“ดาวดึงส์: สวรรค์ของศาสนาพราหมณ์หรือพุทธ?”
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 ก.พ. 2020
- สวัสดีทุกคนทุกท่านด้วยนะครับ เมื่อเร็วๆนี้นะครับ ผมได้อ่านบทความเรื่อง “ดาวดึงส์:สวรรค์ของศาสนาพราหมณ์หรือพุทธ” โดย ศาสตราจารย์ ดร. ผาสุข อินทราวุธ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร นะครับ ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลงานของท่านยังมีคุณูปการแก่คนรุ่นหลังอยู่ และในบทความนี้ผมคิดว่ามีความน่าสนใจ จึงอยากนำมาเล่าให้กับผู้ฟังได้พิจารณากันครับ
บทความเต็ม - drive.google.com/file/d/1n7N7...
---------------------------------------------------
![[TH] 2024 PMWC x EWC Main Tournament Day 1 | PUBG MOBILE WORLD CUP x ESPORTS WORLD CUP](http://i.ytimg.com/vi/f5Coja1zCzo/mqdefault.jpg)
ขอบคุณครับ
ดีครับ fc ช่องนี้ตลอดครับ
ดาวดึงของใครไม่รู้ ... แต่ดึงดาวนั่นของโผมมมมม 😇😇
ทำให้เปลี่ยนแนวคิดในเรื่องของกรรม ที่เคยคิดมาตลอด
ได้แนวคิดใหม่ มาวิเคราะห์ต่อไป ขอบคุณครับ
สวรรค์เป็นของกลาง เป็นที่ของคนดี ไม่ได้จำกัดว่าศาสนาไหน
เป็นของกลาง ไครเป็นจำเลยไครเป็นโจทย์ครับ แล้วของกลางที่เป็นของคนดีที่ว่านี่คนดีได้มาติดต่อขอรับคืนเหมือนปืนของกลางที่ต้องคดีโดนยึดไว้ปะครับ
นรกและสวรรค์มีเพียงหนึ่งเดียว แต่ว่าแต่ละศาสนา ปรุงแต่งกันไปเรียกชื่อแตกต่างกันไป
อะไรถูกอะไรผิดน่าสนใจมากกว่าคือมันไม่ขึ้นกับว่าเป็นของใคร แต่นั่นก็ตอบยากละครับ และที่จริงแล้วพราหมณ์กับพุทธก็ใกล้ๆกัน
และถ้าหากเป็นอย่าง อ.สรุป มันก็ขาดความมีเหตุผลในคำสอนของศาสนาพุทธน่ะสิ คิอ อย่างนั้นนิพพานก็เหมือนกันกับความตาย เป็นที่หมดทุกข์หมดโศกหมดกิเลสตัณหา
ถ้ายังไม่มีตาทีมองเห็นทะลุปุโปรงอย่าไปตัดสินว่าอะไรมีไม่มี
นรกสวรรค์ในปัจจุบัน
ก็อยู่ทีสุขทุกข์ในใจ
สวรรค์นรกหลังตายก็ขึ้นอยู่กับใจเหมือนกัน
สวรรค์คือความสุขใจย่อมเป็นของคนทุกชนชั้น
สวรรค์เป็นแผ่นดินฝ่ายวิญญาณจิตของทุกคนที่ชอบธรรม
ชีวิต มิได้จบด้วย ความตาย......หลังความตาย ยังมีจิตวิญญาน ที่มีกรรมติดตัวไป....
ความตาย ไม่ใช่ ยางลบ....ที่จะลบหมดสิ้นทุกอย่าง....ให้มี่ค่าเท่า ศูนย์......หลังความตาย ยังมีทุกข์ มีสุข ติดตามไปทุกที่
ตายแล้วก็จบ
เคยไปมาใช่มัย
ดาวดึงส์ไม่แน่ชัดแต่ดึงดาวของคนไทยแน่นอน
พุทธศาสนา กล่าวถึงเทพและสวรรค์ แต่ไม่ยกให้สูงและสำคัญกว่าหลักธรรม คือ เทพต้องไม่สูงกว่าธรรม, ธรรมะสูงสุด, พระธรรมและวินัย เป็นพระศาสดาแทนพระพุทธเจ้า.
เราก็ไม่รู้อยู่ดีล่ะครับว่า พระไตรปิฎกที่เราอ่านก่อนหน้านี้โดนใครชำระ อะไร แบบไหนบ้าง กว่าจะมาถึงในสมัยของเรา
ในพุทธศาสนาจะสอนเรื่อง เหตุและผล คือเหตุของการที่จะเป็นต่างๆ ของ
สัตว์ตาวาสในจักรวาล คือ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย มีกรรมเป็นผู้ติดตามฉะนั้น เราจักทำกรรมอันใดไว้ ดีก็ตาม ชั่วก็ตามเราจักได้รับผลของกรรมนั้น ส่วนกรรมก็แบ่งได้สามอย่าง คือ กาย วาจา ใจ
ส่วนเรื่องภพชาติ จะขึ้นอยู่กับการปรุงแต่งทางจิต โดยอาศัย อายตนะภายในและภายนอกเข้าสัมผัสกระทบกันเกิดการปรุงแต่งทางจิตแล้วกลายเป็นอาหารหล่อเลี้ยงตัณหาอุปาทาน เกิดภพเกิดชาติ สิ่งเหล่านี้จึงเรียกว่ากรรม ที่เคยทำมาแล้วในอดีต ปัจจุบัน และส่งผลในอนาคตมีอวิชชาคือความเขลาเป็นปัจจัยให้เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิชั้นต่างๆหลายระดับชั้น ภูมิของจิตแต่ละบุคคล มีทั้งหมด ๓๑ ภูมิตั้งแต่ทุคติจนถึงสุคติ ได้แก่ สัตว์นรก
กำเนิดเดรัจฉาน เปรตอสุรกาย มนุษย์
สวรรค์ชั้น กามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร มีโลกมนุษย์เป็นตัวชี้วัดว่าจะไปฝ่ายใด ซึ่งมนุษย์จะมีลักษณะใหญ่ๆ
อยู่ ๓ ลักษณะคือ ๑.กินอาหารที่พึงจะเน่าเสีย ๒.แน่นอนที่จะไปสู่ทุคติ ๓.แน่นอนที่จะไปสู่สุคติ
ความเห็นคนเปลี่ยนความจริงไม่ได้
สวรรค์ นรก มีจริงแต่ไม่ใช่ของศาสนาใดศาสนาหนึ่งครับ เพียงแต่ว่าแต่ละศาสนาจินตนาการปรุงแต่งไปตามความนิยมของตนเองครับเรียกและตั้งชื่อแตกต่างกันไป แต่มันมีจุดร่วมของมันอยู่เพียงหนึ่งเดียว
ให้มองแบบนี้ว่าผู้ปฏิบัติสมัยก่อนที่พระพุทธศาสนายังไม่บังเกิดขึ้นก็สามารถไปสวรรคไปนรกได้เช่นผู้ปฏิบัติสมาธิจนได้ฌาณ 4 และ สมาบัติ8 ก็ไปได้ เห็นได้เหมือนกัน เช่น ฤษี พราหมณ์ นักบวชนอกศาสนา แต่ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธอุบัติขึ้น ท่านก็มีวิธีการปฏิบัติที่ทำให้สมารถไปเห็นความจริงของนรก-สวรรค์ที่ผู้ปฏิในอดีตค้นพบมาเช่นกันความเชื้อนี้จึงมีเหมือนกันและเห็นได้ไกลกว่านั้นคือนิพพานเป็นที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะต้องไปเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต
คลิปนี้คือความจริงครับ
พุทธะเคารพในการมีอยู่ของทุกสรรพสิ่ง แต่ไม่ได้บูชาในทุกสรรพสิ่ง
คำว่า เทวนิยม อเทวนิยม พระพุทธเจ้าไม่ได้นำมาสอน นักวิชาการยุคหลังต่างหากประดิษฐ์คำนี้ขึ้นมา ศาสนาพุทธใช้คำว่า กรรมนิยม หรือ กรรมนิยาม ต่างหาก
พุทธไทยจะปนกับพราหมณ์เพราะผู้มีอำนาจถือคติพราหมณ์แต่อ้างว่านับถือพุทธประชาชนจึงต้องนับถือพุทธปนกับพราหมณ์อย่างแยกไม่ออก
พุทธแบบไทยมัดรวมทุกศาสนา...
ช่องพี่สุดยอดไปเลย พี่พอหาข้อมูลแบบพุทธแท้ให้หน่อยได้ไหมครับ เหรอคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆด้วยไม่มีแต่งเพิ่ม พี่ช่วยหาข้อมูลว่าการที่เราจะปฎิบัติตามคำสอนของพุทธนั้นต้องทำแบบไหน ต้องใช้ธรรมไหน แบบให้เข้าใจได้ง่าย เพราะไม่เชื่อใช้ริต ผมเชื่อในคำสั้งสอนของพุทธเจ้า เพราะผมเหนพระพุทธเป็นครู ไม่ใช่เทวดา ตอนนี้ผมอยากศึกษามาก ๆ สาเหตุเพราะว่าผมมีคำถามในใจว่า ถามมีคนมาถามว่าศาสนาพุทธดีไหม ถามอยากตอบแบบว่าศาสนาพุทธดีด้วยธรรม ไม่ใช้พ่อแม่ปู่ยายตายายเรานับถือศาสนาพุทธก็เลยตอบไปว่าดี ผมอยากรู้ธรรมจริงๆเพื่อไปอธิบายว่าธรรมของพระพุทธช่วยเราพ่นทุกข์ได้ยังไง มันจะดูดีกว่าว่าเรานับถือศาสนาพุทธก็เลยตอบว่าดีตามกันมา ผมถึงอยากรู้ธรรมจริงๆ
รูปสวย
แล้วสวรรค์ชั้นเจ็ดมันคือชั้นไหนครับ พวกนิยายประโลมโลก พอถึงตอนคู่พระคู่นางเล่นบทอัศจรรย์กัน พอสุขสมอารมณ์หมาย จะเขียนถึงเหมือนกันหมดว่า มีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ทำนองนั้น แต่ผมไม่รุ้ว่าชั้นไหนครับ (เพลงที่บรรยายบทอัศจรรย์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์นึกภาพได้ชัดเจน ก็ต้อง เห่ฉิมพลี ของ พร ภิรมย์ ตลอดเพลงไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องระหว่างนกกับคนล้วนๆ)
ทุกเรื่อง แอดมินอ้างบาลีมาตลอด
เรื่องนี้ดันไม่อ้างบาลี แต่เน้นอ้าง อ.หญิงคนนี้...เห้อ เสียเวลาฟังจริงๆ
ท่านศึกษาแต่ปริยัติ จึงสงสัยไปหมด ต้องศึกษา ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ และ ปฏิติเวธ
