ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
น่าจะมาจากนครวัดหลังจากที่พระเจ้าแตงหวานยึดนครได้เนื่องจากวัฌนธรรมในราชสำนักก็นำมาจากเมืองพระนครและยังได้นำชื่อ สยามที่สลักอยู่ที่กำแพงนครวัดมาเป็นชื่อประเทศด้วย และกรุงศรีอยุธยาก็ตั้งเมืองพระรามตามความเชื่อของพราห์ม ฮินดูเหมือนนครวัดและเหตุสนับสนุนอีกตั้งเมืองอยุธยาแล้วได้ยกทัพไปตีเมืองพระนครเพื่อเป็นแก้แค้นต่อมาจากความเชื่อว่าขอมหนีตายจากพระนครมาสร้างเมืองอยุธยาน่าจะไกล้ความจริงมากกว่า
น่าจะใช่ค่ะเท่าที่อ่านมาค่ะ
@@namphurng-nectar6036พระเจ้าอู่ทองเป็นราชบุตรเขย ของพระเจ้าไชยสงครามผู้ปกครองอาณาจักรล้านนา..
ฉันคิดว่าพระเจ้าอู่ทองอพยพมาจากลพบุรี เพราะเอกสารว่าอพยพลงมาทางใต้กินเวลา2วันเมื่อสังเกตสิ่งก่อสร้างสมัยอยุธยาตอนต้นเป็นปรางค์แบบขอม แต่มเหสีของพระเจ้าอู่ทองคือคนสุพรรณ ขุนหลวงพระงั่วคือพี่พระมเหสีเมื่อมาอยู่ที่อยุธยาแถวเวียงเหล็กบริเวณวัดพุทไธสวรรค์
เป็นไปได้เพราะนักวิชาการพม่าที่ออกรายการโยเดียที่คิดถึงได้ไปคุยกับทายาทผู่ถูกกวาดต้อนไปตอน เสียกรุงพวกเขายังนับถือกราบไหว้พระรามพระลักษณ์กันสืบทอดมาและเนื้อเรื่องก็ถูกสลักที่กำแพงนครวัดจนทุกวันนี้
@@piyachatpeeta3162 +1
อยากบอกคนไทยทุกคนให้ระมัดระวังการใช้ คำว่า ข-อ-ม ในภาษาไทย ...พอเอาไปแปลในกูเกิ้ลทรานสเลท มันจะแปลเป็นคำว่า ខ្មែរ (Khmer) ทันที ... เลยมีคนเขมรที่แปลอะไรก็ตามมาจากอินเตอร์เนท อะไรก็ตามที่มีคำว่า ข-อ-ม จะถูกแปลว่าเป็นเขมรในภาษาของเขา ... ดังนั้น ไม่ว่าคนไทยจะพยายามอธิบาย คำว่า ข-อ-ม แบบไหนก็ตาม เช่น "ปราสาทเป็นอารยธรรมข-อ-ม" หรือ "ข-อ-ม เป็นคนสร้างปราสาท" พอเขาใช้กูเกิ้ลทรานสเลทแปลเป็นภาษาของเขมร มันจะถูกแปลว่า "ปราสาทเป็นอารยธรรมเขมร" หรือ "เขมร เป็นคนสร้างปราสาท" ทันทีครับ ... ไม่ว่าจะทำคลิป หรือ อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่มีขีดคร่อม คำว่า ข-อ-ม กูเกิ้ลก็จะแปลผิดๆ เป็นเขมรทันที ... มันเลยเกิดการโต้เถียงจากกลุ่มคนที่ใช้วิธีแปลประวัติศาสตร์ในอินเตอร์เนท แปลมันทุกอย่างว่า ข-อ-ม เป็นของเขมร ... โต้เถียงกับเขาไปก็เท่านั้น เพราะ เขาก็จะเข้าใจว่า วิกิ ยังบอกว่าเป็นของเขมรเลย บลาๆๆๆ
ต้องพิมพ์ คำว่า กรอม จึงจะเป็น ขอม
เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ.. มิน่าเขมรเถียงหัวปักหัวปำเรื่องขอมโบราณตลอด 👍👍
คำว่ากรอม มาจากคำมอญ ว่า กล็อม แปลว่าคนดุหรือผู้กล้า อยุธยามาจากชาวทวารวดี หรือดวารกา เมืองพระกฤษณะ อยุธยายุคเรกใช้อักษรมอญ คำว่าอู่ เป็นภาษามอญแปลว่บริสุทธิ์ ทองก็มาจากภาษามอญ คือ ทอ หมายถึงทอง แปลรวมว่า ทองบริสุทธิ์ หรือ ทองแท้ ไม่ใช่พานทองเค งั่ว คุณว่าเป็นภาษาไทยเหรอ ถามแปลว่าอะไร แต่ภาษามอญ แปลว่าสุริยะหรืออาทิตย์ เป็นนักวิชาการปรัวัติศาสตร์แต่ไม่รู้ภาษาจารึกแม้แต่คนเดีบว ก็ไม่เรียนรู้กันเอง ฝรั่งจะรู้เหรอ อย่าอ้างพงศาวดาร เพราะะมาจาการแต่ง สยามประเทศเดิมพูดและภาษามอญ อักษรมอญ พบที่จารึกนครวัด คนที่ยังพูดภาษามอญโบราณ พบที่อำเภอเทพสถิตย์ ชัยภูมิ คิอชาวบนหรือ ญะฮกุร และที่กัมพชา เขมรเรียกว่าจะแมน์มอญ พูดภาษามอญได้ พระสังฆราชกัมพูชาเป็นขะแมร์มอญ มีคนขะแมร์มอญคนนึงเขาบอกว่าบรรพยุรุษสร้างนครวัด ตัวอักษรจารึกก็เป็นอักษรมอญ ใครไม่ยอมรับ หาหลักฐานมา แย้งสิ
ไทยมีเอกราช มีประเทศ สมัย ร.9นี้เอง ก่อนหน้านั้นเป็นเมืองขึ้นหมดเลย
@@user-kj9vu4zp5c สมัยพระนเรศ ไม่ได้เป็นเมืองขึ้น ฝรั่งยังกลัว ใครทำผิดโดยลงโทษโดยเอาทอดในน้ำมันเดืดดๆให้ตายช้าๆ
มาจากนครวัด ดูกลับไปตีนครวัดคืน
จริงๆ เราไม่ต้องศึกษาอะไรแล้ว..เพราะชาวอยุธยาบันทึกไว้แล้ว..ว่าพระเจ้าอู่ทองสืบมาจากราชวงศ์นครวัดฝ่ายบิดา..ส่วนแม่ก็น่าจะสายลุ่มเจ้าพระยานี้เอง..และปกครองเมืองเพชรบุรีก่อนมาครองอยุธยา..เพราะขณะนั้นประเทศไทยอยู่ในยุครณรัฐไม่มีใครเป็นใหญ่กว่าใคร
แล้วทำไมถึงยกทัพไปตีนครวัดในสมัยนั้น และในรูปที่กำแพงก็ยังมี การแกะทัพเสียม(สยาม) ทัพละโว้ ไว้ด้วย การล่มสลายในนครหนึ่ง ก็มักจะเกิดอีกนครหนึ่งเสมอครับ
ตอนพระเจ้าอู่ทองยกทัพไปตีเมืองนครวัดนั้นเมืองละโว้ก็ยังมีอยู่ แต่ต่อมาเมื่อตีเมืองนครวัดแตกพระเจ้าอู่ทองจึงได้ต้อนเอาชาวเขมรมาที่อยุธยาและเมืองละโว้ด้วยในตอนนั้น ที่พระองค์ไปตีเมืองนครวัดแตก เพราะไปแก้แค้นให้พระบิดา ที่ถูกนายแตงหวาน หรือเจ้ากระซอกกะแอม หัวหน้าทาสที่รวมตัวกันตีเมืองนครแตกและจับพระเจ้าชัยวรมันไปฆ่า และไล่ฆ่าทหารและระดับขุนนางระดับสูงตายไปมากมาย ที่หนีตายออกมาได้ก็กลับมาที่สยาม มารวมตัวกันแล้วได้กลับไปตีเมืองนครคืนมาและจับตัวหัวหน้ากบฏนายแตงหวาน(กระซอกกระแอม)หลังจากตั้งตนขึ้นปกครองเมืองได้ไม่นานเพียงสี่ปีเท่านั้น หลังจากพระเจ้าอู่ทองจับตัวนายแตงหวานมาได้ก็เอามาตัดหัวแล้วเสียบประจานหัวเมืองให้ชาวเขมรดู เพื่อข่มขวัญไม่ให้คนพวกทาสกระด้างกระเดื่องอีกต่อไปเพื่อจะได้ปกครองมันได้. เต้าแตงหวาน กระซอกกระแอม คือคนเขมร ที่เป็นบรรพบุรุษของคนเขมรที่แท้จริง "ไม่ใช่ชาวขอม"ผู้สร้างเมืองและปกครองเมือง"ขอม"ผู้เป็นเจ้าปกครองเมืองเป็นชาวอินเดีย แล้วได้มาแต่งงานกับพระราชธิดาของกษัตริย์เมืองในดินแดนสยามในตอนนั้น แต่ชื่อเมืองจำไม่ได้เพราะในตอนนั้นยังไม่ได้รวมกันเป็นสยาม เพราะฉะนั้น "ขอมเจ้าครองเมืองนครวัดจึงเป็นบรรพบุรุษของชาวสยามที่แท้จริง ในบันทึกที่อยู่ในกำแพงวัดนั้น ได้เขียนถึงประวัติศาสตร์ทหารเสียมละโว้ และมีเกี่ยวกับศาสนาฮินดู มีพวกทาสชาวเขมรและวัฒนธรรมหลายๆอย่างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้นที่ผู้สร้างเมืองได้ให้ช่างสมัยนั้นแกะสลักใว้ไงล่ะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสยาม ก็เพราะเมืองนี้นั้นบรรพบุรุษของคนสยามได้สร้างขึ้นมานั่นเอง!!ไม่ใช่คนเขมรสร้างแต่อย่างใด.หลังจากที่นครวัดล่มสลาย เพราะเจ้าอู่ทองได้ก่อตั้งเมืองอยุธยา หลังจากที่เมืองละโว้ได้ล่มสลายลง พระองค์เป็นเจ้าองค์แรกที่ก่อตั้งเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นมาและได้รวมเมืองละโว้เข้าด้วยกันเป็นพระนครศรีอยุธยานั่นเอง.
ไปตีชิงเมืองคืนจากกบฏที่ปล้นฆ่าเอาของๆเขาไป
ความเห็นของผมพระรามาธิบดีที่ 1 น่าจะเป็นขอมมาจากละโว้ พอท่านมาสร้างกรุงศรีอยุธยา ยังให้บุตรชาย ตำแหน่งพระราเมศวรไปครองละโว้เหมือนพระหน่อพุทธางกูรเป็นอุปราชอยู่เมืองพระพิษณุโลก พอได้ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา ก็ให้พระชัยราชาเป็นอุปราชไปครองพิษณุโลกชอมละโว้กับขอมนครวัตรเป็นญาติกัน เพราะตอนพวกจามมาตีเมืองพระนคร พระเจ้าชัยวรมันที่7 สู้ไม่ได้หนีมาละโว้ ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากละโว้ ยกทัพไปชิงเมืองพระนครคืนและเลยตีเมืองจามจนได้เมืองจาม จึงกวาดต้อนคนจามทั้งเชื่อพระวงศ์มาเมืองพระนคร ส่วนคนธรรมดาก็เอามาเป็นทาสจนลูกราชวงค์คนหนึ่งรวมกำลังกับพวกทาสยึดอำนาจจนสำเร็จตั้งราชวงศ์ใหม่ส่วนขอมราชวงศ์วรมันรอดก็หลบหนีมาละโว้ และมาสร้างกรุงศรีอยุธยา คือ พระรามาธิบดีที่ 1 ภาษาและสิ่งต่างๆในราชสำนักใช้แบบอย่างขอมทั้งสิ้นจนพระเจ้านครอินทร์มายึดกรุงศรีอยุธยาได้ จึงได้เรื่มพูดภาษาตระกูลไท-ไตพระรามาธิบดีที่ 1 ยังแค้นไม่หาย เมื่อกรุงศรีอยุธยาเข้มแข็งแล้วจึงให้พระราเมศวรไปตีล้างแค้น พระราเมศวรสู้ไม่ได้ จึงให้ขุนหลวงพะงั่วไปช่วยตีโดยตกลงจะยกบัลลังก์กรุงศีฯให้ ต่อมาพระรามาธิบดีตาย พระราเมศวรขึ้นครองแทน ขุนหลวงพะงั่วยกทัพมาทวง พระราเมศวรยอมยกให้โดยดี และกลับไปครองละโว้ต่อ
เห็นด้วยครับ
สอดคล้องกับคำสาบแช่งที่จารึกปราสาทสด๊กก๊อกธมที่สาบแช่งพวกขุนนางที่ร่วมก่อกบฏกับแตงหวาน ในพงศาวดารพระเจ้าอู่ทองให้พระราชโอรสยกทัพไปปราบขอมแปรพักตร์ก็น่าจะเป็นพวกขอมที่ไปเข้ากับพวกจามล้มล้างราชวงศ์วรมัน
พระเจ้าอู่ทองเป็นชาติพันธุ์ข.ละโว้ สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์วรมัน น่าเชื่อถือที่สุด เพราะ1.เมื่ออยุธยามั่นคงจึงไปปราบกัมพูชา เพื่อล้างแค้น2.ตอนต้นอยุธยา จะมีชิงราชสมบัติระหว่างสุพรรณภูมิ-ละโว้ มีความเกี่ยวดองกันตั้งแต่ต้น3.อยุธยาเป็นชัยภูมิเหมาะในการขยายดินแดน และการค้า แต่กัมพูชาก็แว้งกัดตลอด เมื่อมีโอกาศก็แยกเป็นอิสระ4.ถ้าพระเจ้าอู่ทองเป็นชาวจีน ก็ไม่มีเหตุจำเป็นในการปราบกัมพูชา5.พระนามอู่ทองก็ไม่จำเป็นต้องมาจากเมืองอู่ทอง6.เจ้าชายแสนปมน่าจะเป็นนิทานปร่ำปรามากกว่า เหมือนนิทานไกรทองเป็นต้น
ศิลาจารึกพระเจ้าอู่ทองเป็นภาษาไทย
@@airiarisaka5699 ศิลาจารึกพระเจ้าอู่ทองเป็นภาษาไทยไม่มีนะ เพราะจารึกอยุธยาตอนต้นเป็นอักษรมอญ
ไปอ่านคอมเม้นผมเลยจะเข้าใจขอมสยาม
@@airiarisaka5699 สมัยพระเจ้าอู่ทองใช่ตัวอักษรมอญครับ ไทยไม่เกี่ยว
@@user-yr3df8rz3z ยังไม่คนไทยอ่านภาษาศิลาจารึกได้ การสรุปอาจจะผิดพลาดได้
น่าสนใจมากๆ ชอบอ่านเม้นท์ของหลายๆท่านหลายๆช่อง สมัยนี้ดีที่มีช่องทางให้เราได้ความรู้กลากหลาย ไม่เหมือนเมื่อก่อน อ่านแต่แบบเรียนของกระทรวงฯ ซึ่งบางทีเราก็รู้สึกสะดุดๆมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ไม่ว่าเราจะเป็นใครมาจากไหนหรือเป็นพันธุ์ผสมเราก็เป็นคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ
ผมแนะนำอย่างนี้นะ การที่เราจะสืบค้นอะไร อย่าเอาหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดมาเป็นหลักยึด เช่นพงศาวดาร มันจะหาความจริงต่อจากนี้ไม่ค่อยได้ ให้เรายึดตามหลักฐานจริงที่มี และข้อมุลใหม่มาประกอบกัน
ผลการศึกษาหลักๆ พบว่าดีเอ็นเอของคนไทยในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน คนเมืองซึ่งเป็นประชากรหลักในภาคเหนือของไทย มีดีเอ็นเอคล้ายกับชาวไดจากสิบสองปันนา ประเทศจีนตอนใต้ ส่วนคนอีสานมีดีเอ็นเอที่มีการผสมผสานระหว่างกลุ่มประชากรที่พูดมอญ-เขมรกับดีเอ็นเอของคนไทยในสิบสองปันนา ซึ่งดีเอ็นเอของคนอีสานมีความต่างระหว่างชายกับหญิง คนลาวอีสานเพศหญิงมีดีเอ็นเอเหมือนคนไทยสิบสองปันนา ในขณะที่ผู้ชายอีสานมีดีเอ็นเอเหมือนคนมอญ-เขมร น่าจะบ่งบอกเหตุการณ์ในอดีตและรูปแบบของการอพยพในการอพยพของคนลาวอีสานน่าจะเป็นการอพยพมาทั้งชายและหญิงกลุ่มใหญ่ แต่เนื่องจากประชากรที่เป็นประชากรดั้งเดิมที่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานปัจจุบันเป็นคนกลุ่มมอญ-เขมรมาก่อน เมื่อเกิดรูปแบบการแต่งงาน ทำให้ดีเอ็นเอของคนอีสานในปัจจุบันเป็นแบบนี้ส่วนคนไทยภาคกลางและภาคใต้มีดีเอ็นเอที่เหมือนดีเอ็นเอของชาวมอญ และยังพบว่าดีเอ็นเอของคนภาคกลางและภาคใต้ยังมีบางส่วนเหมือนกับชาวอินเดียตอนใต้ ซึ่งแสดงถึงการผสมผสานทางพันธุกรรมจากเอเชียใต้สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถประมาณอายุได้ 600-700 ปี ซึ่งตรงกับสมัยอยุธยาของไทย งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่บ่งบอกถึงรายละเอียดโครงสร้างพันธุกรรมของคนไทยในแต่ละภาคว่ามีความแตกต่างกันและแตกต่างกันอย่างไร ผมได้รับเกียรติจากวารสาร MolecularBiology and Evolution ให้ออกแบบภาพลงปกวารสารด้วย เป็นภาพของสุโขทัยและมีเกลียวดีเอ็นเอตรงศูนย์กลางและมีแสงรัศมีแตกออกจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของดีเอ็นเอของกลุ่มคนในประเทศไทย"คัดลอกมาจาก themomentum บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.วิภู กุตะนันท์ เป็นนักชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เชิงมานุษยวิทยา เขียนรายงานในหัวข้อ Reconstructing the Human Genetic History of Mainland Southeast Asia:Insights from Genome-Wide Data from Thailand and Laos ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Biology andEvolution ฉบับเดือนสิงหาคม 2021
