20241031 สงคราม ต่อสู้กับ ผีนรก โดย ส.พอจริง สัจจาสโภ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ย. 2024
- สัตตาโอปปาติกะ
สัตว์นรก หรือ ผีนรก
มันเป็นอบายภูมิขั้นต้น
พระพุทธเจ้าเอาศีลข้อ 1
มาประหารมัน
ผีนรก เป็นกิเลส โทสะ
กิเลสโทสะมีหลายระดับตั้งแต่
1.อารติ (เล็กๆ) คือไม่ชอบ ใจมันเริ่มผลัก
ในความทุกข์มันจะมีผีนรกตัวนี้ซ่อนอยู่
จากอารติมันจะพัฒนาตัวเองขึ้นมา
พอโตขึ้นมาเรียกว่า
2.ปฏิฆะ
พอปฏิฆะมันเริ่มอึดอัด
ขัดเคือง หงุดหงิด
อันนี้เป็นเรื่องใจ เป็นสัตตาโอปปาติกะ ถ้าเราจับได้เราจะเข้าสู่ สัมมาทิฏฐิ
ขั้นอัฐิสัตตาโอปปาติกะ
3.อุปนาหะ
ขั้นเริ่มเจ็บใจ เจ็บๆจี๊ดๆ
เจ็บๆปวดๆเจ็บใจปวดใจ
มันจะผูกคือมันโกรธหายช้าคิดถึงเมื่อไหร่โกรธเมื่อนั้น เจอหน้าเมื่อไรก็โกรธเมื่อนั้น
4.โกธะ
หลังจากที่เริ่มเจ็บใจมันจะเริ่มร้อนขึ้น มันจะส่งความร้อนออกมา เป็นโกรธ ร้อนรุ่มกลุ้มใจ
อาฆาต แค้น คือโกรธจัด
มากๆแล้วก็จะผูกอาฆาตเลยมีวิธีไหนจะแก้แค้นได้
พยาบาท เมื่อพยาบาทเมื่อคิดมากๆเข้าก็ออกมาทางปากทางกาย กับวาจา ถ้าออกทางกายกับวาจาเรียกว่า โทสะ
ปฏิบัติธรรมแล้วจำเป็นเหลือเกินที่เราจะต้องพยายามตั้งสติดีๆ
จากกิเลสต่อมาจะพัฒนาเป็นตัณหา
ดูอาการอยากต่อไป
เมื่อเราไม่ชอบแล้วเราอยากทำอะไร
คำพูดของฮิตๆของผีนรกตัวนี้มันก็อยากบ่น อยากด่า อยากขู่ บริวารมันเยอะมาก
ทั้งพูดเสียบ พูดกระแนะกระแหน พูดประชดประชัน
สารพัดพูด
อาการอยาก
อยากจะคิด
อยากจะพูด
ต่อมาก็อยากจะทำ
ขบวนการตรงนี้ที่มันต่อเนื่องจากตัวกิเลส มาเป็นตัณหาตัณหาคือความอยาก
มันอยากทำอะไรจับให้ทัน
จับตรงที่ความอยากนี่แหละ
เวลาเรามาแก้ปัญหาจะมาแก้ที่ตัณหา เพราะตัณหาเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
ตามหลักอริยสัจ 4
ตัณหานี้เป็นตัณหาของผีนรก
อยากจะทำลาย ทำร้าย
ให้ไปดักตรงที่คำว่าอยาก
อยากไปทำอะไรกับเขา
