สลายข้อโต้แย้งและปิดการขาย
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 21 ธ.ค. 2014
- ทุกท่านสามารถดาวโหลด VDO ที่ชัดเจนได้ที่ • สยบข้อโต้แย้ง (ขั้นตอน...
VDO สลายข้อโต้แย้งและปิดการขายนี้ให้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิต เหมาะสำหรับตัวแทนใหม่และตัวแทนทั่วไป หากทุกท่านได้ใช้และเป็นประโยชน์ขออุทิศให้(พ่อครอบ.ลายลักษณ์)บรรยายเพื่ออุตสาหกรรมประกันชีวิต - แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต
ในโลกนี้ผมอ่านหนังสือมา มี2คนที่ผมนับถือและชื่นชอบ จนวันนี้ผมเปิดมาเจอคลิปนี้ ทำให้ผมเลื่อมใสคุณมากๆ ผมเป็นคนนึงที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าได้สอนส่วนตัวจะดีมากๆ ผมอาจจะเข้าใจอ้ะไรช้า แต่ผมอดทน ดูซ้ำๆ ทำซ้ำๆ จนผมทำได้
ขอบคุณสำหรับคำชื้นชมนะครับ ยินดีตอนรับนะครับ หากสนใจสามารถเข้าไปศึกษาได้เพิ่มเติมครับ พิมพ์ komkrit lailuck เข้าไปดูที่ TH-cam ได้ครับหรือหากต้องการเรียนรู้ในการดึกศักยภาพในตัวตนออกมาใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ครูเปิดสัมมนา New Life Camp ทุกเดือนครับ สามารถติดต่อได้ 098-447-1166 ครับ (เป็นสัมมนาที่ไม่ได้ทำเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋านะครับ)สอบถามได้
หลายคนที่เข้ามา Comment นั้นผมยินดีตอนรับทุกข้อติชมนะครับ เพียงแต่ขอเป็นการใช้ถ้อยคำที่สุภาพเรียบร้อย อย่างอารยชนทั่วไปนะครับ "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวพราวพรางพราย" ผมเข้าใจเรื่องมุมมองดีครับและขอขอบคุณทุกความคิดเห็น แต่หากท่านใดภาษาไม่สุภาพ ผมขออนุญาตลบข้อความนะครับ
Komkrit Lailuck \[)ป
Komkrit Lailuck
Komkrit Lailuck เป็นวิทยาทานที่ดีมากครับผม
ัเยี่ยมมากๆเลยจ้ะ
เป็นการตอบข้อโต้แย้งที่ดีมากเลยครับ
ดีมากใช้ได้จริง จุดประสงค์การทำประกัน เพื่อปกป้อง เพิ่มพูน ส่งต่อ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณอาจารณ์มากๆค่ะ
ทำคลิบดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ ชอบวิธีการตอบข้อโต้แย้งมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ตลอดชีวิตผมฟังบรรยายวิชาการมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี อาจารย์เป็นครูที่ถ่ายทอดการสอนได้น่าสนใจ เป็นธรรมชาติ และสามารถเอาคนฟังอยู่หมัดครับ ขอชื่่นชมจากใจจริง
ขอคุณสำหรับการชื้นชมนะครับ ขอให้คุณประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นนะครับ
สุดยอดจริงๆเลยครับอาจารย์
ผมฟังวิทยากรมาเยอะมาก พี่คือคนที่ผมชอบมากที่สุดครับ ผมเอาไปใช้ได้ทุกข้อเลยจริงๆ ขอบคุณมากเลยครับ
ได้ข้อคิดดีๆ ขอบคุณที่แบ่งปันคะ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชื่นชม และเรียนรู้ยินดีตอนรับครับ
เป็นสิ่งที่ดีครับ ผมเปิดดูตลอดครับ
ดูและฟังแล้วจะไปพัฒนาครับ
ขอบคุณ ที่ให้คำแนะนำ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชื่นชม และเรียนรู้ยินดีตอนรับครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณคะอาจารย์
ขอบคุณมากๆครับ
มีประโยชมากค่ะ อัดคบิปบ่อยนะค่ะ
ขอบคุนครับอาจารย์fcครับ
ผมชอบเลย ขอบคุณมากๆครับ เป็นวิทยาทานที่ดีมากครับ
ขอบคุณมากครับที่เข้าชม มีอีกหลายๆเรื่องน่าสนใจนะครับลองติดตามดูครับเช่นเรื่อง Key Man เป็นต้น
ขอบคุณมากครับ ยังสามารถชมได้อีกหลายเรื่องนะครับโดยเฉพาะที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวแทนทุกท่านก็คือเรื่องประกัน Key Man สามารถเข้าไปดูในยูทูปได้ครับพิมพ์ komkrit lailuck
ขอบคุณครับอาจารย์ตอบด้วย ผมปลื้มมากครับ ผมฟังแล้วคล้อยตามเลยจริงๆ ผมจะดูและฝึกๆๆๆ ขอบคุณครับ
ได้เข้ามาชมคลิปนี้ มีประโยชน์มากคะ จะนำบางส่วนไปใข้ค่ะ
ขอบคุณมากครับที่รับชม
สุดยอดเลยครับ
ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ ยังมีหนังสือ "ต้มยำทำประกัน" อีกเล่มที่สามารถช่วยได้นะครับเพราะเป็นหนังสือที่รวบรวมกระบวนการขายทั้งหมดไว้ให้ตั้งแต่เปิดใจลูกค้าจนปิดการขายและต่อตลาดเลยครับ สนใจติดต่อได้ที่ ร้านโปรปริ้น 02-6315018 หรือ 089 818 4831
สุดยอด
ยอดเยืยมมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ
สุดยอดเลยค่ะ ทำให้เรามีวิธีขจัดข้อโต้แย้งได้ดีมากค่ะ สุดยอดจิงๆค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ ยังมีหนังสือ "ต้มยำทำประกัน" อีกเล่มที่สามารถช่วยได้นะครับเพราะเป็นหนังสือที่รวบรวมกระบวนการขายทั้งหมดไว้ให้ตั้งแต่เปิดใจลูกค้าจนปิดการขายและต่อตลาดเลยครับ สนใจติดต่อได้ที่ ร้านโปรปริ้น 02-6315018 หรือ 089 818 4831
เยี่ยมครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์ ได้วิชามากเลยครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณเช่นกันครับ
คับผม
2020ยังมาฟังครับ
ดีมาก
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชื่นชม และเรียนรู้ยินดีตอนรับครับ
สุดยอดครับ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันนะครับ
ดีมากๆครับ
+Supon Wongsri ขอคุณมากครับที่เข้ามาชม
ขอบคุณเช่นกัน
ครับ
มีประโยชมากค่ะ อัดคลิปบ่อยนะค่ะ
ขอบคุณมากครับ
มีประโยชมากค่ะ
สุดยอดเลยค่ะ เอาบทพี่ไปปิดการขายได้ทุกรายเลยค่ะ
ขอบคุณมากครับ ขอให้สำเร็จยิ่งๆขึ้น
ขอบคุณมากครับที่แสดงความคิดเห็น ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ อยู่บริษัทไหนก็คุยกันได้ครับ
อาจารย์ครับมีคนเค้าบอก กับผมว่าคนที่จะขายประกันชีวิตได้ ต้องมีบารมีและเพาเวอร์ต้องเป็นระดับนายพล ผมจะตอบเค้ายังไงดีครับ
อาจารย์ครับ ผมไปขายประกันชีวิตให้ลูกค้า ที่อยุ่ใกล้บ้านกับ ยังไม่ทันเอ่ยปากเขาบอกผมว่า น้องประกันชีวิตยุ่งยาก ใช้เงินสบาย ๆ เงินคือพระเจ้า
การให้ข้อมูลมาแค่นี้ ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ครับ หลักของ
การวิเคราะห์เพื่อที่จะตอบข้อโต้แย้งนั้นควรมีข้อมูลเพิ่มดังนี้
ลูกค้าเป็นผู้หญิงหรือชาย อายุ สถานะครอบครัว แต่งงานหรือไม่ มีบุตรกี่คน ทำธุรกิจอะไร ทำงานอะไร มีความสนิทสนมอย่างไร รู้จักกันกี่ปี หรือลูกค้าแนะนำ ผู้แนะนำมีความสัมพันธ์อย่างไร แบบประกันที่จะขาย วัตถุประสงค์ในการขาย และอื่นๆ เช่นงานอดิเรก ของสะสม สัตว์เลี้ยง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้จักการวางแผนในการเข้าพบ และหัวข้อที่เราจะนำสู่การเปิดใจลูกค้า หากเรามีข้อมูลครบการปฏิเสธอาจเปลี่ยนเป็นอย่า่งอื่น หรือไม่มีเลยก็ได้นะครับ ผมขอชี้นำแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
สุดยอดอะ
+กฤต แด้วก่า ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชม หากมีอะไรให้ช่วยเหลือยินดีนะครับ
อาจารย์ครับ ผมได้ขายประกัรชีวิตให้เพื่อนผม เค้าบอกว่าคนขายประกันชีวิต เหมือนโจรใส่สูท
เริดค่ะ สามารถนำมาใช้ได้จริง
อาจารย์ค่ะ.หนูเป็นเทเลเซลล์อยากได้เทคนิคข้อโต้แย้งแบบรวดเร็วในกาีปิดการขายในสายนั้นมีมะค่ะ
