ทหารปืนใหญ่ เขาชูถุงอะไรก่อนจะยิงปืน (?)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2023
- ในการยิงปืนใหญ่ หลายๆครั้งเราจะเห็นว่ามีกำลังนายนึงวิ่งออกมาด้านหลังปืนและชูถุงอะไรซักอย่างขึ้นเหนือหัว โดยวันนี้เราจะมาพาไปดูกันครับว่า ทหารปืนใหญ่ เขาชูถุงอะไร และชูมันขึ้นมาทำไมครับ
-- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
📌 ติดต่อโฆษณา : 02-118-6153
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
📌 ติดตามข่าวสารและเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมถึงเลือกดูสินค้าจาก Valor Tactical ในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
👉 TH-cam : / valortacticalthailand
👉 Facebook : / valormanager
👉 Instragram : / valortactical_store
👉 Tiktok : / valortactical_store
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
📌 เลือกดูสินค้าจาก Valor Tactical ได้ที่ : valortacticalstore.com
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
📌 แผนที่ร้านค้า Valor Tactbcal : goo.gl/maps/KwongTdAn9i1V9J27...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
#valortactical #รู้หรือไม่ #valortacticalpodcast #valortacticalThailand
มันจะมีคนมาดราม่ามั้ยว่า เป็นการแสดงปาฮี่ โชว์สวยๆ ทำอะไรไร้สาระ 😂😂😂 แต่บอกเลยเขาทำอะดีแล้ว เพราะเขาต้องการความถูกต้อง และชัดเจนในการยิงแต่ละนัด เพราะปืนใหญ่ยิงนัดนึงมันแพงมาก แล้วอย่างที่เขาบอกถ้าใส่ส่วนผิด มันก็ห่างเป้าหมายไกลเลย ไม่รู้ไปตกที่ไหน หรือจะตกใส่เขตชุมชนหรือป่าว 😅
ทำแบบนี้ดีแล้วเป็นขั้นตอนปกติมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยเลยด้วยซ้ำไป เพราะบางทีพลาดใส่ส่วนบรรจุดินส่งเกินแล้วปืนแตกระเบิดคนตายไปเลยก็มีอยู่
มันจะมีอะไรปาฮีีกว่าตรวจพร้อมรบทหารไทย
พวกอคติมันไม่ฟังไรหรอกครับ ไม่ต่างจากพวกโลกแบนเท่าไหร่
รถมันเเรงคนมันเเรง
1เซนติเมตรก็แค่นิดเดียว แต่ถ้าระยะทาง20กิโลเมตร คิดดูมันจะห่างไปเท่าไหร่ 555
มีคำถามครับ ถ้าใส่หมด๗ถุง ไม่ต้องชูถูกไหมครับ
การพิจารณาเลือกใช้ส่วนบรรจุอะไรนั้น ไม่ได้ถูกกำหนดด้วยระยะยิงที่เหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นประกอบการพิจารณาด้วย เช่นมุมยิงต่ำสุด ซึ่งมุมยิงต่ำสุดนี้จะหาได้ในสองลักษณะ คือ วัดจากสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้าเช่นยอดไม้ เนินเขาสูง ที่มองเห็นด้วยสายตา แล้วเปิดฝาท้ายลำกล้องและหมุนควงสูงปืนพร้อมทั้งมองผ่านลำกล้องปืนให้พ้นความสูงยอดสิ่งกำบังนั้น และอ่านค่ามุมสูงที่ได้และแจ้งไปยัง ศอย. ให้ทราบว่ามุมยิงต่ำสุดของปืนแต่ละหมู่มีค่าเท่าใด ในการยิง นอย.