ตัวที่มันเกิดมันน่ะให้เราเห็นชัดๆ
ตรงนั้นแหละเขาเรียกว่า "สะโทสะ"
ตรงนั้นแหละคือ จิตในจิต
จำคำนี้เอาไว้
อันนั้นเป็นสภาพของปัญญาของเรานะ
ปัญญานี้มีชื่อว่า "ภาวนามยปัญญา"
ภาวนาแปลว่าผล
ผลจากผัสสะที่เราไปเจอ
พอเห็นตรงนี้เสร็จแล้วก็มาจัดที่ตัณหา
พอจับตัณหาได้แล้ว
ตรงนี้และศีลข้อ 1 จะมา
มาตอนที่เป็นตัณหานะ
อย่าไปทำอะไรกับเขา
ปาณา คือจิตวิญญาณหรือชีวิต
อัตติ แปลว่า ร่วง
ปาตะแปลว่าตก
รวมกัน 3 คำแปลว่าทำให้ชีวิตตกร่วง
วีระมะณีคือเจตนางดเว้น
เวรณีคือเจตนางดเว้น
งดเว้นจากการทำให้ชีวิตคนอื่นตกร่วง
ชีวิตเราก็อย่าให้ตกร่วม
มันจะตกร่วงก็ตอนที่อยากนี่แหละ
แม้แต่เราทุกข์เอง
เราเกิดเองมันก็ทำร้ายเรานะ
เราก็ทุกข์นี่จิตวิญญาณเราตกร่วงแล้ว
เราก็จะดึงจิตวิญญาณของเราขึ้นมา ๆ
คิดอันดับแรก มันจะวคิดเพ่งโทษ
อย่าคิดเพ่งโทษ
เพราะต้องอ่านอาการอยากคิดให้เจอนะ
อย่าคิดเพ่งโทษ
ที่นี่พออย่าคิดเป็นโทษ
เราไม่คิด
อย่าคิดเพ่งโทษ
ต่อไปเราก็จะบอกว่าเราไม่คิดเราคิดกลับเป็น "คิดทำความเข้าใจเขา"
"อย่าคิดเป็นโทษ
เราไม่คิด
เรากลับไปคิดทำความเข้าใจเขา"
ตรงไม่คิดจะมีสมถะกับวิปัสสนา
สมถะคือทำให้ตัณหามันหยุด
มันหยุดแสดงฤทธิ์
ไม่ให้มันออกฤทธิ์ สมถะ กดไว้ก่อน
มีคำอยู่ 4 คำ
อดทนข่มฝืน
ขั้นที่ 1
อด ก็คือว่า มันอยากไปคิดเพ่งโทษ เราก็ไม่คิด อดคือไม่ได้คิด
ทน ก็คือ อยู่กับสภาพที่มันไม่ได้
คือสภาพที่ไม่ได้คิด
แล้วก็อยู่กับสภาพที่ไม่ได้คิด
ข่ม ในขณะที่ไม่ได้คิดตัณหามันยังทำงานอยู่มันก็จะโผล่ขึ้นมาอีก
ตอนนี้กดตัณหาเลย ข่ม เอาใจข่มใจ
ข่มเสร็จแล้วก็มาฝืน ไหนๆก็จะคิดแล้วคิดส่วนกลับเลย
คิดข้อดีเขาเลย
ทำความเข้าใจเขาเลย
คิดแบบนี้ ทำแค่นี้
ลองฝึกดู
ถ้าอยากคิดแก้แค้นก็คิดใหม่ก็ไม่คิด
อดเหมือนเดิมทนเหมือนเดิมคืนข่มเหมือนเดิม
แล้วก็คิดฝืนกลับ
แทนที่จะคิดแก้แค้นก็คิดให้อภัยซะ
..........................
