ประธานดิสนีย์ประกาศ ' โฟกัสเรื่องคุณภาพ ' ลดปริมาณหนังและซีรีส์ต่อปี [ Viewfinder : MCU ]

ประธานดิสนีย์ประกาศ ' โฟกัสเรื่องคุณภาพ ' ลดปริมาณหนังและซีรีส์ต่อปี [ Viewfinder : MCU ]
ติดตามเรื่องราวของ Viewfinder ทาง
/ viewfinderfanpage
#mcu #marvelstudios #viewfinder

[@ScoopViewfinder]

จะดู ' แสบจารชนคนพลิกโลก ' ต้องตั้งโหมดไหนดี ? th-cam.com/video/374YvAaSlFw/w-d-xo.htmlsi=vWDZLbEpkviSl_Ue

[@paulmason3779]

เรื่องการโหนใยของ Spiderman ผมยกให้ เวอร์ชั่น Amazing ทั้ง 2 ภาคเลยคับ เป็นภาคที่การยิง-โหนใยสมจริงที่สุดและชอบที่สุดคับ

[@shannarong3475]

ผมว่าจะถ้าเอาหนัง 3 ซีรีส์ 2 ต่อปี มันก็เยอะเกินไปอยู่ดีนะ เพราะรวมกันก็เท่ากับว่ามีมาร์เวล 5 เรื่องต่อปีเลย ยังไม่นับรวมของโซนี่นะ ในยุคขาลงหนังฮีโร่แบบนี้ ผมคิดว่าสักหนัง 2 ซีรีส์ 1 น่าจะดีที่สุด มันต้องเว้นช่วงนานๆหน่อยให้คนดูคิดถึงและเกิดความอยากดูต่อ และเหนือสิ่งอื่นใด คุณภาพของหนังและซีรีส์ที่ทำออกมาต้องอยู่ในมาตรฐานที่ดีด้วย

[@slotTHmobile]

ดิสนีย์โวค ต้องหยุดwokeก่อนครับ
Star wars กลายเป็น star woke
จักรวาลมาเวล กลายเป็น จักรวาลมาโวค
เพราะด้วยโวคด้วยการยัดเยียดให้คนดูเกินไปจนเสียสมดุลจากความน่าจะเป็น ไร้ซึ่งเหตุและผลของความเป็นไปได้ของตัวละครในเรื่อง

[@pumphoom]

เดี๋ยวนี้ผู้กำกับและดิสนีย์ลืมกันไปหมดแล้ว ว่าการทำหนังให้สนุกมันทำยังไง มาตรฐานตกลงเรื่อยๆ มักง่ายขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มจะแก้ไขถูกทางแล้วละ เมสเซจให้ผู้คนอะไรนั้นไม่ต้องมีหรอก คุมเข้มมาตรฐานของตัวเองให้ดีด้วยละกัน

[@TheBlackople]