จ่อหัวได้ดี ใช่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าการสังคายนาครั้งแรก(สมัยพุทธกาล)เป็นอย่างไร แต่ความเชื่อว่าสวรรค์อยู่บนฟ้านรกอยู่ได้ดิน นี่คือคติของพราหมณ์ชัวร์ นรกสวรรค์ในพุทธศาสนาคือโลกธาตุทั้งนั้น เหนือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะในคัมภีร์หรือสำนักต่างๆ ขอแนะนํา #สติปัฏฐาน4 ลงมือปฏิบัติเองแล้วจะรู้อะไรอีกเยอะ #ปัจจัตตัง
คนยุคนี้เก่งกว่าพระพุทธเจ้า.เลยต้องเก่งย่ำใน31ภพภูมิซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดีครับ ได้ศรัทธาโดยใช้ปัญญา โดยไม่งมงายครับ
ของใครก็ช่าง...ที่แน่ๆมันคือเขตแดนพิเศษแห่งการชดใช้กรรมฝ่ายดี.........✋😄อามิตตาพุท
สาธุ 🙏
สวรรค์ในพุทธศาสนามีการกล่าวไว้ในครั้งที่พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมะจักรแล้ว
พระพรหมก็มีอยู่ แต่พรหมในความคิดของศาสนาพราหมณ์คือที่สุดของศาสนาพราหมณ์เหมือนนิพพาน ความหมายคือการกับไปอยู่กับพระพรหม ส่วนนิกายเซนมาจากท่านโพธิ์ธรรม ลองไปฟังธรรมะจักรดูพระพุทธเจ้าบรรยายเรื่องสวรรค์มีกี่ชั้น สวรรค์หมดบุญก็กับมาเกิด ส่วนนิพานคือสุตยะตา(ความว่าง) พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าบุคคลที่ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์ นรก บาป บุญไม่มี เขาย่อมเป็นมิฉาทิธิ
สุตยะตา (ความว่าง) หมายถึงสุญญตาหรือเปล่าครับ ขอเสริมนะครับ สุญญตาความว่าง คือว่างจากกิเลสทั้งหลาย ว่างจากอัตตาตัวตนบุคคลความเป็นเราเป็นเขา ว่างจากอุปาทานทั้งหลาย
ผู้เจริญสุญญตานุปัสสนาญาณ คือผู้มีนิพพานเป็นอารมณ์ แต่ยังไม่ใช่อรหันต์ เพราะยังตัดไม่ได้ยังไม่หลุดพ้น เป็นการเข้าถึงได้ชั่วคราวเท่านั้น นิกายเถรวาทของเรา ซึ่งยึดหลักคำสอนโดยตรงจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงไม่เน้นเรื่องสุญญตา
@@user-qh6cw4tn6d ประมาณนั่นคับ
มีอีกมั้ยครับ ชอบ อยากรู้ว่าแต่ละท่านคิดอย่างไร
นำเสนออวิชชาโดยแท้
ดาวดึงส์สวรรค์ชั้นที่สองเป็นภพ ที่มีความสุขความรื่นรมย์เท่าที่มนุษย์จะพอจินตนาการถึงได้ การบูชาบุคคลที่ควรบูชาเป็นมงคลอย่างหนึ่งเทวดาก็เป็นบุคคลที่ควรบูชาเช่นกัน เพราะคุณธรรมของผู้ที่จะได้เกิดเป็นเทวดาอย่างน้อยต้องมี หิริโอตัปปะ รักษาศีลให้ทานเป็นประจำ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ พระพุทธเจ้าตำหนิการสวดอ้อนวอน
การหวังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาล การกราบไหว้ต้นไม้ แม่น้ำ ภูเขา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ การบูชาไฟ การปฏิบัติสิ่งเหล่านี้เป็นความงมงายเป็นการกระทำของคนเขลา
ขอบคุณที่ให้ความรู้แต่ทุกวันนี้คนส่วนมากสวดวิงวอน ผมบวชพระอยุ่อยากบอกทุกคนแต่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
พูดถูกต้องครับ
ผมเคยอยู่มาก่อนครับ เบื่อไปเก็บดาวเอามาเก็บไว้ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น พอพระอาทิตย์ตก ก็ต้องเอาดาวไปแขวนไว้เหมือนเดิม ทำอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบ เลยเบื่อ🤣🤣🤣
ผมว่าที่พระพุทธเจ้าสามารถหาทางนิพพานได้โดยบำเพ็ญเพียรจนสามารถระลึกชาติย้อนหลังได้มากมายและสามารถถอดจิตไปไหนก็ได้..แม้นกระทั่งยุคหลวงปู่มั่นและลูกศิษย์สามารถถอดจิตขึ้นนั่งสมาธิบนอากาศได้แสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนาคงไมรเอาความเชื่อจากศาสนาาอื่นมา..เพียงแต่พิธีกรรมบางอย่างในยุคหลังคนไปเอาของพราหม์มาผสมประสานจริง..พูดมันยาวครับ
อะไรมี ไม่มี ไม่สำคัญเท่า ....... เรารู้อะไร .... อย่างไร ..... ทำไม... เพราะอะไร.... ที่เป็นสัจจะพอแล้ว
