักษาให้หาย ให้ลาออกก็สิ้นเรื่อง ทำไมถึงยังดื้ออยู่ต่อ นั่นก็เพราะเขากำลังฝืนสู้อยู่ค่ะ แต่เขาแพ้ แพ้ต่อแรงกดดัน แพ้ความคิดลบๆ แพ้เพราะเขาบีบคั้นตัวเองว่าไม่มีทางรอดแล้วโดยที่ไม่ทันได้มีโอกาสให้ใครได้เข้าไปช่วยดึงเขาออกมา
ณ จุดนี้ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเป็นซึมเศร้าและคนรอบข้างที่ดูแลอยู่นะคะ พวกคุณพยายามได้ดีมาก มันไม่ง่ายเลยจริงๆที่จะเข้าไปในโลกหม่นหมองของพวกเขาเพื่อที่สักวันพวกเขาจะได้รู้ว่าข้างๆนั้นมีเราอยู่ ไม่มีใครอยากเป็นซึมเศร้าและอยากตายทั้งนั้นถ้าโลกนี้มันน่าอยู่ เราขอให้ทุกคนที่อ่านเม้นท์นี้ได้เจอเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างน้อยวันละ 1 ข้อนะคะ
การซื้อขายแลกเปลี่ยนเวรเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ใช่ว่าจัดเวรออกมาแบบไหนต้องขึ้นแบบนั้นเป็นความสมัครใจของทั้งผู้รับและผู้ขายค่ะ อีกคนได้เวลาอีกคนได้เงิน แทบทุกที่มีการ top up ให้คนรับเวร วินวินทั้งสองฝ่าย และหน.จะไม่มาก้าวก่าย เพราะไม่ได้เสียคนทำงาน ในกรณีนี้ หน.มั่นหน้ามาก มายุ่งแม้กระทั่งการซื้อขายเวร กระแนะกระแหน คล้ายจะเป็นห่วงแต่ก็ไม่ เอะอะก็พูดให้ลาออก ตอนนี้ไม่ทราบว่า หน.ท่านนี้รู้สึกยังไง แต่น้องลาออกแล้วนะคะ ลาออกจากโลกนี้แล้ว
เป็นสิ่งที่สมควรทำแต่เลือกคำพูดที่ผิด
เรื่องจ่ายยาไม่ถามอาการแพ้ ถ้าเขากินไปแล้วแพ้หัวหน้าก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
จริงๆใน chat ถ้าตัดคำว่า"ลาออก" ออกไป ถือว่าเป็นการพูดปกติมากๆเลยนะ
แต่คำว่าลาออกเยอะจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกกดดัน
จากส่วนตัวที่พบ อันนีีั คือ ส่งให้คนอื่นรู้ ลงในไลน์หกลุ่ม เราเจอหัวหน้าดีๆ มาเยอะ เขาจะเรียกคุยส่วนตัว นี่บอกในไลน์กลุ่มให้ลาออก ลาออก คนเห็นกี่คน คนรู้จักไม่รู้จักอีก
อายเลยเจองี้ อยาดเอาหน้ามุดในรู
ถ้าสมมุติมีลูกน้องซึมเศร้าหลาย คน ทำงานไม่ได้ตามระบบ ทำให้บริษัทเกิดความปั่นป่วน อันนี้คิดไม่ออกแหะว่าจะแก้ปัญหา ยังไง? จะให้ใบลาออกก็ไม่ได้ จะให้ฝืนทำงานต่อก็ไม่ดี 😵
เห็นข่าวแต่เช้าละอยากรู้ว่า คนอื่นขายเวร คนอื่นหยุด คนอื่นสลับเวรหัวหน้ามีปัญหาแบบนี้มั้ย ถ้าเป็นแค่กับคนนี้หัวหน้าน่าจะมีอะไรในใจกับคนนี้แน่นอน แต่ถ้าเป็นกับทุกคนแสดงว่าเป็นที่สันดานหัวหน้าละเพียงแต่น้องรับมันไม่ไหวแล้ว
เป็นหัวหน้าเพราะมีความสามารถ หรือเพราะ เรียนสูง หรือเพราะเก่ง😢😢😢
อายุงานเยอะกว่าครับระบบนี้
ใม่น่าแปลกที่เด็กGenZจะใม่ทน
ถ้าไม่มีคนซื้อเวร เจ้าตัวก็ต้องมาทำอยู่ดีนิ จะยกมาเป๋นประเด็นตำหนิลูหน้องทำไมวะ ??
