เผชิญหน้า 19/2/58 : ใครฉีกพระลิขิตของสังฆราช กรณีธรรมกาย

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 26 ธ.ค. 2024

ความคิดเห็น • 88

  • @vailvailor7
    @vailvailor7 9 ปีที่แล้ว

    ชัดเจนดี

  • @phon_777
    @phon_777 9 ปีที่แล้ว +1

    วิธีแก้ปัญหาพระพุทธศาสนาอย่างรอบด้าน...ตามแนวพระพุทธเจ้าและพระธรรมวินัย
    ๑.ยกเลิกสมณศักดิ์
    ๒.ใช้อาวุโสโดยพรรษาเพื่อลดความเป็นตัวตน
    ๓.ไม่ต้องมีพระสังฆราช พระพุทธศาสนาในประเทศไทย จำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องมีพระสังฆราช ไม่ควรยึดถือที่ตัวบุคคล พระสงฆ์มีศักดิ์เท่าเทียมกัน มีธรรมเป็นกายแล้ว มีพระธรรมวินัยเป็นศาสดา...เพราะพระพุทธองค์ยังไม่ได้จากเราไปไหนเลย
    ๔.พระสงฆ์ทำหน้าที่ให้เกิดผลจริง สั่งสอนไตรลักษณ์ อริยสัจ ๔ ( ปล่อยวางซึ่งสุขในโลกธรรม ๘ ) พุทธพาณิชย์ต้องหมดไป ไม่เอาพระพุทธเจ้าเพื่อการค้า เอาพระธรรมเป็นข้ออ้าง และอย่าคงไว้แค่ผลประโยชน์แก่สงฆ์เพียงอย่างเดียว ผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือผิดพระธรรมวินัย ไม่พุทธแท้ พราหมณ์ ผี ให้มีองค์กรอิสระตรวจสอบพระธรรมวินัยโดยพุทธบริษัทเป็นผู้รักษาพระพุทธศาสนา
    ๕.ผู้หญิงสามารถบวชเป็นพระภิกษุณีได้ คงไว้พุทธบริษัททั้ง ๔
    ๖.หาวิธีให้พระพุทธศาสนา สอนให้เข้าใจง่ายๆ มีพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม แต่ให้เป็นไปตามแนวธรรมอันใหญ่เป็นธรรมนูญ( พระยาธรรมิกราช ) จัดระเบียบองค์กร ให้ได้ประสิทธิผล
    ๗.ศาสนาอย่าสอน ให้พุทธบริษัทเกิดความกลัว ต้องใช้ความเข้าใจ นรก สวรรค์ นิพพานเป็นต้น
    ๘.สังคยนาใหม่ ให้ศาสนาไม่ควรเป็นเครื่องมือของอำนาจทางการเมือง ราชอาณาจักร แยก ศาสนจักรอย่างชัดเจน
    ๙.ศาสนาควรเข้าไปในวิถีชีวิต ศาสนาไม่ควรขัดแย้งกับทางโลก หรือการเมือง เป็นศาสนาที่เป็นคำตอบ มากกว่าตั้งเงื่อนไขใดๆ มีธรรมเป็นกาย ส่วนธรรมกายเท็จนั้นเราไม่ต้องการ...
    " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "
    พระธรรมนั่นแหละคือกายอันสูงสุด จึงเปรียบเหมือนกับพระพรหม หรือศาสดาในศาสนาอื่นเป็นสิ่งสูงสุดที่จะเคารพบูชา พระพุทธเจ้าจึงไม่รู้จักตาย อยู่เหนืออำนาจเหตุปัจจัย คือเป็นอนันตกาล แล้วคิดดูว่าใครจะไปฆ่าพระองค์ให้ตายได้ การที่พูดว่าพระพุทธเจ้า ปรินิพพานไปแล้ว นั้นเป็นภาษาคนทั่วไป แต่ภาษาธรรม ก็คงต้องพูดว่า กิเลสต่างหากที่ดับตายไป มีแต่ธรรมชาติล้วนๆเป็นไปตามเหตุปัจจัย ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นจะสลัดเปลือกที่ห่อหุ้มดวงจิต คือกิเลส มีอวิชชา ซึ่งมี กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ เป็นต้น ออกไปได้เท่าไหร่ ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นครอบงำจิตใจได้เท่าไหร่ ธรรมกายก็จะปรากฎเท่านั้น เป็นนิโรธธาตุ สิ่งนี้ที่เรียกว่า "ต้นธาตุต้นธรรม" จากการที่ได้วางสุขในโลกธรรม ๘ โดยลลัดคืนลมหายใจหรือจิตนี้ ให้เจ้าของเดิมคือธรรมชาติ และเมื่อธรรมชาติครอบโลกธาตุหมด จนเข้าถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อันเป็นสิ่งสูงสุด คือ ความเป็นพุทธะ พระพุทธเจ้า พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ในวักกลิสูตรว่า "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต" ตถาคตคือธรรมกาย เสมอกัน หรือแม้แต่พระอรหันต์ ขีณาสพทั้งหลาย...
    โดยนัย...ที่พระองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า
    อานนท์! ความคิดอาจมีแก่พวกเธอ
    อย่างนี้ว่า "ธรรมวินัยของพวกเรา
    มีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว
    พวกเราไม่มีพระศาสดา" ดังนี้.
    อานนท์! พวกเธออย่างคิดอย่างนั้น
    อานนท์! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี
    ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว
    แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น
    จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย
    โดยกาลล่วงไปแห่งเรา
    อานนท์! ในกาลบัดนี้ ก็ดี
    ใครก็ตามจักต้องมีตน เป็นประทีป
    มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ
    มีธรรมเป็นประทีป
    มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ
    เป็นอยู่
    อานนท์! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา
    ภิกษุพวกนั้นจักเป็นผู้อยู่ใน
    สถานะอันเลิศที่สุด แล...ดังนี้
    th-cam.com/video/60IGDIPDWOE/w-d-xo.html