การตอบข้อโต้แย้งนั้นเป็นศิลปะการขาย ที่เกิดจากประสบการณ์คะ จึงไม่มีวิธีตอบปัญหาที่ตายตั้ง เพราะเราจะต้องวิเคราะห์หน้างานในหลายๆสิ่งแวดล้อม เช่น ฐานะ บุคคลิกภาพ อารมณ์ ลักษณะ สถานที่ ท่าทางโทรศัพท์ เราอาจต้องวิเคราะห์เสียง สถานการณ์ และเอาประสบการณ์มาตีความของแต่ละบุุคคล การทำงานที่มากเพียงพอจะสร้างประสบการณ์จนเราสามารถฟังน้ำเสียงแล้วทายได้ว่าลูกค้าสนใจหรือไม่สน ขอให้น้องๆอดทนต่อไปนะคะ
อาจารย์ครับผมขายประกันชีวิต ให้กับเจ้าของกิจการแถวบ้านผม เค้าบอกผมว่าเมียเค้าเก่ง และเมียเค้าก็เก่งจริงๆ และเมียเค้าดุด้วย ผมจะพูดกับเค้ายังไงดีครับ
ถึงผู้ถามนะครับ ครูขออนุญาตพูดถึงความจริงในการเป็นตัวแทนนะครับ
1.ประกันชีวิตเป็นสินค้าเดียวในโลกที่ยังไม่สามารถหาสิ้นค้าอื่นมาทดแทนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องทำ
2.แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า คนบนโลกล้วนมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน เราจึงไม่ควรคาดหวังว่าทุกคนต้องทำกับเรา เราควรทำงานแบบมืออาชีพ
3. การทำงานตัวแทนควรยึดมั่นในสถิติ โดยการขายอย่างสม่ำเสมอ
4. ถึงแม้นลูกค้าคนนี้ตัดสินใจทำกับเรา เราก็ยังไม่สำเร็จ เราสำเร็จจากลูกค้าที่มากเพียงพอ และเขาปฏิเสธวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำตลอดไป
5.ตรวจสอบตัวเองว่าเราเป็นมืออาชีพหรือไม่ เรามีความรู้เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองและลูกค้าหรือไม่
ขำตอนหักคอ อะพี่ เจ๋ง อยากกันวลมอบสิ่งที่ดี 55555
ผมเอาไปใช้ บ. ผมไม่ยอมรับพี่ แต่ผมชอบอะ5555
ขอบคุณครับที่เข้าชม ขอกบ่าวถึงคำว่า"หักคอ" ถูกหรือผิดใครจะรู้ ยกตัวอย่างเมื่อพ่อแม่กำลังจะพาลูกน้อยไปฉีดยา สิ่งที่เกิดขึ้นเด็กน้อยมักจะร้องไห้โยเย และทำทุกวิถีทางเพื่อให้พ้นจากการถูกฉีดยา ในทางตรงข้าม พ่อแม่ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้ฉีดยาเช่นกัน เช่น บอกลูกว่า ฉีดยาเสร็จแล้วจะพาไปเที่ยว ฉีดยาเสร็จแล้วจะซื้อของเล่นให้ เกลี่ยกล่อมจนลูกยอมไป แต่เมื่อถึงคลินิกเด็กน้อยกลับไม่ยอมลงรถ ทั้งพ่อแม่คุณหมอ ต้องช่วยกันจับตัวเอาไว้ เด็กก็ยังร้องไห้โวยวายอยู่ดี บางครั้ง อาจหลุดคำหยาบคายด่าหมอก็ได้เหตุเพราะรู้ว่า เมื่อเข็มฉีดยาทิ่มเข้าไปในแก้มก้น ของหนูน้อยเมื่อไหร่ มันจะเจ็บและปวดมากโดยเฉพาะ เมื่อหมอ เดินยาเข้าไปในเข็มยิ่งทำให้ปวดใหญ่ เป็นเหตุให้ ไม่มีเด็กคนไหนชอบให้หมอฉีดยาแต่ทั้งหมอและพ่อแม่ก็จะบังคับ ช่วยกันจับหลอกล่อใช้กุศโลบายต่างๆนานา(หักคอ) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้ลูกน้อยได้ฉีดยา แต่เมื่อฉีดยาเสร็จแล้วพ่อแม่ก็อาจไม่ได้พาไปเที่ยวหรือซื้อของเล่นให้ตามที่พูดไว้ วันนึงหนูน้อยเมื่อโตขึ้น เขาก็จะรู้ว่า เมื่อตอนที่เขาเป็นเด็กทำไมพ่อแม่จึงบังคับให้เขาฉีดยา ก็เพราะพ่อแม่รู้ว่า ในเข็มฉีดยานั้นมีแต่สิ่งที่ดีคอยปกป้องลูกน้อยของเขาดูแลลูกน้อยของเขาให้พ้นจากโรคร้ายทั้งหลายทั้งปวง และเมื่อหนูน้อยโตขึ้น ก็รู้ว่าการถูกบังคับให้ฉีดยาเมื่อวัยเด็ก มันเกิดจากความรักความห่วงใย จากพ่อแม่นั้นเอง
เพิ่งเข้ามาเป็นตัวแทนได้ไม่นานค่ะแต่อยากประสบความสำเร็จมาก อาจารย์สอนดีมากค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ การตอบข้อโต้แย้งของอาจารย์เอาไปใช้แล้วค่ะ ใช้ได้จริงค่ะ แต่มีปัญหาข้อหนึ่งที่แก้ไม่ได้สักที่ คือตัวเองชอบคิดว่าเราไปเอาอะไรจากลูกค้าแทนที่จะคิดว่าเราเอาสิ่งดีๆไปให้ลูกค้า
จะแก้ไขยังไงดีคะอาจารย์ รบกวนอาจารย์แนะนำหนังสืออ่านเพิ่มเติมด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ความรู้สึกเช่นนี้เกิดกับทุกคนที่เริ่มเข้ามาเป็นตัวแทนใหม่ครับ จึงไม่แปลกที่เกิดขึ้นกับคุณ.... อย่างแรกที่จะทำให้เราผ่านพ้นความรู้สึกนี้ได้ครับ
1. เราต้องเริ่มศึกษาหลักปรัชญาของประกันชีวิตจริงๆว่าการมีสินค้าชนิดนี้มันเริ่มมาเพื่ออะไรเพื่อใคร 2.ศึกษาถึงแบบประกันจริงๆว่าใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จากการทำประกันมากที่สุดลูกค้าหรือเรา 3.การตั้งเป้าหมายการทำงานห้ามตั้งเป็นเบี้ยประกัน เพราะเราจะไม่สามารถหามุมมองที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าได้ จะมองเห็นแต่ค้านายหน้าที่เป็นผลประโยชน์กับตัวแทนเท่านั้น 4.ต้องตั้งเป้าหมายในแต่ละเดือนเป็นจำนวนราย เพราะจำนวนรายเราสามารถแปลเป็นผลประโยชน์ของลูกค้าได้เช่น เรากำลังช่วยเหลือ 1 ครอบครัวๆนึงอาจมีผู้อาศัย 3-4 คน หากเราขายได้ 8 รายต่อเดือน เรากำลังช่วยเหลือ 8 ครอบครัวหรือช่วยเหลือคนได้ 20-30 คนต่อเดือนให้เขาเหล่านั้นมีความคุ้มครอง เราก็มีโอกาศได้ช่วยแม่หม้ายและเด็กกำพร้าเป็นต้น ฯลฯ ยังมีอีกมากมายที่เราต้องปลูกฝังสิ่งดีๆในเรื่องการประกันชีวิต เพื่อจะได้ทำให้ทุกครั้งที่เราออกไปเสนอประกันอย่างมีพลัง(ก่อนออกไปพบลูกค้าลองจิตนาการซิว่าหากครอบครัวที่เราไปหาขาดหัวหน้าครอบครัว แม่หม้ายเด็กกำพร้าจะอยู่อย่างไร)
ดีมากกๆๆ ค่ะ
อาจารย์ครับ เพื่อนผมเป็นมุสลิมและ ญาติเค้าบอกว่า คนมุสลิมไม่จำเป็นต้องทำประกันชีวิต เพราะอัลหละรับประกันให้แล้ว จะเกิดอุบัติเหตุ พิการหรือตายอัลหละจะเป็นผู้ประกันเอง
คนมุสลิมหรือคนศาสนาพุทธก็เหมือนกันครับคือ มีทั้งคนที่เข้าใจเรื่องประกันและไม่เข้าใจเรื่องประกัน และแต่ละคนก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันตามสถาพแวดล้อมที่เรียนรู้มาก จึงทำให้ตัวแทนทั้งขายได้ในบางคนและขายไม่ได้ในบางคน ตัวแทนมืออาชีพจึงต้องทำความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของการขายว่า มีขายได้ และขายไม่ได้เป็นเรื่อธรรมดา ดังนั้นเราจึงต้องทำงานด้วยวินัยคือออกขายสม่ำเสมอแล้วสถิติของการขายจะเกิดขึ้นเองครับ คนที่ประสบความสำเร็จในการขายประกันไม่ใช่เพราะเขาพยายามเปลี่ยนคนที่ไม่ซื้อประกันให้ซื้อประกัน แต่พวกเขาออกเดินหาคนที่พร้อมซื้อประกันไปเลื่อยตลอดเวลาต่างหาก
อยากได้หนังสือที่อาจารยพูด
ถ้าอยากได้หนังสือ เรามีให้ยืมอ่านฟรีนะครับ สามารถโทรมาได้ครับ 0894471166
ก็ฟังการตอบข้อโต้แย้งมาเยอะ แต่วิธีการตอบของคุณคมกฤษณ์ตอบข้อโต้แย้งได้ถูกใจมาก
ขอบคุณมากครับในคำชื่นชม
สุดยอดครับอาจารย์
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชื่นชม และเรียนรู้ยินดีตอนรับครับ
ตอนนี้มาเป็นตัวแทนเต็มตัว รู้สึกท้อค่ะ. ครูค่ะอยากได้หนังสือ ครูค่ะ
คอร์สที่ครูเปิด นี้เกี่ยวกับอะไรค่ะ
โทรมาหาครูได้ครับ หนังสือต้มยำทำประกันชีวิต สามารถมารับไปอ่านฟรีได้ครับ ไม่ว่าท่านจะอยู่บริษัทไหนก็สามารถรับไปอ่านฟรีได้ทุกคน เพื่อเป็นการสนับสนุนให้อุสาหกรรมประกันชีวิตเติบโตและเป็นที่ยอมรับของภาคประชาชน โทร 0894471166 และหากสนใจสัมมนาค้นหาความสามารถที่ซ้อนเล้น เป็นการปลุกยักษ์ในตัวเรา ก็สามารถเข้าร่วมสัมนาได้ทุกเดือนครับ เดือนนี้ 10-11 มิถุนายน New Life Camp
ครูค่ะ ร้านโปรปริ้นโทรไปแล้ว หนังสือหมด ค่ะ^*^
ผมส่งหนังสือให้ร้านไปแล้วครับ ช่วยโทรดูอีกครั้ง หากไม่ได้หรือหมด ติดต่อมาที่ผมโดยตรงก็ได้ครับจะเตรียมไว้ให้ครับ 0894471166
หนังสือต้มยำทำประกัน เล่มล่ะเท่าไหร่ครับ ?
