ถอดรหัส มติศาลรัฐธรรมนูญ | THANTALK | 24 พ.ค. 67
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 23 พ.ค. 2024
- คดีถอดถอน “นายกฯ เศรษฐา” กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล รอดูสถานการณ์การเมือง
video editor
Netkamol.K
ฐานเศรษฐกิจ นำเสนอข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการมือง วิเคราะห์ข่าวเชิงลึก
#เศรษฐา #ศาลรัฐธรรมนูญ #นายกรัฐมนตรี #ถอดถอน #thansettakij #ฐานเศรษฐกิจ #Thandigital #ฐานดิจิตัล
_____________________________
ติดต่อโฆษณาได้ที่ 02-338-3751
thansettakij.nm@gmail.com
ฉันเชื่อมั่นใน AMS102H มันจะอยู่ใน TOP 5
ไม่มีนักลงทุนที่ไหนจะหอบเงินหมื่นล้านแสนล้านมาลงทุนหรอกครับถ้ารัฐบาลง่อนแง่น ไม่มีเสถียรถาพ
❤❤❤❤❤ขอขอบคุณ 40 สว. สุดยอดมากเลยครับ
โดนเต็มๆอยู่แล้ว ข้อตกลงที่ทำกันไว้กับผู้นำทั่วโลก ใครจะมาลงทุนกับคนที่ตกลงกันไว้แล้วกำลังถูกพิจารณาพ้นตำแหน่ง
นายกสู้คะ
รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนท่วมท้น
องค์กรอิสระมีอำนาจแฝงเข้าแทรกแซง
เอากันให้พังไปข้างหนึ่งชาวบ้านมองตาปริบๆเมืองไทย
ฉันมั่นใจว่า AMS102H จะเพิ่มขึ้น 100 เท่าเหมือนที่คุณพูด
ฉันซื้อ AMS102H ที่ราคา 1 ดอลลาร์ แล้วฉันจะเก็บมันไว้จนถึงปี 2025 เมื่อมันได้ราคา 250 ดอลลาร์
ถ้าประเทศเรายังเล่นการเมืองแบบนี้แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างไร ประชาชนได้อะไร
ปัญหาอยู่ที่นายกv3
ขอมา หรือทษขอมา
ใช่หรือไม่???
ขายผ้าขาวม้าพอได้
นายกเดินทางไปเที่ยว ? : คนมีฐานะอย่างท่าน มีเงินมากพอจะพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนที่ใดก็ได้ในโลก...แต่นี่คือการเดินทางไปทำงานเจรจา สร้างมิตรไมตรีกับทุกประเทศ ทุกขั้วอำนาจ ดึงเงินลงทุนและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ...ท่านทำงานจันทร์ถึงอาทิตย์ เงินเดือนก็บริจาคช่วยเหลือเด็ก และผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาสหมด...ท่านคือผู้นำที่ยอดเยี่ยมของเราชาวไทยครับ
มือไม่พาย อย่าเอาเท้าราน้ำ : ท่านนายกนั้นพยายามเดินทางไปประชุมกับรัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากทั่วโลก ด้วยความพร้อมด้านเศรษฐกิจ ด้าน infrastructure ด้านทำเลจุดที่ตั้งของประเทศ และความพร้อมในด้านทรัพยากร รวมทั้งการเงินการคลัง เชิญชวนให้มาลงทุนในประเทศไทย....แต่แกนนำของบางพรรคการเมือง กลับอาศัยสื่อระดับโลกอย่าง BBC ประจานประเทศตนเอง ทำลายความเชื่อมั่นที่ท่านนายกพยายามจะสร้างมา เขาให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC "เศรษฐกิจไทยย่ำแย่แล้ว ย่ำแย่จนรัฐบาลต้องไปกู้หนี้มาแจก" ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลเขายืนยันมาตลอดว่า จะกู้เงินมาเพื่อ "กระตุ้นทางเศรษฐกิจ" ซึ่งรัฐบาลของหลายประเทศเขาก็ทำกัน...อย่างเมื่อปี 2564 ญี่ปุ่นได้กู้เงิน 55.7 ล้านล้านเยน มาเยียวยาประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 รัฐบาลเข้าอุดหนุนให้ราคาน้ำมันลดลง เพื่อลดราคาสินค้าในประเทศ มีการแจกเงิน(ครั้งเดียว) ผ่านระบบ Digital Wallet ให้ประชาชน ครอบครัวละ 100,000 เยน (30,000 บาท) และสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจ SME ตามขนาดของแต่ละธุรกิจ (mgronline.com/japan/detail/9640000114701)
นายกเยือนญี่ปุ่น : ไทยได้อะไร ?....th-cam.com/video/5_AEDe76l2c/w-d-xo.htmlsi=fqrXLNa4lBEs9t_J
💼✈️24.5.2567ขอบบคุณท่านนายกเศรษฐาทวีสินที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย&สระเงินเดือนที่ควรจะได้ให้มูลนิธิเด็กในไทยและสระเวลาอันมีค่าเพื่อพัฒนาประเทศไทยบินไปต่างประเทศเพื่อชวนผู้นำมาลงทุนในประเทศ🇹🇭คะ
ขอบุญบารมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองนายกรัฐมนตรีคนที่30ไห้พ้นรอดปลอดภัยและอยู่ครบเทอม4ปีครับ
การกระทำของ 40 สว.ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาลไทยในสายตาของนักลงทุนชาวต่างชาติ เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในการส่งเสริมการลงทุนนอกเหนือจาก กำลังการบริโภคภายในประเทศที่น้อย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทึ่สูง เมื่อเทียบเคียงกับประเทศคู่แข่ง...