  • @ชลบุรี-ล5ผ
    @ชลบุรี-ล5ผ 9 ปีที่แล้ว +2

    คุณไพศาลพูดถูกต้อง มีเหตุผล ตามเป็นจริง ตามพระธรรมวินัย ตามกฎหมมาย ดั่งที่พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชพิจารณา ตัดสินไว้ ขณะนี้ชาวพุทธเริ่มมองไปที่มหาเถร และสำนักพระพุทธซาสนาแห่งชาติ ด้วยความไม่เชื่อถือ และไม่เลื่อมใสคณะสงฆ์ที่ออกมาอุ้มธรรมกาย ธมมชโย ที่ต้องอาบัติปาราชิกขาดความเป็นพระตั้งนานแล้ว ชาวพุทธถามว่า ทำไมสังคมพระสงฆ์จึงเป็นอย่างนี้ไปไเด้ พระสงฆ์เดี๋ยวนี้ไม่เคารพพระธรรมวินัยแล้วหรือ เอาแต่จะหากิน หาเงินเก็บสะสมเงินทองต้องการเป็นเศรษฐีหัวโล้นกันไปหมด ท่านบวชมาหาอะไร.ดูๆไม่ต่างกับฆราวาสแล้ว

  • @masakojune9112
    @masakojune9112 8 ปีที่แล้ว

    สาธุความจริง ปรากฎขึ้นสักที

  • @kirabbmddc3246
    @kirabbmddc3246 8 ปีที่แล้ว

    ถูกคับ

  • @natthakritonsawai9207
    @natthakritonsawai9207 8 ปีที่แล้ว

    ขอแนะนำรายการหน่อยนะครับ พิธีกรควรให้แขกรับเชิญพูดให้จบประโยคกระบวนความก่อน แล้วค่อยถามประเด็นต่อไป ไม่ควรพูดแทรกระหว่างที่แขกรับเชิญพูด เพราะคนฟังจะฟังไม่รู้เรื่องครับ ขอบคุณครับ

  • @wattanachaisiripunt
    @wattanachaisiripunt 9 ปีที่แล้ว +4

    ใครจะล้างอิทธิพลธรรมกายได้

  • @adumtana1516
    @adumtana1516 9 ปีที่แล้ว

    บาป บุญ มีจริง.

  • @พ่อมึงตายไอ้สัตว์

    พุทธศาสนา มีบริษัทสี่ เป็นผู้ร่วมหุ้น 1.ภิกษุ 2.ภิกษุณี 3.อุบาสก 4.อุบาสิกา ดังนั้นทั้งสี่เปรียบเหมือนคณะกรรมการ ต้องช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันปกป้อง ่อย่ามาอ้างว่าไม่ใช่หน้าที่ อย่ามาพูดว่าเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ และอาบัติปาราชิก ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาโจทร์ ไม่ต้องให้ใครมาชีว่าอาบัติปาราชิกหรือยัง เมื่อล่วงละเมิด ก็ปาราชิกในทันที และลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราชชี้ชัดว่าธัมมชโยต้องอทินนาทานปาราชิก แล้วกรรมการมหาเถรสมาคมกลับไม่ทำตามมติสมเด็จพระสังฆราช โดยที่อ้างว่าเขาคืนเงินให้แล้ว เป็นอันหมดมลทิน นั่นเป็นเรื่องตะแบงพระวินัยอย่างชัดเจน

  • @Gongarn
    @Gongarn 9 ปีที่แล้ว +8

    จริงๆเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยเนอะ ดิฉันได้อ่าน พระนิพนธ์ของท่าน ว.วชิรเมธี กรณีธรรมกาย อ่านจนตาแฉะดิฉันเข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้เลย ตอนแรกไม่ทราบเลยแต่เห็นกิจวัตร การธุดงค์ที่เชียงใหม่ครั้งแรก ก็รู้สึกแปลกๆเลยเริ่มสอบหาข้อมูลมีโอกาสคุยกับผู้ศรัทธาชาวเชียงใหม่อุตสาห์ดั้นด้นด้วยความศรัทธาจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ และที่สุดก็หยุดเพราะเรื่องเกี่ยวกับการทำบุญนี่แหละ กว่าจะรู้ตัวก็หมดไปหลายรู้ด้วยตัวเค้าเองด้วยนะค่ะ บังเอิญไปซื้อของร้านเค้าบ่อยๆได้คุยกันที่สุดก็ได้ทราบเรื่องนี้ ก็เลยตามและดิฉันเชื่อถือท่าน ว.วชิระเมธี ด้วยวัตรปฏิบัติของท่านแต่ดิฉันไม่เคยเจอท่านเลยนะค่ะ ดิฉันไปเจอพระนิพนธ์ท่าน ว.วชิระเมธี โดยบังเอิญจริงๆและยาวมากเนื่องจากพยายามสืบค้นจากกูเกิ้ลนี่แหละค่ะก็เลยถือเป็นโชคดีมหาศาล ที่ได้มาเจอ วิทยานิพนธ์ของท่าน อุตสาห์อ่านแล้วอ่านอีกด้วยความตั้งใจและก็เริ่มประติดประต่อเรื่องต่างๆอย่างใคร่ครวญตั้งใจ เพราะพระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ถ้าเราทำนิ่งเฉยก็เหมือนเราละเลยหน้าที่ในฐานะพุทธศาสนิกชน จุดเดียว ธัมมะชัยโย เบี่ยง อนัตตา เป็น อัตตา โดยวิธีที่แยบยลแบบ ระบบการตลาดเชิงซ้อน เก่งนะหลอกคนบ้าบุญ ไม่เข้าใจคิดง่าย พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าเดินจากทุกอย่างในชีวิตพระองค์เพี่อศึกษาหาความรู้จนสำเร็จ และนำมาสอนพวกเรา แต่นี่พวกนี้พากันเดินเข้าไปหาวัตถุหาบุญร้องหาสวรรค์ พระองค์ต้องการให้พ้นจากการเกิด แต่นี่มาดิ้นรนให้เกิด เกิดในสวรรค์งี้ บ้ามั้ย มีความรุ้ซะป่าวจบมามีการศึกษาดีแต่ขาดปัญญา ทำลายลูกหลานไทยชัดๆ

    • @Gongarn
      @Gongarn 9 ปีที่แล้ว

      ดีใจค่ะ เริ่มต้นที่ตัวเราทุกคนถ้าเราไม่มีมิจฉาทิฐิเราก็จะมีสติพอจะตรวจสอบทุกสิ่งก่อนที่เราจะปลงใจเชื่อ