พระรามาธิบดีที่1 มาจากละโว้แน่นอน เพราะส่วยจากทุกหัวเมือง ที่เคยส่งละโว้ ให้ย้ายไปส่งอยุธยา แค่นี้ก็สรุปได้จบแล้ว พระรามาธิบดีที่1 คือ ขอมละโว้ที่กลายเป็นไทย ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมืองสุพรรณ และเมืองอู่ทองที่ยืนยันเช่นนี้เพราะ เรียกใช้ขุนหลวงพระงั่วเจ้าเมืองสุพรรณได้เมื่อคราวที่พระราเมศวรไปตีเขมรแล้วเพลี่ยงพล้ำ พระรามาธิบดีที่1ให้เรียกพระงั่วจากสุพรรณยกทัพไปช่วยหลานแสดงว่า มีศักดิ์ใหญ่กว่าสุพรรณ และมีความสัมพันธ์เครือญาติกันด้วย แล้วทำไมถึงเรียกพระเจ้าอู่ทองที่เรียกเพราะ มีพงศาวดารบันทึกไว้ว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นกษัตริย์องค์แรกของอยุธยา คนจดบันทึกไม่อาจแก้ไขพงศาวดาร ก็เลยใส่ทั้ง2ชื่อลงไป อู่ทองก็เรียก รามาธิบดีที่1ก็เรียก พระรามาธิบดีที่1 ไม่ใช่เจ้าเมืองอโยธยาเดิม ลองคิดดู ละโว้เป็นใหญ่ปกครองภาคกลางอยู่ ถ้าอโยธยาจะขึ้นเป็นใหญ่ก็ต้องรบกัน การสร้างอยุธยาเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ทำโดยละโว้นั่นล่ะ เป็นการย้ายเมืองหลวงของกลุ่มอำนาจเก่าละโว้ย้ายมาอยู่อยุธยา เพราะทำเลค้าขายกับต่างชาติสะดวกกว่า เรือสำเภาเข้าออกสะดวก เงินทองไหลมาเทมา เรื่องทั้งหมดก็คือ ลูกพี่ใหญ่ย้ายเมือง ก็แค่นั้นแหละ หลักฐานที่บอกว่า ขอมละโว้กลายเป็นไทยที่สำคัญ คือ การตั้งชื่อกษัตริย์ หากเป็นการตั้งชื่อแบบทมิฬนาฑูจะลงท้ายด้วย "วรมัน" แต่ตั้งแต่พศ.1595 ชื่อกษัตริย์ละโว้กลายเป็นชื่อไทยไปแล้ว เช่น พระเจ้าจันทรโชติ, พศ.1612 พระเจ้านารายน์ราชกุมาร, พศ.1632 พระเจ้าหลวง , พศ.1654 พระเจ้าสายน้ำผึ้ง , พศ.1708 พระเจ้าธรรมมิกราช, พศ.1748 พระเจ้าอู่ทอง ...............ไปจนถึงคนสุดท้ายที่ครองละโว้คือ พศ.1887 พระรามาธิบดีที่1 และย้ายไปอยู่อยุธยาในพศ.1893
ถ้านับตามไทม์ไลน์นี้ พระเจ้าอู่ทองคือ อินทรวรมันที่2 ซึ่งผมว่าคลาดเคลื่อน มีพระเจ้าสุวรรณราชาอีกองค์ สุวรรณแปลว่า = ทอง สุวรรณราชา = พระเจ้าอู่ทอง
เรียบเรียงน่าอ่านมาก มีตรรกะคงเหลือแต่หลักฐานประกอบ
น่าแปลกไหมที่อโยธยาใช้รูปแบบอักษรขอมไทยโบราณมานานหลายร้อยปีและใช้ร่วมกับอักษรไทยจากราชวงศ์สุโขทัยจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์และเพิ่งจะมีการยกเลิกการเรียนการสอนไปเมื่อไม่นานมานี้
มาจาก กรุงอโยธยา
ตำนานเท้าแสนปมบ้านผมที่ จ.กำแพงเพชรก็มีนะครับ มีรูปปั้นท้าวแสนปม มีเมืองเก่า และที่สำคัญมีเมืองเทพนครด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลครับ
ลูกหลานพระเจ้าชัยวรมันที่7.สุพรรณบุรีมาจากไหน.เราเป็นขอมที่ยิ่งใหญ่นี่แหระชำแหระประวัติศาตร์ใหม่ได้แล้ว
เจริญพร
ท่านมาจากฝั่งสุพรรณแน่นอน เพราะพระญาติของพระองค์ก็ล้วนแต่เป็นคน สุพรรณ
มันพยามไม่ให้รู้ว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากชัยวรมัน มันบิดเบือนนานแล้ว
ขอบคุณครับ
เมืองอู่ทอง คือ ท่าค้าขายของชาวสยาม ที่ต่างชาติจะเอาทองมาแลกสินค้า พริบพรี คือเมืองหลัก มีปากน้ำอยู่ที่ ชุมชนอู่ทอง(ปากน้ำ ยังไม่มีชื่อ) พอมีคนมาผูกสายกับเจ้าเมืองพริบพรี ก็มาสร้างเมืองขึ้นที่ปากน้ำ เลี้ยงลูก ชายในอู่ที่ทำจากทอง นั้น เมืองนี้จึงได้ชื่ออู่ทอง ส่วน เมืองอู่ข้าว จะอยู่ที่ จ.นครสวรรค์สมัยหลัง พระเจ้าอู่ทอง ก็เป็นแค่ชื่อเจ้าเมืองไป ส่วนบุคคล พอไปครองเมืองอื่น อัพตำแหน่ง ก็ได้ชื่อใหม่ เช่น1.ชัยวรมันที่ 8(ปรเมศวร) คนนี้ พระเจ้าอู่ทอง ที่ถูกเลี้ยงในอู่ที่ทำจากทอง คนนี้ คือ ลูก(เลี้ยง) ของท้าวแสนปม(เพราะสุ่มทำนายหาพ่อ) ซึ่งท้าวแสนปม ได้คู่กับ ลูกของเจ้าเมืองพริบพรี หรือลูกสาวคนโตของ ศิริชัยเชียงแสน อันเป็นชาว สยำกุก หรือสยามลุ่มน้ำกก(เชียงแสน) ที่อพยพเมื่อ ท้าวพรมมหาราช(วรมันมหาราช) สิ้นพระชมน์ จนเจอ มอญ บุก สายนี้ไม่มีสิทธิ์ครองราช เลยอพยพลงมา ตามลำน้ำติดชายเขาที่เป็นชายแดนระหว่าง ขอม และมอญ จึงเป็นชาวสยำกุก ที่อพยพลงมาเป็นกลุ่มแรกและได้เกี่ยวข้องกับขอมเป็นกลุ่มแรก(ในที่นี้ สยำ หรือสยาม อาจมีหลายกลุ่ม แต่กบุ่มนี้ คือ สยำกุก หรือ สยามที่ตั้งอาณาจักรในขอบเขตลุ่มน้ำกก เพื่อประกาศเอกราชา ไม่ส่งส่วยขอมเมืองพระนครยโสธรปุระ)ท้าวแสนปม หรือพระเจ้าขี้เรื้อน ผู้เขย สยำกุก ก็ประกาศตัวเองเป็น ท้าวไชยเทพศิริเชียงแสนแห่งแคว้นอโยธยา ข้อนี้ ชี้ชัดว่า คนๆนี้ วางแผน ผูกสายกับชาวสยำกุก เพื่อสร้างฐานอำนาจ ขึ้น จากนั้นคนๆนี้ ก็ยกทัพผสม อาสาไปตี ลานสุกะ (ด้วยเหตุปลูกต้นโพธิ์ เสมอตนเอง) ตีได้จึง ให้พ่อตาไปครอง พ่อตา(ศิริชัยเชียงแสน) เลยสร้าง เมือง นครศรีธรรมราช ขึ้น เปลี่ยนชื่อเป็น พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช(คนที่ 1)ย้อนเรื่อง มาที่ พระเจ้าอู่ทอง คนแรก จึงเป็นหลาน ของ ศิริชัยเชียงแสน โตในอู่ทอง ตอนสร้างเมืองอู่ทอง เป็นเมือง(มีกำแพง+ประตูเข้าออก) ซึ่งก็ได้ครองเมือวอู่ทอง เมื่อโตขึ้น เพราะพ่อครอง ละโว้โยธยา คือท้าวไชยเทพศิริเชียงแสน ซึ่งร่วมมือกับสยำกุก นี้ ยึด 1)ศรีวิชัย คือ ลานสกา หรือนครศรีธรรมราช2) ยึดสุโขทัย (จากมอญเพราะมอญบุกมาตีไปจากขอม) โดยพ่อศรีนาวนำถม และชนะมอญ มอญกลายเป็นเมืองขึ้น3)สยำกุก ก็ร่วมมือ แบบสหราชอาณาจักรหรือพันธมิตร4)จามปา บุกตีเมืองพระนคร ไชยเทพฯ เลย อาศัยจังหวะนั้น ไปตบจามปา ที่โตเลสาบ จึงยึดเมืองพระนครได้ ก่อนไปครองในชื่อ ชัยวรมันที่ 7(อายุตอนนี้ราวๆ 70 กว่าปีแล้วสำหรับ ชัยวรมันที่ 7 ครองราชอีก 20 กว่าปี)5)ตบจามปา ยึดจามปาได้6)ตบ โจฬะอินเดียใต้ ยกทัพ อาเซียน ไปตบ อินเดียใต้ ที่บุกยึด เกาะศรีลังกา(สงครามศาสนา ไปช่วยชาวพุทธ เพราะ เกาะศรีลังกาตอนนั้นเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา สายเถรวาท ส่วนอาเซียนเป็นแบบมหายาน) พระเจ้าอู่ทอง(คนแรก) จึงได้ครอง เมืองพระนคร ในชื่อ ชัยวรมันที่ 8 ตกสมัยที่ครองราช จันทรภานุ ที่เป็น ลูกพี่ลูกน้อง(ชัย8 คือ ลูกของผู้พี่ชัยเทวีในชัย 7 ส่วนจันทรภานุเป็นลูกของผู้น้องคือ พระยามาฆะ ซึ่งทั้ง 2 เป็นลูกของ ศิริชัยเชียงแสน) ก็แยกอาณาจักร (พร้อมพร้อมกับ ขุนยี่ที่ตั้งสุโขทัย พ.ศ. 1800 โดยขุนยี่ ก็เป็นลูกคนที่ 2 ของศิริชัยเชียงแสนหรือเป็นน้าของ ชัย 8 และเป็นลุงของ จันทรภานุ) เพราะชัย 8 ทำลายศาสนาพุทธ ถือฮินดูไศวะนิกาย ชัย 8 เลยยกทัพมาตี และ มาส่งทูตที่ลังกาสุกะ สมัยจีนหยวน ขากลับ จึงมาขุดศิวะลึงค์ ที่ไชยา กลับไปด้วย สุดท้ายคนนี้ ก็ถูก อินทรวรมันที่ 3 (ชาวสยาม ลูกชายของคำแหงพระราม) ที่เป็นเขยหลวง ชิงอำนาจ จบ ตำนาน พระเจ้าอู่ทองคนแรกที่ชาวสยำกุก จะเรียกว่า พระเจ้าอู่ทอง อยู่เลยแม้จะไปครองเมืองอื่นแล้ว และชี้ชัดว่า เมืองพระนคร ทำเลห่วยแตกมาก ถึงขั้นที่จะต้อง อ้อมมาส่ง ทูตไปจีน ทาง ลังกาสุกะ กันเลยทีเดียว เพราะออกปากน้ำโขงไม่ได้ มีจามปา คุมอยู่ ซึ่งเป็นเหตุให้ อาณาจักรนี้ ค้าขายกับชาวโลกไม่สะดวก แล้ว จนเสื่อมลงๆๆๆ ตนถึงทุกวันนี้ เพราะเหตุนี้(แต่ดันโทษโน่นนี่นั่นไปทั่ว ไม่ยึดปากแม่น้ำตัวเองให้ได้ทั้งที่ใกล้นิดเดียว ก็เลยจบข่าว กลายเป็นแค่ประเทศราช ยาวๆ)(มีต่อ----->)
(ต่อ)2.พระเจ้าอู่ทองคนที่...(คนต่อมาละกันไม่แน่ชัดลำดับ)คนนี้ เป็นพ่อตา ของ รามาธิบดีที่ 1(อู่ทอง+อยุธยา) และ ขุนหลวงพระงั่ว(สุพรรณ) คนนี้สำคัญที่ทำให้ สุพรรณ+อยุธยา เกี่ยวดองกัน แล้วทำให้เกิดประเทศ ไทย ในปัจจุบันขึ้น ตรงๆ แต่ ปวศ. ตามไม่ถึง คนๆนี้เลยแต่บทบาทก็มีน้อยเช่นกันแต่ลูกสาวกับเชื่อมชายสำคัญ 2 คน ให้ร่วมมือกัน ยุคนี้นัวมาก อาเซียนกำลังเกิด ความแตกแยกและอาณาจักรยิบย่อย มากมาย และพระเจ้าอู่ทองคนนี้ ก็เชื่อสาย สลวงสองแคว หรือสาย คำแหงพระราม หรือสาย พ่อขุนผาเมือง+สิงขรเทวี ที่ครอง นครศรีธรรมราช จรด พิษณุโลกสองแคว มารวมกับ สุพรรณของขุนหลวงพ่องั่ว กลายเป็น อยุธยา สืบมา กรุงธนฯ และกรุงเทพฯ แบบตรงๆ และสายเชื้อวงศ์ ยังคงสืบมาถึง ราชวงศ์ของไทย ในปัจจุบัน คนๆนี้จึงสำคัญ มากๆ แต่ ปวศ. ดันไปให้ความสำคัญ กับ สาย สุโขทัย ที่ ผสมๆ ล้านนา ของพญามังราย มากกว่า ในยุคนี้ ถึงขั้นระบุว่า รุ่งอรุณแห่งสยามประเทศ คือสุโขทัย แต่ ก็ญาติๆกันอยู่ดีอะนะ เครือสยำกุก ท้าวพรมมหาราช+ขอมวรมัน กันอยู่ดี3.พระเจ้าอู่ทอง คนที่สร้างอยุธยา ขึ้น คือ รามาธิบดีที่ 1 และ พระเจ้าอู่ทอง คนสุดท้าย เพราะเมืองอู่ทอง ทำเลแย่มาก จนไม่เหมาะในการตั้งเป็นเมือง เพราะแม่น้ำเปลี่ยนทิศ กลายเป็นแค่คลองเล็กๆ ประจบกับ พ่อของรามาธิบดีที่ 1 ที่ยึดครอง ละโว้โยธยา ได้ ครองเมืองละโว้ อยู่นั้น พระเจ้าอู่ทอง จึงมาสร้างเมือง อยุธยา ข้างๆ เมืองอโยธยา ที่ถูกทำลายพุทธศาสนาสถานสมัย ชัย 8 และน่าจะใช้ซากกำแพงเมืองของ อโยธยา+เมืองพริบพรีอู่ทอง ในการสร้างอยุธยาซึ่ง หากสืบสายตระกูล รามาธิบดีที่ 1 ก็จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ อินทรวรมันที่ 4 ซึ่งเป็นหลานของ คำแหงพระรามและเป็นเหลนของ พ่อขุนผาเมือง(ลูกชายของพ่อศรีนาวนำถม/หลานตาของท้าวพรมมหาราช)+พระนางสิงขรเทวี(ลูกสาวชัย 7/น้องสาวของอินทรวรมันที่ 2และชัย 8) หรือเป็นน้า(ศักดิ์) ของชัยวรมันที่ 9(วรมันคนสุดท้ายที่ถูกแตงหวานฆ่าตายเคลมเมือง)วรมัน คือ ยศ ของสาย พุทธมหายาน ข้อเสีย คือ ถูกไศวะตีเนียน ยึดอำนาจ ตลอด เคลมเมืองตลอดอยุธยา จึงเปลี่ยนมาถือ คติ พุทธเถรวาท นักบวชไศวะ หมดหน้าที่ ในการราชาภิเษก ทำพิธีขอมและอารยธรรมขอมเก่าๆ ไม่ได้ เหมือนเพื่อนบ้าน ขอมสยามนั้นเปลี่ยนมาเป็นพุทธเถรวาทหมดแล้ว จึงไม่เป็นขอมแต่เป็นไทพุทธ
ในความคิดของผมเองคิดว่าอโยธยาน่าจะเป็นเมืองท่าขนาดเล็ก สมัยละโว้
น่าจะจริง
เป็นใครมาจากใหนไม่รู้ ที่แน่ๆ ขอมไม่ใช่เขมร
ในอดีตจะเป็นใครเชื้อสายอะไรเราไม่รู้ รู้แต่ง่าปัจุบันฉันเป็นคนไทยและไม่อยากเป็นคนชาติอื่น
ขอมที่แท้จริง,,,ก็คือคนไทยนี่แหละ...ส่วนชาวกัมพูชาปัจจุบันไม่ไช่ขอมแต่เป็นชาวจาม..ที่ขอมกวาดต้อนมาเป็นทาส
แต่ที่รู้ๆคือพระองค์รวยมากๆ ทองกองจนถึงชื่อเต็มๆ 8พระคลังสินค้า
ท้าวแสนปมเหมือนก่อน ผมเข้าใจว่า เป็นชื่อตำแหน่ง หรือชื่อคนจริงๆมารู้ทีหลังว่า แสนปม คือโรคที่ผิวหลัง เป็มตุ่มพุพอง หลายตุ่มเลยเรียกว่า แสนปม
เคยดูแต่ในหนังว่าท่านสวรรค์คตด้วยโรคระบาดนี้
ท่านมาจากพระนครหลวงยโสธรปุระ เป็นบุตรของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9
เอาตามที่เคยเรียนรู้มาเมือง สุพรรณ อยุทธยา ละโว้ สุโขไทยตอนนั้นก็เป็นเมืองใหญ่นะไม่ขึ้นตรงต่อกันเป็นเอกเทศเป็นเครือญาติกันแต่งงานกันในราชวงศ์และจากที่อ่านมาว่าเมื่อเมืองพระนครโดนทาสเขมรตีแตก(ช่วงนั้นสยามในเมืองพระนครมีคนอยู่น้อยกว่าทาสเพราะคนสยามบางส่วนอพยพหนีภัยแล้งจากเมืองพระนครมาอยู่แถบอยุทธยาสุพรรณกัน!!พอทาสเขมรกบฎคนขอมสยามลูกหลานวรมันยางส่วนจึงมาขออาศัยละโว้ สุโขทัย อยุทธยาอยู่ทางละโว้เห็นลูกหลานหนีตายจากกบฎมาจึงให้คนเหล่านี้มาสร้างเมืองใหม่ที่สุพรรณ คืออู่ทอง พอพระเจ้าอู่ทองตั้งเมืองได้รวบรวมประชากรเป็นปึกแผ่นก็เจ้าตีเขมรเพือ่จะยึดเอาเมืองพระนครมาจากเขมรนี่ละจึงเปนเหตุให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชอ้างอิงว่าสืบเชื้อสายมาจากขอมวรมันเพราะสยามจะแต่งงานกันในราชวงศ์ อู่ทอง สุพรรณภูมิ สุโขทัย
ขาดราวงศ์ศรีธรรมโศกราชหรือไม่
ต้องหาหลักฐานภาษาพูดครับ.
