Ep.4 ๐๓/๑๒/๒๕๖๖ (ช่วงบ่าย) ธรรมเทศนา โดย
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 2 ธ.ค. 2023
- Ep.4 ๐๓/๑๒/๒๕๖๖ (ช่วงบ่าย) ธรรมเทศนา โดย พระจารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น) ณ ศศิภาวัน ธรรมปัญญา
แขกรับเชิญ
คุณนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้า เบลส)
วันที่ 2-5 ธันวาคม 2566
คลิปจากเพจ ศศิภาวัน ธรรมปัญญา : fb.watch/oIbS3hKwYE/?mibextid...
---------------------------------------------------------------
👉🏻 ติดต่อ สอบถาม ศึกษาฟังธรรม, ฟังธรรมแบบไลฟ์สด ได้ทาง
💙 เพจเฟสบุ๊ค : ธรรมนาวา Dhammanava
/ dhammanava
💛 Tiktok พระอาจารย์ต้น : www.tiktok.com/@ajhanton?_t=8...
♥️ ช่องยูทูป : / @dhammanava
🤎 Instagram : ajahnton.dhamma...
💚 Line@ : @Dhammanava
🧡 เวปไซต์ : dhammanava.net/
---------------------------------------------------------------
ทางเพจยินดีตอบคำถามกับทุกท่านที่สนใจในธรรม / ขออนุโมทนา 🙏
#Dhammanava #ธรรมนาวา
![พรากรัก - เต้ย อภิวัฒน์ [ Official MV ]](http://i.ytimg.com/vi/ShT2ltn8GBE/mqdefault.jpg)
ไม่เหลือสงสัยใดๆในพระรัตนตรัยวันนี้ในการสนทนาธรรมถามตอบของคุณอุ๋ยและสิ่งที่พระอาจารย์ต้น ตอบทุกๆคำอธิบายนำ้ตามันไหลและรู้ขึ้นใจว่า
มันสิ้นสงสัยในพระรัตนตรัย มันแนบแน่นมั่นคงใจจิตในใจว่านี่คือที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า กราบๆๆสาธุๆๆเจ้าค่ะ
โหห พี่อุ้ยเป็นนักตั้งคำถามที่สุดยอดมากเลยครับ ทำให้เข้าใจง่าย เข้าถึงง่ายมาก ได้ประโยชน์มากเลยครับ
สุดยอดผู้ัจัดถามแทนทุกคนทำให้เข้าธรรมะได้ถูกต้องและเข้าถึง🙏🙏🙏ยุคสมัยนี้ต้องควบคู่ทางโลกและทางธรรมชีวิตนี้มีสุขแท้
ผมเป็นโรคซึมเศร้า สวดมนต์นั่งสมาธิถือศีล5 มาประมาณ 9 เดือน อาการเริ่มดีขึ้นครับ
ตถาคตเป็นผู้บอกทาง
ทางสว่างทางเจริญทางอันเกษม
เหมีอนหงายของที่ควํ่า
ให้เราได้รู้
เปิดของที่ปิด ให้เราได้เห็น
บอกทาง แก่ผู้หลงทาง
ส่องประทีปในที่มืด
ให้ผู้มีตาดีได้เห็นธรรม
นําประโยชน์เกื้อกูลพุทธบริษัท
และความตั้งมั่นในพระสัทธรรม
สุคะตะวินะโย
ระเบียบ ถ้อยคํา
พร้อมทั้งอรรถ พยัญชนะ
บริสุทธิ์ บริบรูณ์ ดีแล้วสิ้นเชิง
,, สํานักพัทธศาสนา เถระสมาคม
ต้นแบบหน้าที่ความถูกต้อง
สร้างสรรค์ ส่งเสริม โปร่งใส
สังฆสัสสามัคคีจะมีในหม่ชน
กราบสาธุสาธุสาธุ
เป็นการถาม-ตอบ ธรรมะที่คลายความสงสัยเหมือนในคำถามหลายคำถามครับ
ชื่นชอบคุณอุ๋ยในคำถาม และกราบสาธุ พระอาจารย์ต้น ครับ 🙏🏼
เราเป็นผู้หญิงก็เคยมีภาวะแบบน้องอุ๋ยเช่นกันไม่เชื่ออะไรง่ายๆแต่บางครั้งก็มีทำตามบ้างเพราะผู้ใหญ่ต้องการให้ทำแต่เราก็ทำแบบอึดอัด.แต่ตอนนี้ไม่อึดอัดแล้ว.เพราะเลิกทำตามคำสั่งและเจอธรรมะดีดี.หาความรู้จากคนที่เคยปฏิบัตและจากคำว่าเขาบอกว่าดีมาตลอด.แต่ไม่เคยเข้าใจลึกซึ้งเลย.เพิ่งมาเจอพระอาจารย์ต้นนี่แหละสอนและเข้าใจเลย.เมื่อก่อนสับสนคิดกับตัวเองอันไหนของจริงกันแน่นะ.ตอนนี้โล่งและ.อาจจะเป็นวิบากของเราเองเพราะหามานานตอนนี้55ขวบและ.แต่ยังดีที่ได้เจอธรรมะที่ถูกต้องคือธรรมชาติที่แท้จริงโชคดีที่ยังพอมียุญอยู่ถึงได้มาเจอของแท้.นี่ขนาดเจอในโลกโซเชียลนะ.กำลังไล่ตามดูย้อนหลังค่ะ.
ถ้าเรา"มีพลังทางใจ"เรื่องเท่าช้างก็จะกลายเป็นเท่ามด
แต่ถ้าเรา"ไม่มีพลังทางใจ"เรื่องเท่ามดก็จะกลายเป็นเท่าช้าง
รู้ได้เฉพาะ"ผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง"เท่านั้น
ตอนนี้ติดการฟังธรรมแล้วคับ
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ต้นค่ะ
ขอชื่นชมพี่อุ๋ย เป็นผู้มีปัญญามาก ยิงคำถาม และสรุปให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
ให้สังเกตุ... ทุกๆ คำถาม จะมีคำตอบได้ทั้งหมด. ..