    • @ประสบสันติ์ศรีสุวรรณ-ฉ4ค
      @ประสบสันติ์ศรีสุวรรณ-ฉ4ค 8 ปีที่แล้ว

      เชื่อคับ

    • @kanediantai5116
      @kanediantai5116 8 ปีที่แล้ว

      อ่านแล้วงงครับ เนื่องจากการเว้นวรรคไม่ค่อยถูกต้อง และไม่ระบุชื่อผู้ต้องการกล่าวถึง อาจจะเกรงอะไรสักอย่างมั้ง

    • @kanediantai5116
      @kanediantai5116 8 ปีที่แล้ว

      ตอนเราอ่าน อาจจะเบลอๆมั้ง อิอิ

  • @Inspiration2543
    @Inspiration2543 9 ปีที่แล้ว +1

    ถาม : พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชที่กล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าปาราชิก เป็นของจริงหรือไม่ครับ?
    >ตอบ: เรื่องนี้มีข้อโต้แย้งกันว่าเป็นพระลิขิตจริงหรือไม่ ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธ แต่ทางวัดพระธรรมกายซึ่งน่าจะชี้แจง กลับนิ่งเงียบมาตลอด 10 กว่าปี จากการสืบเสาะหาหลักฐานของทีมงานเพจ ปรากฎดังนี้
    1. มีการปลอมพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเกิดขึ้นจริง ดังปรากฎหลักฐานตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 23/2547 ซึ่งได้สรุปเรื่องที่เป็นเหตุให้ต้องมีการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ว่าเป็นเพราะมีการปลอมพระลิขิตหลายกรรมหลายวาระ อาทิ
    -ปลอมพระลิขิตปลดนายบัณฑูร ล่ำซำ ผู้จัดการและประธานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จากตำแหน่ง และเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช จึงมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้สืบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนในที่สุดวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 กองพิสูจน์หลักฐานได้ออกรายงานที่ 1001/2545 ลงความเห็นว่า ลายเซ็นของสมเด็จพระสังฆราช ในเอกสารทั้ง 6 รายการ เป็นลายเซ็นปลอม มีการดำเนินคดีกับ นายเรวัตร อุปพงศ์ นายสิทธิโชค ศรีสุคนธ์ และพระราชรัตนมงคล ผู้รับใช้ใกล้ชิดในวัดบวรนิเวศ ในข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม”
    - ในเดือนธันวาคม 2546 ได้มีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชเสนอแต่งตั้งพระราชรัตนมงคล เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม แต่สุดท้ายพระเทพสารเวที เลขานุการของสมเด็จพระสังฆราช ได้ขอพระลิขิตดังกล่าวกลับคืนไป ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และเสื่อมเสียพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช และทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง
    2. พระลิขิตในการกล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายดังกล่าว มีข้อผิดสังเกตหลายประการ อาทิ
    - ตัวเลขวันที่ ปีพ.ศ.ใช้ตัวเลขอารบิค ซึ่งในการคณะสงฆ์จะทราบดีว่า เป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะเอกสารสำคัญของการคณะสงฆ์จะใช้เฉพาะเลขไทยเท่านั้น แม้นักเรียนบาลีก็ต้องใช้เลขไทยทั้งหมด
    - วรรคตอนข้อความขาดเป็นช่วงๆ ผิดหลักภาษาไทย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เอกสารสำคัญของสมเด็จพระสังฆราชจะใช้สำนวนการพิมพ์เช่นนี้
    - ลายเซ็นสมเด็จพระสังฆราชตัวหนังสือสะดุดเป็นระยะเป็นรูปเหลี่ยม ต่างจากลายเซ็นตามปกติ
    3. กรรมการมหาเถรสมาคมทุกรูปทราบดีถึงพระพลานามัยของสมเด็จพระสังฆราช หลายกรณีจึงเหมือนน้ำท่วมปาก รู้ความจริงแต่พูดไม่ออก เพราะเกรงกระทบพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช ทำให้ต้องนิ่งเงียบ
    4. การที่อัยการถอนฟ้องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยขอให้โอนเงินและที่ให้วัดก่อนนั้น เพราะทุกฝ่ายมุ่งหาทางรักษาพระเกียรติยศสมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้ดูว่าได้ทำตามพระลิขิตที่มีเผยแพร่อยู่แล้ว
    5. ที่ว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอนเงินให้วัดร่วมพันล้านบาทนั้น จริงๆ ศิษยานุศิษย์เป็นผู้โอนเงินของตนให้วัด ทุกคนทำเพื่อรักษาพระเกียรติยศเพื่อให้เรื่องจบ และปัจจัยก็ได้ใช้ในการสร้างวัดต่อไป
    6. มหาเถรสมาคมได้พิจารณากลั่นกรองนำเสนอเลื่อนสมณศักดิ์พเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพญาณมหามุนี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554 จากคุณูปการที่ท่านได้มีต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ
    7. หากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่มหาเถรสมาคมที่ประกอบด้วยพระมหาเถระจากทั้งมหานิกายและธรรมยุติจะนำเสนอเพื่อขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ให้เช่นนั้น
    @@จึงชัดเจนว่า “คำกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกนั้น เป็นเรื่องไม่จริง”@@
    การปลอมพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช
    ในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๗ นายเรวัตร อุปพงศ์ และ นายสิทธิโชค ศรีสุคนธ์ ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม” และในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗ พระราชรัตนมงคล ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจพญาไท เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วย
    ที่มา :
    www.mahathera.org/detail.php…
    ข้อหา นายสิทธิโชค ศรีสุคนธ์ ทุจริตต่อหน้าด้วยการเบียดบังเงินอุดหนุนเพื่อปฏิบัติศาสนกิจของสมเด็จพระสังฆราช :
    www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=43277

  • @sueswifte2557
    @sueswifte2557 9 ปีที่แล้ว

    When you judge another, you do not define them, you define yourself.

  • @nopjugr
    @nopjugr 9 ปีที่แล้ว +2

    สรุป เถน ไม่ผิด พระเถนช่วยเถนด้วยกันเอง ไม่มีใครทำอะไรได้ เงินง้างได้ทุกอย่าง????????????????

