ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ดีครับ
สาธุๆๆครับ
ชื่นชมครับ เพราะเรื่องข้างในมาจากผู้รู้สึกด้วยตัวเองอาจมีใครคิดต่างเป็นเรื่องธรรม ทำไปเรื่อยๆครับความรู้ยิ่งกระจายเยอะแง่มุมจะฉายมิติเอง
เรียนธรรมะแล้ว รู้แจ้งแล้ว อย่าลืมเข้าห้องสอบวัดกำลังใจกันครับ คนใกล้ตัวที่อยู่อาศัยในบ้านเดียวกันนี่แหล่ะข้อสอบอย่างดีเลย ผลสอบ อยู่ระดับไหน นักเรียนย่อมรู้ลึกได้เฉพาะตนจริงๆ
เป็นการเจริญมรรค อตัมมยตา นั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านทำอย่างไรท่านจะสอนอย่างนั้น การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ ก็จะมี ผู้ที่ฟังด้วยดี และ จะมีผู้ที่ไม่ฟังด้วย เมื่อเห็นผู้ที่ฟังด้วยดี คือ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด เมื่อเห็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี คือ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ อิทธิบาท4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
❤😊🎉ขอบพระะคุณครับผม วัชรกาย วัชรจิต ฯ สาธุฯ วิปัสนาญาณสติปัญญาธรรมชาติจักษุ เป็นสุญตาโพธิสัตว์ ทานว่า...สาธ!
สอนไปเถอะยิ่งสอนยิ่งแตกฉาน ได้ทบทวนถูกบ้างผิดบ้าง แรกๆอาจจะเข้าใจไม่ลึกซึ้งพอ แต่นานวันไปจิตมันจะฉลาด มันจะไล่เรียงความผิดพลาดในอดีต ความรู้และการสอนในอดีต จะปรับปรุงให้ถูกต้องต่อไป ภายหน้าจะเห็นการทำงานของขันธ์ 5 และจะเป็นผู้รู้ผู้ดูอยู่ภายนอกขันธ์5 เห็นไตรลักษณ์ เห็นการเกิดดับของรูปนาม ละสักกายะทิฐฐิได้ อยู่เหนือความว่างเปล่า มีสุญญตวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ สงบวิเวกร่มเย็นสบาย ธรรมมีหลายระดับใครใคร่ศึกษาระดับไหนก็จงทำเถิด มีตั้งแต่เปลือกไปจนถึงแก่น สะสมไปได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่าหยุดทำความดี
เรียน ชาวพุทธ ขอพวกท่านใจเย็นๆ และทบทวนข้อความที่ข้าพเจ้า เขียน ว่าจริงหรือเท็จ?1 สมมติว่า มีการเวียนว่ายตายเกิด อัลเลาะห์จะให้ใครเกิด ผู้นั้นก็ต้องเกิด ยังไงคนที่อ้างว่าตนเองนิพพานแล้วนั้นก็ต้องเกิดอีก2 สมมติว่า มีนิพพาน พวกเทวดาก็ควรจะนิพพานก่อนมนุษย์ เพราะพวกเขามีคุณธรรม มีศีลธรรมมากกว่ามนุษย์3 เป็นแค่มนุษย์ควรรู้จักที่ต่ำที่สูง แค่นั่งสมาธิทับรูขี้แล้วมาอวดเก่ง อวดดี ยกตนว่าดีเลิศประเสริฐสุด ว่าตนเองดีเลิศกว่าเทวดานั้น มันไม่สมควรเลย4 เมื่อไม่อยากเกิด ไม่อยากมีตัวตน ณ ที่แห่งใดเลย เมื่อรับโทษในนรกหมดแล้ว อัลเลาะห์ก็จะให้ผู้นั้นไม่มีตัวตนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนิพพาน5 แต่ถ้าให้เรา มีตัวตนแบบเทวดา มีสุขนิรันดร นั่นมันไม่ดีกว่านิพพานหรือ?6 แท้จริงนิพพานคือฝันลมแล้งๆมโนขึ้นเองในวันขี่ไม่ออกของ กระเทย สิทธัตแถะ7ไม่ใช่อัลเลาะห์ขัดขวางไม่ให้สัตว์โลกนิพพาน,แต่นิพพานเป็นสิ่งไม่มีอยู่จริง8แท้จริงพุทธเป็นเพียงสัตว์สะหนาที่หลอกผู้คนให้จมอยู่กับนิพควายของมัน9มึงบอก"พุทธไม่ใช่เทวนิยม" แล้วใครที่อยู่ในสวรรค์10มึงบอก"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" แล้วตอนมึงสลบ มึงปั้มหัวใจให้ตัวเองได้มั้ย11อย่าปล่อยให้คนอินเดียเอาความโกหกของมันมาครอบงำคนไทย12มึงบอกอิสลามพึ่งเกิดเมื่อ1400กว่าปี แล้วพระเจ้าของมันจะสร้างโลกได้อย่างไร มึงโง่จนไม่เข้าใจว่า นบี มุฮัมมัด ฯเป็นแค่ทูตที่อัลเลาะห์แต่งตั้งมา 13ผู้ที่ให้เกิดคือพ่อแม่ แต่ผู้ให้ตายคืออัลเลาะห์พระผู้สูงสุด พระผู้ควบคุมสรรพสิ่งاللّٰهُ يُحۡىٖ وَيُمِيۡتُ14สำหรับมนุษย์เพศหญิง,พวกท่านถามตัวเองก่อนว่าใครเป็นผู้ประกอบอวัยวะให้ลูกในมดลูกของท่าน15ถ้าพวกท่านเชื่อทฤษฏีวิวัฒนาการ ก็สั่งให้ลูกมีปีกงอกออกมา16อวัยวะในตัวมึงล้วนทำตามพระบัญชาของอัลเลาะห์ หัวใจมึงที่สูบฉีดโลหิตได้เพราะอัลเลาะห์สั่ง17แต่จิตใจมึงด้วยความโอหังจึงปฏิเสธอัลเลาะห์18 อัลเลาะห์คือ พระผู้เป็นเจ้าของเราที่แท้จริง เราอย่าตั้งผู้ใดในหมู่มนุษย์ขึ้นเทียบเคียง19ถ้าไม่มีอัลเลาะห์แล้วใครจะลงโทษพวกที่ทำชั่วอย่างมากมายที่ร่ำรวยมีความสุขแล้วแก่ตายเอง11 สิ่งที่มีจริงแต่ตาคนมองไม่เห็นนั้นมีเยอะ ดังนั้นถึงแม้จะมองไม่เห็นพระเจ้า ก็อย่าพึ่งรีบตัดสินว่าพระเจ้าไม่มีจริง10การที่อัลเลาะห์จะมีหน้าตายังไง