พระธรรมคำพระพุทธเจ้า
แนวทางของพระอ.ต้นเป็นสิ่งที่ประเสริฐมากๆเจ้าค่ะ
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼และขออนุโมทนาสาธุกับผู้จัดและเผยแพร่คลิปวีดีโอนี้ด้วยค่ะรู้สึกมีบุญเหลือเกินที่ได้ยินได้ฟังการสนทนาธรรมนี้ค่ะ❤
น้องอุ๋ยถามแทนได้ถูกใจจริงๆ คือสงสัยค่ะ
คุณอุ๋ยเป็นผู้ปฏิบัติธรรม จึงถามคำถามได้ตรงใจกับที่ผู้ปฏิบัติต้องการจะถาม
กราบนมัสการพระอาจารย์ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ💞ขอบพระคุณค่ะ💞
กราบพระอาจารย์ต้น เจ้าค่ะ
อขอบคุณ คุณอุ๋ยน่ะค่ะอนุโมทนาสาธุน่ะค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาสาธุบุญกับทุกท่านด้วยเจ้าค่ะ
สุดยอดคะ น้องอุ้ยถามเก่งพระอาจารย์ก็ตอบเก่งมากสาธุคะพระอารย์
😊
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยความเคารพและศรัทธายิ่งเจ้าค่ะ🙏
อยากให้น้องอุ๋ยมาอีก ครั้งนี้ได้อะไรแน่นมากขึ้นอีกกับการใช้ชีวิตค่ะ.
สุดยอดทั้งผู้ถามและผู้ตอบ
คุณอุ๋ยถามได้ดีและละเอียดมาก
10:35 เหมือนกับเรายอมรับการเสียดินแดนเมื่อครั้งนักล่าอาณานิคม คนยุคนั้นที่เจ็บปวดก็มี แต่มายุคนี้ดินแดนเหล่านั้นยังอยู่ไม่หายไปไหน(ทุกข์ยังอยู่) คนที่เวียนว่ายตายเกิดดินแดนนั้นก็มี คนยุคเราก็รับรู้แต่ไม่ทุกข์มาก และยังปฏิบัติเจริญมรรคได้เรื่อยๆ
ถามดีตอบดีเยี่ยมมากเข้าใจง่ายถ่องแท้เลย🙏
กราบนมัสการพระอาจารย์และวิทยากรร่วมที่ได้สนทนาธรรมด้วยมุมมองต่างๆ
ทำให้คนฟังได้ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาและนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกเรื่องตามความเป็นจริงตามธรรมชาติ
คำถามคุณอุ๋ยดีมากๆเลยค่ะ
กราบนมัสการสาธุครับพระอาจารย์และพี่อุ๋ย ขอบคุณมากๆครับได้รับธรรมมะแบบถึงแก่นมากๆครับ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สุดยอด และยอดเยี่ยม เป็นประโยชน์ตื่นรู้ให้กับ ทุกคน สาธุสาธุสาธุ นมัสการพระอาจารย์ ครับ
กราบนมัสการเจ้าค่ะกราบอนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
ถามดีมากจริงๆ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ต้นวันนี้ค่ะ สาธุ
อนุโมทนาสาธุกับคุณอุ๋ย ...ใช้ปัญญาสร้างการเรียนรู้เข้าใจและแบ่งปันสังคม🤍🙏 เรื่องเปลือกกับแก่น เห็นด้วยกับคุณอุ๋ย..
กราบนมัสการพระอาจารย์และกราบอนุโมทนาสาธุกับคุณอุ๋ยแขกผู้รับเชิญ ทีมงาน และผู้เข้าร่วมสนทนาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าผ่านการถ่ายทอดบอกสอนของ พอจ.ต้น ทำให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติกับทุกข์ตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ไม่เป็นการสร้างทุกข์ใหม่ตามตัณหาความอยากซึ่งเป็นตัวกิเลสที่แท้จริงที่เราควรดับด้วยพลังทางใจ 🙏🙏🙏
กราบนมัสการพระอาจารย์และอนุโมทนาสาธุค่ะคุณอุ๋ย🙏🙏🙏❤️🥰
กราบสาธุ 🙏🏼 เสริมสติปัญญา ขอบคุณคุณอุ๋ย สัมภาษณ์
พระอาจารย์ต้น โดนใจ กับหลายคำถามค่ะ 🙏🏼
เป็นบุญที่ได้ฟังการสนทนาธรรมครั้งนี้ครับ 🙏🙏🙏
คุณอุ่ยมีคำถามดีมากๆ โดนใจทุกคำถามค่ะ เข้าใจแทนคนฟังเกือบทุกคนเลยค่ะ รุ้ว่าเขาจะถามอะไรบ้าง ถุกต้องหมดเลย ถามแทนได้เลย ขอบคุณค่ะ
กราบสาธุพระอาจารย์เจ้าค่ะ
ขอบคุณที่่ได้นิมนต์พระอาจารย์มาคะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ ได้ความรู้ทางธรรม ตื่นรู้หลายเรื่องค่ะ
สุดยอดทั้งคำถามและคำตอบ สาธุๆๆๆๆ
กราบสาธุพระอาจารย์ค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุคะ🙏
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าคะ
บัวมี4เหล่า..เรานี่เป็นบัวเหล่าที่5อ่ะ.ฟังก็งงใแต่ก็ฟังไปเรื่อยๆ😅
น้อมกราบสาธุในหลักคำสอนของพระอาจารย์ค่ะ
ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ สาธุค่ะสาธุ
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ🙏🙏🙏 และกัลยานิมิตรทุกท่านค่ะ
❤i😊😊
