ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ต้องแยกแยะว่า รัฐชาติ หรือประเทศ เพิ่งจะมี เมื่อ มีการกำหนดแนวเขตดินแดง ที่ฝรั่งเศสทำ นี่เอง แต่ก่อนหน้านั้น ไม่มีรัฐชาติ ไม่มีประเทศ ไม่มีประเทศสยาม ไทย ลาว มีแต่ เมืองใหญ่ เมืองขนาดกลาง เมืองขนาดเล็ก ไม่มีคำว่า อาณาจักรสยาม อาณาจักรไทย อาณาจักรลาว ตามที่คนอ่านทำคลิปพูดมา คำว่าอาณาจักร เป็นคำที่นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ยุคปัจจุบัน สมมุติเรียกขึ้นเท่านั้น เพื่อประมาณว่า เป็น อาณาเขตการปกครองของเมืองสมัยโบราณ , .....ดังนั้น ในสมัยก่อนจะมีประเทศ ที่ฝรั่งมาตีเส้นแบ่งเขตแดนนั้น มีแต่เมืองต่างๆ เมืองใหญ่ปกครองเมืองขนาดกลาง เมื่อขนาดกลางปกครองเมืองขนาดเล็ก โดยการส่งส่วย ภาษี เครื่องราชบรรณาการไปให้เมืองใหญ่กว่า นั้นคือ พื้นที่เมืองบริวานปกครอง สมัยก่อนไม่มีลาว มาก่อน มีแต่เมืองปกครอง เช่น เมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจัน เมืองตำปาศักดิ์ เป็นเมืองปกครองขนาด กลาง ปกครอ งเมืองเล็กๆต่างๆ มีเจ้าเมืองเป็นผู้นำ ตั้งแต่เมืองกรุงศรีอยุธยา ตั้งขึ้น เมืองหลวงพระบาง และต่อมามีเมืองเวียงจันตั้งตามมาเป็นเมืองปกครอง ทั้ง 2 เมือง ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการให้ เมืองกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่มากอย่างต่อเนื่อง และบางช่วง ต้องส่งให้เมืองปกครอง(ที่ปัจจุบันอยู่ในเมียนม่าด้วย) และบางช่วงที่ เจ้าเมืองกรุงศรีอยุธยาอ่อนแอ ก็อาจจะไม่ส่ง ดังนั้นในแง่ การปกครอง เมืองทั้งหมดในพื้นที่ (สปป.ลาว ปัจจุบัน) อยู่ร่วมกับ เมืองปกครองใหญ่ อย่าง เมืองกรุงศรีอยุธยามาตลอด จนถึงสมัย เมืองกรุงธนบุรี และเมืองกรุงเทพ และมาแยกออกจากกัน หลัง กรุงเทพ ยกพื้นที่ปกครองนั้น ไปให้ ฝรั่งเศส เมื่อ ฝรั่งนำเรือรบจะเข้ามายิงพระบรมมหาราชวังกรุงเทศ สมัย รัชกาลที่ 5 .....ดังนั้น ทั้งสองฝั่งน้ำโขง เป็น ชนชาติที่อยู่ด้วยกันมาตลอด โดนแยกแผ่นดินโดยฝรั่งเศส แค่นั้น , ในปัจจุบันก็แยกกันตาม รูปแบบรัฐชาติ นั่นคือ ประเทศ ตามแนวคิดของฝรั่งตะวันตก , ส่วนเรื่องสายเลือดอะไรนั้น ไม่สามารถเอามาพูดได้ เพราะ คนมาจากหลายร้อยเผ่า มาอยู่รวมกัน และจากชนชาติตะวันตก ตะวันออก อาหรับ ผสมกันไปมา เป็นพันปี ไม่มีเลือดบริสุทธิ์ ที่จะมากล่าวอ้างได้ว่า ตนเป็นเลือดของเผ่าไหน
ถูกใจค่ะ
ผมว่า เจ้าของคลิปอธิบายไม่ถูก เพราะอ้างอิงหลักฐานไม่ชัดเจน เช่น อาศัยตำนาน อะไรต่างๆ และสรุปบางอย่างผิด (บางอย่างก็ถูก)
เมืองเล็ก ที่สามารถตีเมืองใหญ่ได้ คือ เจ้าเมืองธนบุรี (สิน)เมื่อเจ้าเมือง สามารถรวมเมืองได้ ก็จะเรียกว่า กษัตริย์ ล้านช้างเองก็ไม่ต่างกัน เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ก็ถูกเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ ตีแตกหลายครั้ง เอาง่ายๆพระเจ้าสุทัศนราชา แห่งจำปาศักดิ์ ยกทัพขึ้นไป ตี พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จนพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตายที่เมืองอัตตะปือจากนั้นก็ยกไปตี พระยาวรวังศาธิราช จนพระยาวรวังศาธิราชหนีไปตายกลางป่า พระยาแสนสุรินทร์ลือไชย เสด็จกลับมาจากหงสาวดี มากู้เมือง และ ฆ่า พระเจ้าสุทัศนราชา ตาย นั้นแสดงว่า เวียงจันทน์ ไม่ได้เข้มแข็งเลย แม้แต่ ศรีสะเกษ ก็สามารถยกทัพไปตี ได้เหมือนกัน ดังปรากฏในพื้นเมืองอุบลที่เจ้าเมืองศรีสะเกษ เสด็จยกทัพไปตี เมืองพันนา กับ เจ้าอุปราชนันทเสน การแย่งชิงเมืองพันนา ก็น่าจะเป็น ศึกระหว่าง จำปาศักดิ์ กับ เวียงจันทน์ เพราะเจ้าเมืองศรีสะเกษ รับใช้จำปาสัก
ขอบคุณนะค่ะ ที่นำประบัติสาตร์ ภาคอิสาน ลาวไทยมาเหล่าให้ได้ศึกษา เรียนรู้ ขอบคุณค่ะ
สาธุเจริญพรอาจารย์มากที่ได้นำความรู้และความเป็นมาของจังหวัดต่างๆและต้นกำเนิดภาคอีสาน ถือว่าได้ประโยชน์แก่ลูกหลานเยาวชนไทยอีสานมากครับ คั้นมีหนังสือให้อ่านและเก็บสะสนไว้กะดีมากครับ
น้อมกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าหลายๆครับผม
ผมว่าอธิบายไม่ถูกต้องสักเท่าใดครับ คืออาศัยแบบเล่าๆ ต่อกันมา ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักฐานที่ปรากฎ อาศัยตำนานปรำปรา เพราะอีสานตอนใน พวกชัยภูมิ อุดร ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สารคาม บุรีรัมย์ แถมลุ่มน้ำชี พวกนี้เป็นพื้นที่สีเทา แห้งแล้ง กันดาร ขาดผู้คนอาศัย เพราะลาวก็สนใจแต่อยู่ริมน้ำโขง อยุธยาก็ไม่สนใจ(ไม่มีคนให้ไปกวาดต้อน) ก็สนใจแค่พื้นที่ขอมเดิม เช่น โคราช พิมาย พนมรุ้งและเข้าเขมรไป .. ส่วนขอมโบราณก็เคยแผ่อิทธิพลมาสร้างหมด แต่คงเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก มีใหญ่แค่ที่ วัดภู กับที่สกลนครเท่านั้นเอง ต่อมาเมื่อขอมล่มสลายลง อิทธิพลของขอมก็หายไปด้วย ผู้คนก็หายไป คงเหลือแต่ปราสาทต่างๆ ที่สำคัญ เช่นที่พระธาตุเชิงชุม พระธาตุพนม ที่พอล้านช้างลงมาจากหลวงพระบาง มาตั้งเวียงจันทร์ ก็มาดัดแปลงให้เป็นพระธาตุที่เราเห็นทุกวันนี้ดังนั้น อธิบายว่า พื้นที่ทั้งหมดเป็นของคนลาว ไม่ถูก เพราะไมมีคนสนใจเมืองต่างๆ เกิดขึ้นก็เมื่อ พระเจ้าตากตีเวียงจันทร์ และ ถัดมาเริ่มมีตั้งเมืองอีสานใน ร.1 เช่น พ่อตาของ ร.1 ได้เป็นเจ้าเมืองชนบท ขอนแก่น หลังจากนั้นเริ่มมีเมืองสำคัญ กาฬสินธูื ร้อยเอ็ด อะไรต่อมิอะไรที่เกิดจากชาวพวน ลาว อพยพกันมาสร้างขึ้นต่างหากสรุป พื้นที่ทั้งหมด อยู่ใต้อิทธิพลและ กรุงเทพ เป็นต้นเหตให้เกิดอีสานต่างหากครับ ไม่ใช่ลาว ลาวสนใจแต่น้ำโขง ตามความเคยชิด ตัวอย่างพระครูโพนเสม็ด หนีมาสร้างจำปาสัก ก็ริมน้ำโขง เพราะไม่มีความรู้พื้นที่ภายในอีสาน
ติดตามค่ะ ชอบเรี่องราวในอดีด.ขอบคุณหลายๆค่ะ
เนื้อหาน่าสนใจเพิ่มเสียงผู้บรรยายน่าฟังมีท่วงทำนองขึ้นลงนุ่มนวลขอบคุณที่ทำคลิปดีดีมาเป็นวิทยาทานให้ลูกหลานพยาแถนอย่างพวกเราครับ
ผมมองว่าอธิบายว่าเขตพื้นที่ทั้งหมด ของภาคอีสานเป็นของลาวก็ไม่ถูก เพราะมันเป็นพื้นที่สีเทา ไม่มีอาณาจักรใดๆ สนใจ เพราะสมัยนั้นมั้นทั้งแร้นแค้น และกันดาร และกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด แต่เดิมมีการกระจายตัวของ อิทธิพลของขอมเข้าไปในอีสานตอนในบ้าง เช่นที่สกลนคร ชัยภูมิ มีเมืองหลักๆ ที่หนองหาร ที่ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นพระธาตุเชิงชุม แต่พอขอมล่มสลายลง ก็คงเหลือแต่บ้านเล็กเมืองน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุมชนเล็กๆ ไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่กระจายตัวอยู่ตามที่ราบแอ่งต่างๆ ของอีสานภายใน เราเรียกพื้นที่พวกนี้ว่า เกรย์แอเรีย โดยพื้นที่ทั้งหมด แทบจะไร้ผู้คนอาศัยส่วนเมืองใหญ่ๆ นั้น กระจายตัวอยู่ริมน้ำสายหลักคือ โขง และ มูล โดยแม่น้ำโขงจะเป็นแหล่งชุมชน อาณาจักรต่างๆ ที่แตกตัวมาจากหลวงพระบาง เช่นเวียงจันทร์ และจำปาสัก สังเกตได้จากที่พระครูโพนฯ หนีจากเวียงจันทร์มา ก็มาตามลำน้ำโขงตลอด หาได้เข้าไปในพื้นที่ภาคอีสานตอนในไม่ ซึ่งก็เป็นเพราะอาจจะรู้ว่ามันไม่มีอะไร และแห้งแล้ง จึงได้เลือกตั้งจำปาสักริมน้ำโขงตามความเคยชินและความรู้ว่าจะทำให้มีชีวิตรอดส่วนแม่น้ำมูลนั้นได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรขอมเก่า ดังนั้น จึงมีเมืองต่างๆ กระจายตัวริมแม่น้ำมูล ไปจรดจำปาสักที่วัดภู โดยที่หลังจากจำปาสักตั้งมาแล้วก็กินอาณาเขตของขอมวัดภูเข้ามา แต่คงไม่มากนัก อาจแค่รอบๆ วัดภู นอกเหนือจากนั้นอยู่ในอิทธิพลของอยุธยา ที่มีศูนย์กลางที่นคราชสีมา ผ่านไปยังีพิมาย นางรอง บุรีรัมย์ พนมรุ้ง และเข้าสู่เขมรผ่านเทือกเขาพนมดงรักดังนั้น โดยสรุป พื้นที่ภายในมันเป็นสีเทา ไม่มีอาณาจักรใดสนใจ จนกระทั้ง พระเจ้าตากสินขยายอาณาเขตไปยังลาวทั้งหมด และจึงพบว่า พื้นที่อีสานมันกว้างใหญ่ มีของป่ามากมาย แต่ก็แห้งแล้ง ไร้ผู้คน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการอพยพของคนลาว และคนเชื้อสายต่างๆ เข้าไปตั้งบ้านแปลงเมือง ดัง ขอนแก่นที่มีแต่หนองน้ำเล็กๆ น้อยๆ ก็ตกเป็นของพ่อตาของ ร.1 ที่เป็นคนเวียงจันทร์ เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น หรือ ชนบท คนแรก .. จากนั้นเป็นต้นมา เมืองต่างๆ ก็เกิดกันขึ้นพรึบพรับในเขตอีสานตอนใน ที่เป็นเขตอิทธิพลของ ธนบุรี กรุงเทพ อย่างจริงจัง ..