ท่านอัศวโฆษเกิดราวพุทธศตวรรษที่6 และนิพนธ์ของท่านเป็นคติของฝ่ายมหายานโดยตรง แต่การสังคายนาครั้งที่3 เกิดขึ้นโดยพระเจ้าอโศกมหาราชในพุทธศตวรรษที่3 และได้เผยแผ่มาสู่ประเทศศรีลังกาจนมีการจารึกพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษรในพุทธศตวรรษที่5 ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทและมหายานได้มีการแบ่งแยกกันแล้วอย่างชัดเจนแล้วตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นต้นมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าบันทึกของฝ่ายมหายานไม่ได้มีการกล่าวถึงการสังคายนาครั้งที่3ของพระเจ้าอโศกมหาราชเลยทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สำคัญมากซึ่งมีกล่าวถึงการสึกพระหลายหมื่นรูปที่ปรากฎหลักฐานในจารึกเสาอโศกเป็นประจักษ์พยาน ซึ่งแสดงว่าฝ่ายมหายานปฏิเสธการทำสังคายนาในครั้งนั้น แต่ไปนับการสังคายนาในสมัยของพระเจ้่ากนิษกะในพุทธศตวรรษที่ 6 แทน ซึ่งในครั้งนั้นฝ่ายเถรวาทก็ไม่ยอมรับเช่นกัน ซึ่งรูปแบบการสังคายนาในครั้งนั้นก็เป็นรูปแบบของมหายานเต็มที่เพราะมีการนำรูปแบบพระโพธิสัตว์ในความหมายที่ต่างจากฝ่ายเถรวาทเข้าร่วมการทำสังคายนาด้วย
ที่เกริ่นอย่างนี้ก็เพื่อจะบอกว่า การสั่งสอนพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาลนั้น พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงปฏิเสธความเชื่อของพราหมณ์ไปเสียทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะมีบางอย่างที่มีมาแต่เดิมแต่พระองค์ก็เพียงแต่นำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นก็มีเช่นศีล5 เป็นต้น หรือคำสอนเรื่องพรหมหรือเทวดาพระองค์ก็ทรงแสดงหัวข้อธรรมที่จะทำให้คนกลายเป็นพรหมหรือเทวดาได้ด้วยการประพฤติธรรมเหล่านั้นเป็นต้น ถ้าพระองค์กล่าวถึงเรื่องบุญและบาป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทรงกล่าวถึงผลของบุญและบาปที่จะส่งให้เกิดเป็นเทวดาหรือพรหม อย่างหนึ่งก็เพื่อความเข้าใจได้ง่ายๆโดยอนุวัติไปตามความเชื่อดั้งเดิมของพราหมณ์ เพราะคำสอนต่างๆก็ทรงเน้นไปที่ผู้ปฏิบัติจะรู้เห็นได้เองอยู่แล้ว แต่การยอมรับเรื่องนรกสวรรค์นั้นมิใช่เพื่อให้คนกราบไหว้เทวดาอย่างคติเทวนิยม แต่เพื่อจะยืนยืนถึงวิบากกรรมแห่งการทำดีทำชั่วเท่านั้นเอง
.....ศาสนาพุทธ มีหลักการสำคัญที่ศาสนาอื่นไม่มีคือ กฏแห่งกรรม ครับ....กฏแห่งกรรม เป็นกฏแห่งการกระทำ ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว เป็นต้น.....เมื่อมีเหตุแห่งการกระทำ ก็ล้วนมีผลลัพท์เสมอครับ....
.....แล้วผลของการกระทำ จะส่งผลอย่างไร และจะไปอยู่ตรงไหนละ ?.....ผลลัพท์จากการกระทำความดีและความชั่วของมนุษย์ ก็ต้องมีภพภูมิลองรับ ก็คือ นรกและสวรรค์นั้นเองครับ (รวมทั้ง นิพพานและนรกโลกันต์ด้วยครับ)
.....ส่วนศาสนาอื่น จะเชื่อเรื่องพระเจ้า(หรือเทพเจ้า) เป็นใหญ่ พระเจ้าสร้างทุกสิ่งรวมทั้งมนุษย์ด้วย ทุกๆอย่างเกิดจากพระเจ้าบันดาล มนุษย์ไม่ได้กำหนดชะตาชีวิตตัวเองพระเจ้าบันดาลให้เอง เป็นต้น (ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันขัดกับความเป็นจริง ทั้งหมดละครับ เพราะมนุษย์กับเทพเจ้า อยู่กันคนละภพภูมิ ไม่มีใครสั่งใครได้หรอกครับ...มนุษย์ก็เป็นใหญ่ในโลกมนุษย์ เทพเจ้าก็เป็นใหญ่ในแดนของตัวเอง แยกกันอย่างชัดเจน ไม่มีใครกำหนดชะตาชีวิตใครได้ครับ นอกจากกฏแห่งกรรมเท่านั้น ที่เป็นใหญ่ที่สุด เทพเจ้าทั้งหลายก็ยังล้วนต้องตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมเสมอ เมื่อหมดอายุไขก็ยังต้องตาย จุติลงมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างๆ เสมอครับ เป็นต้น)
.....ส่วนเรื่องของ นรก สวรรค์ ต้องคุยกันยาวๆ....อธิบายสั้นๆละกันนะครับ....นรกและสวรรค์ เป็นของกลาง ทุกศาสนาใช้ร่วมกันครับ....คนทำชั่ว ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน ก็ต้องตกนรก ซึ่งเป็นนรกเดียวกัน ไม่มีที่อื่น ,
ใครทำดี ก็ไปสวรรค์ ซึ่งเป็นสวรรค์เดียวกัน ไม่มีที่อื่น .....พอจะเข้าใจใช่ไหมครับ.....
....สรุป สวรรค์ชั้น ดาวดึง ก็เป็นสวรรค์ของกลาง ที่ทุกศาสนาใช้ร่วมกัน ไม่แยกว่าเป็นของศาสนาพุทธ หรือพรหามณ์ ถ้าทำความดี ถึงระดับ ก็ได้ไปทุกๆคนครับ.....เป็นต้น
🌸🙏😇🌷🇹🇭🌷🇹🇭
สวรรค์เป็นของทุกคนทุกศาสนา สวรรค์เป็นของคนดีครับ
มีพระสูตร ตอนพระพุทธองค์เสด็จโปรดพุทธมารดา 3เดือน ช่วงเข้าพรรษา และเสด็จลงจากดาวดึงส์ ในวันออกพรรษา.มีพิธีตักบาตรเทโว.เรียกว่าวันพระเจ้าเปิดโลก.. เหตุการณ์นี้พอจะ สรุปว่ามีสวรรค์ จริงได้หรือไม่
นรก สวรรณค์ มีจริง
พวกเราก็คือ บ่อบริวาร
อยู่ที่ใครจะเลือกทาง การกระทำ ✍🔕เท่านั้นเอง
ที่แน่ๆผมมั่นใจว่าเป็นสวรรค์ของนายกสำหรับประเทศไทย