จำไม่ได้แน่นอนครับว่า 160 หรือ 180 ลองติดต่อที่ร้านโปรปริ้นครับ 026315018 หรือมือถือ 089-818-4831 ครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ แต่วันนี้หนูเจอปัญไม่มีเงินค่ะ วิเคราะห์แล้วค่ะลูกค้าบอกไม่มีเงินค่ะอาจารย์(5555)
วิเคราะห์แล้วลูกค้าบอกไม่มีเงิน 555 ปัญหานี้มีสองทาง 1. หากเราเชื่อว่าไม่มีเงินจริง ให้เลิกขายเปลี่ยนรายใหม่ (ก่อนถูกขอยืมเงิน) 2. หากเราเชื่อว่ามีเงิน แต่เป็นปัญหาบ่ายเบี่ยง ให้เราใช้เทคนิคการตอบ 5 ขั้นตอน เหมือนเดิม ฟัง ล็อค โยนคืน วิเคาระห์ เปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาส ปิดการขาย พี่ครับ…….ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ดี ความรู้สึกของพี่ที่ต้องอึดอัดที่จะหาเงินมาทำประกันในตอนนี้ แต่ถ้าเกิดครอบครัวพี่ในตอนนี้ไม่สบายสักคน ผมก็เชื่อว่าพี่ก็คงจะหาค่ารักษามาจ่ายให้กับคุณหมอจนได้ ก็คือการแก่ปัญหาแต่ระครั้งที่เกิดขึ้นและคงแก้ได้ตลอดไป ด้วยความสามารถและเครดิตของคุณพี่ครับ พี่ครับ….แต่ถ้าไม่มีเครดิตจากคุณพี่ล่ะครับ คุณพี่ผู้หญิงกับลูกจะต้องแก่ปัญหาระยะยาวตลอดชีวิตด้วยตัวเอง พวกคงลำบากมากนะครับ คุณพี่เห็นด้วยไหมครับ………? พี่ครับ…นึกเสียว่าวันนี้เราจำเป็นต้องหาเงินสักก้อนหนึ่งก็แล้วกัน แต่เป็นการรับรองว่าพี่ผู้หญิงและลูกๆจะต้องไม่เดือดร้อนหาเงินในระยะยาวตลอดชีวิต……..พี่ครับ…ช่วยลงชื่อตรงนี้ครับเพื่ออนาคตของลูกและภรรยาของคุณพี่ครับ……( ยืนปากกาให้ลูกค้า )
ครับคุณพี่ครับ.....คุณพี่เข้าใจถูกต้องแล้วครับว่าการทำประกันชีวิตต้องใช้เงิน แต่ไม่ทราบว่าที่คุณพี่เข้าใจว่าต้องใช้เงินนั้น ต้องใช้เท่าไหร่หรือครับ............? ( ลูกค้ามักเข้าใจว่าต้องใช้เป็นหมื่นหรือมากกว่านั้น ) ถ้าคุณพี่จะต้องเก็บเงินเพื่อครอบครัว ไม่ทราบว่าวันละเท่าไรหรือครับที่คุณพี่จะไม่เดือดร้อน วันละ ๒๐ , ๓๐ , ๕๐ หรือ ๑๐๐ ดีครับที่คุณพี่เก็บได้แล้วสบายใจครับ แล้วเดี๋ยวเราค่อยวางแผนกันว่าแบบประกันไหนดีที่เหมาะกับสภาพการเงินของครอบครัวคุณพี่ครับ คุณพี่ครับไม่ทราบว่าวันละเท่าไรดีครับที่สบายใจ
ขอรายเอียดหนังสือ การตอบข้อโต้แย้ง จำหน่ายที่ไหนคะ
ปัจจุบัน "ต้มยำทำประกัน" มีขายที่เดียวครับ ที่ร้านโปรปริ้น อยู่ถนนเดโช เป็นตึกตรงข้ามกับบริษัท AIA ถ้าเข้าจากถนนสุริวงค์ก็ตรงมาผ่าน AIA เลยครับ แต่ถ้าเราอยู่ในอุตสาหกรรมประกันชีวิต ร้านโปรปริ้นจะนำไปขายหน้างานที่บริษัทประกันชีวิตจัดกิจกรรมการประชุมใหญ่ๆครับ
อาจารย์คะลูกค้าโต้แย้งว่าไม่อยากเพิ่มภาระให้กับตัวเองขึ้นไปอีก จะตอบยังไงคะ
ขอคุณสำหรับคำถามนะครับ ก่อนอื่นขอแนะนำให้ไปดูใน Youtude ในหัวข้อเรื่องการสลายข้อโต้แย้ง จะทำให้เราทราบถึงเทคนิควิธีการตอบอย่างวเป็นขั้นเป็นตอนนะครับ ::::::แต่สำหรับปัญหานี้หากเราล็อคลูกค้าจนหมดปัญหา และมีเฉพาะปัญหานี้แล้ว เราก็จะสามารถเอาปัญหาที่ว่า "ไม่อยากมีภาระเพิ่ม" มาตอบได้ ก็แสดงว่าเขามีภาระอยู่แล้ว ให้เราถามเขาว่า "พี่ทราบไหมครับว่าทำไมผมถึงต้องมานำเสนอพี่....? ลูกค้าก็จะบอกว่าไม่ทราบ เราก็บอกเขาว่า ก็เพราะผมทราบว่าพี่มีภาระอยู่แล้ว (เอาคำว่าภาระมาเป็นโอกาสในการขาย) จึงต้องมานำเสนอ เพราะหากพี่ไม่มีภาระโครงการนี้จะไม่มีประโยชน์กับพี่เลยครับ (เขาก็จะงงว่าทำไมเพราะเขาคิดว่าบอกว่าเขามีภาระแล้วเราจะกลับ 555) เราจึงควรอธิบายว่าไม่ว่าเราจะมาหาเขาหรือไม่ก็ตามภาระนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบแน่นอน พี่ครับพี่ลองหลับตานึกดูนะครับว่า หากเราไม่กลับมาบ้านหลังนี้สักคน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ภาระนี้ยังคงอยู่หรือไม่ครับ หากยังอยู่ใครต้องรับผิดชอบภาระนี้แทนเราครับ ขนาดที่เราอยู่เรายังรู้สึกว่าภาระนี้หนักหนาสาหัสนัก ถ้าภาระนี้จะต้องตกสู่คนที่เรารัก....ลูกหรือภรรยา พี่ว่ามิยิ่งหนักหนาสาหัสมากกว่าเราหรือเปล่าครับ.....? พี่ครับช่วยเซ็นตรงนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ภาระไปตกสู่คนที่เรารักครับ นี้จึงเป็นการป้องกันภาระ ที่มิใช่เพิ่มภาระครับ ช่วยเซ็นต์ตรงนี้ครับ...!!!!