ผมอยากทราบว่าคุณไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนหรือว่าเป็นเพียงการสันนิษฐานของคุณเอง?
เมืองหนองหานหลวงมันคือ เมืองอุดรธานี เดี๋ยวนี้มี ท้าวแพ หรือ พระพิทักษ์เขื่อนขันธ์ เป็นเจ้าเมืองพระองค์แรก ส่วนเมือง สกลทวาปี มีพระธานี เป็นเจ้าเมืองพระองค์แรก เมืองขอนแก่น มีราษฎร300 คน ไม่ใช่เมืองใหญ่แบบศรีสะเกษ สุวรรณภูมิ อุบลราชธานี ที่มีประชากรหลังแสน จึงไม่แปลกที่จะขึ้นต่อนครราชสีมา พระจันตะประเทศเจ้าเมืองชลบถวิบูลย์ ก็เป็นพระโอรสองค์โตใน พระยารัตนวงศา เจ้าอุ่น เจ้าเมืองศรีสะเกษ พระองค์แรก พระยาภักดีชุมพล เจ้าเมืองชัยภูมิก็เป็นขุนนางในสังกัด ของพระจันตะประเทศ ในอีสาน หัวเมืองสยามที่ใหญ่ๆก็มี4เมืองคือนครราชสีมานครขุขันธ์นครสังขะนครสุรินทร์ เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์เป็นพระยามหานครเป็น รัฐขุนนางของสยาม เมืองของล้านช้าง และปีที่เข้าร่วมกับสยาม1สุวรรณภูมิราชบุรินทร์2315(เจ้าเซียง/เจ้าพระรัตนวงษา)2อุบลราชธานีศรีวนาไล2335(เจ้าคำผง/อาชญาหลวงเฒ่า)3อินทรเกตุศรีนครเขตราชธานี2325(เจ้าอุ่น/เจ้าฟ้าราชโภชนัย)(ศรีสะเกษ)4ร้อยเอ็ดราชบุรีศรีสาเกตุนคร2318(เจ้าฟ้าสุทนมณี/เจ้าพระขัตติยวงษา)5นครบุรีราชธานีศรีโคตรบูรณ์หลวง(นครพนม)2322(สมเด็จพระวรราชปิตาบรมราชาธิบดี หรือ พระบรมราชา)6บังมุดดาหารมุติกะนคร2322(เจ้าฟ้าจันทกินรี)7มหาสารคามสาเกตะนคร สมัยรัชกาลที่5(ท้าวมหาไชย)8ยศสุนทรประเทศราช2357(ท้าวคำสิงห์)9เขมราฐธานี2357(ท้าวอุปราชก่ำ)10ชลบถวิบูลย์ 2335(ท้าวคำพาวกวนเมืองแสน)เป็น รัฐเจ้าประเทศราชขอนแก่น ชัยภูมิ เป็นเพียงเมืองบริวารของนครราชสีมา ไม่ใช่หัวเมืองชั้นเอก และเกิดหลังเพื่อนอีก ยกตัวอย่าง ศรีสะเกษ เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระโอรสใน เจ้ามืดคำดล เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระนัดดาใน เจ้าแก้วมงคล ท้าวพัน เจ้าเมืองขอนแก่น บอกว่าเจ้าแก้วมงคล เป็นพี่น้องกันตนเอง และเป็นหลานเจ้าศิริบุญสาร เจ้าเมืองขอนแก่น เป็นสหายกับ เจ้าเมืองชลบถวิบูลย์เจ้าเมืองชลบถวิบูลย์ เป็นลูกเจ้าเมืองศรีสะเกษ นี้จะบอกว่า ทวด กับ เหลน เป็นญาติกัน แถมสนิทสนมกัน จะบอกว่า หลานตายก่อนปู่ เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระสหายที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าคำผง พศ2335 เจ้าคำผงอายุ 83ปี แสดงว่า เจ้าฟ้าราชโภชนัย อายุ70กว่าปีแล้ว ในปี2325เสด็จขึ้นครองเมืองศรีสะเกษ แล้ว เจ้าเมืองขอนแก่น บอกว่า เป็นน้องของปู่ เจ้าเมืองศรีสะเกษ แสดงว่า เจ้าเมืองขอนแก่นมีอายุ150กว่าปีโดยประมาณ เป็นไปไม่ได้ อย่างแน่นอน
เจ้าเมืองชลบถ เป็นคนศรีสะเกษ คุณไปบอกว่า ท่านมาจากเวียงจันทน์ได้อย่างไร ศรีสะเกษ หรือ เมืองศรีนครเขตมีศักดิ์ไม่น้อยไปกว่าเวียงจันทน์ สมัย พระยารัตนวงษา (อุ่น)เจ้าเมืองศรีสะเกษ พระองค์แรกพระองค์ก็ทรงรบกับเวียงจันทน์ จะมาบอกว่า ลูกชายของพระองค์เป็นคนเวียงจันทน์ มันดูตลกมาก
เฮาภูมิใจใหนภาษาลาวเฮาถึงเฮาจะอยุ่ภาคอิสาน
เบิ่งช่องคนจีน คนเบิ่งเต็ม บัดหันมาเบิ่งช่องลาว มีอยู่บ่อกี่คน เฮ้อ!
ได้รับความรุ้ดีมากคะ..ชอบๆ😊
ขอคารวะบรรพชนของชาวอีสาน
สวัสดีคะ มารับชม รับฟังนำจ้า❤
ใด้รับความรู้และความรู้สึกตาสว่างโดยไม่ใด้ขัดแย้งจนทำให้ฝ่ายใด.ต้อ งขุ่ยมัว..ต่างจากนักวิชาการ.หัวหงอก.บางคน.พูดออกมาแต่ละคำแต่ละประโยก.ล้วนแต่เสี้ยมให้คนกินแหนงตะแคงใจกัน...ต้องขอโทษกับคำไม่เหมาะสมครับเพราะเคยใด้ฟังพวกนี้พูด.ทำให้สงสารครูบาอาจานย์ที่เคยสั่งสอน.มาพาให้รู้จักความเหมาะสม.บ่แม่นเอาแต่บู้แต่มัน....ติดตามให้กำลังใจเด้อตรับ.ผม
อย่าเพิ่งเชื่อครับ ผมว่าคลิปอธิบายไม่ถูก ประวัติศาสตร์อีสานตอนใน ที่ไม่ติดโขงและมูล เริ่มต้นเมื่อรัชการที่ 1 และหลังพระเจ้าตากตีเวียงจันทร์นี่เอง แต่เดิมเป็นพื้นที่ไม่มีใครสนใจ เพราะแห้งแล้งกันดาร ไร้ผู้คน เลยไม่มีใครอยากได้ แล้วจะไปสรุปว่าเป็นของลาวล้านช้าง นี่ไม่ถูกเลย
ความจริงคนอยู่พื้นเดิมเยอะแยะแต่กล่าวเฉพาะคนอพยพมาเพียงเล็กน้อยแต่ถูกให้เป็นผู้ปกครองเลยนำมาสำคัญ
เยอะอยู่นะครับ เจ้าเซียง นำไพร่พลมาสร้างเมืองศรีนครเขต(ศรีสะเกษ) 3,000คนเจ้าแก้วมงคล นำไพร่พลมา3,000คนบุตรพละงั่ว นำไพร่พลมาสร้างโขงเจียม3,000คนเจ้าเซียง กลับไปครองเมืองท่งศรีภูมิจารย์ศรีธรรมา นำไพร่พลมา1,000คนปกครองศรีนครเขต แทนเจ้าอุ่น นำไพร่พล5,000คน หนีภัยมาจากนครขุขันธ์ อีกมาสร้างเมืองศรีสะเกษ ที่อำเภออุทุมพรพิสัยต่อมา เจ้าชม พระโอรสนำไพร่พลอพยพมา รวมกับจารย์ศรีธรรมา คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษในปัจจุบัน ต่อมา หลวงธิเบศร์ หลวงอภัย หลวงมหาดไทย ขอไพร่พล2,500คนแยกจากเมืองศรีสะเกษ ไปสร้างเดชอุดม เจ้าคำพาว บุตรเจ้าอุ่น นำไพร่พลไปสร้าง เมืองชลบถ330คนเจ้าแพ บุตรเข้ามืด ไปสร้างหนองหาน500คนเจ้าพัน บุตรเจ้าพร ไปสร้างขอนแก่น330คนเจ้าศรีปาก ไปสร้างพุทไธสง และบุรีรัมย์250คนเรื่องอันดับเมืองในสมัยนั้น1อุบลราชธานี /400,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้น พระอุปราชชั้นหลวง)2นครราชสีมา 360,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยาปลัดชั้นพระยา)3นครสุวรรณภูมิ280,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยาอุปราชชั้นหลวง(ท้าว)4นครขุขันธบุรี 230,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยา ปลัดพระยา)5นครศรีสะเกษ 180,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยาปลัดชั้นพระ)ต่อมาถูกยุบให้ไปขึ้นกับนครขุขันธ์ที่เหลือจำไม่ได้9 นครพนม 95,000กว่าคน(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระ อุปราชชั้นหลวง(ท้าว)
ถ้าพื้นที่เดิมอยู่มากและอยู่มาก่อนชาวลาวที่ อพยพ มาช่วงพุทธศตวรรษ23-25 ทำไมไม่ขึ้นเป็นเมืองเลยละครับ อย่างเคสเมืองในอีสานใต้ ก็รวมกันจนเป็นเมิองขึ้นได้(สำมะโนประชากร ปี2462ภาคอีสานมีประชากร ราว 30-40% จากประชากรราว 8-9 ล้านคนในสยาม และส่วนใหญ่ก็มีลาวเป็นส่วนประกอบหลัก รองๆมาก็มี ส่วย,ภูไท,อื่นๆ)