นายกคนไหนครับ
ดีมาก กว่าสวรรณค์
เพราะสวรรณค์ มีอยู่คนเดี่ยว
อธิบาย เล่าคล่บขำ ให้กันฟัง
สนุกคล่บ ขำ ❣🔕✍จจจจจ
จุดจจจจน่ะ ทำเป็นเล่น น่ะ
ตาวิเศษ มีจริง ✍🔕
ป่านนี้ผู้แต่งหนังสือคงรู้แล้วละว่านรกหรือสวรรคมีจริงหรือไม่
คนแต่งตายไปแล้วเหรอ
เริ่ดดดด👏👏👏👏เม้นนี้เข้าใจง่ายสุดค่ะ
ใช่ ถ้าไม่เกิดเป็น. มนุษย์ สัตว์ จะระลึกได้
อยากให้แกกลับมาบอก ถ้าเจ้าของวิจัยนี้ทราบ ให้มาแสดงตนว่าตัวเองไปอยู่แถวใหนแล้วจร้า
ใช่ เห็นจริงเป็นดวงจันทร์ดึงขึ้น เร็ว มาก
ดาวดึงส์ของใครไม่รู้ แต่ดึงส์ดาวของคนดมกาวเเน่นอน
ถ้าอยากทราบว่าพุทธในสมัยพุทธกาลเป็นอย่างไรให้ไปศึกษา คำของพระพุทธเจ้านะครับ หรือพุทธวจน คือคำในคำภีย์ของพุทธศาสนา ที่พระอรหันได้จดจำเอาคำของพระพุทธเจ้ามาเขียนเป็นอักษร
นรกสวรรค์ คือสิ่งที่มีอยู่เเล้ว เป็นธรรมชาติของผู้ที่ยึดติด มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้จริงรู้ทุกอย่าง เพียงเเค่ปัจุบันความจริงบางส่วนที่ถูกบันทึกไว้อยู่ใน พุทธวจนในพระคัมภีย์ของพุทธศาสนา
ฟังมาหลายคลิปแล้วครับ เสียงพี่คล้ายกับช่อง"เล่าไปเรื่อย"เลยครับ ชื่นชมครับมีสาระได้ความรู้มากๆครับ
ชอบฟังสองช่องเหมือนกันครับ
คนละคนกันครับคนนี้มีอีกช่องชื่อ แก่นธรรม
ง่ายๆ.. ทุกศาสนา.. มีไปแค่2ที่.. เท่่านั้น ทำดีไปสวรรค์.. ทำชั่วก็ไปนรก..ตายแล้วเกิดทุกข์ในโลกแต่.. ศาสนาพุทธดีกว่าเยอะมีทางที่3.. จิตหลุดพ้นทุกข์ไม่ติดในโลกก็ไปพระนิพพานได้.. เอาแค่นี้นะยาวไปแอดคงไม่อ่านหรอก.. จบกัน
👍🙏❤️
อยากให้ทำคลิปเนื้อหาแปล...การสังคายนารั้งแรกอ่ะครับ
สรรค์ในอกนรกในใจ..
พุทธไม่ปฏิเสธสวรรค์ครับ สวรรค์คือภพๆหนึ่งที่มีหลายชั้น ตามแรงกรรมดี ที่ผู้ไปจุติ ได้กระทำไว้ จึงเกิดในภพสวรรค์
ไม่เคยได้ยินว่าพรามหมณ์มีนรกสวรรค์เทพเจ้าของเขามีที่อยู่คือวิมาน...แต่พุทธมีสวรรค์มีนรก
ไปศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนที่เป็นพระอภิธรรม พูดถึง ภพภูมิ มี 31. ภูมิ สวรรค์ มี 6. ชั้น ภูมิจิต กับภพภูมิ สัมพันธ์กัน (ศึกษาห่างๆ ไม่เข้าถึง. จะสับสนมาก แต่ศึกษาละเอียดแล้วจะไม่ขัดกัน )
แสดงว่าผู้เขียนคงไม่ได้อ่านเรื่อง"ภพภูมิ"ในพระไตรปิฎก มี 4 ภพภูมิ
ยังมีเทพพระแม่ธรณี ที่ช่วยพระพุทธเจ้าปราบมาร..
ดาวดึงส์ไม่ใช่ของศาสนาใดศาสนานึง ดาวดึงส์ไม่เกี่ยวกับศาสนา ถ้าทำดีตามหลักที่ถูกต้องก็ไปดาวดึงส์ได้ เทวดาบนดาวดึงส์ที่ไม่นับถือศาสนาก็มี ไปหาข้อมูลดูนะว่าทำบุญแบบไหนถึงจะได้ไปดาวดึงส์ พุทธไม่เคยเกาะลัทธิไหนเพื่อให้อยู่รอด มีแต่พราหมณ์ อินดูที่มาเกาะศาสนาพุทธ เทพเจ้าหลายองค์ของอินดเพิ่งจะมีหลังจากมีศาสนาพุทธ สร้างเทพเจ้าขึ้นใหม่เพื่อให้เกี่ยวพันกับพุทธ เพราะในสมัยพุทธกาลคนหันมานับถือพุทธกันมากเลยทำให้ พราหมณ์ อินดูต้องปรับตัว คนระดับกษัตริย์ราชวงค์สละราชสมบัติมาบวชเป็นพระทางพุทธศาสนากันเยอะ พราหมณ์ อินดูเลยต้องปรับตัว ยายอาจารย์คนนี้ดูแล้วไม่เคยศึกษาอะไรเกี่ยวกับพุทธเลยถึงเขียนแบบนี้
พุทธศาสนาสังคยานามาหลายรอบแล้ว ก็อาจจะมีการใส่อภินิหารเข้าไปในหลายเหตุการณ์ เพราะเรื่องบางเรื่องทำไมถึงไม่เกิดในสมัยนี้ พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์มีเหตุมีผล พิสูจน์ได้ ตามหลักความเชื่อ 10 อย่าง นรก สวรรค์ ถ้ามีจริงก็ต้องมีทุกศาสนาเพราะเป็นสากล แต่ถ้าเป็นตวามเชื่อก็เป็นทั้งของพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ พุทธประวัติกล่างถึง นรก สวรรค์ ไว้หลายเหตุการณ์มาก
สรุปว่ากำลังจะบอกตายแล้วสูญ?? สวรรค์ไม่มีนรกไม่มี ทำดีไม่ผล(มีแต่ความรู้ของตนเองสวรรค์ในอกนรกในใจ-แต่ถ้าคนที่ประพฤติชั่วจนเคยชินก็จะมีแต่สวรรค์เท่านั้นหรือ เพราะไม่เคยละลายต่อการทำความชั่วจึงไม่รู้สึกผิดในจิตใจ) อีกอย่างถ้าคิดว่าศาสนาพุทธสอนตายแล้วสูญ พระพุทธเจ้า/คำสอนของพระองค์จะแตกต่างบรรดาคำสอนของลัทธิครูทั้ง6 อย่างไร
ผมก็เข้าใจประมาณนั้นธรรมมีหลายระดับ
ตายแล้วสูญคงจะเป็นกายเนื้อหรือเปล่าครับ
ความหมาย คือเดวกันหมดครับ แค่บัญญัติไม่เหมือนกัน เท่านั้นเอง ต้องไปทำการ ศึกษา ทั้งสอง ข้าง ถ้าศึกษา ข้างเดว จะทำให้เรา งงงได้
ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอาจารย์ครับ
ใช่หรือ....