ผู้ที่สมัครใจเข้ามาเป็นตัวแทนขายประกัน เพราะว่าเขาต้องการให้ทุกคนเล็งเห็นประโยชน์ของการประกันชีวิต ส่วนคอมมิชชั่น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เท่านั้น ถ้าทุกคนในประเทศไทยเล็งเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิต ผมว่าเมื่อคุณได้สัมผัสกับเหตุการณ์คุณจะรู้ว่า มันมีประโยชน์มหาศาล ยกตัวอย่าง ประกันภัยชั้น ๑ รถยนต์ ถ้าคุณไม่มีประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ คุณจะเอาเงินที่ไหนไปซ่อม ฝากบอกคุณมานพด้วย เป็นตัวแทนประกัน แต่มีความคิดอคติกับอาชีพ แย่มาก ๆ
อาจารย์ครับมีบริษท ประกันชีวิตเค้ามีข้อโต้แย้งที่จะขายประกีนชีวิต ให้กับตัวแทนประกันชีวิตบริษัทอื่น แต่ผมไม่รู้จะขายประกันชีวิตให้ตัวแทนบริษัทอื่นอย่างไง เพาระว่ามีอาชีพขายประกันชีวิตเหมือนกัน ผมคิดไม่ออกจะไปขายอย่างไร
ยังไม่ชัดเจนกับคำถามครับ ขอโทษทีครับ
อาจารย์คะ กลัวส่งไมไหวจะตอบว่าอย่างไรดีคะอาจารย์
กลัวส่งไม่ตลอดไม่อยากสร้างภาระ
การตอบมีหลายแนวทาง แต่ควรล็อกข้อโต้แย้งเสียก่อนเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องตอบปัญหาทุกข้อนะครับ(ดูใน VDO นะคะอย่าลืม)
วิธีที่ 1 คุณพี่ครับ…..ความกลัวถือเป็นความรอบครอบอย่างหนึ่งนะครับ คุณพี่ครับแต่ความกลัวบ้างครั้งก็ทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสดีๆนะครับ ผมเชื่อว่าสำหรับคุณพี่โอกาสที่จะส่งไม่ไหวคงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ เพราะคุณพี่เป็นคนรอบครอบ และที่ผ่านมาคุณพี่เติบโตขึ้นโดยตลอด อายุมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น ความสามารถก็มากขึ้น รายได้มากขึ้นทุกปี จากอดิตถึงปัจจุบันใช้ไหมครับ นี้จึงไม่มีเหตุผลที่คุณพี่จะส่งไม่ได้ มีแต่ทุกๆปี ผมต้องมาเพิ่มทุนประกันให้คุณพี่ครับ คุณพี่ครับ………หลายครั้งที่คุณพี่ตัดสินใจทำสิ่งดีๆ คุณพี่เคยเสียใจไหมครับ คุณพี่ครับ…….โครงการนี้เป็นสิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นกับครอบครัวคุณพี่ แต่มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณพี่เป็นคนมอบให้คุณพี่ช่วยเซ็นต์ตรงนี้ด้วยครับ
วิธีที่ 2 คุณพี่ครับ……….คุณพี่เป็นห่วงเรื่องนี้หรือครับ คุณพี่สบายใจได้ครับ เพราะเดี๋ยวนี้บริษัทประกันเข้ามีทางออกให้ต้องหลายทาง ทางที่ ๑ ขอยกเลิกเอาเงินคืนครับจะได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ฝากไปครับเรามีตารางแนบท้ายกรมธรรม์ให้ลูกค้าดูแน่นอนครับ ทางที่ ๒ คือลูกค้าสามารถขอขยายเวลาความคุ้มครองได้โดยไม่ต้องฝากเบี้ยต่อ โดยการคุ้มครองในวงเงินที่เท่าเดิมครับจะได้การคุ้มครองสั้นหรือยาวก็ขึ้นอยู่กับปีที่ฝากเช่นกันครับ ทางที่ ๓ ลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์มูลค่าสำเร็จได้ครับ คือระยะเวลาคุ้มครองเท่าเดิมแต่ทุนประกันลดลงครับ หรือเลือกอย่างที่ ๔ คือแจ้งกลับบริษัทหยุดฝากชั่วคราว แต่ต้องการความคุ้มครองเหมือนเดิม บริษัทจะกู้กรมธรรมมาส่งให้ก็จะได้ความคุ้มครองเช่นเดิม และเมื่อพร้อมทางด้านการเงินก็สามารถฝากต่อพร้อมกับปีที่หยุดไปได้เลยครับ คุณพี่ครับ…….คุณพี่มีทางเลือกได้หลายทางในการที่จะคงรักษากรมธรรม์ไว้ แต่นั้นก็เป็นเรื่องอนาคตวันนี้ตาหากที่สำคัญที่จะต้องให้ครอบครัวที่พี่รักมีความคุ้มครองทันที่ คุณพี่ช่วยหยิบบัตรประชาชนให้ด้วยครับ
วิธีที่ 3 คุณพี่ครับเยี่ยมเลยครับที่เราควรระมัดระวังอนาคตไว้ก่อน คุณพี่ครับวันละเท่าไหร่ครับที่นายจ้างของคุณพี่ขอลดเงินเดือนแล้วคุณพี่ไม่เดือดร้อนครับ วันละ 50 บาท วันละ 100 บาท วันละ 200 บาท วัละเท่าไหร่ดีครับที่เราสามารถแบกรับได้แบบสบายๆโดยไม่เดือนร้อนครับ..?
เวลาขายไม่ได้ผมกลับมาฟังทุกครั้งเลยครับ..ช่วยได้ครับ..ขอบคุณคลิปนี้มากเลยครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็น หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ สามารถบอกได้นะครับ
จะหาซื้อหนังสืออาจารย์ได้ที่ไหนคะ
ที่ร้านโปรปริ้นครับ 026315018 หรือมือถือ 089-818-4831 ครับ
อาจารย์ครับลูกค้ารายที่บอกว่า ประกันชีวิตยุ่งยากใช้เงินสบายๆ เงินคือพระเจ้า ผมเคยพูดกับเมียเค้าดูแล้วเมียเค้า จะเข้าใจในการทำประกันชีวิต แล้วเมียเค้าก็มีประกันชีวิต และเมียเค้าบอกว่าผัวเค้าประกันชีวิต กับธนาคราออมสิน ซี่งประกันชีวิตของธนาคารออมสิน เป็นของรัฐบาลไม่ยุ่งยากเหมือนเอกชน แต่ผมลึกๆ ได้คุยกับเมียเค้า เมียเค้าได้บอกกับผมว่าผมจะต้องเป็นตัวแทนที่ขายประกันชีวิต ให้กับลูกค้าต้องเสนอขาย ประกันชีวิตให้ลูกค้า ต้องขายอย่าเกินความสามารถที่ลูกค้าจะชำระเบี้ยประกัน คือเมียเค้าเคยเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตเอไอเอ และเมียเค้าจะเข้าใจเรื่องประกันชีวิต และเงื่อนไขของกรรมธรรม์ ประกันชีวิต และเมียเค้าก็สอนผมเรื่องจรรยาบันของการเป็น ตัวแทนประกันชีวิต แบบนี้ผมจะขายเมียเค้าได้ไหมครับ
หากแล้วแสดงความเป็นมืออาชีพและตั้งใจจริงๆสำหรับคนที่เคยเป็นตัวแทนแล้วเขาจะเข้าใจชีวิตของการเป็นตัวแทน ถ้าจะขายเมียเขาเราควรจะทำตัวแสดงว่าเรามีความตั้งใจที่จะเป็นตัวแทนที่ดี และต้องการการสนับสนุน โดยใช้ sale Talk ที่ว่า "พี่ครับพี่ก็เคยเป็นตัวแทนพี่คงรู้สึก และเข้าใจหัวอกของคนเป็นตัวแทนใหม่ว่าการเป็นตัวแทนใหม่นั้นหากมีใครสักคนที่สนับสนุนเขา เขาจะจดจำไว้ตลอดชีวิตผมอยากให้พี่(ผู้หญิง)เป็นคนที่ผมจะต้องจดจำตลอดชีวิตครับ ที่ช่วยสนับสนุนให้ผมได้มีกำลังใจเดินต่อและเป็นตัวแทนมืออาชีพด้วยการ เซ็นตรงนี้นะครับ" กระบวนการนี้ทำหลังจากที่อธิบายแบบจบ
นี่แหละ
อาจารย์ครับคนมุสลิม ที่นับถือศาสนาอิสลามซื้อประกันชี วิตได้ไหมครับ
นักนิติศาสตร์อิสลามร่วมสมัยมีความเห็นว่าอนุญาติให้ชาวมุสลิมทำประกันได้ทุกประเภท โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องปลอดจากดอกเบี้ยครับ และบางบริษัทได้ออกแบบประกันที่เรียกว่าตะกาฟุลมาเพื่อขายประกันชาวมุสลิมโดยตรง แต่ถึงแม้นแบบประกันอื่นๆก็สามารถทำได้หากไม่มีการรับดอกเบี้ยครับ
ตอนนี้หนังสือ "ต้มยำทำประกัน" พิมพ์ครั้งที่ 5 เสร็จแล้วนะครับใครสนใจติดต่อขอซื้อได้นะครับ 0894471166 อ่านแล้วสร้างความเป็นมืออาชีพในการขายครับ
พี่คับ ถ้าลูกค้าบอกว่าพี่มีเยอะแล้วทำไว้เยอะแล้ว ไม่อยากทำอีก เราจะทำไงต่อดีคับ
บทวิเคราะห์ …ในแง่ของตัวแทนไม่ว่าลูกค้ามีแล้วหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถขายเพิ่มได้ทั้งนั้น แต่ปัญหานี้อาจจะไม่แท้จริงก็ได้ ดังนั้นท่านตัวแทนควรจะจะค้นให้พบว่าลูกค้ามีกรมธรรม์จริงหรือไม่ ถ้ามี มีคุ้มค่ากับความสามารถหรือไม่และเป็นการหาจุดขายไปในตัวด้วย ขั้นตอนการขายคือการถามถึงกรมธรรม์ที่ลูกค้ามีอยู่ เพื่อเสนอการบริการ แต่ข้อควรระวังเมื่อพบว่าลูกค้าไม่มีกรมธรรม์จริง ก็อย่างทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียหน้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ปิดโอกาสในการขายถ้าพบว่ามีกรมธรรม์อยู่จริงจงค้นหาข้อมูลที่ลูกค้ายังขาด และเสนอส่วนต่างนั้นๆ
