ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ุหลวงพ่อสอนถูกต้องแล้วครับ ใช้คำพูดให้เข้าใจในปัจจุบันได้ง่ายๆ ทุกอย่างประกอบด้วยเหตุและผล (ตรัสรู้นะ...คือให้...ตัดตัว...รู้ )แต่มนุษย์ส่วนมากจะเอาตัว...รู้...(แปลอีก ตัญหา(ความอยาก)นั่นไง หลวงพ่อให้ ไม่อะไรกับอะไร ไปเรื่อยๆ (อธิบาย คือการกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ) อย่าคิดตาม ให้ไม่ไปเลย องค์พุทธะ สอนพวกมีเวลาน้อย ให้สักแต่ว่าไป ตาเห็นก็สักแต่ว่าเห็นไป(ไม่ปรุงแต่ง) หูได้ยิน ก็สักแต่ว่าได้ยินไป (ไม่ปรุงแต่ง) ฯลฯ พอหลวงพ่อเปลี่ยนการสอนเพื่อให้เข้าใจง่ายๆกับ ไม่ยอมรับ...นี่ถ้าเป็นภาษาบาลี สมัยโบราณ จะทำอย่างกันเล่า... ยิ่งถ้าบอกว่าธาตุคือธาตุอยู่เองแล้ว ไม่ต้องแบบไหนกับกายกับจิตอีก...เสร็จกันไม่เข้าใจ โส อโหสิๆๆ โสๆๆ
มีประสบการณ์อย่างที่หลวงพ่อสอนมาทุกอย่างเลยเจ้าค่ะพอมันรู้แล้วเห็นแล้วว่างแล้วแต่ทำไมมันยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีกหาทางออกไม่เจอเพราะหลงและมีความอยากมากมาย อึดอัดขัดเคืองตลอดเวลาจนเหนื่อยและคล้ายจะบ้าเพราะมันฟุ้งซ่าน แต่พอมันจะวางมันแค่บอกว่า เอ่อ ถึงไม่ถึงได้ไม่ได้ก็ช่างแม่งงมันเถอะวะแล้วก็ปล่อยความอยากทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ พอปล่อยแล้วโอ้โห้มันอยู่ตรงนี้นี้เอง สาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
คำสอนของท่านลึกซึ้ง เกินกว่าธรรมที่คนไทยจะรู้เกินกว่าที่จะเข้าใจ ผสมพุทธศาสนานิกายเซนและมหายานเข้าด้วยกัน สาธุครับ
ท่านพาตรงนิพพาน จบให้ทุกจริตธรรม จบทุกกลลวงของตัณหาซ้อนรู้ สาธุๆ
น้อมกราบสาธุๆๆ 🙏🙏🙏🌷🌷🌷องค์มหาบารมี
มั่นคงในการละเว้นบาป ทำความดี สุดท้ายก็คือวางลงปลงเป็น จิตใจก็บริสุทธิ์โดยตัวของมันเอง สาธุๆๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างคือความว่างเปล่า เมื่อถึงเวลาก็ดับสูญ สลายหายไป สาธุค่ะ
ขอนอบน้อมกราบ องค์หลวงพ่อ ด้วยความเคารพอย่างสูง
นมัสการสาธุๆโสๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กราบสาธุสาธุสาธุ
ธรรมที่หลวงพ่อให้นั้นมันเป็นธรรมของตถาคตทั้งสิ้นไม่ได้เอามาจากไหนทั้งสิ้นพระองค์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองและตถาคต เป็นคนแรกที่ค้นพบการพ้นทุกข์และเป็นนักวิทยาศาสตร์ของโลกแต่ท่านไม่เอาจะทำให้มนุษย์หลงทางจึงเลือกทางพ้นทุกข์เพื่อดับทุกข์กับมนุษย์และสัตว์หาประมาณมิได้ อโหสิ อโหสิ อโหสิ โสสสสสสสสสสสสสสสสสส์
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆ.เจ้่าค้ะ🙏❤️
กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าคะ
ขออนุโมทนาสาธุครับ
คิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับจริตของแต่ละคนนะคะที่จะแฏิบัติ ส่วนเราเคยปฏิบัติหนักๆมาแล้วค่ะ เลยมาสายโพธิสัตว์แบบนี้ เพราะว่ายิ่งปฏิบัติ ยิ่งดูจิตขึ้นสูง จะยิ่งคับแคบเพราะมุ่งเป้า รู้สึกอึดอัด เพราะบางทีเราก็ต้องคอยเฝ้าดูจิตทุกเวลาจนไม่นอน ยิงปฏิบัติยิ่งตันค่ะ พอมาฝึกของหลวงพ่อโพธิ์ศรีเรารู้สึกว่าเราล้างความเป็นตัวต้นได้ไม่ยากเลย เลิกหลงตรงที่จะเอาปฏิบัติเพื่อจะเอาผล และเลิกทำบุญเพราะเห็นว่าต่อไปกุศลจะมาหาเรา ทุกวันนี้อยู่อย่างค่อยๆปล่อยไปเรื่อย ๆ ถ่อมตัวและไม่กลัวตายค่ะ โมทนาสาธุค่ะ
+Ribbone Brikshavana สาธุๆๆ
สาธุคับ...ศึกษาต่อไปนะคับสู้ๆๆ
ใช่ๆๆๆแลัวนักปฏิบัตในโลกนี้นะทุกคนเขาสงสัยกันทัังนั้นว่าทำไมใม่เห็นพ้นทุกใด้วะแต่เขาก้อใม่กล้าขัดครุบาอาจารคือหลอกว่าสงบคือเขาหลอกตัวเอง
Ribbone Brikshavanaครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ให้ตั้งเป้าแบบนั้นนี่ครับ ท่านสอนไปตามลำดับแต่เวลาสอนคนทั่วไป จะบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรเลย ศิษย์ทั่วไปก็ทำไม่ได้มีแต่ศิษย์ที่ปฏิบัติดีฝึกตัวเองมาก่อนแล้วจึงทำอารมณ์จิตตามคำสอนได้ดังนั้น ต้องแยกคำสอนเป็นสอนฝั่ง คือคนที่มีพื้นฐานพร้อม ก็ประคองให้เข้าทางสายกลาง ปฏิบัติเยอะไป ถ้าผ่อนคลายลงหน่อยแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทางถ้าปฏิบัติน้อยไป พอเร่งทำความเพียรแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทางท่านก็สอนให้ละวางได้ แค่ทำเหตุไม่ต้องหวังผลอะไรส่วนคนที่ยังละไม่ได้ตอนแรกก็ต้องให้ทำเพื่อสวรรค์ ตั้งเป้าอะไรไปก่อนเพราะยังหลงก็ตั้งเป้าใว้หน่อย พอปฏิบัติถูกทางสายกลาง ได้สติได้สมาธิ ก็สามารถละวางไปเรื่อยๆเป็นธรรมดาเหมือนคนจะข้ามคลองต้องมีเรือก่อน พ้นถึงอีกฝั่งค่อยเริ่มละทิ้งเรือแต่ถ้าไม่ปฏิบัติอะไรเลยกลายเป็นไม่มีเรือแล้วจะเอาอะไรข้ามคลองดังนั้น คำนอนแบบนี้ควรสอนแต่เฉพาะกลุ่มนะเพราะคนทั่วไปจะตีความผิดเพี้ยนว่าไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วเสียโอกาสไป
