พ่อ 'ตะวัน' ยื่นขอประกันตัวลูกสาวต่อศาล ลั่นถ้าปล่อยตัวจะไม่ให้ยุ่งการเมืองอีก

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 7 ก.ย. 2024
  • วันที่ 24 ก.พ.2567 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของตะวัน หรือ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกศาลอาญาอนุมัติฝากขังในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 จากกรณีขบวนเสด็จ เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นประกันตัวตะวันอีกครั้ง หลังจากที่ตะวัน ได้อดข้าวอดน้ำประท้วงจากกรณีที่ถูกฝากขัง จนทำให้เกิดอาการวิกฤตและต้องหานำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ “สายน้ำ” ผู้ต้องหาในคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง และมวลชนที่สนับสนุนบางส่วน เดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย
    โดยนายสมหมายระบุว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อขอความเมตตาให้ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวตะวันและแฟรงค์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ตนได้ไปเยี่ยมทั้งคู่ที่โรงพยาบาล พบว่าทั้งคู่อาการหนักมาก โดยเฉพาะตะวันผอมซูบจนเห็นหนังติดกระดูก ซึ่งแพทย์ประเมินอาการว่า หากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะอาการหนักถึงชีวิตได้หรืออาจจะไม่สามารถรักษาแก้ไขได้อีก
    ส่วนประเด็นที่ทั้งสองแสดงเจตจำนงปฏิเสธรับการรักษานั้น นายสมหมายทราบเพียงว่า ทั้งคู่ไม่รับยาใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากจิบน้ำตามเวลา ซึ่งตนก็กังวลและหวังว่าวันนี้ศาลจะเมตตาให้ประกันตัว เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ออกมาต่อสู้คดีและรับการรักษาพยาบาล แต่หากวันนี้ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ตนและภรรยาร่วมกับแพทย์ ก็คงจะต้องเกลี้ยกล่อมทั้งคู่ให้รับการรักษาต่อไป อย่างน้อยที่สุดเป็นการรักษาชีวิต เพื่อที่จะได้มีแรง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ต่อสู้ในวันข้างหน้าต่อไป
    นายสมหมายเผยอีกว่า ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ ที่จะฝากอะไรอีกแล้ว ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่ช่วยให้สองคนนี้ออกมา ก็อาจจะต้องเสียชีวิต ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องรอผลวันนี้ว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ หรือเคาะหลักทรัพย์การประกันตัวจำนวนเท่าไหร่
    จากนั้นนายสมหมายได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์วันที่มีการขัดขวางขบวนเสด็จว่า ในวันนั้นสายน้ำและแฟรงค์จะเดินทางไปร่วมงานศพของแนวร่วมทะลุฟ้ารายหนึ่งที่เสียชีวิต ซึ่งปกติทั้งคู่จะใช้รถกระบะในการโดยสาร แต่วันนั้นปรากฏว่ารถเสีย จึงต้องไปหยิบยืมรถของคนอื่นมาใช้ ดังนั้นรถในวันเกิดเหตุ จึงไม่ใช่รถของตะวันและแฟรงค์ ซึ่งหลังจากร่วมงานศพเสร็จแล้ว ทั้งคู่จะเดินทางไปทำธุระส่วนตัวต่อ จึงปรากฏเห็นว่า ทั้งคู่ได้ขับรถไปที่ทางด่วนด่านพหลโยธินที่เกิดเหตุ
    โดยนายสมหมายได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในวันนั้นทั้งคู่เพียงแค่ขับรถที่จะลงทางด่วน แต่ดันไปเจอกับรถปิดท้ายขบวนเสด็จ จึงเกิดการปะทะคารมกับตำรวจตรงนั้น แต่ขอให้สังเกตดูว่า โดยปกติแล้ว ขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระราชวงศ์ แทบจะไม่มีใครทราบหรือรู้ว่า พระองค์จะเสด็จไปทางไหน เวลาไหน และมีโอกาสที่ผู้สัญจรผ่านไปมาทั่วไปจะพบเจอขบวนเสด็จได้ ในวันนั้นตะวันแล้วแฟรงค์เพียงแค่จะลงทางด่วนทางเดียวกันเพื่อไปธุระส่วนตัว จึงเป็นไปได้ยังไงที่ทั้งคู่จะมีเจตนาที่จะยุยง ปลุกปั่น ไปขัดขวางขบวนเสด็จ เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมีขบวนเสด็จผ่านมา
    อีกประการหนึ่งที่ตนตั้งข้อสงสัยคือ โดยปกติแล้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินจะใช้ความเร็วอยู่ที่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจากในคลิปจะเห็นว่า ทั้งคู่ใช้เวลา 31 วินาที ซึ่งตอนนั้นขบวนน่าจะขับไปไกลมากแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตะวันและแฟรงค์จะใช้ความเร็วเพื่อที่จะแซงหรือขัดขวางขบวนเสด็จ จึงทำได้เพียงแค่บีบแตรแสดงความไม่พอใจให้กับตำรวจแค่นั้น
    และยังตั้งประเด็นอีกว่า จากที่มีกลุ่มไอโอพยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริงอ้างว่า ทั้งคู่พยายามที่จะจอดเบียดแซงขบวนเสด็จนั้น ตนมองว่า ถ้าทำถึงขนาดนั้นจริง ป่านนี้ทั้งคู่น่าจะถูกยิงไปแล้วหรือไม่ก็ถูกจับกุมตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะมิเช่นนั้นทางตำรวจก็จะถูกตั้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
    หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นายสมหมายกล่าวว่า ได้มีการต่อว่าสั่งสอนตักเตือนตะวันไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้อีก แต่ตนก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงจนถึงขนาดนี้ ซึ่งยอมรับว่า ตะวันอาจจะใช้ถ้อยคำน้ำเสียงหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ฝากไปถึงสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ให้ลองคัดเสียงเอาแค่คำถามของทั้งคู่มานำเสนอหรือมาเขียนเป็นตัวหนังสือ ก็จะเห็นว่า คำถามของทั้งคู่นั้น เข้าข่ายพฤติการณ์ปลุกปั่น ยั่วยุให้เกิดความแตกแยกตามมาตรา 116 หรือไม่
    นายสมหมายยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ถูกกลุ่มไอโอ หรือพวกต้องการผลประโยชน์ทางการเมืองบางกลุ่ม นำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง กลายเป็นว่าทำให้ทั้งสองคนนี้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งนายสมหมายยังหวังว่า ศาลอาญาจะมีเมตตาให้ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ออกมารับการรักษาและต่อสู้คดีตามสิทธิ์ของเขา หากเขาทั้งคู่ผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีการต่อสู้คดีใด ๆ เลย กลายเป็นว่าสังคมตัดสินไปแล้วว่าเขาทั้งคู่มีความผิด
    ก่อนที่นายสมหมายจะย้ำทิ้งท้ายว่า หากตะวันได้รับการปล่อยตัวออกมาได้ ตนจะไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป จะให้เขากลับไปใช้ชีวิตที่เหมาะสมตามวัยของเขาและเรียนหนังสือให้จบ ตนจะบังคับไม่ให้ตะวันยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป
    อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/ne...
    -------------------------
    #เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ (Morning News Weekend)
    วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567
    ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
    ch3plus : ch3plus.com/ne...
    facebook : / morningnewstv3​​
    Twitter : / morningnewstv3​​
    TH-cam : cutt.ly/Mornin...

ความคิดเห็น • 2.3K