เลือกใช้ส่วนบรรจุ 4 แต่เมื่อคำนวณมุมยิงแล้ว ได้มุมยิงที่ต่ำกว่ามุมยิงต่ำสุดจะต้องเปลี่ยน ด้วยการลดส่วนบรรจุลงเช่น เปลี่ยนไปใช้ บจ. 3 แทน แต่ถ้า บจ.3 ได้มุมยิงที่มากกว่ามุมยิงต่ำสุดแล้วยิงได้ไม่ถึงเป้าหมาย (มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย) อาจต้องยิงด้วยมุมยิงใหญ่แทน (มุมยิงที่มากกว่า 800 มิลเลียม หรือ 45 องศา) และมุมยิงต่ำสุดอีกแบบหนึ่งคือ การหาจากสิ่งที่จะเกิดอันตรายกับพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้กระสุนไปตกในบริเวณนั้น เช่นในการฝึก จะมีการกำหนด impact ไว้บริเวณสนามยิงปืน โดยกำหนดเป็นพิกัด 4 จุด แล้วลากเส้นผ่านสี่จุดนี้ ทำให้ได้รูปสี่เหลี่ยมในแผนที่และแผ่นเรขายิง (พื้นที่นี้คือพื้นที่ที่ให้กระสุนตกได้ถ้าออกนอกกรอบนี้ห้ามยิง) จากนั้นวัดระยะยิงไปถึงเส้นกรอบด้านล่าง แล้วคำนวณมุมยิงในแต่ละส่วนบรรจุเก็บไว้เป็นมุมยิงต่ำสุด ถ้าในการรบก็จะทำแบบเดียวกันแต่เส้นที่ใช้กำหนดคือแนวหน้าของหน่วยทหารฝ่ายเดียวกัน เพื่อป้องกันการยิงไปถูกฝ่ายเดียวกันนั่นเอง
ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของจ่ากองร้อยด้วยครับ ศอย. ปรับปืนยังไงก็ไม่โดน
จ่าปรับ2-3ที เข้าเป้าเลย555+ แต่สมัยนี้ยิงง่ายขึ้น มีทั้งโดรนชี้เป้า กับกระสุนแบบนำวิถีให้ใช้งาน
@@user-lo6ry9xd8uจ่ากองร้อยไม่มีหน้าที่ในการปรับการยิงนะครับ เพราะอยู่ในที่ตั้งยิง ผู้ที่ทำหน้าที่ในการปรับการยิงคือ ผตน. หรือทหารราบที่ร้องขอการยิงครับ ประสบการณ์มีส่วนสำคัญในการยิงให้ถูกเป้าหมายได้เร็วขึ้น ส่วนหนึ่งคือการกะระยะที่แม่นยำ
@@godarmy6468
ผมอยู่ในเหตุการณ์ครับ
มันไม่มีอะไรตายตัว อยู่ที่หน้างานอะไรก็เกิดขึ้นได้ จ่าขอลองปรับ ก่อนหน้าให้ ศอย.จัดการ แต่มันไม่โดน
@@user-lo6ry9xd8u ผมไม่เข้าใจคำว่า “ก่อนหน้าให้ ศอย.จัดการ“ ครับ คือการยิงปืนใหญ่เป็นการยิงโดยที่คนยิงไม่เห็นเป้าหมายหรือตำบลกระสุนตก คนที่เห็นเป้าหมายคือคนที่ขอยิง และจะเป็นคนปรับการยิงด้วยเมื่อกระสุนไม่ถูกเป้าหมาย การปรับก็จะแจ้งไปยัง ศอย.ว่าจะปรับ ซ้าย-ขวา กี่เมตร หน้า- หลังกี่เมตร เช่น กระสุนตกทางด้านหลัง 200 เมตร-ขวา 100 เมตร หรือประมาณ 2 นาฬิกา ก็จะปรับ ซ้าย 100 ลด 200 เป็นต้น ทีนี้ ศอย.โดย จลด.(เจ้าหน้าหลักฐานทางระดับ) ก็จะกรุยจุดไปตามที่ ผตน.ขอแก้ ใช้แผ่นวัดระยะทิศ อ่านค่ามุมทิศและระยะให้ จคน. (เจ้าหน้าที่คำนวณ) จคน.