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุเจ้าคะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ เป็นคำถามและคำตอบที่ดีมีประโยชน์มากๆค่ะ🙏🙏🙏
เป็นคําถามที่โดนมาก.ตอบใด้ดี
สาธุสาธุสาธุ
ขอบคุณคุณอุ๋ยมากๆเลยค่ะ คำถามแต่ละคำถามตรงใจจริงๆค่ะ
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ คลิปนี้สนุกมากค่ะ
🙏🙏🙏ขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ขอบคุณคุณอุ้ย มากๆ ค่ะ
สาธุครับ
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
🙏🏼🙏🏼🙏🏼กราบนมัสการพระอาจารย์
ตามมาฟังคำถามคุณอุ๋ยและธรรมจากพระอาจารย์ค่ะ
อนุโมทนา สาธุ
สาธุ 🙏
**
การสอบถามปัญหาทาง"ธรรมะ" ควรสอบถาม กับ พระอริยบุคคล = บุคคลผู้ประเสริฐ มี 4 ระดับ ได้แก่ 1.โสดาบัน 2.สกทาคามี 3.อนาคามี 4.อรหันต์
จะดีที่สุด เพราะอย่างน้อย พระอริยบุคคล ลำดับที่ 1: ก็คือ โสดาบัน ท่านได้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการแล้ว
ท่าน(พระอริยบุคคล)..ก็จะมีคำตอบที่ถูกต้องชัดเจน ตรงตามหลักธรรมคำสอบ ในพระพุทธศาสนาที่ดี จากปัญญารู้แจ้ง (วิชชา)
เพราะ ท่านเหล่านี้ ได้ผ่านประสบการณ์จริงมาบ้างแล้ว มากน้อยไปตามลำดับภูมิธรรม ของอริยบุคคลแต่ละขั้น (ที่มีอยู่ 4 ลำดับ)
แต่ ถ้าถามคำถามธรรม กับ บุคคลธรรมดาทั่วไปที่ยังไม่บรรลุธรรม ท่านก็จะได้คำตอบที่ยังมี "อวิชชา" ที่หนาแน่น ประกอบอยู่ในคำตอบนั้นๆ ไปด้วย
ฉนั้น.. ผู้ถามคำถามทางธรรมะ กับบุคคลทั่วไป ที่ยังไม่บรรลุธรรม เมื่อได้รับคำตอบกลับมาแล้ว ก็ต้องนำมาตรึกให้มากๆ(โยนิโสมนัสสิการ)ด้วยนะ
🙂😇/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
**บุคคลจะเป็น "โสดาบัน" ได้ จะต้อง มีศิล๕ บริสุทธิ์ คิดถึงความ "ตาย" เป็นอารมณ์ และคิดถึง "พระนิพพาน" เป็นอารมณ์
(เมื่อเป็น "โสดาบัน" (รู้คิด, รู้แจ้ง "การปรุงแต่ง") แล้ว, "จิต" ก็จะละสังโยชน์ไปเอง(แบบอัตโนมัติ) จิตก็จะปล่อยวางไปเอง)
โสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท:
1. เอกพีชี (เอ-กะ-ดี-ซี) ผู้มีพืชคืออัตตภาพอันเดียว(จะเกิดอีกแค่เพียง 1 ชาติ) ก็จะบรรลุเป็น "อรหันต์"
2. โกลังโกละ ผู้ไปจากสกุลสู่สกุล คือจะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะบรรลุธรรม เป็น "อรหันต์"
3. สัตตักขัตตุงปรมะ (ปะ-ระ-มะ) ผู้มีเจ็ดครั้งเป็นอย่างยิ่ง คือจะเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะบรรลุธรรมเป็น "อรหันต์"
**(ยืม: ภาษาสมมุติ บัญญัติในทางโลกมาอธิบาย)
โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่กล่าวไว้นี้ ก็เพราะว่าอินทรีย์ 5 ของแต่ละระดับของ "โสดาบัน"
ได้แก่(ความมี) ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา ที่แก่กล้าแตกต่างกันไป
ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ เท่ากันทั้ง 5 อินทรีย์ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้ ก็คือ เอกพีชีโสดาบัน
"พุทธศาสนา" ไม่ใช่ ปรัชญา, ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์, ไม่ใช่(เรื่อง)ไสยศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์, ไม่ใช่การบูชาพญานาค
ไม่ใช่ไอ้ไข่, ไม่ใช่ศาลพระภูมิ, ไม่ใช่พิธีกรรม, ไม่ใช่โหราศาสตร์, ไม่ใช่การดูดวง, ไม่ใช่การขอโน่นนี่, ไม่ใช่การบนบาน ศาลกล่าวต่างๆ
ไม่ใช่วิชาหาคู่รัก/หาคู่ครอง, ไม่ใช่วิชารักษาโรค, ไม่ใช่วิชาเสริมดวง หาโชคลาภ ฯลฯ
แต่.."พุทธศาสนา" เป็นเรื่อง(การเรียนรู้) หนทางพ้นทุกข์(อริยสัจ๔), เรื่องการรู้แจ้งด้วยปัญญา จนเกิด "วิชชา", เรื่อง..การออกจากสังสารวัฏ
เรื่อง..การไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว(รู้แจ้ง: การ เกิด/ดับ), เรื่อง..การไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย อีกต่อไป), เรื่องการมุ่งตรงสู่ "พระนิพพาน"
