"อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย" 5 ไฮไลต์อุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลก

“อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม "เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร" ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยทั้งหมด 28,217 ไร่ และสํารวจพบโบราณสถานทั้งหมด 281 แห่ง มีทั้งโบราณสถานในเขตกำแพงเมือง และนอกกำแพงเมือง
และต่อไปนี้คือ 5 ไฮไลต์เด่นที่ไม่ควรพลาดชมในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
วัดพระศรีรัตมหาธาตุเชลียง (วัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง หรือ วัดพระปรางค์) เชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองเชลียง ตั้งแต่ประมาณพุทธศักราช 1780 โบราณสถานสำคัญภายในวัด ได้แก่ “ปรางค์ประธาน” ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูนลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ด้านหน้าองค์ปรางค์มีวิหารภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ด้านข้างมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลาที่มีลักษณะงดงาม และยังมี พระธาตุมุเตา มณฑปพระอัฏฐารส พระวิหารสองพี่น้อง ส่วนพระอุโบสถ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก
วัดนางพญา สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ความโดดเด่นของวัดนี้อยู่ที่ลวดลายปูนปั้นบนผนังวิหารมีความงดงามมาก ซึ่งลายปูนปั้นที่วัดนางพญาเป็นแรงบันดาลใจให้ช่างฝีมือท้องถิ่น นําไปพัฒนาต่อยอดเป็น ลวดลายเครื่องประดับเงินและทองที่รู้จักกันในนาม “ทองโบราณศรีสัชนาลัย” อันเป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงอย่างมากของสุโขทัย ส่วน “เจดีย์ประธาน” รูปทรงของเจดีย์คล้ายคลึงกับเจดีย์ประธานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดหลักเมือง ด้านหน้าเป็นวิหารโถงขนาด 5 ห้อง ย่อมุขด้านหน้า มีมณฑปท้ายวิหารขนาดเล็ก มีเจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงปราสาทย่อมุมไม้ยี่สิบ ที่ได้รับอิทธิพลทางศิลปกรรมจากกัมพูชาโบราณ
วัดเจดีย์เจ็ดแถว ความโดดเด่นของวัดนี้อยู่ที่เจดีย์แบบต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย ซึ่งลักษณะของเจดีย์ในวัดจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เจดีย์ทรงดอกบัวตูม เจดีย์ทรงปราสาท และ เจดีย์ทรงระฆัง สำหรับเจดีย์ประธานของวัดคือเจดีย์ทรงดอกบัวตูม
วัดช้างล้อม เป็นวัดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีสัชนาลัย โบราณสถานที่สำคัญคือ “เจดีย์ประธานทรงลังกา” ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในกำแพงแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นยืนหันหลังชนผนังเจดีย์อยู่โดยรอบ จำนวน 39 เชือก และช้างที่อยู่ตามมุมเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ ตกแต่งเป็นช้างทรงเครื่อง และช้างทั้ง 39 เชือกนั้น มีความหมายซ่อนอยู่ นั่นคือ โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ซึ่งเป็นธรรมอันเป็นเครื่องหมายการตรัสรู้ และตัวช้างจะมีลักษณะที่เด่นกว่าช้างปูนปั้นที่วัดอื่นๆ คือ เป็นช้างยืนเต็มตัวแยกออกจากผนัง มีขนาดสูงใหญ่กว่าช้างจริง และด้านหน้ามีพุ่มดอกบัวปูนปั้นประดับไว้
นอกจาก 5 ไฮไลต์ที่กล่าวไปแล้ว ภายใน “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดเขาพนมเพลิง เตาทุเรียงบ้านป่ายาง วัดชมชื่น หลุมขุดค้นทางโบราณคดีวัดชมชื่น เป็นต้น
ซึ่งภายในกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย สามารถเดินเท้าไปชมโบราณสถานต่างๆ ได้โดยรอบ แล้วก็ยังมีบริการให้เช่าจักรยานขี่ชมเมือง หรือจะเลือกนั่งรถรางนำชมก็สะดวกดีไม่น้อย
mgronline.com/travel/detail/9...

[@user-lw1pr1yc2m]

เข้าให้ถึงความจริงทั้งหมดครับ ตั้งหลักก่อนว่านครวัดสุวัณภูมิเสียแก่อินเดียใต้ที่เป็นทราวิฑขอมดำเมื่อศักราช 350 ที่เก่ากว่า350ขึ้นไปคือสุวัณภูมิครับ แต่สุวัณภูมิถูกดันลึกไป 1182ปีเพราะเช่อว่าพ.ศ.ถูกตัดไปสองครั้งเป็น ม.ศ.560ปีกับ จ.ศ.622ปี สองครั้งได้1182ปี มันไม่มีจริงตีความผิดไปเอง สุวัณภูมิเกณฑ์ทราวิฑกลิงคะเข้ามาเพราะแพ้สงครามเอามาเป็นไพร่พลเพื่อแพร่พระศาสนา คนสองกลุ่มเข้ามาพร้อมกัน แต่นักวิชาการประวัติศาสตร์ไปเชื่อความคิดว่าศักราชถูกตัดไป ต้องเอากลับคืนมาบวกดังเดิม พ.ศ.จึงลึกไป1182ปี ดันเรื่องสุวัณภูมิหายไปไม่มีคนเล่า ทั้งๆที่ซากอารยะธรรมเมืองโบราณทุกแห่งชาวสุวัณภูมิสร้างไว้ทั้งนั้น สุโขทัยสร้างมาตั้งแแต่ก่อนศักราช ๒๓๔ แล้ว ขอมสิ้นสมัยไปจากแผ่นดินไทย แต่นครวัดพยายามมาบังคับให้ชาวไทยอยู่ในอำนาจของนครวัด เพื่อดำรงคติธรรมแบบวรรณะไว้ ประโยชน์คือได้เก็บส่วยส่งไปยังนครวัด คนไทยไม่ทนจึงขับไล่ไปเหลือพราหมณ์ที่เป็นพรหมดั้งเดิม

[@ArnonChuechan]

บ้านผมเลยครับ

[@user-vs6yz8zc5d]

บรรยายไม่สอดคล้องกับสถานที่ เถอะ