เชื้อสายขอมร้อยเปอร์เชน
ตำนานเรื่องเท้าแสนปมคือ เรื่องแต่งของราชวงศ์ใหม่เพื่อดูถูกพระเจ้าอู่ทอง
เปิดอู่อยู่ที่ไหน?ครับ
อ.เมือง จ.ตาก ครับ
พระเจ้าอู่ทองก็มาจากเมืองอู่ทอง สุพรรณบุรีนั่นแหละ นักโบารณณคตืว่าร้าง ทราบได้อย่างไรหรือ หากบอกว่าเรียนมาศึกษามานั้น การตีความอาจผิดก็ได้ เมืองอู่ทองก็ยังเป็นชุมชนเรื่อยมานี่ ไปร้างช่วงไหน ท่านมีเชื้อสายทางขอมยุคนครวัดมา เผ่าพงษ์ท่านก็มีเชิ้อสายจากลพบุรีก็มี ที่อพยพมาอยุธยาเพราะแม่น้ำจระเข้าสามพันไหลเปลี่ยนทางเดินไป ไม่ได้หนีโรคห่ามาแต่ประการใดนะครับ
เมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
❤😊😊😊
ฟังแล้วมีเหตุผลที่สุดครับท่าน บรรพบุรุษเราย้ายเมืองหนีธรรมชาติ และสงครามไปเรื่อย
น่าจะใกล้เคียงนะครับผมว่า เพราะที่อ.หันคาจ.ชัยนาทก็มีเกาะเมืองท้าวอุ่ทองเพราะมีเนื้อที่ในเกาะ115ไร่ ไม่มีทางข้ามไปนอกจากใช้เรือข้ามและยังมีวัดเก่าแก่และมีชาวบ้านอยู่ในเกาะมีดูแล้วน่าจะเป็นเมืองโบราณประวัติเขาก็มีเล่ามาแต่จริงเท็จแค่ไหนเราไม่รุ้ เพราะไม่มีใครพูดถึงเลย (จากนักก็โบราณคดี)
ไม่เห็นจะมีหลักฐานใหม่เลย
แล้วเหตุใด จึงมีบันทึก ที่เมืองพระเจ้าหลุย เกี่ยวกับสมเด็จพระนารายว่าพระองค์ สืบเชื้อสาย มาอย่างไร
อันนี้เห็นมีความเป็นไปได้สูงมาก
แล้วที่อ.หันคาจ.ชัยนาท ก็มีเกาะเมืองมีเนื้อที่115ไร่ เขาเรียกกันว่าเกาะเมืองเท้าอุ่ทอง ดูแล้วน่าจะเป็นเกาะโบรานจริงเเละก็มีเรื่องเล่าแต่ไม่รุ้เท็จจริงแค่ไหน แต่ทำไม่ไม่เห็นนักโบราณคดีเล่าเเละพูดถึงเลย
อันนี้ข้อมูลอ้างอิงชัดเจนรึยัง ไปดูมาหลายช่องยังสรุปไม่ได้เลย นะขอรับ แล้วบอกหลักฐานใหม่ได้ไง
ไหนบางตำนาน บอกว่า สืบเชื้อสายมาจาก ราชวงค์สิงหนวัติ ของเมืองโยนกมาก่อน ผมไม่แน่ใจว่าอ่านมาจากไหน เขาบอกว่า หลังจากโยนกล่มสลาย เจ้านายฝ่ายเหนือ แยกออกกระจายไปสร้างเมืองอื่นๆ รวมทั้งสุพรรณบุรี,กำแพงเพชร,และอีกหลายเมือง ส่วนเมืองอโยธยา ลพโว้ เป็นเมืองมาก่อนแล้ว
ใช่ค่ะ พระองค์มีเชื้อสาย "ขอม"ลูกครึ่ง แขก-จีน-สยาม ผู้มาสร้างเมืองนครวัด-นครธมนั่นแหละค่ะ เชื้อสายพระเจ้าชัยวรมัน,หลังจากนายแตงหวานตีเมืองขอมแตก พระเจ้าอู่ทองเนี่ยแหละซึ่งเป็นเชื้อสายพระเจ้าชัยวรมัน จึงได้ยกทับมาตีเมืองขอมคืนและปกครองเมืองด้วยพระองค์เองมา 500 ปีนั่นแหละ นี่คือที่มาของเมืองนครวัดที่เป็นประเทศราชของสยามปกครองมา 500 ปีนั่นเอง หลังจากตีเมืองจากนายกระเซาะกระแอมได้ พระองค์ก็ได้เอาตัวนายแตงหวานไปตัดหัวแล้วเสียบประจาน เพื่อไม่ให้คนเอาไปเป็นเยื่ยงอย่าง และเป็นการปกครองคนเขมรไม่ให้พวกเขมร กระด้างกระเดื่องกับสยามอีกต่อไป หลังจากตีเมืองแตกพระองค์ก็ได้ต้อนพวกทาสเขมร มาใส่ที่อโยธยา เอามาทำงานรับใช้ และให้เรียนรู้ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่คนเขมรยุกต์นั้นจึงได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมของสยาม สอนหนังสือไทยพูดภาษาไทย ถึงได้มีคนเขมรสมัยนั้นเรียนรู้ วรรณกรรมไทย วรรณคดีไทย โขนไทย เรียนรู้การทอผ้าใหมไทย ทางกรุงศรีอยุธยาให้ครูมาสอนคนเขมรทั้งสิ้น! แต่ฝรั่งเศสมันเขียนประวัติศาสตร์เขมรขึ้นมาใหม่ร่วมหัวกับอังกฤษเพื่อแก้แค้นพระเจ้าแห่งสยาม ที่พวกมันเสียรู้พระเจ้าแผ่นดินสยาม ยึดประเทศสยามไปไม่ได้นั่นเอง หลังจากคืน เมืองให้คนเขมรปกครองตนเอง และประเทศลาว มันจึงเขียนประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นหลังเข้าใจคนไทยผิด ทุกวันนี้คนเขมร ลาว จึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ปลอมไปที่ฝรั่งเศสมันทิ้งใว้ให้คนสองประเทศนี้ทะเลาะกับคนไทยนั่นไง. คนเขมรมันเข้าใจว่าคนไทยปล้นดินแดนมันมาทั้งของไทยในปัจจุบันนี้ รวมถึงคนลาวด้วย นี่ก็เหมือนปัญหาโลกแตก. พระเจ้าอู่ทองในประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อนเรียนคร่าวๆแต่ไม่มีมากนักที่จะกล่าวถึงพระองค์ จึงทำให้คนไทยรุ่นหลังไม่เคยได้ยินชื่อของพระองค์เลย.😒
อโยธยาศรีรามเทพนครคือเมืองของพระเจ้าอู่ทอง ท่านอพยพลงมาจากลพบุรีลงมาทางใต้ที่เรียกว่าเวียงเหล็กบริเวณวัดไชยวัฒนาราม สังเกตจากสิ่งก่อสร้างยุคต้นเป็นเจดีย์แบบปรางค์ของขอม
@@piyachatpeeta3162 ก็อาจจะใช่ครับ แต่ก็อย่างว่านะครับ สมัยนั้นคนจะเป็นเจ้าคนนายคนต้องมีเชื้อสายเจ้ามาเป็นที่ตั้งก่อน เป็นไปได้หมดว่าจะเป็นเจ้าจากที่ไหน ที่ผมตั้งข้อสังเกตคือ สุพรรณบุรี อยุทธยา เกิดมาภายหลัง โยนกได้ไม่นานนัก แล้วสมัยนั้นมีบันทึกใว้ว่าเจ้านายฝ่ายเหนืออพยพลงมาสร้างเมืองใหม่ทางทิศใต้หลายที่หลายแห่ง เป็นไปได้ว่า อาจจะมีความเชื่อมโยง *รอดูหลักฐานใหม่ๆต่อไปครับ
@@piyachatpeeta3162 ข้อเท็จจริงความจริงของพระเจ้าอู่ทองก็คือเมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
@@suncarnegie4747 ผมเห็นด้วยที่ว่าพระเจ้าอู่ทอง มาจากราชวงศ์ทางเหนือ ดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับทฤษฎีอื่น
การสร้างเมืองอยุธยา ในสมัยอยุธยาตอนต้น มันแสดงถึงรูปแบบว่า อยุธยามีความเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสาน วัฒนธรรมจากล้านนา กลุ่มวัฒนธรรมทางใต้(จีนเรียกพวกนี้ว่าสยาม) และวัฒนธรรมจากอาณาจักรวรมัน(ไม่ขอเรียกว่าขอม-และจะไม่เรียกว่าเขมร จึงนิยามเอาชื่ออาณาจักร์จากราชวงศ์วรมันโดยตรง) นั่นจึงเป็นไปได้ยากมากที่พระเจ้าอู่ทองจะเป็นละโว้มาโดยตรง เพราะถ้าเป็นละโว้ ศิลปะวัฒนธรรมควรไปทางวรมัน และการที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมทั้ง3 กลุ่มแล้ว ก่อนตั้งเมือง จึงมีความน่าเชื่อถือว่า มีพื้นฐานเป็นเมืองอื่นในละแวกนั้นมาก่อนและอาจจะไม่ได้ขึ้นกับ 3 กลุ่มนี้เพราะถ้าขึ้นกับกลุ่มใดชัดเจน วัฒนธรรมควรเทไปทางด้านนั้น แต่ก็น่าแปลกอยู่ดีว่าถ้าเป็นอย่างนั้นสุโขทัยก็ควรมีบันทึกถึงเมืองที่มีตัวตนก่อนอยุธยาในละแวกนั้น ที่มาของอยุธยานี่แหละปวดหัวสุดแล้ว
ไม่ต้องไปอื่นใดเลยมันง่ายมากส่งไปรษณีย์สารอะไรทั้งสิ้นทองเป็นชาวนครวัดที่เป็นเชื้อพระวงศ์ท่านหนีออกมาจากนครวัดกับสมัครให้พลประมาณแสนแล้วหอมกับชาวละโว้เนี่ยเขาเป็นเครือญาติโปท่านได้หนีมาอยู่ที่เมืองละโว้สร้างอยุธยาแค่ 3 ปีคนถ้าไม่แก้แค้นจริงมันไม่แค้นสร้างเมืองแค่ 3 ปีจะกลับไปแก้แค้นได้เหรอเพราะเพิ่งจะสร้างเมืองบทความนี้มาแล้วส้มแขนที่ไอ้แตงหวานมันทำร้ายเชื้อพระวงศ์เป็นกับไปแก้แค้น
พระเจ้าอู่ทองเป็นชาวขอมาจากนครวัดเล่นนี้ไม่อยู่ที่ละโว้คนเราอ่ะถ้าไม่เครียดแค้นสร้างกรุงศรีอยุธยาได้ 3ตีไม่กลับไปแก้แค้นหรอก
@@user-qx7ty4xj4i ทฤษฏีนั้นก็เป็นจุดที่ผู้สนับสนุนทฤษฏียกขึ้นมาพูดถึง ซึ่งมันสนับสนุนเพียงแค่แรงจูงใจ แต่ความสอดคล้องทางด้านศิลปะวัฒนธรรมนั้นยังถูกโต้แย้งได้ง่ายอยู่แต่แรงจูงใจในการไปตีเขมรก็มีครับ โดยน่าจะมาจากนครธมล่มสลายจากการก่อกบฏและย้ายไปพระนคร ทำให้เขมรแตงหวานอ่อนแอ รวมถึงละโว้เองก็เป็นญาติกับวรมันจึงน่าจะสนับสนุนให้อยุธยาเข้าตีเขมรแตงหวานที่กำลังอ่อนแออยู่เพื่อแก้แค้นและเขมรแตงหวานที่อ่อนแอในช่วงนี้ไม่ควรปล่อยโอกาส (สมัยก่อนมีการผูกสัมพันธ์โดยการให้ลูกหลานแต่งงานข้ามอาณาจักร์โดยถ้าดูจากในรูปสลัก ในกำแพงนครวัด ก็แสดงให้เห็นว่า ละโว้ กับเสียมกุกทางใต้ของไทยในปัจจุบัน ก็รวมตัวกันไปช่วยรบพวกญวน การรวมทัพข้ามอาณาจักร์ได้ต้องมีความสัมพันธ์ค่อนข้างแน่นแฟ้น ก็น่าจะมาจากสาเหตุความเป็นญาติกันนี้) อยุธยาจึงได้แรงสนับสนุนเป็นข้ออ้างในการทำสงครามและได้ละโว้ช่วยสนับสนุนด้วย ถ้ามองปกติยุคนั้นแม้จะพูดว่าเป็นอาณาจักรแต่ด้วยความห่างไกลกัน การเคลื่อนทัพไปป้องกันชายแดนมันไม่สะดวก ระบบจึงแบ่งทหารไว้ให้หัวเมืองปกครอง โดยมักจะมีกำลังทหารเดิมของใครก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้ส่งทหารข้ามไปมากัน เพราะทหารเองก็เป็นประชาชนก็ควรอยู่ในพื้นที่เดิมเพื่อไม่ให้ขวัญกำลังใจตกลง รวมถึงต้องสร้างที่พักอาศัยแยกใหม่ซึ่งสิ้นเปลืองกว่าถ้าอยุธยาไปตีวรมันโดยละโว้ไม่เห็นชอบทั้งๆที่ละโว้เป็นญาติกัน อันนี้ลำบากเพราะละโว้อาจแข็งเมืองและตีตลบหลัง แต่พอวรมันล่มสลายจากการก่อกบฏ มันจึงเป็นโอกาสทองเพราะเขมรใหม่ยังอ่อนแอและเป็นพวกแปรพักตร์(สมัยนั้นก็ถือว่าเป็นพวกชั่วร้าย) ไหนจะทำให้ละโว้โกรธแค้น การไปตีจึงสะดวกและควรรีบทำครับ
เห็นยอดเจดีย์สมัยต้นของอยุธยายังครับ ยอดยังเป็นยอดแบบนครวัดเลยผมว่าเป็นไปได้ที่พระเจ้าอู่ทองมีเชื้อสายขอมพระนคร
ผมค่อยข้างเชื่อว่าพระรามาธิบดีที่1น่าจะมาจากอโยธยา และน่าจะเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของอโยธยา
ท่านอาจไปสามที่ นครธม ละโว้ สุพรรณ แต่งงานข้ามเผ่าข้ามเมืองจนมีอำนาจสร้างเมือง
เสียมราฐน่าจะเป็นเมืองดังเดิมของเสียม บันทึกจีน บอก อยุธยา มาจาก เสียมรวมกับละโว้ เสียมก็มีที่สุพรรณ แต่ตำนานการสร้างเมือง ต้นหมัน มันคล้ายเมืองพระนคร ท่านน่ามาจากละโว้ซึ่งแต่งงานกับเมืองพระนคร เมืองพระนครตามโบราณคดี มีการลดและหายไปของประชากร ถามว่าและประชากรจะหายไปไหน
ประชากรก็คือไอ้แตงหวานก่อกบฏไงสังขารไปหลายแสนคนเจ้าอู่ทองก็รวบรวมสมัครพรรคพวกที่หนีออกมาจากนครวัดได้ก็มาสร้างอยุธยาประวัติศาสตร์ไทยบอกประชาชนตรงๆแบบนี้โดยไม่เอาจากที่เขมรโดยไม่เอาจากฝรั่งเศสจากที่อื่นมันไม่เป็นความจริงมันก็จะมีช่วงที่ขาดตอนไปมายังไงอะไรยังไงแต่เอาตามความจริงแบบนี้มันไม่มีขาดตอนมันเป็นความจริงทุกอย่างมีที่มาที่ไปสยามก็มาจากชาวขอมมีที่มาที่ไปแล้วดินด่านเกวียนอำเภอพิมายอยู่มาเป็นพันๆปีแล้วก็บ้านเชียงก็อยู่มาเป็นหมื่นปีมันไม่มีอะไรขาดตอนตรงไหนเลย
ขอมตัวดํา จะเป็นไทได้ไง ล้านนาและสุโขทัยเรียกไอ้ตัวดําภาคกลางว่าขอม ขอมคือคนตระกูลมอญ-เขมร โครตเง้าของคนภาคกลาง คนภาคกลางคือมอญเขมรที่พูดภาษาตระกูลไทสมัยราชวงศ์อู่ทองปกครองอยุธยา
เป็นเขมร มาจากกัมภูชา
แต่ตอนนั้นสุพรรณบุรีเป็นเมืองร่างนะครับ
ขอมีอะไรด้วย ว่าตะอะไรอย่างรัยยังงัยอิหยัง
แต่เห็น ๆว่านักวิชาการตอนนี้เขาบอกว่า พระเจ้าอู่ทองไม่มีตังตนจริงๆ มีแต่พระรามาธิบดีที่1
คุณรู้มั้ย คำว่าอู่ แปลว่า แท้ ทองมาจากคำว่า ทอ อู่ทองมาจากคำมอญแปลว่าทองแท้ อยุธยา มีคำนำหน้าว่าทวารวดี ทวารวดีมาจากลุ่มมอญ
พระอู่ทองไม่ตัวตนบ้างก็มาจากเหนือ
ที่ว่าเป็นไ ท ที่จริงเป็นเขมร เราเป็นทาสเขมร แต่ทรยศต่อนาย มาตั้งประเทศเป็น ไทย ตา ที่สุจิตต์ว่า
ท่านมาจากเชียงแสนเงินยางครับ
พระจ่าวอู่ทองที่อำเภออู่ทองทีจังหวัดสุพรรณบุรีรึคับท่านอาจารเอ่ย😂😅
อู่ทองคือเปลทอง
พระรามาธิบดี1เป็นสายจันทรวงศ์+ปทุมสุริยวงศ์ สืบสายมาจากสุริยวรมัน1 โดยเฉพาะเมืองละโว้ ญาติเพียบพระเจ้าแตงหวาจริงคือนิทาน พื้นบ้าน แตงหวานจริงๆคือ อินทรวรมัน3
ข้อแรกตัดไปได้เลยศิลปะอยุธยาไม่มีความคล้ายจีนเลยสักนิด
พระเจ้าอู่ทอง1. มาจากเมืองจีน2. เป็นลูกของราชวงศ์เชียงเเสน3. เฮาหากเป็นพี่น้องกันเเต่ขุนบรมปางก่อน ขุนบรมทายาทเเถน (เดียนเบียนฟูเวียดนามเหนือ)เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้มส่งพระราชสาส์นไปหาเพื่อจะท้ารบพระรามาธิบดีเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ เเต่คนทางเหนือเช่นเชียงเเสนเชียงทองเรียกว่า ขอม เพราะฉะนั้น พระเจ้าอู่ทองเป็นใครก็ได้ที่มาจากเเถวๆกวางสีพวกจ้วง ภูไท ไทดำ ไทขาว ไทเเดง ถูกพวกฮั่น(สามก๊ก)รุกรานจึงได้เคลื่อนย้ายไปหลายๆที่เพื่อความปลอดภัยเจ้าของช่อง อย่าหลงในประเด็น พระรามาธิบดีกับพระเจ้าอู่ทอง ก็เเล้วกัน ถ้าหลงในจุดนี้ วิชาประวัติศาสตร์คุณจะถึงทางตันทันทีศึกขอมเเปลพักตร์ ที่ว่าไปตีเมืองพระนคร เป็นพงศาวดารที่เขียนขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี- รัตนโกสินทร์เป็นเรื่องของวิชารัฐศาสตร์ระหว่างชนชั้นสูงกับชนชั้นสูงเขาจะชนกันทางปัญญาส่วนเรื่องพระเจ้าเเตงหวานก็เป็นนิทานบรรพชน ที่เขียนขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี- รัตนโกสินทร์เอาเรื่องเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ให้อยู่ในวิชาการเมืองเพื่อความชอบธรรมในการยึดอำนาจเอาคนเก่าออก สวมคนใหม่เข้าไปเเทน เป็นเรื่องของการเมืองในอดีตหลังพ.ศ1900เมื่อภาษาไท มีอำนาจมากขึ้นขอมจึงถูกส่งกลับคืนไปที่เดิมคือเขมร ขอม ณ.ที่นี้คือขอมละโว้อโยธยา ส่วนขอมเมืองพระนครก็กระจายตัวลงมาอยู่อโยธยา เพื่อลงทะเลส่วนหนึ่งกลายตัวเป็นคนไทไปกับคนสุพรรณบุรี อีกส่วนกับคืนสู่กัมพูชาเพราะกลัว...?คนชนะได้เขียนประวัติศาสตร์ส่วนคนเเพ้เป็นกบฏ
พระเจ้าอู่ทองมาจากจีน มั่ว อยุธยาตอนต้นใช้อักษรมอญ ไปดูงานค้นคว้าของอาจจารย์ ศานติ พระเจ้าอู่ทองเชื้อสายมาจากอินเดีย์ อารยะธรรมพราหมณ์ ใช้ภาษาสันสกฤต อย่ามั่วสิ ชื่อพระรามา จากพราหมณ์ อย่ามะโน
เม้นนี้เฉียบ
ผมว่าโดยทฤษฎีนะครับว่าท่านก็อยู่ละโว้ลพบุรีเหรอครับ
น่าจะ
ตำนานมีแต่เรื่องเล่าสืบต่อกันมา
ทุกวันนี้เขารู้กันแล้วว่า...พระเจ้าอู่ทอง กับ สมเด็จพระรามาธิบดีไม่ใช่คนๆเดียวกันครับ
พระเจ้าอู่ทองเป็นขอมจากอาณาจักรสุโขทัยขอมสะโหมดโขลนลำพงเจ้าผู้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยส่งมาเป็นหน้าด่านที่อู่ทองนายหนึ่งและที่ปราสาทเมืองสิงห์ไทรโยคกาญจนบุรีนายหนึ่งกะษัตริย์สุโขทัยให้พระเจ้าอู่ทองส่งเครื่องราชบรรณาธิการไปถวายทุกสองปีหลังจากสุโขทัยเริ่มอ่อนแอพระเจ้าอู่ทองแอบย้ายจากอู่ทองไปตั้งเมืองที่หนองสะโนอโยธยา(วัดไชยวัฒนาราม)กษัตริย์สุโขทัยองค์ที่4อ่อนแอมากพระเจ้าอู่ทองจึงไม่ส่งเครื่องราชบรรณาธิการไปถวายและได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์อาณาจักรอโยธยาอาณาจักรสุโขทัยจึงเสื่อมอำนาจลงโดยปริยายพระเจ้าอู่ทองไม่ได้มาจากไหนเป็นขอมที่มาจากสุโขทัยนั้นเอง
ข้อเท็จจริงความจริงของพระเจ้าอู่ทองก็คือเมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
ไม่มีความเห็นใดๆครับ…เจดีย์ยุทธหัตถียังมีสองที่ ทั้งที่ดอนเจดีย์ และที่พนมทวน
โปรดแยกแยะขอม กับเขมร ด้วยนะครับ
สมมุติฐาน คาดเดา คาดคะเน ล้วนๆ ไม่มีหลักฐานจริงๆ สร้างขึ้นมาทั้งนั้น
เช่นเดียวกันกับเขมรใช่ปะพระแก้วพระโคนิทานหรอกเด็กทั้งนั้น
หลักฐานมีเต็มเมืองเลย..สักวันคงมีคงที่สามารถแสดงหลักฐานได้ รวมถึงเชื่อมโยงข้อเท็จจริงจากหลักฐานนั้นได้ครับ (ใกล้ถึงเวลาแล้ว)
เรื่องสมัยโบราณ เป็นเรื่องที่ศึกษาหลักฐาน ในอดีตแล้วมาตั้งสมมุติฐาน ซึ่งอาจจะจริง หรือไม่จริงก็ไม่ทราบได้แต่ถ้าอยากได้ความจริงแบบ100 % ก็ต้องเข้าเครื่องย้อนเวลากลับไปในสมัยโบราณในช่วงนั้น แล้วเอาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง นั่นแหละคือเรื่องจริง
ท่าน นั่งเรือ สำเภามาจากจีน
น่าจะคนโคราช ..สายมหิธร.