แล้วแต่นะคะ สำหรับคนที่ยังไม่ถูกครูก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ปฏิฆะค่ะ ตอนแรกเลิกปฏิบัติเหมือนว่าง่าย อย่างนั้นก็ทำตามใจไปเรื่อยๆๆๆ กลับกลายเป็นว่าอ้าวนั่นโมหะตัวใหญ่มากินอีก เลิกแบบไม่เพ่งไม่เอา อยู่อาศัยทุกวันไปแบบหายใจเข้าออกค่ะ ไม่เจาะจงว่าเอาอากาศไปเลี้ยงเซลล์ไหน แล้วก็ไม่เจาะเพ่งไปว่าอากาศเสียต้องเอาไปทิ้งที่อื่น อยู่ตามกรรมที่ทำมาชาติที่แล้วๆมาแล้วก็ขอขมา หมดอัตตาเร็วมากค่ะ กรรมไม่ติดยึด หรือไม่หวังหลุด แต่ปล่อยๆคลายไป ตอนนี้เลยโล่งมากค่ะ วิบากเยอะก็ถือว่าชดใช้ วิบากน้อยก็ปล่อยสละค่ะ อันนี้มันเป็นอีกแนวหนึ่งที่ล้างจริตความถือดี อหังการ์ และความยึดมั่นได้มากค่ะ ปสกส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับใครค่ะเอามาเล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ขอบคุณค่า
ขอน้อมกราบสาธุธรรมเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับ
อโหสิสิสิสิสิ....ๆๆ.....โสสสสส....ๆๆ.,....สาธุ....ๆๆ.....
อนุโมทนาสาธุๆๆคร้า
น้อมกราบ สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
แนวทางของหลวงพ่อคล้ายๆจะเป็นพุทธนิกายเซน แนวทางนี้เป็นทางลัดและอาศัยบุญเก่ามากมีมาแต่สมัยพุทธกาลพระอรหันต์หลายองค์ก็ใช้สำเร็จมรรคผลทางนี้เป็นส่วนใหญ่ พระมหากัสสป พระอานนท์ และจำนวนมาก ท่านผู้ศึกษาธรรมเคยสงสัยไหมว่าทำไมพระในสมัยพุทธกาลทำไมบรรลุเร็วมากบางองค์บรรลุอรหันต์เพียงธรรมพระพุทธองค์ประโยคเดียวหรือคืนเดียวไม่เห็นปฏิบัติมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางนี้ก็ต้องอาศัยบุญบารมีกรรมเก่ามาก นิกายเซนหลังจากท่านโพธิธรรมนำเข้าสู่จีนไม่นานก็กลายเป็นนิกายเซนเหนือกับใต้ ทางเหนือบอกว่าต้องเพียร ปฏิยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช ถึงบรรลุ ทางใต้บอกไม่ต้องให้สละให้เป็นอนัตตาให้ว่างมากที่สุด
ดิฉันฟังธรรม มาเยอะ หลายปี ไม่ถูกใจ อุปนิสัยเลยค่ะ มาเจอ พอจ. จบเลยค่ะ มันรุ้ของมันเองเลย ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องพยายามเข้าใจ ไม่ต้องอะไร อะไรเลย..เหมือนเราเคยเข้าใจแนวนี้มานานแล้ว..
คงไม่ต้องอาศัยบุญบารมีเก่ามังคะ เพราะที่เกิดมาได้อัตภาพเป็น คนก็มีบุญ ติดตัวมาแล้ว ถึงได้เกิดมาเป็นคนเพราะฉะนั้นตัดไปเลยทุกอย่างเพราะ(ทุกสิ่งอย่างๆๆผ่านไปเร็วเหลือเกิน (เป็นอนัตตา) เหมือนองค์หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ ได้เมตตาเทศนา และใช้ภาษาที่เข้าใจ ได้ง่ายมาก หัวนอบน้อมกราบองค์หลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุๆๆธรรมเจ้าคะ
เราอาศัยเรือเพื่อพ้นเรือ เราอาศัยบัญญัติธรรมเพื่อพ้นธรรมบัญญัติ เราอาศัยกรรมดีเพื่อพ้นกรรมดีและกรรมชั่ว ดังนั้นอย่าข้อวัตรปฏิบัติที่ดี
คือการสนทนาแบบนี้ ว่าด้วยไม่กระทำในสภาวะใดๆ ไม่ให้ค่าในสภาวะความคิด เพราะการให้ค่าคือ ตัวกรรม ตัวกรรมคือตัวภพ เราทพต่อไป แต่อย่าติดตัวตนในดี เพราะสังคมต้องมีความดี ไม่ใช่ให้เลิกทำดี แต่หากทำดีต่อไป แต่ไม่มีความยึดมั่นในตัวตน (ดีชั่ว)
ดีๆๆๆๆ
สๅธุ...
ลูกศิษย์หลวงพ่อเทียน.หลวงพ่อคำเขียนหลายคน.ที่ว่าสร้างจังหวะนั้นง่ายลัดสั้นเห็นผลดี.แต่มาลงเอยที่วัดร่มโพธิ์นั้นเพียบ..คือ.เหนือชั้นกว่า
ตามองค์มหาบารมีไปตลอดกาลสาธุ สาธุ สาธุโสสสสสสสสสอโหสิ อโหสิ อโหสิ
สาธุ
เรายอมรับว่าเรายังโง่อยู่มาก...เพราะเราฟังท่านไม่เข้าใจ...แต่พอจับใจความได้ว่าให้ทิ้งทั้งหมดไม่สนใจภาวนาไม่ๆๆๆๆอะไรทั้งสิ้นแต่เรายังเชื่อในความโง่ของเรา..ว่านิพพานที่พระพุทธเจ้าสอนคือ .."ปัญญาเท่านั้นเป็นสิ่งที่ชำแรกแทรกกิเลส"แต่ปํญญาก็ต้องมีสมาธิเป็นบาทฐานสมาธิก็ต้องอาศัยศีลเป็นเครื่องหนุน..ทั้งสามเป็นเครื่องเกื้อกันไป..ถ้าภิกษุเฝ้าสำรวมระวังในเรื่องของวินัย..ท่านบอกไม่ต้องๆๆๆ..เช่นนั้นการสำรวมก็มิกลับกลายเป็นปลิโพธิตามความเห็นท่านดอกหนือ..สรุปว่า..เอาตามสบายใจละกัน...