@@nightserclass9961 ไม่มีเมืองไหนเลย อีสานใต้ เท่าที่ปรากฏว่าเป็นเมือง มีแค่ นครขุขันธ์ เท่านั้นที่มีบันทึกว่า เป็นเมืองโคกขันฑบุระ เป็นประเทศราชของ กรุงจตุรมุขมงคล(พนมเปญ) ตรงกับสมัย สมเด็จพระศรีราชา ก่อนที่ อาณาจักรเขมรจะตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา ต่อมา อยุธยาตอนปลาย รัชกาลพระเจ้าท้ายสระตากะจะ(หัวหน้าใหญ่) ชื่อว่า ไกร เจ้าเมืองอัตตะปือเดิมได้อพยพมา เนื่องจากลาวสถาปนาล้านช้างจำปาศักดิ์ และส่งชาวลาวไปปกครองแทน ที่นา บ้าน ก็เป็นของชาวลาว ชาวกูย ต้องมารับใช้ชาวลาวในบ้านของตนเอง ที่ดินของตนเอง ตากะจะ ต้องจับช้าง25เชือกต่อปีให้นครจำปาศักดิ์ จึงไปปรึกษากับเชียงปุม อดีตเจ้าเมืองแสนปางและ อพยพไพร่พลลงมา สร้างเมืองในอีสานใต้ คือ ขุขันธ์ สังขะ รัตนบุรี สุรินทร์ ขุขันธ์ ปกครองแบบ ศักดินาสยามมีเจ้าเมือง คือ พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวนปลัดเมืองขวาพระยารัตนโกศาปลัดเมืองซ้ายพระภักดีภูธรสงครามยกบัตรเมืองพระแก้วมนตรีผู้ช่วยราชการพระไกรสงครามพลเมืองพระวิไชยมหาดไทยเมืองพระมหาดไทยการปกครองแบบศักดินาสยาม ทำให้เมืองขุขันธ์ เป็นเมืองที่ถูกด้อยค่าจากเมืองอีสานอื่นๆ เนื่องจากเจ้าเมืองมีศักดิ์เป็นแค่ พระยา ในสายตาคนอีสานคือต่ำมาก เจ้าเมืองอื่นๆ มีศักดิ์ชั้นพระ กันหมดยกตัวอย่างอุบลราชธานีเจ้าเมืองคือ พระประทุมวรราชสุริยวงษ์อุปฮาดคือ ท้าวทิดพรหมราชวงษ์คือ ท้าวก่ำราชบุตร คือ ท้าวโคตรในการปกครองแบบ อาญาสี่เมืองอุบลราชธานี มีศักดิ์สูงกว่า เมืองพิษณุโลก และ นครศรีธรรมราช เอาง่ายๆว่า พระประทุมวราชสุริยวงษ์ มีศักดิ์สูงกว่าเจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาทีศรีพัทยาอภัยพิริยปรากรมภาหุ แต่ ก็แค่ตำแหน่งเพราะ เมืองอุบลราชธานี ไม่มีกองทัพมากพอในสงครามอนุวงศ์ เจ้าเมืองขุขันธ์คือ ท้าวบุญจันทร์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน มีทหาร8,000นายรบกับ พระภักดีภูธรสงคราม (เมืองนัน หรือท้าวมานะ)มีทหาร5,000โดย นครราชสีมาสนับสนุนเมืองนัน ให้เป็นเจ้าเมือง กองทัพนครราชสีมาอีก10,000นาน เข้าตีนครขุขันธ์ และ กองทัพนครจำปาศักดิ์อีก10,000นายเข้าตีนครขุขันธ์ พระยาขุขันธ์ มีบัญชาให้ เจ้าเมืองสุรินทร์ เจ้าเมืองสังขะ เจ้าเมืองรัตนบุรี เจ้าเมืองศรีสะเกษ เจ้าเมืองมโนไพรเจ้าเมืองเดชอุดม ให้เกณฑ์กองทัพเจ้าเมืองสุรินทร์ สังขะ รัตนบุรี ยกมาตีนครราชสีมา ส่วนเจ้าเมืองศรีสะเกษ มโนไพร เดชอุดมให้ยกทัพไปตีนครจำปาศักดิ์ ถึงจะมีศักดิ์เท่ากัน หลายครั้งที่เจ้าเมืองขุขันธ์ สามารถสั่งกองทัพเขมรป่าดง ได้ทั้งหมด ในขณะที่ อุบลราชธานี ไม่มีสิทธิ์สั่งกองทัพเมืองอื่นได้ นอกจากเมืองบริวารของตนเองการที่เจ้าเมืองอุบลราชธานี มีศักดิ์สูงกว่าเมืองอื่นๆ แต่ไม่สามารถสั่ง เจ้าเมืองอื่นได้ เหมือนนครราชสีมา และ ขุขันธ์ มันแปลกๆยังไงไม่รู้นะเมืองอุบลราชธานี เป็น ประเทศราช สูงกว่าหัวเมืองชั้นเอก (เจ้าเมืองชั้น พระ)เมืองนครราชสีมา เป็นหัวเมืองชั้นโท(เจ้าเมืองชั้นเจ้าพระยา)เมืองขุขันธ์ เป็นหัวเมืองชั้นตรี (เจ้าเมืองชั้นพระยา เกือบจะได้เป็น เจ้าพระยา แล้ว แต่ลีลายังทัพไปเล่นๆอยู่ลำปาง ไม่ขึ้นไปช่วย พระยาวชิรปราการ ตีพม่าเชียงใหม่ )บรรดาศักดิ์ชั้น พระ นี้ศักดินาเท่าไหร่ครับ ทำไม อุบลราชธานีถึงสูงกว่าหัวเมืองชั้นเอก ทั้งที่ เล็กนิดเดียว เล็กกว่า ขุขันธ์ ที่เป็นหัวเมืองชั้นตรี อีก
ภูมิใจครับที่เกิดเป็นคนอ.สุวรรณภูมิบ้านยางเครือต.เมืองทุ่งลูกหลานปู่แก้วมงคลสาธุๆๆครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
ความจริงดีทีาสุดจะแรงหรือคิ้อ่ยอล้วแต่ความรัขบได้
เป็นข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ทำให้เรารักรากเหง้าเผ่าพันธุ์จองตนเองมากขึ้นครับ
ติดตามครับอาจราย์😊คนเมืองพล❤เล็ก❤❤❤❤
ขอให้ทำแบบนี้ไปนานๆเด้อคาบได้ความรุ้
❤ຕິດຕາມຟັງ ທ່ານເລົ່າລະອຽດດີ
โลกทั้งผองพี่น้องกัน มหาตมะคานธี
ເຂຕແດນກຸງສີສັຕະນາຄຄະຣະຫຸດກັບກຸງສີອາຍຸທທະຍາ ພຣະເຈົ້າພາ້ງົ່ມແຫ່ງລາ້ນຊາ້ງກັບພຣະເຈົ້າອູທອງແຫ່ງລາ້ນເພັຍ ທັງສອງໄດ້ແບ່ງເຂຕແດນກັນແຕ່ນັ້ນມາຄືດົງພະຍາໄຟ
ขอบคุณหลายๆเด้อครับที่ได้นำเอาประวัติศาสตร์มาบอกมาเล่าเผยแผ่ให้คนรู้จักเดียวนี้คนรุ่นใหม่บ่ค่อยอยากสิศึกษาปานใด๋แล้วคันมีกะมีหน่อยครับ
จารย์แก้ว..บรม
ขอบคุณมากจ้า...🥰😍😻
คลิปนี้น่าสนใจ ควรเรียนรู้และจดจำครับขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลยอดเยี่ยมมากครับ
ต้องศึกษาให้มากกว่านี้ ที่พูดมาเป็นยุกที่คนไทยกระไดได้อบพยบเข้ามาที่อยู่อีสานแล้ว อายุไม่กี่ปีมานี้เอง แต่ก่อนนี้ไม่เคยมีลานนาและล้านช้าง ไม่เคยมีหลวงพระบาง เวียงจันทร์ และจำปาสัก และเมืองต่างๆ เหมื่อนทุกวันนี้
ประวัติศาสตร์มีหลายชั้น การนำเสนอก็บอกนี่ครับว่า กำเนิดหัวเมืองสำคัญของอิสาน หากย้อนไปยุคฟูนัน หรือเจนละ ตลอดจนยุคหินเก่าหินใหม่ เมืองหรือผู้คนที่กล่าวถึงในคลิป ก็คงไม่รู้เป็นผุยผงอยู่ที่ไหน ในคลิปก็บอกว่าเป็นการนำเสนอประวัติตำนานพงศาวดารอีสาน อย่างไรก็ขอบคุณนะครับที่ติชม ด้วยความเคารพครับ
เพิ่นเว้าเรื่อง300-400ที่ชาวล้านซ้างสู่อีสาน บ่ใด่เว้าเรื่อง 2-3พันปีเนาะ
❤❤รักเสมอ❤❤
ลาวจงเจริญ
เจริญแนวได๋ใกล้สิถืกยึดประเทศแล้ว🤣🤣🤣
ขออนุโมทนาบุญทุกประการ
เยี่ยมครับ
ไทยกว้างใหญ่แต่ต้องเสียดินแดนยุคล่าอณานิคมของตะวันตก มันกว้างใหญ่เกินกำลังที่จะรักษาไว้ได้ เหมือนรัสเชียใหญ่เกินจนปกครองลำบากสุดท้ายก็แตก
❤ติดตามครับ❤
👍👍👍👍
ประวัติของขอนแก่น มันผิด ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงต้องไปดูประวัติเมืองชลบถวิบูลย์ เพราะเป็นเมืองใหญ่ มาก่อนเมืองขอนแก่น
ในประวัติศาสตร์ เมืองอุบล ลูกหลานเจ้าแก้วมงคล ก็เป็นเพียงขี้ข้าของเจ้าเมืองอุบล เท่านั้น เจ้าอุ่น เป็น แม่ทัพฝ่ายหน้าเจ้าชม เป็นรองแม่ทัพหน้าเจ้าเชียง แม่ทัพฝ่ายหลัง เจ้าสูน เป็นรองแม่ทัพหลังเจ้าสีลัง เป็นกองเสบียง รับใช้เจ้านายเมืองอุบลราชธานี เจ้าคำผง ทรงประทานดินแดนล่ะผู้คนให้ แม่ทัพ เหล่านี้ไปปกครอง และ ให้เมืองสุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายเจ้าเมืองอุบลราชธานี ทุกๆ3ปี แต่ผมสงสัย ทำไมวังเจ้าเมืองศรีสะเกษ ถึงใหญ่โตหรูหรากว่า วังเจ้าเมืองอุบลราชธานี ขี้ข้า จะมีบ้านหลังใหญ่กว่า เจ้านาย มันเป็นไปได้หรอ
ประวัติเขียนขึ้นเอาเองนะ 5555 บ่เคยใด่ยินเกี่ยวข้องกับอุบลจักเที่ยเดิก
อุบลใหญ่โตมาแต่ไส เมียงอื่นคือสิได้ส่งบรรณาการให้ ทุกเมียงขึ้นตรงกับกรุงเทพคือกันเบิด เขาใซ้หยังกะต้องเฮ็ด เป็นลาวบ้านแตกคือกันเบิด อย่าเสียเส้น
แม่นคับ ผมคนร้อยเอ็ด
ใครสน