รบแพ้เขมร ตลอด อยุธยา อยากจน
อย่าไปเที่ยวเขมรมัน comment บิดเบือนพวกเราแขวงตัวมาคอมเม้นพวกนี้ไอ้สัตว์นรกลูกอีห่าลากเขมรพวกมันไม่ได้เล่นเอาด้วยกลกะหรี่เขมรชิงหมามาเกิดบริษัทเขมรสัตว์นรก
พระเจ้าอู่ทองน่าจะเป็นพ่อค้ามาจากจีน และน่าจะร่ำรวยมาก ยุคสมัยเปลี่ยนแต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือคนรวยมักจะถูกยกให้เป็นชนชั้นสูงของสังคม
研究這樣能賺錢嗎!
เอาหลักฐานมาจากไหนคุณรูเหรอว่าท่านมาจากไหน นักวิชาเกินเหล่านี้ผมไม่เชื่อถือนักวิชาเกิน
พวกมึงเขียนประวัติศาสตร์เองแต่ว่าดูไปมันตลกดีนัภาษาและวัฒนธรรมของที่มึงว่าขอบนั่นแหละ ต่อให้เขาเป็นคอมหรือเป็นอะไรก็ช่างถ้าเกิดว่าเขาเขาก็ยังใช้ภาษาเดิมของเขาแต่นี่เขาไม่มีประสาทเลยบันทึกไว้เลยก็มีแต่ไทยนั่นแหละเขียนเองอะไรเองนั่นแหละฟังแล้วงง😅😅😅
เขมรเเปลว่าทาสคุณรู้มั้ยเขมรทำมัยเรียกตัวเองว่าทาส
เกิดไม่ทันสักคนหลอก
😂อยากเชื่อ แต่ติดใจคำว่า " อู่ทอง " ถ้าไม่เกี่ยวกับเมืองเก่า อ. อู่ทอง จ. สุพรรณ แล้วทำไมชื่อว่าอู่ทอง หรือว่าบังเอิญไปเหมือน.ครับ
ผมว่าบังเอิญ จริงๆชื่อท่านอาจเป็นภาษาอื่นที่มีคำพ้องเสียงเป็นแบบไทยๆ ว่าอู่ทอง (อย่างฝรั่งชื่อ แมรี่ ก็เป็น มะลิ อะไรทำนองนี้ )
่เหตุใดมีคนอ้างเป๋นอู่ทองมาเข้าร่างคนบาป
แล้วทำไมเมืองลพบุรีพระเจ้าอู่ทองจึงมีอำนาจสามารถส่งลูกไปครอง
เขาว่าพระเจ้าอู่ทองคนเชียงราย
ราชสำนักแต่เดิมพูดภาษาอะไร ก็มาจากที่นั่นแหละ ครับ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเทพ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คล้ายๆ บทพระสวดภาษาบาลี ที่ไม่ได้เปลี่ยนมากว่า 2500 ปีแล้ว----เป็นความเห็น
มองรูปปั้น เหมือน ประยุทธ์ จันทร์อังคาร
หา พ่อ ไม่ได้. เขาไม่บอก. อู่ทองไม่มีจริง
ฟังตั้งนาน เลอะเทอะทั้งเพ
อ่าว
วัน วลิต ไม่เคยเขียนว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นเจ้าชายจากจีนถูกเนรเทศ การจับความผิดๆ ทำให้รุ่นหลังเชื่อแบบผิดๆ ผลงานของ วัน วลิต ไม่เคยมีเรื่องนี้ ไม่เชื่อไปหาอ่านเอาให้เจอ เอาฉบับคัดลอกก็ได้ แต่อย่าไปอ่านเอกสารที่มีคนไปตีความแต่ไม่ไม่เอกสารยืนยัน มีผลงานหนึ่งชองวัน วลิต คือ "การสร้างอาณาจักรสยาม" ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่อง "การสร้างกรุงศรีอยุธยา" ซึ่ง วัน วลิต เขียนว่าเป็นนิทานเล่าขานกันมาว่า เมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีมาแล้ว เจ้าชายกรุงจีนผู้หนึ่งถูกเนรเทศ ล่องเรือมาขึ้นที่ปัตตานี สร้างอาณาจักรลังกาสุกะ โดยมีเมืองสำคัญคือเมืองละครคือเมืองนครศรีธรรมราช เมืองกุยคือเมืองกุยบุรี และเมืองพริบพรีก็คือเมืองเพชรบุรี ต่อมากลายเป็นอาณาจักรสยาม โดยสรุปว่า อาณาจักรสยามเป็นอาจักรที่เก่าแก่ วัน วลิต บันทึกงานนี้ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง คือประมาณ พ.ศ.2143 ลองเอา พ.ศ.2143 - 2000 ซิ ก็แสดงว่า เจ้าชายจากเมืองจีนถูกเนรเทศ ประมาณ พ.ศ. 100 กว่าๆ เท่านั้นเอง และอาณาจักรลังกาสุกะ ก็น่าจะสร้างตั้งแต่ พ.ศ.100 กว่าๆ เช่นกัน ลองคิดดูซิครับ หากพระเจ้าอู่ทองคือเจ้าชายกรุงจีน จะมาสร้างกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ.1893 ได้ยังไง แนนอน ตำนานการสร้างเมืองนคร ระบุว่าพระเจ้าศรีธรรมโศกราชพระองค์หนึ่ง ได้ทำสงครามกับพระเจ้าอู่ทองของกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่ง แต่ต่อมาเป็นพันธมิตรกัน ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่พระเจ้าอู่ทองของกรุงศรีอยธยา แต่เป็นพระเจ้าอู่ทองพระองค์หนึ่งใน อโยธยาศรีรามเทพนคร หรือละโว้อโยธยานั่นเอง ซึ่งจะเรียกตำแหน่งกษัตริย์ว่าพระเจ้าอู่ทองทุกพระองค์ ดังนั้นพระเจ้าอู่ทองที่เป็นคนสร้างกรุงศรีอยุธยา คือพระเจ้าอู่ทองแห่งละโว้อโยธยาพระองค์สุดท้าย ไม่ใช่เจ้าชายกรุงจีนแต่อย่างใด
มันจะมาจากใหน_ไม่สนใจว่ะ
มาจากนครวัดเชื้อสายชัยวรมันหนีจากการแย่งชิงอำนาจกันมา😅ตั้งถิ่นฐานเมืองลพบุรีก่อนรวบรวมพลตั้งเมืองกรุงศรีอยุธยาดูพระปรางที่ท่านสร้างใว้มาจากใหนก็รู้แล้ว😅😅😅❤❤❤
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่สามารถปฎิเสธได้เลยแม้แต่คำเดียวที่เป็นหลักฐานสำคัญคือโบราณสถานที่ยังมีอยู่ให้อนุชนคนรุ่นหลังให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้นคือเมืองหลวงเก่ากรุงศรีอยุทธยา
จำไว้สมองเอาไว้นะพระเจ้าอู่ทองคือพระเจ้าชัยวรมันที่9และขะแมร์มันคือทาสขอมสยามลาวจงจำเอาไว้
เปนศรีธนนชัยในนิยายเปนเงาะป่านิยายเปนเขยคนที่หกของขุนพิชิดเจ้าเมืองพิจิตเปนลูกนางกวักกับพระเจ้ากรุงจีนเปนลูกบุญธรรมจามเทวีชื่อขุนเจืองเรืองรฤทธิไกรเปนคนนำทีมสร้างอาคารถนนนเขื่อนนครวัดอาคารยาวไปขอดูฝลั่งเศสที่มีเอกสารจะได้ไม่เถียงกัน
บันทึกประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสนั้นมันเขียนขึ้นมาเองแต่งเรื่องปลอมๆทำให้คนเขมรเชื่อในสิ่งที่บิดเบือนไม่ใช่ความจริงเลย เพราะฝรั่งเศสปกครองเขมรและลาว หลังจากที่ฝรั่งเศสแย่งดินแดนแห่งนี้ไปสยามจึงเสียดินแดนแห่งนี้ให้ฝรั่งเศสไป แต่พอถึงยุคที่ต้องคืนดินแดนและอิสระภาพให้ชาวเขมรและลาว ฝรั่งเศสมันก็ให้นักประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสเองเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาเอง และอ้างว่า คนเขมรเป็นคนสร้างยครวัดและเขียนให้คนเขมรยิ่งใหญ่แต่เขียนให้คนสยามเป็นทาสเขมร ทั้งๆที่ความจริง เจ้าแตงหวานนั่นแหละ ที่เป็นหัวหน้าทาสคนเขมร ได้ยกคนตีเมืองนครขอมแตก และยึดครองเมืองตั้งตนขึ้นปกครองกันเอง จากคนชั้นทาสแท้ๆแต่หึกเหิมตีเมืองขอมจนแตก และสุดท้ายพระเจ้าอู่ทองเนี่ยแหละ พระองค์เป็นธาญาติของพระเจ้าชัยวรมัน ได้ยกทับมาตีเมือง"ขอมเดิม"ที่คนเขมรมันตีไป และสุดท้ายก็จับนายแตงหวานหรือเจ้าแตงหวาน นายกระเซาะกระแอม เอาไปตัดหัว แล้วเสียบประจานหัวเมือง ไม่ให้คนชั้นทาสเอาไปเป็นเยื่องอย่างอีกต่อไป คนเขมรไม่เคยพูดถึงบรรพบุรุษของพวกมันที่ชื่อนายกระเซาะกระแอม หรือนายแตงหวานเลย นั่นแหละคือบรรพบุรุษของคนเขมรตัวจริง!!คงจะเป็นเขมรนะสิเราน่ะ.😅
ขอบคุณมากครับแอดที่มีความสนใจในเรื่องเหล่านี้เพราะนับวันนัินหาผู้สนใจทางด้านนี้น้อยเต็มทีแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ
พระเจ้าอู่ทองน่าจะหนีภัยมาจากเขมรเพราะเพราะว่าพระองค์แค้นที่เขมรตีจนเสียมเรียบหรือสยามราบคาบพระองค์สร้างเมืองเสร็จพระองค์ก็ชราภาพมากแล้วพระองค์ต้องรีบไปตีเขมรคืน
เขมรคือทาสทีก่อการใด้สำเร็จพระเจ้าอู่ทองค์แคนขอมไม่ใช่คนจีนแน่นอนเพราะวัฒนธรรมศิลปะกรรมขอมจีนต่างกันลิปเลย
เมืองอู่ทองล่มสลายเวลาใกล้เคียงกับการตั้งเมืองอโยธยาศรีรามเทพหรือไม่
ถ้าพระเจ้าอู่ทองครองเมืองอยู่ฝั่งตรงข้ามทำไมไม่มีปราสาทราชวังในเมื่อบอกว่ามีเจ้าครองเมืองถึง10องค์ผมไม่เขื่อ
น่าจะมาจากนครวัดหลังจากที่พระเจ้าแตงหวานยึดนครได้เนื่องจากวัฌนธรรมในราชสำนักก็นำมาจากเมืองพระนครและยังได้นำชื่อ สยามที่สลักอยู่ที่กำแพงนครวัดมาเป็นชื่อประเทศด้วย และกรุงศรีอยุธยาก็ตั้งเมืองพระรามตามความเชื่อของพราห์ม ฮินดูเหมือนนครวัดและเหตุสนับสนุนอีกตั้งเมืองอยุธยาแล้วได้ยกทัพไปตีเมืองพระนครเพื่อเป็นแก้แค้นต่อมาจากความเชื่อว่าขอมหนีตายจากพระนครมาสร้างเมืองอยุธยาน่าจะไกล้ความจริงมากกว่า
น่าจะใช่ค่ะเท่าที่อ่านมาค่ะ
@@namphurng-nectar6036
พระเจ้าอู่ทองเป็นราชบุตรเขย ของพระเจ้าไชยสงครามผู้ปกครองอาณาจักรล้านนา..
ฉันคิดว่าพระเจ้าอู่ทองอพยพมาจากลพบุรี เพราะเอกสารว่าอพยพลงมาทางใต้กินเวลา2วัน
เมื่อสังเกตสิ่งก่อสร้างสมัยอยุธยาตอนต้นเป็นปรางค์แบบขอม แต่มเหสีของพระเจ้าอู่ทองคือคนสุพรรณ ขุนหลวงพระงั่วคือพี่พระมเหสีเมื่อมาอยู่ที่อยุธยาแถวเวียงเหล็กบริเวณวัดพุทไธสวรรค์
เป็นไปได้เพราะนักวิชาการพม่าที่ออกรายการโยเดียที่คิดถึงได้ไปคุยกับทายาทผู่ถูกกวาดต้อนไปตอน เสียกรุงพวกเขายังนับถือกราบไหว้พระรามพระลักษณ์กันสืบทอดมาและเนื้อเรื่องก็ถูกสลักที่กำแพงนครวัดจนทุกวันนี้
@@piyachatpeeta3162 +1
อยากบอกคนไทยทุกคนให้ระมัดระวังการใช้ คำว่า ข-อ-ม ในภาษาไทย ...พอเอาไปแปลในกูเกิ้ลทรานสเลท มันจะแปลเป็นคำว่า ខ្មែរ (Khmer) ทันที ... เลยมีคนเขมรที่แปลอะไรก็ตามมาจากอินเตอร์เนท อะไรก็ตามที่มีคำว่า ข-อ-ม จะถูกแปลว่าเป็นเขมรในภาษาของเขา ... ดังนั้น ไม่ว่าคนไทยจะพยายามอธิบาย คำว่า ข-อ-ม แบบไหนก็ตาม เช่น "ปราสาทเป็นอารยธรรมข-อ-ม" หรือ "ข-อ-ม เป็นคนสร้างปราสาท" พอเขาใช้กูเกิ้ลทรานสเลทแปลเป็นภาษาของเขมร มันจะถูกแปลว่า "ปราสาทเป็นอารยธรรมเขมร" หรือ "เขมร เป็นคนสร้างปราสาท" ทันทีครับ ... ไม่ว่าจะทำคลิป หรือ อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่มีขีดคร่อม คำว่า ข-อ-ม กูเกิ้ลก็จะแปลผิดๆ เป็นเขมรทันที ... มันเลยเกิดการโต้เถียงจากกลุ่มคนที่ใช้วิธีแปลประวัติศาสตร์ในอินเตอร์เนท แปลมันทุกอย่างว่า ข-อ-ม เป็นของเขมร ... โต้เถียงกับเขาไปก็เท่านั้น เพราะ เขาก็จะเข้าใจว่า วิกิ ยังบอกว่าเป็นของเขมรเลย บลาๆๆๆ
ต้องพิมพ์ คำว่า กรอม จึงจะเป็น ขอม
เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ..