ข้าพเจ้าปรารถนาพระพุทธเจ้าอนาคตกาลข้างหน้าด้วยเทอม สาธุครับ
ไม่มีถูกผิดครับ อยํ่ที่Lvไหน ควรฟัง มากกว่า ธรรมเช่นนี้เหมาะแก่ผู้แก่กล้าในธรรมแต่ติดยึดในธรรมอันละเอึยดควรอย่างยิ่ง
บุยเป็นตุเป็นตะเชียวแก่กงแก่กล้า555
อย่างนี้คุณคิดว่าคนธรรมดา ที่ได้ฟัง ธรรมะขององค์หลวงพ่อแล้วก็ไม่สามารถบรรลุได้สิ ต้องคนที่มีธรรมะหรือมีบารมีแก่กล้าเท่านั้นหรือคะ?
กรรม อโหสิ อโหสิ อโหสิ ข้าพเจ้าทำงานก้อนำคำสอนมาใช้เป็นแนวทางการปล่อยวางไม่ใช่วางมือวางตีนไม่ทำอะไรแต่ทำแบบบทบาทที่ถูกกำหนด
น้อมจบตามดับท่านองค์มหาบารมีมีส่วนในการโปรดตลอดกาล โสสสสสสส
น้อมจบตามดับตามท่านองค์มหาบารมีขอมีส่วนในการโปรดตลอดกาล โสสสสสสส
อโหสิ อโหสิ อโหสิ โสโสโสสสสส
ทิ้งโดยไม่มีปัญญา คือปล่อยทิ้งไม่ใช่ปล่อยวาง
หลวงพ่อท่านสรุปปัจจยาการปฏิจจสมุปบาท 12ให้เราแล้วไม่อะไรไม่ใช่ตรงอะไรผู้ที่ยังอาลัยเข้าไปศึกษาปฏิจจสมุปบาทท่านจะได้พบกับศูนย์ยาตราความว่างเปล่าของสรรพสิ่งแม้ตัวเรา อิมัสมิงสติอีกทั้งโหติมัสสุปปาทาอุปติอิมัสมิงอะตีตังโหติอิมัสมิงโลทาอิทังนิรุตติ ไปหาคำแปลเอาเองจะได้ไม่ต้องเถียงกันไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกเป็นเช่นนั้นเองทุกสรรพสิ่งอิงอาศัยกันและกันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับสลายหายไปสิ่งที่ไม่เคยมีกับมีมาสิ่งที่มีอยู่ก็ดับสลายหายไปเป็นเช่นนั้นเองของมันเองจะไม่เป็นอย่างอื่นจะไม่อื่นไปอย่างที่มันเป็นสาธุพระคุณโอโหสิอโหสิ
ต้องแยกคำสอนเป็นสอนฝั่ง คือคนที่มีพื้นฐานพร้อม ก็ประคองให้เข้าทางสายกลาง ปฏิบัติเยอะไป ถ้าผ่อนคลายลงหน่อยแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทางถ้าปฏิบัติน้อยไป พอเร่งทำความเพียรแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทางก็สอนให้ละวางได้ เมื่อประสงค์อะไรก็แค่ทำเหตุโดยไม่ต้องหวังผล ถ้าทำเหตุได้ถูกต้องสมบูรณ์ ผลมันก็มาเอง ส่วนคนที่ยังละไม่ได้ คนทั่วไปจะสอนแบบนี้ไม่ถูกเลย อะไรๆก็อโหสิจะกลายเป็นมิจฉาทิฎฐิไปตอนแรกก็ต้องให้ทำเพื่อสวรรค์ ตั้งเป้าอะไรไปก่อน จะรักษาศีลก็ตั้งเป้าก่อนว่าทำกี่ข้อทำแค่ไหน ถึงระดับจิตใจเลยไหม เพราะยังหลงก็ตั้งเป้าใว้หน่อย พอปฏิบัติถูกทางสายกลาง เริ่มปฏิบัติ ทำความเพียร เห็นความจริงของจิตใจตนเอง ได้สติได้สมาธิ ก็สามารถละวางไปเรื่อยๆ เป็นธรรมดาเหมือนคนจะข้ามคลองต้องมีเรือก่อน พ้นถึงอีกฝั่งค่อยเริ่มละทิ้งเรือแต่ถ้าไม่ปฏิบัติอะไรเลยกลายเป็นไม่มีเรือแล้วจะเอาอะไรข้ามคลองดังนั้น คำนอนแบบนี้ควรสอนแต่เฉพาะคนที่มีพื้นฐานเรื่องเจริญสติสมาธิได้ผลอยู่ก่อนนะถ้าสอนคนทั่วไปว่าไม่ต้องปฏิบัติ คนทั่วไปจะตีความผิดเพี้ยนว่าไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องปฏิบัติแล้วก็เสียโอกาสไปไม่ถูกต้องเลยนะ
กรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ไม่มีอะไรถุก อะไรผิด สาธุ
ทางใครทางมัน
ไปเฮ็ด หยั๋ง มัน บ่อได้
จะเห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นธรรม เห็นภัยในวัฏสงสารได้อย่างไร ถ้าไม่ใช้ ศิล สมาธิ ปัญญา
บ่ อยาก เว้า เลย.แล้วแต่.