มันไม่ใช่สาระที่มึงจะใส่ใจแล้วปฏิเสธว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริง12อัลเลาะห์บอกมาในอัลกุอ่านว่า มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพระเจ้า12จะได้เข้าสวรรค์หรือรอดนรก ต้องตระหนักว่าอัลเลาะห์เป็นพระเจ้า 13 ชาวสวรรค์นั้นตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นนรก,ส่วนชาวนรกตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นสวรรค์,หลังจากนั้นอัลเลาะห์จะให้พวกเขาได้พำนักในที่อยู่ของตนจริงๆ13ไม่ใช่"ภพเกิดจากคิด" ถ้า"ภพเกิดจากคิด"จริงแล้วทำไมกระเทยสิทธัตแถะจึงแดกเนื้อหมูเป็นโรคตาย นั่นเพราะมันคิดว่ามันจะตายเพราะแดกเนื้อหมูหรือ?14อัลเลาะห์เปิดโปงนักโกหกลวงโลกด้วยให้มันตายยังไง15มุสลิมบางคนรู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก ถ้าชาวพุทธไม่รู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก แสดงว่ามุสลิมบางคนมีความรู้มากกว่าชาวพุทธ15พวกก่อคดีสยองแต่ละวัน ทิ้งเมียฆ่าแม่ข่มขืนลูกฯลฯ ไทยพุทธแทบทั้งนั้น ศาสนาอุบาทว์16พระเจ้าก็คือธรรมชาติเป็นผู้สร้างมนุษย์ดังนั้นพระเจ้าจึงมีสิทธิในมนุษย์ๆไม่มีสิทธินับถือศาสนาใดนอกจากศาสนาที่พระเจ้ากำหนด17กล่าวเถิด ข้าพเจ้ามีอัลเลาะห์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าไม่ได้พึ่งกระเทยสิทธัตเถาะและธรรมแมะงี่เง่าของมัน18ชาวพุทธพยายามอย่าใช้ตรรกะโง่ๆมาตัดสินว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริงเช่น เวลากูหิว,ไม่เห็นอัลเลาะห์เอาข้าวมาให้กูแดก เป็นต้น19พุทธโง่เอ๋ย,พวกท่านไม่จำเป็นต้องไปตามหาพระเจ้า,เพราะว่าเมื่อถึงเวลาอัลเลาะห์จะมาหาพวกท่านเอง20พุทธโง่ไม่น้อยที่ไม่เคยเห็นผีแล้วท้าทายขอเห็นผี,พอมันได้เห็นผีขึ้นจริงแม่งมันก็กลัว21ความจริงแล้วพระเจ้าน่ากลัวกว่าผีมาก,ผีเองก็ยังกลัวพระเจ้า22ใครอ่านข้อความนี้แล้วรู้สึกไม่ดี นั่นเพราะคุณมึงมีความประพฤติไม่ดี เช่น หญิงสำส่อน ชายมั่วยา ฯลฯ23ดังนั้นคาดหวังรางวัลแห่งการประพฤติดีอะไรไม่ได้ในชีวิตหลังความตาย24มึงบอกว่าพุทธคือศาสนาที่พิสูจน์ได้ งั้นมึงก็แสดงให้ดูสิว่านิพพานคือสิ่งพิสูจน์ได้
ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นของบุคคลพวกที่4 สั่งสมสุตตะ และ ปฏิบัติตาม ธรรมวินัย เปรียบเหมือน เมฆฝนที่คำราม และฝนตก ก็คือ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อนั่นเองคะ ตถาคตภาษิต จะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ ยกตัวอย่าง สัตตานัง เป็น ตถาคตภาษิต เพราะ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคลพวกที่3 ที่เปรียบเหมือน เมฆฝนที่ไม่คำราม และ ฝนไม่ตก นั่นเองคะ (คำสอน การเขียน การพูดออกมา และ ความคิดเห็น ที่ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ จึงไม่ใช่ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ ยกตัวอย่าง อย่าสวด ปฏิจจสมุปบาท อย่าสวด ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่เป็นมรรค ไม่เป็นผล คำสอนนี้จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต ขัดแย้งกับการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา สาวกภาษิต จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ เป็นการกระทำทาง วาจา เป็นกรรมดำมีวิบากดำ เป็นการการทำทาง วาจา4 พูดโกหก พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคลพวกที่ 3 บุคคลพวกที่3 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ บุคคลพวกที่ 4/ บุคคลพวกที่4 เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ /บุคคลพวกที่4 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น คือ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อนั่นเองคะ เพราะเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา และ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻อนุโมทนาบุญด้วยนะคะน้องกวาง คลิปมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
ปีนี้เป็นปีที่ดีมากเลย เห็นผู้คนสนใจศึกษาธรรมได้อย่างแตกฉาน มีดวงจิตผู้บรรลุที่ผุดขึ้นมาเยอะมากมายในปีนี้ รู้สึกปิติมากครับ อนุโมนาสาธุ...
