ลำตัดคณะแม่ประยูร ชุดคติธรรมเกี่ยวกับ เกิดแก่เจ็บตาย

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2018
  • #ฝากกดติดตามช่องนี้ด้วยขอบคุณครับ
    สืบสานศิลปะไทยคดีพื้นบ้าน กดติดตามช่องนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
    #เทปคาสเซ็ท
    ------------------------
    ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนทีมงานได้ที่
    บัญชีธนาคารกสิกรไทย
    เลขบัญชี 021-2-86619-9
    นายอาทิตย์ รักษา
  • แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต

ความคิดเห็น • 16

  • @mahakrung
    @mahakrung  3 ปีที่แล้ว +6

    ฝากกดไลค์กดแชร์คลิปให้ด้วยครับ ขอให้ถึง 2 พันซัพไวๆ ด้วยเถิด สาธุๆๆ เพี้ยงๆๆๆๆๆ มาพยายามไปด้วยกันนะครับ

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    00:00
    (เกิดแก่เจ็บตาย คำพระท่านกล่าวไว้ หญิงชายควรตรอง ๆ ๆ
    ความดีนั้นเล่า ไม่สูญหายตายเปล่า ประดุจดังเสาธงทอง ๆ ๆ)
    มนุษย์สัตว์อุบัติขึ้น ในภาคพื้นจักรวาล กำเนิดกายมาคล้ายกัน ทุกเธอท่านทั้งผอง
    ไม่ผิดแผกแตกต่าง นับแต่เมื่อตั้งครรภ์พา ได้ยามปลอดก็คลอดมา จากมารดาอุ้มท้อง
    เป็นทารกตกฟาก ย่อมประจักษ์แจ้งจิต ทั้งผ้าผ่อนภูษิต ไม่มีปิดปกป้อง
    ล้วนเปลือยเปล่าขาวดำ มีรูปธรรมต่างกัน แต่ไม่เป็นการสำคัญ ในข้อนั้นหรอกพี่น้อง
    ไม่แน่นอนตอนว่า นี่เราก็มากันมือเปล่า ไม่ว่าไพร่หรือเจ้า ไม่มีข้าวไม่มีของ
    ไม่ปรากฏยศศักดิ์ ล้วนน้ำหนักเท่าเท่ากัน มาภายหลังจึงสร้างสรรค์ แล้วช่วยกันยกย่อง
    ถ้าลูกบ่าวเขาเรียกอ้าย ถ้าลูกนายเขาเรียกคุณ แบ่งชั้นขั้นตระกูล แล้วแต่บุญจะสนอง
    บ้างบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ก็ลืมกายพิกล เริ่มเห็นคนไม่ใช่คน ทะนงตนขนพอง
    ลืมสภาพตราบหลัง เมื่อคราวครั้งยังแบเบาะ ที่เหยียบย่ำหยามเยาะ กันก็เพราะเงินทอง
    ต่างมีหูมีตา มีหน้ามีหัว มีแขนมีตัว มีหัวคิดตรอง
    มีปากมีลิ้น มีตีนมีมือ แต่อะไรไยหรือ จึงยึดถือคะนอง
    หนังเนื้อเชื้อไข เลือดในกายเราทุกทุกหยด ย่อมแดงฉานเหมือนกันทั้งหมด อย่าถือยศทำผยอง
    เรารักใคร่กันไว้เถิด..... เพราะเราก็เกิดมาคล้ายกัน อย่ายกตนข่มท่าน ด้วยหลักฐานเงินทอง
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายควรตรองๆ ทำดีกันบ้างหรือเปล่า ให้เป็นเสาธงทองๆๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    16:15
    พูดถึงเรื่องเป็นเศรษฐี ดวงฤดีก็แจ่มใส พอมานึกถึงความตาย เล่นเอาหัวใจชักรอนรอน
    เพราะฉะนั้นท่านจ๋า ตามบรรดาญาติมิตร เมื่อเรามีชีวิต ก็ควรจะคิดสังวร
    ญาติสนิทมิตรสหาย ที่ตายตายกันก็มาก ที่ตกระกำลำบาก ผมขอฝากเอาไว้ก่อน
    มานึกถึงเรื่องนี้ ผมแทบไม่มีแก่ใจ มันหนักหน่วงห่วงใย สุดอาลัยอาวรณ์
    ผู้ล่วงลับดับขันธ์ ดวงวิญญาณล่องลอย ฟังประพันธ์ผมสักหน่อย จะกล่าวถ้อยสนองกลอน
    เราไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ เราไม่ใช่มิตรก็เหมือนมิตร ดวงวิญญาณและชีวิต ที่หลับสนิทแน่นอน
    แม้นตัวท่านตายไปภายหลัง ลูกหลานก็ยังวุ่นวาย สละทรัพย์จับจ่าย จนสู่ในเชิงตะกอน
    นึกถึงตัวของข้าพเจ้า เมื่อถึงคราวที่จะตาย ผีนี้จะไหม้หรือไม่ไหม้ น่ะคิดแล้วให้อาวรณ์
    เรากำเนิดเกิดเป็นตน ทุกบุคคลหญิงชาย การเกิดแก่เจ็บตาย ประจำกายแน่นอน
    มาอย่างไรไปอย่างนั้น น่ะเราท่านทุกทุกคน เกิดมาก็แต่กาย ตายไปก็แต่ตน ใครเล่าจะขนเงินจร
    เพราะตอนเราเกิดมาเป็นกาย ไม่มีอะไรติดมา เมื่อถึงวันสัญญา ก็สุดจะพาติดจร
    จะเอาอะไรไปไม่ได้ ต้องทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง ให้ลูกบ้างหลานบ้าง คนอยู่ข้างหลังเขาแบ่งทอน
    จะเหลืออยู่กันก็แต่นาม..... ลูกหลานก็จะตามติดมา มายืนเช็ดน้ำตา กันอยู่ที่หน้ากองฟอน
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายแน่นอน ๆ เคยทำดีกันบ้างหรือเปล่า ก่อนที่ถึงคราวจะเข้ากองฟอนๆๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +8