ขอให้รีบๆๆไปทั้งคณะจะดีมากอยู่มาสิบเดือนยังไม่มีผลงานอะไรเข้าตา,ปชช,เอาชะเลยดีอย่างเดียวเดินสายใช้เงินภาษี,ปชช,ไปวันๆๆสนุกไม่ได้เหมือนเขลล์แมน
BOI เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 มีนักลงทุนจากต่างประเทศได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 724 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวม 228,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
(th-cam.com/video/anCvL1XukiM/w-d-xo.htmlsi=ocs3Cv3V2Wltrfx4)
ราคายางขึ้นทั่วโลกหรือไม่ ? ผมไม่ทราบ ยังไม่มีเอกสารหรือข้อมูลที่เชื่อถือได้อยู่ในมือ....รัฐบาลต้องการให้ชาวสวนยางขายยางได้ราคาดี (เกษตรกรไม่ใช่พ่อค้าส่งออก) การลักลอบขนยางเถื่อนเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ "supply" ยางในไทยนั้นสูงเกินจริง ทำให้ราคายางที่ตลาดกลางในจังหวัดต่าง ๆ รับซื้อในราคาที่ไม่สูง นั่น
คือการจัดการด้าน supply ในประเทศ...ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้เพิ่ม "demand" จากต่างประเทศ โดยการเจรจากับนายกฯ มาเลเซีย ซึ่งนำเข้ายางจากต่างประเทศกว่า 80% นายกฯมาเลเซียตกลงซื้อยางจากไทย...เหล่านี้จึงมีผลให้ราคายางสูงที่สุดในรอบ 10 ปีไงครับ
จีนลงนาม mou จะลงทุนราว 52,445 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์EV ในประเทศไทย
นายกเซลย์แมน : เพราะชาวไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินพอเลี้ยงชีพ...นายกฯ พร้อมผู้แทนการค้าไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคธุรกิจเอกชน จึงต้อง "ออกไปหาเงินเข้าประเทศ" และกระชับความสัมพันธ์กับนานาประเทศ เพราะการออกไปหาเงินเข้าบ้านคือประเทศนี่แหละ ไทยจึงขยายการส่งออกยางไปมาเลเซียและอีกหลายประเทศ มีผลให้ราคายางในประเทศสูงขึ้นแตะ 90 บาท/กก. ชาวสวนยางยิ้มได้ นอกจากยางพาราแล้วยังขยายการส่งออกข้าวไทยไปอินโดนีเซียอีกถึงปีละ 2,000,000 ตัน ทำให้ราคาข้าวของชาวนาขยับขึ้น สร้างรายได้ให้ชาวนากว่า 10 ล้านคน เพราะการออกไปหาเงินเข้าบ้านนี่แหละจึงสามาถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทย เฉพาะตั้งแต่ 1 มกรา - 30 เม.ย.67 ก็มากถึง 12 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศได้แล้วกว่า 580,000 ล้านบาท เพราะการออกไปหาเงินเข้าบ้านนี่แหละ วันนี้บริษัทผลิตรถยนต์EV ยักษ์ใหญ่ของโลก TESLA ได้ส่งทีมงานมาหาซื้อที่ดินแถบลาดกระบังประมาณ 2,000 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถ EV ในไทย ขณะที่ 4 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ตกลงขยายการลงทุนในไทยเพิ่มอีก 150,000 ล้านบาท...นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของตัวอย่างรายได้ที่ไทยได้รับจากการเหนื่อยยากในการเดินทางไปประชุมกับสหประชาชาติ และนานาชาติ 14 ครั้งที่ผ่านมาของนายกฯ "เศรษฐา ทวีสิน"....
คุณคงลืมไปหรือเปล่า ? ว่า ก็พรรคก้าวไกลนั่นแหละที่ยื้อ ดันทุรัง จะให้ "พิธา" ได้เป็นนายกฯให้ได้ และยังกอดแน่นอยู่กับนโยบายแก้ ม.112...ก้าวไกลเสนอพิธาเป็นนายก ทั้ง ๆ ที่สว.และสส.เกือบทุกพรรค รับไม่ได้กับนโยบายแก้ม.112...แม้รวมเสียงกัน 8 พรรค พอเสนอชื่อ "พิธา" เข้ารัฐสภา กลับถูกปัดตกไป...แต่ก็ยังยื้อที่จะเสนอชื่อพิธาเป็นนายกอยู่อีก ยังยืนยันนโยบายจะแก้ม.112 อยู่อีก หลังล็อบบี้อยู่เกือบเดือน ก็เสนอเข้ารัฐสภาอีก ตามกฎหมายระบุชัดว่า จะเสนอญัตติซ้ำ เนื้อหาเดิม เข้าสภาในสมัยประชุมเดียวกันมิได้...พอเสนอชื่อพิธาในครั้งที่ 2 รัฐสภาได้ลงมติให้ญัตตินั้นตกไปอีก...นั่นแหละจึงส่งไม้ต่อให้เพื่อไทย...รวมเวลาการเลือกนายกฯ นานถึง 4 เดือน...แม้จะเร่งรีบจัดตั้งรัฐบาล ก็ปาเข้าไป 13 ก.ย.66 รัฐบาลใหม่จึงมีอำนาจเต็มในการบริหารบ้านเมือง....แต่งบประมาณปี 67 จะต้องเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 66...รัฐบาลและสภาจึงไม่สามารถผ่าน พรบ.งบประมาณปี 67 ได้ทันตามกำหนดเวลา...8 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลจึงยังไม่มีงบประมาณปี 67 ใช้ แม้จนถึงปัจจุบัน