ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อ เจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงที่ให้ธรรมทาน กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ🙏
กราบสาธุครับ
กราบสาธุสาธุค่ะหลวงพ่อ
/ดูใจของตัวเอง/เวลาโกรธไม่ต้องไปดูคนที่ทำให้เราโกรธนะแต่ดูใจที่กำลังโกรธ “ดูใจของตัวเอง”คอยดูไป คนอื่นยังไงก็ช่างเขานะไปฝึกอย่างนี้เรื่อยๆ.หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชวัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ระหว่างนาทีที่ ๓๑:๕๘ - ๓๒:๑๑
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ.🙏🙏
ถูกทุกอย่างเลยหลวงพ่อ
/เรียนสิ่งที่เป็นคู่ๆนะจนกระทั่งเห็นว่าทั้ง ๒ ด้านทั้งด้านดี ด้านชั่ว ด้านสุข ด้านทุกข์ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้น/สิ่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายเนี่ยมันเท่าเทียมกันความสุขกับความทุกข์มันเท่าเทียมกันด้วยความเป็นไตรลักษณ์ หมายความว่าความสุขก็ไม่เที่ยง ความทุกข์ก็ไม่เที่ยงนะความสุขก็บังคับไม่ได้ ความทุกข์ก็บังคับไม่ได้หรือความดีความชั่วก็เป็นของเป็นคู่ๆกันนะก็บังคับไม่ได้ เกิดดับหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปเนี่ยพอใจมันมีปัญญานะมันรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเท่าเทียมกันสภาวธรรมที่เป็นคู่ๆนั้นเท่าเทียมกัน(ด้วยความเป็นไตรลักษณ์)สิ่งที่เป็นคู่ๆก็มีเยอะแยะ เช่นหายใจออกกับหายใจเข้า ก็เป็นคู่กันยืนเดินนั่งนอนก็เป็นคู่กันบางคนบอกทำไมมันมี ๔ อัน มันเป็นคู่ได้ยังไงคำว่าคู่นี้หมายถึง มีภาคี มีการเปรียบเทียบได้นะเปรียบเทียบได้อย่างยืนเดินนั่งนอน ๔ อิริยาบถก็ถือว่าเป็นธรรมคู่ เป็นธรรมที่เปรียบเทียบได้ยืนก็ไม่เหมือนกับเดิน ไม่เหมือนกับนั่งไม่เหมือนกับนอนอย่างนี้ แต่ละตัวไม่เหมือนกันมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวยืน เดี๋ยวเดินเดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวนอน ดูอย่างนี้ก็ได้ดูหายใจออกหายใจเข้าก็เป็นคู่ได้ดูสุขดูทุกข์ก็เป็นคู่ได้หรือเราเป็นคนขี้โกรธ คู่ที่เราจะใช้ดูสำหรับคนขี้โกรธก็คือมีความโกรธเกิดขึ้นก็รู้ ความโกรธหายไปก็รู้จิตที่โกรธกับจิตที่ไม่โกรธนะ เป็นคู่หนึ่งถ้าเราขี้โลภ เราก็ดูจิตที่โลภกับจิตไม่โลภเราเป็นคนหลงเก่งก็ไปดูจิตที่หลง กับจิตที่ไม่หลงคือจิตรู้เราเป็นคนฟุ้งซ่าน เราก็ดูคู่ของความฟุ้งซ่านคือความหดหู่ มันจะซึมนะพอช่วงไหนฟุ้งมากๆ อีกช่วงมันจะซึมไปดูเหอะ มันจะพลิกไปพลิกมาพอหายซึมก็ฟุ้งใหม่นะ หายซึมก็ฟุ้งใหม่เป็นคู่กันเนี่ยเรียนสิ่งที่เป็นคู่ๆนะจนกระทั่งเห็นว่าทั้ง ๒ ด้านทั้งด้านดี ด้านชั่ว ด้านสุข