เมืองน่าน ปัจจุบัน ไม่น่าจะเป็นจังหวัดน่าน
ลูกท่านไปครองครับ เจ้าเมืองน่านในปัจจุบันสมัยก่อนครองเมืองเชียงใหม่ ครับเจ้าพระยาหลวงติ๋มมหาวงศ์ เจ้านครเชียงใหม่ มาครองเมืองน่าน หลังจากลูกเจ้าแก้ว ปกครอง
ร่องรอยที่น่าสังเกตทางประวัติศาสตร์ เเละสิ่งที่ปรากฎจากหลักฐาน เอกสารต่างๆ ที่มีความไม่ปะติดปะต่อกัน หากนำมาต่อจิ๊กซอว์ให้ปะติดปะต่อกัน ก็จะพบร่องรอยที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะช่วงปีพ.ศ.ที่สอดคล้องใกล้เคียงกันกับความเป็นไปได้ ดังนี้ น่านในยุคภายใต้การปกครองของพม่าก่อนยุคหลวงติ๋นมหาวงศ์ น่านในบางยุคในบางสมัยมีเจ้าผู้ครองนครร่วมกันปกครองกันอยู่2ท่าน โดยเฉพาะยุคที่ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ในเอกสารประวัติทางเมืองน่าน ในราวพ.ศ. 2232 ระบุว่า พระเมืองราชาเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 47 ได้คิดคบกับลาวแสนแก้วแข็งเมืองต่อพม่าโดยร่วมมือกับลาวเเสนเเก้ว ลาวเเสนเเก้ว จึงน่าจะเป็น เจ้าเเสนเเก้วบรม หรือเจ้าจารย์เเก้วเจ้าชายจากนครหลวงเวียงจันทน์ ในช่วงนั้นเจ้าเเก้วมงคล อายุได้ประมาณ 48 ขวบ เพราะจารย์เเก้วเกิดปีพ.ศ.2184 เจ้าองค์หล่อหน่อคำ (ที่เมืองน่านท่านอาจจะใช้ชื่ออื่นเเทน) ลูกชายคนโตของเจ้าเเก้วมงคลกับเจ้าหญิงนครน่านจึงน่าจะโตเป็นหนุ่มเเล้ว จึงน่าจะปกครองเมืองน่านร่วมกันกับเสด็จตาได้เเล้วในช่วงสมัยนี้ คือระหว่างปีพ.ศ. 2232 - พ.ศ. 2246 หลังปีพ.ศ.2246 นครน่านก็เป็นเมืองร้างเพราะโดนพม่าทำลาย พระเมืองราชา จึงอพยพหลบหนีไปยังล้านช้างเเละอยุธยาตามลำดับ เเละจากหลักฐานพงสาวดารอีสาน ฉะบับเหลา ณ ร้อยเอ็ด ก็มีการระบุว่าเจ้าองค์หล่อหน่อคำ หลานเจ้านครน่านคนเก่าได้มาปลงพระศพพระบิดาหรือเจ้าเเก้วมงคล ที่เมืองท่ง ร่วมกันกับน้องชายคือเจ้ามืดคำดลเจ้าเมืองท่งท่านที่2 ผู้เป็นน้องชาย ในปีพ.ศ. 2268 หลังปลงพระศพเสร็จสิ้น เจ้าองค์หล่อหน่อคำก็ลาน้องชายกลับไปยังเมืองน่านตามเดิม จึงเข้าใจได้อีกว่าเมืองน่านเเม้จะเป็นเมืองร้างถูกพม่า ทำลายเเละกวาดต้อนหลายรอบเเต่กลุ่มผู้อยู่อาศัยเเต่เดิม ที่พลัดพรากทั้งถูกกวาดต้อนหรือหลบหนีภัยจากบ้านเมืองตน ก็ยังคงมีบางส่วนที่มีความพยายามกลับไปอาศัยอยู่ถิ่นฐานเดิมของตนอยู่ กรณีเจ้าองค์หล่อหน่อคำก็น่าจะด้วยเช่นกัน
@@ขิงไรอ่ะ ใช้ครับ เจ้าหน่อคำ เจ้าเมืองน่าน เกิดก่อน ยุค3อาณาจักร 7แคว้น อีก มี ถนนหน่อคำ อยู่ ก่อนยุค เจ้าพระยาหลวงติ๋มมหาวงศ์เมืองน่าน เป็นรัฐเล็กๆ มีเพียงผู้รั้งเมืองคือ พระยานาขวา พระยานาซ้าย พระยานาขวา บ้านฝ่ายแก้ว ถูกสถาปนา เป็นเจ้าหลวง ในตอนนั้นเกรงว่าบารมีของตนจะไม่พอ ประชาชนล้านนา จะไม่เคารพจึงได้ไป อันเชิญ พระเจ้าเชียงใหม่ เจ้าหลวงติ๋มมหาวงศ์ เจ้าเมืองเชียงใหม่มาครองเมืองน่าน มากล่าวถึง เจ้าแก้วมงคล ตอนนั้นพระองค์ยัง เรร่อน อยู่ครับ 8เดือน กว่าจะไปถึง นครกาลจำบาก หากนับ อายุของเจ้าหน้ากษัตริย์ การเดินทาง 25ปี กว่าจะได้ครองเมืองเดือนที่8 เจ้านางแพงเทวี ได้ถวายราชสมบัติ ให้ พระครูโพนเสม็ด ขึ้นเป็น พระมหากษัตริย์ พระครูโพดเสม็ด ครองราชย์สมบัติ25ปี บ้านเมืองวุ่นวายพระครู จึงให้ พระอาจารย์แก้ว ลาสิกขาไปอัญเชิญ เจ้าหน่อกษัตริย์ จากนครพนมมาเป็น พระมหากษัตริย์แทน สรงน้ำมุรทาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ ในตอนนั้น ชื่อ เจ้าหน่อกษัตริย์ เจ้าแคว้นกาลจำบาก ได้ ให้ ตากะจะ เจ้าเมืองอัตตะปือ เกณฑ์ไพร่พล กูย ไปช่วยรบกับเวียงจันทน์ ช้าง200 คนเดินเท้า3,000ตี เมืองนครพนมแตก พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่2แห่งเวียงจันทน์กลัวทาง เจ้ากิ่งกิสราช หลวงพระบางและ เจ้าองค์ลอง เมืองพวน จะมาดี ไม่มีกำลังพอที่จะ ไปช่วยนครพนม จึงยอมให้ กาลจำบากเป็นเอกราชเจ้าหน้ากษัตริย์ สร้างหอโฮง ตามราชประเพณี และ บรมราชาภิเษกครั้งที่2เปลี่ยนนามเป็น สมเด็จพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร เปลี่ยนนามเมือง เป็น นครจำปาศักดิ์นัคบุรีศรี จากนั้น จึงตั้ง เจ้าเมือง 1เจ้าแก้ว ครองเมืองท่ง (ร้อยเอ็ด)2เจ้าเชียง ครองศรีนครเขต (ศรีสะเกษ)3เจ้าจันทร ครองหลวงโพนสิม(สะหวันนะเขต)4เจ้าหวด ครองศรีทันทร 5ท้าวสุด ครองเชียงแตง 7ท้าวมั่น ครองสาละวัน 8ท้าวโคตร บุตรพระละงุม ครองโขงเจียมตากะจะ เจ้าเมืองอัตตะปือ เชียงปุม เจ้าเมืองแสนปาง ทนไม่ไหว จึงอพยพไพร่พลหนี เพราะถวายบรรณาการ เยอะมาก ก่อน กำเนิด เมืองขุขันธ์ สุรินทร์ สังขะ รัตนบุรี ศรีขรภูมิ พรหมขัน จังกล กันทรลักษ์ กันทรารมย์ อุทุมพรพิสัย ไปขึ้นกับ อยุธยาแทนล้านช้าง1เวียงจันทร์2หลวงพระบาง3เชียงขวาง4จำปาศักดิ์5สุวรรณภูมิ6นครเขื่อนขันธ์7หัวพัน5ทั้ง6 8ศรีสะเกษ (ไม่ทันได้เกิด ก็ดับเสียก่อน เหตุที่ พระเจ้าไชยกุมาร ให้พระยาโพธิสาร ยกทัพมาตี ศรีสะเกษ จับ เจ้าเมืองไป เป็นแรงงาน ศรีสะเกษ คงจักตั้งตัวเป็นเอกราช เหมือนกัน และไม่ขึ้นกับเมืองใด จึงทำให้ ง่ายต่อการตี ผม สงสัยว่า เมืองท่ง แยกตัว ทำไมเจ้าไชยกุมาร ถึงไม่ตี มาตีศรีสะเกษ หรือเพราะ ทำอะไรเมืองท่ง ไม่ได้)
@@ขิงไรอ่ะ จากนั้น สังเกตว่า จารย์ศรีธรรมา บุตร จารย์เซียงเจ้าเมืองศรีนครเขตได้ แต่งงานกับ เจ้านางวันนา ธิดาเจ้ามืดคำดล นี้อาจเป็น สาเหตุ ที่ เจ้าไชยกุมาร ยกทัพมาตี ศรีสะเกษ หรือ ศรีนครเขต ก็เป็นได้ เพราะ เจ้ามืด ไม่ทรงบรรณาการ การที่จับ เจ้าศรีธรรมมากับเจ้านางวันนา มาอยู่จำปาศักดิ์ ทำให้ เมืองท่งยอมส่งบรรณาการ สังเกต ตรง เจ้าอุ่น บุตรเจ้ามืดคำดล มีปัญหา กับ ท้าวบุญจันทร์ เจ้าเมืองขุขันธ์ บุตรเจ้านางคำเวียง แห่งเวียงจันทน์ ท่าน ท่านมีกำลังคน3,000คน หนีมาสร้างเมือง ศรีสะเกษขึ้นได้รับราชทินนามว่าพระยารัตนวงษา เจ้าเมืองศรีสะเกษ หรือ อดีตเมืองศรีนครเขต เดิมเป็น เจ้าเมืองระดับพระยา คนเดียวใน ศรีสะเกษ ที่ได้รับราชทินนามนี้
ต้องแยกแยะว่า รัฐชาติ หรือประเทศ เพิ่งจะมี เมื่อ มีการกำหนดแนวเขตดินแดง ที่ฝรั่งเศสทำ นี่เอง แต่ก่อนหน้านั้น ไม่มีรัฐชาติ ไม่มีประเทศ ไม่มีประเทศสยาม ไทย ลาว มีแต่ เมืองใหญ่ เมืองขนาดกลาง เมืองขนาดเล็ก ไม่มีคำว่า อาณาจักรสยาม อาณาจักรไทย อาณาจักรลาว ตามที่คนอ่านทำคลิปพูดมา คำว่าอาณาจักร เป็นคำที่นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ยุคปัจจุบัน สมมุติเรียกขึ้นเท่านั้น เพื่อประมาณว่า เป็น อาณาเขตการปกครองของเมืองสมัยโบราณ , ...