เพิ่งหลุดพ้นมาเลยค่ะ ตอนนี้ยิ้มได้ สดใสขึ้น
หนึ่งปีที่เหมือนตกนรก โชคดีที่ผ่านมาได้
ย้ายแผนก็ได้ 2 เดือน เราป่วยเป็นโรคเครียด ไม่มีความสุขในชีวิตเลย ตื่นมาทุกเช้าต้องลุ้นว่าจะเจออะไร
แมวพี่ดูรักพี่มากเลยจุ๊ฟพี่ตลอด😂
ดูก็ไม่เห็นมีอะไร ถ้ารับความกดดันแค่นี้ไม่ได้เป็นผมก็ไล่ออก
ทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมงานเหมือนกัน ทุกคนมาทำงานหาเงินเหมือนกัน ถ้าทำอะไรผิดก็แค่บอก เตือนกล่าว ไม่ควรใส่อารมณ์ ขึ้นเสียง ตบโต๊ะ โยนของ ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ หน้าบึ้งตึง เครียดซีเรียจ ลูกน้องก็ไม่กล้าปรึกษา ไม่กล้าขอให้สอน ไม่กล้าขอความช่วยเหลือ หน้าบึ้งตึงทั้งวัน หัวหน้าควรเก่งคน รู้จักใช้คน ไม่ต้องเก่งงานมาก ลูกน้องควรเก่งงาน หัวหน้าต้องแบกภาระของคนในการปกครองทั้งหมด หัวหน้าครอบครัวแบกครอบครัว ท่านสมภารดูแลสถานที่และทุกคนในวัด(แบกอะไร? แบกขันธ์5 ทุกคน ร่างกาย ความรู้สึก ความจำ ความคิด ความรู้) ถ้าไม่สามารถแบกได้ก็ไม่สมควรเป็นเฮด หัวหน้า อธิบดี ประธาน เจ้าของบริษัท นายก
อยู่เป็นปัจเจกชนดีกว่า เป็นลูกน้องไม่ต้องรับผิดชอบคนอื่น เป็นโสดคนเดียว มีความสุข ลัลล้าคนเดียวดีกว่าไม่ต้องแบกอะไร ใครจะป่วยจะดี จะทุกข์จะสุข จะมีปมจะปลื่มใจ จะคิดลบคิดบวก จะรู้หรือไม่รู้ เราไม่ใช่เฮด เราไม่ต้องแบกอะไร ดูแลตัวเอง รักตัวเอง และคนที่รักตัวเองจริงจะมีเมตตาไม่เบียดเบียนคนอื่น
เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก ไม่อยากให้ตัดสินจากความคิดเห็นส่วนตัว ว่าใครผิด หรือใครถูก ควรนำเรื่องนี้มาเปิดบทเรียน ทั้งสำหรับลูกน้องเเละหัวหน้างาน เเละครอบครัวของคนที่มีผู้ป่วยซึมเศร้า มันอันตรายมากจริงๆ ขอเเสดงความเสียใจกับครอบครัว ผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ 😢
สงสารพ่อแม่ จะอยู่ยังไง ถ้าใรไม่รักก็กลับไปบ้านยกชีวิตให้พ่อแม่ดูแลท่านดีๆ
อันนี้ตอนอ่าน เขาทำงานเกี่ยวกับ การแพทย์ และทุกครั้งที่หัวหน้าบอกให้ไปลาออกมันมีเหตุผลที่น่าสนใจอยู่นะครับ อ้างอิงจากรูปที่เพจ ซ้อ อัพไว้
ภาพที่ 2 เหมือนว่าจะมีคนที่ไม่อยากอยู่เวรดึก เลยพยายามขายเวรให้คนอื่นอยู่ แล้วเพื่อนๆอาจจะเห็นว่าเอาเปรียบเลยมีการทะเลาะกัน เขาก็มาเคลียปัญหาให้แล้วบอกว่า ถ้าใครทำนิสัยแบบนี้อีก ใบลาออกอยู่ฝ่ายบุคคลนะครับ ซึ่งตรงนี้เราไม่เห็นบทสนทาทั้งหมด เราไม่รู้เลยว่าเขากำลังด่าคนที่ขายเวร หรือ คนที่ชวนทะเลาะ