ด้านทุกข์ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้นเกิดแล้วดับทั้งสิ้น บังคับไม่ได้ถ้าปัญญาเรารู้แจ้งแทงตลอดว่าความปรุงแต่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายนี้เท่าเทียมกันด้วยความเป็นไตรลักษณ์ไม่เที่ยงเหมือนกัน เป็นทุกข์เป็นอนัตตาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต่อไปเวลาความสุขเกิดขึ้น จิตจะไม่หลงยินดีความทุกข์เกิดขึ้น จิตจะไม่หลงยินร้ายกุศลเกิดขึ้น จิตก็ไม่หลงยินดีอกุศลเกิดขึ้น จิตก็ไม่หลงยินร้ายจิตเข้าสู่ความเป็นกลางต่อความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงจิตเป็นกลางต่อธรรมะที่เป็นคู่ๆ.หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชวัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ระหว่างนาทีที่ ๐๓:๔๓ - ๐๖:๔๖
หนูทำตามหลวงพ่อบอก หลงไปคิดก็รู้คำพูดของหลวงพ่อผุดขึ้นมาใจเสมอ กราบสาธุค่ะ หลวงพ่อ
/(จิต) มันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆได้ เพราะมันตามรู้ตามเห็นสภาวะอันนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก/เมื่อจิตเป็นกลางแล้วนะ จิตจะไม่ดิ้นรนปรุงแต่งต่อความปรุงแต่งเกิดขึ้น จิตรู้ด้วยความเป็นกลางจิตไม่ปรุงต่อด้วยความยินดียินร้ายถ้าจิตไม่มีปัญญาเนี่ยจิตจะเกิดยินดีต่ออย่างหนึ่ง ยินร้ายต่ออีกอย่างหนึ่งในสิ่งที่เป็นคู่นะมันก็เลยมียินดีกับยินร้ายไปเรื่อยๆพอยินดีจิตก็ดิ้นรน ติดอกติดใจก็ดิ้นรนแสวงหาอยากให้มันมาอีกหรือมันมาแล้วสภาวะอันนั้นมาแล้วก็อยากให้มันอยู่นานๆ เนี่ยตัณหามันมีขึ้นมาถ้าไม่ชอบมัน ก็อยากให้มันหายไปสิ้นไปหรืออยากให้มันไม่เกิดขึ้นอีกนะนี่ก็คือตัณหา วิภวตัณหาอยากให้ไม่มี อยากให้ไม่เป็น เมื่อตัณหาเกิดขึ้น ความปรุงแต่งของจิตก็จะเกิดขึ้นอีกความปรุงแต่งก็คือการสร้างภพของจิตนั่นเองมีตัณหาเมื่อไรจิตก็สร้างภพ บางทีก็เป็นภพของนักปฏิบัติบางทีก็เป็นภพของพ่อ ภพของแม่ ภพของลูกนะภพของอาจารย์ ภพของนายจ้าง ภพของลูกจ้างสร้างภพขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็สร้างหน้ากากสร้างอะไรขึ้นมานะหลอกตัวเองไปเรื่อยๆเวลาเป็นคนดีก็ต้องทำมาดอย่างนี้นะเวลาเจอศัตรูเราต้องทำปั่นปึ่งใส่เชิดหน้าใส่อะไรอย่างนี้ ต้องแสดงเนี่ยใจมันปรุงไปเรื่อยๆนะมันไม่มีทางพ้นทุกข์หรอกเพราะมันปรุงแต่งไม่เลิกถ้าเมื่อไรจิตเข้าสู่ความเป็นกลางต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวงแล้วเนี่ยมันจะไม่หลงยินดี มันจะไม่หลงยินร้ายต่อสิ่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายทั้งปวงเมื่อไม่ยินดีไม่ยินร้ายก็จะไม่มีความปรุงแต่งต่อ ไม่มีความอยากเกิดขึ้นถึงจุดหนึ่งที่สติสมาธิปัญญาของเราพอ ศีลของเราดีจิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิโดยที่เราไม่ได้เจตนามันจะรวมของมันเองนะแล้วกระบวนการของอริยมรรคก็จะเกิดขึ้นทีนี้ตรงที่อริยมรรคเกิดขึ้นได้เนี่ยนะสติก็อัตโนมัติ สมาธิก็อัตโนมัติ ปัญญาก็อัตโนมัติอะไรๆอัตโนมัติหมดเลย ไม่ได้เจตนาถ้ามีเจตนานะ เจตนานี้ไม่ใช่เจตนาธรรมดาหรอกมันเป็นโลภะเจตนา สิ่งที่ตามมาก็คือการกระทำกรรมหรือการปรุงแต่งของจิตงั้นไม่สามารถพ้นจากวัฏฏะได้ จิตยังปรุงภพอยู่แต่ถ้าเมื่อไร สติ สมาธิ ปัญญาและองค์ธรรมฝ่ายกุศลนี้เกิดโดยอัตโนมัติไม่เจตนานะ ประชุมลงที่จิตดวงเดียวในขณะเดียวกันธรรมะจำนวนมากเรียก โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการนะเกิดขึ้นที่จิตดวงเดียวกันพร้อมๆกันในขณะเดียวกันนะจะเกิดพลังงานที่มหาศาล ทำลายล้างสังโยชน์คือกิเลสเบื้องลึกในจิตใจของเราได้พลังงานที่มหาศาลคือพลังของอริยมรรคอริยมรรคมี ๑ นะ มรรคนี้มี ๑ นะแต่มีองค์ประกอบจำนวนมากองค์ประกอบโดยตรงก็เรียก มรรคมีองค์ ๘ยังมีธรรมะฝ่ายดีมาเกิดร่วมด้วยอีกหลายตัวเรียกว่า โพธิปักขิยธรรม ธรรมะฝ่ายตรัสรู้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเพราะงั้นถ้าเรายังจงใจปฏิบัติอยู่ ยังไม่เกิดหรอกยังตั้งใจปฏิบัติอยู่ ยังไม่เกิดหรอกงั้นเวลาที่จะเกิดมรรคเกิดผลนี้ไม่ได้เจตนา เกิดโดยไม่ได้เจตนาถ้าจงใจให้เกิดมีเจตนาขึ้นมา จิตจะทำกรรมต่อนี่จิตมันหยุดความปรุงแต่ง เพราะมันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆทั้งหลายแหล่มันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆได้ เพราะมันตามรู้ตามเห็นสภาวะอันนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนรู้ความจริงว่าสภาวะทั้งหลายนั้น“ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” เสมอกันเท่าเทียมกันจิตก็จะหยุดความปรุงแต่งทกว่าจะถึงจุดนี้ได้ต้องดูแล้วดูอีกนะ ดูเนืองๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อยๆ ถึงจุดที่พอ เขาก็พอของเขาเอง.หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชวัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ระหว่างนาทีที่ ๐๖:๔๖ - ๑๑:๒๓
น้อมกราบนัมสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ
นอ้มกราบนมัสการหลวงพ่ออย่างสูงด้วยทรง
กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🙏🙏
วาสนา นิประทุมฟังทุกวันค่ะ สาธุๆๆ
น้อมกราบสาธุๆค่ะ
สาธุ
สาธุครับหลวงพ่อ
สาธุคร้าบ
สาธุ สาธุ สาธุ
သာဓု
กราบสาธุ สาธุๆคะ
อยากทราบว่าจะบูชา CD การสอนวิธีปฏิบัติของหลวงพ่อจากช่องทางไหนได้บ้างค่ะ🙇♀️
Www.dhamma.com
ขอน้อมกราบสาธุในโอวาทธรรมคำสอนของหลวงพ่อเจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุค่ะ,หลวงพ่อ