    08:50
    การเกิดแก่เจ็บไข้ เมื่อยามใกล้จะดับขันธ์ คล้ายกับเห็นยมบาล มาแหวกม่านยืนมอง
    โอ้มนุษย์ปุถุชน กำเนิดตนแล้วเล่า ย่อมผันแปรแก่เฒ่า ลงเหี่ยวเฉาเศร้าหมอง
    มิหนำซ้ำเมื่อยามเฒ่า โรคยังเข้ามารังควาน ความเจ็บป่วยช่วยกัน พาให้สังขารขัดข้อง
    ลงสุดขั้นบั้นปลาย คือความตายแน่ชัด ย่อมสิ้นสุดมนุษย์สัตว์ ความวิบัติมาสนอง
    เจ้าหรือนายไพร่ผู้ดี เศรษฐีหรือขอทาน มาและไปคล้ายกัน ครบอาการสามสิบสอง
    นั่นมาแต่กายไปแต่ตัว ทิ้งดีชั่วไว้เบื้องหลัง พื้นพิภพกลบร่าง เนื้อก็พังหนังพอง
    ผิดกันก็แต่แห่แหน ขนัดแน่นน้องพี่ ทั้งโทนทัพกระจับปี่ มโหรีขับร้อง
    มีบ่าวไพร่ใช้สอย ตั้งหลายร้อยหลายสิบ นำผู้ตายวายชีพ บรรจุหีบปิดทอง
    อนาถแท้ก็แต่คน ที่ยากจนข้นขัด เป็นศพผีไม่มีญาติ ออกเกลื่อนกลาดก่ายกอง
    นั่นตายผู้เดียวเปลี่ยวเปล่า ไม่มีใครเขามาดูใจ ต้องสูญเปล่าเน่าไป เพราะไม่มีใครแตะต้อง
    ที่วอดวายกายเน่า เพราะไม่ได้เข้าเขตวัด จะแลไปก็คล้ายสัตว์ เพราะไร้ญาติพี่น้อง
    หากคนรวยเราม้วยมรณ์ ผู้อาวรณ์ก็มากมาย ต่างครวญคร่ำร่ำไห้ น้ำตาไหลเนืองนอง
    ต่างโศกเศร้าเฝ้าบ่น ด้วยเล่ห์กลมารยา ถึงจะไม่มีน้ำตา ก็ยังอุตส่าห์แกล้งร้อง
    หากคนยากซากศพ ถ้าใครได้พบได้เห็น ต่างก็เบือนหน้าเบน ไม่อยากเห็นไม่อยากมอง
    เมื่อชีพเยาว์คราวยัง อย่าก่อสร้างเลยสิ่งอื่น ถึงมีทรัพย์ไว้นับหมื่น รังแต่คนอื่นปกครอง
    จงสร้างทานบารมี หรือความดีประดับตน ถึงตัวตายวายชนม์ ก็ยังมีคนยกย่อง
    ชื่อจะอยู่ชูชื่น ให้ท่านผู้อื่นบ่นหา ประดับอยู่คู่หล้า ทั่วดินฟ้าก็ยังมอง
    ผมมีกรรมรำเต้น ในเชื้อเช่นเชิงชน อาศัยเสียงเลี้ยงตน ก็หวังผลเผื่อท้อง
    หากดับขันธ์นานไป ต่อใครใครท่านยังจำ ก็เหลือออยู่บ้างก็ทางรำ และถ้อยคำที่เคยร้อง
    บทผมนำรำนี้ อันความดีทั้งหลายแหล่ อุทิศไว้ให้แก่ พ่อและแม่พี่น้อง
    ตอนใดทรามความดี หากจะมีคนฉิน ข้อชั่วช้าราคิน กระผมทั้งสิ้นรับรอง
    แถลงรำคำท้าย เพื่อเตือนใจชาวชน เกรงว่าจะปลื้มลืมตน ให้เสียผลบกพร่อง
    เพราะความจริงสิ่งแน่ เรื่องเกิดแก่เจ็บตาย ย่อมสับเปลี่ยนเวียนว่าย หลีกไม่ได้ดังใจปอง
    โดยประการที่หลานกล่าว ขอพวกเราจงระวัง นึกถึงความตายไว้เป็นที่ตั้ง ขอผู้ฟังจงนั่งตรอง
    พระไตรโลกโชคชัย ย่อมหมุนไปค่ำเช้า ส่วนความดีนั้นเล่า สร้างไว้บ้างหรือเปล่าเล่าพี่น้อง
    เหมือนน้ำใสไหลเลาะ..... มันคอยจะเซาะริมตลิ่ง อันไม้แก่ที่หนักกิ่ง ก็รังแต่กลิ้งลงคลอง
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายควรตรองๆ ความดีนั้นเล่า ไม่สูญหายตายเปล่า ประดุจดังเสาธงทองๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +7