..ดังนั้น ในสมัยก่อนจะมีประเทศ ที่ฝรั่งมาตีเส้นแบ่งเขตแดนนั้น มีแต่เมืองต่างๆ เมืองใหญ่ปกครองเมืองขนาดกลาง เมื่อขนาดกลางปกครองเมืองขนาดเล็ก โดยการส่งส่วย ภาษี เครื่องราชบรรณาการไปให้เมืองใหญ่กว่า นั้นคือ พื้นที่เมืองบริวานปกครอง สมัยก่อนไม่มีลาว มาก่อน มีแต่เมืองปกครอง เช่น เมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจัน เมืองตำปาศักดิ์ เป็นเมืองปกครองขนาด กลาง ปกครอ งเมืองเล็กๆต่างๆ มีเจ้าเมืองเป็นผู้นำ ตั้งแต่เมืองกรุงศรีอยุธยา ตั้งขึ้น เมืองหลวงพระบาง และต่อมามีเมืองเวียงจันตั้งตามมาเป็นเมืองปกครอง ทั้ง 2 เมือง ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการให้ เมืองกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่มากอย่างต่อเนื่อง และบางช่วง ต้องส่งให้เมืองปกครอง(ที่ปัจจุบันอยู่ในเมียนม่าด้วย) และบางช่วงที่ เจ้าเมืองกรุงศรีอยุธยาอ่อนแอ ก็อาจจะไม่ส่ง ดังนั้นในแง่ การปกครอง เมืองทั้งหมดในพื้นที่ (สปป.ลาว ปัจจุบัน) อยู่ร่วมกับ เมืองปกครองใหญ่ อย่าง เมืองกรุงศรีอยุธยามาตลอด จนถึงสมัย เมืองกรุงธนบุรี และเมืองกรุงเทพ และมาแยกออกจากกัน หลัง กรุงเทพ ยกพื้นที่ปกครองนั้น ไปให้ ฝรั่งเศส เมื่อ ฝรั่งนำเรือรบจะเข้ามายิงพระบรมมหาราชวังกรุงเทศ สมัย รัชกาลที่ 5 ..
...ดังนั้น ทั้งสองฝั่งน้ำโขง เป็น ชนชาติที่อยู่ด้วยกันมาตลอด โดนแยกแผ่นดินโดยฝรั่งเศส แค่นั้น , ในปัจจุบันก็แยกกันตาม รูปแบบรัฐชาติ นั่นคือ ประเทศ ตามแนวคิดของฝรั่งตะวันตก , ส่วนเรื่องสายเลือดอะไรนั้น ไม่สามารถเอามาพูดได้ เพราะ คนมาจากหลายร้อยเผ่า มาอยู่รวมกัน และจากชนชาติตะวันตก ตะวันออก อาหรับ ผสมกันไปมา เป็นพันปี ไม่มีเลือดบริสุทธิ์ ที่จะมากล่าวอ้างได้ว่า ตนเป็นเลือดของเผ่าไหน
ถูกใจค่ะ
ผมว่า เจ้าของคลิปอธิบายไม่ถูก เพราะอ้างอิงหลักฐานไม่ชัดเจน เช่น อาศัยตำนาน อะไรต่างๆ และสรุปบางอย่างผิด (บางอย่างก็ถูก)
เมืองเล็ก ที่สามารถตีเมืองใหญ่ได้
คือ เจ้าเมืองธนบุรี (สิน)
เมื่อเจ้าเมือง สามารถรวมเมืองได้
ก็จะเรียกว่า กษัตริย์
ล้านช้างเองก็ไม่ต่างกัน
เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ก็ถูกเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ ตีแตกหลายครั้ง
เอาง่ายๆ
พระเจ้าสุทัศนราชา แห่งจำปาศักดิ์ ยกทัพขึ้นไป ตี พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จนพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตายที่เมืองอัตตะปือ
จากนั้นก็ยกไปตี พระยาวรวังศาธิราช จนพระยาวรวังศาธิราช
หนีไปตายกลางป่า
พระยาแสนสุรินทร์ลือไชย
เสด็จกลับมาจากหงสาวดี
มากู้เมือง และ ฆ่า พระเจ้าสุทัศนราชา ตาย
นั้นแสดงว่า เวียงจันทน์ ไม่ได้เข้มแข็งเลย
แม้แต่ ศรีสะเกษ ก็สามารถยกทัพไปตี ได้เหมือนกัน
ดังปรากฏในพื้นเมืองอุบล
ที่เจ้าเมืองศรีสะเกษ เสด็จยกทัพไปตี เมืองพันนา กับ เจ้าอุปราชนันทเสน
การแย่งชิงเมืองพันนา
ก็น่าจะเป็น ศึกระหว่าง
จำปาศักดิ์ กับ เวียงจันทน์
เพราะเจ้าเมืองศรีสะเกษ รับใช้จำปาสัก
ขอบคุณนะค่ะ ที่นำประบัติสาตร์ ภาคอิสาน ลาวไทยมาเหล่าให้ได้ศึกษา เรียนรู้ ขอบคุณค่ะ
สาธุเจริญพรอาจารย์มากที่ได้นำความรู้และความเป็นมาของจังหวัดต่างๆและต้นกำเนิดภาคอีสาน ถือว่าได้ประโยชน์แก่ลูกหลานเยาวชนไทยอีสานมากครับ คั้นมีหนังสือให้อ่านและเก็บสะสนไว้กะดีมากครับ
น้อมกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าหลายๆครับผม
ผมว่าอธิบายไม่ถูกต้องสักเท่าใดครับ คืออาศัยแบบเล่าๆ ต่อกันมา ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักฐานที่ปรากฎ อาศัยตำนานปรำปรา เพราะอีสานตอนใน พวกชัยภูมิ อุดร ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สารคาม บุรีรัมย์ แถมลุ่มน้ำชี พวกนี้เป็นพื้นที่สีเทา แห้งแล้ง กันดาร ขาดผู้คนอาศัย เพราะลาวก็สนใจแต่อยู่ริมน้ำโขง อยุธยาก็ไม่สนใจ(ไม่มีคนให้ไปกวาดต้อน) ก็สนใจแค่พื้นที่ขอมเดิม เช่น โคราช พิมาย พนมรุ้งและเข้าเขมรไป .. ส่วนขอมโบราณก็เคยแผ่อิทธิพลมาสร้างหมด แต่คงเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก มีใหญ่แค่ที่ วัดภู กับที่สกลนครเท่านั้นเอง
ต่อมาเมื่อขอมล่มสลายลง อิทธิพลของขอมก็หายไปด้วย ผู้คนก็หายไป คงเหลือแต่ปราสาทต่างๆ ที่สำคัญ เช่นที่พระธาตุเชิงชุม พระธาตุพนม ที่พอล้านช้างลงมาจากหลวงพระบาง มาตั้งเวียงจันทร์ ก็มาดัดแปลงให้เป็นพระธาตุที่เราเห็นทุกวันนี้
ดังนั้น อธิบายว่า พื้นที่ทั้งหมดเป็นของคนลาว ไม่ถูก เพราะไมมีคนสนใจ
เมืองต่างๆ เกิดขึ้นก็เมื่อ พระเจ้าตากตีเวียงจันทร์ และ ถัดมาเริ่มมีตั้งเมืองอีสานใน ร.1 เช่น พ่อตาของ ร.1 ได้เป็นเจ้าเมืองชนบท ขอนแก่น หลังจากนั้นเริ่มมีเมืองสำคัญ กาฬสินธูื ร้อยเอ็ด อะไรต่อมิอะไรที่เกิดจากชาวพวน ลาว อพยพกันมาสร้างขึ้นต่างหาก
สรุป พื้นที่ทั้งหมด อยู่ใต้อิทธิพลและ กรุงเทพ เป็นต้นเหตให้เกิดอีสานต่างหากครับ ไม่ใช่ลาว ลาวสนใจแต่น้ำโขง ตามความเคยชิด ตัวอย่างพระครูโพนเสม็ด หนีมาสร้างจำปาสัก ก็ริมน้ำโขง เพราะไม่มีความรู้พื้นที่ภายในอีสาน
ติดตามค่ะ ชอบเรี่องราวในอดีด.ขอบคุณหลายๆค่ะ
เนื้อหาน่าสนใจเพิ่มเสียงผู้บรรยายน่าฟังมีท่วงทำนองขึ้นลงนุ่มนวลขอบคุณที่ทำคลิปดีดีมาเป็นวิทยาทานให้ลูกหลานพยาแถนอย่างพวกเราครับ
ผมมองว่าอธิบายว่าเขตพื้นที่ทั้งหมด ของภาคอีสานเป็นของลาวก็ไม่ถูก เพราะมันเป็นพื้นที่สีเทา ไม่มีอาณาจักรใดๆ สนใจ เพราะสมัยนั้นมั้นทั้งแร้นแค้น และกันดาร และกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด
แต่เดิมมีการกระจายตัวของ อิทธิพลของขอมเข้าไปในอีสานตอนในบ้าง เช่นที่สกลนคร ชัยภูมิ มีเมืองหลักๆ ที่หนองหาร ที่ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นพระธาตุเชิงชุม แต่พอขอมล่มสลายลง ก็คงเหลือแต่บ้านเล็กเมืองน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุมชนเล็กๆ ไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่กระจายตัวอยู่ตามที่ราบแอ่งต่างๆ ของอีสานภายใน เราเรียกพื้นที่พวกนี้ว่า เกรย์แอเรีย โดยพื้นที่ทั้งหมด แทบจะไร้ผู้คนอาศัย
ส่วนเมืองใหญ่ๆ นั้น กระจายตัวอยู่ริมน้ำสายหลักคือ โขง และ มูล
โดยแม่น้ำโขงจะเป็นแหล่งชุมชน อาณาจักรต่างๆ ที่แตกตัวมาจากหลวงพระบาง เช่นเวียงจันทร์ และจำปาสัก สังเกตได้จากที่พระครูโพนฯ หนีจากเวียงจันทร์มา ก็มาตามลำน้ำโขงตลอด หาได้เข้าไปในพื้นที่ภาคอีสานตอนในไม่ ซึ่งก็เป็นเพราะอาจจะรู้ว่ามันไม่มีอะไร และแห้งแล้ง จึงได้เลือกตั้งจำปาสักริมน้ำโขงตามความเคยชินและความรู้ว่าจะทำให้มีชีวิตรอด
ส่วนแม่น้ำมูลนั้นได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรขอมเก่า ดังนั้น จึงมีเมืองต่างๆ กระจายตัวริมแม่น้ำมูล ไปจรดจำปาสักที่วัดภู โดยที่หลังจากจำปาสักตั้งมาแล้วก็กินอาณาเขตของขอมวัดภูเข้ามา แต่คงไม่มากนัก อาจแค่รอบๆ วัดภู นอกเหนือจากนั้นอยู่ในอิทธิพลของอยุธยา ที่มีศูนย์กลางที่นคราชสีมา ผ่านไปยังีพิมาย นางรอง บุรีรัมย์ พนมรุ้ง และเข้าสู่เขมรผ่านเทือกเขาพนมดงรัก
ดังนั้น โดยสรุป พื้นที่ภายในมันเป็นสีเทา ไม่มีอาณาจักรใดสนใจ จนกระทั้ง พระเจ้าตากสินขยายอาณาเขตไปยังลาวทั้งหมด และจึงพบว่า พื้นที่อีสานมันกว้างใหญ่ มีของป่ามากมาย แต่ก็แห้งแล้ง ไร้ผู้คน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการอพยพของคนลาว และคนเชื้อสายต่างๆ เข้าไปตั้งบ้านแปลงเมือง ดัง ขอนแก่นที่มีแต่หนองน้ำเล็กๆ น้อยๆ ก็ตกเป็นของพ่อตาของ ร.1 ที่เป็นคนเวียงจันทร์ เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น หรือ ชนบท คนแรก .. จากนั้นเป็นต้นมา เมืองต่างๆ ก็เกิดกันขึ้นพรึบพรับในเขตอีสานตอนใน ที่เป็นเขตอิทธิพลของ ธนบุรี กรุงเทพ อย่างจริงจัง ..