เมื่อทราบระยะยิงจาก จลด.ก็จะนำระยะยิงที่ได้ไปหามุมสูงจากบรรทัดตรารางยิง ได้มุมสูงเอามาบวกกับมุมพื้นที่ยิงจะได้มุมยิง ส่วนมุมทิศที่ จลด.อ่านมาให้ก็จะนำมุมทิศไปบวกกับตัวแก้มุมเยื้อง ก็จะเป็นมุมทิศสั่งยิง จคน.ก็จะสั่งไปยังหมู่ปืน มุมทิศ…. , มุมยิง….. หมู่ปืนก็จะตั้งค่าที่ปืนตามที่ตามที่ จคน.บอกมา แล้วก็ยิงออกไป สรุปคือ คนปรับการยิง จะปรับยังไงก็วิทยุไปบอก ศอย. เท่านั้น จะไปบอกหมู่ปืน ว่ามุมทิศ… มุมยิง… ตรงไปที่หมู่ปืนไม่ได้เลย เพราะไม่มีช่องทางการสื่อสารใดๆ ให้ ผตน.คุยกับหมู่ปืนได้เลย ศอย.จะติดต่อหมู่ปืนด้วยการติดต่อสื่อสารทางสายเท่านั้น (โทรศัพท์สนาม) ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผตน.ไม่มีบรรทัดคำนวณหรือสมุดตารางยิงอีกทั้งยังไม่รู้เลยว่านัดที่แล้วยิงด้วย มุมทิศ และมุมยิง อะไร แนวปืน-เป้าหมาย มีค่ามุมภาคเท่าไหร่ ถ้าเป็นการยิงเล็งตรง คือหมู่ปืนเห็นเป้าหมายเช่นรถถัง แบบนี้การยิงจะทำโดย พลเล็งกับพลยิงของปืน เล็งผ่านกล้องเล็งตรงไปยังเป้าหมาย ถ้ายิงแล้วไม่ถูก พลเล็งจะปรับแก้การยิงเอง หรือในกรณีที่ใช้วิธีเล็งจำลองและหมู่ปืนมองเห็นเป้าหมายด้วย คือยิงไปเห็นเลยว่ากระสุนตกไปทางไหน ของเป้าหมาย ซ้าย-ขวา ,หน้าหลัง แต่หมู่ปืนก็ไม่สามารถปรับแก้เองได้เลย ศอย.จะเป็นคนปรับแก้ให้เท่านั้น ผมรับราชการอยู่ในเหล่าทหารปืนใหญ่ ยิงมาแล้วเป็นพันนัด ตลอดระยะเวลา 20 ปี ของการรับราชการและอยู่ในหน่วยที่ใช้ ป.สนามทั้ง ขนาด 105 และ 155 และ 130 ก็เคยใช้ ทั้งการรบจริงและการฝึก จึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการยิงปืนใหญ่สนามอย่างถ่องแท้และถูกต้อง การที่คุณบอกว่า จ่าปรับไม่กี่นัดเข้าเป้าเลย และ ก่อนหน้า ศอย.ปรับแล้วไม่เป็นผล ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจอะไรผิดหรือคลาดเคลื่อนไปแน่นอน วิธียิงปืนใหญ่มันก็เป็นแบบที่ผมอธิบายไว้ข้างบนนั่นแหละครับ ผมเชื่อว่าคุณไม่ได้โกหกเรื่องที่ว่าอยู่ในเหตุการณ์ แต่น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากกว่า และในประเทศนี้ ไม่ว่าการรบหรือการฝึก จะไม่มีทางเป็นอย่างที่คุณว่าได้เลย
@@godarmy6468 นอย.แฝงตัวมาปะครับนี่
พลประจำปืนชูถุงส่วนบรรจุดินส่งกระสุนเพื่อยืนยันความถูกต้องคำสั่งยิง ข้อที่ 6 ของคำสั่งยิง คือส่วนบรรจุ ครับ
ส่วนบรรจุดินระเบิดของปืน155มม.หนักกี่กิโลกรัมครับ
(ช่วยทำคลิปน้ำหนักของกระสุนปืนใหญ่แต่ละชนิดให้หน่อยได้ไหมครับ)
โบราณดี
สงครามยูเครนรัสเซีย หรือ อิสราเอลกับฮามาส ก็ใช้แบบเรานี่แหละครับ มันโบราณตรงไหน?