ผมขออนุญาตแนะนำแนวทางการตอบข้อโต้แย้งนี้ (การตอบข้อโต้แย้งทุกครั้งไม่ได้หมายความว่าต้องขายได้เสมอไป)
คุณพี่ครับ…..ผมเข้าใจดีครับว่าคุณพี่มีประกันอยู่แล้วและด้วยฐานะของคุณพี่ถ้ายังไม่มีซิครับถึงจะถือว่าแปลก คุณพี่ครับ….คุณพี่เคยได้ยินคนพูดว่าฉันฝากเงินไว้มากเกินไปไหมครับ………? ยิ่งฝากมากยิ่งดีใช้ไหมครับ แต่เป็นที่หน้าแปลกที่สถิติจากธนาคารคนที่ฝากเงินได้ตลอดและสามารถมีเงินเก็บเพียงพอไว้ใช้ในยามชรากับมีไม่ถึง 5% เพราะการฝากกับธนาคารและระบบอื่นๆเสี่ยงกับการถอนก่อนและขาดทุนแต่การฝากกับระบบประกันกับมีมากกว่า 80% ที่เมื่อยามชราไม่ต้องพึ่งลูกหลานวันนี้ดูเหมือนเยอะแล้ว แต่เมื่อวันที่เราหมดแรงหาเงิน และต้องอยู่ใช้มันไปตลอดชีวิตมันจะมากพอเท่ากับความต้องการของเราหรือไม่ครับคุณพี่คุณพี่ครับ…สร้างกองทุนเพิ่มให้กับคนชราในอนาคต อีกสัก 500,000 น้อยไปไหมครับ ไม่ทราบว่า 5 ปีที่ผ่านมาคุณพี่เคยตรวจสุขภาพไหมครับ น้ำหนักส่วนสูงเท่า
ไหร่ครับ
(หรือทางเลือกที่ 2 ในการตอบเราสามารถตอบข้อโต้แย้งไดเหลายแง่มุมครับ)
ครับผมเชื่อว่าคุณพี่มีแล้วครับ แต่เท่าที่ทราบมาคุณพี่มีแบบเป็นเกลือก็ไม่เค็ม เป็นมะนาวก็ไม่เปรียว.........? ครับมันหมายความว่าอย่างนี้ครับ คุณพี่รองคิดดูซิครับถ้าวันนี้ ภรรยาและลูกมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้มาจริงๆ เงินก้อนนี้จะผ่อนบ้านได้กี่เดือนครับ จะผ่อนรถได้กี่เดือนครับ จะพ่อใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเล่าเรียนลูกคุณพี่ได้นานเท่าไรหรือครับ ยังไม่รวมภาระประจำวันที่ต้องเกิดขึ้นอีกในทุกวัน พี่ครับถ้าพี่ต้องอยู่ในสภาพอย่างนั้นคุณพี่จะรู้สึกอย่างไรครับ วันนี้เรามาสร้างอนาคตที่แน่นอนมั่นคงให้ภรรยาและลูกกันเถอะครับ ช่วยเช็นต์ตรงนี้ด้วยครับ
อาจารย์ครับผมมีคนรู้จักเขามีเงินเคยมีตัวแทนไปขายประกันชีวิตให้เค้าหลายคน เค้าปฏิเสธไม่ซื้อประกันชีวิต เค้าเหตุผลว่าต้องมีอาอารมณ์ก่อนถึงจะซื้อประกันชีวิต ถ้าไม่มีอารมณ์ก็ไม่ซื้อ
ถ้าลูกค้าตอบว่า มีประกันเยอะแล้ว(และก็มีเยอะจริงๆ) เราจะตอบว่าอย่างไง คับอาจารย์
บทวิเคราะห์ …………ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เอาไว้ปกป้องตัวเองเช่นกัน ในแง่ของตัวแทนไม่ว่าลูกค้ามีแล้วหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถขายเพิ่มได้ทั้งนั้น แต่ปัญหานี้อาจจะไม่แท้จริงก็ได้ ดังนั้นท่านตัวแทนควรจะจะค้นให้พบว่าลูกค้ามีกรมธรรม์จริงหรือไม่ ถ้ามี มีคุ้มค่ากับความสามารถหรือไม่และเป็นการหาจุดขายไปในตัวด้วย ขั้นตอนการขายคือการถามถึงกรมธรรม์ที่ลูกค้ามีอยู่ เพื่อเสนอการบริการ แต่ข้อควรระวังเมื่อพบว่าลูกค้าไม่มีกรมธรรม์จริง ก็อย่างทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียหน้าเด็จขาด เพราะจะทำให้ปิดโอกาสในการขายถ้าพบว่ามีกรมธรรม์อยู่จริงจงค้นหาข้อมูลที่ลูกค้ายังขาด และเสนอส่วนต่างนั้นๆ เริ่มต้นขั้นตอนของการตอบข้อโต้แย้งเช่นเดิม
สงบ ล็อค โยนปัญหา เปลี่ยนเป็นโอกาสตอบ
แนวตอบทางที่ 1 c คุณพี่ครับ…..ผมเข้าใจดีครับว่าคุณพี่มีประกันอยู่แล้วและด้วยฐานะของคุณพี่ถ้ายังไม่มีซิครับถึงจะถือว่าแปลก คุณพี่ครับ….คุณพี่เคยได้ยินคนพูดว่า "ฉันฝากเงินไว้มากเกินไปไหมครับ" ยิ่งฝากมากยิ่งดีใช้ไหมครับ แต่เป็นที่หน้าแปลกที่สถิติจากธนาคารคนที่ฝากเงินได้ตลอดและสามารถมีเงินเก็บเพียงพอไว้ใช้ในยามชรากับมีไม่ถึง 5% เพราะการฝากกับธนาคารและระบบอื่นๆเสี่ยงกับการถอนก่อนและขาดทุนแต่การฝากกับระบบประกันกับมีมากกว่า 80% ที่เมื่อยามชราไม่ต้องพึ่งลูกหลานวันนี้ดูเหมือนเยอะแล้ว แต่เมื่อวันที่เราหมดแรงหาเงิน และต้องอยู่ใช้มันไปตลอดชีวิตมันจะมากพอเท่ากับความต้องการของเราหรือไม่ครับคุณพี่คุณพี่ครับ…สร้างกองทุนเพิ่มให้กับคนชราในอนาคต อีกสัก 500,000 น้อยไปไหมครับ ไม่ทราบว่า 5 ปีที่ผ่านมาคุณพี่เคยตรวจสุขภาพไหมครับ น้ำหนักส่วนสูงเท่า
ไหร่ครับ
แนวตอบทางที่ 2 ครับผมเชื่อว่าคุณพี่มีแล้วครับ แต่เท่าที่ทราบมาคุณพี่มีแบบเป็นเกลือก็ไม่เค็ม เป็นมะนาวก็ไม่เปรียว.........? ครับมันหมายความว่าอย่างนี้ครับ คุณพี่รองคิดดูซิครับถ้าวันนี้ ภรรยาและลูกมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้มาจริงๆ เงินก้อนนี้จะผ่อนบ้านได้กี่เดือนครับ จะผ่อนรถได้กี่เดือนครับ จะพ่อใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเล่าเรียนลูกคุณพี่ได้นานเท่าไรหรือครับ ยังไม่รวมภาระประจำวันที่ต้องเกิดขึ้นอีกในทุกวัน พี่ครับถ้าพี่ต้องอยู่ในสภาพอย่างนั้นคุณพี่จะรู้สึกอย่างไรครับ วันนี้เรามาสร้างอนาคตที่แน่นอนมั่นคงให้ภรรยาและลูกกันเถอะครับ ช่วยเช็นต์ตรงนี้ด้วยครับ
+Komkrit Lailuck
สุดยอดครับ อาจารย์
เทปนี้คุ้นนะ เหมือนอยู่ในห้องอบรมด้วย
อาจารยหนังสือยังเหลือมั้ยครับ
ถ้าสนใจพอหาให้ได้ครับ ติดต่อมาเบอร์นี้ครับ 0894471166
ลูกค้าชอบบอกว่า ขอยืมเงินทำหน่อย ถ้าตัวแทนให้ยืมเงินก็จะทำ
555 เคสนี้อาจต้องวิเคราะห์ตั้งแต่เริ่มต้นว่า เรารู้จักคัดเลือกลูกค้าหรือไม่ กลับไปดูที่ ( MANHA )วิธีวิเคราะห์ลูกค้า่ ตัวแทนจะถูกสอนตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นว่าลูกค้าต้องมีคุณสมบัติอย่างไรเราจึงควรชักชวนเป็นลูกค้าครับ หากเราวิเคราะห์แล้วว่าไม่มีเงิน เราก็ไม่ควรขายประกันตั้งแต่แรกครับ จรรยาบรรณตัวแทนก็บอกว่าห้ามขายเกินความสามารถในการจ่ายเบี้ยของลูกค้าครับ
แต่ถ้าเคสนี้เป็นปัญหาบ่ายเบี่ยง เราก็ควรเข้าสู่กระบวนการตอบข้อโต้แย้งครับ(ให้ดู VDO ขั้นตอนการตอบข้อโต้แย้ง)
1.รับฟังปัญหา ::: และจองตาลูกค้า แล้วพูดว่า คุณลูกค้าครับพี่พูดจริงๆหรือล้อเล่นครับ...ระวังลูกๆกลับภรรยาจะได้ยินนะครับ เดี๋ยวพวกเขาจะคิดว่าเป็นเรื่องจริง แล้วพวกเขาจะมีความทุกข์กันเปล่าๆ พี่คงล้อผมเล่นมากกว่า (หากเราเชื่อว่าเขามีเงิน)
2.โยนปัญหาคืนให้ลูกค้า ::: ถามจริง
เถอะครับนอกจากปัญหานี้แล้วพี่มีปัญหาอื่นอีกหรือไม่ครับ (การโยนปัญหากลับให้ลูกค้า ก็เพื่อย้ายความคิดของเขาจากปัญหาบ่ายเบี่ยงสู่ปัญหาแท้จริงครับ)
3.วิเคราะห์ปัญหาที่แท้จริง 4 เปลี่ยนเป็นโอกาสในการตอง 5 ปิดการขายทุกครั้งเมื่อตอบปัญหาจบ
ลองๆปดู VDO แล้วฝึกฝนดูนะครับ
2021/01/24
Thanks
อาจารย์ครับ ผมมีคนรู้จักกันเค้าบอกผมว่า คนรวยมีเงินแล้วเค้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่าประกันชีวิต เค้ามีเงินสำรองไว้แล้วในยามเจ็บป่วย และมีไว้กินไว้ใช้ในยามจำเป็น จึงไม่มีความจำเป็นต้องซื้อประกันชีวิต พูดง่ายๆก็คือถ้าซื้อประกันชีวิต มันฟุ่มเฟือยสำหรับเค้า