เห็นด้วยเลยครับว่า เขาจะประกาศทำไมว่าจะทำหนังออกมา2-3เรื่องต่อปี เหมือนคราวที่แล้วที่ประกาศว่าจะผลิตแต่หนังที่ทำเงิน กัปตันมาเวลภาคแรกก็ทำเงินนะ เลยได้ทำภาคต่ออย่าง เดอะมาเวล แล้วผลที่ได้คือเละ ไม่มีอะไรการันตีว่าหนังภาคก่อนทำเงินแล้วภาคต่อจะต้องทำเงินได้เหมือนกัน สิ่งที่ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเพราะทีมบริหารแสดงวิสัยทัศน์แบบงงๆ เขามองถึงปัญหาที่แท้จริงไม่ออกหรือมองออกแต่ไม่กล้าออกมายอมรับว่านั่นคือปัญหาหรือความผิดที่แท้จริง กลัวยิ่งทำให้นักลงทุนหนีหายหนักกว่าเดิม ลดปริมาณและเน้นคุณภาพอะใช่ แต่คุณภาพที่เขาพูดถึงเขาเข้าใจมันจริงๆหรือเปล่าว่าคุณภาพที่คนดูต้องการคืออะไร ไม่แปลกที่นักลงทุนจะรู้สึกไม่มั่นใจกับการแสดงวิสัยทัศน์ เหมือนออกมาพูดแก้ขัดไปก่อน สิ่งที่เขาควรจะแก้ปัญหาจริงๆคือพฤติกรรมคนดูที่ไหลออกจากโรงหนังไปรอดูหนังในสตรีมมิ่งแทน แล้วดิสนีย์เหมือนจับปลาสองมือ จะทำทั้งหนังโรงด้วย จะเน้นขายสตรีมมิ่งด้วย บางคนเขาก็ซื้อดิสนีย์พลัสแล้วรอดูหนังหลุดจากโรงแทน ยุคหลังโควิดหรือหลัง อเวนเจอร์4 มันคาบเกี่ยวพอดีกับช่วงโควิดที่ทำให้สตรีมมิ่งเริ่มบูมหนัก สิ่งที่เขาควรแสดงวิสัยทัศน์คือการจะกระตุ้นหรือทำยังไงให้คนกลับมาสนใจดูหนังของค่ายเขาในโรงมากกว่า อย่าว่าแต่เรื่องคุณภาพเลย ต่อให้สมมุต ค่ายมาเวลมาแจ้งเกิดหลังยุคโควิด เพิ่งทำไอร่อนแมน อเวนเจอร์ อะไรออกมาฉายในยุคนี้เนี่ย รายได้จากการฉายโรงมันก็ไม่เยอะเท่ายุคก่อนโควิด ตัวแปรสำคัญที่นอกจากเนื้อหาหรือคุณภาพของเนื้อเรื่องของหนัง คือ พฤติกรรมคนดูที่มีต่อการดูหนังในโรงกับดูในสตรีมมิ่ง หนังไม่ว่าจะยุคก่อนหรือยุคนี้มันก็มีทั้งเรื่องที่น่าดูและไม่น่าดู ต้นทุน ปัจจัยเงินเฟ้อ ราคาตั๋วหนังที่แพงขึ้น ปริมาณคนดูในโรงที่ลดลง ต่อให้ทำหนังออกมาดีน่าดู ไม่ได้แปลว่าคนจะดูในโรงเยอะทำรายได้เยอะเหมือนแต่ก่อนเพราะมันก็มีคนที่รอดูในสตรีมมิ่งแทนด้วยเช่นกัน
คุณภาพที่ผู้บริหารดิสนีย์ในมุมมองของผมที่อยากให้เขาเข้าใจจริงๆคือ การใช้ทุนสร้างที่ลดลงแต่ด้วยทุนที่จำกัดนั้นได้คุณภาพที่สูงขึ้น ถ้าเขาลดต้นทุนลงแต่ยังคงทำหนังออกมาได้ดีได้สนุก ยังไงก็ไม่ขาดทุน แต่ทำยังไงจะให้ได้หนังที่มีคุณภาพแม้ต้นทุนไม่เยอะนี่แหละ ต้องหาผู้กำกับ ทีมงาน นักแสดงที่มีคุณภาพ โอกาสที่นักแสดงบิ๊กเนมจะกลับมาแสดงบทเดิมจะเริ่มยากยิ่งถ้าเรียกค่าตัวสูงคงไม่เอา แต่จะทำยังไงให้ใช้นักแสดงใหม่แต่คุณภาพไม่ลดลง ไม่ใช่งบฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ฉากที่ไม่จำเป็น การทำCGที่บางฉากไม่ต้องใช้ก็ได้ถ้าได้ทีมทำสเปเชี่ยลเอฟเฟคเก่งๆ ถ้าเขาคิดว่าคุณภาพคือใช้ผู้กำกับบิ๊กเนม นักแสดงบิ๊กเนม ทุนสร้างเยอะๆทำCGIเยอะๆ แล้วด้วยผลลัพธ์รายได้จะออกมาเยอะเหมือนแต่ก่อนเอง ผมว่ายังไงก็ไม่น่ารอด ควรใช้งบหรือทุนสร้างอย่างมีประสิทธิภาพลงทุนก้อนโตเท่าที่จำเป็น ถ้าต้องใช้นักแสดงบิ๊กเนมก็ต้องใช้เท่าที่จำเป็น ยิ่งถ้าใช้ทุนสร้างเยอะโอกาสขาดทุนก็จะเยอะตามไปด้วย มันไม่ใช่แค่ว่าลดปริมาณคอนเทนท์ลงเพื่อเอาทุนจาก2-3เรื่องมารวมกันสร้างเรื่องเดียวแบบยิ่งใหญ่อลังกาลแล้วจบ