ถ้าจะเรียงชื่อสวรรค์6ชั้นต่างๆ จาตุม.ดาวดึง.ยามา.ดุสิตา นิมมาณรตี ปรนิมมิตวัสวตี ก็มีในธรรมจักกัปวัตนะสูตร ที่พระพุทธองค์ได้แสดงให้ปัญจะวัคคี ได้ดวงตาเห็นธรรม ฉนั้นชื่อสวรรค์ทั้ง6ชั้น จะไม่มีในพุทธศาสนาได้ไง
ตรงนั้นเป็นส่วนแต่งเพิ่มครับไม่ใช่พุทธวจนะโดยตรง
คัมภีร์อุปนิษัท ของศาสนาพราหมณ์ฮินดู จะกล่าวถึงเรื่องนรกสวรรค์
ดาวดึงส์นี่เป็นสวรรค์ชั้นต่ำใช้ปะครับ? เห็นในพระไตรปิฎกก็มีบอกว่า พระอินทร์ กำลังตรวจดูนางนั้น(ชื่ออะไรไม่รู้ลืม) แต่กับไม่พบว่านางไปเกิดที่สวรรค์ชั้นต่ำ2ชั้น คือดาวดึงส์กับจตุมหาราชิกาเลย จึงเสด็จไปถามพระพุทธเจ้า?
เทพเพน 6วิถี ชั้นที่ 2 ของทั้งหมด 6 ชั้นครับ
@@edmigoddoy7948 ดาวดึงส์ เป็นสวรรค์ชั้นที่สองอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นหนึ่งในฉกมาพจร หรือสวรรค์ทั้ง 6 ตามความเชื่อของพระพุทธศาสนาครับ
@@suckboxain3325 ดาวดึงส์เป็นสวรรค์ใกล้โลกมนุษย์ มีบอกว่า เทวดาประจำตัวตัวคือเทพชั้นดาวดึงส์ แต่มาเป็นกะ หมดกะก็ไปรับใช้เทพชั้นดาวดึงส์เหมือนเดิม.. ซื่งกะ1เท่าๆกับอายุไขยของคนเรา 100ปี=1วัน ดาวดึงส์ 100ปีคน เทพชั้นดาวดึงส์กินอาหารทิพย์ได้3-4มื้อครับ ส่วนมากจะรับชมวิมาน สวน ทาวเวอร์ ซะมากกว่า
เทวดา ในศาสนาพุทธ เป็นแค่ภพภูมิของคนที่ทำดีแล้วได้ไปเสวย ทุกคนก็สามารถเป็นเทวดา พรหม ได้ครับ
เทวดาและพรหมในพุทธศาสนา ไม่ใช่เทพเจ้าแบบศาสนาเทวนิยมครับ เพราะเทวดาและพรหมไม่ได้มีอะไรเด็ดขาดแบบผู้สร้างในศาสนาเทวนิยม สามารถสิ้นบุญได้ และวนเวียนในวัฏฏะ
ศึกษาให้ดี จะเข้าใจเองครับ
นรกสวรรค์ มีจริงๆ และไม่แบ่งว่าเป็นศาสนานั้นนี้แต่อย่างไร เป็น ดร. น่าจะฉลาดนะครับ
แล้วโลกนี้ ของใคร สวรรค์มันก็มีของมันเป็นอย่างนั้น มีอยู่อย่างนั้น โลกก็เช่นเดียวกัน แล้วคนเกิดมาทำไม ? นรกก็เหมือนกัน เป็นของที่มีอยู่อย่างนั้น แล้วอะไรที่เวียนว่ายตายเกิด? ......
พระพุทธเจ้าทรงศึกษากับฤาษีสองท่านจนคิดว่านี่ไม่ใช่ทางหลุดพ้น. แต่เมื่อพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธทรงเป็นสัพพัญญู. รู้ทุกเรื่อง. ในพระไตรปิฎกมีหลายตอนที่พูดถึงพรหม. เทวดา. นรก. แบ่งออกละเอียดว่ามีกี่ภพกี่ภูมิ. เทวดามีกี่ชั้น. พรหมมีกี่ชั้น. นรกมีกี่ภูมิ ฯลฯ. พระองค์ คงทราบเรื่องนี้จากอาจารย์ทั้งสอง. แต่ไม่ละเอียดเหมือนกล่าวในศาสนาพุทธ. แม้ในธัมมะจักรกัปปะวัฒนะสูตร. ที่พระองค์แสดงธรรมตรั้งแรกกับปัญจวัคคีทั้งห้า พระองค์ก็กล่าวถึง. เทวดา. พรหม. ชั้นต่างๆไว้ทั้งหมด. พรหมของฮินดูเป็นขั้นสูงสุด. แต่ทางศาสนาพุทธผู้ที่เป็นพรหม เมื่อหมดบุญบ้างก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ฯลฯ. ต่อไปอีก. พระองค์เสียดายว่าเมื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว. ทรงนึกถึงอาจารย์ทั้งสอง. แต่อาจารย์ทั้งสองสิ้นแล้ว ไปเกิดในพรหม ที่เรียกว่าพรหมลูกฟัก. อยู่นิ่งไไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นพระองค์จะขึ้นไปเทศน์ให้ทั้งสองท่าน. ท่านก็ไม่รับรู้อะไรทั้งหมด. เมื่อหมดบุญก็ลงมาเกิดอีก. ดังนั้นถ้าจะพูดว่าศาสนาพุทธเอาความรู้เรื่องเทวดา. พรหม. ของฮินดูมา. ก็คงไม่ผิด. แต่ความรู้ของฮินดูเกี่ยวกับเทวดาพรหมฮินดูรู้เรื่องเทวดาและพรหม. ไม่ละเอียดไม่มากเท่าพระพุทธเจ้า. ถ้าเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องในศาสนาพุทธ. เป็นเรื่องของพราหมณ์. ฮินดู. เราก็ต้องเผาตำรา. เผาพระไตรปิฎก. ทิ้งให้หมด. กลายเป็นเรื่องเราไปลอกเลียนแบบฮินดูมา. นี่เป็นความเห็นอาจจะผิดก็ได้.