จริงแล้วการตอบปัญหาข้อโต้แย้งได้นั้นไม่ใช้เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป ลูกค้าบ้างคนก็เสมือนบัวสี่เหล่าที่เราไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจประกันชีวิตได้เช่นกัน (ถ้าจะให้แนะนำคือเดินผ่านไปครับ) เพราะเราไม่จำเป็นต้องขายได้ทุกราย และรายนี้รายเดียวทำมาก็ไม่ได้ทำให้เราสำเร็จ เราสำเร็จเกิดจากลูกค้าที่มากเพียงพออันเกิดจากการพบคนจำนวนมากครับ
แต่ถ้าเราจะตอบก็มีแนวทางครับ
*เห็นด้วยกับลูกค้าว่าการลงทุนของเขาคุ้มกว่ากำไรกว่า แต่คุณลูกค้าครับเห็นด้วยไหมครับว่าการลงทุนบ้างอย่างเราก็ไม่ได้หวังกำไร เช่น การลงทุนเพื่อความสะดวกเช่นซื้อรถ เพื่อความสุขซื้อนาฬิกา ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ การลงทุนการศึกษาบุตร การลงทุนเหล่านี้ไม่สามารถใช้เครื่องมือทางการเงินวัดเป็นผลกำไรได้...จริงไหมครับ การที่พี่เห็นลูกๆเจริญเติบโตและสำเร็จการศึกษา ก็ไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดวัดได้ว่าพี่คุ้มหรือไม่คุ้มใช่ไหมครับ แต่พี่ก็มีความสุขในการลงทุนใช่ไหมครับ พี่ครับประกันก็เช่นกันไม่สามารถใช้เครื่องทางการเงินวัดกำไรขาดทุนได้ ลูกๆของพี่และผมปราถนาเห็นพี่ขาดทุนและอยู่เป็นปูชนียบุคคลของลูกๆของหลานๆนานๆสืบไป ซึ่งครอบครัวของคุณพี่คงรู้สึกเช่นเดียวกับผม ช่วยเซ็นต์ตรงนี้ด้วยครับ
คือว่าอย่างนี้ครับแถวบ้านผมมีตัวแทนประกันชีวิต อยู่ในตำแหน่งผู้จัดการภาค เค้าก็เป็นคนขายประกันชีวิตเหมือนกัน แล้วถ้าผมจะไปขายประกันชีวิตให้เค้า เค้าก็มีประกันชีวิตแล้วผมจะขายประกันชีวิตให้ เค้ายังไงเพราะผมเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันจะขายเค้ายังไง
ต้องขอยกตัวอย่างนี้นะครับ หากเรามีหมูทั้งตัว เราก็ควรเลือกกินเนื้อก่อนกระดูกใช่หรือไม่ การขายก็เช่นกัน ลูกค้าทั้งประเทศไทยมีให้เราเลือก หากมิใช่เป็นเพราะเราต้องการเอาชนะกัน ครูคิดว่าเราไม่ควรเสียเวลานะครับ เราควรจะมองหาผู้มุ่งหวังรายอื่นที่มีความจำเป็นต้องมีประกันชีวิต ขายด้วยจิตอันเป็นกุศล เพราะอยากให้ครอบครัวเขาได้มีความคุ้มครองจริง มากกว่าเรื่องเงินและการเอาชนะ จิตแห่งการเป็นผู้ให้จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จครับ
อาจารย์ครับผมมีข้อมูลเรื่องคนที่ไม่ซื้อประกันชีวิต เค้าบอกว่าประกันชีวิตคือกระดาษคือกการขายความหวัง
ครับผมเห็นด้วยครับว่ามันกระดาษ เพียงแต่มันเป็นกระดาษซึ่งเฮียยังไม่มีนอกเหนือจากกระดาษอื่นๆที่เฮียมีแล้ว เช่นโฉนดที่ดินร้อยไร่พันไร่ก็ทดแทนด้วยกระดาษแผ่นเดียวครับเงินที่เฮียหามาทั้งชีวิตนำไปฝากไว้กับธนาคารก็กลายเป็นสมุดเงินฝากซึ่งก็เป็นกระดาษอยู่ไม่กี่แผ่นครับ เราเชื่อกระดาษพวกนั้นก็เพราะว่ามีสถาบันรับรองครับ เช่นเดียวกับกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่มีรัฐบาลด้วยคปภ.และกฎหมายพระราชบัญญัติประกันชีวิตรับรองครับเฮียครับ นักธุรกิจใหญ่ๆนักการเมือง นักกฎหมาย เขาก็มีกระดาษที่เรียกว่ากรมธรรม์นี้ไว้สร้างความมั่นใจให้ครอบครัวกันทั้งนั้นครับ เฮียสบายใจได้ครับ และที่สำคัญ กระดาษที่กำลังทำนี้ มันจะแสดงถึงความรัก ที่มากกว่าคำว่าทะเบียนสมรสการจดทะเบียนสมรสซึ่งเป็นกระดาษเหมือนกันแสดงให้รู้เพียงว่าเฮียจะรักภรรยาและลูกตราบเท่าที่เรามีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่การเซ็นลงในกรมธรรม์ จเรากำลังจะบอกลูกกับภรรยาเราว่าไม่ว่าเราจะอยู่หรือไม่ก็ตามเราจะรักเขาตลอดไป เฮียช่วยเซ็น กระดาษที่แสดงถึงความรักที่เฮียมีกับครอบครัวที่สุดตรงนี้ครับ(คุณกล้าพูดลูกค้าก็กล้าซื้อ) ก่อนจะตอบอยากให้จำไว้เราไม่ได้มาถกเถียงกับลูกค้า ควรใช้หลักการสยบข้อโต้แย้งเป็นนักฟังที่ดี ล็อคปัญหา โยนปัญหาคืน ให้ลูกค้า เปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาส แล้วตอบข้อโต้แย้งพร้อมให้เซ็นชื่อทุกครั้ง....ดูจาก VDO นะคับ
ช่วยผมวิเคราะห์หน่อยครับ ว่าเค้าสอนดีไหมครับ โค้ช แบงค์ รู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ การสอนคล้ายๆกันเเต่ต่างกันบ้่างจุด เเละอยากรู้ครูเจี๊ยบมองโค้ชเเบงค์เป็นคนยังไงครับ ผมเคยไปสัมมนาที่นครนายกเเล้วครับเหนครูเจี๊ยบว่าเก่งสุดๆๆเเละก็ครูบรรยงอ่าครับ
มีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า "สามคนเดินมาเป็นอาจารย์เราได้ทุกคน" ดังนั้นความรู้ของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องหมือนกันเสมอไป เช่นเดียวกับวิธีการไปสู่ความสำเร็จก็เช่นกัน เราสามารถเดินไปถึงเป้าหมายที่ต้ังไว้ได้หลายวิธี แต่ก็ถึงเป้าหมายเช่นกัน เช่น การเดินไป ขึ้นรถไป วิ่งไป ฯลฯ มีข้อแม้นว่าอย่างหยุดเท่านั้นเราก็จะถึงเป้าหมาย
ศาสตร์แห่งความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน เมื่อตกผลึกแล้วล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน ขึ้นอยู้กับว่าอาจารย์แต่ละคนจะใช้วิธีไหนเริ่มต้นอย่างไรแต่เมื่อจบแล้วเรื่องเดียวกันสำเร็จเหมือนกัน เช่นการวาดรูปช้าง บ้างคนอย่างเริ่มจากการวาดงาก่อน บ้างคนเริ่มวาดจากงวงก่อน บ้างคนเริ่มวาดจากขาก่อน แต่เมื่อเสร็จก็เป็นรูปช้างเต็มตัวเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องวัดว่าใครเก่งกว่าใคร หากเราชอบก็เอาส่วนที่ชอบของแต่ละคนมาใช้ให้เป็นตัวเรา ให้สำเร็จแบบเราก็พอ (สามคนเดินมาเป็นอาจารย์เราได้ทุกคน)
@@KomkritLailuck ตั้งเเต่วันนั้นผ่านมาหลายปี ผมไม่เคยลืมครูเจี๊ยลเลยนะครับ ผมยึดคำสอนจากการฟังครูสอนผมมาตลอด ครูเจี๊ยบมีพลังเเบบไม่หน้าเชื่อ จากการฟัง การคิด ผมเคยลองนั่งคิดวิเคราะห์ครูเจี๊ยบรู้สึกว่า
ครูเจี๊ยบ เหมือน ขงจื้อ เลยล่ะครับ
อาจารย์ครับ ผมพูดกับคนแถวบ้านผม เค้าบอกผมว่าเค้าจะซื้อประกันชีวิต โดยไม่ซื้อประกันชีวิตผ่านตัวแทน ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดกับเค้ายังไงดี
wanida torsawatwong แสดงว่าคงมีตัวแทนบางคนไปทำให้คนข้างบ้านคุณไม่พอใจหรือมีอคติอะไรบางอย่างมังคะ คุณก็พาเค้าไปบริษัทที่คุณทำงานอยู่สิคะ แล้วซื้อประกันที่บริษัทโดยตรง (แต่มีชื่อคุณเป็นตัวแทนเป็นผู้ดูแลเขาอยู่เบื้องหลัง) เราก็เคยมีความคิดแบบนี้ค่ะ
แล้วถ้าลูกค้าบอกว่าทำกับบริษัทอื่นเเล้วละคับ
การตอบปัญหาข้อโต้แย้งนั้น ไม่ได้เพื่อที่เราจะเอาชนะลูกค้า เราต้องเปิดใจลูกค้าด้วย และต้องไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกจนมุม โดยเฉพาะการตอบปัญหาจบไม่ได้หมายถึงต้องปิดการขายได้ทุกครั้ง แต่อาจเป็นการสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสในอนาคตก็ได้ มืออาชีพต้องสามารถรอคอยได้ และเข้าใจธรรมชาติการขาย แต่ที่สุดแล้วเราก็ต้องอยู่กับหลักการตอบปัญหาข้อโต้แย้งดังนี้
