อุลตร้าแมน ผ่านชะง่อนหิน ผาเสด็จ ไม่ต้องชลอ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ย. 2022
- สถานีรถไฟผาเสด็จ เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 138 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อยู่ใกล้กับผาเสด็จ เป็นหน้าผาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เคยเสด็จมาเมื่อคราวเปิดเดินรถไฟสายกรุงเทพ-นครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2438 และทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ไว้ ณ หน้าผาแห่งนี้
ผาเสด็จ ทำไมจึงชื่อผาเสด็จ
ผาเสด็จ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในปี พ.ศ.2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดกล้าให้กรมรถไฟดำเนินการก่อสร้างรถไฟต่อจากอยุธยาไปจนถึงนครราชสีมาโดยเส้นทางก่อสร้างไปนครราชสีมานี้จะต้องผ่านจังหวัดสระบุรีด้วย และในบริเวณอำเภอแก่งคอยนี้เส้นทางรถไฟเริ่มจะตัดเข้าสู่พื้นที่ภูเขาทำให้การก่อสร้างเกิดความยากลำบากและความล่าช้าอันเนื่องจากมีภูเขาขวางกั้นและขึ้นทางลาดชัน
วันที่ 22 ธันวาคม ร.ศ.115 ตรงกับปี พ.ศ. 2439 เวลาประมาณบ่าย 3 โมง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ จากที่พลับพลาที่ประทับแรมโดยทางรถไฟไปยังจุดสิ้นสุดของทางรถไฟในเวลานั้นที่ตำบลหินลับ และเมื่อถึงจุดนั้นเป็นเวลาบ่าย 5 โมงเย็นแล้ว แต่ทั้งสองพระองค์เสด็จลงจากรถไฟและดำเนินต่อไปยังตามทางที่ยังไม่ได้สร้างเสร็จ ข้ามห้วยอีกสองแห่งจนไปถึงที่มีศิลาใหญ่ทรงจารึกอักษรย่อพระนาม จ.ป.ร และ ส.ผ. ซึ่งหมายถึงพระนามสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ลงเลข 115 อันเป็นปีที่เสด็จ และพระราชทานนามศิลานี้ว่า “ผาเสด็จพัก” พอใกล้ค่ำก็เสด็จกลับและเสด็จถึงพลับพลาที่ประทับแรมเวลาประมาณทุ่มเศษ ในเวลาต่อมาผู้คนก็พากันเรียกสถานที่นี้ว่า “ผาเสด็จ”
อาถรรพ์ผาเสด็จ
ในการก่อสร้างทางรถไฟสายอีสานในสมัยนั้น ระยะทางบริเวณจากแก่งคอยเข้าสู่มวกเหล็กพื้นที่ก่อสร้างจะมีสภาพเป็นภูเขา ในบริเวณที่แห่งนี้มีชะง่อนหินใหญ่ขวางทางอยู่ซึ่งจะตัดทางอ้อมเสียก็พอทำได้ แต่เส้นทางจะคดคี้ยวแลดูไม่สวยงาม จึงจำเป็นจะต้องระเบิดหินก้อนนี้ วิศวกรชาวฝรั่งเศสพยายามจะระเบิดหินก้อนนี้อยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ สร้างความหนักอกหนักใจแก่นายช่างเป็นอย่างมากจึงได้ปรึกษาหารือกัน ขณะนั้นมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้แนะนำไปทางไสยศาสตร์ “ว่าสถานที่นี้คงจะมีเจ้าป่าหรือเจ้าที่เจ้าทาง ควรทำเครื่องเซ่นไหว้บวงสรวงต่อเทพยาดาอารักษ์เจ้าป่าเจ้าเขาบอกกล่าวขออนุญาต” แต่นายช่างสมัยนั้นซึ่งเป็นคนหัวสมัยใหม่ไม่เชื่อเรื่องราวอะไรเยี่ยงนี้ แต่ก็ไม่สามารถระเบิดหินผานี้ได้สำเร็จ และชาวบ้านถิ่นนั้นก็บอกว่าสถานที่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์จริง และเคยแสดงอิทธิฤทธิ์ปรากฎต่อชาวบ้านและพรานป่ามาแล้วหลายครั้ง ถ้ามีใครมาตัดไม้บริเวณนั้นหรือมาปัสสาวะใส่บริเวณโคนไม้ใหญ่ก็จะมีอันเป็นไป ล้มป่วย เจ็บไข้ บางรายถึงกับเป็นลมล้มชักน้ำลายฟูมปากก็มี ต้องทำกระทงมาเซ่นไหว้ แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็จะล้มเจ็บถึงตายไปก็มี
