ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าทรงรู้เรื่อง🌎โลกอื่นๆจักรวาลอื่นๆและเรื่อง👽มนุษย์ต่างดาว ก่อนนักวิทยาศาสตร์ซะอีก แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรๆมากมาย เพราะว่าไม่ได้เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์หมดทุกข์ที่แท้จริง👽🌎👉🏻หลักวิชาในคำสอนของพระพุทธศาสนา สามารถพิสูจน์ เรื่องจักรวาลและมนุษย์👽ต่างดาวได้เหมือนกันนะ คือ หลักสูตร ในวิชา ๓ ขึ้นไป หลักสูตรอภิญญา ๖{อภิญญาทางกาย}รวมถึงวิชามโนมยิทธิ{อภิญญาทางใจ} ยกเว้นหลักสูตรวิชาสุกขวิปัสสโก พระโมคคัลลานะและพวกพระที่ปฏิบัติธรรมจนได้อภิญญา ท่านก็ไปโปรดมนุษย์ต่าง{มนุษย์ต่างดาว}โลกได้ เป็นประจำ แม้แต่นักบวชนอกพระพุทธศาสนาบางจำพวก{พวกฤๅษี} ที่ได้อภิญญาก็ทำได้ไปได้เหมือนกัน ตัวอย่างในสมัยพระพุทธเจ้า ก็พวกชฎิลหรือฤๅษีบางพวกก็ไปได้ แต่หลักๆคำสอนที่สุงสุดของพระพุทธศาสนา เน้นเรื่องความหลุดพ้นแห่งทุกข์ดับทุกข์ให้หมดโดยสิ้นเชิง🌎👽👉🏻ด้วยเหตุผลนี้แหละ ข้าพเจ้าจึงยอมรับนับถือและมีความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาไม่มีเปลี่ยนแปลง ถ้าวิเคราะห์พิสูจน์ให้ลึกซึ้ง ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่ได้เป็นศาสนาที่งมงายอะไรๆเลย เป็นศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ และ อยู่เหนือวิทยาศาสตร์ อีกต่างหาก คือพวกนักวิทยาศาสตร์ ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยเรื่องสมาธิ ของจิตหรืออทิสมากาย{ผี}พรหม เทวดา สวรรค์+นรก พิสูจน์ไม่ได้เลย พิสูจน์ให้เป็นรูปธรรมไม่ได้ ก็พิสูจน์วิเคราะห์ได้แบบเดาๆเอาเท่านั้นแหละ มันเป็นนามธรรมไม่ใช่รูปธรรม👉🏻พวกฝรั่งที่เป็นเพื่อนสนิทๆของลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อฤๅษีฯที่เป็นพวกด๊อกเตอร์ สนใจเรื่องนี้มากๆสงสัยว่าพระสงฆ์ในศาสนาพุทธรู้เรื่องราวแบบนี้ได้ยังไง🙏🌏🌕จริงๆแล้วศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้า รู้มาก่อนพวกนักวิทยาศาสตร์ นะครับ แต่มันเป็นนามธรรม ครับ ถ้าศึกษาในพระไตรปิฏกให้ดีๆ พระพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ รวมถึงผู้ที่ได้ฌานโลกีย์ ก็ไปสัมผัส ไปต่างโลก{ต่างดาว} ได้ แต่พระพุทธเจ้าและหลักคำสอนสูงสุดของศาสนาพุทธ ไม่ได้สอนให้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นหมดทุกข์ ที่แท้จริง คือ พระนิพาน พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ไม่ได้หมายความว่า คำว่า งมงาย แล้วมันไม่มีจริงๆ มันมีจริงๆแต่มันไม่ใช่เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์หมดทุกข์ คือพระนิพาน เท่านั้นเอง
จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าทรงรู้เรื่อง🌎โลกอื่นๆจักรวาลอื่นๆและเรื่อง👽มนุษย์ต่างดาว ก่อนนักวิทยาศาสตร์ซะอีก แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรๆมากมาย เพราะว่าไม่ได้เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์หมดทุกข์ที่แท้จริง👽🌎👉🏻หลักวิชาในคำสอนของพระพุทธศาสนา สามารถพิสูจน์ เรื่องจักรวาลและมนุษย์👽ต่างดาวได้เหมือนกันนะ คือ หลักสูตร ในวิชา ๓ ขึ้นไป หลักสูตรอภิญญา ๖{อภิญญาทางกาย}รวมถึงวิชามโนมยิทธิ{อภิญญาทางใจ} ยกเว้นหลักสูตรวิชาสุกขวิปัสสโก พระโมคคัลลานะและพวกพระที่ปฏิบัติธรรมจนได้อภิญญา ท่านก็ไปโปรดมนุษย์ต่าง{มนุษย์ต่างดาว}โลกได้ เป็นประจำ แม้แต่นักบวชนอกพระพุทธศาสนาบางจำพวก{พวกฤๅษี} ที่ได้อภิญญาก็ทำได้ไปได้เหมือนกัน ตัวอย่างในสมัยพระพุทธเจ้า ก็พวกชฎิลหรือฤๅษีบางพวกก็ไปได้ แต่หลักๆคำสอนที่สุงสุดของพระพุทธศาสนา เน้นเรื่องความหลุดพ้นแห่งทุกข์ดับทุกข์ให้หมดโดยสิ้นเชิง🌎👽👉🏻ด้วยเหตุผลนี้แหละ ข้าพเจ้าจึงยอมรับนับถือและมีความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาไม่มีเปลี่ยนแปลง ถ้าวิเคราะห์พิสูจน์ให้ลึกซึ้ง ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่ได้เป็นศาสนาที่งมงายอะไรๆเลย เป็นศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ และ อยู่เหนือวิทยาศาสตร์ อีกต่างหาก คือพวกนักวิทยาศาสตร์ ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยเรื่องสมาธิ ของจิตหรืออทิสมากาย{ผี}พรหม เทวดา สวรรค์+นรก พิสูจน์ไม่ได้เลย พิสูจน์ให้เป็นรูปธรรมไม่ได้ ก็พิสูจน์วิเคราะห์ได้แบบเดาๆเอาเท่านั้นแหละ มันเป็นนามธรรมไม่ใช่รูปธรรม👉🏻พวกฝรั่งที่เป็นเพื่อนสนิทๆของลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อฤๅษีฯที่เป็นพวกด๊อกเตอร์ สนใจเรื่องนี้มากๆสงสัยว่าพระสงฆ์ในศาสนาพุทธรู้เรื่องราวแบบนี้ได้ยังไง🙏🌏🌕จริงๆแล้วศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้า รู้มาก่อนพวกนักวิทยาศาสตร์ นะครับ แต่มันเป็นนามธรรม ครับ ถ้าศึกษาในพระไตรปิฏกให้ดีๆ พระพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ รวมถึงผู้ที่ได้ฌานโลกีย์ ก็ไปสัมผัส ไปต่างโลก{ต่างดาว} ได้ แต่พระพุทธเจ้าและหลักคำสอนสูงสุดของศาสนาพุทธ ไม่ได้สอนให้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นหมดทุกข์ ที่แท้จริง คือ พระนิพาน พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ไม่ได้หมายความว่า คำว่า งมงาย แล้วมันไม่มีจริงๆ มันมีจริงๆแต่มันไม่ใช่เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์หมดทุกข์ คือพระนิพาน เท่านั้นเอง