มิน่าเขมรเถียงหัวปักหัวปำเรื่องขอมโบราณตลอด 👍👍
คำว่ากรอม มาจากคำมอญ ว่า กล็อม แปลว่าคนดุหรือผู้กล้า อยุธยามาจากชาวทวารวดี หรือดวารกา เมืองพระกฤษณะ อยุธยายุคเรกใช้อักษรมอญ คำว่าอู่ เป็นภาษามอญแปลว่บริสุทธิ์ ทองก็มาจากภาษามอญ คือ ทอ หมายถึงทอง แปลรวมว่า ทองบริสุทธิ์ หรือ ทองแท้ ไม่ใช่พานทองเค งั่ว คุณว่าเป็นภาษาไทยเหรอ ถามแปลว่าอะไร แต่ภาษามอญ แปลว่าสุริยะหรืออาทิตย์ เป็นนักวิชาการปรัวัติศาสตร์แต่ไม่รู้ภาษาจารึกแม้แต่คนเดีบว ก็ไม่เรียนรู้กันเอง ฝรั่งจะรู้เหรอ อย่าอ้างพงศาวดาร เพราะะมาจาการแต่ง สยามประเทศเดิมพูดและภาษามอญ อักษรมอญ พบที่จารึกนครวัด คนที่ยังพูดภาษามอญโบราณ พบที่อำเภอเทพสถิตย์ ชัยภูมิ คิอชาวบนหรือ ญะฮกุร และที่กัมพชา เขมรเรียกว่าจะแมน์มอญ พูดภาษามอญได้ พระสังฆราชกัมพูชาเป็นขะแมร์มอญ มีคนขะแมร์มอญคนนึงเขาบอกว่าบรรพยุรุษสร้างนครวัด ตัวอักษรจารึกก็เป็นอักษรมอญ ใครไม่ยอมรับ หาหลักฐานมา แย้งสิ
ไทยมีเอกราช มีประเทศ สมัย ร.9นี้เอง ก่อนหน้านั้นเป็นเมืองขึ้นหมดเลย
@@user-kj9vu4zp5c สมัยพระนเรศ ไม่ได้เป็นเมืองขึ้น ฝรั่งยังกลัว ใครทำผิดโดยลงโทษโดยเอาทอดในน้ำมันเดืดดๆให้ตายช้าๆ
มาจากนครวัด ดูกลับไปตีนครวัดคืน
จริงๆ เราไม่ต้องศึกษาอะไรแล้ว..เพราะชาวอยุธยาบันทึกไว้แล้ว..ว่าพระเจ้าอู่ทองสืบมาจากราชวงศ์นครวัดฝ่ายบิดา..ส่วนแม่ก็น่าจะสายลุ่มเจ้าพระยานี้เอง..และปกครองเมืองเพชรบุรีก่อนมาครองอยุธยา..เพราะขณะนั้นประเทศไทยอยู่ในยุครณรัฐไม่มีใครเป็นใหญ่กว่าใคร
แล้วทำไมถึงยกทัพไปตีนครวัดในสมัยนั้น และในรูปที่กำแพงก็ยังมี การแกะทัพเสียม(สยาม) ทัพละโว้ ไว้ด้วย การล่มสลายในนครหนึ่ง ก็มักจะเกิดอีกนครหนึ่งเสมอครับ
ตอนพระเจ้าอู่ทองยกทัพไปตีเมืองนครวัดนั้นเมืองละโว้ก็ยังมีอยู่ แต่ต่อมาเมื่อตีเมืองนครวัดแตกพระเจ้าอู่ทองจึงได้ต้อนเอาชาวเขมรมาที่อยุธยาและเมืองละโว้ด้วยในตอนนั้น ที่พระองค์ไปตีเมืองนครวัดแตก เพราะไปแก้แค้นให้พระบิดา ที่ถูกนายแตงหวาน หรือเจ้ากระซอกกะแอม หัวหน้าทาสที่รวมตัวกันตีเมืองนครแตกและจับพระเจ้าชัยวรมันไปฆ่า และไล่ฆ่าทหารและระดับขุนนางระดับสูงตายไปมากมาย ที่หนีตายออกมาได้ก็กลับมาที่สยาม มารวมตัวกันแล้วได้กลับไปตีเมืองนครคืนมาและจับตัวหัวหน้ากบฏนายแตงหวาน(กระซอกกระแอม)หลังจากตั้งตนขึ้นปกครองเมืองได้ไม่นานเพียงสี่ปีเท่านั้น หลังจากพระเจ้าอู่ทองจับตัวนายแตงหวานมาได้ก็เอามาตัดหัวแล้วเสียบประจานหัวเมืองให้ชาวเขมรดู เพื่อข่มขวัญไม่ให้คนพวกทาสกระด้างกระเดื่องอีกต่อไปเพื่อจะได้ปกครองมันได้. เต้าแตงหวาน กระซอกกระแอม คือคนเขมร ที่เป็นบรรพบุรุษของคนเขมรที่แท้จริง "ไม่ใช่ชาวขอม"ผู้สร้างเมืองและปกครองเมือง"ขอม"ผู้เป็นเจ้าปกครองเมืองเป็นชาวอินเดีย แล้วได้มาแต่งงานกับพระราชธิดาของกษัตริย์เมืองในดินแดนสยามในตอนนั้น แต่ชื่อเมืองจำไม่ได้เพราะในตอนนั้นยังไม่ได้รวมกันเป็นสยาม เพราะฉะนั้น "ขอมเจ้าครองเมืองนครวัดจึงเป็นบรรพบุรุษของชาวสยามที่แท้จริง ในบันทึกที่อยู่ในกำแพงวัดนั้น ได้เขียนถึงประวัติศาสตร์ทหารเสียมละโว้ และมีเกี่ยวกับศาสนาฮินดู มีพวกทาสชาวเขมรและวัฒนธรรมหลายๆอย่างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้นที่ผู้สร้างเมืองได้ให้ช่างสมัยนั้นแกะสลักใว้ไงล่ะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสยาม ก็เพราะเมืองนี้นั้นบรรพบุรุษของคนสยามได้สร้างขึ้นมานั่นเอง!!ไม่ใช่คนเขมรสร้างแต่อย่างใด.หลังจากที่นครวัดล่มสลาย เพราะเจ้าอู่ทองได้ก่อตั้งเมืองอยุธยา หลังจากที่เมืองละโว้ได้ล่มสลายลง พระองค์เป็นเจ้าองค์แรกที่ก่อตั้งเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นมาและได้รวมเมืองละโว้เข้าด้วยกันเป็นพระนครศรีอยุธยานั่นเอง.
ไปตีชิงเมืองคืนจากกบฏที่ปล้นฆ่าเอาของๆเขาไป
ความเห็นของผม
พระรามาธิบดีที่ 1 น่าจะเป็นขอมมาจากละโว้ พอท่านมา
สร้างกรุงศรีอยุธยา ยังให้บุตรชาย ตำแหน่งพระราเมศวรไปครองละโว้
เหมือนพระหน่อพุทธางกูรเป็นอุปราชอยู่เมืองพระพิษณุ
โลก พอได้ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา ก็ให้พระชัยราชาเป็นอุปราชไปครองพิษณุโลก
ชอมละโว้กับขอมนครวัตรเป็นญาติกัน เพราะตอนพวก
จามมาตีเมืองพระนคร พระ
เจ้าชัยวรมันที่7 สู้ไม่ได้หนี
มาละโว้ ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากละโว้ ยกทัพไปชิงเมืองพระนครคืนและเลยตีเมืองจามจนได้เมืองจาม จึงกวาดต้อนคนจามทั้งเชื่อพระวงศ์มาเมืองพระนคร ส่วนคนธรรมดาก็เอามาเป็นทาส
จนลูกราชวงค์คนหนึ่งรวมกำลังกับพวกทาสยึดอำนาจจนสำเร็จตั้งราชวงศ์ใหม่
ส่วนขอมราชวงศ์วรมันรอดก็หลบหนีมาละโว้ และมาสร้าง
กรุงศรีอยุธยา คือ พระรามาธิบดีที่ 1 ภาษาและสิ่งต่างๆในราชสำนักใช้แบบอย่างขอมทั้งสิ้น
จนพระเจ้านครอินทร์มายึดกรุงศรีอยุธยาได้ จึงได้เรื่มพูดภาษาตระกูลไท-ไต
พระรามาธิบดีที่ 1 ยังแค้นไม่หาย เมื่อกรุงศรีอยุธยาเข้มแข็งแล้วจึงให้พระราเมศวรไปตีล้างแค้น พระราเมศวรสู้ไม่ได้ จึงให้ขุนหลวงพะงั่วไปช่วยตีโดยตกลงจะยกบัลลังก์กรุงศีฯให้ ต่อมาพระรามาธิบดีตาย พระราเมศวร
ขึ้นครองแทน ขุนหลวงพะงั่วยกทัพมาทวง พระราเมศวรยอมยกให้โดยดี และกลับไปครองละโว้ต่อ
เห็นด้วยครับ
สอดคล้องกับคำสาบแช่งที่จารึกปราสาทสด๊กก๊อกธมที่สาบแช่งพวกขุนนางที่ร่วมก่อกบฏกับแตงหวาน ในพงศาวดารพระเจ้าอู่ทองให้พระราชโอรสยกทัพไปปราบขอมแปรพักตร์ก็น่าจะเป็นพวกขอมที่ไปเข้ากับพวกจามล้มล้างราชวงศ์วรมัน
พระเจ้าอู่ทองเป็นชาติพันธุ์ข.ละโว้ สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์วรมัน น่าเชื่อถือที่สุด เพราะ
1.เมื่ออยุธยามั่นคงจึงไปปราบกัมพูชา เพื่อล้างแค้น
2.ตอนต้นอยุธยา จะมีชิงราชสมบัติระหว่างสุพรรณภูมิ-ละโว้ มีความเกี่ยวดองกันตั้งแต่ต้น
3.อยุธยาเป็นชัยภูมิเหมาะในการขยายดินแดน และการค้า แต่กัมพูชาก็แว้งกัดตลอด เมื่อมีโอกาศก็แยกเป็นอิสระ
4.ถ้าพระเจ้าอู่ทองเป็นชาวจีน ก็ไม่มีเหตุจำเป็นในการปราบกัมพูชา
5.พระนามอู่ทองก็ไม่จำเป็นต้องมาจากเมืองอู่ทอง
6.เจ้าชายแสนปมน่าจะเป็นนิทานปร่ำปรามากกว่า เหมือนนิทานไกรทองเป็นต้น
ศิลาจารึกพระเจ้าอู่ทองเป็นภาษาไทย
@@airiarisaka5699 ศิลาจารึกพระเจ้าอู่ทองเป็นภาษาไทยไม่มีนะ เพราะจารึกอยุธยาตอนต้นเป็นอักษรมอญ
ไปอ่านคอมเม้นผมเลยจะเข้าใจขอมสยาม
@@airiarisaka5699 สมัยพระเจ้าอู่ทองใช่ตัวอักษรมอญครับ ไทยไม่เกี่ยว
@@user-yr3df8rz3z ยังไม่คนไทยอ่านภาษาศิลาจารึกได้ การสรุปอาจจะผิดพลาดได้
น่าสนใจมากๆ ชอบอ่านเม้นท์ของหลายๆท่านหลายๆช่อง สมัยนี้ดีที่มีช่องทางให้เราได้ความรู้กลากหลาย ไม่เหมือนเมื่อก่อน อ่านแต่แบบเรียนของกระทรวงฯ ซึ่งบางทีเราก็รู้สึกสะดุดๆมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ไม่ว่าเราจะเป็นใครมาจากไหนหรือเป็นพันธุ์ผสมเราก็เป็นคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ
ผมแนะนำอย่างนี้นะ การที่เราจะสืบค้นอะไร อย่าเอาหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดมาเป็นหลักยึด เช่นพงศาวดาร มันจะหาความจริงต่อจากนี้ไม่ค่อยได้ ให้เรายึดตามหลักฐานจริงที่มี และข้อมุลใหม่มาประกอบกัน
ผลการศึกษาหลักๆ พบว่าดีเอ็นเอของคนไทยในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน คนเมืองซึ่งเป็นประชากรหลักในภาคเหนือ
ของไทย มีดีเอ็นเอคล้ายกับชาวไดจากสิบสองปันนา ประเทศจีนตอนใต้ ส่วนคนอีสานมีดีเอ็นเอที่มีการผสมผสานระหว่างกลุ่ม
ประชากรที่พูดมอญ-เขมรกับดีเอ็นเอของคนไทยในสิบสองปันนา ซึ่งดีเอ็นเอของคนอีสานมีความต่างระหว่างชายกับหญิง คน
ลาวอีสานเพศหญิงมีดีเอ็นเอเหมือนคนไทยสิบสองปันนา ในขณะที่ผู้ชายอีสานมีดีเอ็นเอเหมือนคนมอญ-เขมร น่าจะบ่งบอก
เหตุการณ์ในอดีตและรูปแบบของการอพยพ
ในการอพยพของคนลาวอีสานน่าจะเป็นการอพยพมาทั้งชายและหญิงกลุ่มใหญ่ แต่เนื่องจากประชากรที่เป็นประชากรดั้งเดิมที่
อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานปัจจุบันเป็นคนกลุ่มมอญ-เขมรมาก่อน เมื่อเกิดรูปแบบการแต่งงาน ทำให้ดีเอ็นเอของคนอีสานในปัจจุบัน
เป็นแบบนี้
ส่วนคนไทยภาคกลางและภาคใต้มีดีเอ็นเอที่เหมือนดีเอ็นเอของชาวมอญ และยังพบว่าดีเอ็นเอของคนภาคกลางและภาคใต้ยัง
มีบางส่วนเหมือนกับชาวอินเดียตอนใต้ ซึ่งแสดงถึงการผสมผสานทางพันธุกรรมจากเอเชียใต้สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถ
ประมาณอายุได้ 600-700 ปี ซึ่งตรงกับสมัยอยุธยาของไทย งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่บ่งบอกถึงรายละเอียดโครงสร้าง
พันธุกรรมของคนไทยในแต่ละภาคว่ามีความแตกต่างกันและแตกต่างกันอย่างไร ผมได้รับเกียรติจากวารสาร Molecular
Biology and Evolution ให้ออกแบบภาพลงปกวารสารด้วย เป็นภาพของสุโขทัยและมีเกลียวดีเอ็นเอตรงศูนย์กลางและมี
แสงรัศมีแตกออกจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของดีเอ็นเอของกลุ่มคนในประเทศไทย"
คัดลอกมาจาก themomentum บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.วิภู กุตะนันท์ เป็นนักชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เชิง
มานุษยวิทยา เขียนรายงานในหัวข้อ Reconstructing the Human Genetic History of Mainland Southeast Asia:
Insights from Genome-Wide Data from Thailand and Laos ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Biology and
Evolution ฉบับเดือนสิงหาคม 2021
พระรามาธิบดีที่1 มาจากละโว้แน่นอน เพราะส่วยจากทุกหัวเมือง ที่เคยส่งละโว้ ให้ย้ายไปส่งอยุธยา แค่นี้ก็สรุปได้จบแล้ว
พระรามาธิบดีที่1 คือ ขอมละโว้ที่กลายเป็นไทย ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมืองสุพรรณ และเมืองอู่ทอง
ที่ยืนยันเช่นนี้เพราะ เรียกใช้ขุนหลวงพระงั่วเจ้าเมืองสุพรรณได้
เมื่อคราวที่พระราเมศวรไปตีเขมรแล้วเพลี่ยงพล้ำ
พระรามาธิบดีที่1ให้เรียกพระงั่วจากสุพรรณยกทัพไปช่วยหลาน
แสดงว่า มีศักดิ์ใหญ่กว่าสุพรรณ และมีความสัมพันธ์เครือญาติกันด้วย
แล้วทำไมถึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง
ที่เรียกเพราะ มีพงศาวดารบันทึกไว้ว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นกษัตริย์องค์แรกของอยุธยา
คนจดบันทึกไม่อาจแก้ไขพงศาวดาร ก็เลยใส่ทั้ง2ชื่อลงไป อู่ทองก็เรียก รามาธิบดีที่1ก็เรียก
พระรามาธิบดีที่1 ไม่ใช่เจ้าเมืองอโยธยาเดิม
ลองคิดดู ละโว้เป็นใหญ่ปกครองภาคกลางอยู่ ถ้าอโยธยาจะขึ้นเป็นใหญ่ก็ต้องรบกัน
การสร้างอยุธยาเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ทำโดยละโว้นั่นล่ะ เป็นการย้ายเมืองหลวงของกลุ่มอำนาจเก่าละโว้
ย้ายมาอยู่อยุธยา เพราะทำเลค้าขายกับต่างชาติสะดวกกว่า เรือสำเภาเข้าออกสะดวก เงินทองไหลมาเทมา
เรื่องทั้งหมดก็คือ ลูกพี่ใหญ่ย้ายเมือง ก็แค่นั้นแหละ
หลักฐานที่บอกว่า ขอมละโว้กลายเป็นไทยที่สำคัญ คือ
การตั้งชื่อกษัตริย์ หากเป็นการตั้งชื่อแบบทมิฬนาฑูจะลงท้ายด้วย "วรมัน"
แต่ตั้งแต่พศ.1595 ชื่อกษัตริย์ละโว้กลายเป็นชื่อไทยไปแล้ว เช่น
พระเจ้าจันทรโชติ,
พศ.1612 พระเจ้านารายน์ราชกุมาร,
พศ.1632 พระเจ้าหลวง ,
พศ.1654 พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ,
พศ.1708 พระเจ้าธรรมมิกราช,
พศ.1748 พระเจ้าอู่ทอง ...............