❤❤❤❤🙏
🙏🙏🙏✨🌟💫🌷🌹
สำเร็จขั้นไหนแล้วรู้ธรรมแต่ไม่เห็นธรรม
มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา (ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา)>(ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)การเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ จะมี ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองคะ สายปฏิจจสมุปบาท เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ คือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(ทุกข์ ทุกขสมุทัย ทุกขนิโรธ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา)
เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยสัจสี่ ทุกข์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมุทัย(ทุกข์>สมุทัย)สมุทัย เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/ สมุทัย เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ นิโรธ(สมุทัย>นิโรธ)นิโรธ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/นิโรธ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ มรรค(นิโรธ>มรรค)มรรค เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/มรรค เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ พระสงฆ์(มรรค>พระสงฆ์)>(โสดาบัน>สกทาคามี)>(สกทาคามี>อนาคามี)>(อนาคามี>อรหันต์)>(อรหันต์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)
อาจราย์ครับสอนขนาดนี้ระวังโดนแยกลัดธินะครับ
พวกคุณกำลังหลงทางแล้วครับ มีเขามีเราอยู่ทุกขั้นตอน ทุกคำพูด มันจะหลุดไปเช่นไร ความจริงคือ..ขันธ์. 5 เป็นอนัตตาจบครับ
เค้าก็บอกอยู่ว่า ขันธ์ห้า คือตัวทุกข์ เป็นแค่สภาพธรรม ไม่ใช่เค้าไม่ใช่เรา ไม่มีเราอยู่ในขันธ์ห้า
การเกิดปรากฏขึ้นของ วิญญาณ และ นามรูป ก็คือ ทุกข์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมุทัยทุกข์>สมุทัย)สมุทัย เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/สมุทัย เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ นิโรธ(สมุทัย>นิโรธ)การเกิดปรากฏขึ้นของ สมุทัย คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัตตานัง นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัตตานัง คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังสารวัฏ นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังสารวัฏ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ กามภพ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย มนุษย์ และ เทวดากามภพ รูปภพ เทวดารูปภพ อรูปภพ เทวดาอรูปภพ
อย่าไปสนใจคำว่า กรรมเก่า กรรมใหม่ ให้เรียนรู้ภายในใจเจ้าของในปัจจุบันขณะ (ทุกข์) เกิดจากอะไร คนที่จะเห็นได้ต้องมีสติ(สงบนิ่ง) เห็นความเคลื่อนไหวภายในใจเจ้าของนั่นแหล่ะ สติ สติ สติ สติมาปัญญาเกิด
กายนี้คือกรรมเก่า นวกรรมคือกรรมใหม่คือ ผัสสะ
ท่องจำมาสอนจะดีหรือครับ..พระพุทธเจ้าบอกว่าต้องทำให้ได้ก่อนจีงมาสอนคนอื่นนะครับ..หรือว่าคุณเป็นพระอรหันครับ.
พูดธรรมะเหมือนเรียนกันเลยนะครับ😂 ดูง่ายกันจัง 😮
เมื่อมีเหตุปัจจัยถูก ก็คือจะมี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ ยกตัวอย่าง สัทธานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ธัมมานุสารี เมื่อกายแตกทำลาย(ตาย)ก็จะเวียนว่ายตายเกิดใน กามภพ มนุษย์ สลับกับ เทวดากามภพ อีก 7 คราว นั่นเองคะ ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ โสดาบัน เมื่อกายแตกทำลาย(ตาย)ก็จะกลับมาเวียนว่ายตายเกิดใน กามภพ มนุษย์ อีก3 คราว เมื่อมีเหตุปัจจัยถูก เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ ก็จะค่อยๆเริ่มเห็น อริยสัจสี่ ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองคะ เห็น ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั่นเองคะ
@@user-tl5ws1fe7e เรื่องธรรมชาติที่หลายคนมองข้าม ท่านสอนให้ฝึกตนเอง พัฒนาตนเอง เรียนรู้สัจธรรม สาธุด้วยครับ
คิดเอาเองสอนผิดต้องละสังโยชน์ให้ได้ก่อน
เเล้วถ้ารู้ เเล้ว จะตัดถพชาติได้เลยมั้ยคะ
