TechAutoTalk by Dr.Ekarin EP65: Toyota กับจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 3 ก.พ. 2024
- ถ้าใครติดตามข่าวเกี่ยวกับรถยนต์อย่างต่อเนื่องในช่วง หลายเดือนที่ผ่านมา เราจะเห็นกระแสข่าวมากมายออกมาในโลกอินเตอร์เน็ต มีทั้งกระแสที่เป็นเรื่องบวก และเรื่องลบ กับรถยนต์ไฟฟ้า โดยในอุตสาหกรรมรถยนต์ เริ่มมีการแบ่งขั้วชัดเจนขึ้น พูดง่ายๆก็คือมีการแบ่งขั้วระหว่าง ผู้ผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) และเครื่องยนต์ทางเลือกอื่นๆ (HEV, FCEF, PHEV) กับ ผู้ผลิตรถยนต์ที่มุ่งหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero ที่ตอนนี้กำลังผันตัวเองมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ (BEV) ถ้าจะมองคู่ต่อกร ซึ่งมีวาทะกรรมกระทบกระแทกกันมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นค่ารถยนต์ ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างโตโยต้า กับ ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง บีวายดี และ เทสลา ซึ่งในค่ายของรถยนต์ไฟฟ้าเอง ก็ยังมีมุมมองของตัวเองที่แตกต่างกัน ซึ่งวันนี้จะหยิบจับมาคุยกัน สรุปกันแบบง่ายๆ ส่วนใครจะคิดเห็นต่างจากผม อย่างไรนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เรามีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ผมขอเริ่มจากค่ายยักษ์ใหญ่ ของโลกอยากโตโยต้า ล่าสุดคุณ Akio Toyoda ประธานบริษัท Toyota Motor ออกมาทำนาย (อีกแล้ว) ว่า รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้า 100% หรือ BEV จะครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกได้สูงสุดเพียง 30% เท่านั้น! ที่เหลือจะเป็นรถยนต์ไฮบริด รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน และรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน มาลองดูมุมมองของแกกันหน่อยนะครับ คุณ Toyoda บอกว่า สาเหตุสำคัญ ที่แกคิดแบบนี้ ก็มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าประชากรโลกนับพันล้านคนยังไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้! ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องยาก อีกทั้งราคาของรถยนต์ไฟฟ้าและอะไหล่ที่มีราคาแพง หากต้องเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าย่อมสร้างข้อจำกัดในการเดินทางแก่คนกลุ่มนี้
เอาละ เพื่อไขข้อข้องใจ เราลองมาดูข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงระบบไฟฟ้าที่คุณ Toyoda แกพูดหน่อย ตามรายงาน "Tracking SDG 7 ประจำปี 2565" จากเวบไซท์ sdgmove.com ให้ข้อมูลไว้ว่ามีประชากรทั่วโลกที่ยังไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าประมาณ 773 ล้านคน ในขณะเดียวกัน มีรายงานบางฉบับที่ระบุว่าผู้คนกว่า 789 ล้านคนทั่วโลกยังไม่สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้า (แต่ไม่ถึงพันล้านนะ) เราอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้าเรามาลองคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกดูกัน โดยตามข้อมูลจากสถิติของสหประชาชาติ ประชากรโลกในปี 2022 มีประมาณ 7.9 พันล้านคน ดังนั้น ประมาณ 9.8% ถึง 10% ของประชากรโลกไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้า อ้าว แล้ว ที่คุณ Toyoda พูด ว่า คนเป็นพันล้านคน เข้าไม่ถึงไฟฟ้า แกเอามาจากไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ BEV จะมีส่วนแบ่งได้แค่ไม่เกิน 30%? เพราะคนทั่วโลกมีถึงเกือบ 8 พันล้านคนนะ ผมก็เลยมองว่าสมมุติฐานแก แปลกๆ นอกจากนั้นแล้ว ในปัจจุบันก็มีความพยายามในการขยายระบบไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากขึ้น. ตัวอย่างเช่น, โครงการ 'Swarm grids' ที่สนับสนุนโดยสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนในพื้นที่ยากจนเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้นทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้นับวันมีแต่จะดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาแผงโซล่าเซลล์ถูกลง แบตเตอรี่ก็ราคาถูกลง คนก็จะเข้าถึงไฟฟ้าได้มากขึ้น
หลายคนอาจสงสัย แล้วประเทศไทยละ? จากข้อมูลของ sdgs.nesdc.go.th สำหรับประเทศไทย ใครจะเชื่อว่า ประชากรสามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ถึง 99.8% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลก และเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านพลังงาน ของทั้ง 3 การไฟฟ้าคือ กฟผ. กฟน. และ กฟภ. ที่เราชอบบ่นเขาว่า ไฟฟ้าแพงนี่แหละ
#techautotalk #trending #Toyota #AkioToyoda #EV #electricvehicle #รถยนต์ไฟฟ้า #โตโยต้า #การลงทุน #ตลาด #การตลาด #รถยนต์
หวงออฟชั่น จุดยืนที่เด่นชัด
หวงออฟชั่น และขายแพงที่สุดในโลกด้วยมั้งครับ ผมละเบื่อ แต่ก็เป็นแฟน Toyota นะ ปัจจุบันก็มีอยู่ 2 คัน 5555
ทำไมรถรุ่นเดียวกันต้อง ต้องแบ่งออฟชั่นด้วย ควรมีมาตรฐานเดียวกันหมด แบ่งแค่เกียร์ออโต้ กับเกียร์ธรรมดาก็พอแล้ว
ผมทำงานในกลุ่ม automotive ตอนนี้้ญี่ปึ่นดิ้นจริงๆครับ maker โทรมาถามยอด forecast ว่าทำไมลงเยอะมากๆ หายไป 20-30% ปีหน้ามีเริ่มยุบกะกลางคืน ตอนนี้เร่งทำ cost reduction เป็นว่าเล่น ต่อไปคงงดทำ OT ด้วยครับ เพื่อให้บริษัทได้กำไรเท่าเดิมส่งกลับญี่ปุ่น ส่วนแผน ev เป็นแค่ข่าวจริงๆ มีแค่แผนไกล ๆ ไม่เป็นรูปร่างจับต้องไม่ได้เลย
จะเอามาอ้างเพื่ออะไรคนที่เข้าไม่ถึงไฟฟ้าเพราะคนเหล่านี้เป็นคนจนรถอะไรเขาก็ไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้ว
เลิกใช้toyotaมาเกือบ20ปีแล้ว ป้ายแดง2คันที่ซื้อหลังจากใช้toyotaคือhonda civicและCRV
BB กับ smartphone ผมว่า smartphone ดีกว่าทุกทาง ไม่มีข้อจำกัดครับ
ชัดเจน
ทำแจกเลยจะได้ใช้กันทั้งโลก
รถ คือ วัสดุที่ปั้มขึ้นรูป กับเครื่องยนต์ที่ไม่สามารถกักเก็บพลังงานเอาไว้ได้ ต้องผ่านขวนการสันดาปถึงเป็นพลังงาน แน่นอนว่าไปปั้มขึ้นรูปที่ใดก็ได้คาสติ้งที่ไหนก็ได้ ต่างกับพวกแบตติดล้อ ที่กักเก็บพลังงานได้ หาสร้างพลังงานมาชดเชยได้(โซล่าเซล) เนื่องจากเป็นเเบตติดล้อ ต้นทุนจึงไม่ใช่ แบบเดิมอีกต่อไป และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาเดินตามบริษัทอื่น ปัจจุบันนี้รถแบต50kwh 7แสนมีให้เห็นแล้ว(แบต10kwhในระบบโซล่าเซลด์เมตั้งแต่แสนถึง2แสน)นี่ได้ตั้ง50kwh มันเอามาทำอะไรได้เยอะถ้าไม่ใช่คุยกันแต่เรื่องรถอย่างเดียวครับ.