ผมอยากทราบว่าคุณไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนหรือว่าเป็นเพียงการสันนิษฐานของคุณเอง?
เมืองหนองหานหลวง
มันคือ เมืองอุดรธานี เดี๋ยวนี้
มี ท้าวแพ
หรือ พระพิทักษ์เขื่อนขันธ์ เป็นเจ้าเมืองพระองค์แรก
ส่วนเมือง สกลทวาปี มี
พระธานี เป็นเจ้าเมืองพระองค์แรก
เมืองขอนแก่น มีราษฎร300 คน
ไม่ใช่เมืองใหญ่แบบ
ศรีสะเกษ สุวรรณภูมิ อุบลราชธานี ที่มีประชากรหลังแสน
จึงไม่แปลกที่จะขึ้นต่อนครราชสีมา
พระจันตะประเทศ
เจ้าเมืองชลบถวิบูลย์ ก็เป็นพระโอรสองค์โตใน พระยารัตนวงศา
เจ้าอุ่น เจ้าเมืองศรีสะเกษ พระองค์แรก
พระยาภักดีชุมพล เจ้าเมืองชัยภูมิ
ก็เป็นขุนนางในสังกัด ของ
พระจันตะประเทศ
ในอีสาน หัวเมืองสยามที่ใหญ่ๆ
ก็มี4เมืองคือ
นครราชสีมา
นครขุขันธ์
นครสังขะ
นครสุรินทร์
เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์เป็นพระยามหานคร
เป็น รัฐขุนนางของสยาม
เมืองของล้านช้าง และปีที่เข้าร่วมกับสยาม
1สุวรรณภูมิราชบุรินทร์2315
(เจ้าเซียง/เจ้าพระรัตนวงษา)
2อุบลราชธานีศรีวนาไล2335
(เจ้าคำผง/อาชญาหลวงเฒ่า)
3อินทรเกตุศรีนครเขตราชธานี2325
(เจ้าอุ่น/เจ้าฟ้าราชโภชนัย)
(ศรีสะเกษ)
4ร้อยเอ็ดราชบุรีศรีสาเกตุนคร2318
(เจ้าฟ้าสุทนมณี/เจ้าพระขัตติยวงษา)
5นครบุรีราชธานีศรีโคตรบูรณ์หลวง(นครพนม)2322
(สมเด็จพระวรราชปิตาบรมราชาธิบดี หรือ พระบรมราชา)
6บังมุดดาหารมุติกะนคร2322
(เจ้าฟ้าจันทกินรี)
7มหาสารคามสาเกตะนคร สมัยรัชกาลที่5
(ท้าวมหาไชย)
8ยศสุนทรประเทศราช2357
(ท้าวคำสิงห์)
9เขมราฐธานี2357
(ท้าวอุปราชก่ำ)
10ชลบถวิบูลย์ 2335
(ท้าวคำพาวกวนเมืองแสน)
เป็น รัฐเจ้าประเทศราช
ขอนแก่น ชัยภูมิ เป็นเพียงเมืองบริวารของนครราชสีมา ไม่ใช่หัวเมืองชั้นเอก และเกิดหลังเพื่อนอีก
ยกตัวอย่าง
ศรีสะเกษ
เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระโอรสใน เจ้ามืดคำดล
เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระนัดดาใน เจ้าแก้วมงคล
ท้าวพัน เจ้าเมืองขอนแก่น บอกว่า
เจ้าแก้วมงคล เป็นพี่น้องกันตนเอง
และเป็นหลานเจ้าศิริบุญสาร
เจ้าเมืองขอนแก่น เป็นสหายกับ เจ้าเมืองชลบถวิบูลย์
เจ้าเมืองชลบถวิบูลย์ เป็นลูกเจ้าเมืองศรีสะเกษ
นี้จะบอกว่า ทวด กับ เหลน เป็นญาติกัน แถมสนิทสนมกัน
จะบอกว่า หลานตายก่อนปู่
เจ้าฟ้าราชโภชนัย เป็นพระสหายที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ
เจ้าคำผง พศ2335 เจ้าคำผง
อายุ 83ปี
แสดงว่า เจ้าฟ้าราชโภชนัย อายุ70กว่าปีแล้ว ในปี2325
เสด็จขึ้นครองเมืองศรีสะเกษ
แล้ว เจ้าเมืองขอนแก่น บอกว่า
เป็นน้องของปู่ เจ้าเมืองศรีสะเกษ
แสดงว่า เจ้าเมืองขอนแก่นมีอายุ150กว่าปีโดยประมาณ
เป็นไปไม่ได้ อย่างแน่นอน
เจ้าเมืองชลบถ
เป็นคนศรีสะเกษ
คุณไปบอกว่า ท่านมาจากเวียงจันทน์ได้อย่างไร
ศรีสะเกษ หรือ เมืองศรีนครเขต
มีศักดิ์ไม่น้อยไปกว่าเวียงจันทน์
สมัย พระยารัตนวงษา (อุ่น)
เจ้าเมืองศรีสะเกษ พระองค์แรก
พระองค์ก็ทรงรบกับเวียงจันทน์
จะมาบอกว่า ลูกชายของพระองค์เป็นคนเวียงจันทน์
มันดูตลกมาก
เฮาภูมิใจใหนภาษาลาวเฮาถึงเฮาจะอยุ่ภาคอิสาน
เบิ่งช่องคนจีน คนเบิ่งเต็ม บัดหันมาเบิ่งช่องลาว มีอยู่บ่อกี่คน เฮ้อ!
ได้รับความรุ้ดีมากคะ..ชอบๆ😊
ขอคารวะบรรพชนของชาวอีสาน
สวัสดีคะ มารับชม รับฟังนำจ้า❤
ใด้รับความรู้และความรู้สึกตาสว่างโดยไม่ใด้ขัดแย้งจนทำให้ฝ่ายใด.ต้อ งขุ่ยมัว..ต่างจากนักวิชาการ.หัวหงอก.บางคน.พูดออกมาแต่ละคำแต่ละประโยก.ล้วนแต่เสี้ยมให้คนกินแหนงตะแคงใจกัน...ต้องขอโทษกับคำไม่เหมาะสมครับเพราะเคยใด้ฟังพวกนี้พูด.ทำให้สงสารครูบาอาจานย์ที่เคยสั่งสอน.มาพาให้รู้จักความเหมาะสม.บ่แม่นเอาแต่บู้แต่มัน....ติดตามให้กำลังใจเด้อตรับ.ผม
อย่าเพิ่งเชื่อครับ ผมว่าคลิปอธิบายไม่ถูก ประวัติศาสตร์อีสานตอนใน ที่ไม่ติดโขงและมูล เริ่มต้นเมื่อรัชการที่ 1 และหลังพระเจ้าตากตีเวียงจันทร์นี่เอง แต่เดิมเป็นพื้นที่ไม่มีใครสนใจ เพราะแห้งแล้งกันดาร ไร้ผู้คน เลยไม่มีใครอยากได้ แล้วจะไปสรุปว่าเป็นของลาวล้านช้าง นี่ไม่ถูกเลย
ความจริงคนอยู่พื้นเดิมเยอะแยะแต่กล่าวเฉพาะคนอพยพมาเพียงเล็กน้อยแต่ถูกให้เป็นผู้ปกครองเลยนำมาสำคัญ
เยอะอยู่นะครับ
เจ้าเซียง นำไพร่พลมาสร้างเมืองศรีนครเขต(ศรีสะเกษ) 3,000คน
เจ้าแก้วมงคล นำไพร่พลมา3,000คน
บุตรพละงั่ว นำไพร่พลมาสร้างโขงเจียม3,000คน
เจ้าเซียง กลับไปครองเมืองท่งศรีภูมิ
จารย์ศรีธรรมา นำไพร่พลมา1,000คนปกครองศรีนครเขต แทน
เจ้าอุ่น นำไพร่พล5,000คน หนีภัยมาจากนครขุขันธ์ อีกมาสร้างเมืองศรีสะเกษ ที่อำเภออุทุมพรพิสัย
ต่อมา เจ้าชม พระโอรสนำไพร่พลอพยพมา รวมกับจารย์ศรีธรรมา คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษในปัจจุบัน
ต่อมา หลวงธิเบศร์ หลวงอภัย
หลวงมหาดไทย ขอไพร่พล2,500
คนแยกจากเมืองศรีสะเกษ ไปสร้างเดชอุดม
เจ้าคำพาว บุตรเจ้าอุ่น นำไพร่พลไปสร้าง เมืองชลบถ330คน
เจ้าแพ บุตรเข้ามืด ไปสร้างหนองหาน
500คน
เจ้าพัน บุตรเจ้าพร ไปสร้างขอนแก่น330คน
เจ้าศรีปาก ไปสร้างพุทไธสง และบุรีรัมย์
250คน
เรื่องอันดับเมืองในสมัยนั้น
1อุบลราชธานี /400,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้น พระ
อุปราชชั้นหลวง)
2นครราชสีมา 360,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยา
ปลัดชั้นพระยา)
3นครสุวรรณภูมิ280,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยา
อุปราชชั้นหลวง(ท้าว)
4นครขุขันธบุรี 230,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยา ปลัดพระยา)
5นครศรีสะเกษ 180,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระยา
ปลัดชั้นพระ)
ต่อมาถูกยุบให้ไปขึ้นกับนครขุขันธ์
ที่เหลือจำไม่ได้
9 นครพนม 95,000กว่าคน
(เจ้าเมืองกินบรรดาศักดิ์ชั้นพระ อุปราชชั้นหลวง(ท้าว)
ถ้าพื้นที่เดิมอยู่มากและอยู่มาก่อนชาวลาวที่ อพยพ มาช่วงพุทธศตวรรษ23-25 ทำไมไม่ขึ้นเป็นเมืองเลยละครับ อย่างเคสเมืองในอีสานใต้ ก็รวมกันจนเป็นเมิองขึ้นได้
(สำมะโนประชากร ปี2462ภาคอีสานมีประชากร ราว 30-40% จากประชากรราว 8-9 ล้านคนในสยาม และส่วนใหญ่ก็มีลาวเป็นส่วนประกอบหลัก รองๆมาก็มี ส่วย,ภูไท,อื่นๆ)
@@nightserclass9961 ไม่มีเมืองไหนเลย
อีสานใต้ เท่าที่ปรากฏว่าเป็นเมือง มีแค่
นครขุขันธ์ เท่านั้นที่มีบันทึกว่า เป็นเมือง