สงบ ล็อค โยนปัญหา เปลี่ยนเป็นโอกาสตอบ
คุณพี่ครับ…..ผมเข้าใจดีครับว่าคุณพี่มีประกันอยู่แล้วและด้วยฐานะของคุณพี่ถ้ายังไม่มีซิครับถึงจะถือว่าแปลก คุณพี่ครับ….คุณพี่เคยได้ยินคนพูดว่าฉันฝากเงินไว้มากเกินไปไหมครับ………? ยิ่งฝากมากยิ่งดีใช้ไหมครับ แต่เป็นที่หน้าแปลกที่สถิติจากธนาคารคนที่ฝากเงินได้ตลอดและสามารถมีเงินเก็บเพียงพอไว้ใช้ในยามชรากับมีไม่ถึง 5% เพราะการฝากกับธนาคารและระบบอื่นๆเสี่ยงกับการถอนก่อนและขาดทุนแต่การฝากกับระบบประกันกับมีมากกว่า 80% ที่เมื่อยามชราไม่ต้องพึ่งลูกหลานวันนี้ดูเหมือนเยอะแล้ว แต่เมื่อวันที่เราหมดแรงหาเงิน และต้องอยู่ใช้มันไปตลอดชีวิตมันจะมากพอเท่ากับความต้องการของเราหรือไม่ครับคุณพี่คุณพี่ครับ…สร้างกองทุนเพิ่มให้กับคนชราในอนาคต อีกสัก 500,000 น้อยไปไหมครับ ไม่ทราบว่า 5 ปีที่ผ่านมาคุณพี่เคยตรวจสุขภาพไหมครับ น้ำหนักส่วนสูงเท่าไหร่ครับ
ลองเอาไปฝึกฝนดูนะครับ
ขอบคุนคับมีประโยชมากๆอยากให้ทำออกมาอิกอาจารมีเฟตมั้ยคับขอติดตามหน่อยคับ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชื่นชม และเรียนรู้ยินดีตอนรับครับ FB ก็พิมพ์ชื่อได้เลยครับ komkrit lailuck
นี่แหละคน จะรวย
นันทวัน พูลสินทรัพย์ ฟังซ้ำหลายรอบมากยอมรับเลยทำให้ดิฉันยอมรับได้ไม่เคยฟังอะไรซ้ำบ่อยได้ขนาดนี้เลยอยากสำเร็จมาก
ชอบมาก
เจอข้อโต้แย้ง ... มีญาติขายอยู่ จะซื้อกับญาติ
เจอแบบนี้ตอบอย่างไงดีคะ
มีญาติขายอยู่จะซื้อกับญาติ จะตอบข้อโต้แย้งนี้อย่างไรดี
ก่อนอื่นต้องวิเคราะห์ให้ออกก่อนว่าปัญหานี้เป็นปัญหาจริงหรือปัญหาบ่ายเบี่ยง หลักการก็คือ ไม่ต้องรีบตอบ ให้ล็อคปัญหา โดยถามคำถามลูกค้าว่า "คุณลูกค้าครับ นอกจากปัญหาว่าจะซื้อกับญาติแล้วไม่ทราบคุณลูกค้ายังมีปัญหาอื่นอีกหรือไม่ครับ"
แล้วค่อยฟังคำตอบของเขา หากเข้ายังยืนยันว่าจะซื้อกับลูกค้า ให้เราถามคำถามเด็ดดังนี้...!!!!
................
ตัวแทน...คุณลูกค้าครับ...ไม่ทราบว่าคุณพี่พอรู้เหตุผลไหมครับ ว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่อยากญาติตัวเองรู้เรื่องยอดเงินฝากในบัญชีในธนาคารของพวกเขาครับ....?
ลูกค้า.... ก็มันเป็นเรื่องส่วนตัว และก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรามีเงินเท่าไหร่เดี๋ยวเขามายืม(หรืออาจเป็นคำตอบอื่นทำนองนี้)
ตัวแทน.... ครับคุณพี่เช่นเดียวกันครับกรมธรรม์ก็คือบัญชีเงินออมของเรา จะมีมูลค่าเงินสดที่สามารถเบิกถอนเมื่อไหร่ก็ได้หากเขามายืมแล้วชี้นำว่าให้เราถอดให้เขายืม เราไม่ให้ก็จะผิดใจกันเพราะเขารู้ข้อมูลเนื่องจากเขาเป็นตัวแทน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้บริการจากตัวแทนมืออาชีพซึ่งจะไม่มารบกวนเราเรื่องนี้มากกว่าครับ พี่ครับ เห็นด้วยไหมครับว่าเราไม่ควรให้ญาติพี่น้องรู้เรื่องเงินของเรา เห็นด้วยไหมครับ ช่วยเซ็นตรงนี้ด้วยครับ
การตอบปัญหาได้ มิใช่เครื่องยืนยันว่าเราต้องขายได้ทุกราย สถิติการขายที่มากพอจะเป็นเครื่องยืนยัยความสำเร็จของเรา และถึงแม้นลูกค้ารายนี้จะซื้อก็ไม่ได้แปลว่าเราจะสำเร็จ เพราะความสำเร็จของเราขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่มากพอ ลูกค้าจะสร้างประสบการณ์ในการตอบข้อโต้แย้งที่ดีที่สุด
อาจารย์ตอบไวมากๆ และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ขอบคุณมากๆค่ะ
อาจารย์คะอีกนิดนึงค่ะ
ถ้าตัวแทนที่ไปขายเองก็เป็นญาติ
ตัวแทนทางนั้นก็เป็นญาติ (ญาติคนละฝ่าย)
แนวทางการตอบจะตอบอย่างไงดีคะ
หากเราพบว่าเป็นญาติเหมือนกัน เราต้องค้นหาข้อมูลว่าทางนั้นเขาทำงานนานหรือยัง ทำเป็นอาชีพหรืออาชีพเสริม
เพื่อจะได้หาจุดขาย หากพบว่าเขาเป็นมืออาชีพ เราก็ไม่ควรใช้วิธีการขายแข่งกัน เราควรใช้ความเป็นมือใหม่ของเราให้เป็นประโยชขน์ คือการขอความช่วยเหลือ ขอให้ตัดริบบิ้น โดยพูดว่า
คุณลูกค้าครับ...วันนี้พี่ตัวแทนที่เขามาสำเสนอคุณลูกค้าเขาเป็นมืออาชีพแล้ว ยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว เคสของคุณลูกค้าจึงเป็นส่วนหนึ่งของผลงานเท่านั้น แต่สำหรับผมเคสของคุณลูกค้าจะเท่ากับชะตาชีวิตหรืออนาคตของผม จะเป็นเคสที่ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสขึ้นเวที ผมจะต้องพูดถึงลูกค้าคนแรกที่ตัดริบบ้นให้เปิดโอกาสให้ในทุกๆครั้งที่มีโอกาส คุณลูกค้าช่วยเซ็นต์ตรงนี้เพื่ออนาคตของตัวแทนใหม่อย่างผมด้วยครับ
แต่ถ้าเขาเป็นคนใหม่ เราก็ต้องใช้ความเชื่อมั่นในการทำงานของเราความเป็นมืออาชีพของเราในการขายเช่น
คุณลูกค้าคงทราบว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจระยะยาว คุณลูกค้าคิดว่าจะเสี่ยงเป็นลูกค้ากรำพร้าหรือครับ การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ดี เราช่วยเหลือทางอื่นดีกว่าไหมครับ ไม่ควรเอาเราความจำเป็นระยะยาวมาเสี่ยงกับมือใหม่ ทำกับมืออาชีพดีกว่าครับ ช่วยเซ็นต์ตรงนี้ครับ ส่วนคุณลูกค้าอยากช่วยอีกคนช่วยเรื่องอื่นที่ไม่ผูกพันธ์ระยะยาวดีกว่าครับ
ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนใหม่ เพิ่งออกโค้ด ผมควรทำอะไรก่อนหลัง ออกตลาดไปกับหัวหน้าหาประสบการณ์หรืออบรมแผนประกันกับเรียนเทคนิคหารขายก่อนให้แน่นๆก่อนออกตลาดดีครับ หรือควบคู่กันไป
การเริ่มต้นในธุรกิจประกันชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุด คือความรู้พื้นฐานเรื่องประกันชีวิต โดยเฉพาะปรัชญาประกันชีวิต จะเป็นรากฐานแห่งความมั่นใจของคนที่เป็นตัวแทนประกันชีวิต
ส่วนเรื่องที่ว่า เราจะเรียนให้รูททั้งหมดแล้วออกไปขายหรือออกไปขายควบคู่กัน ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครอ่านหนังสือวิธีการว่ายน้ำจนจบเล่ม แล้วก็กระโดดว่ายน้ำเป็นเลย
ในการขายก็เช่นกัน การออกตลาด พบลูกค้าโดยตรงเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุด แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องเข้าห้องเรียนเบสิคของประกันชีวิตด้วย เพื่อจะได้สร้างรากฐานให้มั่นคงในการออกไปทำการขายในตลาด ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ
ดีครับ ชอบเทคนิคการขาย ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง
ทุกอย่างไม่มีอะไรยากครับ มีแต่สิ่งที่เรายังไม่คุ้นเคย ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายขึ้นอยู่ที่การฝึกฝนครับ ฝึกพูดมากๆ เริ่มด้วยการท่องจำครับ สักระยะเราก็จะคล่องขึ้นครับ และเก่งในที่สุด