[@Kalijong-gp8er]

อยากดูการ์ตูนดิสนี่เพลงเพราะๆแบบfrozen กับโมอาน่ามาก หลังๆเพลงไม่ค่อยเริ่ดเลย😅

[@sushestongdaung6459]

ใช่เลย

[@phongthonbenchawong7640]

woke เยอะๆครับ จะได้เจ๊ง ไวๆ

[@brinschanta2284]

เห็นแกพูดแบบนี้มา 5 - 6 รอบแล้วมั๊ง
....ไม่เห็นจะทำอย่างว่าเลย woke หนักขึ้นเรื่อยๆล่ะไม่ว่า

[@chanathip6033]

Disney กับ มาเวล ผมมองว่าอาจจะพลาดจุดใหญ่จุดนึงเลยคือ การสร้างซีรี่ย์ลงแพตลฟอร์มสตรีมมิ่งอะ มันทำให้คนดูแฟนคลับ หลายคนเข้าไม่ถึง แฟนคลับหลายคนที่ไม่ได้ตามดูในซีรี่ย์เลยไม่อยากพลอยดูหนังโรงไปด้วยเลย

[@chanathip6033]

คนไม่ได้เบื่อหนังฮีโร่มากมายเยอะหรอกครับ คนดูเบื่อกับคุณภาพและเนื้อหาที่มีให้เยอะจนเกินไป บางเรื่องยัดเยียดจนคุณภาพมันต่ำเกิน

[@chanathip6033]

ทำตัวเองล้วนๆ มาเวล

[@chanathip6033]

ละก็ พอหนังออกมา คนที่มีดิสนีย์พลัส เขาก็ไม่อยากดูหนังในโรงแล้ว ถ้าไม่ดีจริง

[@oosto89]

แต่ก่อนคนทำมาเวลมีแต่คนทำหนังเป็นแต่ไม่มีเงิน ก้อเลยทำยังไงใช้เงินน้อยแต่ทำหนังดีได้ แต่พอ มาเวลมาอยู่ในมือคนมีเงินทำหนัง(ดิสนี่) มีแต่เงินแต่ทำหนังไม่เป็นใช้แต่บุญเก่าที่ตัวเองไม่ได้สร้างมา จุดลงเอย มันก้อมาเป็นแบบที่เราเห็นทุกวันนี้แหละครับ ใช้แต่ทุนใช้แต่วิชาการตลาดเพื่อหาเงิน แต่ขาดจิตวิณญาณของคนทำหนัง ก้อเละเทะแบบนี้ล่ะ มาเวลในกุมมือดิสนี่ โลกสวยหลอกเด็กไปวันๆ😂😂😂

[@sushestongdaung6459]

ไม่กล้าเล่นเยอะครับดีสนี่มันเปราะบางเกินไป หลังๆบทเดิมๆบางๆ เน้นกลุ่มคนหลากหลาย เน้นโลกสวย เปลี่ยนฮีโร่เป็นมิกกี้เมาร์ซะ

[@Valkerion-xe1zt]

จอน วัต พูดมีเหตุผล ผผกบางคนมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญใช้ cg แก้ปัญหาก็จบ แต่อย่าลืมว่าฉากโหนใยกับสไปเดอร์แมนมันเป็นของคู่กัน ควรใช่ใจรายละเอียดตรงจุดนี้จริงๆ

[@ZaTimeZa]