ปลาน้อยลอยน้ำไส ต้นไม้ ก้อนหิน คือนิพพาน คือ อริยะ คักๆ
ทำใมสอนแบบนี้ก้อไม่ต้องทำก้อได้ไม่ต้องทำงานแล้วเงินจะลอยมาเหรอ
มีคำถาม? ก็ไม่ไช่เพราะอาศัยการปฏิบัติหรือถึงได้อย่างนั้น ก็เพราะอาศัยการปฏิบัติแบบไม่ต้องมีอะไร ก็จึงได้แบบไม่มีอะไรถ้าอย่างนั้นพระพุทธองค์ก็คงไม่ให้มีการทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดนั้นก็ล้วนแต่อาศัยการกระทำทั้งสิ้น เหตุอยู่ที่ไหน ผลก็อยู่นั่น แม้แต่อยากหมดกรรม ก็ยังต้องอาศัยการขอขมากรรม ก็เนื่องด้วยการปฎิบัติอีก พยายามให้จิตโพร่องจิตว่าง ไม่เอาอะไร ก็ต้องเป็นการปฎิบัติรึป่าว เพราะอาศัยเหตุของการไม่เอาอะไร ก็จึ่งไม่ได้อะไร ก็ล้วนแต่มีเหตุ ของการที่จะไม่เอาอะไร หากทุกอย่างในโลกนี้เป็นได้เองก็คงจะไม่ต้องทำอะไรเลย
ปฏิเสธคำสอนก็ผิดรับและสรุปรับคำสอนก็ผิด สรุปพระนิพพานเป็นลักษณะไม่รับและไม่ปฏิเสธ(?)ไม่มีคำถามและไม่มีคำตอบ สำหรับคำสอนหลวงพ่อก็ถูกเฉพาะหลวงพ่อแต่ผิดสำหรับคนที่ไม่รู้คำสอนหลวงพ่อ
ใครฟังแล้วคิดว่าเข้าใจหรือคิดว่าตัวเองไม่ต้องไม่ตั้งอยู่แล้ว ถามกิเลสด้วยว่ามันหมดไปเพราะไม่ต้องไม่ตั้งอะไรแบบนี้โพลงออกๆ แค่ตีความถูกต้องไม่ใช่ว่าเป็นปัญญาหรือไม่ต้องปัญญาก็สุดแล้วแต่ แต่ที่หมายถึงคือภาวนามยปัญญา อัตตมาฟังแล้ว อัตตมาเข้าใจนะที่หลวงพ่อท่านพูด แต่กิเลสก็คือกิเลสมันไม่ได้ออกไปได้ด้วยไม่ต้องไม่ตั้งนะตัวอย่างเช่นฆ่าคนตายนับไม่ถ้วนกิเลสหนาสุดแม้แต่ฆ่าพ่อ-แม่ ถ้าคนกลุ่มมาฟังธรรมะแบบนี้แล้วเข้าใจแจ่มแจ้งโพลงออกๆมันจะเป็นไปได้หรือไม่ต้องใช้กรรมที่ก่อความเดือดร้อนไม่ต้องๆ นิพพานอยู่แล้ว ลักษณะหลอกตัวเองมากกว่าไหม แต่คำสอนหลวงพ่อมาบิดเบือนพระไตรปิฎกหมดเลย ถ้านิพพานง่ายขนาดนี้แต่สอนว่าไม่ต้องๆปล่อยวางทุกอย่าง ลองคิดว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร1.ไม่ทำบาปทั้งปวง2.ทำความดีอย่างถึงพร้อมอันได้แก่ทานเป็นต้น3.ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้วด้วยการทำสมถกรรมฐานและยกจิตขึ้นสู้วิปัสสนานี้แหละที่พระพุทธเจ้าสอน จริงไหมพิจารณาดูเทิด มารุ่นหลังพระก็มาสอนด้วยความเข้าใจเองเช่นหลวงพ่อองค์นี้สรุปจากที่อัตตมาฟังมาหลายตอน สรุปว่าหลวงก็ยังมีกิเลสอยู่ และอัตตมาก็เชื่อเหลือเกินว่าคนที่ฟังธรรมะแนวนี้ไม่มีทางหลุดพ้นจากอวิชชาได้หรอก เหตุที่อัตตมาพูดแบบนี้เพราะว่าหลวงพ่อไม่ถือวินัยเลย ขนาดพระอรหันต์ทั้งหลายยังต้องรักษาวินัยถึงแม้จะไม่มีอาบัติโทษสำหรับพระอรหันต์ แต่พระอรหันต์ท่านก็มีความเอื้อเฟื้อในพระวินัยเลยและอีกอย่างที่จับผิดได้ชัดเจนคือหลวงพ่อสอนไม่ต้องๆ แล้วหลวงพ่อห่มจีวรทำไม ฉันข้าว เดินทางไปนั้นนี้ทำไม หัวก็ไม่ต้องโกน วันพระก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องๆ ทำก็เป็นกรรมติดในกรรมอีก ไม่ต้องสอนญาติโยม ไม่มีคุณธรรม ไม่ต้องๆเดี๋ยวเป็นกรรมอีกต้องไปใช้กรรมบนสวรรค์หรือพรมโลกก็ว่าไป ไม่ต้องๆ จบกิจแล้วโพลงออกๆจะเห็นว่าหลวงพ่อก็ถือวินัยบางข้อเช่นเรื่องห่มจีวร ปลงผม เป็นต้นแต่หลวงพ่อไม่การบวชไม่มีอุปฌาช์ไม่มีคู่สวด ไม่สวดปาฏิโมกข์ ไม่มีการทำข้อวัด ถ้าเกิดสอนนี้แล้วคนเชื่อกันหมดพระสงฆ์ในโลกคงไม่เหลือแล้วศาสนาก็ล้มจบกันทีนี้.