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อ เจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงที่ให้ธรรมทาน กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ🙏
กราบสาธุครับ
กราบสาธุสาธุค่ะหลวงพ่อ
/ดูใจของตัวเอง/
เวลาโกรธ
ไม่ต้องไปดูคนที่ทำให้เราโกรธนะ
แต่ดูใจที่กำลังโกรธ “ดูใจของตัวเอง”
คอยดูไป คนอื่นยังไงก็ช่างเขานะ
ไปฝึกอย่างนี้เรื่อยๆ
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ระหว่างนาทีที่ ๓๑:๕๘ - ๓๒:๑๑
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ.🙏🙏
ถูกทุกอย่างเลยหลวงพ่อ
/เรียนสิ่งที่เป็นคู่ๆนะ
จนกระทั่งเห็นว่าทั้ง ๒ ด้าน
ทั้งด้านดี ด้านชั่ว ด้านสุข ด้านทุกข์
ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้น/
สิ่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายเนี่ยมันเท่าเทียมกัน
ความสุขกับความทุกข์มันเท่าเทียมกัน
ด้วยความเป็นไตรลักษณ์ หมายความว่า
ความสุขก็ไม่เที่ยง ความทุกข์ก็ไม่เที่ยงนะ
ความสุขก็บังคับไม่ได้ ความทุกข์ก็บังคับไม่ได้
หรือความดีความชั่วก็เป็นของเป็นคู่ๆกันนะ
ก็บังคับไม่ได้ เกิดดับหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป
เนี่ยพอใจมันมีปัญญานะ
มันรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเท่าเทียมกัน
สภาวธรรมที่เป็นคู่ๆนั้นเท่าเทียมกัน
(ด้วยความเป็นไตรลักษณ์)
สิ่งที่เป็นคู่ๆก็มีเยอะแยะ เช่น
หายใจออกกับหายใจเข้า ก็เป็นคู่กัน
ยืนเดินนั่งนอนก็เป็นคู่กัน
บางคนบอกทำไมมันมี ๔ อัน มันเป็นคู่ได้ยังไง
คำว่าคู่นี้หมายถึง มีภาคี มีการเปรียบเทียบได้นะ
เปรียบเทียบได้อย่างยืนเดินนั่งนอน ๔ อิริยาบถ
ก็ถือว่าเป็นธรรมคู่ เป็นธรรมที่เปรียบเทียบได้
ยืนก็ไม่เหมือนกับเดิน ไม่เหมือนกับนั่ง
ไม่เหมือนกับนอนอย่างนี้ แต่ละตัวไม่เหมือนกัน
มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวยืน เดี๋ยวเดิน
เดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวนอน ดูอย่างนี้ก็ได้
ดูหายใจออกหายใจเข้าก็เป็นคู่ได้
ดูสุขดูทุกข์ก็เป็นคู่ได้
หรือเราเป็นคนขี้โกรธ คู่ที่เราจะใช้ดูสำหรับคนขี้โกรธ
ก็คือมีความโกรธเกิดขึ้นก็รู้ ความโกรธหายไปก็รู้
จิตที่โกรธกับจิตที่ไม่โกรธนะ เป็นคู่หนึ่ง
ถ้าเราขี้โลภ เราก็ดูจิตที่โลภกับจิตไม่โลภ
เราเป็นคนหลงเก่ง
ก็ไปดูจิตที่หลง กับจิตที่ไม่หลงคือจิตรู้
เราเป็นคนฟุ้งซ่าน เราก็ดู
คู่ของความฟุ้งซ่านคือความหดหู่ มันจะซึมนะ
พอช่วงไหนฟุ้งมากๆ อีกช่วงมันจะซึม
ไปดูเหอะ มันจะพลิกไปพลิกมา
พอหายซึมก็ฟุ้งใหม่นะ หายซึมก็ฟุ้งใหม่เป็นคู่กัน
เนี่ยเรียนสิ่งที่เป็นคู่ๆนะ
จนกระทั่งเห็นว่าทั้ง ๒ ด้าน
ทั้งด้านดี ด้านชั่ว ด้านสุข ด้านทุกข์
ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้น