ภาพที่ 3 คือ มีคนไม่ตรวจสอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่อง ATB (ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าเครื่องอะไร แต่เท่าที่ Google ลวกๆก็ได้ชื่อมาว่า Antibiotic Susceptibility Testing Machine ไม่ทราบว่าถูกรึเปล่า) อิงจากข้อมูลที่หามาได้เป็นเครื่องที่ใช้ตรวจว่าแบคทีเรียมีความไวต่อยาปฏิชีวนะแต่ละชนิดมากแค่ไหน เพื่อช่วยให้แพทย์เลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ถ้าอิงจากบทสนทนา มันอาจจะเป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องตรวจสอบอยู่ตลอดเพื่อที่เมื่อมันทำงานผิดพลาดจะได้มีการแก้ปัญหาในทันที ทางหัวหน้าก็ได้แนะนำว่า ถ้าคุณมีหน้าที่แต่ทำไม่ได้ คุณก็ควรลาออกเพราะว่าพวกเขาทำงานร่วมกันไม่ได้
ภาพที่ 4 อันนี้คือการถามหาและบอกกล่าวว่า การจ่ายยาทุกครั้งต้องบันทึกการถามเรื่องแพ้ยา ตรงนี้เป็นส่วนที่อาจจะเกี่ยวกับหลักฐานที่ว่า แพทย์ได้ถามเรื่องการแพ้ยาแล้ว และถ้าทางคนไข้จะฟ้อง รพ ก็จะมีหลักฐานไว้ป้องกันตัวเอง และมันก็เป็นระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้วด้วย เขาจึงบอกว่า ถ้าทำตามระเบียบที่ รพ ตั้งไว้ไม่ได้ ก็ควรจะไปลาออกซะ แล้วไป สมัครงานที่ใหม่
ซึ่งถ้าอิงจาก สิ่งที่ได้จากบทสนนาก็คือ มันคือเรื่องของ หมอ แล้วถ้าหมอเป็นซึมเศร้าแล้วจะจ่ายยาเราโดยไม่ถามเรื่องแพ้ยาได้ งั้นก็ไม่ไปโรงพยาบาลแบบเมื่อก่อนอะดีแล้ว ถ้าหมอซึมเศร้า แล้วไม่ตรวจสอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะเอามาใช้รักษาเราได้ เหมือนเดิม งั้นก็ไม่ไปโรงพยาบาลแบบเมื่อก่อนอะดีแล้ว แล้วหัวหน้าก็มีแนะนำให้ไปพักผ่อนจิตใจแล้วด้วยอีกต่างห่าง ก่อนที่จะเกิดการบอกเลยลาออกในครั้งที่ 2 3 และ 4
อันนี้อิงจากข้อมูลใน Video นะครับ
อาจช่วยใครได้บ้าง 1. อย่าเอางานเข้าบ้าน ให้ถือว่าบ้านคือเซฟโซน เข้าบ้าน เท่ากับหยุดคิดเรื่องงาน ต้องฝึก 2. เลี้ยงแมว เครียดกับแมวดีกว่า อย่าคิดจะเปลี่ยนความคิดใคร เปลี่ยนที่ตัวเรา สู้ๆ สำหรับคนที่มีที่ทำงานแย่ๆ
ไม่อยากว่างี้เลยแต่บอบางเกิน หน อาจใช้คำพูดแรงจริง(แต่ในความคิดเราก็ไม่แรงนะ) ก็อยุ่ในกรอบขอบเขตความรับผิดชอบ พยายามหาทางออก แต่แล้วไงพอเป็นซึมเศร้า พอทำไรงี้แล้วต้องให้แสงเหรอ ต้องเห็นใจงี้ ต้องการๆดูแลพิเศษงี้เหรอ หน งานเฮงซวยกว่านี้มีอีกเยอะ เคารพการตัดสินใจนะ แต่คิดว่า หน ก็ไม่ได้ผิดขนาดนั้น