  • @jamesconner7650
    @jamesconner7650 9 ปีที่แล้ว +1

    ขออนุญาติคุณ bank berry นะครับ
    มีผู้กล่าวถึง พระอักษร(พระลิขิต)ของสมเด็จพระสังฆราช โดยพยายามเรียกว่า พระบัญชา แล้วอธิบายในทำนองว่า มหาเถรสมาคม พระเถรานุเถระ ฯลฯ ภิกษุทุกรูป จะต้องปฏิบัติตามพระอักษรนั้นโดยเคร่งครัด จะเป็นอื่นไปไม่ได้ เพราะพระอักษร มีฐานะเป็นกฏหมาย ซึ่งผมเห็นว่านั่นเป็นการพูดด้วยความเข้าใจไม่ถูกต้อง หรือไม่ก็อาจเป็นการพูดโดยมีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความวุ่นวายแตกแยกในสังคมชาวพุทธ จึงขออนุญาต อธิบายนะครับท่าน
    เรื่องแรก ผมพบว่ามีบางท่านอ้างว่า พระอักษรดังกล่าวคือพระบัญชา เป็นกฏหมาย โดยอ้าง พรบคณะสงฆ์ มาตราแปด
    มาตรา ๘ สมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ และทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฏหมาย พระธรรมวินัย และกฏมหาเถรสมาคม
    อันนี้มันเป็นปัญหาเพราะท่านอ้างกฏหมายแบบแหว่งๆวิ่นๆ อ้างไม่ครบถ้วน น่ะครับ เนื่องจาก มาตราแปด ระบุว่า การตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช หมายถึง พระบัญชานั้น จะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ 1) กฏหมาย 2) พระธรรมวินัย และ 3) กฏมหาเถรสมาคม น่ะครับท่าน
    ดังนั้น พระอักษรดังกล่าว จะถือว่าเป็นพระบัญชาตามมาตราแปด หรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่า ขัดหรือแย้งกับ 1) กฏหมาย 2) พระธรรมวินัย และ 3) กฏมหาเถรสมาคม หรือไม่ ? ถ้าไม่ขัด และ ไม่แย้ง ก็ถือว่าเป็นพระบัญชาตามพรบคณะสงฆ์มาตราแปด มีผลตามกฏหมาย แต่ถ้าปรากฏว่าขัดหรือแย้ง ก็ถือว่าเป็นเพียงพระมติส่วนพระองค์ ไม่มีผลผูกพันทางกฏหมาย ไม่เป็นกฏหมาย ไม่มีกฏหมายรองรับ นะครับท่าน
    เรื่องต่อมา ที่ต้องพิจารณาก็คือ ประเด็นพระอักษร ที่ระบุถึงเรื่องปาราชิก จะถือว่าเป็นพระบัญชา มีผลทางกฏหมายหรือไม่ ? เรื่องนี้ พิจารณาไม่ยากครับท่าน ก็แค่พิจารณากฏหมาย พรบคณะสงฆ์ หมวดสี่ นิคหกรรมและการสละสมณเพศ เราก็จะทราบว่า อำนาจในการวินิจฉัยตัดสินอธิกรณ์ต่างๆ เป็นของผู้ใด ระหว่าง สมเด็จพระสังฆราช กับ มหาเถรสมาคม ?
    มาตรา ๒๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๔ มหาเถรสมาคมมีอำนาจตรากฏมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเพื่อให้การลงนิคหกรรมเป็นไปโดยถูกต้อง สะดวกรวดเร็ว และเป็นธรรม และให้ถือว่าเป็นการชอบด้วยกฏหมายที่มหาเถรสมาคมจะกำหนดในกฏมหาเถรสมาคม ให้มหาเถรสมาคมหรือพระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ตำแหน่งใดเป็นผู้มีอำนาจ ลงนิคหกรรมแก่พระภิกษุผู้ล่วงละเมิดพระธรรมวินัย กับทั้งการกำหนดให้การวินิจฉัยลงโทษนิคหกรรมให้เป็นอันยุติในชั้นใดๆ นั้นด้วย
    ท่านทั้งหลาย จะเห็นว่า จากกฏหมายพรบคณะสงฆ์ มาตรา 25 กำหนดว่า อำนาจในการพิจารณาอธิกรณ์ เป็นของ มหาเถรสมาคม ไม่ใช่อำนาจของสมเด็จพระสังฆราช โดยมหาเถรสมาคม จะใช้อำนาจนี้โดยตรากฏมหาเถรสมาคมขึ้นมา เพื่อกำหนดวิธีการ ขั้นตอนในการพิจารณานิคหกรรม
    ทีนี้ ในมาตรา 25 ระบุว่า ผู้มีอำนาจ(ลงนิคหกรรม) คือ 1) มหาเถรสมาคม 2) พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ตำแหน่งใด คำว่า พระภิกษุผู้ปกครองสงฆ์ตำแหน่งใด ก็ไม่ได้หมายถึง สมเด็จพระสังฆราช แต่หมายถึง เจ้าอาวาส หรือ เจ้าคณะปกครอง ตามกฏมหาเถรสมาคม ซึ่ง แบ่งอำนาจการพิจารณาวินิจฉัยอธิกรณ์ ออกเป็นสามชั้นคือ
    1) การพิจารณาชั้นต้น เป็นอำนาจของเจ้าอาวาส ถ้าผู้ถูกร้องคือเจ้าอาวาส ผู้มีอำนาจในการพิจารณาในชั้นนี้ ก็คือ เจ้าคณะ หรือผู้ปกครองคณะสงฆ์ ที่เหนือขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง เช่น เจ้าคณะตำบล เป็นต้น
    2) การพิจารณาชั้นอุทธรณ์ ผู้มีอำนาจในการพิจารณาในชั้นนี้ ก็คือ เจ้าคณะ หรือผู้ปกครองคณะสงฆ์ ที่เหนือขึ้นไปอีก เช่น เจ้าคณะอำเภอ ฯ เจ้าคณะภาค ฯ เป็นต้น
    3) การพิจารณาชั้นฎีกา เป็นอำนาจของมหาเถรสมาคม โดยเมื่อพิจารณาถึงชั้นนี้ ให้ถือว่าเป็นที่สุด ครับท่าน
    เมื่อพิจารณาข้อกฏหมายมาตามลำดับ ท่านจะพบว่า กฏหมาย พรบคณะสงฆ์ ไม่ได้ให้อำนาจในการวินิจฉัยอธิกรณ์แก่สมเด็จพระสังราช แต่กำหนดว่าอำนาจนั้นเป็นของ เจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครอง และ มหาเถรสมาคม จึงหมายความว่า ถ้าหากบางท่านจะดึงดัน ยืนยันว่า พระอักษรของสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระบัญชา ย่อมเป็นการกล่าวผิดข้อเท็จจริง เพราะมาตราแปด ระบุว่า พระบัญชาจะขัดกฏหมายไม่ได้ แต่กฏหมายระบุชัดเจนว่า อำนาจการวินิจฉัยอธิกรณ์เป็นของ 1) เจ้าอาวาส 2) เจ้าคณะปกครอง และ 3) มหาเถรสมาคม ไม่ได้เป็นของสมเด็จพระสังฆราช นี่ครับท่าน
    ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่า พระเถรานุเถระ รวมไปถึง วิญญูชน และปัญญาชนชาวพุทธทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดเรียกพระอักษรนี้ว่า พระบัญชา เพราะท่านเหล่านั้นทราบดีว่า หากเรียกแบบนี้ จะเท่ากับเป็นการหมิ่นพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราชว่า ทรงตราพระบัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย โดยทั่วไปจึงเรียกพระอักษรนี้ว่า พระลิขิต โดยถือว่าเป็นพระมติส่วนพระองค์เท่านั้น ไม่มีผลทางกฏหมาย ครับท่าน
    กรณีธรรมกายนี้ ไม่ว่าจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจก็ตาม ขอให้ท่านทั้งหลายจงยอมรับความจริงเถอะว่า มันจบแล้วครับท่าน อย่าได้พยายามดื้อดึงต่อไปอีกเลยครับ มันไม่มีประโยชน์อะไร ท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงตามกระบวนการทางกฏหมาย ได้หรอกครับ แต่ถ้าหากท่านยอมรับไม่ได้จริงๆ ทางเดียวที่เป็นไปได้ ก็คือ ท่านต้องไปแก้กฏหมาย พรบคณะสงฆ์ ไม่ใช่ไปล่ารายชื่อถอดถอนกรรมการมหาเถรสมาคม อย่างที่พยายามสร้างกระแสกันอยู่นะครับ ทำแบบนั้น น่าอายมากครับ เพราะท่านควรทราบว่า กรรมการมหาเถรสมาคม ส่วนหนึ่งเป็นโดยตำแหน่ง อีกส่วนหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งมา ครับท่าน และในประเทศนี้ ก็ไม่มีกฏหมายใด ให้อำนาจแก่ท่านในฐานะประชาชน ว่าสามารถถอดถอนกรรมการมหาเถรสมาคมได้ ดังนั้น ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ ก็อย่าทำเรื่องขายหน้าแบบนั้นเลยครับ กรุณาเจริญสติให้มากๆ นะครับท่าน
    ในส่วนที่เกี่ยวกับกรณี มีนักการเมืองหลากหลายสถานะ พยายามหยิบยกพระอักษรของสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาอ้างในลักษณะนี้ ผมไม่ทราบหรอกครับว่าเขาเหล่านั้น มีเจตนา หรือ วัตถุประสงค์อะไรแน่ แต่ที่ทราบชัดๆ ก็คือ เขาอ้างผิด ครับท่าน และการอ้างแบบผิดๆอย่างนี้ ไม่ส่งผลดีต่อพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราชเลยครับ ดังนั้น สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้จึงดูเหมือนกับว่า เขาเหล่านั้น พยายามอ้างสมเด็จพระสังฆราช เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ โดยประสงค์ต่อผลประโยชน์บางอย่าง ไม่ใช่การอ้างด้วยความเคารพในพระองค์ท่าน หรือเพื่อปกป้องพระศาสนา อย่างที่พูดๆกันหรอกครับ อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับท่าน
    สำหรับท่านที่พยายามอ้างพระวินัย ก็ขอให้กลับไปพิจารณาดีๆ ด้วยใจเป็นกลาง และเป็นธรรม ด้วยครับท่าน หลักอธิกรณ์สมถะ คือการระงับอธิกรณ์ ก็มีอยู่ครับ ท่านจะไปปรักปรำกล่าวหาผู้อื่นส่งเดชตามใจชอบไม่ได้หรอกครับ พระพุทธเจ้า และ พระธรรมวินัย ไม่ได้อนุญาตให้พวกท่านสามารถทำอะไรๆ ได้ตามใจชอบอย่างนั้นเสียหน่อย ถ้าท่านรักพระพุทธศาสนาจริง คิดจะปกป้องพระธรรมวินัยจริง ก็ขอให้ยอมรับและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยด้วยครับ อย่าเอาแต่ใจตนเองกันนักเลย ขออนุญาตบอกกล่าวข้อเท็จจริงทางกฏหมาย(พรบคณะสงฆ์) ต่อท่านทั้งหลายเพียงเท่านี้ นะครับท่าน