ไปจนถึงคนสุดท้ายที่ครองละโว้คือ พศ.1887 พระรามาธิบดีที่1 และย้ายไปอยู่อยุธยาในพศ.1893
ถ้านับตามไทม์ไลน์นี้ พระเจ้าอู่ทองคือ อินทรวรมันที่2 ซึ่งผมว่าคลาดเคลื่อน มีพระเจ้าสุวรรณราชาอีกองค์ สุวรรณแปลว่า = ทอง สุวรรณราชา = พระเจ้าอู่ทอง
เรียบเรียงน่าอ่านมาก มีตรรกะ
คงเหลือแต่หลักฐานประกอบ
น่าแปลกไหมที่อโยธยาใช้รูปแบบอักษรขอมไทยโบราณมานานหลายร้อยปีและใช้ร่วมกับอักษรไทยจากราชวงศ์สุโขทัยจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์และเพิ่งจะมีการยกเลิกการเรียนการสอนไปเมื่อไม่นานมานี้
มาจาก กรุงอโยธยา
ตำนานเท้าแสนปมบ้านผมที่ จ.กำแพงเพชรก็มีนะครับ มีรูปปั้นท้าวแสนปม มีเมืองเก่า และที่สำคัญมีเมืองเทพนครด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลครับ
ลูกหลานพระเจ้าชัยวรมันที่7.สุพรรณบุรีมาจากไหน.เราเป็นขอมที่ยิ่งใหญ่นี่แหระชำแหระประวัติศาตร์ใหม่ได้แล้ว
เจริญพร
ท่านมาจากฝั่งสุพรรณแน่นอน เพราะพระญาติของพระองค์ก็ล้วนแต่เป็นคน สุพรรณ
มันพยามไม่ให้รู้ว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากชัยวรมัน มันบิดเบือนนานแล้ว
ขอบคุณครับ
เมืองอู่ทอง คือ ท่าค้าขายของชาวสยาม ที่ต่างชาติจะเอาทองมาแลกสินค้า พริบพรี คือเมืองหลัก มีปากน้ำอยู่ที่ ชุมชนอู่ทอง(ปากน้ำ ยังไม่มีชื่อ) พอมีคนมาผูกสายกับเจ้าเมืองพริบพรี ก็มาสร้างเมืองขึ้นที่ปากน้ำ เลี้ยงลูก ชายในอู่ที่ทำจากทอง นั้น เมืองนี้จึงได้ชื่ออู่ทอง
ส่วน เมืองอู่ข้าว จะอยู่ที่ จ.นครสวรรค์
สมัยหลัง พระเจ้าอู่ทอง ก็เป็นแค่ชื่อเจ้าเมืองไป ส่วนบุคคล พอไปครองเมืองอื่น อัพตำแหน่ง ก็ได้ชื่อใหม่ เช่น
1.ชัยวรมันที่ 8(ปรเมศวร) คนนี้ พระเจ้าอู่ทอง ที่ถูกเลี้ยงในอู่ที่ทำจากทอง คนนี้ คือ ลูก(เลี้ยง) ของท้าวแสนปม(เพราะสุ่มทำนายหาพ่อ) ซึ่งท้าวแสนปม ได้คู่กับ ลูกของเจ้าเมืองพริบพรี หรือลูกสาวคนโตของ ศิริชัยเชียงแสน
อันเป็นชาว สยำกุก หรือสยามลุ่มน้ำกก(เชียงแสน) ที่อพยพเมื่อ ท้าวพรมมหาราช(วรมันมหาราช) สิ้นพระชมน์ จนเจอ มอญ บุก สายนี้ไม่มีสิทธิ์ครองราช เลยอพยพลงมา ตามลำน้ำติดชายเขาที่เป็นชายแดนระหว่าง ขอม และมอญ จึงเป็นชาวสยำกุก ที่อพยพลงมาเป็นกลุ่มแรกและได้เกี่ยวข้องกับขอมเป็นกลุ่มแรก(ในที่นี้ สยำ หรือสยาม อาจมีหลายกลุ่ม แต่กบุ่มนี้ คือ สยำกุก หรือ สยามที่ตั้งอาณาจักรในขอบเขตลุ่มน้ำกก เพื่อประกาศเอกราชา ไม่ส่งส่วยขอมเมืองพระนครยโสธรปุระ)
ท้าวแสนปม หรือพระเจ้าขี้เรื้อน ผู้เขย สยำกุก ก็ประกาศตัวเองเป็น ท้าวไชยเทพศิริเชียงแสนแห่งแคว้นอโยธยา ข้อนี้ ชี้ชัดว่า คนๆนี้ วางแผน ผูกสายกับชาวสยำกุก เพื่อสร้างฐานอำนาจ ขึ้น จากนั้นคนๆนี้ ก็ยกทัพผสม อาสาไปตี ลานสุกะ (ด้วยเหตุปลูกต้นโพธิ์ เสมอตนเอง) ตีได้จึง ให้พ่อตาไปครอง พ่อตา(ศิริชัยเชียงแสน) เลยสร้าง เมือง นครศรีธรรมราช ขึ้น เปลี่ยนชื่อเป็น พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช(คนที่ 1)
ย้อนเรื่อง มาที่ พระเจ้าอู่ทอง คนแรก จึงเป็นหลาน ของ ศิริชัยเชียงแสน โตในอู่ทอง ตอนสร้างเมืองอู่ทอง เป็นเมือง(มีกำแพง+ประตูเข้าออก) ซึ่งก็ได้ครองเมือวอู่ทอง เมื่อโตขึ้น เพราะพ่อครอง ละโว้โยธยา คือท้าวไชยเทพศิริเชียงแสน ซึ่งร่วมมือกับสยำกุก นี้ ยึด
1)ศรีวิชัย คือ ลานสกา หรือนครศรีธรรมราช
2) ยึดสุโขทัย (จากมอญเพราะมอญบุกมาตีไปจากขอม) โดยพ่อศรีนาวนำถม และชนะมอญ มอญกลายเป็นเมืองขึ้น
3)สยำกุก ก็ร่วมมือ แบบสหราชอาณาจักรหรือพันธมิตร
4)จามปา บุกตีเมืองพระนคร ไชยเทพฯ เลย อาศัยจังหวะนั้น ไปตบจามปา ที่โตเลสาบ จึงยึดเมืองพระนครได้ ก่อนไปครองในชื่อ ชัยวรมันที่ 7(อายุตอนนี้ราวๆ 70 กว่าปีแล้วสำหรับ ชัยวรมันที่ 7 ครองราชอีก 20 กว่าปี)
5)ตบจามปา ยึดจามปาได้
6)ตบ โจฬะอินเดียใต้ ยกทัพ อาเซียน ไปตบ อินเดียใต้ ที่บุกยึด เกาะศรีลังกา(สงครามศาสนา ไปช่วยชาวพุทธ เพราะ เกาะศรีลังกาตอนนั้นเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา สายเถรวาท ส่วนอาเซียนเป็นแบบมหายาน)
พระเจ้าอู่ทอง(คนแรก) จึงได้ครอง เมืองพระนคร ในชื่อ ชัยวรมันที่ 8 ตกสมัยที่ครองราช จันทรภานุ ที่เป็น ลูกพี่ลูกน้อง(ชัย8 คือ ลูกของผู้พี่ชัยเทวีในชัย 7 ส่วนจันทรภานุเป็นลูกของผู้น้องคือ พระยามาฆะ ซึ่งทั้ง 2 เป็นลูกของ ศิริชัยเชียงแสน) ก็แยกอาณาจักร (พร้อมพร้อมกับ ขุนยี่ที่ตั้งสุโขทัย พ.ศ. 1800 โดยขุนยี่ ก็เป็นลูกคนที่ 2 ของศิริชัยเชียงแสนหรือเป็นน้าของ ชัย 8 และเป็นลุงของ จันทรภานุ) เพราะชัย 8 ทำลายศาสนาพุทธ ถือฮินดูไศวะนิกาย ชัย 8 เลยยกทัพมาตี และ มาส่งทูตที่ลังกาสุกะ สมัยจีนหยวน ขากลับ จึงมาขุดศิวะลึงค์ ที่ไชยา กลับไปด้วย สุดท้ายคนนี้ ก็ถูก อินทรวรมันที่ 3 (ชาวสยาม ลูกชายของคำแหงพระราม) ที่เป็นเขยหลวง ชิงอำนาจ จบ ตำนาน พระเจ้าอู่ทองคนแรกที่ชาวสยำกุก จะเรียกว่า พระเจ้าอู่ทอง อยู่เลยแม้จะไปครองเมืองอื่นแล้ว และชี้ชัดว่า เมืองพระนคร ทำเลห่วยแตกมาก ถึงขั้นที่จะต้อง อ้อมมาส่ง ทูตไปจีน ทาง ลังกาสุกะ กันเลยทีเดียว เพราะออกปากน้ำโขงไม่ได้ มีจามปา คุมอยู่ ซึ่งเป็นเหตุให้ อาณาจักรนี้ ค้าขายกับชาวโลกไม่สะดวก แล้ว จนเสื่อมลงๆๆๆ ตนถึงทุกวันนี้ เพราะเหตุนี้(แต่ดันโทษโน่นนี่นั่นไปทั่ว ไม่ยึดปากแม่น้ำตัวเองให้ได้ทั้งที่ใกล้นิดเดียว ก็เลยจบข่าว กลายเป็นแค่ประเทศราช ยาวๆ)
(มีต่อ----->)
(ต่อ)2.พระเจ้าอู่ทองคนที่...(คนต่อมาละกันไม่แน่ชัดลำดับ)
คนนี้ เป็นพ่อตา ของ รามาธิบดีที่ 1(อู่ทอง+อยุธยา) และ ขุนหลวงพระงั่ว(สุพรรณ) คนนี้สำคัญที่ทำให้ สุพรรณ+อยุธยา เกี่ยวดองกัน แล้วทำให้เกิดประเทศ ไทย ในปัจจุบันขึ้น ตรงๆ แต่ ปวศ. ตามไม่ถึง คนๆนี้เลยแต่บทบาทก็มีน้อยเช่นกันแต่ลูกสาวกับเชื่อมชายสำคัญ 2 คน ให้ร่วมมือกัน ยุคนี้นัวมาก อาเซียนกำลังเกิด ความแตกแยกและอาณาจักรยิบย่อย มากมาย และพระเจ้าอู่ทองคนนี้ ก็เชื่อสาย สลวงสองแคว หรือสาย คำแหงพระราม หรือสาย พ่อขุนผาเมือง+สิงขรเทวี ที่ครอง นครศรีธรรมราช จรด พิษณุโลกสองแคว มารวมกับ สุพรรณของขุนหลวงพ่องั่ว กลายเป็น อยุธยา สืบมา กรุงธนฯ และกรุงเทพฯ แบบตรงๆ และสายเชื้อวงศ์ ยังคงสืบมาถึง ราชวงศ์ของไทย ในปัจจุบัน คนๆนี้จึงสำคัญ มากๆ แต่ ปวศ. ดันไปให้ความสำคัญ กับ สาย สุโขทัย ที่ ผสมๆ ล้านนา ของพญามังราย มากกว่า ในยุคนี้ ถึงขั้นระบุว่า รุ่งอรุณแห่งสยามประเทศ คือสุโขทัย แต่ ก็ญาติๆกันอยู่ดีอะนะ เครือสยำกุก ท้าวพรมมหาราช+ขอมวรมัน กันอยู่ดี
3.พระเจ้าอู่ทอง คนที่สร้างอยุธยา ขึ้น คือ รามาธิบดีที่ 1 และ พระเจ้าอู่ทอง คนสุดท้าย เพราะเมืองอู่ทอง ทำเลแย่มาก จนไม่เหมาะในการตั้งเป็นเมือง เพราะแม่น้ำเปลี่ยนทิศ กลายเป็นแค่คลองเล็กๆ ประจบกับ พ่อของรามาธิบดีที่ 1 ที่ยึดครอง ละโว้โยธยา ได้ ครองเมืองละโว้ อยู่นั้น พระเจ้าอู่ทอง จึงมาสร้างเมือง อยุธยา ข้างๆ เมืองอโยธยา ที่ถูกทำลายพุทธศาสนาสถานสมัย ชัย 8 และน่าจะใช้ซากกำแพงเมืองของ อโยธยา+เมืองพริบพรีอู่ทอง ในการสร้างอยุธยา
ซึ่ง หากสืบสายตระกูล รามาธิบดีที่ 1 ก็จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ อินทรวรมันที่ 4 ซึ่งเป็นหลานของ คำแหงพระรามและเป็นเหลนของ พ่อขุนผาเมือง(ลูกชายของพ่อศรีนาวนำถม/หลานตาของท้าวพรมมหาราช)+พระนางสิงขรเทวี(ลูกสาวชัย 7/น้องสาวของอินทรวรมันที่ 2และชัย 8) หรือเป็นน้า(ศักดิ์) ของชัยวรมันที่ 9(วรมันคนสุดท้ายที่ถูกแตงหวานฆ่าตายเคลมเมือง)
วรมัน คือ ยศ ของสาย พุทธมหายาน ข้อเสีย คือ ถูกไศวะตีเนียน ยึดอำนาจ ตลอด เคลมเมืองตลอด
อยุธยา จึงเปลี่ยนมาถือ คติ พุทธเถรวาท นักบวชไศวะ หมดหน้าที่ ในการราชาภิเษก ทำพิธีขอมและอารยธรรมขอมเก่าๆ ไม่ได้ เหมือนเพื่อนบ้าน ขอมสยามนั้นเปลี่ยนมาเป็นพุทธเถรวาทหมดแล้ว จึงไม่เป็นขอมแต่เป็นไทพุทธ
ในความคิดของผมเองคิดว่าอโยธยาน่าจะเป็นเมืองท่าขนาดเล็ก สมัยละโว้
น่าจะจริง
เป็นใครมาจากใหนไม่รู้ ที่แน่ๆ ขอมไม่ใช่เขมร
ในอดีตจะเป็นใครเชื้อสายอะไรเราไม่รู้ รู้แต่ง่าปัจุบันฉันเป็นคนไทยและไม่อยากเป็นคนชาติอื่น
ขอมที่แท้จริง,,,ก็คือคนไทยนี่แหละ...
ส่วนชาวกัมพูชาปัจจุบันไม่ไช่ขอม
แต่เป็นชาวจาม..ที่ขอมกวาดต้อนมาเป็นทาส
แต่ที่รู้ๆคือพระองค์รวยมากๆ ทองกองจนถึงชื่อเต็มๆ 8พระคลังสินค้า
ท้าวแสนปม
เหมือนก่อน ผมเข้าใจว่า เป็นชื่อตำแหน่ง หรือชื่อคนจริงๆ
มารู้ทีหลังว่า แสนปม คือโรคที่ผิวหลัง เป็มตุ่มพุพอง หลายตุ่ม
เลยเรียกว่า แสนปม
เคยดูแต่ในหนังว่าท่านสวรรค์คตด้วยโรคระบาดนี้
ท่านมาจากพระนครหลวงยโสธรปุระ เป็นบุตรของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9
เอาตามที่เคยเรียนรู้มาเมือง สุพรรณ อยุทธยา ละโว้ สุโขไทยตอนนั้นก็เป็นเมืองใหญ่นะไม่ขึ้นตรงต่อกันเป็นเอกเทศเป็นเครือญาติกันแต่งงานกันในราชวงศ์และจากที่อ่านมาว่าเมื่อเมืองพระนครโดนทาสเขมรตีแตก(ช่วงนั้นสยามในเมืองพระนครมีคนอยู่น้อยกว่าทาสเพราะคนสยามบางส่วนอพยพหนีภัยแล้งจากเมืองพระนครมาอยู่แถบอยุทธยาสุพรรณกัน!!พอทาสเขมรกบฎคนขอมสยามลูกหลานวรมันยางส่วนจึงมาขออาศัยละโว้ สุโขทัย อยุทธยาอยู่ทางละโว้เห็นลูกหลานหนีตายจากกบฎมาจึงให้คนเหล่านี้มาสร้างเมืองใหม่ที่สุพรรณ คืออู่ทอง พอพระเจ้าอู่ทองตั้งเมืองได้รวบรวมประชากรเป็นปึกแผ่นก็เจ้าตีเขมรเพือ่จะยึดเอาเมืองพระนครมาจากเขมรนี่ละจึงเปนเหตุให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชอ้างอิงว่าสืบเชื้อสายมาจากขอมวรมันเพราะสยามจะแต่งงานกันในราชวงศ์ อู่ทอง สุพรรณภูมิ สุโขทัย
ขาดราวงศ์ศรีธรรมโศกราชหรือไม่
ต้องหาหลักฐานภาษาพูดครับ.
เชื้อสายขอมร้อยเปอร์เชน
ผลการศึกษาหลักๆ พบว่าดีเอ็นเอของคนไทยในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน คนเมืองซึ่งเป็นประชากรหลักในภาคเหนือ
ของไทย มีดีเอ็นเอคล้ายกับชาวไดจากสิบสองปันนา ประเทศจีนตอนใต้ ส่วนคนอีสานมีดีเอ็นเอที่มีการผสมผสานระหว่างกลุ่ม
ประชากรที่พูดมอญ-เขมรกับดีเอ็นเอของคนไทยในสิบสองปันนา ซึ่งดีเอ็นเอของคนอีสานมีความต่างระหว่างชายกับหญิง คน
ลาวอีสานเพศหญิงมีดีเอ็นเอเหมือนคนไทยสิบสองปันนา ในขณะที่ผู้ชายอีสานมีดีเอ็นเอเหมือนคนมอญ-เขมร น่าจะบ่งบอก
เหตุการณ์ในอดีตและรูปแบบของการอพยพ
ในการอพยพของคนลาวอีสานน่าจะเป็นการอพยพมาทั้งชายและหญิงกลุ่มใหญ่ แต่เนื่องจากประชากรที่เป็นประชากรดั้งเดิมที่
อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานปัจจุบันเป็นคนกลุ่มมอญ-เขมรมาก่อน เมื่อเกิดรูปแบบการแต่งงาน ทำให้ดีเอ็นเอของคนอีสานในปัจจุบัน
เป็นแบบนี้
ส่วนคนไทยภาคกลางและภาคใต้มีดีเอ็นเอที่เหมือนดีเอ็นเอของชาวมอญ และยังพบว่าดีเอ็นเอของคนภาคกลางและภาคใต้ยัง
มีบางส่วนเหมือนกับชาวอินเดียตอนใต้ ซึ่งแสดงถึงการผสมผสานทางพันธุกรรมจากเอเชียใต้สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถ
ประมาณอายุได้ 600-700 ปี ซึ่งตรงกับสมัยอยุธยาของไทย งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่บ่งบอกถึงรายละเอียดโครงสร้าง
พันธุกรรมของคนไทยในแต่ละภาคว่ามีความแตกต่างกันและแตกต่างกันอย่างไร ผมได้รับเกียรติจากวารสาร Molecular
Biology and Evolution ให้ออกแบบภาพลงปกวารสารด้วย เป็นภาพของสุโขทัยและมีเกลียวดีเอ็นเอตรงศูนย์กลางและมี
แสงรัศมีแตกออกจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของดีเอ็นเอของกลุ่มคนในประเทศไทย"
คัดลอกมาจาก themomentum บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.วิภู กุตะนันท์ เป็นนักชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เชิง
มานุษยวิทยา เขียนรายงานในหัวข้อ Reconstructing the Human Genetic History of Mainland Southeast Asia:
Insights from Genome-Wide Data from Thailand and Laos ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Biology and
Evolution ฉบับเดือนสิงหาคม 2021
ตำนานเรื่องเท้าแสนปมคือ เรื่องแต่งของราชวงศ์ใหม่เพื่อดูถูกพระเจ้าอู่ทอง
เปิดอู่อยู่ที่ไหน?ครับ
อ.เมือง จ.ตาก ครับ
พระเจ้าอู่ทองก็มาจากเมืองอู่ทอง สุพรรณบุรีนั่นแหละ นักโบารณณคตืว่าร้าง ทราบได้อย่างไรหรือ หากบอกว่าเรียนมาศึกษามานั้น การตีความอาจผิดก็ได้ เมืองอู่ทองก็ยังเป็นชุมชนเรื่อยมานี่ ไปร้างช่วงไหน ท่านมีเชื้อสายทางขอมยุคนครวัดมา เผ่าพงษ์ท่านก็มีเชิ้อสายจากลพบุรีก็มี ที่อพยพมาอยุธยาเพราะแม่น้ำจระเข้าสามพันไหลเปลี่ยนทางเดินไป ไม่ได้หนีโรคห่ามาแต่ประการใดนะครับ
เมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)
พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...
ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
❤😊😊😊
ฟังแล้วมีเหตุผลที่สุดครับท่าน บรรพบุรุษเราย้ายเมืองหนีธรรมชาติ และสงครามไปเรื่อย
น่าจะใกล้เคียงนะครับผมว่า เพราะที่อ.หันคาจ.ชัยนาทก็มีเกาะเมืองท้าวอุ่ทองเพราะมีเนื้อที่ในเกาะ115ไร่ ไม่มีทางข้ามไปนอกจากใช้เรือข้ามและยังมีวัดเก่าแก่และมีชาวบ้านอยู่ในเกาะมีดูแล้วน่าจะเป็นเมืองโบราณประวัติเขาก็มีเล่ามาแต่จริงเท็จแค่ไหนเราไม่รุ้ เพราะไม่มีใครพูดถึงเลย (จากนักก็โบราณคดี)
ไม่เห็นจะมีหลักฐานใหม่เลย
แล้วเหตุใด จึงมีบันทึก ที่เมืองพระเจ้าหลุย เกี่ยวกับสมเด็จพระนาราย
ว่าพระองค์ สืบเชื้อสาย มาอย่างไร
อันนี้เห็นมีความเป็นไปได้สูงมาก
แล้วที่อ.หันคาจ.ชัยนาท ก็มีเกาะเมืองมีเนื้อที่115ไร่ เขาเรียกกันว่าเกาะเมืองเท้าอุ่ทอง ดูแล้วน่าจะเป็นเกาะโบรานจริงเเละก็มีเรื่องเล่าแต่ไม่รุ้เท็จจริงแค่ไหน แต่ทำไม่ไม่เห็นนักโบราณคดีเล่าเเละพูดถึงเลย
อันนี้ข้อมูลอ้างอิงชัดเจนรึยัง ไปดูมาหลายช่องยังสรุปไม่ได้เลย นะขอรับ แล้วบอกหลักฐานใหม่ได้ไง
ไหนบางตำนาน บอกว่า สืบเชื้อสายมาจาก ราชวงค์สิงหนวัติ ของเมืองโยนกมาก่อน ผมไม่แน่ใจว่าอ่านมาจากไหน เขาบอกว่า หลังจากโยนกล่มสลาย เจ้านายฝ่ายเหนือ แยกออกกระจายไปสร้างเมืองอื่นๆ รวมทั้งสุพรรณบุรี,กำแพงเพชร,และอีกหลายเมือง ส่วนเมืองอโยธยา ลพโว้ เป็นเมืองมาก่อนแล้ว
ใช่ค่ะ พระองค์มีเชื้อสาย "ขอม"ลูกครึ่ง แขก-จีน-สยาม ผู้มาสร้างเมืองนครวัด-นครธมนั่นแหละค่ะ เชื้อสายพระเจ้าชัยวรมัน,หลังจากนายแตงหวานตีเมืองขอมแตก พระเจ้าอู่ทองเนี่ยแหละซึ่งเป็นเชื้อสายพระเจ้าชัยวรมัน จึงได้ยกทับมาตีเมืองขอมคืนและปกครองเมืองด้วยพระองค์เองมา 500 ปีนั่นแหละ นี่คือที่มาของเมืองนครวัดที่เป็นประเทศราชของสยามปกครองมา 500 ปีนั่นเอง หลังจากตีเมืองจากนายกระเซาะกระแอมได้ พระองค์ก็ได้เอาตัวนายแตงหวานไปตัดหัวแล้วเสียบประจาน เพื่อไม่ให้คนเอาไปเป็นเยื่ยงอย่าง และเป็นการปกครองคนเขมรไม่ให้พวกเขมร กระด้างกระเดื่องกับสยามอีกต่อไป หลังจากตีเมืองแตกพระองค์ก็ได้ต้อนพวกทาสเขมร มาใส่ที่อโยธยา เอามาทำงานรับใช้ และให้เรียนรู้ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่คนเขมรยุกต์นั้นจึงได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมของสยาม สอนหนังสือไทยพูดภาษาไทย ถึงได้มีคนเขมรสมัยนั้นเรียนรู้ วรรณกรรมไทย วรรณคดีไทย โขนไทย เรียนรู้การทอผ้าใหมไทย ทางกรุงศรีอยุธยาให้ครูมาสอนคนเขมรทั้งสิ้น! แต่ฝรั่งเศสมันเขียนประวัติศาสตร์เขมรขึ้นมาใหม่ร่วมหัวกับอังกฤษเพื่อแก้แค้นพระเจ้าแห่งสยาม ที่พวกมันเสียรู้พระเจ้าแผ่นดินสยาม ยึดประเทศสยามไปไม่ได้นั่นเอง หลังจากคืน เมืองให้คนเขมรปกครองตนเอง และประเทศลาว มันจึงเขียนประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นหลังเข้าใจคนไทยผิด ทุกวันนี้คนเขมร ลาว จึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ปลอมไปที่ฝรั่งเศสมันทิ้งใว้ให้คนสองประเทศนี้ทะเลาะกับคนไทยนั่นไง. คนเขมรมันเข้าใจว่าคนไทยปล้นดินแดนมันมาทั้งของไทยในปัจจุบันนี้ รวมถึงคนลาวด้วย นี่ก็เหมือนปัญหาโลกแตก. พระเจ้าอู่ทองในประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อนเรียนคร่าวๆแต่ไม่มีมากนักที่จะกล่าวถึงพระองค์ จึงทำให้คนไทยรุ่นหลังไม่เคยได้ยินชื่อของพระองค์เลย.😒
อโยธยาศรีรามเทพนครคือเมืองของพระเจ้าอู่ทอง ท่านอพยพลงมาจากลพบุรีลงมาทางใต้ที่เรียกว่าเวียงเหล็กบริเวณวัดไชยวัฒนาราม สังเกตจากสิ่งก่อสร้างยุคต้นเป็นเจดีย์แบบปรางค์ของขอม
@@piyachatpeeta3162 ก็อาจจะใช่ครับ แต่ก็อย่างว่านะครับ สมัยนั้นคนจะเป็นเจ้าคนนายคนต้องมีเชื้อสายเจ้ามาเป็นที่ตั้งก่อน เป็นไปได้หมดว่าจะเป็นเจ้าจากที่ไหน ที่ผมตั้งข้อสังเกตคือ สุพรรณบุรี อยุทธยา เกิดมาภายหลัง โยนกได้ไม่นานนัก แล้วสมัยนั้นมีบันทึกใว้ว่าเจ้านายฝ่ายเหนืออพยพลงมาสร้างเมืองใหม่ทางทิศใต้หลายที่หลายแห่ง เป็นไปได้ว่า อาจจะมีความเชื่อมโยง
*รอดูหลักฐานใหม่ๆต่อไปครับ
@@piyachatpeeta3162 ข้อเท็จจริงความจริงของพระเจ้าอู่ทองก็คือ
เมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)
พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...
ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
@@suncarnegie4747 ผมเห็นด้วยที่ว่าพระเจ้าอู่ทอง มาจากราชวงศ์ทางเหนือ ดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับทฤษฎีอื่น
การสร้างเมืองอยุธยา ในสมัยอยุธยาตอนต้น มันแสดงถึงรูปแบบว่า อยุธยามีความเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสาน วัฒนธรรมจากล้านนา กลุ่มวัฒนธรรมทางใต้(จีนเรียกพวกนี้ว่าสยาม) และวัฒนธรรมจากอาณาจักรวรมัน(ไม่ขอเรียกว่าขอม-และจะไม่เรียกว่าเขมร จึงนิยามเอาชื่ออาณาจักร์จากราชวงศ์วรมันโดยตรง) นั่นจึงเป็นไปได้ยากมากที่พระเจ้าอู่ทองจะเป็นละโว้มาโดยตรง เพราะถ้าเป็นละโว้ ศิลปะวัฒนธรรมควรไปทางวรมัน และการที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมทั้ง3 กลุ่มแล้ว ก่อนตั้งเมือง จึงมีความน่าเชื่อถือว่า มีพื้นฐานเป็นเมืองอื่นในละแวกนั้นมาก่อนและอาจจะไม่ได้ขึ้นกับ 3 กลุ่มนี้เพราะถ้าขึ้นกับกลุ่มใดชัดเจน วัฒนธรรมควรเทไปทางด้านนั้น แต่ก็น่าแปลกอยู่ดีว่าถ้าเป็นอย่างนั้นสุโขทัยก็ควรมีบันทึกถึงเมืองที่มีตัวตนก่อนอยุธยาในละแวกนั้น ที่มาของอยุธยานี่แหละปวดหัวสุดแล้ว
ไม่ต้องไปอื่นใดเลยมันง่ายมากส่งไปรษณีย์สารอะไรทั้งสิ้นทองเป็นชาวนครวัดที่เป็นเชื้อพระวงศ์ท่านหนีออกมาจากนครวัดกับสมัครให้พลประมาณแสนแล้วหอมกับชาวละโว้เนี่ยเขาเป็นเครือญาติโปท่านได้หนีมาอยู่ที่เมืองละโว้สร้างอยุธยาแค่ 3 ปีคนถ้าไม่แก้แค้นจริงมันไม่แค้นสร้างเมืองแค่ 3 ปีจะกลับไปแก้แค้นได้เหรอเพราะเพิ่งจะสร้างเมืองบทความนี้มาแล้วส้มแขนที่ไอ้แตงหวานมันทำร้ายเชื้อพระวงศ์เป็นกับไปแก้แค้น
พระเจ้าอู่ทองเป็นชาวขอมาจากนครวัดเล่นนี้ไม่อยู่ที่ละโว้คนเราอ่ะถ้าไม่เครียดแค้นสร้างกรุงศรีอยุธยาได้ 3ตีไม่กลับไปแก้แค้นหรอก
@@user-qx7ty4xj4i ทฤษฏีนั้นก็เป็นจุดที่ผู้สนับสนุนทฤษฏียกขึ้นมาพูดถึง ซึ่งมันสนับสนุนเพียงแค่แรงจูงใจ แต่ความสอดคล้องทางด้านศิลปะวัฒนธรรมนั้นยังถูกโต้แย้งได้ง่ายอยู่
แต่แรงจูงใจในการไปตีเขมรก็มีครับ โดยน่าจะมาจากนครธมล่มสลายจากการก่อกบฏและย้ายไปพระนคร ทำให้เขมรแตงหวานอ่อนแอ รวมถึงละโว้เองก็เป็นญาติกับวรมันจึงน่าจะสนับสนุนให้อยุธยาเข้าตีเขมรแตงหวานที่กำลังอ่อนแออยู่เพื่อแก้แค้นและเขมรแตงหวานที่อ่อนแอในช่วงนี้ไม่ควรปล่อยโอกาส (สมัยก่อนมีการผูกสัมพันธ์โดยการให้ลูกหลานแต่งงานข้ามอาณาจักร์โดยถ้าดูจากในรูปสลัก ในกำแพงนครวัด ก็แสดงให้เห็นว่า ละโว้ กับเสียมกุกทางใต้ของไทยในปัจจุบัน ก็รวมตัวกันไปช่วยรบพวกญวน การรวมทัพข้ามอาณาจักร์ได้ต้องมีความสัมพันธ์ค่อนข้างแน่นแฟ้น ก็น่าจะมาจากสาเหตุความเป็นญาติกันนี้)
อยุธยาจึงได้แรงสนับสนุนเป็นข้ออ้างในการทำสงครามและได้ละโว้ช่วยสนับสนุนด้วย ถ้ามองปกติยุคนั้นแม้จะพูดว่าเป็นอาณาจักรแต่ด้วยความห่างไกลกัน การเคลื่อนทัพไปป้องกันชายแดนมันไม่สะดวก ระบบจึงแบ่งทหารไว้ให้หัวเมืองปกครอง โดยมักจะมีกำลังทหารเดิมของใครก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้ส่งทหารข้ามไปมากัน เพราะทหารเองก็เป็นประชาชนก็ควรอยู่ในพื้นที่เดิมเพื่อไม่ให้ขวัญกำลังใจตกลง รวมถึงต้องสร้างที่พักอาศัยแยกใหม่ซึ่งสิ้นเปลืองกว่า
ถ้าอยุธยาไปตีวรมันโดยละโว้ไม่เห็นชอบทั้งๆที่ละโว้เป็นญาติกัน อันนี้ลำบากเพราะละโว้อาจแข็งเมืองและตีตลบหลัง แต่พอวรมันล่มสลายจากการก่อกบฏ มันจึงเป็นโอกาสทองเพราะเขมรใหม่ยังอ่อนแอและเป็นพวกแปรพักตร์(สมัยนั้นก็ถือว่าเป็นพวกชั่วร้าย) ไหนจะทำให้ละโว้โกรธแค้น การไปตีจึงสะดวกและควรรีบทำครับ
เห็นยอดเจดีย์สมัยต้นของอยุธยายังครับ ยอดยังเป็นยอดแบบนครวัดเลย
ผมว่าเป็นไปได้ที่พระเจ้าอู่ทองมีเชื้อสายขอมพระนคร
ผมค่อยข้างเชื่อว่าพระรามาธิบดีที่1น่าจะมาจากอโยธยา และน่าจะเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของอโยธยา
ท่านอาจไปสามที่ นครธม ละโว้ สุพรรณ แต่งงานข้ามเผ่าข้ามเมืองจนมีอำนาจสร้างเมือง
เสียมราฐน่าจะเป็นเมืองดังเดิมของเสียม บันทึกจีน บอก อยุธยา มาจาก เสียมรวมกับละโว้ เสียมก็มีที่สุพรรณ แต่ตำนานการสร้างเมือง ต้นหมัน มันคล้ายเมืองพระนคร ท่านน่ามาจากละโว้ซึ่งแต่งงานกับเมืองพระนคร เมืองพระนครตามโบราณคดี มีการลดและหายไปของประชากร ถามว่าและประชากรจะหายไปไหน
ประชากรก็คือไอ้แตงหวานก่อกบฏไงสังขารไปหลายแสนคนเจ้าอู่ทองก็รวบรวมสมัครพรรคพวกที่หนีออกมาจากนครวัดได้ก็มาสร้างอยุธยาประวัติศาสตร์ไทยบอกประชาชนตรงๆแบบนี้โดยไม่เอาจากที่เขมรโดยไม่เอาจากฝรั่งเศสจากที่อื่นมันไม่เป็นความจริงมันก็จะมีช่วงที่ขาดตอนไปมายังไงอะไรยังไงแต่เอาตามความจริงแบบนี้มันไม่มีขาดตอนมันเป็นความจริงทุกอย่างมีที่มาที่ไปสยามก็มาจากชาวขอมมีที่มาที่ไปแล้วดินด่านเกวียนอำเภอพิมายอยู่มาเป็นพันๆปีแล้วก็บ้านเชียงก็อยู่มาเป็นหมื่นปีมันไม่มีอะไรขาดตอนตรงไหนเลย
ขอมตัวดํา จะเป็นไทได้ไง ล้านนาและสุโขทัยเรียกไอ้ตัวดําภาคกลางว่าขอม ขอมคือคน
ตระกูลมอญ-เขมร โครตเง้าของคนภาคกลาง คนภาคกลางคือมอญเขมรที่พูดภาษาตระกูลไท
สมัยราชวงศ์อู่ทองปกครองอยุธยา
เป็นเขมร มาจากกัมภูชา
แต่ตอนนั้นสุพรรณบุรีเป็นเมืองร่างนะครับ
ขอมีอะไรด้วย ว่าตะอะไรอย่างรัยยังงัยอิหยัง
แต่เห็น ๆว่านักวิชาการตอนนี้เขาบอกว่า พระเจ้าอู่ทองไม่มีตังตนจริงๆ มีแต่พระรามาธิบดีที่1
คุณรู้มั้ย คำว่าอู่ แปลว่า แท้ ทองมาจากคำว่า ทอ อู่ทองมาจากคำมอญแปลว่าทองแท้ อยุธยา มีคำนำหน้าว่าทวารวดี ทวารวดีมาจากลุ่มมอญ
พระอู่ทองไม่ตัวตนบ้างก็มาจากเหนือ
ที่ว่าเป็นไ ท ที่จริงเป็นเขมร เราเป็นทาสเขมร แต่ทรยศต่อนาย มาตั้งประเทศเป็น ไทย ตา ที่สุจิตต์ว่า
ท่านมาจากเชียงแสนเงินยางครับ
พระจ่าวอู่ทองที่อำเภออู่ทองทีจังหวัดสุพรรณบุรีรึคับท่านอาจารเอ่ย😂😅
อู่ทองคือเปลทอง
พระรามาธิบดี1เป็นสายจันทรวงศ์+ปทุมสุริยวงศ์ สืบสายมาจากสุริยวรมัน1 โดยเฉพาะเมืองละโว้ ญาติเพียบ
พระเจ้าแตงหวาจริงคือนิทาน พื้นบ้าน แตงหวานจริงๆคือ อินทรวรมัน3
ข้อแรกตัดไปได้เลยศิลปะอยุธยาไม่มีความคล้ายจีนเลยสักนิด
พระเจ้าอู่ทอง
1. มาจากเมืองจีน
2. เป็นลูกของราชวงศ์เชียงเเสน
3. เฮาหากเป็นพี่น้องกันเเต่
ขุนบรมปางก่อน
ขุนบรมทายาทเเถน
(เดียนเบียนฟูเวียดนามเหนือ)
เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้มส่งพระราชสาส์นไปหาเพื่อจะท้ารบ
พระรามาธิบดีเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ
เเต่คนทางเหนือเช่นเชียงเเสนเชียงทองเรียกว่า ขอม
เพราะฉะนั้น พระเจ้าอู่ทองเป็นใครก็ได้ที่มาจากเเถวๆกวางสี
พวกจ้วง ภูไท ไทดำ ไทขาว ไทเเดง ถูกพวกฮั่น
(สามก๊ก)รุกรานจึงได้เคลื่อนย้ายไปหลายๆที่เพื่อความปลอดภัย
เจ้าของช่อง อย่าหลงในประเด็น พระรามาธิบดีกับพระเจ้าอู่ทอง ก็เเล้วกัน ถ้าหลงในจุดนี้
วิชาประวัติศาสตร์คุณจะถึงทางตันทันที
ศึกขอมเเปลพักตร์ ที่ว่าไปตีเมืองพระนคร เป็นพงศาวดารที่เขียนขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี- รัตนโกสินทร์เป็นเรื่องของวิชารัฐศาสตร์ระหว่างชนชั้นสูงกับชนชั้นสูงเขาจะชนกันทางปัญญา
ส่วนเรื่องพระเจ้าเเตงหวานก็เป็นนิทานบรรพชน ที่เขียนขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี- รัตนโกสินทร์
เอาเรื่องเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ให้อยู่ในวิชาการเมืองเพื่อความชอบธรรมในการยึดอำนาจเอาคนเก่าออก สวมคนใหม่เข้าไปเเทน เป็นเรื่องของการเมืองในอดีต
หลังพ.ศ1900
เมื่อภาษาไท มีอำนาจมากขึ้น
ขอมจึงถูกส่งกลับคืนไปที่เดิม
คือเขมร ขอม ณ.ที่นี้คือขอมละโว้อโยธยา ส่วนขอมเมืองพระนครก็กระจายตัวลงมาอยู่อโยธยา เพื่อลงทะเลส่วนหนึ่งกลายตัวเป็นคนไทไปกับคนสุพรรณบุรี อีกส่วนกับคืนสู่กัมพูชาเพราะกลัว...?