@@godarmy6468 คุยกับพวกปลาซิวปลายสร้อยปากหอยปากปูไป ก็ไร้ประโยชน์ครับ คนไม่เข้าใจความรู้ตื้นเขินเที่ยงไปก็พาคนอย่างพี่ เปื้อนป่าว ปล่อยให้แกตายตามวัยอ่ะพี่555
@@user-mk6yy2hl2nหลายๆคนก็แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ไม่ได้หาความรู้ใส่ตัว แต่ขยันออกความเห็นก็เยอะนะ😂
เงียบไว้คนยังไม่รู้
พอมีความเห็นเท่านั้นแหละ 😅
หลักสากลไอควาย ใช้กันทั่วโลก
ถาม: ทำไมถึง ต้องใช้ "ถุงส่วนบรรจุ "
ตอบ: เพราะในสนามรบไม่พก "ตาชั่ง" ไป ครับ.....😂😂😂
ผมว่ามีอีกเหตุผลพ่วงด้วยครับ เราไม่พกถุงเปล่าไปใส่ดินขับแยกเอง มันเสียเวลามาก
@@ElixaWickจริงแล้วต่อให้มีตาชั่ง พกดินส่งมีถุงเปล่าไปให้พร้อมก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะดินส่งแต่ละถุงมันไม่เหมือนกันครับ จากวีดีโอ เราจะเห็นตอนใส่ดินส่งเข้าไปในรังเพลิง โดยก้นถุงดินส่งเป็นสีแดง และถ้าเราใส่กลับด้านเอาสีแดงเข้าไปข้างในมันก็ไม่ระเบิดนะครับ ดินส่งแต่ละถุงมันมีขนาดและลักษณะที่ต่างกัน จำนวนรูที่เม็ดดินส่งไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพกดินส่งพร้อมตาชั่งไปเอง
เหตุผลแบบสาระนะครับ กระสุนพวกนี้มันใช้ดินปืนเยอะ การใส่ดินปืนไว้กับกระสุนเหมือนปืนปกติปลอกกระสุนมันจะยาวมาก และอย่างที่พี่เขาอธิบาย ในบางสถานการณ์ต้องใช้วิธีลดปริมาณดินปืนเพื่อยิงแบบย้อยหรือในองศายิงที่กดปืนลงอีกไม่ได้
ถุงส่วนบรรจุนี่ใช่ propelant charge หรือเปล่าครับ?ที่เขาจะใส่ตามหลังการบรรจุกระสุน
ถ้าชูถุงเเกง เเสดงว่า หิวข้าวใช่มั้ยครับ?
บ.จ
ผมว่าโลโก้ช่องสีเดิมสวยกว่านะ
อยากให้อธิบายเรื่องกระสุนปืนใหญ่ช๊อตลงฝ่ายเดียวกันหน่อยครับว่าเกิดจากสาเหตุอะไร😊😊😊
ตัดส่วนบรรจุผิด ,หาหลักฐานยิงผิด , ตั้งหลักฐานยิงผิด ,กำหนดที่ตั้งเป้าหมายผิด , หาพิกัดที่ตั้งยิงผิด น่าจะมีเท่านี้ครับ
@@godarmy6468 ขอบคุณครับ...
นอกจากกระสุนจะห่างกันเป็นโยชแล้วแย่สุดกระสุนระเบิดตกฝั่งตัวเองตายด้วย มันมี😂
ศอย.= สอย 555555
จริง 😂😂😂😂
ส่วนบรรจุที่ถูกตัดออก
ผมว่าถุงแค่เอาไว้ชู ถุงบรรจุจริงๆไม่น่าเล็กขนาดนั้น แถมใส่ไม่เต็มด้วย
@@user-ok6mb8wb6v ทำไมถึงคิดแบบนั้นครับ ผมเป็นทหารปืนใหญ่และก็ยิงมันมาหลายร้อยนัด ทั้งการฝึกและการรบ มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ สิ่งที่คลิปอธิบายไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง 100% ต้องชมเจ้าของคลิปว่าถ่ายทอดข้อมูลได้ยอดเยี่ยมมาก