โคกขันฑบุระ เป็นประเทศราชของ
กรุงจตุรมุขมงคล(พนมเปญ)
ตรงกับสมัย สมเด็จพระศรีราชา
ก่อนที่ อาณาจักรเขมรจะตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา
ต่อมา อยุธยาตอนปลาย
รัชกาลพระเจ้าท้ายสระ
ตากะจะ(หัวหน้าใหญ่) ชื่อว่า
ไกร เจ้าเมืองอัตตะปือเดิม
ได้อพยพมา เนื่องจากลาวสถาปนาล้านช้างจำปาศักดิ์ และส่งชาวลาวไปปกครองแทน ที่นา บ้าน ก็เป็นของชาวลาว ชาวกูย ต้องมารับใช้ชาวลาวในบ้านของตนเอง ที่ดินของตนเอง
ตากะจะ ต้องจับช้าง25เชือกต่อปี
ให้นครจำปาศักดิ์ จึงไปปรึกษากับ
เชียงปุม อดีตเจ้าเมืองแสนปาง
และ อพยพไพร่พลลงมา สร้างเมืองในอีสานใต้ คือ ขุขันธ์ สังขะ รัตนบุรี สุรินทร์
ขุขันธ์ ปกครองแบบ ศักดินาสยาม
มีเจ้าเมือง
คือ พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
ปลัดเมืองขวา
พระยารัตนโกศา
ปลัดเมืองซ้าย
พระภักดีภูธรสงคราม
ยกบัตรเมือง
พระแก้วมนตรี
ผู้ช่วยราชการ
พระไกรสงคราม
พลเมือง
พระวิไชย
มหาดไทยเมือง
พระมหาดไทย
การปกครองแบบศักดินาสยาม ทำให้เมืองขุขันธ์ เป็นเมืองที่ถูกด้อยค่าจากเมืองอีสานอื่นๆ เนื่องจากเจ้าเมืองมีศักดิ์เป็นแค่ พระยา ในสายตาคนอีสานคือต่ำมาก เจ้าเมืองอื่นๆ มีศักดิ์ชั้นพระ กันหมด
ยกตัวอย่างอุบลราชธานี
เจ้าเมืองคือ
พระประทุมวรราชสุริยวงษ์
อุปฮาดคือ ท้าวทิดพรหม
ราชวงษ์คือ ท้าวก่ำ
ราชบุตร คือ ท้าวโคตร
ในการปกครองแบบ อาญาสี่
เมืองอุบลราชธานี มีศักดิ์สูงกว่า เมืองพิษณุโลก และ นครศรีธรรมราช
เอาง่ายๆว่า
พระประทุมวราชสุริยวงษ์
มีศักดิ์สูงกว่า
เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาทีศรีพัทยาอภัยพิริยปรากรมภาหุ
แต่ ก็แค่ตำแหน่งเพราะ เมืองอุบลราชธานี ไม่มีกองทัพมากพอ
ในสงครามอนุวงศ์
เจ้าเมืองขุขันธ์คือ ท้าวบุญจันทร์
พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
มีทหาร8,000นาย
รบกับ พระภักดีภูธรสงคราม (เมืองนัน หรือท้าวมานะ)
มีทหาร5,000
โดย นครราชสีมาสนับสนุนเมืองนัน ให้เป็นเจ้าเมือง กองทัพนครราชสีมาอีก10,000นาน เข้าตีนครขุขันธ์
และ กองทัพนครจำปาศักดิ์อีก10,000
นายเข้าตีนครขุขันธ์
พระยาขุขันธ์ มีบัญชาให้ เจ้าเมืองสุรินทร์ เจ้าเมืองสังขะ เจ้าเมืองรัตนบุรี
เจ้าเมืองศรีสะเกษ เจ้าเมืองมโนไพร
เจ้าเมืองเดชอุดม
ให้เกณฑ์กองทัพ
เจ้าเมืองสุรินทร์ สังขะ รัตนบุรี ยกมาตีนครราชสีมา
ส่วนเจ้าเมืองศรีสะเกษ มโนไพร เดชอุดม
ให้ยกทัพไปตีนครจำปาศักดิ์
ถึงจะมีศักดิ์เท่ากัน หลายครั้งที่เจ้าเมืองขุขันธ์ สามารถสั่งกองทัพเขมรป่าดง
ได้ทั้งหมด
ในขณะที่ อุบลราชธานี ไม่มีสิทธิ์สั่งกองทัพเมืองอื่นได้ นอกจากเมืองบริวารของตนเอง
การที่เจ้าเมืองอุบลราชธานี มีศักดิ์สูงกว่าเมืองอื่นๆ แต่ไม่สามารถสั่ง เจ้าเมืองอื่นได้ เหมือนนครราชสีมา และ ขุขันธ์
มันแปลกๆยังไงไม่รู้นะ
เมืองอุบลราชธานี เป็น ประเทศราช สูงกว่าหัวเมืองชั้นเอก
(เจ้าเมืองชั้น พระ)
เมืองนครราชสีมา เป็นหัวเมืองชั้นโท
(เจ้าเมืองชั้นเจ้าพระยา)
เมืองขุขันธ์ เป็นหัวเมืองชั้นตรี
(เจ้าเมืองชั้นพระยา เกือบจะได้เป็น เจ้าพระยา แล้ว แต่ลีลายังทัพไปเล่นๆอยู่ลำปาง ไม่ขึ้นไปช่วย
พระยาวชิรปราการ ตีพม่าเชียงใหม่ )
บรรดาศักดิ์ชั้น พระ นี้ศักดินาเท่าไหร่ครับ ทำไม อุบลราชธานีถึงสูงกว่าหัวเมืองชั้นเอก ทั้งที่ เล็กนิดเดียว เล็กกว่า ขุขันธ์ ที่เป็นหัวเมืองชั้นตรี อีก
ภูมิใจครับที่เกิดเป็นคนอ.สุวรรณภูมิบ้านยางเครือต.เมืองทุ่งลูกหลานปู่แก้วมงคลสาธุๆๆครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
ความจริงดีทีาสุดจะแรงหรือคิ้อ่ยอล้วแต่ความรัขบได้
เป็นข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ทำให้เรารักรากเหง้าเผ่าพันธุ์จองตนเองมากขึ้นครับ
ติดตามครับอาจราย์😊คนเมืองพล❤เล็ก❤❤❤❤
ขอให้ทำแบบนี้ไปนานๆเด้อคาบได้ความรุ้
❤ຕິດຕາມຟັງ ທ່ານເລົ່າລະອຽດດີ
โลกทั้งผองพี่น้องกัน มหาตมะคานธี
ເຂຕແດນກຸງສີສັຕະນາຄຄະຣະຫຸດກັບກຸງສີອາຍຸທທະຍາ ພຣະເຈົ້າພາ້ງົ່ມແຫ່ງລາ້ນຊາ້ງກັບພຣະເຈົ້າອູທອງແຫ່ງລາ້ນເພັຍ ທັງສອງໄດ້ແບ່ງເຂຕແດນກັນແຕ່ນັ້ນມາຄືດົງພະຍາໄຟ
ขอบคุณหลายๆเด้อครับที่ได้นำเอาประวัติ
ศาสตร์มาบอกมาเล่าเผยแผ่ให้คนรู้จักเดียวนี้คนรุ่นใหม่บ่ค่อยอยากสิศึกษาปานใด๋แล้วคันมีกะมีหน่อยครับ
จารย์แก้ว..บรม
ขอบคุณมากจ้า...🥰😍😻
คลิปนี้น่าสนใจ ควรเรียนรู้และจดจำครับขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลยอดเยี่ยมมากครับ
ต้องศึกษาให้มากกว่านี้ ที่พูดมาเป็นยุกที่คนไทยกระไดได้อบพยบเข้ามาที่อยู่อีสานแล้ว อายุไม่กี่ปีมานี้เอง แต่ก่อนนี้ไม่เคยมีลานนาและล้านช้าง ไม่เคยมีหลวงพระบาง เวียงจันทร์ และจำปาสัก และเมืองต่างๆ เหมื่อนทุกวันนี้
ประวัติศาสตร์มีหลายชั้น การนำเสนอก็บอกนี่ครับว่า กำเนิดหัวเมืองสำคัญของอิสาน หากย้อนไปยุคฟูนัน หรือเจนละ ตลอดจนยุคหินเก่าหินใหม่ เมืองหรือผู้คนที่กล่าวถึงในคลิป ก็คงไม่รู้เป็นผุยผงอยู่ที่ไหน ในคลิปก็บอกว่าเป็นการนำเสนอประวัติตำนานพงศาวดารอีสาน อย่างไรก็ขอบคุณนะครับที่ติชม ด้วยความเคารพครับ
เพิ่นเว้าเรื่อง300-400ที่ชาวล้านซ้างสู่อีสาน บ่ใด่เว้าเรื่อง 2-3พันปีเนาะ
❤❤รักเสมอ❤❤
ลาวจงเจริญ
เจริญแนวได๋ใกล้สิถืกยึดประเทศแล้ว🤣🤣🤣
ขออนุโมทนาบุญทุกประการ
เยี่ยมครับ
ไทยกว้างใหญ่แต่ต้องเสียดินแดนยุคล่าอณานิคมของตะวันตก มันกว้างใหญ่เกินกำลังที่จะรักษาไว้ได้ เหมือนรัสเชียใหญ่เกินจนปกครองลำบากสุดท้ายก็แตก
❤ติดตามครับ❤
👍👍👍👍
ประวัติของขอนแก่น มันผิด
ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงต้องไปดู
ประวัติเมืองชลบถวิบูลย์
เพราะเป็นเมืองใหญ่ มาก่อนเมืองขอนแก่น
ในประวัติศาสตร์ เมืองอุบล
ลูกหลานเจ้าแก้วมงคล ก็เป็นเพียงขี้ข้าของเจ้าเมืองอุบล เท่านั้น
เจ้าอุ่น เป็น แม่ทัพฝ่ายหน้า
เจ้าชม เป็นรองแม่ทัพหน้า
เจ้าเชียง แม่ทัพฝ่ายหลัง
เจ้าสูน เป็นรองแม่ทัพหลัง
เจ้าสีลัง เป็นกองเสบียง
รับใช้เจ้านายเมืองอุบลราชธานี
เจ้าคำผง ทรงประทานดินแดนล่ะผู้คนให้ แม่ทัพ เหล่านี้ไปปกครอง
และ ให้เมือง
สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ
ส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวาย
เจ้าเมืองอุบลราชธานี
ทุกๆ3ปี
แต่ผมสงสัย ทำไมวังเจ้าเมืองศรีสะเกษ ถึงใหญ่โตหรูหรากว่า วังเจ้าเมืองอุบลราชธานี