ถ้ารู้ในระดับปัญญาญาณวิปัสสนาก็ตัดภพชาติได้ แต่คนยุคนี้ก็ต้องปฏิบัติกัมมัฏฐานเท่านั้น ส่วนแนวการปฏิบัติคุณต้องค้นหาเอง😊😊
สอนได้มั่วมากกกก
ความรู้นี้ท่านได้ แต่ใดมาครับใครเป็นครูบาอาจารย์สอนท่าน ธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อย่าแสดงออกมาสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ มันจะเป็นบาป เจริญในธรรมครับ
วัยรุ่นผู้ใฝ่ธรรม
ถ้าจะตัดภพชาติ ก็ฝึกหยุดคิด หยุดคิดใด้เรื่องนึง ก็ตัดภพชาติใด้ภพนึง วันนึงหยุดคิดให้มากที่สุด หลังจากที่ภพชาติใหม่หมดแล้ว ธรรมชาติจะพาภพชาติเก่าค่อยๆผุดขึ้นมา จนหมด ไม่เหลือภพชาติให้ไปเกิดอีกกายกับจิตหลุดออกจากกัน ทุกข์ทางกายยังมี แต่ทุกทางใจหมดสิ้นซึ่งเรียกว่า นิพพาน
รู้แค่นั้นยังตัดภพชาติไม่ได้
การเรียนรู้ เรียก ปริยัติการลงมือทำ เรียก ปฏิบัติการเกิดผล สัมฤษธิ์ เรียก ปฏิเวธ# สมถะภาวนา ควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง#วิปัสนาภาวนา ควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งก่อนจะสอนผู้อื่น ให้ได้รับความเห็นถูก และรู้ชัดก่อนจะหลงทางได้ง่ายๆสัญญา คือ ความจำ ความจำได้หมายรู้ จำสิ่งที่เรียนมา รู้สิ่งที่จำมา สิ่งที่รู้มาอาจไม่ใช่ความจริง สิ่งที่จำมาอาจไม่ใช่ความไม่จริง อาจเป็นสิ่งลวงตา อาจเป็นสิ่งหลอกตา
อนุโมทนาสาธุครับ
ก่อน จะพิจารณา อริยะ 4 น่ะเลิกแต่งหน้า ทาปากให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาสอน คนอื่นๆๆเขาน้า ไม่ต้องไปเห็นโทาถึงชาติหน้า หรอก ชาตินี้เอาให้รอดก่อนน่ะ
ดีครับ
สาธุๆๆครับ
ชื่นชมครับ เพราะเรื่องข้างในมาจากผู้รู้สึกด้วยตัวเองอาจมีใครคิดต่างเป็นเรื่องธรรม ทำไปเรื่อยๆครับความรู้ยิ่งกระจายเยอะแง่มุมจะฉายมิติเอง
เรียนธรรมะแล้ว รู้แจ้งแล้ว อย่าลืมเข้าห้องสอบวัดกำลังใจกันครับ คนใกล้ตัวที่อยู่อาศัยในบ้านเดียวกันนี่แหล่ะข้อสอบอย่างดีเลย ผลสอบ อยู่ระดับไหน นักเรียนย่อมรู้ลึกได้เฉพาะตนจริงๆ
เป็นการเจริญมรรค อตัมมยตา นั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านทำอย่างไรท่านจะสอนอย่างนั้น การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ ก็จะมี ผู้ที่ฟังด้วยดี และ จะมีผู้ที่ไม่ฟังด้วย เมื่อเห็นผู้ที่ฟังด้วยดี คือ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด เมื่อเห็นผู้ที่ไม่ฟังด้วยดี คือ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ นั่นเองคะ อิทธิบาท4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
❤😊🎉ขอบพระะคุณครับผม วัชรกาย วัชรจิต ฯ สาธุฯ วิปัสนาญาณสติปัญญาธรรมชาติจักษุ เป็นสุญตาโพธิสัตว์ ทานว่า...สาธ!
สอนไปเถอะยิ่งสอนยิ่งแตกฉาน ได้ทบทวนถูกบ้างผิดบ้าง แรกๆอาจจะเข้าใจไม่ลึกซึ้งพอ แต่นานวันไปจิตมันจะฉลาด มันจะไล่เรียงความผิดพลาดในอดีต ความรู้และการสอนในอดีต จะปรับปรุงให้ถูกต้องต่อไป ภายหน้าจะเห็นการทำงานของขันธ์ 5 และจะเป็นผู้รู้ผู้ดูอยู่ภายนอกขันธ์5 เห็นไตรลักษณ์ เห็นการเกิดดับของรูปนาม ละสักกายะทิฐฐิได้ อยู่เหนือความว่างเปล่า มีสุญญตวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ สงบวิเวกร่มเย็นสบาย ธรรมมีหลายระดับใครใคร่ศึกษาระดับไหนก็จงทำเถิด มีตั้งแต่เปลือกไปจนถึงแก่น สะสมไปได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่าหยุดทำความดี
เรียน ชาวพุทธ ขอพวกท่านใจเย็นๆ และทบทวนข้อความที่ข้าพเจ้า เขียน ว่าจริงหรือเท็จ?
1 สมมติว่า มีการเวียนว่ายตายเกิด อัลเลาะห์จะให้ใครเกิด ผู้นั้นก็ต้องเกิด ยังไงคนที่อ้างว่าตนเองนิพพานแล้วนั้นก็ต้องเกิดอีก
2 สมมติว่า มีนิพพาน พวกเทวดาก็ควรจะนิพพานก่อนมนุษย์ เพราะพวกเขามีคุณธรรม มีศีลธรรมมากกว่ามนุษย์
3 เป็นแค่มนุษย์ควรรู้จักที่ต่ำที่สูง แค่นั่งสมาธิทับรูขี้แล้วมาอวดเก่ง อวดดี ยกตนว่าดีเลิศประเสริฐสุด ว่าตนเองดีเลิศกว่าเทวดานั้น มันไม่สมควรเลย
4 เมื่อไม่อยากเกิด ไม่อยากมีตัวตน ณ ที่แห่งใดเลย เมื่อรับโทษในนรกหมดแล้ว อัลเลาะห์ก็จะให้ผู้นั้นไม่มีตัวตนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนิพพาน
5 แต่ถ้าให้เรา มีตัวตนแบบเทวดา มีสุขนิรันดร นั่นมันไม่ดีกว่านิพพานหรือ?