@@godarmy6468 ตามหลักแล้ว ถุงบรรจุดินปืนต้องออกแบบให้ใส่ลำกล้องได้พอดีเพื่อจะใส่ได้เต็มที่ และดินปืนต้องบรรจุในถุงไว้จนแน่นเพื่อง่ายต่อการเคลื่อนย้าย เลยคิดว่าถุงที่ชูคือถุงเอาไว้ยืนยันเฉยๆ แต่ถ้าเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วยครับ
@@user-ok6mb8wb6v ไม่เป็นไรครับ คุณก็จินตนาการไปได้เป็นเรื่องปกติของคนที่ไม่เคยสัมผัสกับปืนใหญ่ จริงๆแล้ว ดินส่งกระสุนไม่ว่าจะเป็นปืนเล็กอย่างปืนพกหรือ M16 ปริมาณดินส่งจะไม่เต็มปลอกอยู่แล้ว เอามาเขย่าจะได้ยินเสียงชัดเจน ทีนี้กระสุนปืนใหญ่มันมีสองแบบ ถ้าปืนขนาด 105 มันจะมีปลอกกระสุนครับ เรียกว่ากระสุนกึ่งรวม ตัวปลอกมันจะเหมือนกระบอกไม้ไผ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เซ็นติเมตรแค่นั้น ความยาวก็ประมาณ 50 เซ็นติเมตร เวลามามันมาทั้งลูกกระสุนและปลอกกระสุน แต่ตัวลูกกระสุนมันสามารถถอดออกจากปลอกได้ (ต่างจากกระสุนปืนพก ที่มันถอดออกไม่ได้) เพราะมันแค่สวมไว้เฉยๆ ไม่ได้แน่นอะไรเลยยกออกจากปลอกได้ดื้อๆเลย ภายในปลอกมันก็มีดินส่ง แบ่งเป็นถุงๆ จำนวน 7 ถุง มีเชือกร้อยติดกันไว้ เวลาจะตัดออกก็ดึงขึ้นมาจากปลอกเช่นตัดออก 2 ถุง คือถุง 6 กับ ถุง 7 ก็เอาเชือกที่ผูกระหว่าง ถุง 5 กับ ถุง 6 พาดไว้ที่ปลอกกระสุนแล้วสวมลูกกระสุนลงไปในปลอกมันก็จะหนีบเชือกไว้ เราก็แค่ดึงถุงที่ 6 ลงด้านล่างโดยใช้ขอบของปลอกกระสุนเป็นตัวตัดเชือกให้ขาด นี่คือวิธีดารตัดส่วนบรรจะออก แต่ถ้าเป็นปืนแบบ 155 มิลลิเมตร จะเป็นกระสุนอีกแบบนึง เรียกว่ากระสุนแยกบรรจุ (เพราะใส่คนละที) คือจะใส่ลูกกระสุนไปในรังเพลิงก่อนแล้วกระทุ้งด้วยไม้ดันลูกกระสุน ต้องกระทุ้งให้แรงๆด้วยปกติจะใช้สองคนในการกระทุ้ง เพื่อให้กระสุนอัดแน่นในรังเพลิงไม่ไหลถอยออกมา จากนั้นก็ใส่ดินส่งกระสุน (ส่วนบรรจุ) แต่มันจะไม่มีเชือกเหมือนของ 105 แต่จะเป็นผ้าผูกไว้รวมกันคล้ายชะลอมเวลาตัดก็แค่ปลิ้นออกหรือดึงออก และมันจะมีสองแบบคือ แบบถุงขาวและแบบถุงเขียว (เรียกตามสีของผ้าที่บรรจะดินส่ง) พอใส่ส่วนบรรจุแล้วก็ปิดฝาท้ายลำกล้อง ทีนี้เวลาจะยิงทำไงให้มันระเบิดได้ ถ้าเป็นปืน 105 ที่จานท้ายของปลอกจะมีแก๊ปเหมือนกระสุนปืนพกทั่วไป เวลาสั่นไกก็จะมีเข็มแทงชนวนไปตีแก๊ป กลไกการทำงานจะเหมือนปืนพกทุกอย่าง แต่ปืนใหญ่ 155 หลังจากปิดท้ายลำกล้องแล้วจะต้องใส่ตัวจุดระเบิดตรงเครื่องปิดท้ายลำกล้องเข้าไปด้วย เรียกว่า ไพรเมอร์ ลักษณะของมันจะเหมือนปลอกระสุนปืน .38 แต่มันไม่มีหัวกระสุนแต่ปิดปลายไว้คั่ง แล้วหมุนเข้าไปที่เครื่องปิดท้าย เวลาลั่นไกก็จะมีนกสับที่ผูกเชือกไว้ ตอนยิงต้องกระตุกแรงๆแบบกระชากมันถึงจะลั่น เรื่องดินส่งหรือส่วนบรรจุมันก็มีเท่านี้แหละครับ อีกอย่างครับปืน 105 มิลลิเมตร เวลายิงเสร็จมันจะมีปลอกคาอยู่ในรังเพลิง เมื่อเปิดเครื่องปิดท้ายมันจะถอยออกมาจากรังเพลิงนิดนึง จะมีคนที่คอยเอาปลอกออกจากรังเพลิงด้วย วิธีการก็คือจับที่ขอบหรือจานท้ายของปลอกกระสุนด้วยมือเปล่าแล้วดึงออกมาเลย ถามว่ามันไม่ร้อนเหรอ คำตอบคือมันยังไม่ทันร้อนเพราะขอบจานท้ายมันหนาความร้อนจากการเผาไหม้มันยังมาไม่ถึงตรงส่วนนี้ คือพอยิงตูมต้องเปิดฝาท้ายทันทีและดึงออก ถ้าช้ามันจะร้อน พอดึงออกมาแล้วเอาไปโยนไว้ท้ายรางปืนทิ้งไว้ซักพักมันก็จะร้อนจนจับไม่ได้เหมือนกัน ผมยิงครั้งแรกก็สงสัยอยู่ว่ามันไม่ร้อนรึไงเอามือเปล่าๆไปดึงออก แต่ดูครูฝึกทำให้ดูแล้วมันน่าจะไม่ร้อน และกํเป็นแบบนั้นจริงๆ
ถุงแป้งมันหรือเปล่า
ดิปืนหรือเปล่า
ครับ มันคือ ดินปืน แต่เป็น ส่วนบรรจุครับ
ท่านจะกินอะไรดีครับ 🫡
ข้าวผัดกับโอเลี้ยง
อย่าเพิ่งด่าผมนะครับ มองในสายตาคนนอกที่ไม่ค่อยมีความร฿้ ทำไมมันดูยุ่งยากจัง แล้วปัจจุบันเค้าไม่มีการวิจัยพัฒนากระบวนการให้มันดูสะดวกหรือซับซ้อนน้อยกว่านี้เหรอครับ
ความสะดวกอย่างเช่นอะไรครับอยากรู้
การทำแบบนี้มันคือเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ เป็นการป้องกัน human error ไปด้วย
อีกอย่างการยิงเป้าหมายที่มองไม่เห็นจากระยะ10-30โลเนี่ย มันไม่ง่ายอยู่แล้ว ที่เห็นมีพัฒนาตอนนี้คือใช้คอมลดขั้นตอนในการคำนวณลง
ซับซ้อนน้อยกว่า หมายถึงมีประสิทธิภาพน้อยกว่า ความปลอดภัยน้อยกว่า คุณคงไม่อยากให้กระสุนตกลงพลาดเป้าไปโดนพวกเดียวกันหรือลงบ้านคนอื่นหรอกใช่มั้ย สำหรับทหารปืนใหญ่ ไม่มีอะไรซับซ้อนเกินไปถ้าเทียบกับความเสี่ยง กระสุนไม่ใช่ถูกๆ ถ้าผลาดอะไรขึ้นมาก็แก้ไขได้อยาก ต่อให้มีคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีมาช่วยก็ต้องอาศัยคนอยู่ดี เผลอๆ จะยุ่งยากกว่าอีก
@@wweaktv4603 คือมันใช้ขั้นตอนเยอะ แถมยังใช้คนเยอะด้วย ถ้าสามารถลดขั้นตอนหรือลดจำนวนคนลงใด้น่าจะดีกว่านี้
มันเป็นการทำเพื่อความปลอดภัยครับ เพราะถ้าพลาดนอกจากจะไม่โดนเป้าหมายแล้วอาจจะโดนพวกเดียวกันด้วย
ส่วนเรื่องเพิ่มความสะดวกก็มีรถถังชนิดนึงที่ติดปืนแบบนี้อยู่ครับ เรียกว่าปืนอัตราจร พวกนี้คล่องตัวกว่าปืนใหญ่สนามเยอะ ทั้งย้ายที่เร็ว จอดใช้ได้แทบจะทันที รีโหลดเร็ว แต่แลกกับต้นทุนที่สูงมาก ซึ่งต้นทุนนั้นสามารถซื้อปืนใหญ่สนามได้หลายกระบอกเลย ซึ่งถ้าจะใช้รถคันนี้ต้องเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นมากและคุ้มค่าที่จะใช้มัน
นานๆยิงที ปีปีหนึ่งไม่ได้ยิงบ่อย
ถุงชาลิปตัน ม้าง....😂😂😂😂
