UPDATE: แข้งสาวไทยยกพลลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ‘มิโยะ’ หวังนำทัพเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2023 .

UPDATE: แข้งสาวไทยยกพลลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ‘มิโยะ’ หวังนำทัพเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2023
.
วันนี้ (17 มกราคม) เวลา 16.00 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยรวมตัวเตรียมออกเดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 20 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์นี้
.
การเดินทางครั้งนี้นำโดย มิโยะ โอกาโมโตะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วยแข้งสาวอย่าง กัปตันหมิว-ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, ธนีกานต์ แดงดา, พิกุล เขื่อนเพ็ชร และ สุนิสา สร้างไธสง ฯลฯ
.
ก่อนเดินทางมิโยะกล่าวว่า “วันนี้เรากำลังจะเดินทางไปอินเดีย ที่ผ่านมาเราได้ฝึกซ้อมและทำงานมาอย่างหนักตั้งแต่รอบคัดเลือกที่ปาเลสไตน์จนถึงตอนนี้ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้เราไม่มีเกมอุ่นเครื่องในระดับนานาชาติเลย เราคิดว่าทุกคนพร้อมแล้ว และทำได้ตามเป้าหมายแน่นอน
.
“เป้าหมายที่สำคัญของเราคือ การเป็น 1 ใน 6 ทีมตัวแทนของทวีปเอเชีย เพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ปี 2023 ให้ได้
.
“ผู้เล่นชุดนี้มีดาวรุ่งหลายคนที่ขยับขึ้นมาเล่นกับรุ่นพี่ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์หรืออายุไม่ได้สำคัญเลย นักเตะที่เราเลือกมาทั้ง 23 คน ทุกคนล้วนมีคุณภาพ มีความสามารถ ส่วนผู้เล่นที่อายุน้อย เป็นความหวังของทีมชาติไทยในอนาคต
.
“ฝากแฟนบอลชาวไทยเป็นกำลังใจให้ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เราทุกคนจะทำสุดความสามารถ เก็บชัยชนะเพื่อไปฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 ให้ได้ค่ะ”
.
สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 18.55 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 317 และจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติฉัตรปตี ศิวาจี มหาราช เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
.
โดยโปรแกรมการแข่งขันของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมีดังนี้
.
- วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ไทยพบฟิลิปปินส์ ณ สนามดีวายพาทิล
.
- วันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อินโดนีเซียพบไทย ณ สนามดีวายพาทิล
.
- วันที่ 27 มกราคม 2565 เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ออสเตรเลียพบไทย ณ สนามมุมไบฟุตบอลอารีนา
.
ทุกแมตช์การแข่งขัน ผู้ชมจากประเทศไทยสามารถรับชมฟรีผ่านทางแอปพลิเคชัน ELEVEN SPORTS
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ thestandard.co/
#TheStandardNews