6 แท้จริงนิพพานคือฝันลมแล้งๆมโนขึ้นเองในวันขี่ไม่ออกของ กระเทย สิทธัตแถะ
7ไม่ใช่อัลเลาะห์ขัดขวางไม่ให้สัตว์โลกนิพพาน,แต่นิพพานเป็นสิ่งไม่มีอยู่จริง
8แท้จริงพุทธเป็นเพียงสัตว์สะหนาที่หลอกผู้คนให้จมอยู่กับนิพควายของมัน
9มึงบอก"พุทธไม่ใช่เทวนิยม" แล้วใครที่อยู่ในสวรรค์
10มึงบอก"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" แล้วตอนมึงสลบ มึงปั้มหัวใจให้ตัวเองได้มั้ย
11อย่าปล่อยให้คนอินเดียเอาความโกหกของมันมาครอบงำคนไทย
12มึงบอกอิสลามพึ่งเกิดเมื่อ1400กว่าปี แล้วพระเจ้าของมันจะสร้างโลกได้อย่างไร มึงโง่จนไม่เข้าใจว่า นบี มุฮัมมัด ฯเป็นแค่ทูตที่อัลเลาะห์แต่งตั้งมา
13ผู้ที่ให้เกิดคือพ่อแม่ แต่ผู้ให้ตายคืออัลเลาะห์พระผู้สูงสุด พระผู้ควบคุมสรรพสิ่งاللّٰهُ يُحۡىٖ وَيُمِيۡتُ
14สำหรับมนุษย์เพศหญิง,พวกท่านถามตัวเองก่อนว่าใครเป็นผู้ประกอบอวัยวะให้ลูกในมดลูกของท่าน
15ถ้าพวกท่านเชื่อทฤษฏีวิวัฒนาการ ก็สั่งให้ลูกมีปีกงอกออกมา
16อวัยวะในตัวมึงล้วนทำตามพระบัญชาของอัลเลาะห์ หัวใจมึงที่สูบฉีดโลหิตได้เพราะอัลเลาะห์สั่ง
17แต่จิตใจมึงด้วยความโอหังจึงปฏิเสธอัลเลาะห์
18 อัลเลาะห์คือ พระผู้เป็นเจ้าของเราที่แท้จริง เราอย่าตั้งผู้ใดในหมู่มนุษย์ขึ้นเทียบเคียง
19ถ้าไม่มีอัลเลาะห์แล้วใครจะลงโทษพวกที่ทำชั่วอย่างมากมายที่ร่ำรวยมีความสุขแล้วแก่ตายเอง
11 สิ่งที่มีจริงแต่ตาคนมองไม่เห็นนั้นมีเยอะ ดังนั้นถึงแม้จะมองไม่เห็นพระเจ้า ก็อย่าพึ่งรีบตัดสินว่าพระเจ้าไม่มีจริง
10การที่อัลเลาะห์จะมีหน้าตายังไง มันไม่ใช่สาระที่มึงจะใส่ใจแล้วปฏิเสธว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริง
12อัลเลาะห์บอกมาในอัลกุอ่านว่า มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพระเจ้า
12จะได้เข้าสวรรค์หรือรอดนรก ต้องตระหนักว่าอัลเลาะห์เป็นพระเจ้า
13 ชาวสวรรค์นั้นตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นนรก,ส่วนชาวนรกตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นสวรรค์,หลังจากนั้นอัลเลาะห์จะให้พวกเขาได้พำนักในที่อยู่ของตนจริงๆ
13ไม่ใช่"ภพเกิดจากคิด" ถ้า"ภพเกิดจากคิด"จริงแล้วทำไมกระเทยสิทธัตแถะจึงแดกเนื้อหมูเป็นโรคตาย นั่นเพราะมันคิดว่ามันจะตายเพราะแดกเนื้อหมูหรือ?
14อัลเลาะห์เปิดโปงนักโกหกลวงโลกด้วยให้มันตายยังไง
15มุสลิมบางคนรู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก ถ้าชาวพุทธไม่รู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก แสดงว่ามุสลิมบางคนมีความรู้มากกว่าชาวพุทธ
15พวกก่อคดีสยองแต่ละวัน ทิ้งเมียฆ่าแม่ข่มขืนลูกฯลฯ ไทยพุทธแทบทั้งนั้น ศาสนาอุบาทว์
16พระเจ้าก็คือธรรมชาติเป็นผู้สร้างมนุษย์ดังนั้นพระเจ้าจึงมีสิทธิในมนุษย์ๆไม่มีสิทธินับถือศาสนาใดนอกจากศาสนาที่พระเจ้ากำหนด
17กล่าวเถิด ข้าพเจ้ามีอัลเลาะห์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าไม่ได้พึ่งกระเทยสิทธัตเถาะและธรรมแมะงี่เง่าของมัน
18ชาวพุทธพยายามอย่าใช้ตรรกะโง่ๆมาตัดสินว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริงเช่น เวลากูหิว,ไม่เห็นอัลเลาะห์เอาข้าวมาให้กูแดก เป็นต้น
19พุทธโง่เอ๋ย,พวกท่านไม่จำเป็นต้องไปตามหาพระเจ้า,เพราะว่าเมื่อถึงเวลาอัลเลาะห์จะมาหาพวกท่านเอง
20พุทธโง่ไม่น้อยที่ไม่เคยเห็นผีแล้วท้าทายขอเห็นผี,พอมันได้เห็นผีขึ้นจริงแม่งมันก็กลัว
21ความจริงแล้วพระเจ้าน่ากลัวกว่าผีมาก,ผีเองก็ยังกลัวพระเจ้า
22ใครอ่านข้อความนี้แล้วรู้สึกไม่ดี นั่นเพราะคุณมึงมีความประพฤติไม่ดี เช่น หญิงสำส่อน ชายมั่วยา ฯลฯ
23ดังนั้นคาดหวังรางวัลแห่งการประพฤติดีอะไรไม่ได้ในชีวิตหลังความตาย
24มึงบอกว่าพุทธคือศาสนาที่พิสูจน์ได้ งั้นมึงก็แสดงให้ดูสิว่านิพพานคือสิ่งพิสูจน์ได้
ก็คือการเกิดปรากฏขึ้นของบุคคลพวกที่4 สั่งสมสุตตะ และ ปฏิบัติตาม ธรรมวินัย เปรียบเหมือน เมฆฝนที่คำราม และฝนตก ก็คือ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อนั่นเองคะ ตถาคตภาษิต จะมี กฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ ยกตัวอย่าง สัตตานัง เป็น ตถาคตภาษิต เพราะ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคลพวกที่3 ที่เปรียบเหมือน เมฆฝนที่ไม่คำราม และ ฝนไม่ตก นั่นเองคะ (คำสอน การเขียน การพูดออกมา และ ความคิดเห็น ที่ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ จึงไม่ใช่ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ ยกตัวอย่าง อย่าสวด ปฏิจจสมุปบาท อย่าสวด ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่เป็นมรรค ไม่เป็นผล คำสอนนี้จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต ขัดแย้งกับการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา สาวกภาษิต จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ เป็นการกระทำทาง วาจา เป็นกรรมดำมีวิบากดำ เป็นการการทำทาง วาจา4 พูดโกหก พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ นั่นเองคะ
การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคลพวกที่ 3 บุคคลพวกที่3 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ บุคคลพวกที่ 4/ บุคคลพวกที่4 เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ /บุคคลพวกที่4 เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น คือ การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อนั่นเองคะ เพราะเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา และ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻อนุโมทนาบุญด้วยนะคะน้องกวาง คลิปมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
ปีนี้เป็นปีที่ดีมากเลย เห็นผู้คนสนใจศึกษาธรรมได้อย่างแตกฉาน มีดวงจิตผู้บรรลุที่ผุดขึ้นมาเยอะมากมายในปีนี้ รู้สึกปิติมากครับ อนุโมนาสาธุ...
เรียน ชาวพุทธ ขอพวกท่านใจเย็นๆ และทบทวนข้อความที่ข้าพเจ้า เขียน ว่าจริงหรือเท็จ?
1 สมมติว่า มีการเวียนว่ายตายเกิด อัลเลาะห์จะให้ใครเกิด ผู้นั้นก็ต้องเกิด ยังไงคนที่อ้างว่าตนเองนิพพานแล้วนั้นก็ต้องเกิดอีก
2 สมมติว่า มีนิพพาน พวกเทวดาก็ควรจะนิพพานก่อนมนุษย์ เพราะพวกเขามีคุณธรรม มีศีลธรรมมากกว่ามนุษย์
3 เป็นแค่มนุษย์ควรรู้จักที่ต่ำที่สูง แค่นั่งสมาธิทับรูขี้แล้วมาอวดเก่ง อวดดี ยกตนว่าดีเลิศประเสริฐสุด ว่าตนเองดีเลิศกว่าเทวดานั้น มันไม่สมควรเลย
4 เมื่อไม่อยากเกิด ไม่อยากมีตัวตน ณ ที่แห่งใดเลย เมื่อรับโทษในนรกหมดแล้ว อัลเลาะห์ก็จะให้ผู้นั้นไม่มีตัวตนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนิพพาน
5 แต่ถ้าให้เรา มีตัวตนแบบเทวดา มีสุขนิรันดร นั่นมันไม่ดีกว่านิพพานหรือ?
6 แท้จริงนิพพานคือฝันลมแล้งๆมโนขึ้นเองในวันขี่ไม่ออกของ กระเทย สิทธัตแถะ
7ไม่ใช่อัลเลาะห์ขัดขวางไม่ให้สัตว์โลกนิพพาน,แต่นิพพานเป็นสิ่งไม่มีอยู่จริง
8แท้จริงพุทธเป็นเพียงสัตว์สะหนาที่หลอกผู้คนให้จมอยู่กับนิพควายของมัน
9มึงบอก"พุทธไม่ใช่เทวนิยม" แล้วใครที่อยู่ในสวรรค์
10มึงบอก"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" แล้วตอนมึงสลบ มึงปั้มหัวใจให้ตัวเองได้มั้ย
11อย่าปล่อยให้คนอินเดียเอาความโกหกของมันมาครอบงำคนไทย
12มึงบอกอิสลามพึ่งเกิดเมื่อ1400กว่าปี แล้วพระเจ้าของมันจะสร้างโลกได้อย่างไร มึงโง่จนไม่เข้าใจว่า นบี มุฮัมมัด ฯเป็นแค่ทูตที่อัลเลาะห์แต่งตั้งมา
13ผู้ที่ให้เกิดคือพ่อแม่ แต่ผู้ให้ตายคืออัลเลาะห์พระผู้สูงสุด พระผู้ควบคุมสรรพสิ่งاللّٰهُ يُحۡىٖ وَيُمِيۡتُ
14สำหรับมนุษย์เพศหญิง,พวกท่านถามตัวเองก่อนว่าใครเป็นผู้ประกอบอวัยวะให้ลูกในมดลูกของท่าน
15ถ้าพวกท่านเชื่อทฤษฏีวิวัฒนาการ ก็สั่งให้ลูกมีปีกงอกออกมา
16อวัยวะในตัวมึงล้วนทำตามพระบัญชาของอัลเลาะห์ หัวใจมึงที่สูบฉีดโลหิตได้เพราะอัลเลาะห์สั่ง
17แต่จิตใจมึงด้วยความโอหังจึงปฏิเสธอัลเลาะห์
18 อัลเลาะห์คือ พระผู้เป็นเจ้าของเราที่แท้จริง เราอย่าตั้งผู้ใดในหมู่มนุษย์ขึ้นเทียบเคียง
19ถ้าไม่มีอัลเลาะห์แล้วใครจะลงโทษพวกที่ทำชั่วอย่างมากมายที่ร่ำรวยมีความสุขแล้วแก่ตายเอง
11 สิ่งที่มีจริงแต่ตาคนมองไม่เห็นนั้นมีเยอะ ดังนั้นถึงแม้จะมองไม่เห็นพระเจ้า ก็อย่าพึ่งรีบตัดสินว่าพระเจ้าไม่มีจริง
10การที่อัลเลาะห์จะมีหน้าตายังไง มันไม่ใช่สาระที่มึงจะใส่ใจแล้วปฏิเสธว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริง
12อัลเลาะห์บอกมาในอัลกุอ่านว่า มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพระเจ้า
12จะได้เข้าสวรรค์หรือรอดนรก ต้องตระหนักว่าอัลเลาะห์เป็นพระเจ้า
13 ชาวสวรรค์นั้นตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นนรก,ส่วนชาวนรกตายใหม่ๆอัลเลาะห์จะให้เห็นสวรรค์,หลังจากนั้นอัลเลาะห์จะให้พวกเขาได้พำนักในที่อยู่ของตนจริงๆ
13ไม่ใช่"ภพเกิดจากคิด" ถ้า"ภพเกิดจากคิด"จริงแล้วทำไมกระเทยสิทธัตแถะจึงแดกเนื้อหมูเป็นโรคตาย นั่นเพราะมันคิดว่ามันจะตายเพราะแดกเนื้อหมูหรือ?