ท่านตี ความหมายผิดไปหรือเปล่า
คิดเอาเองล้วนๆ
แนะนำให้ท่าน ศึกษา อริยสัจ 4 ซะนะ
คำว่าอริยสัจ 4 นั้น ก็เป็นการปรุงแต่ง ที่เขียนกันขึ้นมาความจริงมันไม่มีอะไรในอะไรเลยจริงๆ
DDD
ทุกอย่างปล่อย
สาธุๆๆ
ความจริงมันไม่มีไม่เป็นอะไรอยู่แล้วแต่อวิซามันทำให้มีให้เป็น
ทุกสรรพสิ่งอนิจจังแม้แต่ตัวเราเองจะทำอะไรได้ว่างไม่อะไรกับอะไรวางตามว่างตามดับตามจบตามสาธุพระคุณ
สุดท้ายแล้วไม่มีวิธีไหนดีที่สุดมีแต่วิธีที่เหมาะสมทึี่สุดสำหรับบุคคลเป็นรายๆไป
ผมเชื่อในคำสอนของหลวงพ่อร้อยเปอร์เซ็นสาธุๆๆ
ที่ฉันฟังธรรมะขององค์หลวงพ่อมาพอสมควร ทำให้เข้าใจ และก็ จะพูดอย่างไรดี จะว่ามีความทุกข์ หรือความสุขก็ไม่ใช่ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็ ผ่านไปๆเป็นอย่างนั้นอยู่ในตัวของมันเองๆแล้ว
ุหลวงพ่อสอนถูกต้องแล้วครับ ใช้คำพูดให้เข้าใจในปัจจุบันได้ง่ายๆ ทุกอย่างประกอบด้วยเหตุและผล (ตรัสรู้นะ...คือให้...ตัดตัว...รู้ )แต่มนุษย์ส่วนมากจะเอาตัว...รู้...(แปลอีก ตัญหา(ความอยาก)นั่นไง หลวงพ่อให้ ไม่อะไรกับอะไร
ไปเรื่อยๆ (อธิบาย คือการกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ) อย่าคิดตาม ให้ไม่ไปเลย องค์พุทธะ สอนพวกมีเวลาน้อย ให้สักแต่ว่าไป ตาเห็นก็สักแต่ว่าเห็นไป(ไม่ปรุงแต่ง) หูได้ยิน ก็สักแต่ว่าได้ยินไป (ไม่ปรุงแต่ง) ฯลฯ พอหลวงพ่อเปลี่ยนการสอนเพื่อให้เข้าใจง่ายๆกับ ไม่ยอมรับ...นี่ถ้าเป็นภาษาบาลี สมัยโบราณ จะทำอย่างกันเล่า... ยิ่งถ้าบอกว่าธาตุคือธาตุอยู่เองแล้ว ไม่ต้องแบบไหนกับกายกับจิตอีก...เสร็จกันไม่เข้าใจ โส อโหสิๆๆ โสๆๆ
มีประสบการณ์อย่างที่หลวงพ่อสอนมาทุกอย่างเลยเจ้าค่ะพอมันรู้แล้วเห็นแล้วว่างแล้วแต่ทำไมมันยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีกหาทางออกไม่เจอเพราะหลงและมีความอยากมากมาย อึดอัดขัดเคืองตลอดเวลาจนเหนื่อยและคล้ายจะบ้าเพราะมันฟุ้งซ่าน แต่พอมันจะวางมันแค่บอกว่า เอ่อ ถึงไม่ถึงได้ไม่ได้ก็ช่างแม่งงมันเถอะวะแล้วก็ปล่อยความอยากทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ พอปล่อยแล้วโอ้โห้มันอยู่ตรงนี้นี้เอง สาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
คำสอนของท่านลึกซึ้ง เกินกว่าธรรมที่คนไทยจะรู้เกินกว่าที่จะเข้าใจ ผสมพุทธศาสนานิกายเซนและมหายานเข้าด้วยกัน สาธุครับ
ท่านพาตรงนิพพาน จบให้ทุกจริตธรรม จบทุกกลลวงของตัณหาซ้อนรู้ สาธุๆ
น้อมกราบสาธุๆๆ 🙏🙏🙏🌷🌷🌷
องค์มหาบารมี
มั่นคงในการละเว้นบาป ทำความดี สุดท้ายก็คือวางลงปลงเป็น จิตใจก็บริสุทธิ์โดยตัวของมันเอง สาธุๆๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างคือความว่างเปล่า เมื่อถึงเวลาก็ดับสูญ สลายหายไป สาธุค่ะ
ขอนอบน้อมกราบ องค์หลวงพ่อ ด้วยความเคารพอย่างสูง
นมัสการสาธุๆโสๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กราบสาธุสาธุสาธุ
ธรรมที่หลวงพ่อให้นั้นมันเป็นธรรมของตถาคตทั้งสิ้นไม่ได้เอามาจากไหนทั้งสิ้นพระองค์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองและตถาคต เป็นคนแรกที่ค้นพบการพ้นทุกข์และเป็นนักวิทยาศาสตร์ของโลกแต่ท่านไม่เอาจะทำให้มนุษย์หลงทางจึงเลือกทางพ้นทุกข์เพื่อดับทุกข์กับมนุษย์และสัตว์หาประมาณมิได้ อโหสิ อโหสิ อโหสิ โสสสสสสสสสสสสสสสสสส์
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆ.เจ้่าค้ะ🙏❤️
กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าคะ
ขออนุโมทนาสาธุครับ
คิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับจริตของแต่ละคนนะคะที่จะแฏิบัติ ส่วนเราเคยปฏิบัติหนักๆมาแล้วค่ะ เลยมาสายโพธิสัตว์แบบนี้ เพราะว่ายิ่งปฏิบัติ ยิ่งดูจิตขึ้นสูง จะยิ่งคับแคบเพราะมุ่งเป้า รู้สึกอึดอัด เพราะบางทีเราก็ต้องคอยเฝ้าดูจิตทุกเวลาจนไม่นอน ยิงปฏิบัติยิ่งตันค่ะ พอมาฝึกของหลวงพ่อโพธิ์ศรีเรารู้สึกว่าเราล้างความเป็นตัวต้นได้ไม่ยากเลย เลิกหลงตรงที่จะเอาปฏิบัติเพื่อจะเอาผล และเลิกทำบุญเพราะเห็นว่าต่อไปกุศลจะมาหาเรา ทุกวันนี้อยู่อย่างค่อยๆปล่อยไปเรื่อย ๆ ถ่อมตัวและไม่กลัวตายค่ะ โมทนาสาธุค่ะ
+Ribbone Brikshavana สาธุๆๆ
สาธุคับ...ศึกษาต่อไปนะคับสู้ๆๆ
ใช่ๆๆๆแลัวนักปฏิบัตในโลกนี้นะทุกคนเขาสงสัยกันทัังนั้นว่าทำไมใม่เห็นพ้นทุกใด้วะแต่เขาก้อใม่กล้าขัดครุบาอาจารคือหลอกว่าสงบคือเขาหลอกตัวเอง
Ribbone Brikshavana
ครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ให้ตั้งเป้าแบบนั้นนี่ครับ ท่านสอนไปตามลำดับ
แต่เวลาสอนคนทั่วไป จะบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรเลย ศิษย์ทั่วไปก็ทำไม่ได้
มีแต่ศิษย์ที่ปฏิบัติดีฝึกตัวเองมาก่อนแล้วจึงทำอารมณ์จิตตามคำสอนได้
ดังนั้น ต้องแยกคำสอนเป็นสอนฝั่ง คือคนที่มีพื้นฐานพร้อม
ก็ประคองให้เข้าทางสายกลาง ปฏิบัติเยอะไป ถ้าผ่อนคลายลงหน่อยแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทาง
ถ้าปฏิบัติน้อยไป พอเร่งทำความเพียรแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทาง
ท่านก็สอนให้ละวางได้ แค่ทำเหตุไม่ต้องหวังผลอะไร
ส่วนคนที่ยังละไม่ได้
ตอนแรกก็ต้องให้ทำเพื่อสวรรค์ ตั้งเป้าอะไรไปก่อน
เพราะยังหลงก็ตั้งเป้าใว้หน่อย พอปฏิบัติถูกทางสายกลาง ได้สติได้สมาธิ ก็สามารถละวางไปเรื่อยๆเป็นธรรมดา
เหมือนคนจะข้ามคลองต้องมีเรือก่อน พ้นถึงอีกฝั่งค่อยเริ่มละทิ้งเรือ
แต่ถ้าไม่ปฏิบัติอะไรเลยกลายเป็นไม่มีเรือแล้วจะเอาอะไรข้ามคลอง
ดังนั้น คำนอนแบบนี้ควรสอนแต่เฉพาะกลุ่มนะ
เพราะคนทั่วไปจะตีความผิดเพี้ยนว่าไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วเสียโอกาสไป
แล้วแต่นะคะ สำหรับคนที่ยังไม่ถูกครูก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ปฏิฆะค่ะ ตอนแรกเลิกปฏิบัติเหมือนว่าง่าย อย่างนั้นก็ทำตามใจไปเรื่อยๆๆๆ กลับกลายเป็นว่าอ้าวนั่นโมหะตัวใหญ่มากินอีก เลิกแบบไม่เพ่งไม่เอา อยู่อาศัยทุกวันไปแบบหายใจเข้าออกค่ะ ไม่เจาะจงว่าเอาอากาศไปเลี้ยงเซลล์ไหน แล้วก็ไม่เจาะเพ่งไปว่าอากาศเสียต้องเอาไปทิ้งที่อื่น อยู่ตามกรรมที่ทำมาชาติที่แล้วๆมาแล้วก็ขอขมา หมดอัตตาเร็วมากค่ะ กรรมไม่ติดยึด หรือไม่หวังหลุด แต่ปล่อยๆคลายไป ตอนนี้เลยโล่งมากค่ะ วิบากเยอะก็ถือว่าชดใช้ วิบากน้อยก็ปล่อยสละค่ะ อันนี้มันเป็นอีกแนวหนึ่งที่ล้างจริตความถือดี อหังการ์ และความยึดมั่นได้มากค่ะ ปสกส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับใครค่ะเอามาเล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ขอบคุณค่า
ขอน้อมกราบสาธุธรรมเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับ
อโหสิสิสิสิสิ....ๆๆ.....โสสสสส....ๆๆ.,....สาธุ....ๆๆ.....