ขอบคุณครับ
พี่โตกับพวกเป็นพวกหัวโบราณเต่า ขอให้มั่นคงในความคิดจนกว่า เจ๊ง... เจ๊งเพราะน้ำมันแพงโหดๆ
จอทีวีต้องใช้ค่ายเกาหลี แบตรถยนต์ต้องใช้ค่ายจีน ใช้แต่เทคโนโลยี่เก่าๆจะรอดมั๊ยน่ะ
ถ้าเราเป็นเจ้าของโตโยต้า ก็น่าหนักใจมากเหมือนกันนะครับ
การจะเปลี่ยนไปทำรถไฟฟ้า จะทำให้กระทบต่อ supply chain ของโตโยต้ามากมายมหาศาล ซึ่งทั้งหมดก็จะกระทบต่อ GDP ของประเทศญี่ปุ่นไปด้วยเช่นกัน
แต่ทุกการแข่งขันก็ จะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ดีใจที่คนไทยได้ใช้รถที่ ราคาเหมาะสม และคุณภาพที่ดีขึ้น
ครับ ใหญ่มากก็ขยับยาก กระทบเยอะ แต่ไม่ควรทำนาย หรือให้ข้อมูลเบี่ยงเบนความจริง
หบักๆคือเขาไม่เอา EV แต่แรก ในขณะที่แบรนอื่นๆที่ทำไฟฟ้าก็ยังทำรถน้ำมันอยู่
@@TechAutoTalk ค่ายใหญ่ไม่อยากขยับมากกว่า ต่อให้ขยับตอนนี้ก็ล้าหลังกว่ารถไฟฟ้าจีน 5 ปี 10 ปี แทบจะเรียกว่าเริ่มต้นใหม่หมดทุกอย่าง ตามหลังค่ายจีนอีกต่างหาก
ช่วงนี้ คนเห่อรถไฟฟ้า
ยังไงก็กระทบรถน้ำมัน
ขนาดผมยังจะไปซื้อรถไฟฟ้ามาใช้เพิ่มอีกคันนึงเลย
รถยนต์ไฟฟ้ามีในโลกมาเป็นร้อยปีแล้ว แต่เราติดปัญหาเรื่อง Battery และการเข้าถึงไฟฟ้าในอดีต จึงไม่ประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ปัญหาเหล่านั้นถูกแก้ไปเกือบหมดแล้ว จึงเป็นที่มากของการกลับมารอบที่ 2 ของรถยนต์ไฟฟ้า คราวนี้มาแบบก้าวกระโดดทั่วโลกเลย เพราะปัญหามลภาวะทางอากาศที่เราจะไม่ไหวกันแล้วนะครับ มีหลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องตัวรถเท่านั้น
ถ้าจะให้คนยังใช้รถน้ำมันนะ บริษัทผลิตรถต้องเอาน้ำมันราคาถูกมาขายด่วย
555 เห็นด้วยครับ ผมก็ยังมีรถน้ำมันอยู่หลายคัน :)
พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ อยากรู้ต่ออีกว่าพันล้านที่ว่าใช้ ICE กันกี่คน หรือไปนับประชากรที่ยากจน ICE ก็ไม่ไหว BEV ก็ไม่ได้
คน 1000 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้ามันจะมีเงินซื้อรถใช้กี่คน
คือเรื่องรถยนต์คุณพูดกันแต่ว่ารถไฟฟ้ารถน้ำมันอะไรดีกว่ากันรถยนต์นี่มันเป็นการลงทุนของคนชั้นล่างซื้อวันนี้พรุ่งนี้ขาดทุน 100,000 บาทมันทำลายเศรษฐกิจ
ผมขอเชียไฟฟ้าคับมอเต้อมีดีทุกๆข้อนะคร้าม
มองในแง่ประสิทธิภาพ ก็กินขาดแล้วครับ เรื่องความทนก็หายห่วง