14อัลเลาะห์เปิดโปงนักโกหกลวงโลกด้วยให้มันตายยังไง
15มุสลิมบางคนรู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก ถ้าชาวพุทธไม่รู้ว่าสิทธัตถะเป็นนักโกหก แสดงว่ามุสลิมบางคนมีความรู้มากกว่าชาวพุทธ
15พวกก่อคดีสยองแต่ละวัน ทิ้งเมียฆ่าแม่ข่มขืนลูกฯลฯ ไทยพุทธแทบทั้งนั้น ศาสนาอุบาทว์
16พระเจ้าก็คือธรรมชาติเป็นผู้สร้างมนุษย์ดังนั้นพระเจ้าจึงมีสิทธิในมนุษย์ๆไม่มีสิทธินับถือศาสนาใดนอกจากศาสนาที่พระเจ้ากำหนด
17กล่าวเถิด ข้าพเจ้ามีอัลเลาะห์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าไม่ได้พึ่งกระเทยสิทธัตเถาะและธรรมแมะงี่เง่าของมัน
18ชาวพุทธพยายามอย่าใช้ตรรกะโง่ๆมาตัดสินว่าอัลเลาะห์ไม่มีจริงเช่น เวลากูหิว,ไม่เห็นอัลเลาะห์เอาข้าวมาให้กูแดก เป็นต้น
19พุทธโง่เอ๋ย,พวกท่านไม่จำเป็นต้องไปตามหาพระเจ้า,เพราะว่าเมื่อถึงเวลาอัลเลาะห์จะมาหาพวกท่านเอง
20พุทธโง่ไม่น้อยที่ไม่เคยเห็นผีแล้วท้าทายขอเห็นผี,พอมันได้เห็นผีขึ้นจริงแม่งมันก็กลัว
21ความจริงแล้วพระเจ้าน่ากลัวกว่าผีมาก,ผีเองก็ยังกลัวพระเจ้า
22ใครอ่านข้อความนี้แล้วรู้สึกไม่ดี นั่นเพราะคุณมึงมีความประพฤติไม่ดี เช่น หญิงสำส่อน ชายมั่วยา ฯลฯ
23ดังนั้นคาดหวังรางวัลแห่งการประพฤติดีอะไรไม่ได้ในชีวิตหลังความตาย
24มึงบอกว่าพุทธคือศาสนาที่พิสูจน์ได้ งั้นมึงก็แสดงให้ดูสิว่านิพพานคือสิ่งพิสูจน์ได้
❤❤❤❤🙏
🙏🙏🙏✨🌟💫🌷🌹
สำเร็จขั้นไหนแล้วรู้ธรรมแต่ไม่เห็นธรรม
มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา (ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา)>(ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)การเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ จะมี ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองคะ สายปฏิจจสมุปบาท เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองคะ คือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(ทุกข์ ทุกขสมุทัย ทุกขนิโรธ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา)
เห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ อริยสัจสี่ ทุกข์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมุทัย(ทุกข์>สมุทัย)สมุทัย เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/ สมุทัย เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ นิโรธ(สมุทัย>นิโรธ)นิโรธ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/นิโรธ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ มรรค(นิโรธ>มรรค)มรรค เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/มรรค เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ พระสงฆ์(มรรค>พระสงฆ์)>(โสดาบัน>สกทาคามี)>(สกทาคามี>อนาคามี)>(อนาคามี>อรหันต์)>(อรหันต์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)
อาจราย์ครับสอนขนาดนี้ระวังโดนแยกลัดธินะครับ
พวกคุณกำลังหลงทางแล้วครับ มีเขามีเราอยู่ทุกขั้นตอน ทุกคำพูด มันจะหลุดไปเช่นไร ความจริงคือ..ขันธ์. 5 เป็นอนัตตาจบครับ
เค้าก็บอกอยู่ว่า ขันธ์ห้า คือตัวทุกข์ เป็นแค่สภาพธรรม ไม่ใช่เค้าไม่ใช่เรา ไม่มีเราอยู่ในขันธ์ห้า
การเกิดปรากฏขึ้นของ วิญญาณ และ นามรูป ก็คือ ทุกข์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมุทัยทุกข์>สมุทัย)สมุทัย เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/สมุทัย เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ นิโรธ(สมุทัย>นิโรธ)การเกิดปรากฏขึ้นของ สมุทัย คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัตตานัง นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัตตานัง คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังสารวัฏ นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ สังสารวัฏ คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ กามภพ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย มนุษย์ และ เทวดากามภพ รูปภพ เทวดารูปภพ อรูปภพ เทวดาอรูปภพ
อย่าไปสนใจคำว่า กรรมเก่า กรรมใหม่ ให้เรียนรู้ภายในใจเจ้าของในปัจจุบันขณะ (ทุกข์) เกิดจากอะไร คนที่จะเห็นได้ต้องมีสติ(สงบนิ่ง) เห็นความเคลื่อนไหวภายในใจเจ้าของนั่นแหล่ะ สติ สติ สติ สติมาปัญญาเกิด
กายนี้คือกรรมเก่า นวกรรมคือกรรมใหม่คือ ผัสสะ
ท่องจำมาสอนจะดีหรือครับ..