อนุโมทนาสาธุๆๆคร้า
น้อมกราบ สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
แนวทางของหลวงพ่อคล้ายๆจะเป็นพุทธนิกายเซน แนวทางนี้เป็นทางลัดและอาศัยบุญเก่ามากมีมาแต่สมัยพุทธกาลพระอรหันต์หลายองค์ก็ใช้สำเร็จมรรคผลทางนี้เป็นส่วนใหญ่ พระมหากัสสป พระอานนท์ และจำนวนมาก ท่านผู้ศึกษาธรรมเคยสงสัยไหมว่าทำไมพระในสมัยพุทธกาลทำไมบรรลุเร็วมากบางองค์บรรลุอรหันต์เพียงธรรมพระพุทธองค์ประโยคเดียวหรือคืนเดียวไม่เห็นปฏิบัติมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางนี้ก็ต้องอาศัยบุญบารมีกรรมเก่ามาก นิกายเซนหลังจากท่านโพธิธรรมนำเข้าสู่จีนไม่นานก็กลายเป็นนิกายเซนเหนือกับใต้ ทางเหนือบอกว่าต้องเพียร ปฏิยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช ถึงบรรลุ ทางใต้บอกไม่ต้องให้สละให้เป็นอนัตตาให้ว่างมากที่สุด
ดิฉันฟังธรรม มาเยอะ หลายปี ไม่ถูกใจ อุปนิสัยเลยค่ะ มาเจอ พอจ. จบเลยค่ะ มันรุ้ของมันเองเลย ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องพยายามเข้าใจ ไม่ต้องอะไร อะไรเลย..เหมือนเราเคยเข้าใจแนวนี้มานานแล้ว..
คงไม่ต้องอาศัยบุญบารมีเก่ามังคะ เพราะที่เกิดมาได้อัตภาพเป็น คนก็มีบุญ ติดตัวมาแล้ว ถึงได้เกิดมาเป็นคนเพราะฉะนั้นตัดไปเลยทุกอย่างเพราะ(ทุกสิ่งอย่างๆๆ
ผ่านไปเร็วเหลือเกิน (เป็นอนัตตา) เหมือนองค์หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ ได้เมตตาเทศนา และใช้ภาษาที่เข้าใจ ได้ง่ายมาก หัวนอบน้อมกราบองค์หลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุๆๆธรรมเจ้าคะ
เราอาศัยเรือเพื่อพ้นเรือ เราอาศัยบัญญัติธรรมเพื่อพ้นธรรมบัญญัติ เราอาศัยกรรมดีเพื่อพ้นกรรมดีและกรรมชั่ว ดังนั้นอย่าข้อวัตรปฏิบัติที่ดี
คือการสนทนาแบบนี้ ว่าด้วยไม่กระทำในสภาวะใดๆ ไม่ให้ค่าในสภาวะความคิด เพราะการให้ค่าคือ ตัวกรรม ตัวกรรมคือตัวภพ
เราทพต่อไป แต่อย่าติดตัวตนในดี เพราะสังคมต้องมีความดี ไม่ใช่ให้เลิกทำดี แต่หากทำดีต่อไป แต่ไม่มีความยึดมั่นในตัวตน (ดีชั่ว)
ดีๆๆๆๆ
สๅธุ...
ลูกศิษย์หลวงพ่อเทียน.หลวงพ่อคำเขียนหลายคน.ที่ว่าสร้างจังหวะนั้นง่ายลัดสั้นเห็นผลดี.แต่มาลงเอยที่วัดร่มโพธิ์นั้นเพียบ..คือ.เหนือชั้นกว่า
ตามองค์มหาบารมีไปตลอดกาล
สาธุ สาธุ สาธุ
โสสสสสสสสส
อโหสิ อโหสิ อโหสิ
สาธุ
เรายอมรับว่าเรายังโง่อยู่มาก...เพราะเราฟังท่านไม่เข้าใจ...
แต่พอจับใจความได้ว่าให้ทิ้งทั้งหมดไม่สนใจภาวนาไม่ๆๆๆๆอะไรทั้งสิ้น
แต่เรายังเชื่อในความโง่ของเรา..ว่านิพพานที่พระพุทธเจ้าสอนคือ ..
"ปัญญาเท่านั้นเป็นสิ่งที่ชำแรกแทรกกิเลส"แต่ปํญญาก็ต้องมีสมาธิเป็นบาทฐาน
สมาธิก็ต้องอาศัยศีลเป็นเครื่องหนุน..ทั้งสามเป็นเครื่องเกื้อกันไป..
ถ้าภิกษุเฝ้าสำรวมระวังในเรื่องของวินัย..ท่านบอกไม่ต้องๆๆๆ..