เรื่องนี้ ไม่อาจตัดสินได้หรอกเพราะทุกฝ่ายคงพยายามพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตนเองแหละ
สู้กับสารเคมีในสมองตัวเองไม่ใช่เรื่องงายล่ะครับ การกดดันแบบนี้ในคนธรรมดาคงจะแค่ซึมแล้วลาออก
ในผู้ป่วยซึมเศร้าเหมือนเราปฏิเสธการมีอยู่ของเราซ้ำๆน่ะครับเลยจบแบบนี้
คือไล่ออกแล้วจ่ายค่าชดเชยให้จบๆ ไม่ต้องมากดดันให้ลาออกเองซ้ำๆดีกว่ามาก-
แปลกใจ หลายๆที่ ชอบไล่ลูกน้องออก หัวหน้าใช้ลูกน้องเปลือง ไม่ไล่ออก
ภาระคนอื่นจริงๆ สงสารคนเป็นคนหน้าเลย
ยุคนี้ คือยุคที่คนรุ่นใหม่ๆ จิตใจอ่อนเเอมากครับ เเต่ คนเเก่ๆจะไม่เข้าใจ เอาระบบเก่าๆมาใช้ ไม่ดูว่าเหมาะกับคนๆนั้นไหม บางคนเขาจิตใจอ่อนเเอ ก็ไปด่าไปว่าเขา เพราะคิดว่าตัวเองเคยโดนมาก่อน เลยคิดว่าถ้าทำเเบบนี้กับคคนอื่นคงไม่เป็นไร เเถมความเอาเปรียบในงานที่คนเก่าๆเขาโดนมา พอคนรุ่นใหม่ๆเขาโดน เขาก็รับไม่ไหว จะเเก้ไขก็ไม่ได้ จะไล่ออกอย่างเดียว เพราะมันโครต จะ bad companyเลยหลายๆที่ ก็เข้าใจที่มุมมองหัวหน้ากับลูกน้องไม่เหมือนกัน เเค่คุณก็ควรคิดสักนิด ว่าลูกน้องที่คุณด่าว่า บางคนเขาตั้งใจเเล้ว เเต่บรรทัดฐานของคุณเเม่งไม่พอไง ลูกน้องทำได้ที่ต้องการเเล้ว วันต่อมา ก็อยากให้เเต่ทำดีขึ้นเรื่อยๆ เเต่เงินดันไม่กล้าให้เพิ่ม บอกเลยนะ หัวหน้างานหลายๆที่ 90% จงใจไม่ให้ot เพราะเขารู้ว่า ถึงจะเเจ้งกรรมเเรงงานไป ก็ไม่ช่วยอะไรเลย นอกจากไปเตือนนิดหน่อย เเละก็ยังเอาเปรียบวนเวียนต่อไปไม่จบ
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวด้วยนะครับ
ถ้าเป็นผมรู้ว่าตัวเองอ่อนไหวง่ายแบบนี้ หรือ มีอาการ mental ผมจะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงทำงานเด็ดขาด ผมเข้าใจว่าอยากพิสูจตัวเอง แต่ก็ต้องดูลิมิตตัวเองด้วย กลายเป็นว่า เศร้าเอง จบชีวิตตัวเอง คนผิดคือหัวหน้าว่างั้น? ในมุมมองผมนะ (คหสต) ผมว่าหัวหน้าเค้าไม่ได้ toxic เลย ไม่เห็นมีคำด่า คำหยาบคายสักคำ เท่าที่ดูๆ ตอนแรกหัวหน้าเค้าก็พยายามเตือนแล้วนะ ว่าถ้าไม่ไหวก็ให้ถอย (ไม่ได้เค้าข้างหัวหน้านะครับ) แต่คุณทำตัวเอง ถ้าคุณไม่โอเคคุณก็ถอย ก็แค่นั้น เข้าใจว่าความอดทนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมก็คนนึง ทำงานเจอหัวหน้าแย่กว่านี้เยอะ ต้องมารับใช้ชาติอีก สองปี เจออะไรแย่กว่านี้เยอะ เคยคิดจะไปทางที่ผิดหลายครั้ง แต่ก็ยังกลับมาได้ เพราะเชื่อในตัวเอง ก็นะ แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ผมจะว่าคุณก็ไม่ได้
(หากพิมไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วยนะครับ)
ขอให้ไปสู่สุขตินะครับ 🙏 ปล.ขอโทษทั่พิมเยอะไปหน่อย
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ
ส่วนตัวคิดว่าถ้าหัวหน้าต้องการตักเตือนควรจะคุยต่อหน้าแค่สองคน ไม่ควรพิมพ์แชทเพราะเราจะไม่รู้อารมณ์ของคนพิมพ์เลย
และคนแต่ละคนก็รับแรงกดดันได้ไม่เท่ากัน สำหรับเราแค่ได้ฟังข้อความที่หัวหน้าตอบจากในคริปนี้เรายังรู้สึกกดดันแทนเลย
ถ้ารับสภาพงานไม่ไหวก็ไม่ควรมาพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเดือดร้อน เท่าที่ดูแชทก็ไม่เห็นว่าหัวหน้าก็ไม่ได้ toxic อะไร ตัวเองเห็นแก่ตัวเอง อยากได้เงินแต่ไม่พร้อมจะทำหน้าที่ ให้ลาออกก็ไม่เอา ยังอยากได้เงินอยู่ทั้งๆที่ตัวเองไม่ไหว แล้วก็ไปใช้วิธีขายเวรเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่น ไม่ทำตามกฎระเบียบ และยิ่งทำงานเกี่ยวกับหยูกยา มีชีวิตคนอื่นมาเกี่ยวข้อง ความเข้มงวดของหัวหน้างานเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าเจอเคสอย่างนี้บ่อยๆ อีกหน่อยคงต้องมีกฎไม่รับคนเป็นโรคซึมเศร้าสำหรับงานบางประเภท พวกงานที่ต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์เยอะๆความเครียดสูง ไม่งั้นเดี๋ยวก็มีรายอื่นมาพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ไหวให้คนอื่นโดนด่าอีก
แทนที่จะไปจัดการหัวหน้า มันก็ไม่ต่างจากพวกคลั่งที่เที่ยวไล่ยิ่งชาวบ้านเพราะสาเหตมาจากการกดขี่ของพวกที่มีตำแหน่งสูงกว่า แทนที่มันจะไปยิงตัวต้นเหตุ แต่เสือกไปทำร้ายคนอืนแทน กรณีนี้ก็เหมือนกัน ตัวต้นเหตยังลอยนวล
หากคุณเคยปกครองคน
จะรู้ว่าการบริหารคนน่ะยากที่สุดแล้ว
คุยยาก เรื่องเยอะ ทำคนอื่นในทีมลำบาก
อย่าโทษแต่หัวหน้า
ใครจะไม่อยากได้ลูกน้องที่รู้งาน
ตัวเองไม่พร้อม ไม่ปกติ ควรหางาน หาแผนกที่เหมาะดับนิสัยคุณดีกว่า
ทำงานไม่ตรงสายก็ได้ ขอให้ทำแบบมีความสุขก็พอ
เราเคยลาออกเพราะเพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นพี่เพราะแค่อายุมากกว่า ประสาทแดกใส่ทุกวัน เราถือคติถ้ามันคิดว่าตัวเองอยู่แล้วได้ดีคนเดียวก็ให้มันอยู่ไปเลยค่า
อยากรู้ว่าคนที่เค้าปสดใส่คนอื่นทุกวันนี่เค้ารู้มั้ยว่าตัวเองปสด😢
เพราะกดดันอย่างหนัก ต้องจบชีวิตจริง...