  • @banditthai
    @banditthai 9 ปีที่แล้ว

    รายการดี..แต่พิธรกรเสียงเบาเกินไป...

  • @TheDmcMelbourne
    @TheDmcMelbourne 9 ปีที่แล้ว +1

    วินิจฉัยพระลิขิตตามหลักพระธรรมวินัย
    ๑.พระลิขิตบอกว่า "การโกงสมบัติผู้อื่น...." แต่วัดพระธรรมกายไปโกงสมบัติของใครกัน มีแต่ญาติโยมกล่าวปวารณาว่า "ขอถวายเป็นการส่วนตัว แล้วแต่หลวงพ่อจะนำไปขายหรือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย" ก็ชัดเจนว่าไม่ใช่การโกง และเจตนาโกงก็ไม่มี ในทางพระวินัยก็ระบุไว้ชัดว่า " "ด้วยเถยยจิต" ท่านต้องวิเคราะห์ให้ดี หากไม่มีเจตนาหรือไม่มีเถยยจิต การจะไปกล่าวหาพระว่าเป็นอาบัติปาราชิกไม่ได้
    ๒.ยิ่งไปไล่บี้จะเอาเรื่องผิดกันอย่างเดียว ก็ไม่ใช่วิสัยของบัณฑิต และเข้าข่ายมหาโจร ข้อที่ ๓ ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "......๓. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารี ผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์อัน หามูลมิได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๓ มีปรากฏอยู่ในโลก"