โฟกัสเรื่องคนคุณภาพ เมื่อมีคนที่มีคุณภาพก็จะเกิดงานที่มีคุณภาพ เพราะคนที่มีคุณภาพคนเดียว ดีกว่าคนไร้คุณภาพทั้งทีม เพราะเรื่องบุคลากรเสริมและทุนทรัพย์มันไม่ขาดไม่พร่องอยู่แล้ว ง่ายๆ คือเฉดหัวEพวกนั้นออกเพื่อเป็นความรับผิดชอบต่อความผิดพลาด
แล้วปัญหาของสไปเดอร์แอนจริงๆ เราคิดว่ามีส่วนหนึ่งที่มีผลต่อผู้บริหารเลยก็คือ ดิสนี่ต้องแบ่งส่วนแบ่งให้โซนี่ไง ขนาดส่วนแบ่งโรงหนังดิสนี่ยังเอาตั้ง60-70เปอร์ได้เลย แล้วต้องมาแบ่งให้โซนี่ตั้งหลายร้อยล้าน โอ้ย บอร์ดผู้บริหารเครียด

[@XionSpirit614]

แกประกาศเพราะว่าก่อนหน้านี้เคยประกาศไว้เมื่อนานมาแล้วว่า ปีละ 4 เรื่อง ช่วงที่หนัง super hero มัน hype มากๆ แต่ตอนนี้ก็มาประกาศลดเหลือ 3

[@ksersthapinc4929]

ขอเรื่อง Paramount Pictures ด้วยคับขายให้บริษัทไหน

[@kjmghkaijumostersgianthero5202]

Sony จะซื้อครับ

[@RukNaDexNko]

หลังๆเอาใครมากำกับก็ไม่รู้ ลองเอาเบอร์ใหญ่ๆมากำกับเพื่อเรียกศรัทธากลับมาก่อนสิ อย่างเจม คาเมร่อน หรือโนแลน คนดูแน่นอน ถ้าไม่ได้สองคนนั้น แนะนำ พจ อานน😊😊😊

[@user-uo9ln4it6h]

โนแลน scared นะครับอานน

[@lunaticgamer4320]

ตั้งแต่หมดหนัง Marvel Phage 1 คุณภาพ CG ก็ดร็อปลง ไม่รู้เพราะมักง่ายคิดว่าใช้ CG แบบนี้ก็ขายได้รึป่าว เลยทำแบบนี้ ดูถูกคนดูสุดๆ

[@kohch2151]

แล้วแต่ท่านเดี๋ยวคนดูเป็นคนตัดสินเอง😂

[@Pandapo7777]

1 เลิกwoke
2 คัดนักแสดงตามจินตนาการจิง เงือกดำต้องไม่มีอีก ( กัปตันอเมริกาตัวดำด้วย )
3 marvel เลิก Multiverse มันมั่วเกินไป
4 marvel reboot Saga ใหม่

[@shannarong3475]

55555 กัปตันอเมริกาผิวดำก็มีตั้งแต่ในคอมมิคแล้วครับ ใจเย็นๆครับ

[@aluv487]

จริงดิ ??

[@Pond_199x]

ก็ในคอมมิคกัปตันอเมริกาก็มีผิวดำครับ ไม่ได้มีกัปตันอเมริกาคนเดียวครับ ฟาวคอลก็เป็นกัปตัน แต่เงือกแอเรียลผิวดำนี่ผมรับไม่ได้จริงๆ หนังขาดทุนก็ไม่แปลก เฮี้ยเกินรับไหวจริงๆ

[@waroonh4291]

ปรกติทำหนังเค้าไม่ สั่งปุ๊บ ถ่าย ๆ ตัด ๆ ได้ปั๊บหลอกครับ ผมให้ สั่งวันนี้ ออกอีก สามปีหน้า เพราะงั้น สามปีนี้ woke เละเหมือนเดิม (ถ้าแก้ได้จริง ไม่ใช่เน้นคุณภาพความ woke ให้เข้มข้นขึ้นนะครับ)

[@minitigersathome]

เลิก woke ก่อนนะ disney

[@lokivariants]

น้องซันเสียแล้วนะครับ

[@shannarong3475]