สำหรับผม ผมเจอหัวหน้าเห้กว่านี้เยอะ อันนี้ผมว่าโครตธรรมดาเลย ความผิดพลาดของเรื่องนี้คือ ทุกคนน่าจะรู้ว่าน้องซึมเศร้า ควรพาน้องไปรักษา เพราะถ้าเป็นคนปกติเรื่องจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน
*แก้ไขเพิ่มเติม อย่างแรกเลยอยากบอกว่าผมไม่ได้ตัดสินใครครับ ผมเข้าใจและเคยเป็นซึมเศร้าและรู้จักคนที่เป็นซึมเศร้าด้วย ที่ผมอยากบอกก็แค่ว่าเรื่องแบบนี้คนธรรมดาอาจจะไม่อะไรมาก แต่กับคนที่เป็นซึมเศร้ามันจะยากกว่ามากครับ ดังนั้นคนรอบข้างต้องเข้าใจและพยายามพาคนที่ป่วยไปรักษา เพราะการให้กำลังใจเพียงอย่างเดียวบางครั้งมันไม่พอครับ แบะแน่นอนว่าผมไม่ได้เห็นด้วยกับการที่หัวหน้าจะtoxicแบบนี้ แต่เราหลีกเลี่ยงยากครับ ดังนั้นเมื่อมีคนใกล้ตัวเจอเหตุการณ์แบบนี้ คนรอบข้างต้องตระหนักว่าโรคซึมเศร้ามันน่ากลัวกว่าที่คิด คำพูดบางคำที่คิดว่าหวังดียังสามารบั่นทอนจิตใจคนที่ป่วยได้ นั่นคือทั้งหมดที่ผมจะสื่อ และผมไม่ได้เก่งกว่าใคร ผมอาจจะสื่อสารผิดไปหน่อย ก็ไม่เป็นไรผมยอมรับได้
ก็หัวหน้าของเขาบอกอยู่ไม่ใช่หรอครับว่าให้ออกไปพักก่อน
@@AXIIC ออกไปพักก่อนหมายถึงให้ลาออก จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยจากนายจ้างครับ
ผมก็คิดแบบนั้น เพื่อนร่วมงานผมก็โดนแบบนี้ต้องออกจากงานเอง ทำงานออกมาไม่ดี ไม่มีสมาธิในการทำงาน และจำไม่ได้ว่าคุยงานอะไร ต้องให้ผมช่วยตลอด สุดท้ายผมไม่อยากช่วย ผมรับงานมากไปเกือบทำไม่ทัน ในความคิดผม คนนั้นก็มีโรคซึมเศร้า ออทิสติก น่าจะทำงานกับคนที่บ้าน มากกว่าทำงานข้างนอก ถ้ายังจำเป็นต้องมีคนช้วยซัพพอร์ตตลอดเวลา
😢😢😢😢
เขาก้รักษาแล้วครับ ซึมเศร้ามันไม่ได้หนักถึงขั้นต้อง รักษาแบบ เอาเข้าไปขังในรพ. มัดมืดมันแขน แบบโรคจิตเวชชนิดอื่น
คนที่บอกว่าอาชีพนี้ง่ายอยากจะบอกว่า...
ง่าย....ง่ายหรอ!!!คุณ! ไม่... ทำไหมคุณคิดเเบบนั้น!😂 มันไม่ง่ายเลยน่ะ ทุกๆอาชีพมันเหนื่อยไม่ต่างกัน เเละมีความกดดันที่เเตกต่างเเต่ก็ เหนื่อยเหมือนกันหมด😢 เรื่องที่ เกี่ยวกับชีวิตคนไม่มีอะไรง่ายเลย
เรื่องเบื่องลึก ยังไงไม่รู้นะครับ แต่จากที่ฟังมา ผมว่าหัวหน้าเขาก็ไม่ได้ toxic นะ ถ้าผมเข้าใจถูกต้อง การขายเวรก็น่าจะเหมือนกับไม่เข้างานหรือโอทีตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกไหมครับ ถ้างั้นก็ไม่ต่างอะไรกับโยนงานให้คนอื่น และอยากจะเข้ามาทำโอวันหยุดแทนเพื่อที่ตัวเองจะได้โอเยอะกว่า เพราะอย่าลืมว่าคนอื่นก็อาจจะไม่ได้อยากจะอยู่ในช่วงงานนั้นเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ และการที่ต้องจัดงานเปลี่ยน plan บ่อยๆ มันก็อาจจะเกิดปัญหาในการทำงานกับแบบทีมได้ และการจ่ายยามันสำคัญนะ ถามว่าแพ้ยาไหมก็สำคัญ ไม่ทำตามกฎ ไม่ทำตามระบบที่ตั้งขึ้นมาซึ่งมันเป็นพื้นฐานของการทำงานในองกรณ์อยู่แล้ว ถ้าไม่ทำก็อยู่ที่ไหนไม่ได้หรอก ออกมาเปิดกิจการของตัวเองดีกว่าครับ จากใจคนที่เป็นหัวหน้างานและมีลูกน้องที่คล้ายๆแบบนี้เลย