ขี้ข้า จะมีบ้านหลังใหญ่กว่า เจ้านาย มันเป็นไปได้หรอ
ประวัติเขียนขึ้นเอาเองนะ 5555 บ่เคยใด่ยินเกี่ยวข้องกับอุบลจักเที่ยเดิก
อุบลใหญ่โตมาแต่ไส เมียงอื่นคือสิได้ส่งบรรณาการให้ ทุกเมียงขึ้นตรงกับกรุงเทพคือกันเบิด เขาใซ้หยังกะต้องเฮ็ด เป็นลาวบ้านแตกคือกันเบิด อย่าเสียเส้น
แม่นคับ ผมคนร้อยเอ็ด
ใครสน
เมืองน่าน ปัจจุบัน ไม่น่าจะเป็นจังหวัดน่าน
ลูกท่านไปครองครับ
เจ้าเมืองน่านในปัจจุบันสมัยก่อนครองเมืองเชียงใหม่ ครับ
เจ้าพระยาหลวงติ๋มมหาวงศ์ เจ้านครเชียงใหม่ มาครองเมืองน่าน หลังจากลูกเจ้าแก้ว ปกครอง
ร่องรอยที่น่าสังเกตทางประวัติศาสตร์ เเละสิ่งที่ปรากฎจากหลักฐาน เอกสารต่างๆ ที่มีความไม่ปะติดปะต่อกัน หากนำมาต่อจิ๊กซอว์ให้ปะติดปะต่อกัน ก็จะพบร่องรอยที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะช่วงปีพ.ศ.ที่สอดคล้องใกล้เคียงกันกับความเป็นไปได้ ดังนี้ น่านในยุคภายใต้การปกครองของพม่าก่อนยุคหลวงติ๋นมหาวงศ์ น่านในบางยุคในบางสมัยมีเจ้าผู้ครองนครร่วมกันปกครองกันอยู่2ท่าน โดยเฉพาะยุคที่ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ในเอกสารประวัติทางเมืองน่าน ในราวพ.ศ. 2232 ระบุว่า พระเมืองราชาเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 47 ได้คิดคบกับลาวแสนแก้วแข็งเมืองต่อพม่าโดยร่วมมือกับลาวเเสนเเก้ว ลาวเเสนเเก้ว จึงน่าจะเป็น เจ้าเเสนเเก้วบรม หรือเจ้าจารย์เเก้วเจ้าชายจากนครหลวงเวียงจันทน์ ในช่วงนั้นเจ้าเเก้วมงคล อายุได้ประมาณ 48 ขวบ เพราะจารย์เเก้วเกิดปีพ.ศ.2184 เจ้าองค์หล่อหน่อคำ (ที่เมืองน่านท่านอาจจะใช้ชื่ออื่นเเทน) ลูกชายคนโตของเจ้าเเก้วมงคลกับเจ้าหญิงนครน่านจึงน่าจะโตเป็นหนุ่มเเล้ว จึงน่าจะปกครองเมืองน่านร่วมกันกับเสด็จตาได้เเล้วในช่วงสมัยนี้ คือระหว่างปีพ.ศ. 2232 - พ.ศ. 2246 หลังปีพ.ศ.2246 นครน่านก็เป็นเมืองร้างเพราะโดนพม่าทำลาย พระเมืองราชา จึงอพยพหลบหนีไปยังล้านช้างเเละอยุธยาตามลำดับ เเละจากหลักฐานพงสาวดารอีสาน ฉะบับเหลา ณ ร้อยเอ็ด ก็มีการระบุว่าเจ้าองค์หล่อหน่อคำ หลานเจ้านครน่านคนเก่าได้มาปลงพระศพพระบิดาหรือเจ้าเเก้วมงคล ที่เมืองท่ง ร่วมกันกับน้องชายคือเจ้ามืดคำดลเจ้าเมืองท่งท่านที่2 ผู้เป็นน้องชาย ในปีพ.ศ. 2268 หลังปลงพระศพเสร็จสิ้น เจ้าองค์หล่อหน่อคำก็ลาน้องชายกลับไปยังเมืองน่านตามเดิม จึงเข้าใจได้อีกว่าเมืองน่านเเม้จะเป็นเมืองร้างถูกพม่า ทำลายเเละกวาดต้อนหลายรอบเเต่กลุ่มผู้อยู่อาศัยเเต่เดิม ที่พลัดพรากทั้งถูกกวาดต้อนหรือหลบหนีภัยจากบ้านเมืองตน ก็ยังคงมีบางส่วนที่มีความพยายามกลับไปอาศัยอยู่ถิ่นฐานเดิมของตนอยู่ กรณีเจ้าองค์หล่อหน่อคำก็น่าจะด้วยเช่นกัน
@@ขิงไรอ่ะ ใช้ครับ
เจ้าหน่อคำ เจ้าเมืองน่าน เกิดก่อน ยุค3อาณาจักร 7แคว้น อีก
มี ถนนหน่อคำ อยู่
ก่อนยุค เจ้าพระยาหลวงติ๋มมหาวงศ์
เมืองน่าน เป็นรัฐเล็กๆ มีเพียงผู้รั้งเมือง
คือ พระยานาขวา พระยานาซ้าย
พระยานาขวา บ้านฝ่ายแก้ว
ถูกสถาปนา เป็นเจ้าหลวง ในตอนนั้น
เกรงว่าบารมีของตนจะไม่พอ
ประชาชนล้านนา จะไม่เคารพ
จึงได้ไป อันเชิญ พระเจ้าเชียงใหม่
เจ้าหลวงติ๋มมหาวงศ์ เจ้าเมืองเชียงใหม่
มาครองเมืองน่าน
มากล่าวถึง เจ้าแก้วมงคล
ตอนนั้นพระองค์ยัง เรร่อน อยู่ครับ
8เดือน กว่าจะไปถึง นครกาลจำบาก
หากนับ อายุของเจ้าหน้ากษัตริย์
การเดินทาง 25ปี กว่าจะได้ครองเมือง
เดือนที่8 เจ้านางแพงเทวี ได้ถวายราชสมบัติ ให้ พระครูโพนเสม็ด ขึ้นเป็น พระมหากษัตริย์
พระครูโพดเสม็ด ครองราชย์สมบัติ25ปี
บ้านเมืองวุ่นวาย
พระครู จึงให้ พระอาจารย์แก้ว ลาสิกขา
ไปอัญเชิญ เจ้าหน่อกษัตริย์ จากนครพนม
มาเป็น พระมหากษัตริย์แทน
สรงน้ำมุรทาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์
ในตอนนั้น ชื่อ เจ้าหน่อกษัตริย์ เจ้าแคว้นกาลจำบาก
ได้ ให้ ตากะจะ เจ้าเมืองอัตตะปือ เกณฑ์
ไพร่พล กูย ไปช่วยรบกับเวียงจันทน์
ช้าง200 คนเดินเท้า3,000
ตี เมืองนครพนมแตก
พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่2แห่งเวียงจันทน์
กลัวทาง เจ้ากิ่งกิสราช หลวงพระบาง
และ เจ้าองค์ลอง เมืองพวน
จะมาดี ไม่มีกำลังพอที่จะ ไปช่วยนครพนม
จึงยอมให้ กาลจำบากเป็นเอกราช
เจ้าหน้ากษัตริย์ สร้างหอโฮง ตามราชประเพณี และ บรมราชาภิเษกครั้งที่2
เปลี่ยนนามเป็น
สมเด็จพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร
เปลี่ยนนามเมือง เป็น นครจำปาศักดิ์นัคบุรีศรี
จากนั้น จึงตั้ง เจ้าเมือง
1เจ้าแก้ว ครองเมืองท่ง (ร้อยเอ็ด)
2เจ้าเชียง ครองศรีนครเขต (ศรีสะเกษ)
3เจ้าจันทร ครองหลวงโพนสิม(สะหวันนะเขต)
4เจ้าหวด ครองศรีทันทร
5ท้าวสุด ครองเชียงแตง
7ท้าวมั่น ครองสาละวัน
8ท้าวโคตร บุตรพระละงุม ครองโขงเจียม
ตากะจะ เจ้าเมืองอัตตะปือ เชียงปุม เจ้าเมืองแสนปาง
ทนไม่ไหว จึงอพยพไพร่พลหนี เพราะถวายบรรณาการ เยอะมาก
ก่อน กำเนิด เมืองขุขันธ์ สุรินทร์ สังขะ รัตนบุรี ศรีขรภูมิ พรหมขัน จังกล กันทรลักษ์ กันทรารมย์ อุทุมพรพิสัย
ไปขึ้นกับ อยุธยาแทน
ล้านช้าง
1เวียงจันทร์
2หลวงพระบาง
3เชียงขวาง
4จำปาศักดิ์
5สุวรรณภูมิ
6นครเขื่อนขันธ์
7หัวพัน5ทั้ง6
8ศรีสะเกษ (ไม่ทันได้เกิด ก็ดับเสียก่อน เหตุที่ พระเจ้าไชยกุมาร ให้พระยาโพธิสาร ยกทัพมาตี ศรีสะเกษ จับ เจ้าเมืองไป เป็นแรงงาน ศรีสะเกษ คงจักตั้งตัวเป็นเอกราช เหมือนกัน และไม่ขึ้นกับเมืองใด จึงทำให้ ง่ายต่อการตี
ผม สงสัยว่า เมืองท่ง แยกตัว ทำไม
เจ้าไชยกุมาร ถึงไม่ตี มาตีศรีสะเกษ
หรือเพราะ ทำอะไรเมืองท่ง ไม่ได้)
@@ขิงไรอ่ะ
จากนั้น สังเกตว่า
จารย์ศรีธรรมา บุตร จารย์เซียง
เจ้าเมืองศรีนครเขต
ได้ แต่งงานกับ เจ้านางวันนา ธิดา
เจ้ามืดคำดล
นี้อาจเป็น สาเหตุ ที่ เจ้าไชยกุมาร
ยกทัพมาตี ศรีสะเกษ หรือ ศรีนครเขต
ก็เป็นได้ เพราะ เจ้ามืด ไม่ทรงบรรณาการ การที่จับ เจ้าศรีธรรมมา
กับเจ้านางวันนา
มาอยู่จำปาศักดิ์ ทำให้ เมืองท่ง
ยอมส่งบรรณาการ
สังเกต ตรง เจ้าอุ่น
บุตรเจ้ามืดคำดล มีปัญหา กับ
ท้าวบุญจันทร์ เจ้าเมืองขุขันธ์ บุตรเจ้านางคำเวียง แห่งเวียงจันทน์
ท่าน ท่านมีกำลังคน3,000คน หนีมาสร้างเมือง ศรีสะเกษขึ้น
ได้รับราชทินนามว่า
พระยารัตนวงษา เจ้าเมืองศรีสะเกษ
หรือ อดีตเมืองศรีนครเขต เดิม
เป็น เจ้าเมืองระดับพระยา
คนเดียวใน ศรีสะเกษ ที่ได้รับราชทินนามนี้