โพธิปักขิยธรรม ๓๗: ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งการ"ตรัสรู้" คือ ธรรมะที่.. เกื้อกูลแก่การตรัสรู้, ธรรมที่เกื้อหนุนแก่อริยมรรค
1. สติปัฏฐาน 4 (ข้อ)
2. สัมมัปปธาน 4
3. อิทธิบาท 4
4. อินทรีย์ 5
5. พละ 5
6. โพชฌงค์ 7
7. มรรคมีองค์ 8
* ข้อแนะนำ:
**ให้..ลองถามผู้สอนธรรมะ ว่า... ท่านเคยมีเทวดาหรือ มียักษ์ มา"อาราธนา" ให้สอนธรรมะบ้างไหม? ถ้าผู้สอนธรรมะ(ให้กับท่าน) ตอบว่า.. ไม่เคยมีมาเลยสักตน(องค์)
**หรือถามว่า.. ตอนนี้ ท่านเป็น "อริยะบุคคล" ในระดับไหน? แล้ว (ครับ, ค่ะ) เพื่อขอทราบคำตอบ...กลับมาว่า" เราเป็น."..........." แล้วละ(ผู้ฟังธรรมะก็จะเป็นผู้ที่โชคดีไป)
หรือ ถ้า..ท่านตอบกลับมาว่า ยังไม่ได้เป็นเลยสักระดับ "อริยบุคคล" ใดๆ เลย
(เฉลย) ท่านก็ควรออกห่างได้เลย เพราะจะเป็นการเสียเวลาในการฟังเพื่อสะสม "สุตตะ" ที่ได้ประโยชน์น้อยมาก หรือได้เสพแต่คำที่ไร้ประโยชน์ล้วนๆ เข้ามาอีกเท่านั้น
(อุปมาอุปมัย เพื่อการเปรียบเปรย) ก็เสมือน ถ้าท่านต้องการจะปรึกษาปัญหาข้อ "กฎหมาย" แต่ผู้ให้คำตอบหรือข้อแนะนำกับท่าน ก็..ไม่ได้จบ นิติศาสตร์ ไม่ได้จบกฎหมาย
ไม่ได้เป็นทนายความ ไม่ได้เป็นอัยการ ไม่ได้เป็นผู้พิพากษา เลยในชีวิตนี้ เป็นเพียงบุคคลในอาชีพอื่นๆ แต่ ก็อยากสอนข้อกฎหมายให้กับท่าน ด้วยว่าเคยฟังข้อกฏหมาย
**คำว่า.."สุตตะ" มีความหมายดังนี้: พุทธพจน์: ให้เธอจงฟังคำของตถาคตเนืองๆ จนคล่องปาก จนขึ้นใจ และแทงตลอดอย่างดีด้วย "ทิฐิ" ฟังจนเกิดความเข้าใจแจ่มแจ้งจนเป็น "สัมมาทิฐิ"
😊😇
🙏
กราบ สาธุ สาธุ สาธุครับ
🙏🙏🙏
ขอบคุณครับ
อนุโมทนาบุญสาธุๆๆๆ
กราบสาธุค่ะพระอาจารย์
ตอบวกๆวนๆ ฟังแล้วออกจะงงครับ
อนุโมทนา สาธุค่ะ
กราบสาธุคะ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
Ep.4 ๐๓/๑๒/๒๕๖๖ (ช่วงบ่าย) ธรรมเทศนา โดย พระจารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น) ณ ศศิภาวัน ธรรมปัญญา
แขกรับเชิญ
คุณนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้า เบลส)
วันที่ 2-5 ธันวาคม 2566
คลิปจากเพจ ศศิภาวัน ธรรมปัญญา : fb.watch/oIbS3hKwYE/?mibextid=Nif5oz
---------------------------------------------------------------
👉🏻 ติดต่อ สอบถาม ศึกษาฟังธรรม, ฟังธรรมแบบไลฟ์สด ได้ทาง
💙 เพจเฟสบุ๊ค : ธรรมนาวา Dhammanava
facebook.com/Dhammanava/
💛 Tiktok พระอาจารย์ต้น : www.tiktok.com/@ajhanton?_t=8c2PfehcwzQ&_r=1
♥️ ช่องยูทูป : youtube.com/@DHAMMANAVA
🤎 Instagram : instagram.com/ajahnton.dhammanava?igshid=OGQ5ZDc2ODk2ZA==
💚 Line@ : @Dhammanava
🧡 เวปไซต์ : dhammanava.net/
---------------------------------------------------------------
ทางเพจยินดีตอบคำถามกับทุกท่านที่สนใจในธรรม / ขออนุโมทนา 🙏
#Dhammanava #ธรรมนาวา
ตามความเป็นจริงของธรรมขาติที่เกิดขึ้น
สะใจมากๆ ฟังตลอดไม่เบื่อ ความจริงทั้งนั้น ทั้. งคำถามและคำตอบ สาธุ พระอาจารย์ต้น คำตอบทุกคำตอบลึกซึ้งจริงเจ้าค้า
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ ธรรมแทที่บริสุทธิ์
/ /
**สรุป: หากว่า.. ใครที่ยังไม่ "จบกิจ"(บรรลุธรรม) เป็น 1.อรหันต์ (พระอริยบุคคลขั้นสูงสุด), 2.สกทาคามี 3.อนาคามี 4.โสดาบัน(ในข้อ 2 - ข้่อ 4) ก็คือ พระอริยบุคคลขั้นต่ำลงมา
แล้วท่านก็มาตั้งตัว ตั้งตน ขึ้นมาเป็นผู้สั่งสอน "ธรรมะ" หรือว่า..(ทำอาชีพ) รับจ้างหาเงินทอง หาลาภสักกะจากการสั่งสอนธรรมะ อยู่เนื่องๆ ให้จงพึ่งระวัง "อกุศลกรรม" และ "บาปกรรม"
เอาไว้ด้วยอย่างยิ่ง
**ข้อแนะนำ: สำหรับผู้สอนธรรมะ หากท่าน ยังไม่บรรลุธรรม เป็น พระอรหันต์ สกทาคามี อนาคามี โสดาบัน ที่เป็น "พระอริยบุคคล" ผู้ที่ได้สะสมสุตตะ จนดวงตาเห็นธรรม บรรลุธรรมแล้ว
ท่านควร จงรีบปรับเปลี่ยนการกระทำ ปรับเปลี่ยนตัวเอง ให้มาเป็นเพียงแค่..ผู้ฟังธรรมะ เพื่อการสะสม "สุตตะ" ให้มากๆ ยิ่งๆ ขึ้น ไปเรื่อยๆ ก่อน จนเกิดมี "ปัญญา" จนเกิดมี "ดวงตาเห็นธรรม"