เช่นนั้นการสำรวมก็มิกลับกลายเป็นปลิโพธิตามความเห็นท่านดอกหนือ..
สรุปว่า..เอาตามสบายใจละกัน...
ข้าพเจ้าปรารถนาพระพุทธเจ้าอนาคตกาลข้างหน้าด้วยเทอม สาธุครับ
ไม่มีถูกผิดครับ อยํ่ที่Lvไหน ควรฟัง มากกว่า ธรรมเช่นนี้เหมาะแก่ผู้แก่กล้าในธรรมแต่ติดยึดในธรรมอันละเอึยดควรอย่างยิ่ง
บุยเป็นตุเป็นตะเชียวแก่กงแก่กล้า555
อย่างนี้คุณคิดว่าคนธรรมดา ที่ได้ฟัง ธรรมะขององค์หลวงพ่อแล้วก็ไม่สามารถบรรลุได้สิ ต้องคนที่มีธรรมะหรือมีบารมีแก่กล้าเท่านั้นหรือคะ?
กรรม อโหสิ อโหสิ อโหสิ ข้าพเจ้าทำงานก้อนำคำสอนมาใช้เป็นแนวทางการปล่อยวางไม่ใช่วางมือวางตีนไม่ทำอะไรแต่ทำแบบบทบาทที่ถูกกำหนด
น้อมจบตามดับท่านองค์มหาบารมีมีส่วนในการโปรดตลอดกาล โสสสสสสส
น้อมจบตามดับตามท่านองค์มหาบารมีขอมีส่วนในการโปรดตลอดกาล โสสสสสสส
อโหสิ อโหสิ อโหสิ โสโสโสสสสส
ทิ้งโดยไม่มีปัญญา คือปล่อยทิ้งไม่ใช่ปล่อยวาง
หลวงพ่อท่านสรุปปัจจยาการปฏิจจสมุปบาท 12ให้เราแล้วไม่อะไรไม่ใช่ตรงอะไรผู้ที่ยังอาลัยเข้าไปศึกษาปฏิจจสมุปบาทท่านจะได้พบกับศูนย์ยาตราความว่างเปล่าของสรรพสิ่งแม้ตัวเรา อิมัสมิงสติอีกทั้งโหติมัสสุปปาทาอุปติอิมัสมิงอะตีตังโหติอิมัสมิงโลทาอิทังนิรุตติ ไปหาคำแปลเอาเองจะได้ไม่ต้องเถียงกันไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกเป็นเช่นนั้นเองทุกสรรพสิ่งอิงอาศัยกันและกันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับสลายหายไปสิ่งที่ไม่เคยมีกับมีมาสิ่งที่มีอยู่ก็ดับสลายหายไปเป็นเช่นนั้นเองของมันเองจะไม่เป็นอย่างอื่นจะไม่อื่นไปอย่างที่มันเป็นสาธุพระคุณโอโหสิอโหสิ
ต้องแยกคำสอนเป็นสอนฝั่ง คือคนที่มีพื้นฐานพร้อม
ก็ประคองให้เข้าทางสายกลาง ปฏิบัติเยอะไป ถ้าผ่อนคลายลงหน่อยแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทาง
ถ้าปฏิบัติน้อยไป พอเร่งทำความเพียรแล้วกำลังสติ กำลังสมาธิดีขึ้น ก็ถือว่าถูกทาง
ก็สอนให้ละวางได้ เมื่อประสงค์อะไรก็แค่ทำเหตุโดยไม่ต้องหวังผล ถ้าทำเหตุได้ถูกต้องสมบูรณ์ ผลมันก็มาเอง
ส่วนคนที่ยังละไม่ได้ คนทั่วไปจะสอนแบบนี้ไม่ถูกเลย อะไรๆก็อโหสิจะกลายเป็นมิจฉาทิฎฐิไป
ตอนแรกก็ต้องให้ทำเพื่อสวรรค์ ตั้งเป้าอะไรไปก่อน จะรักษาศีลก็ตั้งเป้าก่อนว่าทำกี่ข้อ
ทำแค่ไหน ถึงระดับจิตใจเลยไหม เพราะยังหลงก็ตั้งเป้าใว้หน่อย
พอปฏิบัติถูกทางสายกลาง เริ่มปฏิบัติ ทำความเพียร เห็นความจริงของจิตใจตนเอง ได้สติได้สมาธิ
ก็สามารถละวางไปเรื่อยๆ เป็นธรรมดา
เหมือนคนจะข้ามคลองต้องมีเรือก่อน พ้นถึงอีกฝั่งค่อยเริ่มละทิ้งเรือ
แต่ถ้าไม่ปฏิบัติอะไรเลยกลายเป็นไม่มีเรือแล้วจะเอาอะไรข้ามคลอง
ดังนั้น คำนอนแบบนี้ควรสอนแต่เฉพาะคนที่มีพื้นฐานเรื่องเจริญสติสมาธิได้ผลอยู่ก่อนนะ
ถ้าสอนคนทั่วไปว่าไม่ต้องปฏิบัติ คนทั่วไปจะตีความผิดเพี้ยนว่าไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องปฏิบัติแล้วก็เสียโอกาสไป
ไม่ถูกต้องเลยนะ
กรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ไม่มีอะไรถุก อะไรผิด สาธุ
ทางใครทางมัน
ไปเฮ็ด หยั๋ง มัน บ่อได้
จะเห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นธรรม เห็นภัยในวัฏสงสารได้อย่างไร ถ้าไม่ใช้ ศิล สมาธิ ปัญญา
บ่ อยาก เว้า เลย.แล้วแต่.