พระพุทธเจ้าบอกว่าต้องทำให้ได้ก่อนจีงมาสอนคนอื่นนะครับ..หรือว่าคุณเป็นพระอรหันครับ.
พูดธรรมะเหมือนเรียนกันเลยนะครับ😂 ดูง่ายกันจัง 😮
เมื่อมีเหตุปัจจัยถูก ก็คือจะมี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ ยกตัวอย่าง สัทธานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ธัมมานุสารี เมื่อกายแตกทำลาย(ตาย)ก็จะเวียนว่ายตายเกิดใน กามภพ มนุษย์ สลับกับ เทวดากามภพ อีก 7 คราว นั่นเองคะ ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ/ธัมมานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ โสดาบัน เมื่อกายแตกทำลาย(ตาย)ก็จะกลับมาเวียนว่ายตายเกิดใน กามภพ มนุษย์ อีก3 คราว เมื่อมีเหตุปัจจัยถูก เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองคะ ก็จะค่อยๆเริ่มเห็น อริยสัจสี่ ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองคะ เห็น ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั่นเองคะ
@@user-tl5ws1fe7e เรื่องธรรมชาติที่หลายคนมองข้าม ท่านสอนให้ฝึกตนเอง พัฒนาตนเอง เรียนรู้สัจธรรม
สาธุด้วยครับ
คิดเอาเองสอนผิด
ต้องละสังโยชน์ให้ได้ก่อน
เเล้วถ้ารู้ เเล้ว จะตัดถพชาติได้เลยมั้ยคะ
ถ้ารู้ในระดับปัญญาญาณวิปัสสนาก็ตัดภพชาติได้ แต่คนยุคนี้ก็ต้องปฏิบัติกัมมัฏฐานเท่านั้น ส่วนแนวการปฏิบัติคุณต้องค้นหาเอง😊😊
สอนได้มั่วมากกกก
ความรู้นี้ท่านได้ แต่ใดมาครับ
ใครเป็นครูบาอาจารย์สอนท่าน ธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อย่าแสดงออกมาสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ มันจะเป็นบาป เจริญในธรรมครับ
วัยรุ่นผู้ใฝ่ธรรม
ถ้าจะตัดภพชาติ ก็ฝึกหยุดคิด หยุดคิดใด้เรื่องนึง ก็ตัดภพชาติใด้ภพนึง วันนึงหยุดคิดให้มากที่สุด
หลังจากที่ภพชาติใหม่หมดแล้ว ธรรมชาติจะพาภพชาติเก่าค่อยๆผุดขึ้นมา
จนหมด ไม่เหลือภพชาติให้ไปเกิดอีก
กายกับจิตหลุดออกจากกัน ทุกข์ทางกายยังมี แต่ทุกทางใจหมดสิ้น
ซึ่งเรียกว่า นิพพาน
รู้แค่นั้นยังตัดภพชาติไม่ได้
การเรียนรู้ เรียก ปริยัติ
การลงมือทำ เรียก ปฏิบัติ
การเกิดผล สัมฤษธิ์ เรียก ปฏิเวธ
# สมถะภาวนา ควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง
#วิปัสนาภาวนา ควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง
ก่อนจะสอนผู้อื่น ให้ได้รับความเห็นถูก และรู้ชัดก่อน
จะหลงทางได้ง่ายๆ
สัญญา คือ ความจำ ความจำได้หมายรู้ จำสิ่งที่เรียนมา รู้สิ่งที่จำมา สิ่งที่รู้มาอาจไม่ใช่ความจริง สิ่งที่จำมาอาจไม่ใช่ความไม่จริง อาจเป็นสิ่งลวงตา อาจเป็นสิ่งหลอกตา
อนุโมทนาสาธุครับ
ก่อน จะพิจารณา อริยะ 4 น่ะเลิกแต่งหน้า ทาปากให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาสอน คนอื่นๆๆเขาน้า ไม่ต้องไปเห็นโทาถึงชาติหน้า หรอก ชาตินี้เอาให้รอดก่อนน่ะ