ผมขอเสริมอีกนิดนึงครับ จริงๆแล้วการถามลูกค้าว่า นอกจาก...ยังมีอะไรอีกไหม คำถามนี้คือคำถามเชิงจิตวิทยาที่ทรงพลังมากๆเลยครับ มันเกี่ยวข้องกับภาวะกระจกเงาขาดดุลในใจของอีกฝ่าย อธิบายง่ายๆคือ การที่ลูกค้าหาเหตุผลมาปัดเพราะเขากลัวที่จะต้องตัดสินใจและปกป้องตัวเองด้วยการอ้าง แต่การถามเจาะลึกต่อถึงปัญหาแทนที่จะรีบแก้คำตอบนั้นทันที มันเขยิบเราจากนั่งฝั่งตรงข้ามลูกค้าให้ไปนั่งข้างๆเขาทันที และถ้าเราทำได้ชำนาญเรามีโอกาสจะเขยิบจากข้างๆเป็นนั่งในใจเขาได้ครับ แต่มีช้อแม้ว่าเวลาถามว่าเขาติดอะไรอีกไหม เราต้องถามด้วยจิตใจที่เอาใจใส่ปัญหาเขาจริงๆนะคับ ลืมเรื่องผลประโยชน์ของเราไปก่อน ไม่อย่างนั้น ต่อให้ปากเราถามห่วงใยเขาแต่ตาเรานี่เป็นรูปเงินกับค่าคอมเลย ลูกค้าจะปิดกั้นจิตใจและเปิดสมองเป็นโหมดป้องกันตัวเต็มที่แน่นอนครับ ถึงตรงนั้นก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เลยครับ
ขอบคุณมากครับในการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอันเป็นประโยชน์มากๆ และแสดงถึงความเป็นมืออาชีพที่เกิดจากภายในจิตใจครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและข้อแนะนำดีๆให้กับเพื่อนๆร่วมอุตสาหกรรมครับ
แต่ชอบเทคนิคมาก
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาชม
เจอบ่อยมากไม่มีตังไม่พร้อม ถามแฟนก่อน
ัง มายังไม่ครบมาก ซึ่งตรงนี้ตัวเค้าได้ด่าผู้จัดการธนาคารไป ผู้จัดการธนาคารตัวผู้จัดการธนาคาร ก็ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตแถมให้อีก 1 ฉบับ เพราะถ้าผู้จัดการธนาคาร ไม่ทำแบบนี้เค้าจะถูกลงประวัติเสีย จะมีผลต่องานของเค้า และตัวสามีเค้าได้เคยบอกผมว่าเค้าจะซื้อกันชีวิต กับคนที่รู้จักกันเท่านั้น ตรงนี้ผมจะพูดกับเค้าว่ายังไงดีครับ
เรื่องนี้อาจเกิดจากทัศนคติลบที่ลูกค้าเจอมากับตัวเองจึงเข็ดขยาด ดังนั้นตัวแทนต้องแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงาน แสดงให้ลูกค้าเห็นถึงความแตกต่างของเรากับคนอื่นๆ เช่นการแนพนำลูกค้าในการซื้อประกันว่าควรทำอย่างไร
1.ไม่ควรจ่ายค่าเบี้ยด้วยเงินสดกับตัวแทนทุกคน ควรโอนเข้าบริษัทโดยตรงหรือจ่ายเป็นเช็คสั่งจ่ายบรษัท
2.แนะนำวิธีการทำเคลมหรือติดต่อบริษัทได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผึงพาตัวแทน เพราะความจริงตัวแทนอาจเสียชีวิตไปก่อนลูกค้าก็ได้ 555
3.ควรเก็บเอกสารการนำเสนอของตัวแทนที่ให้ไว้ให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเอกสารยืนยันในอนาคต
การแสดงความเป็นมืออาชีพ และ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยลดช่องว่างของลูกค้ากับตัวแทนให้ลดลง
และอีกสิ่งหนึ่งก็คือความสม่ำเสนอจะทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ เวลาจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพของเราครับ
หรือลองใช้เซลท็อกนี้ดูก็ได้
ครับคุณพี่ครับ…..ถ้าวันนี้เพื่อนหรือญาติของคุณพี่เปิดกิจการค้าขายอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วเรารู้เข้า ผมก็เห็นด้วยครับที่เราจะต้องแวะเข้าไปแสดงความยินดีหรืออุดหนุนถึงแม้นเขาไม่ได้มาเสนอขาย มันเป็นเรื่องของน้ำใจ ซึ่งผมเข้าใจความรู้สึกของคุณพี่ดีครับ แต่ว่าเรื่องที่เรากำลังจะทำอยู่เป็นเรื่องของการเงิน เป็นเรื่องที่ต้องใช้มืออาชีพ เป็นเรื่องล่อแหลมครับ ควรเป็นความลับมิใช้หรือครับ ไม่เช่นนั้นในอนาคตเราอาจไม่สามารถปฏิเสธได้ถ้าเข้าเดือดร้อนแล้วเขาต้องมาขอพึ่งพิงเรา มั่นจะกินไม่เขาคายไม่ออกนะครับให้ก็ลำบากใจในการทวงถาม ไม่ให้ก็กะไรอยู่ใช้ไหมครับ คุณพี่ครับ….เรื่องทางการเงินของคุณพี่ให้เป็นความลับระหว่างบริษัทกับคุณพี่เถอะครับ ไม่ทราบว่าคุณพี่ตั้งใจไว้ให้ใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ครับ ช่วยลงชื่อเขาตรงนี้ด้วยครับ
ทำขายตรงเหมือนขายตัว
วีดิโอไม่ชัดเลย
ขอโทษด้วยครับ ผมทำต้นฉบับหายไปไหนไม่รู้ครับ ลองฟังแต่เสียงไปก่อนนะครับ เดี๋ยวมีโอกาสจะถ่ายใหม่ครับ
มีปัญหาคือรำคาญ
ขอบคุณครับ
หลายๆบทก็โอเคนะครับ แต่บางบทก็หลอกลวง บางบทก็หน้าด้านนี่ ไม่ควรสอนตัวแทนให้ทำนะครับ
+BIGRAMZY1 ขอบคุณมากครับ หากสิ่งไหนดีก็ยินดีแบ่งปันครับ แต่หากสิ่งไหนไม่ดีก็อย่าเก็บเอาไปครับ(เลวบางดีบางชั่งหัวเขา จงเลือกเอาแต่ดีเถิดจะเกิดผล) ขอบคุณสำหรับการติอย่างตรงไปตรงมา การประกันชีวิตในไทยถือว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้และเข้าใจอย่างแท้จริง การทำประกันหากเข้าใจจะรู้ว่าควรต้องมีไว้ ไว้ว่าจะมีเพราะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ล้วนแต่เป็นเรื่องดีครับ หากมีโอกาสอยากให้ได้ศึกษามากๆ จะได้รู้ว่าบ้างครั้งตัวแทนต้องใช้ "กุศโลบาย" อุบายอันเป็นกุศล นั้นเป็นอย่างไรลองศึกษาดูนะครับ
+Komkrit Lailuck คอนเซปที่บอกมาก็ใช่ครับ แต่การที่ไปบอกลูกค้าว่า เงิน1หมื่นฝากไป2ปีป่วยทีต้องถอนออกมาใช้ ถ้าฝากประกัน1หมื่น2ปีแล้วป่วย ก็ไม่ต้องถอน เงินไม่หาย แถมประกันจ่ายค่ารักษาให้ มันหลอกลวงปะครับ ถึงจะเป็นการขายไอเดีย แต่เป็นการขายไอเดียที่ผิด และทำให้ลูกค้าที่ไม่เข้าใจประกันยิ่งเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิมนะครับ
+BIGRAMZY1 ขอขอบคุณ คุณ Bigramzy1 ที่ให้ความสนใจครับ การที่ผมอธิบายเช่นนี้ก็เพราะผู้ฟังกลุ่มนี้ได้เรียน BTC หรือพื้นฐานการประกันชีวิตมาแล้ว จึงมิได้อธิบายลายละเอียดของการฝากและการออมทางด้านประกันชีวิตครบถ้วนครับ เป็นการอุปมาอุปไมยเอาครับ ว่าการซื่อประกันชีวิตในวงเงินค่าเบี้ยประกัน 10,000 บาทนั้นมีองค์ประกอบของสัญญาหลักและสัญญาเพิ่มเติมด้วยครับ (สัญญาหลักคือทุนประกันชีวิต ส่วนสัญญาเพิ่มเติม มีตั้งแต่กลุ่มอุบัติเหตุ และค่ารักษาพยาบาลเป็นต้น) ดังนั้นหากลูกค้าออมและมีการซื้อสัญญาเพิ่มเติมที่มีค่ารักษาพยาบาลด้วย ก็เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันที่ต้องรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมดในวงเงินที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ครับ ดังนั้นที่กล่าวมาจึงเป็นเพียงอธิบายพอสังเขตให้ผู้ฟังที่มีพื้นฐานอยู่แล้วเข้าใจครับ ต้องขอโทษด้วยที่การสื่อครั้งนี้ทำให้เข้าใจผิดได้ แต่ดีครับทำให้ผมควรต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นถ้าหากจะสื่ออีก ขอบคุณจากใจครับ
+Komkrit Lailuck ถ้าเราเจอลูกค้าบอกว่ามีประกันเยอะแล้วครับจะทำงัย
ยูนิชิดตี้เปล่า
ไม่ใช่ครับเป็นแนวทางการตอบข้อโต้แย้งของธุรกิจประกันครับ แต่ก็พอฟังเป็นแนวทางใช่ในการตอบข้อโต้แย้งของการขายได้ทุกธุรกิจครับ
อ๋อค่ะ
ขอบคุณอาจารณ์มากๆค่ะ
สุดยอดเลยครับ
ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ ยังมีหนังสือ "ต้มยำทำประกัน" อีกเล่มที่สามารถช่วยได้นะครับเพราะเป็นหนังสือที่รวบรวมกระบวนการขายทั้งหมดไว้ให้ตั้งแต่เปิดใจลูกค้าจนปิดการขายและต่อตลาดเลยครับ สนใจติดต่อได้ที่ ร้านโปรปริ้น 02-6315018 หรือ 089 818 4831