    • @thrinrin9618
      @thrinrin9618 9 ปีที่แล้ว +2

      แล้วที่มันกล่าวอวดอุตริ บิดเบือนพระธรรมวินัย ล่ะ ไม่มีคัยเค้าโง่เชื่อขี้ปากติ่งธรรมกาย หรอกครับ

    • @TheDmcMelbourne
      @TheDmcMelbourne 9 ปีที่แล้ว

      ธารินทร์ เดชบุญช่วย
      การที่ศาลอาญาพิจารณาให้ "ถอนฟ้อง" พระธัมมชโยนั้น เพราะ
      เรื่องพระธรรมคำสอน ได้รับความคิดเห็นสนับสนุนจากผู้รู้และมียศตำแหน่งในทางพระพุทธศาสนาสำคัญ 3 ท่าน คือ 1.อธิบดีกรมการศาสนา 2.ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3.เจ้าคณะภาค 1 ซึ่งทั้งสามท่านยืนยันว่า พระธัมมชโยมิได้สอนสั่งนอกพระไตรปิฎกแต่อย่างใด ทั้งจำเลยยังได้ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ไทยเป็นอันมาก ทั้งในด้านการศึกษา การเผยแผ่ และสาธารณูปการ รวมทั้งการสาธารณสงเคราะห์ด้วย ซึ่งผลงานของวัดพระธรรมกายนั้นเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล มิใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น

    • @saaosiam8314
      @saaosiam8314 9 ปีที่แล้ว +3

      นับถือพุทธศาสนา อย่าให้เพี้ยน พระพุทธเจ้าสอนอะไร? รู้จัก เอกังสวาท ไหม?
      ตามคำสอนที่บริสุทธิของพระพุทธเจ้า 'ธัมมชโย' ปราชิกแล้ว
      ตามคำพระลิขิตของพระสังฆราช 'ธัมมชโย' ปราชิกแล้ว

    • @vedjayantammada7570
      @vedjayantammada7570 9 ปีที่แล้ว +2

      วันนี้ ก็มีคดี ซ้ำอีก 555+ เยี่ยม สันดาน เลิกไม่ได้จริงๆ
      คำสอน ก็สอนอะไรนะ ศูนย์กลางกาย พระพุทธเจ้าสอนในบทไหนเหลอ, มันก็ยังสอนมาจนปัจจุบัน. นี่ยกแค่ข้อเดียมาพูด ผุ้มีคตินรกภูมิ ก็แบบนี้แหล่ะ ไม่อาจเปรียนได้

    • @phraronraweechainirattisai960
      @phraronraweechainirattisai960 9 ปีที่แล้ว

      vechayan treerattanathavan อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา "ขอถอนฟ้อง” พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือหลวงพ่อธัมมชโย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 ศาลอาญาได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าคำร้องขอมีเหตุผลพอเพียง จึงสั่งจ่ายคดีออกจากสารบบ
      การที่ศาลอาญาพิจารณาให้ "ถอนฟ้อง" ได้ในครั้งนี้ อัยการสูงสุดได้บอกเหตุผลแก่ศาลว่า เหตุที่ต้องขอถอนฟ้องพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) นั้น เพราะ
      1. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)ได้คืนเงินให้แก่ทางวัดพระธรรมกายครบถ้วนทุกบาททุกสตังค์ แล้ว (ในความเป็นจริงญาติโยมถวายส่วนตัวแด่หลวงพ่อมิได้ถวายวัด แต่เพื่อทำตามพระลิขิต หลวงพ่อจึงยกให้วัด) ถือว่าได้ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงไม่มีเหตุผลที่จะฟ้องร้องเอาผิดอีกต่อไป
      2. เรื่องพระธรรมคำสอน ได้รับความคิดเห็นสนับสนุนจากผู้รู้และมียศตำแหน่งในทางพระพุทธศาสนาสำคัญ 3 ท่าน คือ 1.อธิบดีกรมการศาสนา 2.ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3.เจ้าคณะภาค 1 ซึ่งทั้งสามท่านยืนยันว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) มิได้สอนสั่งนอกพระไตรปิฎกแต่อย่างใด ทั้งจำเลยยังได้ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ไทยเป็นอันมาก ทั้งในด้านการศึกษา การเผยแผ่ และสาธารณูปการ รวมทั้งการสาธารณสงเคราะห์ด้วย ซึ่งผลงานของวัดพระธรรมกายนั้นเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล มิใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น
      3. ถ้าฟ้องร้องต่อไปให้สิ้นสุดกระบวนการ ก็จะเป็นการสร้างความแตกแยกในศาสนจักรและประชาชนคนไทยในชาติ

  • @มกราคมดีงาม
    @มกราคมดีงาม 9 ปีที่แล้ว +1

    พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช เป็นของจริงหรือไม่ อันนี้ไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึก จ้าวอาวาสวัดธรรมกาย ที่ไม่ยอมรับความจริง

    • @kamolpreedachai4761
      @kamolpreedachai4761 8 ปีที่แล้ว +1

      พระลิขิตขัดต่อพระธรรมวินัย เอามาบังคับใช้ไม่ได้

    • @ทักษดาภูมิชัย-ฦ1ง
      @ทักษดาภูมิชัย-ฦ1ง 8 ปีที่แล้ว

      +kamol preedachai นิกายอะไรก็เป็นสาวกศาสดามีธรรมวินัยอันเดียวกัน

    • @kamolpreedachai4761
      @kamolpreedachai4761 8 ปีที่แล้ว +1

      +ทักษดา ภูมิชัย ใช่ ไม่ว่าจะเป็นพระสังฆราชหรือพระลูกวัดธรรมดา ก็มีศีล227 ข้อเท่ากัน ใน227ข้อนั้น มีวิธีระงับอธิกรณ์อยู่ พระพุทธองค์ทรงเป็นอัจฉริยะ ทรงห้ามมิให้สงฆ์ต่างนิกายมาตัดสินคดีสงฆ์นิกายอื่น เพื่อมิให้เกิดการกลั่นแกล้งกัน ตรงนี้นับว่าพระศาสดาทรงมีพระปัญญาธิคุณ มองเห็นการไกล ทรงอยากให้สงฆ์สามัคคีกัน

