เราเกิดมามี 2 อย่าง กาย กับ ใจ | หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 23 เม.ย. 2024
- เราเกิดมามี 2 อย่าง กาย กับ ใจ | หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
ณ วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
📌 ช่องทางการรับชม และ ติดตามข่าวสาร
📲 Line OA : lin.ee/l4g0znO
📍 แผนที่ : goo.gl/maps/SCMqYdBAm6YYjNfi9
#ฟังธรรมะ,#ธรรมะ,#สมาธิ,#สติ,#มรรค8,#มรรคมีองค์8,#หลวงพ่อจรัญทักขญาโณ,#หลวงพ่อจรัญ
ผมฟังธรรมเทศน์พระอาจารย์สิบกว่าปีแล้ว เมื่อก่อนมีคนลงไฟล์เสียงไว้ในเว็บไซยังไม่เคยพบท่าน ท่านคือพระอริยะเจ้า
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ สาธุสาธุๆ
น้อมกราบหลวงพ่อเหนือเศียรเกล้า,🙇🙇🙇
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ...🙏🙏🙏
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ ชอบฟังธรรมะของพ่อพยายามปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่อเจ้าค่ะ
น้อมกราบนนัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุสาธุ สาธุ
น้อมกราบสาธุคะ🙏🙏🙏
น้อมกราบนมัสการหลองพ่อคะ
จาก พม่าคะ
ปฏิบัติ ดูกาย ดิ่งสติ มาอยู่กับ ขน ผม เล็บ ฟังหนัง
เวลาเราอยู่กับตัวเอง มีความสุขมาก คะ
เวลา จึต ออกนอก วุ่นวายมากคะ ทุกข์มาก ด้วยคะ
ตอนนี่ทำตามคำสอนหลองพ่อ
เอาจิตมาดูกาย
มาอยู่กับหน้ง แล้วเข้ามา ข้างใน ดูไปเรื่อง ๆ
เวลามีเรื่องอะไรไม่สบายใจเข้ามากระทบ
ริบเอาจิตเข้ามาที่กาย ความไม่สปายใจก็ หายไปแบบ ไม่กลับมารบกวน เหมือนคะก่อน
ก็เลย ทำงานไปทำสวนไป ดูกายไป
เห็นยากมากๆคะ
มันแทบจะไม่เห็น มาแว็บๆ เป็นครั้ง
ต้องตั่งสติ นาน กวาจะดิ่งมังกราบมา
ดิ่งไม่ได้จะมากกว่าคะ
แต่ก็ รักที่จะอยู่กับ การมองกายมัน มากกว่าคะ
สิ่งที่เห็นผลได้ชัดคือเวลามีอะไรมากระทบให้วุ่นวายใจดิฉันก็จะริบเอาจิตเข้ามาดูกายพิจารณากาย
ความวุ่นวายใจก็เบาบางไปคะ
ถ้าเป็นตะก่อน
เวลามีอะไรมากระทบให้เกิดความเดือดร้อนใจเราก็จะทุกข์ทั้งวันทั้งคืนทั้งโกรธทั้งแค้นพูดไม่หยุดคนข้างๆก็ร้อนหูไปหมดเราก็ร้อนใจเหมือน
เอาไฟมาสุ่มใจ
สักวัน ถ้ามีโอกาส อยากไปกราบ หลองพ่อสักครั้งคะ
ขอบคุณ ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อ มากคะ ที่สอนไห้ดูกาย ขน ผม เล็บ ฟัง หนัง คะ
กราบ
สาธุสาธุสาธุคะ
กราบนมัสการพระคุณเจ้าหลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ🙏🙏🙏🙇🙇🙇
การนั่งสมาธิ ความรู้สึก จะตรงข้ามกัน การนั่งสมาธิจะทิ้งกาย เพราะจิตพยายามจะไม่ให้เห็นกาย แต่การวิปัสนา คือให้เห็นกาย และเห็นจิตตลอดเวลา จึงมีความแตกต่างกันตรงข้าม กราบอนุโมทนาเจ้าข้าหลวงพ่อ
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
น้อมกราบนมัสการ น้อมบูชาหลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ เหนีอเศืยรเกล้า เจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณๆ ในพระธรรมทื่ไม่เคยฟังทื่ใดมาก่อน เจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ
@#โปรดรักษาสุขภาพครับอาจารย์ @#พระพุทธเจ้าแนะนำให้เอาจิตไว้กับร่างกายตัวเองด้วยความใช้ความเพียรพยายาม 4 อย่างเรียกว่าสัมมัปปธาน 4 อุปมาอุปไมยก็เหมือนแบตเตอรี่ที่เก็บไฟอยู่ก็คือ 1.@#ตัดภาพคนอื่นออกไปที่เป็นด้านนอกของตัวเอง 2.@#สร้างภาพตัวเองไว้ด้วยอุบายโดยยืมภาพคนอื่นคืออนาคตเขาเกิดแก่เจ็บตายยังไง อนาคตถ้าตาย 9 วันจะเหลือแต่ซี่โครงกระดูกที่หนอนชอนไชถ้าไม่มีใครเอาไปเผาแล้วนำภาพนั้นมามองตัวเองให้เห็นทั่วตัวหัวพร้อมาท้าวจดหัว หัวจดเท้าอยู่ตลอดเวลา(เอาจิตท่องเที่ยวอยู่ 5 ที่คือผมขนเล็บฟันหนัง แต่ละจุดคิดลงไปลึกๆ ) 3.@#รักษาจิตไว้แค่หัวจดเท้าเท้าจดหัวเหมือนกับน้ำที่วิ่งอยู่ในขวดที่ปิดฝาแล้ว 4.@#ระวังไม่ให้จิตออก 6 ประตูคือ 1 ตา 2 หู 3 จมูก 4 ลิ้น 5 กาย 6 และใจออกไปด้านนอก ถ้าออกไปก็ไม่ปรุงแต่ง คือสามารถคอนโทรลได้มันก็คนขับรถที่ขับรถอยู่ :ถ้าไปก็ดึงเข้ามาด้วยกันสูดลมหายใจเข้ายาวลึก 3 ครั้ง แล้วเอามาขังไว้ที่ร่างกายเราเองนี้ซึ่งมีความยาววาหน่าคือกว้างศอกของแต่ละท่านแต่ละคนครับ.ถ้าทำได้อุปมาอุปไมยก็เหมือนแบตเตอรี่ที่เก็บประจุไฟฟ้าอยู่ สามารถที่จะมีพลัง ในการสร้างสรรค์ความดี พระพุทธเจ้าพบวิชานี้และนำมาเผยแผ่ครับเรียกว่าอริยมรรคมีองค์ 8(ลองพิจารณาดูถ้าดีได้ผลยังไง เอามือคลำข้อมือขวา ตาและรู้ว่าอยู่นอกแต่ข้างในต้องใช้จิตเข้าไปในกระดูกท่องเที่ยวครับ ถ้าเห็นด้วยจิตเรียกว่าญาณทัศนะ)(ใครที่คิดถึงความตายอยู่ตลอดเวลาจะมีอายุยืน เพราะจะได้ระมัดระวังไม่ประมาทครับ)
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ
กราบนมัสการคะ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุในธรรม เจ้าค่ะ
🙇นอบน้อมในพระธรรมคำสอนอันประเสริฐเหนือเศียรเกล้าเจ้าค่ะศิษย์ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อชอบอยู่คนเดียวเจ้าค่ะมีความสุขสงบวิเวกแต่คลุกคลีกับผู้คนกับเป็นทุกข์เจ้าค่ะ🙇🙇🙇
กราบนมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ
กราบขออนุโมทนาสาธุครับ
ขอน้อมกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุๆๆ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุๆอนุโมทนามิค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าคะ
อนุโมทนาบุญด้วยน่ะค่ะคุณที่อุปปฐากหลวงพ่อค่ะ
ขอบคุณคุณยายค่ะที่ดูแลอุปปะฐากวัดวาอารามและหลวงพ่อค่ะ
น้อมกราบยินดีในธรรมหลวงพ่อเป็นที่สุดครับ
น้อมบูชาในพระธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ค่ะสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
น้อมกราบนมัสการค่ะพระอาจารย์😊😊😊❤❤
สาธุ สาธุ สาธุ
Pity yourself, your own mind, and let your mind travel in this own body. Have you ever considered hair, nails, teeth, skin? Each point is thought about deep and deep inside. + 4 points of perseverance. Number 1: Cut out the image of other people that you are thinking about outside. Number 2: Create an image of yourself with a trick, that is, see what it is like to be born old, sick and dead, rotting and stinking, with worms crawling through it. Anyway, take that picture and look at yourself differently. It's called trick no. 3. Maintain the mind from head to toe, foot to head at all times, not allowing the