    20:40
    ขอให้ดวงวิญญาณ ท่านผู้ตายผู้เป็นมนุษย์ อันบริสุทธิ์สดใส
    จงสู่สวรรค์ครรไล เหมือนดวงอุทัยทินกร
    ดารารายพรายพรรณ นี่แสงพระจันทร์จะจากโลก โอ้ลมหนาวในคราวโศก สะบัดโบกมาอ่อนอ่อน
    น้ำค้างฟุ้งจรุงรื่น สู่ภาคพื้นแม่ธรณี หอมจำปามาลี ในราตรีรุ่งค่อน
    จันทร์จำรัสอัศดงคต์ จะลับลงที่ชายไพร ยังอิดออดแต่ยอดไม้ ไม่เต็มใจจากจร
    ยอดโศกก็โบกไสว สะบัดให้หัวใจโศก ให้ซาบซ่านสะท้านสะทก เมื่อนึกถึงอกประชากร
    ใครยังมีชีวง ก็โลภหลงตัณหา ใครถึงวันสัญญา ก็ล่วงหน้ากันไปก่อน
    ไปดีมาดี เถิดน้องพี่ทั้งหลาย สู่สวรรค์ท่านหมาย ให้ห่างไกลเดือดร้อน
    มนุษย์โลกโชคชะตา ย่อมหมุนมาเวียนไป เข้าป่าช้าเวลาใด นั่นแหละจะได้พักผ่อน
    คนอยู่ข้างหลัง ก็จะยังปลื้ม นี่ทำเป็นลืมป่าช้า เริ่มแต่คิดอิจฉา และริษยาแง่งอน
    แบ่งชั้นวรรณะ ลืมกระทั่งพระ กระทั่งสงฆ์ รักโกรธโลภหลง นี่ยังทะนงแบ่งทอน
    แม้แต่กษัตริย์สูงสุด ตลอดจนมนุษย์ขอทาน เมื่อวันสัญญามาประหาร ย่อมถึงกาลม้วยมรณ์
    เราตายท่านตาย ตาย ต๊าย ตาย... ตายสิ้น ใครเล่าจะอยู่ค้ำฟ้าดิน ดังโขดหินสิงขร
    โอ้จันทาเจ้าข้าเอ๊ย..... จะลับเลยลงไปแล้ว ยังอยู่แต่ดาวพราวแพรว และไก่แก้วที่ขันวอน ฯ
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    03:29
    เรารักใคร่กันไว้เถิด เพราะเราได้เกิดมาคล้ายกัน อย่ายกตนข่มท่าน ด้วยหลักฐานเงินทอง
    เมื่อสาวหนุ่มกระชุ่มกระชวย รูปสำรวยสวยแท้ ตกตอนปลายกายแก่ ไม่น่าแลไม่น่ามอง
    ชักหมดงามไปตามวัย ไม่เหมือนสมัยหนุ่มสาว แก้มก็สอบตอบเข้า ผมเผ้าก็ขาวผ่อง
    ชักผิดแผกแปลกไป กำลังกายก็ลดถอย ปล่อยหนวดเคราให้ยาวย้อย ก็เพราะไม่ค่อยได้แตะต้อง
    ท่านผู้ชายที่กายแก่ แม่ผู้หญิงเขาค้อนติงกันต่างต่าง ที่แก่กายน้ำใจยัง ก็มีอยู่ตั้งเป็นกอง
    หาน้ำท่าหญ้าอ่อน ไม่ชอบนอนเลนตม ที่แก่แก้วก็มีถม ชอบนิยมยาดอง
    โอ้ปีเดือนเคลื่อนผ่าน ไปตามวันเวลา ดูเนื้อหนังสังขารา จะก้าวขาหรือก็ไม่คล่อง