น่าจะยากครับ ปีก่อนบาร์บี้ยังได้ไปตั้งพันกว่าล้าน เดาว่าต่อไปดิสนีย์มันคงเอาเป็นเยี่ยงอย่างนั่นแหละ แบบว่า woke เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือพยายามทำหนังให้มีคุณภาพขึ้น

[@Valkerion-xe1zt]

Woke ได้ แต่ต้องใช้ให้ถูก ไม่ใช่ยัดเยียดเหมือนที่ผ่านมา

[@Aeff1342]

Disney:มั่ย คนดูต่างหากที่ต้องเลิกเหยียดผิว เหยียดเพศ>:(

[@MrJigKy]

@@Aeff1342จุดประสงค์ดี แต่ขาดซึ่งวิธีการที่ดี มันก็ต้องยอมรับนะครับ

[@thanaphatkhamjatturat2966]

ดีสนีย์เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว
มีอต่หนังภาคต่อไม่ก็รีเมค

[@666AmErrOR666]

มันเยอะเกินไป ทั้งหนัง ทั่งซีรีย์ มันดูกันจนเบื่อ คนดูเค้าเริ่มเบื่อ หนังซุปเปอร์ฮีโร่ไปโดยปริยาย

[@user-bl7wg6il2y]

ควรคิดได้ตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมา หนังแฟรนไชส์ คิดว่าคนดูเป็นของตาย คิดจะทำอะไรก็ทำ ไม่แคร์คนดู

[@user-uu6pv5dx3y]

ลดการ WOKE มันยัดเยียด ไม่ใช่ รณรงค์

[@yytt3571]

อยากให้ดิสนีย์เลิกทำไลต์แอคชั่นหั่นไปทำเรื่องราวใหม่เลย

[@pleter085]

อเมซิ่ง โหนไยสวย สุดละ

[@Mimi-zb3qb]

DISNEY:ไม่เลิก woke ค่ะ ฉันมีสวนสนุกอยู่ไม่แคร์ค่ะ

[@alternas9295]

Woke เยอะก็เตรียมโดนตาเจมส์ กันน์ กระซวกไส้ไหลได้เลย DC เขากำลังจะมาแล้ว

[@gasha0598]

woke ไม่woke ผมไม่ค่อยสนใจนะ แต่จุดขาย ความโดดเด่น ครีเอท อเมริกันดรีม หายไปเยอะมากๆๆ เหมือนทำหนังให้คนบางกลุ่ม ที่ทำเหมือนจะเสพแต่จริงๆไม่เสพแทน เกาหลีนจะนำไปไกลละ

[@athiwatphiokhao6217]

โฟกัสเรื่องคุณภาพ ไปดูงาน A24 ครับ

[@946auto]

[@mikoone033]

เอาผู้กำกับดีๆ ที่มี แพทชั่น เหมือนพี่น้อง รุสโส ที่เป็นแฟนบอย กัปตัน ไม่ใช่เอาผู้กำกับ อินดี้มาทำ และเน้นความสนุกก่อน woke ไว้สุดท้ายเลย

[@mossimoj8663]

woke ต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรู้กัน หึๆ

[@panfahswattanasri5708]

The amazing spider man คือโหนใยสวยที่สุดแล้วครับ❤

[@silawunwisa5659]

ไครเป็นคนเก็บใยที่สไปเดอร์แมนใช้ทิ้งๆไว้ครับ บางครั้งโหนกลางสี่แยก ก็ตัดใยทิ้ง ไม่ตกไปพันรถชาวบ้านแย่หรอ

[@user-cl8yk1jy9y]

ไม่เจ๊งก็แปลกครับหนังการ์ตูนทำดีพอมาทำไลค์แอพชั่นเรื่องหลังๆไม่ยึดต้นฉบับส่วนในเคลือมาเวลไม่มีตัวหลักกระจายเกินและดันแต่ผู้หญิง.เมื่อก่อนจะกระจายขนาดไหนก็มีแกรนหลักไอรอนแมนกัปตัน.หนังควรเอาอเวนเจอเข้ามาชี้นำแกนหลักก่อนครับ...

[@Laddawan_twtte_laddawan4456]

เลิกโวค คะง่ายๆ