mind to wander outside. running in this body, which is as long as the breadth of each person's cubits It's like water running through a closed bottle. Point 4: Be careful not to let your mind go out of the 6 gates: your own eyes, ears, nose, tongue, body, mind. If it goes, pull it to this place in our body. By taking 3 long, deep breaths and drawing the mind to the hair of a person clawing at the wall as usual+ plus with right thoughts, in a hundred li there is always the first step. Plus the precepts of speaking, precepts, actions, precepts, practicing occupations that are not immoral, unethical, illegal. + Right concentration without the 5 sensual objects involved (sight, sound, smell, taste, touch, satisfaction outside oneself). Able to know one's past life if done. Able to know the rebirth of others. When you know that the cycle of death and rebirth is suffering. Do you still want to be born again? If you are born again, it will be in the same condition as before. This is the cycle of rebirth. @#This is the path that the Lord Buddha taught and which Phra Acharn Charantakkhayano has graciously taught in the present. @#Blessings, Amen, Amen, Amen. @#We are walking in the footsteps of Lord Buddha, the Noble Disciples and Phra Achan Charantakkhayano have kindly taught.
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ ผมรู้จักพระอาจารย์มานานแล้วครับ ประมาณปี 46 หรือ 47 ตอนที่พระอาจารย์เทศน์สอนที่วัดสังฆทาน และที่พักสงฆ์ศาลาธรรมจำปี พ.ศ.ไม่ได้ครับ.
ตอนนั้นผมฟังธรรมะของพระอาจารย์เทศน์ ฟังไม่เข้าใจเลยครับ ฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ พอฟังไม่เข้าใจ ฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยไม่ฟังครับ.
ก็ฟังแต่ธรรมะของครูบาอาจารย์ที่สอนสมาธิเท่านั้นครับ และผมก็ปฏิบัติใช้สมาธินำหน้าในการปฏิบัติมาหลายปีมากครับ ไม่มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติเลยครับ.
เมื่อก่อนสติปัฏฐาน 4 ผมมีความเข้าใจรู้แต่เปลือกนอกตื้นๆเท่านั้นเองครับ คือรู้แค่มีสติรู้ในอิริยาบถทั้ง 4 คือ ยืน เดิน นอน นั่ง และคิด พูด กิน หรือมีสติรู้อยู่กับทำในสิ่งนั้นๆที่ตนกำลังทำอยู่ (ทำโน้นทำนี่) รู้แค่นี้ครับ.
เมื่อต้นปี 65 เพื่อนแนะนำให้มาฟังธรรมะของพระอาจารย์ และแนะนำให้มาปฏิบัติในอริยมรรคมีองค์ 8 สติปัฏฐาน 4 และโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ของพระอาจารย์ที่เทศน์สอน พอได้ฟังปั๊บมีความเข้าใจในธรรมที่พระอาจารย์เทศน์สอนทันทีเลยครับ และมีความเข้าใจสติปัฏฐาน 4 มากอย่างลึกซึ้งครับ เพราะได้ฟังธรรมะของพระอาจารย์นี่แหละครับ.
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ฟังธรรมะของพระอาจารย์มาตลอดครับ เทศน์สอนได้อย่างละเอียดลออลึกซึ้งมาก ผมมีความเข้าใจในธรรมของพระอาจารย์สอนครับ และเก็บทุกรายละเอียดนำมาปฏิบัติมีความก้าวหน้าเป็นลำดับครับ.
กราบสาธุค่ะ🙏🙏🙏🌿🪷🪴