    ขาดทุกสิ่งจริงแน่ ในยามแก่นี่สิกรรม หมดรักสวยรักงาม มีแต่ความเศร้าหมอง
    หมดสมัยเที่ยวเตร่ การฮาเฮไม่ค่อยได้ผ่าน คิดแต่จะสร้างบุญทาน ก็หวังสวรรค์มุ่งมอง
    เมื่อหนุ่มสาวไม่เอาถ่าน แล้วคิดแต่การทุจริต ตกตอนปลายกลับได้คิด เห็นความผิดเป็นช่องช่อง
    ละพยศก็หมดไป เปลี่ยนนิสัยกว่าเมื่อก่อน ดูสังขารก็ยานหย่อน ฟันก็คลอนไปเป็นกอง
    เป็นความแน่ทีเดียว ใช่ลดเลี้ยวแกล้งกล่าว เราย่อมจะเห็นเป็นเงาเงา ดังรอยเท้าก้าวย่อง
    ทั้งหูตาก็ฟ้าฟาง โอ้ทุกขังเข้ามาเยือน ชักหลงใหลลืมเลือน ให้ฟั่นเฟือนในสมอง
    แขกจะไปใครจะมา ก็จำหน้ากันไม่ถนัด เมื่อแก่กายใกล้วิบัติ ให้อึดอัดขัดข้อง
    เกิดก็แน่แก่ก็จริง..... นี่แหละเป็นสิ่งเวียนวน อย่าทำหัวใจให้เอนโอน ให้อกุศลเข้าครอบครอง
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายควรตรองๆ ความดีนั้นเล่าๆ ไม่สูญหายตายเปล่า ประดุจดังเสาธงทองๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    06:08
    เกิดก็แน่แก่ก็จริง นี่แหละเป็นสิ่งเวียนวน อย่าทำใจให้เอนโอน ให้อกุศลเข้าครอบครอง
    ต่อจากท้ายกายชรา ก็โรคาครอบงำ ต้องโศกเศร้าเช้าค่ำ มีแต่ความเศร้าหมอง
    เดี๋ยวมืดหน้าตามัว เดี๋ยวปวดหัวปวดหลัง เดี๋ยวปวดแก้มปวดคาง ปวดสีข้างปวดท้อง
    ชักออดแอดแพทย์มา เยือนเคหาชูช่วย ถ้าญาติเราเขาร่ำรวย พอหยิบฉวยเงินทอง
    การรักษาพยาบาล ก็ถูกการอนามัย พอผันแปรแก้ไข เรื่องโรคภัยทั้งผอง
    อนาถแท้ก็แต่คน ที่ยากจนสมบัติ จะตามหมอก็ติดขัด ให้อัตคัดเงินทอง
    หากคนป่วยรวยสตางค์ ก็เพียงแต่สั่งกันปากเปล่า เราไม่ต้องเดินไปเชิญเขา บอกเล่าเป็นคำสอง
    สู้รวบรวมร่วมยา มาตามเวลานัดหมาย หนทางจะไกลแสนไกล คุณหมอก็ไม่ขัดข้อง
    หากคนจนข้นขัด มักบอกผลัดไปทุกวัน ถึงอยู่บันไดติดติดกัน เขาก็ไม่หันหน้ามอง
    มักจะเป็นเช่นนี้ เรื่องคนมีกับคนยาก ยังถือยศถือศักดิ์ กันมากนักนะพี่น้อง
    สมัยนี้ดีขึ้นบ้าง ในเรื่องทางโรคา เพราะรัฐบาลท่านจัดหา สุขศาลาไว้รับรอง
    คนยากไร้ไข้หนัก ย่อมประจักษ์กันทุกวัน ท่านรักษาพยาบาล โดยไม่มีการเรียกร้อง