เสียก่อนแล้ว จึงค่อยกลับมาเริ่มต้นมาช่วยกัน สั่งสอนธรรมะ เพื่อ "โปรดสัตว์โลก" ช่วยขนย้ายสัตว์โลก("สัตว์โลก" หมายถึง มนุษย์ เทวดา ยักษ์ คนธรรพ์) ให้ข้ามพ้นจาก "สังสารวัฏ" กันเถิด
เมื่อท่าน "จบกิจ" แล้ว ท่านก็จะรู้เองว่า "ท่านได้จบกิจแล้วด้วยดี" รู้ว่า..ได้..มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม มีญาณเกิดแล้ว มีปัญญาเกิดขึ้นแล้ว เห็นสภาวะธรรมะ ที่แจ่มแจ้งแทงตลอดใน "ธรรมะ"
จน.. รู้ว่า "วิมุตติ" ได้เกิดขึ้นแล้ว, จิต เห็น "จิต" แล้ว
** "นรก" มันไม่ได้เป็นเหมือน ที่เขียนบอกไว้ในพระไตรปิฎกเลยนะ(ท่านที่เคารพ) บนโลกมนุษย์ เวลาที่มีความทุกมากๆ ก็จะมีคนบ่นว่า ทำไมถึงได้ทุกข์จังเลย เกิดมาแล้วทำไมจึงทุกข์ขนาดนี้ละ
และ เมื้อหมดอายุไขจากโลกมนุษย์แล้ว ไว้ย้ายภพชาติ ไปจุติอยู่ใน "นรก" ของจริงๆ แล้วเมื่อไหร๋ละก็ ที่นี่แหละ ก็จะว่ารู้ โอ้ย.. ทำไม มันทั้งเจ็บ ทั้งปวด สุดแสนทุกข์ทรมาน มากเกินกว่าจะทนได้
ทั้งเจ็บแสบ ไปทั่วสาระพางกาย ทั้นร้อน แออัด ยัดเยียด เบียดเสียด อัดแน่นกันอยู่ ที่เต็มไปด้วย "สัตว์นรก" หลากหลายรูปทรงและหลากหลายขนาด นรกขุมที่มืด ก็มีแต่ความมึดตลอดเวลา ทั้งกลางวัน
ทั้งกลางคืน ก็มี อดเห็นแสงเดือนอดเห็นแสงตัววัน ตลอดกาลนานเลย ก็มี ขุมที่มีแต่ไฟนรกโกกันต์แผดเผาไหม้ อยู่ตลอดเวลาไม่เคยหยุด ก็มี เป็นต้น
ใน "นรก" นั้น มันก็ยังมีขุม "นรก" แบ่งแยกกัน เป็น "ขุมๆ" อีกมากมาย หลายๆ ขุม เลยนะ มีมากมายสารพัดรูปแบบในการกระทำให้ทุกข์ทรมานล้วน ไม่มีความสุขให้รู้จักเลยสักนิดสักครั้ง ก็มี มีแต่ความทุกข์
ทรมาร อย่างเดียวอย่างยาวนาน ไม่รู้วัน ไม่รู้เดือน ไม่รู้ปีเลย ก็มี จนกว่าจะชดให้กรรมชั่วที่เคยกระไว้ จนจบสิ้นไปเสียก่อน สุดแทนจะทรมาร ซะยิ่งกว่า ที่ได้บอกไว้ ในหนังสือ "พระไตรปิฎก"
อีกมากมายเสียอีก ช่างน่ากลัวเป็นยิ่งนัก เกินสุดจะที่บรรยาย ให้ออกมาเป็นคำอธิบายได้.. ฉะนั้น: จงเกรงกลัว "นรก" กันเถิด, เหล่า "มนุษย์" รวมกระทั่ง "เทวดา" ด้วยนะ(ท่าน)
** เมื่อ.. เปรียบเทียบความ "ทุกข์" บนโลกมนุษย์กับ ความทุกข์ในนรก ที่เกิดขึ้นกับสัตว์นรก : ก็จะเห็นได้ว่า.. ความทุกข์ บนโลกมนุษย์ นี้ช่างน้อยมากซะเหลือเกิน เป็นแค่ความทุกข์ที่เบาๆ เอง(นะท่าน)
ถ้าหากว่า..เมื่อนำ "ทุกข์" ทั้ง 2 ภพ มาเปรียบเทียบกัน จะเห็นว่า..ทุกข์ใน "นรก" มันสุดแสนจะทุกข์ทรมารจนสุดที่จะทนได้ เกินกว่าจะนำมาบรรยาย เพราะ..ความทุกข์ในนรกช่างหนักหนาสุดจะพรรณาได้
** ดังนั้น: เหล่ามนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย จงรีบๆ หาหนทางเพื่อเข้าสู่ "นิพพาน" กันให้จงได้ โดยเร็วไวกันเถิด เพื่อจะได้หลุดออกจาก "สังสารวัฏ" กันเถิด ท่านหญิง,ชาย ผู้ปฎิบัติธรรม ทั้งหลาย (อนิจัง อนัตตา)
😊😇
1. การบรรลุธรรมเป็นเรื่องส่วนบุคคล เป็นเรื่องเฉพาะตน รู้ได้เฉพาะตน
2. หากบุคคลนั้นมีความรู้ มีความเห็นถูกตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน แม้ยังไม่บรรลุธรรมก็สามารถสอนธรรมแก่บุคคลอื่นได้
ยกตัวอย่าง พระโปฐิละ ที่สอนบุคคลอื่นจนบรรลุธรรม แต่ตัวเองยังไม่ได้บรรลุธรรม จนในภายหลังท่านจึงได้สามเณรที่เป็นอรหันต์เป็นผู้สอนท่านจนบรรลุธรรม
@@fungthrrmtamkal # ด้วยความเคารพ
----++++++++++----
(ตอบ)ธรรมะ กลับด้วยความเคารพ # ขอให้อ่านหรือฟัง ด้วยความสงบนิ่งเงียบและพิจารณาธรรมะ โดยแยบคาย โยนิโสมนสิการ
+++++++
โดยพิจารณาธรรมะ ให้ละเอียดแยบคาย ด้วยปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม ไม่ใช่แค่เพียงการอ่านมาแล้วก็เชื่อในตำราเลย ไม่ใช่เคยฟังมาแล้วก็เชื่อเลย แม้กระทั่งเคยอ่านเจอในหนังสือพระไตรปิฎกเจอ
มาแล้วก็เชื่อเลย หนังสือพระไตรปิฏกพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้เป็นคนที่ได้เขียนขึ้นมาเองนะ พระพุทธเจ้าท่านละสังขารไปแล้ว เหล่าพระสงฆ์ที่ล้วนเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เป็นผู้ถ่ายทอดมาให้ฟัง