ผมบอกตรงๆ อาจารย์เขียนเรื่องมาป่นกันน ไปเอา อาจารย์ในมหายาน มาอ้างอิง ฝั่งเถรวาท ซึ่งไม่ถูกต้อง เรื่องพระอินทร์แน่นอนว่ามาจากพราหม แต่ เรื่องสวรรค์ ลักษณะสวรรค์ มีความแตกต่างกันพอสมควร ที่แน่ๆ พราหมไม่ได้มี สวรรค์ 6 ชั้น แต่ก็ยอมรับว่า เรื่องนรกสวรรค์ มาจากการเขียนทีหลัง ประมาณ 300-400 ปีหลังพุทธกาล
น่าสงสาร ไม่เข้าใจ " เมื่อถูกงูกัดแทนทื่จะพาคนถูกงูกัดไปหาหมอ กับไปตามไปค้นหางูตัวที่กัดคน คนถูกงูคงจะตายก่อน..
แนะนำนะครับ อย่างยิ่ง คือให้หาอ่านของ พุทธวจน นะครับ แล้วจะเข้าใจ วัดนาป่าพง ได้ไปสืบค้นคำของพระพุทธเจ้ามารวบรวมไว้จากหลายๆที่ เช่น เสาอโศก เป็นต้น เป็นคำของพระพุทธเจ้าล้วนๆ ไม่มีแต่ใหม่ แต่พระไตรปิฎก จะมีคำแต่งให้ เพราะฉนั้น พุทธวจน ณ ตอนนี้ดีสุดครับ
เอ่อ...พุทธวจน มีในพระไตรปิฎกครับ และมีทั้งคำสาวกด้วย...แต่ส่วนที่เป็นพุทธวจน หรือพุทธพจน์ เป็นคำกล่าวของพระอานนท์โดยส่วนมาก ที่แปลเป็นไทย ว่า ข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ ส่วนเสาอโศก ไม่แน่ใจนัก เพียงแต่พระไตรปิฎก เท่าที่ทราบตามที่ศึกษา มีการอ้างว่าสังคายนาแล้วเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแทนมุขปาฐะ(ท่องปากต่อปากแบบมีระเบียบแบบแผน) ในสมัยพระเจ้าอโศกครับ แล้วค่อยแปลเป็นภาษาท้องถิ่นของแต่ละที่เมื่อเดินทางไปถึงอีกที จากที่เข้าใจประมาณนี้ครับ แต่พระพุทธเจ้าก็อัจฉริยะมาก ทรงให้สาวกใช้ในภาษาของตนๆได้ นับว่าเก่ง และมองการณ์ไกลมาก
"คือฟังเอาไว้นะครับ" อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ
เเล้วทําอย่างไรถึงรู้จริงๆได้ว่าเป็นเรื่องจริงควรเชื่อหรือไม่?
@@konthaijaidee3035 อบากรู้สวรรค์มีจริงทำดี อยากรู้นรกมีจริงทำบาป เดียว ได้รู้ครับ
@@aiueokakiku8808 คุณเข้าใจอะไรที่ผมต้องการจะสื่อหรือปล่าวครับ?
ไม่ทราบว่า ดาวดึงส์ เป็นสวรรค์ชั้นต่ำ หรือกลางครับ เห็นพระไตรฎิฎกมีกล่าวว่า พระอินทร์ "ทำไมเราถึงตรวจไม่พบนางนั้น ที่น่าจะไปเกิดที่สวรรค์ชั้นต่ำ2ชั้น คือจาตุมมหาราชกับดาวดึงส์แท้ๆ" ?
ก็แค่เดาเอาครับ นางก็ยังไม่รู้หรอก อาศัยตำราเหมือนกัน คำสอนพระพุทธเจ้ากล่าวถึงสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้นครบครันครับ สวรรคเป็นที่เสวยสุขครับ ไม่มีทุกข์เลยครับ มีอาหารทิพย์ ไม่มีกากจึงไม่ต้องขับถ่าย อย่าหาส้วมบนสวรรค์ โรงบาลก็ไม่มีเพราะเขาไม่เจ็บป่วยกัน
แล้วที่บอกพระพุทธเจ้าตรัสว่ามีโน้นนี้นั้นครบ คุณไม่ได้อ่านจากตำราหราาา
@@anusornnaksoontorn4216 มีอต่สิ่งรื่นรมย์สวนต่างๆครับ พระพุทธเจ้าว่ามีอะไรครับ
บอกตามตรง ไม่เข้าใจและไม่เคยรู้และได้ยินมาก่อน จึงขอปฎิเสธสื้นเชิง.
กราบปูนแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์หรอ555555555555
ในพระไตรปิฏก..เอ่ยถึง ท้าวสักกะเทวราช ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์..เข้าเฝ้า พระพุทธเจ้า ที่ถ้ำอินทสาละ..มีข้อสงสัยใน คนธรรพ์ ที่ทำหน้าที่รับใช้ ร้องเพลงในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
คนธรรพ์ ที่ทำหน้าขับร้องเพลง ถวายท้าวสักกะ 2 คน เมื่อได้ยินคำพูดเตือนสติจาก ลุกชายของท้าวสักกะ..คนธรรพ์คนหนึ่ง กลับรู้ตัว ไปเกิดเป็น พรหม..ในสรรค์สูงกว่าดาวดึงส์..แต่อีกคนหนึ่งยังอยู่สถานะ คนธรรพ์...
คนธรรพ์ทั้ง 2 คนนั้น ตอนยังมีชีวิตเป็นมนุษย์ ได้บวชเป็นภิกษุ และได้รับการถวายอาหารจาก ลุกชายท้าวสักกะ เมื่อตอนเป็นมนุษย์ เกิดเป็นผู้หญิง..
คนธรรพ์ ในเหตุการณ์ที่กล่าวนี้ ( สักกปัญหสูตร )มีทั้งหมด 3 ตน ครับ ได้สติ 2 ตน ไปเกิดเป็นพรหม ยังอยู่ในภพเดิม 1 ตน
@@dekbankhamin9438ขอบคุณครับ...ตามนั้นถ้าถูกต้อง..เพราะไม่แม่นเรื่องจำนวน..ตัวเลข
มั่วจริงๆ บทความนี้ มโนล้วนๆ
สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจนี้สิแก่นคำสอนแท้ๆ
นรกเกิดขึ้นใด้อย่างไร
[๒๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เป็นลาภของเธอทั้งหลายแล้ว เธอทั้งหลาย
ได้ดีแล้ว ขณะเพื่อการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ เธอทั้งหลายได้เฉพาะแล้ว ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย นรกชื่อว่าผัสสายตนิกะ ๖ อันเราเห็นแล้ว ในผัสสายตนิก-
*นรกนั้น สัตว์จะเห็นรูปอะไรๆ ด้วยจักษุ ก็ย่อมเห็นแต่รูปอันไม่น่าปรารถนา ย่อม
ไม่เห็นรูปอันน่าปรารถนา ย่อมเห็นแต่รูปไม่น่าใคร่ ย่อมไม่เห็นรูปอันน่าใคร่ ย่อม
เห็นแต่รูปอันไม่น่าพอใจ ย่อมไม่เห็นรูปอันน่าพอใจ จะฟังเสียงอะไรๆ ด้วยหู...
จะดมกลิ่นอะไรๆ ด้วยจมูก... จะลิ้มรสอะไรๆ ด้วยลิ้น... จะถูกต้อง
โผฏฐัพพะอะไรๆ ด้วยกาย... จะรู้แจ้งธรรมารมณ์อะไรๆ ด้วยใจ ก็ย่อมรู้แจ้ง
แต่ธรรมารมณ์อันไม่น่าปรารถนา ย่อมไม่รู้แจ้งธรรมารมณ์อันน่าปรารถนา ย่อมรู้
แจ้งแต่ธรรมารมณ์อันไม่น่าใคร่ ย่อมไม่รู้แจ้งธรรมารมณ์อันน่าใคร่ ย่อมรู้แจ้งแต่
ธรรมารมณ์อันไม่น่าพอใจ ย่อมไม่รู้แจ้งธรรมารมณ์อันน่าพอใจ
สวรรค์เกิดขึ้นได้อย่างไร....
[๒๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เป็นลาภของเธอทั้งหลายแล้ว เธอทั้งหลาย
ได้ดีแล้ว ขณะเพื่อการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ เธอทั้งหลายได้เฉพาะแล้ว ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย สวรรค์ชื่อว่า ผัสสายตนิกะ ๖ ชั้น เราได้เห็นแล้ว ในผัสสายต-
*นิกสวรรค์นั้น บุคคลจะเห็นรูปอะไรๆ ด้วยจักษุ ก็ย่อมเห็นแต่รูปอันน่าปรารถนา
ย่อมไม่เห็นรูปอันไม่น่าปรารถนา ย่อมเห็นแต่รูปอันน่าใคร่ ย่อมไม่เห็นรูปอันไม่น่า
ใคร่ ย่อมเห็นแต่รูปอันน่าพอใจ ย่อมไม่เห็นรูปอันไม่น่าพอใจ ฯลฯ จะรู้แจ้ง
ธรรมารมณ์อะไรๆ ด้วยใจ ก็ย่อมรู้แจ้งแต่ธรรมารมณ์อันน่าปรารถนา ย่อมไม่รู้
แจ้งธรรมารมณ์อันไม่น่าปรารถนา ย่อมรู้แจ้งแต่ธรรมารมณ์ที่น่าใคร่ ย่อมไม่รู้แจ้ง
ธรรมารมณ์ที่ไม่น่าใคร่ ย่อมรู้แจ้งแต่ธรรมารมณ์อันน่าพอใจ ย่อมไม่รู้แจ้งธรรมารมณ์
อันไม่น่าพอใจ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เป็นลาภของเธอทั้งหลายแล้ว เธอทั้งหลายได้ดี
แล้ว ขณะเพื่อการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ เธอทั้งหลายได้เฉพาะแล้ว
ก๊อปมาหรอ
@@TheHunmaBaki พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐานมีที่อ้าง *เราคัดลอกมาจากพระสูตร ในเพราะไตรปิฎก ไม่ใด้กล่าวเพ้อเจอขาดเหตุผล และถือว่าให้ธรรมเป็นทานครับ
สวรรค์เป็นภพภูมิทางจิตเป็นหนึ่งใน31ภูมิแห่งสังสารวัฏเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าในหลายๆพระสูตรพูดเรื่องกำเนิดโลกและการทำลายโลกกล่าวถึงสวรรค์ขั้นต่างๆไว้ชัดเจน
ในคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสเกี่ยวกับนรกสวรรค์อยู่หลายๆคำสอนนะครับ