เกิดแล้วดับทั้งสิ้น บังคับไม่ได้
ถ้าปัญญาเรารู้แจ้งแทงตลอดว่า
ความปรุงแต่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายนี้
เท่าเทียมกันด้วยความเป็นไตรลักษณ์
ไม่เที่ยงเหมือนกัน เป็นทุกข์
เป็นอนัตตาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต่อไปเวลา
ความสุขเกิดขึ้น จิตจะไม่หลงยินดี
ความทุกข์เกิดขึ้น จิตจะไม่หลงยินร้าย
กุศลเกิดขึ้น จิตก็ไม่หลงยินดี
อกุศลเกิดขึ้น จิตก็ไม่หลงยินร้าย
จิตเข้าสู่ความเป็นกลาง
ต่อความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวง
จิตเป็นกลางต่อธรรมะที่เป็นคู่ๆ
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ระหว่างนาทีที่ ๐๓:๔๓ - ๐๖:๔๖
หนูทำตามหลวงพ่อบอก หลงไปคิดก็รู้
คำพูดของหลวงพ่อผุดขึ้นมาใจเสมอ กราบสาธุค่ะ หลวงพ่อ
/(จิต) มันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆได้
เพราะมันตามรู้ตามเห็นสภาวะอันนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก/
เมื่อจิตเป็นกลางแล้วนะ จิตจะไม่ดิ้นรนปรุงแต่งต่อ
ความปรุงแต่งเกิดขึ้น จิตรู้ด้วยความเป็นกลาง
จิตไม่ปรุงต่อด้วยความยินดียินร้าย
ถ้าจิตไม่มีปัญญาเนี่ย
จิตจะเกิดยินดีต่ออย่างหนึ่ง ยินร้ายต่ออีกอย่างหนึ่ง
ในสิ่งที่เป็นคู่นะมันก็เลยมียินดีกับยินร้ายไปเรื่อยๆ
พอยินดีจิตก็ดิ้นรน ติดอกติดใจ
ก็ดิ้นรนแสวงหาอยากให้มันมาอีก
หรือมันมาแล้วสภาวะอันนั้นมาแล้ว
ก็อยากให้มันอยู่นานๆ เนี่ยตัณหามันมีขึ้นมา
ถ้าไม่ชอบมัน ก็อยากให้มันหายไปสิ้นไป
หรืออยากให้มันไม่เกิดขึ้นอีกนะ
นี่ก็คือตัณหา วิภวตัณหา
อยากให้ไม่มี อยากให้ไม่เป็น
เมื่อตัณหาเกิดขึ้น ความปรุงแต่งของจิตก็จะเกิดขึ้นอีก
ความปรุงแต่งก็คือการสร้างภพของจิตนั่นเอง
มีตัณหาเมื่อไรจิตก็สร้างภพ บางทีก็เป็นภพของนักปฏิบัติ
บางทีก็เป็นภพของพ่อ ภพของแม่ ภพของลูกนะ
ภพของอาจารย์ ภพของนายจ้าง ภพของลูกจ้าง
สร้างภพขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็สร้างหน้ากาก
สร้างอะไรขึ้นมานะหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ
เวลาเป็นคนดีก็ต้องทำมาดอย่างนี้นะ
เวลาเจอศัตรูเราต้องทำปั่นปึ่งใส่
เชิดหน้าใส่อะไรอย่างนี้ ต้องแสดง
เนี่ยใจมันปรุงไปเรื่อยๆนะ
มันไม่มีทางพ้นทุกข์หรอกเพราะมันปรุงแต่งไม่เลิก
ถ้าเมื่อไรจิตเข้าสู่ความเป็นกลาง
ต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวงแล้วเนี่ย
มันจะไม่หลงยินดี มันจะไม่หลงยินร้าย
ต่อสิ่งที่เป็นคู่ๆทั้งหลายทั้งปวง
เมื่อไม่ยินดีไม่ยินร้าย
ก็จะไม่มีความปรุงแต่งต่อ ไม่มีความอยากเกิดขึ้น
ถึงจุดหนึ่งที่สติสมาธิปัญญาของเราพอ ศีลของเราดี
จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิโดยที่เราไม่ได้เจตนา