ประเทศเขาใส่กระสุนยิงเอา ยิงเอาเป็นระยะละ 3-4 ลูก
แต่ทหารบ้านเรายังต้องมาชูถุงบรรจุอะไรก็ไม่รู้
จริงหรอครับ กระสุนที่เราใช้ก็มาตรฐานเดียวกับนาโต้นะครับ มีหลักฐานไหนมาสนับสนุนคำพูดคุณไหม
@@chwohn21ทหารอเมริกันก็ทำแบบเรานี่แหละครับ เหมือนกันทุกอย่างแบบเป๊ะๆ คือตัดแล้วชูเหนือหัว แล้วบอกว่า ส่วนบรรจุ …. ตัด ….. เพราะเราใช้ตำราฝึกของอเมริกาครับ
ประเทศไหน ไปดูมาจากไหนวะ555
เม้นแบบนี้ กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าโง่หรอครับ555555555
ระยะใกล้ใช้กระสุนมีปลอก ยิงระยะไกลใช้ดินขับแบบถุง เคยดูปืนใหญ่เรือไหม
เราอาจยิงโดนข้าศึกที่เป็นผู้หญิงแล้วอาจจะติดโรคด้วย😅
ถ้าโดนคนจังๆคงจะฟลุคจัด เพราะระยะที่ยิงมันตั้ง10กว่ากิโลเมตร แถมคนที่เล็งไม่เห็นเป้าที่จะยิงด้วย ดูพิกัดอย่างเดียว
หมู่ปืนกับศอยสลับตำแหน่งกันได้ไหมและถ้าจะยิงด้านขวาซ้ายมีที่หมุนปืนรึเปล่าครับ
สลับกันไม่ได้ครับ เพราะหมู่ปืนมี พลขับ ผบ.หมู่ และพลเล็ง ที่เป็นนายสิบที่เหลือเป็นพลทหาร ส่วน ศอย. มีนายทหารกับนายสิบไม่มีพลทหาร และที่สำคัญมากเลยคือ ความชำนาญในหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง เจ้าหน้าที่คำนวณใน ศอย.อาจไปเป็น ผบ.หมู่ปืนได้ แต่เอา ผบ.หมู่ปืนมาเป็น จคน.เห็นจะยาก เพราะมันสลับซับซ้อนกว่ากันเยอะต้องอาศัยความชำนาญ ดังนั้นแต่ละตำแหน่งจึงมีหลายเลข ชกท.กำกับทุกตำแหน่ง (ชกท. = ชำนาญการทางทหาร)
@@godarmy6468 แสดงว่าคนที่คำนวณเปนนายทหารสัญญาบัตร และเวลาจะยิงซ้ายขวามีที่หมุนปืนไหมครับ
@@ronnayutp3976 ไม่ใช่ครับ ในศูนย์อำนวยการยิงจะมีเจ้าหน้าที่ 5 คน คือ 1. นอย. (นายทหารอำนวนการ ยิง) 2. จคน. (เจ้าหน้าที่คำนวณ) 3. จลด. (เจ้าหน้าที่หลักฐานทางระดับ) 4. จลส. (เจ้าหน้าที่หลักฐานทางสูง) 5. พลขับ (จะทำหน้าที่เป็นพลวิทยุด้วย) คนที่คำนวณคือ จคน.ยศจ่าสิบเอกครับ ส่วนเรื่องปืนนั้นก็สามารถหมุนส่ายไปซ้ายขวาได้ เหมือนพวงมาลัยรถนั่นแหละครับ และก็มีที่หมุนให้ปากกระบอกปืน สูง-ต่ำ ได้ด้วยเหมือนกัน การจะให้ลำกล้องส่ายไปมา ต้องหมุนสิ่งที่เรียกว่า “ควงส่าย” ส่วนจะหมุนให้ลำกล้องขึ้นลง เรียกว่า “ควงสูง” อย่างในวีดีโอนี้จะเห็นปืนขนาด 105 ปืนนี้จะมีควงส่ายอยู่ด้านซ้ายของปืนสำหรับให้พลเล็งใช้ส่ายลำกล้องไปซ้าย-ขวา และมีควงสูงอยู่ทางด้านขวา สำหรับให้พลทางสูงของปืนหมุนเพื่อยกลำกล้องให้ได้มุมยิงตามที่ได้รับคำสั่งยิงมา แต่ถ้าเป็น 155 แบบ M198 ก็จะมีทั้งควงส่ายและควงสูงอยู่ทางด้านซ้ายของปืนให้พลเล็งตั้งทั้งมุมทิศและมุมยิงได้ ละก็ยังมีควงสูงให้ทางด้านขวาอีกด้วย