    • @kittikunnawamawat7286
      @kittikunnawamawat7286 8 ปีที่แล้ว

      +Kamol preedachai มั่วเลย

  • @ประสบสันติ์ศรีสุวรรณ-ฉ4ค

    ใครที่ต้องรับผิดชอบ. ขอตอบนะคับ คนตายพระต้องมาสวด พระจะฉันท์ข้าวน้ำก็โยม นี้แหละครับคำตอบผม

  • @nanothailand
    @nanothailand 9 ปีที่แล้ว

    พระพุทธองค์ไม่เคยสอนเรื่องศูนย์กลางกาย ... ธรรมกายสร้างคำสอนเอง แค่นี้ก็ผิดมหันต์แล้ว บิดเบือนหลักธรรมอย่างชัดเจน

  • @Gongarn
    @Gongarn 9 ปีที่แล้ว

    นี่เพราะ เงินมันใหญ่อยู่ในนั้นมันมาก นี่ถ้าเป็นวัดเล็กๆป่านนี้เรียบร้อยไปแล้ว นี่เพราะเงินมันง้างกันอยู่

  • @dodeedee9341
    @dodeedee9341 9 ปีที่แล้ว +2

    ต้องเอาพวก...isis...มาจัดการพวก...ธรรมกาย...ให้หมด

    • @TheDmcMelbourne
      @TheDmcMelbourne 9 ปีที่แล้ว

      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์โทษของการประทุษร้าย ผู้ที่ไม่ประทุษร้ายตอบ ว่า ย่อมประสบความวิบัติทันตาเห็น 10 ประการ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ดังนี้
      1. พึงได้เวทนาอันหยาบ (ทุกข์หนัก) ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า เช่น โรคปวดศรีษะอย่างรุนแรง
      2. เสื่อมจากลาภ ยศ ทั้งปวง ความเสื่อมสิ้นทรัพย์สินที่มีอยู่
      3. ถูกทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตีหัว หรือถูกผ่าตัด
      4. เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างหนัก เจ็บหนัก เช่น เป็นอัมพาต
      5. ถึงความฟุ้งซ่านแห่งจิต ถึงความเสียสติ เป็นบ้า
      6. ขัดข้องด้วยพระราชา (ถูกลงโทษ) ถูกกฎหมายลงโทษ เช่น ถูกปลดและลดตำแหน่ง
      7. ถูกกล่าวหาอย่างสาหัส ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง
      8. เกิดความเสื่อมในหมู่ญาติ (แยกครอบครัว) ไร้ญาติขาดพี่น้อง
      9. ไฟไหม้บ้านเรือน โภคทรัพย์ เช่น เรือกสวนไร่นา ฉิบหาย
      10. เมื่อละสังขารย่อมเข้าถึงนรก ตายแล้วไฟนรกเผาผลาญซ้ำอีก

    • @rthailand6720
      @rthailand6720 9 ปีที่แล้ว +2

      ***** ใช้ปัญญาคิดหน่อยนะคุณว่า 10 ข้อนี้ใข้ในสถานการณ์ไหน? ไม่งั้นทุกคนในประเทศไทยคงข้อหาประทุษร้ายคนอื่นทุกคนแน่ๆ อย่างข้อ 7 นี้ ธัมมชโยกับพวกโดนเต็มๆ

  • @มนตรีมนตรี-ส2ฝ
    @มนตรีมนตรี-ส2ฝ 8 ปีที่แล้ว

    ให้ประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนเสียงดีไหม

  • @plathong505
    @plathong505 9 ปีที่แล้ว +2

    มันไม่ใช่เสี้ยน ครับ มันคือตอ ของศาสนา เลยทีเดียวสำหรับ แหล่งรวมหัวโล้น

    • @TheDmcMelbourne
      @TheDmcMelbourne 9 ปีที่แล้ว

      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์โทษของการประทุษร้าย ผู้ที่ไม่ประทุษร้ายตอบ ว่า ย่อมประสบความวิบัติทันตาเห็น 10 ประการ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ดังนี้
      1. พึงได้เวทนาอันหยาบ (ทุกข์หนัก) ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า เช่น โรคปวดศรีษะอย่างรุนแรง
      2. เสื่อมจากลาภ ยศ ทั้งปวง ความเสื่อมสิ้นทรัพย์สินที่มีอยู่
      3. ถูกทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตีหัว หรือถูกผ่าตัด
      4. เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างหนัก เจ็บหนัก เช่น เป็นอัมพาต
      5. ถึงความฟุ้งซ่านแห่งจิต ถึงความเสียสติ เป็นบ้า
      6. ขัดข้องด้วยพระราชา (ถูกลงโทษ) ถูกกฎหมายลงโทษ เช่น ถูกปลดและลดตำแหน่ง
      7. ถูกกล่าวหาอย่างสาหัส ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง
      8. เกิดความเสื่อมในหมู่ญาติ (แยกครอบครัว) ไร้ญาติขาดพี่น้อง
      9. ไฟไหม้บ้านเรือน โภคทรัพย์ เช่น เรือกสวนไร่นา ฉิบหาย
      10. เมื่อละสังขารย่อมเข้าถึงนรก ตายแล้วไฟนรกเผาผลาญซ้ำอีก

    • @plathong505
      @plathong505 9 ปีที่แล้ว

      1ใช่เลย เจอข่าวพระกากๆทุกวัน ผมปวดหัวจริงด้วย
      2ผมจนครับไม่พอให้เอาเงินที่หามาได้ไปซื้อวิมารโง่เง่า
      3 คงใกล้จะได้ผ่าตัดนะครับตอนนี้ปวดๆใส้ติ่ง
      4 คงยังครับ เรื่องอำมพาต ยังล้มและลุกขึ้นเองได้
      5 ข้อนี้ผมไม่บ้าครับ ผมฉลาดพอที่จะใช้ สมองที่มีรอยหยังไตร่ตรอง
      6 ผมรักในหลวง จบครับ
      7 ผมไม่ใช่ดาราครับ
      8 จริงครับข้อนี้ ผมแยกมาซื้อบ้านอยุ่
      9 ที่บ้านติดเซฟทีคัต
      10 ข้อนี้ผมว่าให้พวกกินเงินหลอกลวงชาวบ้าน หรือยักยอกเอาเงินคนอื่นมาใส่ตัว หรือบวกโกนหัว แต่ทำเรื่องฉิบหายเข้ามาใส่ศาสนาเถอะครับ
      ผมบวชไม่นานแต่ผมพอรุ้และแยกแยะถึงความดีและความชั่ว ความฉิบหาย คงรุ้ดีนะครับ พิมพ์ได้ขนาดนี้ คงเคยนั่งสมาธิไปดูนรกว่ามีหัวโล้นอยุ่แถวไหนมากสุด
      สุดท้าย พวกหัวโล้นที่แม้จะเอาของที่เขานำมาถวายเอามาไว้ใส่ตัว หรือ ญาติตัว พวกพ้องตัว คงรุ้นะครับ ว่าเป็นยังไง ผมไม่ได้วิเศษวิโส แต่แค่มี ปัญญา
      อย่านอยนะครับ อย่านอย

    • @benjakidtiwong4977
      @benjakidtiwong4977 9 ปีที่แล้ว

      01 NT TH

    • @plathong505
      @plathong505 9 ปีที่แล้ว

      ทำบุญเงินผ่อนได้นะลัทธิฝากระโถนอ่ะ

  • @c.engrtuthamlaksame6844
    @c.engrtuthamlaksame6844 9 ปีที่แล้ว

    พระลิขิตปลอมทำไมไม่พูดถึง วันที่เป็นเลขอาราบิก

    • @gommgamm
      @gommgamm 8 ปีที่แล้ว

      ถ้าปลอมเธอคิดว่าพระสังฆราชจะไม่ออกมาพูดเหรอ

    • @kamolpreedachai4761
      @kamolpreedachai4761 8 ปีที่แล้ว +1

      +gommgamm พระลิขิตขัดต่อพระธรรมวินัย เอามาบังคับใช้ไม่ได้

    • @faetamafafa9961
      @faetamafafa9961 8 ปีที่แล้ว

      นั้นจิต้องไปถามหมอยอง

    • @ทักษดาภูมิชัย-ฦ1ง
      @ทักษดาภูมิชัย-ฦ1ง 8 ปีที่แล้ว

      +kamol preedachai พระจับเงิดผิดวินัย

    • @kamolpreedachai4761
      @kamolpreedachai4761 8 ปีที่แล้ว

      ทักษดา ภูมิชัย ถึงผิดก็ผิดไม่มาก เป็นไปตามยุคสมัย เพราะชีวิตมีค่าใช่จ่าย จะขี่เครื่องบินหรือนั่งแท็กซี่ ก็ต้องมีเงินจ่าย นอกจากบางครั้งมี่แท็กซี่ใจบุญไม่เอาเงินพระ แต่ส่วนใหญ่ก็เอา แต่โยมอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยเลย รักษาใจให้ใสๆดีกว่า คิดว่าชั่วชั่งชี ดีช่างสงฆ์ จะได้ไม่บาป พระมีศีล 227 ท่านทำผิดไป 200 ข้อ ก็ยังเหลือ 27 ข้อ มากกว่าโยมศีล 5 อีก

  • @thnoi101
    @thnoi101 8 ปีที่แล้ว

    โลกนี้ อยู่กันได้ไม่นาน นะ โลกหน้า ถูกกำหนด ด้วยกรรมที่เราทำในโลกนี้ คุณเลือกได้....
    จะไป สวรรค์ หรือ ไป นรก......

    • @ช่างแม่งง
      @ช่างแม่งง 8 ปีที่แล้ว

      แร้วคุณคิดว่าคุณจะไป นรก หรือ สวรรค์

  • @Khemadhammo
    @Khemadhammo 8 ปีที่แล้ว

    ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหลวงพ่อธัมมชโยผิดหรือถูก คนพูดไม่มีความรู้อะไรเลย อย่างเช่นารทำให้สงฆ์แตกไม่ได้อยู่ในปาราชิก 4 แค่นี้ก้ยังไม่ทราบ แล้วจะติดสิจใจอะไรได้หรือ

  • @c.engrtuthamlaksame6844
    @c.engrtuthamlaksame6844 9 ปีที่แล้ว

    อำนาจทางกฎหมายอยู่ที่มหาเถรสมาคมซึ่งเป็นตัวแทนคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่ายที่พิจารณา มิใช่อยู่ที่พระลิขิตพระสงฆราช พระองค์เดี่ยว ดังนั้น ทำไม่ฆราวสจึงเข้ามีแทรกแซง

  • @kokab5860
    @kokab5860 9 ปีที่แล้ว

    มาฟังคลิป นี้ครับ อัยการสูงสุด สมัย16ปีก่อน ท่านพูดเอง ผ่านสื่อสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ มี3 ประเด็น ในเรื่องคดีที่ดิน
    1.สมเด็จพระสังฆราช (เมื่อ16ปีก่อนนะครับ)ไม่คิดจะเอาความแล้ว
    2.ทางหลวงพ่อ คืนที่ดินให้กับวัดแล้ว
    3.ที่ดินนั้น เจ้าของพูดเอง (อัยการสืบพยานเจ้าของที่ดินแล้ว) ว่ายกที่ดินให้กับหลวงพ่อ ไม่ใช่ยกให้กับวัด
    สรุปชัดเจนแล้วครับว่า หลวงพ่อ ไม่ผิดจริงๆ (นี้คือ ข้อมูลเชิงลึกที่คนที่เกี่ยวข้องจริงๆพูดเอง คนนอกที่ไม่เกี่ยวก็ควรจะยุติได้แล้ว) มหาเถรสมาคม ตัดสินได้ยุติธรรมที่สุดแล้วครับ
    [youtube]th-cam.com/video/HrVcJe95MTY/w-d-xo.html[/youtube]

  • @limnantawat6566
    @limnantawat6566 7 ปีที่แล้ว

    ธรรมชาติกำหนดให้สงฆ์ชั่วและฆราวาสเลวไปรวมตัวในสถานที่เดียวกันเพื่อจะได้กำจัดในเวลาเดียวกันลงนรกชี้นไหนเท่านั้น