มันจะรวมของมันเองนะ
แล้วกระบวนการของอริยมรรคก็จะเกิดขึ้น
ทีนี้ตรงที่อริยมรรคเกิดขึ้นได้เนี่ยนะ
สติก็อัตโนมัติ สมาธิก็อัตโนมัติ ปัญญาก็อัตโนมัติ
อะไรๆอัตโนมัติหมดเลย ไม่ได้เจตนา
ถ้ามีเจตนานะ
เจตนานี้ไม่ใช่เจตนาธรรมดาหรอก
มันเป็นโลภะเจตนา สิ่งที่ตามมาก็คือ
การกระทำกรรมหรือการปรุงแต่งของจิต
งั้นไม่สามารถพ้นจากวัฏฏะได้ จิตยังปรุงภพอยู่
แต่ถ้าเมื่อไร สติ สมาธิ ปัญญา
และองค์ธรรมฝ่ายกุศลนี้เกิดโดยอัตโนมัติ
ไม่เจตนานะ ประชุมลงที่จิตดวงเดียวในขณะเดียวกัน
ธรรมะจำนวนมากเรียก โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการนะ
เกิดขึ้นที่จิตดวงเดียวกันพร้อมๆกันในขณะเดียวกันนะ
จะเกิดพลังงานที่มหาศาล ทำลายล้างสังโยชน์
คือกิเลสเบื้องลึกในจิตใจของเราได้
พลังงานที่มหาศาลคือพลังของอริยมรรค
อริยมรรคมี ๑ นะ มรรคนี้มี ๑ นะ
แต่มีองค์ประกอบจำนวนมาก
องค์ประกอบโดยตรงก็เรียก มรรคมีองค์ ๘
ยังมีธรรมะฝ่ายดีมาเกิดร่วมด้วยอีกหลายตัว
เรียกว่า โพธิปักขิยธรรม ธรรมะฝ่ายตรัสรู้
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
เพราะงั้นถ้าเรายังจงใจปฏิบัติอยู่ ยังไม่เกิดหรอก
ยังตั้งใจปฏิบัติอยู่ ยังไม่เกิดหรอก
งั้นเวลาที่จะเกิดมรรคเกิดผลนี้
ไม่ได้เจตนา เกิดโดยไม่ได้เจตนา
ถ้าจงใจให้เกิดมีเจตนาขึ้นมา จิตจะทำกรรมต่อ
นี่จิตมันหยุดความปรุงแต่ง
เพราะมันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆทั้งหลายแหล่
มันเป็นกลางต่อสภาวะที่เป็นคู่ๆได้
เพราะมันตามรู้ตามเห็นสภาวะอันนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนรู้ความจริงว่าสภาวะทั้งหลายนั้น
“ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” เสมอกันเท่าเทียมกัน
จิตก็จะหยุดความปรุงแต่งทกว่าจะถึงจุดนี้ได้
ต้องดูแล้วดูอีกนะ ดูเนืองๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อยๆ
ถึงจุดที่พอ เขาก็พอของเขาเอง
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ระหว่างนาทีที่ ๐๖:๔๖ - ๑๑:๒๓
น้อมกราบนัมสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ
นอ้มกราบนมัสการหลวงพ่ออย่างสูงด้วยทรง
กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🙏🙏
วาสนา นิประทุม
ฟังทุกวันค่ะ สาธุๆๆ
น้อมกราบสาธุๆค่ะ
สาธุ
สาธุครับหลวงพ่อ
สาธุคร้าบ
สาธุ สาธุ สาธุ
သာဓု
กราบสาธุ สาธุๆคะ
อยากทราบว่าจะบูชา CD การสอนวิธีปฏิบัติของหลวงพ่อจากช่องทางไหนได้บ้างค่ะ🙇♀️
Www.dhamma.com
ขอน้อมกราบสาธุในโอวาทธรรมคำสอนของหลวงพ่อเจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุค่ะ
กราบสาธุสาธุค่ะหลวงพ่อ
กราบสาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุครับ
กราบสาธุค่ะ,หลวงพ่อ