    เรื่องโรคภัยได้พยาธิ เราไม่บังอาจหลีกหลบ เกิดมาแต่กายในพิภพ ย่อมประสบสนอง
    แต่สิ่งหนึ่งตรึงใจ ควรเก็บไว้ในชีวิต จงจดจำนำไปคิด และดุลพินิจตรึกตรอง
    ไอ้เจ็บตนพอทนได้ แต่เจ็บใจสิมันยาก การขู่ข่มด้วยลมปาก นี่มันที่มักมัวหมอง
    การเกิดแก่เจ็บไข้..... เมื่อยามใกล้จะดับขันธ์ ก็คล้ายกับเห็นยมบาล มาแหวกม่านยืนมอง
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายควรตรองๆ ความดีนั้นเล่า ไม่สูญหายตายเปล่า ประดุจดังเสาธงทองๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    12:53
    (เมื่อชีวิตเรายังไม่ตาย ถึงทำดีไว้สักเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครเขาให้พร ๆ
    จะนึกถึงกันหรือก็เปล่า เขาจะเห็นคุณเรา ก็ตอนเมื่อเข้ากองฟอน ๆ)
    โอ้บุหลั่นขวัญเอ๋ย กระไรเลยช่างแลหาย หริ่งแต่เสียงเรไร ก้องอยู่ในดงดอน
    ทั้งนกไม้ไก่กา ก็ไม่ถลาลอยลม หนาวน้ำค้างพร่างพรม นี่ทุกข์ระทมทอดถอน
    ผมมารำพึงคะนึงคิด ถึงชีวิตมนุษย์เรา ล้วนวอดวายตายเปล่า ต่างหันเข้ากองฟอน
    ไม่พลิกฟื้นคืนหลัง เหมือนแต่ดั้งเดิมมา น่าสมเพชเมตตา ยิ่งคิดขึ้นมาแล้วอาวรณ์
    เมื่อชีพเรายังยั่งยืน ก็สดชื่นกันเย็นเช้า พอกายพังหนังเน่า นี่ใครเล่าจะร่วมหมอน
    โอ้ป่าช้าเจ้าข้าเอ๋ยๆ (เอ๊งเอ่ย) ใครใครก็เคยเกลียดกลัว เป็นดินแดนอันแสนชั่ว แต่แล้วตัวก็ต้องไปนอน
    ใครเล่าจะหนีลี้ได้ จากความตายไปพ้น ไม่ว่าเศรษฐีหรือมีจน ย่อมจะไม่พ้นม้วยมรณ์
    ถึงมีเงินมีทอง ออกก่ายกองท่วมกาย จะซื้ออะไรก็ซื้อได้ นั่นสุดแต่ใจจะอาวรณ์
    แม้แต่ชีวิตนิดหนึ่ง ท่านอย่าหมายพึงซื้อหา จงนึกถึงป่าช้า เสียทุกเวลาเราเข้านอน
    พูดถึงเรื่องเป็นเศรษฐี..... ดวงฤดีก็แจ่มใส พอมานึกถึงความตาย เล่นเอาหัวใจชักรอนรอน
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายควรตรอง ๆ เคยทำดีกันบ้างหรือเปล่า ก่อนที่ถึงคราวจะเข้ากองฟอนๆๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน

  • @ffggfdghh4780
    @ffggfdghh4780 ปีที่แล้ว +2

    เพลง2ต้นนี้ เกิดแก่เจ็บตายกับฌาปนกิจเป็นของแม่สุวรรณลำตัด แม่ประยรูไปขอแม่สุวรรณมาครับ

    • @mahakrung
      @mahakrung  ปีที่แล้ว +2

      ขอบคุณข้อมูลครับผม

  • @gpo1056
    @gpo1056 5 ปีที่แล้ว +7

    เพราะมาก

  • @trithep2sinsoppon386
    @trithep2sinsoppon386 4 ปีที่แล้ว +6

    แม่ประยูรพ่อหวังเต๊ะ.สุดยอด

  • @gpo1056
    @gpo1056 5 ปีที่แล้ว +9

    ใครไม่ฟังคิดผิดเพราะมากเคยดูด้วย

  • @user-km4se2ly6x
    @user-km4se2ly6x 2 ปีที่แล้ว +2

    สุดยอด

  • @kun-ball7381
    @kun-ball7381 2 ปีที่แล้ว +2

    ใครเป็นคนแต่งกลอนนี้ครับ

  • @mahakrung
    @mahakrung  4 ปีที่แล้ว +9

    18:58
    จะเหลืออยู่กันก็แต่นาม ลูกหลานก็จะตามติดมา มายืนเช็ดน้ำตา กันอยู่ที่หน้ากองฟอน
    พอความตายเข้ามาพราก เราจะต้องจากพี่น้อง เรื่องมีเงินมีทอง นี่มันเป็นของแคลนคลอน
    ดูแต่กระดูกและเนื้อ ต้องตกเป็นเหยื่อแร้งกา ถึงรูปร่างเป็นเทวดา ก็มีเวลาเน่าหนอน
    ใครก็ไม่รักใครจริง ดอกชายหญิงที่เกิดมา อันบ้านเก่าคราวหน้า คือป่าช้าแน่นอน
    ผู้ล่วงลับดับสูญ สู่กองกูลอัคคี เคยลงนามความดี โอบอารีเหมือนแต่ก่อน
    เคยพูดจาปราศรัย ทักทายดังเช่นเคย ไม่ไหวติงนอนนิ่งเฉย โอ้อกเอ๋ยมาขาดรอน
    เสียงนกแสกบินผ่าน มายามวิกาลเวลา บอกถึงวันสัญญา ของผู้ที่ลาม้วยมรณ์
    ขอให้ดวงวิญญาณ ท่านผู้ตายผู้เป็นมนุษย์ อันบริสุทธิ์สดใส
    จงสู่สวรรค์ครรไล เหมือนดวงอุทัยทิฆัมพร
    (เกิดแก่เจ็บตาย หญิงชายแน่นอน ๆ เคยทำดีกันบ้างหรือเปล่า ก่อนที่ถึงคราวจะเข้ากองฟอนๆๆ)
    #ดีเจกรุงจันทบุรีพิมพ์เป็นวิทยาทาน