อีกทอดหนึ่ง
อีกทั้งในสมัยพระพุทธกาล ก่อนนั้น ก็ผ่านมาแล้ว 2567 ปี ที่เนิ่นนานแล้ว และในสมัยพระพุทธกาลนั้น ก็ยังไม่มีการจดบันทึกไว้ด้วยอุปกรณ์ เครื่องเขียน ด้วยการขีดเขียนใดๆ ไปเลย อีกด้วย
ในสมัยพระพุทธกาล เหล่าภิกขุสงฆ์เค้าก็จะใช้ แต่การจำด้วยการท่องจำกันด้วยปาก ออกเสียงขึ้นมา(จะไม่ใช้การทองจำแบบท่องเงียบๆ อยู่ในใจ) ก็ท่องๆๆ สืบต่อมาเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาพระธรรมและคำสอนของพระพุทธเจ้ากันเอาไว้ ไม่ให้เลือนหาย กันมาอย่างเนิ่นนาน กันไว้ได้เรื่อยๆ ก็ทำได้แค่เพียงวิธีเดียวเองเท่านั้น จึงสามารถดำรง รักษาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาไว้ได้
จนผ่านมาอีกหลายร้อยปี ถึงเริ่มได้มีวิธีการจดบันทึกคำสอนเอาไว้ ที่ก้อนหิน ที่อิฐศิลา ก็ถึงได้เริ่มมีการขีดเขียน มีการจดบันทึกคำสอนเอาไว้ในศิลาจาลึก กันในภายหลัง ควบคู่กันมาเรื่อยๆ จึงสามารถ
ดำรงพระศาสนาสืบต่อคำสอนกันมาอย่างยาวนาน จนมาถึงยุคถึงสมัยปัจจุบันกันได้
/ /
พระโปฐิละ ที่สอนบุคคลอื่นจนบรรลุธรรม แต่ตัวเองยังไม่ได้บรรลุธรรม จนในภายหลังท่านจึงได้สามเณรที่เป็นอรหันต์เป็นผู้สอนท่านจนบรรลุธรรม (ที่พิมพ์มานี้ ก็ไปตรงหลัก "กาลามสูตร" อย่าปลงใจเชื่อ ในข้อที่ 1 - ข้อที่ 4 )
++++++++++++++++++++++
😊😇
ถามว่า.. เราหรือท่านหรือใครคนไหน เคยไปเห็นเรื่องนี้ ที่ว่ามา..นั้น (คนที่ยังไม่บรรลุธรม ตั้งแต่ โสดาบัน ไปจนถึง พระอรหันต์ ก็ทำไมยังสอนธรรมะได้ละ? เพราะนี่ไงหลักฐาน? ไง) ยิ่งเรา ก็ไม่ได้เคยไปเห็นกับสายตาของเรามาเองเลยซะด้วย จะรู้ได้หรือว่า เรื่องจริงๆ นั้น ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ยิ่งแล้วไปอีก ก็ไม่ได้เคยไปเห็นกับ "สายตา" ของตัวเอง มาแล้วใช่ไหมหรือป่าว? ละ , แล้วก็ไม่เหลือใครที่เคยเห็นเรื่องนี้มากับสายตา ของตัวเอง แล้วมาช่วยยืนยันตน ว่าข้าพระเจ้าขอมายืนยันว่า ได้เคยเห็นเรื่องนี้มาแล้วจริงๆ ว่ามันเป็นเช่นนี้จริง นะ(ขอรับ) ก็ ไม่มีเลยสักคน
ก็..เพราะ คนในสมัยพุทธการก็ตายกันไปหมดสิ้นแล้ว ก็ผ่านมา ตั้ง 2567 ปีแล้ว (หรือสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงสอนธรรมะอยู่ ก็ได้ผ่านมาแล้วมากว่า 2500 ปี ล่วงมาแล้ว)
มันยาวนานมา ที่ยังมีใครสามารถชีวิตอยู่ได้เลยสักคน เพื่อจะได้นำตัวคนที่เห็นเรื่องที่ว่ามาแล้ว ให้มาปรากฎตัวยืนยัน เรื่องที่เล่าๆ สืบๆ ต่อกันมา ถ้าจะกล่าวอ้างอิงกัน: ก็ไปตรงกับหลัก "กาลามสูตร" ในข้อที่ 1 และข้อที่ 2 และข้อที่ 3 และข้อที่ 4 ที่ห้ามเชื่อ "อย่างปลงใจเชื่อ" หรือเรื่องที่บันทึกเอาไว้ในตำรา(ในตำรา ในคัมภีร์ ในหนังสือพระไตรปิฏก ก็คือ "ตำรา" ที่เขียนกันเอาไว้ ไปตรงกับข้อที่ 4 ในหลัก "กาลามสูตร" ที่ห้ามปลงใจเชื่อในเรื่องใด แบบง่ายๆ จะต้องนำมาวิเคราะห์ หาเหตุผล ด้วยปัญญา ที่รู้แจ้ง แทงตลอด "ด้วยดวงตาเห็นธรรม" หรือ ได้บรรลุธรรมแล้ว ในขั้น โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ ไปแล้ว เท่านั้น พร้อมด้วย "มีด้วยตาเห็นธรรม" แล้ว รู้แจ้ง แทงตลอดในธรรมะ ด้วยปัญญา ได้บันเทา ความมีอวิชชา ลงได้ บ้างแล้ว หรืออวิชชาหมดสิ้นแล้ว เท่านั้น จึงจะปลงใจเชื่อได้
ปัจจุบันนี้ แม้กระทั่งสิ่งที่เราไปเห็นมากับตาของเราเอง หรือได้ฟังมากับหูของเราเอง บางครั้งไปเชื่อแบบจริงจัง แต่พอผ่านมาสักระยะก็ยังกลับกลายเปลี่ยนมาเป็น สิ่งที่ไม่ควรไปเชื่อเลย ก็ยังมีเลย ลองพิจารณาให้ ถี่ถ้วนดู ว่ามีไหมละ? บ้างครั้ง ไปดูข่าวในทีวี ในยูทุปมา ก็แล้ว เชื่อว่าสิ่งที่เราดูวีดีโอและฟังเสียงมานี้ เป็นเรื่องจริงแน่นอนแล้ว แต่พอผ่านมาสักระยะหนึ่ง ก็กลับกลายเป็นตรงกันข้ามกัน ไม่ควรไปเชื่อเลยในตอนนั้น ก็ยังเคยมี ใช่ไหม? ละ , ข่าวเรื่อง "ลุงพล" ก็มีหลายๆ คนที่เชื่อว่า แก่เป็นคนดี แก่ไม่ได้ทำน้อง.....? แต่ในภายหลัง