เมื่อการก่อสร้างทางรถไฟไม่มีความก้าวหน้าเสียที และมาหยุดชะงักที่ตรงนี้ไม่สามารถระเบิดหินก้อนนี้ได้ ความทราบถึงพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) พระองค์จึงโปรดเกล้าให้นำตราแผ่นดินไปประทับที่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้นเพื่อเป็นการเอาเคล็ดและเป็นขวัญกำลังใจต่อคนทำทางรถไฟ และมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นว่า เมื่อตราแผ่นดินประทับลงที่ตรงต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้นั้นเกิดการแห้งเฉายืนต้นตาย พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงรับสั่งให้นายช่างระเบิดหินทำทางต่อไป แต่คนงานและชาวบ้านก็ยังมีความกลัวอยู่ไม่กล้าเข้าไประเบิด อันเนื่องมาจากสาเหตุมีนายช่างและคนงานบางคนเป็นไข้ป่าจนกระทั่งเสียชีวิต (ในสมัยนั้นไข้ป่าชุกชุมมาก) พระองค์จึงโปรดให้ตั้งศาลเพียงตาขึ้นในบริเวณใกล้ผาหินใหญ่ก้อนนั้น การระเบิดหินตัดทางบริเวณนั้นจึงดำเนินต่อไปจนสำเร็จไร้อุปสรรคใดๆ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จมาที่ผาแห่งนี้ จารึกพระนามาภิไธยย่อไว้ และตั้งชื่อว่า “ผาเสด็จพัก”
ที่มา : www.khundee.com/%E0%B8%9C%E0%... - ยานยนต์และพาหนะ
เป็นคลิปทรงคุณค่า...นานๆจะมีคนไทยถ่ายทำมีแต่ชาวต่างชาติทำ...ขอชื่นชมครับ
มารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟครับครู น้ำเสียงเล่านุ่มนวลสุดยอดครับครู
สวยงามมากค่ะ ผาเสด็จ แล้วพาไปเที่ยวอีกนะคะชอบ
เมื่อได้รู้ประวัติศาสตร์แล้ว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมขอเดชะ ผ่องไทยที่รักรถไฟจะไม่ลืมเลือน เล่าต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานถึงความเป็นมาของแต่ละไม้หมอนและน๊อตทุกตัวเรียงร้อยผ่านความลำบากในสมัยก่อนที่ยังไม่ทันสมัยเหมือนทุกวันนี้ กว่าจะมาเป็นการรถไฟ เพื่อผู้โดยสารทุกท่านครับ
สุดยอดเลยครับสำหรับข้อมูลดีๆ
กำลังรถดีมาก เหมาะสมเป็นขุมกำลังในยุคถัดไปการรฟท. รถเฉียดผาไปไม่กี่ฟุตเอง แสดงว่ารถสำหรับชานชะลาสูงสอบผ่านสำหรับการเดินรถ
ความสวยงามไม่ต้องรอถึง
ปลายทางครับ
ภาพระหว่างที่พี่นั่งรอรถไฟก็สวยทุกภาพเลยครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับที่พามาเที่ยว
ตามถ่ายได้ทุกช๊อด ได้เสียงธรรมชาติจากตกกระเต้นด้วย
ถ้าพระองค์ยังอยู่ประเทศไทยคงเป็นประเทศที่รถไฟทันสมัยที่สุดในโลก
นี่เป็นแรงม้าเหล็กผ่านไปได้ หากเป็นรถยนต์ก็คงจะถูกเถาวัลย์เกี่ยวแขวนโตงเตงอยู่ที่นั่น เพราะรกเหลือเกินแล้ว ไปได้ตลอดมั็ยท่าน เจ้าของรถไฟ....?
ถ่ายทำเป็นธรรมชาติดีครับ
สุดยอดเลยครับ
หัวจักรใหม่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนสูงกว่าด้วย
เลยต้องสำรวจจุดกีดขวาง
เจ๋ง
เยี่ยมคะความรู้แน่นๆเลยนะคะ
ผ่านได้แล้วนะโดยสะดวกสบาย
ปูนปูน
ถ้าทางคู่เสร็จ เส้นผาเสด็จจะมีรถไฟวิ่งไหม
คน รฟท. ทำไมไม่คิดโครงการ รถไฟใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งจะทำให้ประหยัดต้นทุน และมีความเร็ว ประสิทธิภาพสูง จะทำให้มีประโยชน์ต่อองค์กรและ ปชช.ระยะยาว คิดแต่เรื่องเล็กๆ ช่อม รถไฟเก่ามาใชแล้วเมื่อไรจะรวยคับ
เขาคิดครับ แต่มันต้องลงทุนเยอะมากๆ ทั้งระบบสายส่งไฟฟ้า และตัวรถ ในอนาคตเปลี่ยนแน่แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ที่เริ่มและใช้อยู่แล้วคือรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งก็จะมีโครงการทำเพิ่มอีก
สอบถามครับแต่ก่อนเคยมีรถด่วน สปริ้นเตอร์ เส้น หนองคาย - กรุงเทพ ตอนนี้ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนครับ มีการย้ายไปวิ่งเส้นทางอื่นหรือว่าหยุดวิ่งไปเลยพอทราบสาเหตุมั้ยครับ
อุลตร้าแมนเข้ามาไทยหลายเดือนแล้วไม่เห็นเอามาพ่วงขบวนวิ่งเลย
👍❤️ได้เกล็ดความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย
แวะมาชมรถไฟยาวๆๆไปด้วยจ้าคิดถึงจ้า
สามกีบ ฝ่ายค้านที่ด้อยค่า รถไฟญี่ปุ่น เป็นไงล่ะ ควรออกมาข้อโทษประชาชน
อย่าเพิ่งไปว่าเขา รอใช้งานจริง ก่อน
ใจเย็นคันนี้ซื้อจีนมา
อยากเห็นรถไฟทางคู่ตอนที่สอง โผล่ตรงไหนบ้าง ผาเสด็จอยู่ตรงไหนของทางคู่
ทางคู่จะลอดอุโมงแทนใช้ทางผาเสด็จครับ อีกหน่อยรถจะผ่านทางนี้น้อยลง
รถไฟทางคุ่จะผ่านไหมคับ
ไม่ผ่านครับ ลอดอุโมงค์แทน
พูดเรื่องผาเสด็จ ต้องเน้นผาสด็จ
ลงใต้ด้วย
ช่องเขา
ใครบอกรถวิ่งแกงผมไม่ดีครับ