แต่งงกับฝรั่งท่านนึงที่ใช้ Tesla Model S วิ่งไป 2 ล้านกิโลเมตรเปลี่ยนแบตเตอรี่มาแล้ว 4 ลูก ใช้มอเตอร์ไป 13 ลูก งงที่ทำไมใช้มอเตอร์ถึง 13 ลูก หรือเอามือสองมาเปลี่ยน ทำให้อายุแต่ละลูกไม่ยาวนาน th-cam.com/users/shortspLzdZQZ9CjU?si=G3FZRI5UNc1uMEOl
th-cam.com/users/shortspLzdZQZ9CjU?si=G3FZRI5UNc1uMEOl
th-cam.com/users/shortspLzdZQZ9CjU?si=G3FZRI5UNc1uMEOl
อันนี้ผมก็งง ว่าแกเอาไปวิ่งที่ไหนมา มอเตอร์พังไป 13 ตัวนี่ไม่ธรรมดาเลย@@danuponpornprasit
รถไฟฟ้ายังไม่สามารถแทนที่รถสันดาบได้ทั้งหมด อย่างน้อยก็อีก5ปี แต่แนวโน้มรถสันดาบที่ใช้น้ำมันจะถูกรถยนพลังงานอื่นแบ่งสัดส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ
รถในเมืองใหญ่ควรเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษทางอากาศ
ขนาดไฟ้ายังไม่มีใช้ แล้วจะมีเงินซื้อรถเหรอครับ ออกมาพูดเพราะ ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ได้ และถ้าโตโยต้าเชื่อแบบนั้น แล้วทำไมมีแผนออกรถยนต์ไฟฟ้า อีกหลายรุ่นในอนาคตล่ะ มันย้อนแย้งกันนะครับ
😂😱แกคงหลอนน่ะ
กลายเป็นกล้อง kodak 2
ดร.เอก ครับ
ทำไมไม่ใช้เครื่องยนต์H มาผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่
ทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เอาจริงๆ นะครับ เครื่องยนต์สันดาปไฮโดรเจน ไม่มีมลพิษก็จริง แต่ประสิทธิ์ภาพไม่ได้ดีกว่า GASTURBINE หรือ Combined cycle ที่ใช้ผลิตไฟฟ้าอยู่ตอนนี้ และต้นทุนไฮโดรเจน ก็ไม่ได้ถูกกว่าก๊าซธรรมชาติ ส่วน Fuel Cell ที่ใช้ไฮโดรเจน ก็แพง และขนาดที่ทำได้เพื่อการค้า ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก และสำคัญสุดคือ เราไม่มีโครงสร้างพื้นฐานไฮโดรเจน ที่จะใหญ่พอจะผลิตไฟฟ้าเลยครับ
แก คงจะเยื้อ เครื่องยนต์เอาไว้ให้นานที่สุด หารู้ไม่ ความรู้ มันเข้าถึงกันทุกคน เขาไม่ได้โง่ นะ โต
เข้าใจไม่ยากทำไม TOYOTA ดึง EV เพราะยิ่ง TOYOTA ทำ EV มากแค่ไหนก็จะกระทบยอดรถยนต์น้ำมันของตัวเองเท่านั้น คล้ายกับโกดักดึงการผลิตกล้องดิจิตอลเพราะห่วงยอดขายฟิลม์
คุณ koji sato ก็เป็นแค่หุ่นเชิดให้คุณ toyoda ครับ😢
เรื่องนี้ติ่ง EV เดือด 😁
TOYOTA บอกตรงเหอะว่าไม่ทำ EV ขายข่าวไปเรื่อย ทำคนเขาลังเล
ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขายข่าว จะเป็น ขายขำ แทน