ก็เปลี่ยนมาเป็น แก่นั่นแหละ เป็นคนทำน้อง...? แน่ๆ เลย เราไม่น่าจะหลงเชื่อว่า แก่ไม่ได้ทำเลย ก็เห็นรีบย้ายฝั่งในทันที ก็ยังมีให้เห็นเลย ฉนั้น: ทุกเรื่องราวๆ ใน โลกนี้ ล้วนเป็น "อนิจัง" จึงอย่าไปสนับสนุนเชื่ออะไรง่ายๆ เลย หรือรีบไม่เชื่อเลย จงปล่อยทุกเรื่องราวให้ลอยๆ เพิ่มเป็น"แค่สิ่งรู้ของจิต" ไม่ต้องไปปลงใจเชื่อ หรือปลงใจรีบไม่เชื่อเลย ก็ไม่ดีทั้ง 2 ด้าน ให้เราปล่อยลอยๆ ฟังไว้ เป็น "แค่สิ่งรู้ของจิต" แล้วก็ปล่อยวางไปในทันที อย่าเก็บนำมา "นึกคิด นำมาปรุงแต่ง" ต่ออีก แล้วเมื่อปรุงแต่งได้เสร็จแล้ว ก็รีบมาพิมพ์โต้ตอบ หรือพูดคุยโต้ตอบกลับไปอีก ก็เท่ากับเรา ได้ไปหลงเพลิน(นันทิ) กับการปรุงแต่ง(ก็คือ "เวทนา" ชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ) (สังขาร คือ หลงเพลินกับการปรุงแต่ง โดยไม่รู้ตัว ถ้ารู้ตัวก็คงไม่เผลอไปปรุงแต่งได้หรอก)
+++----------++++++++++
@@fungthrrmtamkal #
/ /
หลัก "กาลามสูตร" พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้ ใช่หรือไม? ละ
+++----------------+++++++++
จาก คำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่อง: "กาลามสูตร"
+++++
พระพุทธองค์ จึงทรงแสดงหลัก กาลามสูตร เอาไว้ที่ (ณ.ที่ดินแดน เกสปุตต สอนให้กับชาว "กาลามะ")
ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ
---------
1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ
(วิธีจะรู้ได้อย่างไร ว่าสิ่งไหนควรเชื่อหรือ ไม่ควรเชือ โดย..เฉพาะในเรื่องของ "ธรรมะ" (สิ่งที่มีอยู่จริง เป็นไปตามปกติของธรรมชาติ ที่ดำรงอยู่) เป็นสิ่งที่ละเอียด แยบคาย ยากแก่การรู้ได้เอง จึงได้เกิดมี พระพุทธเจ้า มาชี้ทางบอกสอน เหล่ามนุษย์ และเทวดา เพื่อให้รู้ตามพระศาสดา)
ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ ห้ามมิให้เชื่อ แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญา ประกอบด้วย มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น “ความงมงาย” และไม่พึงแปล ความเลยเถิดไป ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้ และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้ แต่พึงเข้าใจว่า แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า.. เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน
+++---------------------------------------------------------------------++++
@@fungthrrmtamkal
/ /
ถามว่า.. เราหรือท่านหรือใครคนไหน เคยไปเห็นเรื่องนี้ ที่ว่ามา..นั้น (คนที่ยังไม่บรรลุธรม ตั้งแต่ โสดาบัน ไปจนถึง พระอรหันต์ ก็ทำไมยังสอนธรรมะได้ละ? เพราะนี่ไงหลักฐาน? ไง) ยิ่งเรา ก็ไม่ได้เคยไปเห็นกับสายตาของเรามาเองเลยซะด้วย จะรู้ได้หรือว่า เรื่องจริงๆ นั้น ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ยิ่งแล้วไปอีก ก็ไม่ได้เคยไปเห็นกับ "สายตา" ของตัวเอง มาแล้วใช่ไหมหรือป่าว? ละ , แล้วก็ไม่เหลือใครที่เคยเห็นเรื่องนี้มากับสายตา ของตัวเอง แล้วมาช่วยยืนยันตน ว่าข้าพระเจ้าขอมายืนยันว่า ได้เคยเห็นเรื่องนี้มาแล้วจริงๆ ว่ามันเป็นเช่นนี้จริง นะ(ข้อรับ) ก็ ไม่มีเลยสักคน
ก็..เพราะ คนในสมัยพุทธการก็ตายกันไปหมดสิ้นแล้ว ก็ผ่านมา ตั้ง 2567 ปีแล้ว (หรือสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงสอนธรรมะอยู่ ก็ได้ผ่านมาแล้วมากว่า 2500 ปี ล่วงมาแล้ว)
มันยาวนานมา ที่ยังมีใครสามารถชีวิตอยู่ได้เลยสักคน เพื่อจะได้นำตัวคนที่เห็นเรื่องที่ว่ามาแล้ว ให้มาปรากฎตัวยืนยัน เรื่องที่เล่าๆ สืบๆ ต่อกันมา ถ้าจะกล่าวอ้างอิงกัน: ก็ไปตรงกับหลัก "กาลามสูตร" ในข้อที่ 1 และข้อที่ 2 และข้อที่ 3 และข้อที่ 4 ที่ห้ามเชื่อ "อย่างปลงใจเชื่อ" หรือเรื่องที่บันทึกเอาไว้ในตำรา(ในตำรา ในคัมภีร์ ในหนังสือพระไตรปิฏก ก็คือ "ตำรา" ที่เขียนกันเอาไว้ ไปตรงกับข้อที่ 4 ในหลัก "กาลามสูตร" ที่ห้ามปลงใจเชื่อในเรื่องใด แบบง่ายๆ จะต้องนำมาวิเคราะห์ หาเหตุผล ด้วยปัญญา ที่รู้แจ้ง แทงตลอด "ด้วยดวงตาเห็นธรรม" หรือ ได้บรรลุธรรมแล้ว ในขั้น โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ ไปแล้ว เท่านั้น พร้อมด้วย "มีด้วยตาเห็นธรรม" แล้ว รู้แจ้ง แทงตลอดในธรรมะ ด้วยปัญญา ได้บันเทา ความมีอวิชชา ลงได้ บ้างแล้ว หรืออวิชชาหมดสิ้นแล้ว เท่านั้น จึงจะปลงใจเชื่อได้