ปลาน้อยลอยน้ำไส ต้นไม้ ก้อนหิน คือนิพพาน คือ อริยะ คักๆ
ทำใมสอนแบบนี้ก้อไม่ต้องทำก้อได้ไม่ต้องทำงานแล้วเงินจะลอยมาเหรอ
มีคำถาม? ก็ไม่ไช่เพราะอาศัยการปฏิบัติหรือถึงได้อย่างนั้น ก็เพราะอาศัยการปฏิบัติแบบไม่ต้องมีอะไร ก็จึงได้แบบไม่มีอะไรถ้าอย่างนั้นพระพุทธองค์ก็คงไม่ให้มีการทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดนั้นก็ล้วนแต่อาศัยการกระทำทั้งสิ้น เหตุอยู่ที่ไหน ผลก็อยู่นั่น แม้แต่อยากหมดกรรม ก็ยังต้องอาศัยการขอขมากรรม ก็เนื่องด้วยการปฎิบัติอีก พยายามให้จิตโพร่องจิตว่าง ไม่เอาอะไร ก็ต้องเป็นการปฎิบัติรึป่าว เพราะอาศัยเหตุของการไม่เอาอะไร ก็จึ่งไม่ได้อะไร ก็ล้วนแต่มีเหตุ ของการที่จะไม่เอาอะไร หากทุกอย่างในโลกนี้เป็นได้เองก็คงจะไม่ต้องทำอะไรเลย
ปฏิเสธคำสอนก็ผิด
รับและสรุปรับคำสอนก็ผิด สรุปพระนิพพานเป็นลักษณะไม่รับและไม่ปฏิเสธ(?)ไม่มีคำถามและไม่มีคำตอบ สำหรับคำสอนหลวงพ่อก็ถูกเฉพาะหลวงพ่อแต่ผิดสำหรับคนที่ไม่รู้คำสอนหลวงพ่อ
ใครฟังแล้วคิดว่าเข้าใจหรือคิดว่าตัวเองไม่ต้องไม่ตั้งอยู่แล้ว ถามกิเลสด้วยว่ามันหมดไปเพราะไม่ต้องไม่ตั้งอะไรแบบนี้โพลงออกๆ แค่ตีความถูกต้องไม่ใช่ว่าเป็นปัญญาหรือไม่ต้องปัญญาก็สุดแล้วแต่ แต่ที่หมายถึงคือภาวนามยปัญญา อัตตมาฟังแล้ว อัตตมาเข้าใจนะที่หลวงพ่อท่านพูด แต่กิเลสก็คือกิเลสมันไม่ได้ออกไปได้ด้วยไม่ต้องไม่ตั้งนะ
ตัวอย่างเช่นฆ่าคนตายนับไม่ถ้วนกิเลสหนาสุดแม้แต่ฆ่าพ่อ-แม่ ถ้าคนกลุ่มมาฟังธรรมะแบบนี้แล้วเข้าใจแจ่มแจ้งโพลงออกๆมันจะเป็นไปได้หรือไม่ต้องใช้กรรมที่ก่อความเดือดร้อนไม่ต้องๆ นิพพานอยู่แล้ว ลักษณะหลอกตัวเองมากกว่าไหม แต่คำสอนหลวงพ่อมาบิดเบือนพระไตรปิฎกหมดเลย ถ้านิพพานง่ายขนาดนี้แต่สอนว่าไม่ต้องๆปล่อยวางทุกอย่าง ลองคิดว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร1.ไม่ทำบาปทั้งปวง2.ทำความดีอย่างถึงพร้อมอันได้แก่ทานเป็นต้น3.ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้วด้วยการทำสมถกรรมฐานและยกจิตขึ้นสู้วิปัสสนานี้แหละที่พระพุทธเจ้าสอน จริงไหมพิจารณาดูเทิด มารุ่นหลังพระก็มาสอนด้วยความเข้าใจเองเช่นหลวงพ่อองค์นี้
สรุปจากที่อัตตมาฟังมาหลายตอน สรุปว่าหลวงก็ยังมีกิเลสอยู่ และอัตตมาก็เชื่อเหลือเกินว่าคนที่ฟังธรรมะแนวนี้ไม่มีทางหลุดพ้นจากอวิชชาได้หรอก เหตุที่อัตตมาพูดแบบนี้เพราะว่าหลวงพ่อไม่ถือวินัยเลย ขนาดพระอรหันต์ทั้งหลายยังต้องรักษาวินัยถึงแม้จะไม่มีอาบัติโทษสำหรับพระอรหันต์ แต่พระอรหันต์ท่านก็มีความเอื้อเฟื้อในพระวินัยเลย
และอีกอย่างที่จับผิดได้ชัดเจนคือหลวงพ่อสอนไม่ต้องๆ แล้วหลวงพ่อห่มจีวรทำไม ฉันข้าว เดินทางไปนั้นนี้ทำไม หัวก็ไม่ต้องโกน วันพระก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องๆ ทำก็เป็นกรรมติดในกรรมอีก ไม่ต้องสอนญาติโยม ไม่มีคุณธรรม ไม่ต้องๆเดี๋ยวเป็นกรรมอีกต้องไปใช้กรรมบนสวรรค์หรือพรมโลกก็ว่าไป ไม่ต้องๆ จบกิจแล้วโพลงออกๆ
จะเห็นว่าหลวงพ่อก็ถือวินัยบางข้อเช่นเรื่องห่มจีวร ปลงผม เป็นต้นแต่หลวงพ่อไม่การบวชไม่มีอุปฌาช์ไม่มีคู่สวด ไม่สวดปาฏิโมกข์ ไม่มีการทำข้อวัด ถ้าเกิดสอนนี้แล้วคนเชื่อกันหมดพระสงฆ์ในโลกคงไม่เหลือแล้วศาสนาก็ล้มจบกันทีนี้.
ท่านตี ความหมายผิดไปหรือเปล่า
คิดเอาเองล้วนๆ
แนะนำให้ท่าน ศึกษา อริยสัจ 4 ซะนะ
คำว่าอริยสัจ 4 นั้น ก็เป็นการปรุงแต่ง ที่เขียนกันขึ้นมาความจริงมันไม่มีอะไรในอะไรเลยจริงๆ
DDD
ทุกอย่างปล่อย
สาธุๆๆ
ตามองค์มหาบารมีไปตลอดกาล
สาธุ สาธุ สาธุ
โสสสสสสสสส
อโหสิ อโหสิ อโหสิ
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุ
กรรม อโหสิ อโหสิ อโหสิ ข้าพเจ้าทำงานก้อนำคำสอนมาใช้เป็นแนวทางการปล่อยวางไม่ใช่วางมือวางตีนไม่ทำอะไรแต่ทำแบบบทบาทที่ถูกกำหนด
ความจริงมันไม่มีไม่เป็นอะไรอยู่แล้วแต่อวิซามันทำให้มีให้เป็น
สาธุ
ทุกสรรพสิ่งอนิจจังแม้แต่ตัวเราเองจะทำอะไรได้ว่างไม่อะไรกับอะไรวางตามว่างตามดับตามจบตามสาธุพระคุณ
สาธุ
สุดท้ายแล้วไม่มีวิธีไหนดีที่สุดมีแต่วิธีที่เหมาะสมทึี่สุดสำหรับบุคคลเป็นรายๆไป
สาธุ
ผมเชื่อในคำสอนของหลวงพ่อร้อยเปอร์เซ็นสาธุๆๆ
ที่ฉันฟังธรรมะขององค์หลวงพ่อมาพอสมควร ทำให้เข้าใจ และก็ จะพูดอย่างไรดี จะว่ามีความทุกข์ หรือความสุขก็ไม่ใช่ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็ ผ่านไปๆเป็นอย่างนั้นอยู่ในตัวของมันเองๆแล้ว