ผมก็งง ว่าแกจะพูดทำไมบ่อยนัก จะทำอะไรขายก็ทำ ไม่ขายก็เรื่องของคุณ คนอื่นเขาก็ทำของเขา ทำไมต้องออกมาให้ข้อมูลแบบกั๊กๆ ใครผลิตขาย ขายไม่ได้ ก็เจ๊งกันไปเอง ไม่ว่า EV หรือ สันดาป ตามสภาพครับ :)
ทำเป็นเอารถไฟฟ้า 20 รุ่นมาเปิดตัว แต่ไม่เปิดขาย เอามาโชว์เพื่อ.............ให้สาวกรอ 20 ปีก็ไม่ขาย
ผมเห็นด้วยกับญี่ปุ่น Toyota รถไฟฟ้ายังไม่ตอบโจทย์
โตโยต้าควรทำรถน้ำมีนไฮบริดไปดีกว่าอีกไม่นานรถไฟฟ้าจะเป็นสสานรถ
คงไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อคิดดีแล้ว เขาถึงกล้าผลิตออกมาขาย ไม่ว่า Mercedez, BMW, Volvo, BYD, Tesla และอีกหลายยี่ห้อ ก็ประกาศตัวจะผลิตแค่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในอนาคต ถ้ามันมีจุดอ่อนขนาดนั้น คงไม่มีใครลงทุนเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้หรอครับ
กว่าสุสานรถไฟฟเาจะมา สุสานรถน้ำมันมือสองคงทั่วแล้ว ตอนนี้ดูได้ตามเต้นส์ทั่วไป ดิ้นหนีตายกันสุดๆแล้ว
ผมยังไม่ซื้อ ev เพราะ มันยังไม่ลงตัว ค่าอาไหล่แพงมาก ๆๆๆๆๆๆ ทุกชิ้นส่วนแพงหมด ไม่ใช่แค่แบต. แค่ซ่อมประตูรถ 7แสน. ไฟหน้า ข้างละ 3หมื่น
ซ่อมประตู 7 แสน นี่ของใครครับ โหดเกิน
รถรุ่น ยี่ห้ออะไรคับนี่ ขนาดแค่ซ่อมนะ ถ้าเปลี่ยนเลยจะขนาดไหน ราคารถคงเกิน5ล้านแน่ๆ
รอโรงงานรถไฟฟ้าประกอบในไทยเปิด ก่อนค่าอะไหล่น่าจะถูกลง ราคารถด้วย
คนน้ำล้นแก้วเขาคงฝังหัว
ไปตามkodaknokia blackberry toyotaคงสูญพันธุ์ไปตามกาล😂
ต่อไปอนาคตก็มีโซล่าเซลล์อีก
Toyo-dak
โตต้า ขยันออกข่าว*เคาะกะลา*..
เราขอยืนยันว่าจะไม่ซื้อรถยนต์นำ้มันไปตลอด Toyota และเราจะสอนลูกหลานด้วย อย่าเป็นไดโนเสาร์เต่าๆ ก็ตามใจเชิญ
โตโยต้ายังขายดีทั่วโลก
ไม่จำเป็นต้องรีบออกรถไฟฟ้ามาขายหรอกครับ
คิดแบบนี้ก็ดีคับ จะได้เหมือนกล้องโกดัก ขายแต่ฟิล์มไม่คิดพัฒนากล้องดิจิตอล คิดว่ากล้องดิจิตอลยังไงก็ไม่มีทางแทนที่กล้องฟิล์มได้ 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 กว่จะรู้ตัว ก็สายไปแล้ว จะเริ่มพัฒนากล้องดิจิตอลก็ตามคนอื่นเค้าไม่ทันแล้ว ดีดีปล่อยให้คิดแบบนี้ต่อไป
สินค้าจีน คุณภาพแย่
อย่าโง่ อย่าโง่
ถ้ามีสมอง หัดเลือกให้เป็น
อย่าดูถูกจีนครับ เขาผลิตได้ทั้งห่วยๆราคาถูกๆ และดี ราคาแพงๆ จีนเปลี่ยนไปแล้ว iPhone ยังผลิตในจีนเลย
โทรศัพที่คุณใช้ 5G มาจากจีนทั้งนั้น 🤣🤣🤣🤣🤣
พวกความคิดหลงยุค5555
พวกเรียนน้อย