คนชนะได้เขียนประวัติศาสตร์ส่วนคนเเพ้เป็นกบฏ
พระเจ้าอู่ทองมาจากจีน มั่ว อยุธยาตอนต้นใช้อักษรมอญ ไปดูงานค้นคว้าของอาจจารย์ ศานติ พระเจ้าอู่ทองเชื้อสายมาจากอินเดีย์ อารยะธรรมพราหมณ์ ใช้ภาษาสันสกฤต อย่ามั่วสิ ชื่อพระรามา จากพราหมณ์ อย่ามะโน
เม้นนี้เฉียบ
ผมว่าโดยทฤษฎีนะครับว่าท่านก็อยู่ละโว้ลพบุรีเหรอครับ
น่าจะ
ตำนานมีแต่เรื่องเล่าสืบต่อกันมา
ทุกวันนี้เขารู้กันแล้วว่า...พระเจ้าอู่ทอง กับ สมเด็จพระรามาธิบดี
ไม่ใช่คนๆเดียวกันครับ
พระเจ้าอู่ทองเป็นขอมจากอาณาจักรสุโขทัยขอมสะโหมดโขลนลำพงเจ้าผู้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยส่งมาเป็นหน้าด่านที่อู่ทองนายหนึ่งและที่ปราสาทเมืองสิงห์ไทรโยคกาญจนบุรีนายหนึ่งกะษัตริย์สุโขทัยให้พระเจ้าอู่ทองส่งเครื่องราชบรรณาธิการไปถวายทุกสองปีหลังจากสุโขทัยเริ่มอ่อนแอพระเจ้าอู่ทองแอบย้ายจากอู่ทองไปตั้งเมืองที่หนองสะโนอโยธยา(วัดไชยวัฒนาราม)กษัตริย์สุโขทัยองค์ที่4อ่อนแอมากพระเจ้าอู่ทองจึงไม่ส่งเครื่องราชบรรณาธิการไปถวายและได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์อาณาจักรอโยธยาอาณาจักรสุโขทัยจึงเสื่อมอำนาจลงโดยปริยายพระเจ้าอู่ทองไม่ได้มาจากไหนเป็นขอมที่มาจากสุโขทัยนั้นเอง
ข้อเท็จจริงความจริงของพระเจ้าอู่ทองก็คือ
เมืองอู่ทองตอนนั้นเป็นเมืองร้างไปก่อนหน้าที่พระเจ้าอู่ทองเดินทางผ่านมาครับ (เป็นเมืองสมัยทวาราวดี)
พระเจ้าอู่ทอง...คือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๙...เป็นกษัตริย์สยาม....ถูกทาสเขมรก่อกบฏในเมืองพระนครจนต้องหลบหนีออกมาจากเมืองพระนคร..หนีมาทางสุพรรณบุรี (อาจจะมาพักที่เมืองร้างอู่ทองเพื่อพักทัพ...เจ้าเมืองสุพรรณบุรีจึงเรียกพระเจ้าอู่ทอง) นำข้าราชบริพารมาเรือนแสน...เจ้าเมืองสุพรรณบุรี (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ออกไปให้การต้อนรับพร้อมทั้งยกเมืองอยุธยาให้กษัตริย์สยามปกครองดูแลพร้อมยกธิดาให้ด้วย (เริ่มต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิ)...
ตระซอกประแอม (ทาสกบฏเขมร)....กษัตริย์สยาม (ชัยวรมันที่๙ ตั้งชื่อให้เรียกง่ายๆ ว่า "แตงหวาน")....ตระซอกประแอมคือหัวหน้าทาสกบฏเขมรที่ทำการยึดเมืองพระนครในครั้งนั้น...แล้วสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าเมืองพระนครแทน..สองปีถัดมาหลังจากที่ตั้งเมืองอยุธยาเป็นเมืองหลวงใหม่แล้ว...พระเจ้าอู่ทอง (ชัยวรมันที่ ๙) จึงสั่งให้กองทัพละโว้ (แม่ทัพบกแห่งสยาม/เนะ สยำกุก)......ตั้งกองทัพที่เมืองเจนละ (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม)...รอกองทัพหลวงจากรุงศรีอยุธยาเข้าสมทบ (สมเด็จพระรามาธิบดีที่สอง).....สมทบ..ก่อนยกพลบุกเข้าตีเมืองพระนครคืนจากทาสกบฏเขมร ตระซอกประแอม...(มีบันทึกจากนักเดินทะเลชาวต่างชาติบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ ....มจ.ศุภัทรดิส ดิสกุล ประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐)....ในบันทึกมีการกล่าวถึงการประหารกบฏทาสเขมรผู้ก่อการเหล่านั้นด้วยการตัดหัวแช่เกลือเสียบประจาณไว้ด้วย...หลังจากนั้นก็มีการกวาดต้อนเชลยทาสกบฏเขมรไปไว้ที่อาณาจักร กัมโพช (ขอม/เจ้าเมืองพวกสยาม) ปกครองดูแลใช้สอยทาสเขมรเหล่านี้ต่อไป)...เมืองพระนครจึงร้างมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะสยามได้มีเมืองหลวงใหม่แล้วที่อยุธยานั่นเอง
ไม่มีความเห็นใดๆครับ…เจดีย์ยุทธหัตถียังมีสองที่ ทั้งที่ดอนเจดีย์ และที่พนมทวน
โปรดแยกแยะขอม กับเขมร ด้วยนะครับ
สมมุติฐาน คาดเดา คาดคะเน ล้วนๆ ไม่มีหลักฐานจริงๆ สร้างขึ้นมาทั้งนั้น
เช่นเดียวกันกับเขมรใช่ปะพระแก้วพระโคนิทานหรอกเด็กทั้งนั้น
หลักฐานมีเต็มเมืองเลย..สักวันคงมีคงที่สามารถแสดงหลักฐานได้ รวมถึงเชื่อมโยงข้อเท็จจริงจากหลักฐานนั้นได้ครับ (ใกล้ถึงเวลาแล้ว)
เรื่องสมัยโบราณ เป็นเรื่องที่ศึกษาหลักฐาน ในอดีตแล้วมาตั้งสมมุติฐาน ซึ่งอาจจะจริง หรือไม่จริงก็ไม่ทราบได้
แต่ถ้าอยากได้ความจริงแบบ
100 % ก็ต้องเข้าเครื่องย้อนเวลากลับไปในสมัยโบราณในช่วงนั้น แล้วเอาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง นั่นแหละคือเรื่องจริง
ท่าน นั่งเรือ สำเภามาจากจีน
น่าจะคนโคราช ..สายมหิธร.
รบแพ้เขมร ตลอด อยุธยา อยากจน
อย่าไปเที่ยวเขมรมัน comment บิดเบือนพวกเราแขวงตัวมาคอมเม้นพวกนี้ไอ้สัตว์นรกลูกอีห่าลากเขมรพวกมันไม่ได้เล่นเอาด้วยกลกะหรี่เขมรชิงหมามาเกิดบริษัทเขมรสัตว์นรก
พระเจ้าอู่ทองน่าจะเป็นพ่อค้ามาจากจีน และน่าจะร่ำรวยมาก ยุคสมัยเปลี่ยนแต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือคนรวยมักจะถูกยกให้เป็นชนชั้นสูงของสังคม
研究這樣能賺錢嗎!
เอาหลักฐานมาจากไหนคุณรูเหรอว่าท่านมาจากไหน นักวิชาเกินเหล่านี้ผมไม่เชื่อถือนักวิชาเกิน
พวกมึงเขียนประวัติศาสตร์เองแต่ว่าดูไปมันตลกดีนัภาษาและวัฒนธรรมของที่มึงว่าขอบนั่นแหละ ต่อให้เขาเป็นคอมหรือเป็นอะไรก็ช่างถ้าเกิดว่าเขาเขาก็ยังใช้ภาษาเดิมของเขาแต่นี่เขาไม่มีประสาทเลยบันทึกไว้เลยก็มีแต่ไทยนั่นแหละเขียนเองอะไรเองนั่นแหละฟังแล้วงง😅😅😅
เขมรเเปลว่าทาสคุณรู้มั้ยเขมรทำมัยเรียกตัวเองว่าทาส
เกิดไม่ทันสักคนหลอก
😂อยากเชื่อ แต่ติดใจคำว่า " อู่ทอง " ถ้าไม่เกี่ยวกับเมืองเก่า อ. อู่ทอง จ. สุพรรณ แล้วทำไมชื่อว่าอู่ทอง หรือว่าบังเอิญไปเหมือน.ครับ
ผมว่าบังเอิญ จริงๆชื่อท่านอาจเป็นภาษาอื่นที่มีคำพ้องเสียงเป็นแบบไทยๆ ว่าอู่ทอง (อย่างฝรั่งชื่อ แมรี่ ก็เป็น มะลิ อะไรทำนองนี้ )
่เหตุใดมีคนอ้างเป๋นอู่ทองมาเข้าร่างคนบาป
แล้วทำไมเมืองลพบุรีพระเจ้าอู่ทองจึงมีอำนาจสามารถส่งลูกไปครอง
เขาว่าพระเจ้าอู่ทองคนเชียงราย
ราชสำนักแต่เดิมพูดภาษาอะไร ก็มาจากที่นั่นแหละ ครับ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเทพ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คล้ายๆ บทพระสวดภาษาบาลี ที่ไม่ได้เปลี่ยนมากว่า 2500 ปีแล้ว----เป็นความเห็น
มองรูปปั้น เหมือน ประยุทธ์ จันทร์อังคาร
หา พ่อ ไม่ได้. เขาไม่บอก. อู่ทองไม่มีจริง
ฟังตั้งนาน เลอะเทอะทั้งเพ
อ่าว
วัน วลิต ไม่เคยเขียนว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นเจ้าชายจากจีนถูกเนรเทศ การจับความผิดๆ ทำให้รุ่นหลังเชื่อแบบผิดๆ ผลงานของ วัน วลิต ไม่เคยมีเรื่องนี้ ไม่เชื่อไปหาอ่านเอาให้เจอ เอาฉบับคัดลอกก็ได้ แต่อย่าไปอ่านเอกสารที่มีคนไปตีความแต่ไม่ไม่เอกสารยืนยัน มีผลงานหนึ่งชองวัน วลิต คือ "การสร้างอาณาจักรสยาม" ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่อง "การสร้างกรุงศรีอยุธยา" ซึ่ง วัน วลิต เขียนว่าเป็นนิทานเล่าขานกันมาว่า เมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีมาแล้ว เจ้าชายกรุงจีนผู้หนึ่งถูกเนรเทศ ล่องเรือมาขึ้นที่ปัตตานี สร้างอาณาจักรลังกาสุกะ โดยมีเมืองสำคัญคือเมืองละครคือเมืองนครศรีธรรมราช เมืองกุยคือเมืองกุยบุรี และเมืองพริบพรีก็คือเมืองเพชรบุรี ต่อมากลายเป็นอาณาจักรสยาม โดยสรุปว่า อาณาจักรสยามเป็นอาจักรที่เก่าแก่ วัน วลิต บันทึกงานนี้ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง คือประมาณ พ.ศ.2143 ลองเอา พ.ศ.2143 - 2000 ซิ ก็แสดงว่า เจ้าชายจากเมืองจีนถูกเนรเทศ ประมาณ พ.ศ. 100 กว่าๆ เท่านั้นเอง และอาณาจักรลังกาสุกะ ก็น่าจะสร้างตั้งแต่ พ.ศ.100 กว่าๆ เช่นกัน ลองคิดดูซิครับ หากพระเจ้าอู่ทองคือเจ้าชายกรุงจีน จะมาสร้างกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ.1893 ได้ยังไง แนนอน ตำนานการสร้างเมืองนคร ระบุว่าพระเจ้าศรีธรรมโศกราชพระองค์หนึ่ง ได้ทำสงครามกับพระเจ้าอู่ทองของกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่ง แต่ต่อมาเป็นพันธมิตรกัน ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่พระเจ้าอู่ทองของกรุงศรีอยธยา แต่เป็นพระเจ้าอู่ทองพระองค์หนึ่งใน อโยธยาศรีรามเทพนคร หรือละโว้อโยธยานั่นเอง ซึ่งจะเรียกตำแหน่งกษัตริย์ว่าพระเจ้าอู่ทองทุกพระองค์ ดังนั้นพระเจ้าอู่ทองที่เป็นคนสร้างกรุงศรีอยุธยา คือพระเจ้าอู่ทองแห่งละโว้อโยธยาพระองค์สุดท้าย ไม่ใช่เจ้าชายกรุงจีนแต่อย่างใด
มันจะมาจากใหน_ไม่สนใจว่ะ
มาจากนครวัดเชื้อสายชัยวรมันหนีจากการแย่งชิงอำนาจกันมา😅ตั้งถิ่นฐานเมืองลพบุรีก่อนรวบรวมพลตั้งเมืองกรุงศรีอยุธยาดูพระปรางที่ท่านสร้างใว้มาจากใหนก็รู้แล้ว😅😅😅❤❤❤
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่สามารถปฎิเสธได้เลยแม้แต่คำเดียวที่เป็นหลักฐานสำคัญคือโบราณสถานที่ยังมีอยู่ให้อนุชนคนรุ่นหลังให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้นคือเมืองหลวงเก่ากรุงศรีอยุทธยา
จำไว้สมองเอาไว้นะพระเจ้าอู่ทองคือพระเจ้าชัยวรมันที่9และขะแมร์มันคือทาสขอมสยามลาวจงจำเอาไว้
เปนศรีธนนชัยในนิยายเปนเงาะป่านิยายเปนเขยคนที่หกของขุนพิชิดเจ้าเมืองพิจิตเปนลูกนางกวักกับพระเจ้ากรุงจีนเปนลูกบุญธรรมจามเทวีชื่อขุนเจืองเรืองรฤทธิไกรเปนคนนำทีมสร้างอาคารถนนนเขื่อนนครวัดอาคารยาวไปขอดูฝลั่งเศสที่มีเอกสารจะได้ไม่เถียงกัน
บันทึกประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสนั้นมันเขียนขึ้นมาเองแต่งเรื่องปลอมๆทำให้คนเขมรเชื่อในสิ่งที่บิดเบือนไม่ใช่ความจริงเลย เพราะฝรั่งเศสปกครองเขมรและลาว หลังจากที่ฝรั่งเศสแย่งดินแดนแห่งนี้ไปสยามจึงเสียดินแดนแห่งนี้ให้ฝรั่งเศสไป แต่พอถึงยุคที่ต้องคืนดินแดนและอิสระภาพให้ชาวเขมรและลาว ฝรั่งเศสมันก็ให้นักประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสเองเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาเอง และอ้างว่า คนเขมรเป็นคนสร้างยครวัดและเขียนให้คนเขมรยิ่งใหญ่แต่เขียนให้คนสยามเป็นทาสเขมร ทั้งๆที่ความจริง เจ้าแตงหวานนั่นแหละ ที่เป็นหัวหน้าทาสคนเขมร ได้ยกคนตีเมืองนครขอมแตก และยึดครองเมืองตั้งตนขึ้นปกครองกันเอง จากคนชั้นทาสแท้ๆแต่หึกเหิมตีเมืองขอมจนแตก และสุดท้ายพระเจ้าอู่ทองเนี่ยแหละ พระองค์เป็นธาญาติของพระเจ้าชัยวรมัน ได้ยกทับมาตีเมือง"ขอมเดิม"ที่คนเขมรมันตีไป และสุดท้ายก็จับนายแตงหวานหรือเจ้าแตงหวาน นายกระเซาะกระแอม เอาไปตัดหัว แล้วเสียบประจานหัวเมือง ไม่ให้คนชั้นทาสเอาไปเป็นเยื่องอย่างอีกต่อไป คนเขมรไม่เคยพูดถึงบรรพบุรุษของพวกมันที่ชื่อนายกระเซาะกระแอม หรือนายแตงหวานเลย นั่นแหละคือบรรพบุรุษของคนเขมรตัวจริง!!คงจะเป็นเขมรนะสิเราน่ะ.😅
ขอบคุณมากครับแอดที่มีความสนใจในเรื่องเหล่านี้เพราะนับวันนัินหาผู้สนใจทางด้านนี้น้อยเต็มทีแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ
พระเจ้าอู่ทองน่าจะหนีภัยมาจากเขมรเพราะเพราะว่าพระองค์แค้นที่เขมรตีจนเสียมเรียบหรือสยามราบคาบพระองค์สร้างเมืองเสร็จพระองค์ก็ชราภาพมากแล้วพระองค์ต้องรีบไปตีเขมรคืน
เขมรคือทาสทีก่อการใด้สำเร็จพระเจ้าอู่ทองค์แคนขอมไม่ใช่คนจีนแน่นอนเพราะวัฒนธรรมศิลปะกรรมขอมจีนต่างกันลิปเลย
เมืองอู่ทองล่มสลายเวลาใกล้เคียงกับการตั้งเมืองอโยธยาศรีรามเทพหรือไม่
ถ้าพระเจ้าอู่ทองครองเมืองอยู่ฝั่งตรงข้ามทำไมไม่มีปราสาทราชวังในเมื่อบอกว่ามีเจ้าครองเมืองถึง10องค์ผมไม่เขื่อ