พิธีถวายน้ำสรงสรีรสังขารหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ณ วัดป่าอาจารย์ตื้อ แม่แตง เชียงใหม่ 12ก.ค.65 10.30น.

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 5 ต.ค. 2024
  • 12 กรกฎาคม 2565 10.30น.พระครูธรรมวิวัฒนคุณ หลวงพ่อเจริญ จัตตสัลโล เจ้าคณะอำเภอแม่แตง (ธ) เจ้าอาวาสวัดอรัญญวิเวก รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ เป็นประธานในพิธีนำพระเถรานุเถระ และศรัทธาสาธุชนถวายเครื่องสักกระ - กราบขอขมาสรีรสังขาร และถวายน้ำสรงศพ พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ ณ ศาลาอจลธัมโมนุสรณ์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ บ้านปากทาง ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    หมายเหตุ : องค์หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ละสังขารเมื่อวันที่ 11กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00น. สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 17 วัน 72 พรรษา
    ประวัติองค์หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
    "..ผู้ใดที่มีศีลเป็นนิจ ผู้ใดที่มีทานเป็นนิต ผู้ใดภาวนาพุท-โธ เป็นนิจ ผู้ใดสร้างจิตใจ ของตนให้สงบ เรียกว่า จิตพบพระพุทธศาสนา.." โอวาทธรรมคำสอนของหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    ๐ ชีวประวัติปฏิปทาของหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    ..นามเดิมของท่านชื่อ สังข์ นามสกุล คะลีล้วน ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ บ้านเกิดของท่านอยู่ที่บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดามารดา นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน พี่น้อง ท่านมีพี่ชายติดโยมบิดา ๑ คน มีพี่ชายติดโยมมารดา ๑ คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑
    ..เมื่อท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี บรรพชา ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยมีพระสารภาณมุนี (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์)
    ..เมื่อบรรพชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า ซึ่งเป็นบ้านเกิด เมื่อครั้งเป็นสามเณรหลวงปู่มัน ภูริทัตโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน ท่านก็ได้มีโอกาส ได้ไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่ ท่านเป็นสามเณรอยู่สามปีสามนักธรรมชั้นตรี โท ได้จากสนามสอบวัดศรีชมชื้อ ซึ่งเป็นวัดบ้านเพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุตยังไม่มี
    ..ท่านได้ออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติทางยาย คือ ปู่ของหลวงปู่ตื้อเป็นพี่ชายของคุณยายของท่าน ได้ยินแต่กิตติศัพท์ของหลวงปู่ตื้อมานาน แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน เลยจึงอยากจะออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมขึ้นมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีพี่ชายของหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมตามมาด้วยซึ่งเมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ก็เขาพักที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน ได้ยินว่าหลวงปู่ตื้อจำพรรษาอยู่ที้วัดป่าดาราภิรมย์จึงตามไปพบท่านที่วัดป่าดาราภิรมย์ เมื่อได้พบหลวงปู่ตื้อแล้วก็พักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ ระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับบ้านเกิด
    ..อุปสมบท พ.ศ.๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสี วัดป่าบ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผงกับพระอุปัชฌาย์เป้นเวลา ๕ ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์
    ..จากนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านจึงออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้พบกับพระอาจารย์กาวงค์ โอทาตวณฺโณ ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่ตื้อเช่นกัน และต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็ฯพระครูสังฆรักษ์กาวงค์ และเป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่ตื้อ ที่นี่ท่านได้เรียนบาลีไวยากรณ์กับพระมหามณีพยอมยงย์ จนจบชั้นหนึ่ง สอบได้แล้วจึงหยุดเรียน เพราะจิตใจใฝ่ในทางธุดงค์มากกว่า ท่านจึงได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ไท ฐานุตตโม เป็นสหธรรมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์กุสลจิตฺโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
    "โอ้ย..วันไหนเจ็บกายหนอ โอยมันไม่ฟังเราหรอก มันจะเอาอันนี้มันก็ไม่เอา นี่ก็แปลว่าซังมันแล้วนะ คนซังธรรมนี้ ไม่เห็นธรรมนะ.." โอวาทธรรมหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    ..หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม สร้างวัดป่าสามัคคีธรรมซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านได้กลับจากเที่ยววิเวก มาจำพรรษากับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาตลอดในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ
    ..ท่านได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มา เป็นเวลากว่า ๕๑ ปีแล้ว ปัจจุบัน(พ.ศ.๒๕๖๐) ท่านอายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗
    CR : ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน

ความคิดเห็น • 4