ปัจจุบันนี้ แม้กระทั่งสิ่งที่เราไปเห็นมากับตาของเราเอง หรือได้ฟังมากับหูของเราเอง บางครั้งไปเชื่อแบบจริงจัง แต่พอผ่านมาสักระยะก็ยังกลับกลายเปลี่ยนมาเป็น สิ่งที่ไม่ควรไปเชื่อเลย ก็ยังมีเลย ลองพิจารณาให้ ถี่ถ้วนดู ว่ามีไหมละ? บ้างครั้ง ไปดูข่าวในทีวี ในยูทุปมา ก็แล้ว เชื่อว่าสิ่งที่เราดูวีดีโอและฟังเสียงมานี้ เป็นเรื่องจริงแน่นอนแล้ว แต่พอผ่านมาสักระยะหนึ่ง ก็กลับกลายเป็นตรงกันข้ามกัน ไม่ควรไปเชื่อเลยในตอนนั้น ก็ยังเคยมี ใช่ไหม? ละ , ข่าวเรื่อง "ลุงพล" ก็มีหลายๆ คนที่เชื่อว่า แก่เป็นคนดี แก่ไม่ได้ทำน้อง.....? แต่ในภายหลัง ก็เปลี่ยนมาเป็น แก่นั่นแหละ เป็นคนทำน้อง...? แน่ๆ เลย เราไม่น่าจะหลงเชื่อว่า แก่ไม่ได้ทำเลย ก็เห็นรีบย้ายฝั่งในทันที ก็ยังมีให้เห็นเลย ฉนั้น: ทุกเรื่องราวๆ ใน โลกนี้ ล้วนเป็น "อนิจัง" จึงอย่าไปสนับสนุนเชื่ออะไรง่ายๆ เลย หรือรีบไม่เชื่อเลย จงปล่อยทุกเรื่องราวให้ลอยๆ ผ่านไปเฉยๆ ในทันที ให้เป็น"แค่สิ่งรู้ของจิต" ไม่ต้องไปปลงใจเชื่อ หรือปลงใจไม่เชื่อเลย ไม่ต้องไปตัดสินใดๆ ทั้งนั้น ทั้ง 2 ด้าน ให้เราปล่อยผ่านไปลอยๆ ฟังไว้ เป็น "แค่สิ่งรู้ของจิต" แล้วก็ปล่อยวางไปในทันที อย่าเก็บนำมา "นึกคิด นำมาปรุงแต่ง" ต่ออีก เพราะเมื่อนำมาปรุงแต่ง ต่ออีกให้สรุปเสร็จแล้ว ก็จะปรุงแต่งเรื่องราวเพิ่นมาอีก แล้วก็มารีบพิมพ์โต้ตอบ หรือพูดคุยโต้ตอบกลับไปอีก ก็เท่ากับเรา ได้ไปหลงเพลิน(นันทิ) กับการปรุงแต่งต่อเพิ่มขึ้นไปอีก(ก็คือทำให้เกิด "เวทนา" ชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ) ทำให้เกิด (สังขาร คือ หลงเพลินกับการปรุงแต่ง โดยไม่รู้ตัว ถ้ารู้ตัวก็คงไม่เผลอไปปรุงแต่งต่ออีก ได้หรอก)
+++----------++++++++++
ไม่
พระอาจารย์ต้นตอบคำถามได้ดี แต่คำถามของคุณอุ๋ยนั้น เป็นคำถามที่ เขาว่ากันมาๆๆ ไม่มีสาระ ในการสนทนาธรรม ในที่นี้และวันนี้เลยค่ะ ผู้ที่ฟังธรรมปฎิบัติในวันนี้ ส่วนใหญ่ ผ่านปัญหาและเข้าใจได้ดีเกินกว่าคำถามของคุณอุ๋ยไปแล้ว ที่คุณอุ๋ยถามนั้นน่าจะไปภาคเยาวชนจะดีกว่า จะมีประโยชน์กว่ากันค่ะ
ผู้จัดงานต้องการให้ถามเพื่อเยาวชนครับ
อนุโมทนาค่ะคุณอุ๋ย
อันนี้คือความคิด ความคิดกำลังเกิดขึ้นในจิต
ความคิดกำลังถูกจิตปรุงแต่ง จิตกำลังปรุงแต่งความคิด
ความคิดกำลังถูกปรุงแต่ง อันนี้ถูกไหมค่ะ ถูกต้องไหมคะ
กำลังฝึกอยู่ค่ะ
@user-zx3et1zt2l ลองฟังคลิปของครูเงาะดูนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ อนุโมทนาค่ะ
👉🏻การทักอารมณ์ ทำอย่างไร และทำเพื่ออะไร
th-cam.com/video/qI3Fxg09of0/w-d-xo.html&pp=iAQB
Best YT Alternative Apps # Vanced Official
🙏🙏🙏คนที่ไม่เชื่อในพุทธศาสนาเพราะสงสัย👉แต่ทุกคนไม่ทราบที่เราดำเนินชีวิตอยู่นั่นแหละธรรมะคือธรรมชาติคือความจริงอยู่กับปัจจุบันขณะ
ฝากถึงผู้ผลิตรายการให้ช่วยปรับสมดุลย์เสียงของผู้ถามกับผู้ตอบให้ดังเท่าๆกันด้วยครับ
🙏🙏🙏
อนุโมทนา สาธุ
แพ่เมตาให้ตัวเองของให้ข้าพระเจ้ามีความสุขท่องไว้เดี๋ยวมันก็หายทุกข์ค่ะ❤
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุกับพระอาจารย์และอนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยเจ้าค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆกับพระอาจารย์ค่ะ
เราทำตามคนอื่นเพื่อให้คนอื่นชอบคนอื่นรักแต่เราเลือกได้ว่าจะทำเพราะมันคือเราเองด้วย
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