มันอยากพูดมันอยากบ่น
เราต้องมาฝึกใหม่ จับอาการอยากให้ได้ อยากบ่น บ่นมันมีเป้าหมายนะ
1 ระบายอารมณ์ อารมณ์ตัวนี้ก็คือผีนรก ลองสังเกตดูสิเวลาเราบ่นผีนรกมันจะปนไปด้วยนะ อารมณ์มันจะปนกับคำพูดของเราไป แล้วคนฟังเขาก็รำคาญ
เราอยากบ่นก็อันเดิมเราก็อดเอาปิดปากไว้
อดไม่บ่นทนอยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้บ่น
...เราก็ฝืนฝืนพูดใหม่
จากบ่นก็มาเป็นการบอกกันดีๆ
บอก คือ พูดให้เขารู้
ถ้าบ่น มันพูดเรื่อยเปื่อย พูดไม่มีประเด็น มันเป็นการพูดระบายอารมณ์ พูดให้เขารำคาญ
บ่น มันบวกด้วยอารมณ์ เสร็จแล้วมันจะแตกแขนงเยอะ
พอบอกด้วยอารมณ์มันจะไปแตกแขนงเยอะ แต่บอกมันมีประเด็นมีจุดเป้าหมาย บอกให้รู้เรื่องนี้เรื่องนี้เรื่องนี้หรืออธิบายถ้าอธิบายก็มากกว่าคำว่าบอก
บอกคือแค่ให้รู้เฉยๆ ให้รู้เป้าหมายให้รู้ประเด็น แต่อธิบายคือให้เขาเข้าใจด้วยถ้าชี้แจงแล้วก็ยิ่งดี...
อันนี้จะแก้คำว่าบ่นได้ อันนี้เราฝืน
ทางกายอยากหน้าบูด อยากหน้าบึ้ง อยากเมิน อยากเดินหนีอยากสะบัดหน้าใส่ อยากกระทืบเท้าใส่ อยากทำประชด
อยากตบอยากตีเราก็อดเอา
อยากอะไรเราก็อดเสิ่งนั้นแหละ
แล้วก็ทนอยู่กับสิ่งเหล่านั้นที่ไม่ได้ทำ
แล้วก็มาข่มอาการอยาก
ข่ม ๆๆๆ แล้วก็ฝืนซะถ้ามันอยากหน้าบูดเราก็ฝืนยิ้ม ๆๆๆๆ
ยิ้มออกไม่ออกก็ต้องฝืน ฝึกเอา
ฝืนทำสวนทางกับมันเลย
ถ้ามันอยากเมินหน้าหนี้เราก็มองหน้าเขาซะ ยกมือไหว้เจริญธรรม
วิธีแก้แบบสมถะอันนี้สมถะนะ
นี่คือสงครามนะ ต่อสู้กับผีนรกนี่
ทำแค่นี้ได้เราเรียกว่าได้สีลัพพัตตุปาทาน
เพราะมันยังไม่ได้ล้าง
ทำอย่างไรเอาปัญญามาหักล้างเฉโก ล้างเฉโกนี้แหละเขาเรียกว่าล้างกิเลส
เวลาไปหักล้างก็หักหลังที่ตัณหาเหมือนเดิม โดยการที่เราต้องใช้ปัญญาว่า หลังจากที่เราจับมันได้นะ จับตัวกิเลสได้ จับตรงตัณหานะ ปัญญาจะต้องเห็น "ปัสสนา" เห็นแจ้ง ปัสสะ วิปัสสะ วิ แปลว่าแจ้ง ปัสสนาแปลว่าเห็น
เห็นจริงๆเลยว่าตัณหานี่ไม่ใช่ตัวเราตัวเรานี่คือวิญญาณ คือการรับรู้เฉยๆ
ถ้าปัญญาแยกได้เราจะพ้นสักกายทิฏฐิ
เราจะเห็นร่างกายผีนรกตัวนี้มันไม่ใช่เราเลยมันก็เป็นมันมันไม่ใช่สักกะเลย
สักกะแปลว่าตัวเรา
ฌาน 1 สงัดจากกามและอกุศลธรรม อกุศลกรรมก็คือนิวรณ์ 5
นิวรณ์ 5 ก็คือพยาบาท
อาการก็คือเราต้องการสิ่งดีๆจากเขาซึ่งเขาไม่ได้ให้เรา ..ตีกลับมาเป็นพยาบาท
พวกผีนรกนี้คือพวกเดียวกับที่ไปขัดขวางการเลือกตั้งเพื่อเชิญทหารมายึดอำนาจใช่ป่าวครับ? ผมว่าใช่เลยนะ
พวกผีนรก ก็นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วก็โกงกินแดกกันสารพัดไง ไม่รู้จักอิ่ม