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
ที่ทำงานผมคน toxic มีทุกระดับ ตั้งแต่ลูกน้อง เพื่อร่วมงาน ยันเจ้านาย เราเปลี่ยนลมเปลี่ยนฟ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนต้นเอง เข้าร่วมไม่ได้ก็เอาตัวเองออกมา เราอยู่แล้วไม่มีความสุขก็ต้องเอาตัวเองออกมา จะฝืนเอาชนะคน toxic ไปเพื่อ? จะตายประชดไปเพื่อ? ถ้าสมองคนพวกนี้มันคิดรู้สำนึกได้มันคงไม่ทำตัว toxic ตั้งแต่แรกแล้ว ความจริงคือคนที่มีอคติกับเราทำหาอะไรมันก็จะมีอคติกับเราอยู่ดี สุดท้ายเลือกทางนี้แล้วก็ R.I.P. เข้าใจความรู้สึกคับ
ความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ตรง ในโรงเรียนเอกชนดังแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง การบริหารงานเป็นระบบครอบครัว อุปถัมภ์ มีหัวหน้างานที่มาจากคนของใคร บางคนปากจัดด่าหยาบ แต่ผู้บริหารระดับสูงไม่เคยคิดแก้ไข ซ้ำยังเคยได้ยินมาว่า คนที่ด่าเก่ง จะสามารถคุมคนได้ดีกว่าคนไม่ด่า รับไม่ได้จริงๆ แปลกมากที่บางองค์กร ชี้ไม้เป็นนกก็ต้องเป็นนก สรุปพอนานวันก็เข้าใจว่า เงิน ซื้อตำแหน่งได้ การเติบโตในสายงานไม่ได้มาจากความสามารถในการทำงาน แต่มาจากนามสกุลและเงิน เครือข่ายหรือสถานะทางสังคม คิดว่าในหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะในภาครัฐหรือเอกชน ก็เป็นระบบนี้ ทำให้คนเก่งๆ แต่ไม่มีปัจจัยในการอยู่รอดที่สังคมในนั้นต้องการ นกไม่มีขนคนไม่มีเพื่อนโตยาก และถ้ามีความสามารถ จะยอมถูกกดขี่ได้นานขนาดไหน สำหรับบางคนที่กำลังเจอกับสถานการณ์แย่ๆ แบบนี้ อย่าเอาชนะเลย เพราะแม้เราจะไม่มีความผิด เขาก็จะหาเหตุให้เราต้องกดดันจนออกอยู่ดี ปล่อยให้เป็นกฎแห่งกรรมดีกว่า มีอาชีพอีกมากมายให้เราเลือกทำ
น้องแมวคลั่งรักมากกก
คนที่มีความคิดอยากตาย = ซึมเศร้า ไปพบแพทย์ด่วน อย่ามัวแต่อาย
พูดง่ายเเต่ทำยากครับ
@@El_mocson อย่าพูดงั้นครับ ได้โปรด พูดจาสนับสนุนให้คนไปตรวจไปพบเเพทย์เถอะ จะยากง่ายไม่เกี่ยว ช่างมันไป ชีวิตต้องมาก่อนครับ
@@El_mocsonจริงครับผมไปรอคิวยาว2เดือนแบบถูก อีกแบบเร็วแต่เสียเงินมาก เงินเดือนอย่างผมไม่สิทธิเลย😢
@@ptoo6493โดนหักไปเกือบ1,500นี่จากใจคนที่เคยป่วยโรคซึมเศร้าค่ะ
@@longinus1804 ผมเคย มีเป็นซึมเศร้าเเละมีคนรู้จักที่เคยเป็นด้วย
ควรจะค่อยๆรักษา ครับ
ใช่ครับควรรับพบเเพทย์ เเต่ว่า เเต่ละคนมีทรัพยากรไม่เท่ากัน เวลาว่างก็น้อยด้วย
เเถม ความเศร้าเเต่ละคนไม่เท่ากันอีก
ควรค่อยๆรักษาผู้ป่วย เเละ คือคนที่เป็นเขาอาจไม่ได้อาย เเต่กดดันมากกว่าเพราะตอนเราเป็นเเล้วอยากลองไปหาหมอ ก็โดนคนรอบข้างล้อเลียนอีก หรือคนที่เป็นห่วงเรามากไป ก็อยากให้เรารีบไปพบจิทเเพทย์ จนเราเกินความเกรงใจเเละ กดดัน ควรค่อยๆ กล่อมให้ผู้ป่วยไปพบเเพทย์ครับ ไม่ควรบอกให้รีบๆให้เขาไปรักษา
เริ่มไม่ต่างจากญี่ปุ่นล่ะครับ